ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] HaeEun,WonKyu l Special Service

    ลำดับตอนที่ #4 : [Serve] Chapter - 3 ; Happy with you

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 233
      5
      24 มี.ค. 61

     
    ต้องขอโทษหากทำให้เสียอรรถรสเพราะฟ้อนต์ -___________-
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
               กว่าจะตามอ้อนวอนคนตัวเล็กให้มาดูหนังด้วยกันได้นี่มันยากใช่เล่นเลยล่ะครับ คนอะไร เล่นตัวชะมัด (หัวเราะ) แรกๆ เองก็ไม่คิดที่จะพามาดูเอาซะรอบสี่ทุ่มขนาดนี้ ผมเป็นพระเอกพอที่จะไม่เป็นพวกฉวยโอกาสที่ดูหนังเสร็จแล้วไปต่อกันหรอกนะครับ มันไม่ใช่ผมเลย (ถึงจะแอบคิดอยู่บ้างเล็กน้อยก็นะ .. แต่คาดว่าน้องฮยอกแจไม่ยอมแน่ ถึงครานั้นผมคงตาเขียวหน้าบวมกว่าตอนโดนตบด้วยถาด) จริงๆ แล้วผมแค่อยากให้โรงหนังมีคนน้อยๆ หรือมีแค่เราสองคนเท่านั้นพอถึงเลือกมาดูรอบดึก ฟังดูโรแมนติกดีไหม แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นผมก็ยังหวั่นๆ อยู่ดีเลยกวาดจองที่ทั้งสามแถวไว้ซะเรียบ ก็บอกแล้วว่าผมรวย (เก๊ก) จะจองทั้งโรงก็ดูเว่อร์ไป เลยปล่อยให้แถวอื่นที่เหลือใครจะนั่งก็นั่งไปเถอะครับ ผมไม่ได้อยากจะสนใจมากสักเท่าไหร่
     
     
    ผมไม่แน่ใจสักเท่าไหร่ว่าหนังที่ผมเลือกนั้นมันน่าเบื่อนักหรือไง แต่ดูไปสักครึ่งเรื่องคนตัวเล็กกลับหลับผล็อยไปเลย คิดว่าผมไปสืบมาดีแล้วนะครับมาฮยอกแจชอบหนังแนวนี้ แต่ไม่เป็นไรครับ เหมือนกันว่าผมค่อนข้างจะได้กำไร (?)
     
     
     
    แน่นอนว่าผมมองแต่คนตัวเล็กที่หลับสนิทอยู่นั่นร่วมชั่วโมงล่ะครับ (หัวเราะ)
     
     
     
    นี่ก็ร่วมตีสองได้แล้ว คนน่ารักของผม(ตั้งแต่เมื่อไหร่)จะหลับไปหรือยัง ผมควรจะโทรไปกวนใจดีไหม ..อ่อ ลืมบอกไปครับ ผมได้เบอร์น้องมาแล้ว (ยกขึ้นโชว์) เจ๋งใช่ไหมครับ หาโอกาสอยู่ตั้งนาน กว่าจะได้มา ขนาดเจ้าตัวยังไม่รู้ตัว
     
     
    เมพขริงอ่ะกู  \- . -/
     
     
     
    ถึงแม้ว่าร่างสูงจะยังคงมีความเกรงใจอยู่บ้าง แต่ด้วยความนึกสนุก บวกเพิ่มกับความอยากที่จะกวนประสาทของเขาทำให้ มือหนาตัดสินใจกดโทรออกไปยังเบอร์ที่ถูกเปิดค้างไว้บนหน้าจอ เสียงรอสายดังขึ้นอยู่ไม่นานนัก ปลายสายก็ถูกกดรับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย นั่นทำเอาร่างสูงอมยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้
     
     
     
    ท่าทางจะนอนแล้ว
     
     
    เสียงแม่ งน่ารักชิบหายเลยว่ะ -//////////////////////////-
     
     
     
    "อืออ .. ใครครับ"
     
     
    ทงเฮจะตายแล้วครับ  \\T/////T//
     
     
     
    "นอนแล้วหรือครับเด็กน้อยฮยอกแจ"
    ร่างสูงไม่ตอบคำถาม แต่กลับยิงคำถามกลับไปใหม่ซะงั้น ด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ปลายสายถึงกับตาสว่าง ด้วยความตกใจ
     
     
     
    รู้เบอร์กูได้ไงว่ะสึด   <<<<<<<  ฮยอกแจ
     
     
    "ละเมอคุยกับมึงอยู่มั้งครับ"
     
     
     
    ถามคำถามโง่ๆ อีกแล้วกู หน้าหงายดิครับ -______________-
     
     
     
    "ว้าว พี่ได้เข้าไปอยู่ในความฝันน้องด้วย ฮ่าๆ"
     
     
     
    ตอบกลับพร้อมกับหัวเราะกวนประสาท (ยักคิ้ว) ทงเฮไม่ปล่อยโอกาสให้อีกคนตอบกลับมา แต่คิดว่าคงไม่ใช่ไม่ปล่อยโอกาสหรอก ฮยอกแจคงนั่งเงียบตกใจพูดอะไรไม่ออกอยู่ล่ะมั้ง
     
     
     
    "พรุ่งนี้สิบโมงเจอกันนะครับเดี๋ยวพี่ไปรับ" พูดแกมบังคับ
     
     
    "กูไปนัดหมายอะไรกับมึงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ" -_-
     
     
    "เมื่อกี้ ..." ยิ้มกระหย่อง "กู๊ดไนท์นะครับที่รัก สิบโมงไม่ตื่นพี่ปลุกถึงเตียงเลย"
     
     
               
                เท่านั้นไม่พอ ร่างสูงยังทำไม่วายทำปากส่งเสียงจุ้บจุ้บให้ (เผื่อว่า)ปลายสาย(จะ)เขินเล่นบ้าง
     
     
    แต่สมมติฐานข้อนั้นคงไม่เป็นจริงแล้วล่ะ -___-
     
     
     
    "อุบาทว์ว่ะ"
     
     
     
    T^T
     
     
     
                ติ๊ดดด .
               
     
                คำพูดทิ้งท้าย และตามด้วยเสียงตัดสายสุดบาดจิต T--T ฮยอกแจชอบทำร้ายจิตใจพี่ทงเฮจังครับ (อีโมติคอนรูปหัวใจแตกเป็นเสี่ยงๆ ใน MSN)
     
    แต่ก็ยังดีที่ว่าร่างบางยังไม่ปฏิเสธเดท(?)ครั้งที่สอง นั่นทำให้เขาเริ่มมีความหวังขึ้นมานิดๆ (ถึงมันจะดูริบหรี่ก็ตาม) ร่างสูงโปร่งยังคงคิดอะไรอยู่สักพัก ก่อนจะปิดไฟนอนลงในที่สุด  แน่นอนว่าสิ่งที่เขาคิดนั่นคงจะไม่ไกลจากฮยอกแจสักเท่าไหร่ ถ้าหายใจเข้า-ออกเป็นคนตัวเล็กได้ คงจะเบิกบานทั้งวัน
     
     
     
     
    หลังจากตัดสายมาแล้ว มือเรียวยังคงบีบโทรศัพท์มือถือไว้อยู่ ตอนนี้ฮยอกแจไม่รู้จะทำตัวยังไงแล้ว จะว่ารู้สึกดีก็ไม่ใช่ จะรำคาญก็ไม่ใช่ -_- เอาเป็นว่ามันโคตรสับสน บางทีการที่ทงเฮมาวุ่นวายกับเขาในตอนนี้บ่อยๆ อาจจะทำให้คนที่ค่อนข้างจะใช้เวลาอยู่กับตัวเองซะเป็นส่วนใหญ่อย่างเขารู้สึกรำคาญหน่อยๆ ก็คงเป็นได้มั้ง ร่างบางเดินไปเปิดประตูตู้เย็นขนาดเล็กที่ถูกตั้งไว้ตรงมุมห้องสี่เหลี่ยม ก่อนจะหยิบกระป๋องสไปรท์สีเขียวเข้มขึ้นมาดื่มดับกระหาย ก่อนจะทิ้งตัวบนเตียงนุ่มเช่นเดิม
     
     
    "พรุ่งนี้ต้องไปช่วยไอ้ชินดงเคลียร์ที่ร้านเค้กอีก" บ่นขึ้นเบาๆ พลางใช้นิ้วเคาะกระป๋องน้ำอัดลมเป็นจังหวะอย่างครุ่นคิด เมื่อตอนเย็นเพิ่งโทรมาบอกว่าเด็กในร้านลากันหมดทั้งสี่คน เลยวานให้เขากับรยออุคมาช่วยที่ร้านแทน แต่เมื่อทงเฮโทรมาอย่างนี้ ยังไม่ทันบอกไปว่าไม่ว่าง ร่างบางกลับดันตัดสายไปเสียดื้อๆ (สรุปผมผิดเอง) แต่ว่ายังไงน้ำเสียงตอนที่ปลายสายเอ่ยชวนนั่นมันก็บังคับกันอยู่ดีนี่ครับ -_-
     
     
     
    แต่เรื่องอะไรคนอย่างลีฮยอกแจจะยอม
     
     
     
     
     
     
     
               
     
     
     
     
                9.00 AM.
                ร่างบางสาวเท้าอย่างเร่งรีบเข้าไปในร้านเบเกอรี่สีคัลเลอร์ฟูลขนาดกลาง พลางใช้มือปัดผมยุ่งๆ ที่ปราศจากการเซ็ทให้เข้าทรง แล้วเดินตรงปรี่เข้าไปหาชายร่างท้วมที่กำลังวุ่นวายกับการจัดเก้าอี้บางส่วนเพื่อรองรับลูกค้าในอีกครึ่งชั่วโมงที่จะถึงนี้
                "เหลืออะไรให้กูทำบ้างครับมึง" เดินไปตบไหล่
                "ไม่คิดจะทักทายกูเลย" วางมือจากเก้าอี้หลากสี แล้วหันมาส่งสีหน้าตำหนิติเตียนให้ ซึ่งยังไงเพื่อนกันอย่างเขากับฮยอกแจก็รู้ดีว่าแกล้งอย่างแน่นอน
                "สวัสดีครับคุณเพื่อน .. นี่วันนี้กูต้องพูดสุภาพกับมึงแบบเจ้านาย-ลูกน้องเลยป่ะ" พูดขึ้นอย่างติดตลก
                "มึงพูดยังไงก็ได้ไม่ให้ลูกค้าหนีไปหมดร้านก็พอว่ะ 555555555555" ทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกันตามประสาเพื่อนที่เคยสนิทกันมากๆ มาก่อน "มึงมีหน้าที่เดินเอาอาหารไปส่งลูกค้าตามโต๊ะแล้วก็จดออเดอร์เพิ่มแค่นี้ ไหวป่ะ ?"
                "เห็นกูเป็นโปลิโอหรือไงถึงจะทำไม่ไหว" ว่าแล้วก็ตบหัวเพื่อนไปหนึ่งที "เลี้ยงข้าวกูด้วยนะมึง ไม่เลี้ยงมึงเจอ 5555555555" ยกนิ้วชี้หน้าคนตรงข้ามอย่างออกคำสั่ง ก่อนจะกระชับกระเป๋าเป้ใบเล็กที่ติดตัวมาแล้วเดินเข้าไปในห้องทำเบเกอรี่ด้านในร้านที่คาดว่ารยออุคคงอยู่ในนั้นอยู่แล้ว
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    10.10 AM.
                รถสปอร์ตสีดำคันเดิมถูกจอดไว้หน้าบ้านของคนตัวเล็ก ร่างสูงก้าวลงจากรถทำท่ากำลังจะถือวิสาสะเดินเข้าไปในตัวบ้าน แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นประตูรั้วถูกล็อกด้วยกุญแจสีเข้มจากทางด้านนอก มือหนาจับมันด้วยความพินิจพิจารณา
     
     
                ไม่อยู่บ้านเหรอ .. ไปไหนกันนะ
     
     
                ส่งสายตาสอดส่องไปรอบๆ ตัวบ้าน หน้าต่างก็ยังไม่เปิด ประตูบ้านข้างในก็ถูกล็อกจากด้านนอกอีกเฉกเช่นเดียวกับประตูรั้ว สรุป มั่นใจได้แล้วว่าฮยอกแจไม่อยู่บ้านแน่นอน เขาไม่ใช่พระเอกในละครช่องเจ็ดร้อยที่จะมายืนเฝ้ารอเผื่อว่านางเอกจะวางแผนแกล้งแล้วแอบออกมาทีหลัง เห็นดังนั้นจึงสตาร์ทรถแล้วขับออกไปเงียบๆ
                สายตาทอดยาวไปตามถนนหนทางด้านหน้า ใจคิดว่าฮยอกแจคงจะเบื่อ รำคาญ หรือรังเกียจเขาไปเลยที่มาวุ่นวาย หนำซ้ำยังมาทำตัวรบกวนเวลาส่วนตัวด้วยซะอีก ป่านนี้ได้หลบหน้าเขาอยู่ที่ไหนสักที่แน่ๆ รถสีดำชะลอความเร็วลงก่อนจะจอดไว้ท่ามกลางถนนเงียบ ไร้รถสัญจรไปมา มือหน้าเอื้อมมือไปเบาะรถที่อยู่ตรงข้ามหยิบไอโฟนเครื่องสีดำสนิท สายตาจับจ้องอยู่ที่เบอร์ล่าสุดที่โทรเข้าไป ก่อนที่ปลายนิ้วจะกดโทรออกแต่กลับหยุดค้างไว้อย่างนั้น เพราะเขาไม่รู้ว่าการโทรไปในครั้งนี้ ยิ่งจะทำให้คนที่กำลังวนเวียนอยู่ในความคิดของเขาจะโกรธ หรือรำคาญเกินไปหรือเปล่า
     
                ความรู้สึกในตอนนี้ของทงเฮเหมือนมียมทูตกับเทวดาที่กำลังถกเถียงอยู่ในความคิดของเขาจนวุ่นวายไปหมด ...
     
     
     
     
                แต่ดูเหมือนว่ายมทูตอีทงเฮจะชนะน่ะสิครับ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
                ~ You made room for me but it's too soon to see if I'm happy in your hands I'm unusually hard to hold on to ~
     
                "ฮยอกแจ โทรศัพท์น่ะ" ร่างท้วมที่ทำหน้าที่จัดแจงอาหารเดินไปล้วงเป้ของคนตัวเล็กก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือที่เป็นตัวการของเสียงเพลงนั้นขึ้นมา "ฮยอกแจ -_-" ดูเหมือนว่าการตะโกนเรียกเมื่อสักครู่จะไม่ได้ผล และเขาคงจะเดินไปขัดอะไรอีกไม่ได้ เมื่อเห็นคนตัวเล็กกำลังยืนสนทนากับลูกค้า เห็นเบอร์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอจึงรู้ว่าฮยอกแจไม่ได้เมมไว้ ร่างท้วมกล่างขออนุญาตเพื่อนในใจก่อนจะรับสาย
     
                "สวัสดีครับ ตอนนี้ฮยอกแจไม่ว่าง ไม่ทราบว่าใคร มีอะไรฝากผมไปบอกก่อนก็ได้นะครับ" 
     
                'ตอนนี้ฮยอกแจอยู่ที่ไหนครับ ผมเป็นเพื่อนสนิทเขาน่ะ'
     
                "ผมจะมั่นใจได้ยังไง ขนาดเบอร์คุณ เขายังไม่เมมไว้เลย" ด้วยความที่กลัวว่าใครจะมาแอบอ้าง เลยตอบไปแบบนั้น
     
                'เอาเป็นว่า ผมไม่โกหกคุณแล้วกัน'
     
                "… มีอะไรวะชินดง ดูทำหน้าอย่างกะตูด" เสียงผู้เข้ามาใหม่ดังแทรกขึ้น ทำให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ในรถชุ่มฉ่ำขึ้นมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าชินดงจะยืนโทรศัพท์ให้กับเจ้าของแล้วล่ะ
     
          "ฮัลโ.."
     
                "อยู่ไหนครับ"
     
    ยังไม่ทันพูดจบ ทงเฮก็แทรกขึ้นมาก่อน ฮยอกแจแอบลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างเบื่อหน่าย แต่ร่างบางก็ยังคงตอบคำถามนั้น
     
    "ร้านกาแฟของเพื่อน ถ้าจะมากวนไม่ต้องมา ทำงานอยู่"
     
    "แอบไปสมัครงานใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่ บอกชื่อร้านมา เดี๋ยวพี่ไปหา"
     
    "อืม ...."
     
     
     
     
                ไม่นานนัก ร่างสูงโปร่งที่คุยกับเด็กเสิร์ฟชั่วคราวเมื่อสักพักก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ดูรีบร้อน ก่อนจะตรงปรี่เข้ามาหาร่างบางที่กำลังจัดเตรียมอาหารให้บรรดาลูกค้าทั้งหลายที่นั่งกันสบายอยู่ภายในร้าน แต่ก่อนที่ทงเฮจะเข้าถึงตัวฮยอกแจได้..
     
                "โต๊ะด้านในสุดว่างครับคุณ เชิญครับ" เสียงแหลมๆ ของใครบางคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาดังขึ้น
                "เอ่อ..คือ ผมมาห..." ยังไม่ทันจบประโยค เจ้าของเสียงเดิมก็คว้าแขนร่างสูงก่อนจะลากพาไปยังโต๊ะตัวนั้นที่ถูกกล่าวถึง
                "ปกติแล้ววันนี้เด็กเสิร์ฟคนใหม่จะมารับออเดอร์ แต่สำหรับคุณคงไม่ต้องมั้ง" พูดพลางหัวเราะคิกคักอย่างพยายามจะสุภาพที่สุด "ไม่ทราบว่าจะรับอะไรครับเป็นชีสเค้ก ไอศกรีม หรือกาแฟดี ?" ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนอย่างรยออุคกำลังแกล้งคน คนนี้อยู่ (สังเกตุได้จากประโยคแรก) ในขณะเดียวกัน ร่างสูงไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่ร่างบางที่ยืนอยู่ด้านหน้าพูดสักเท่าไหร่ แต่สายตากลับมองไปที่ร่างเล็กตาใสที่กำลังเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าตามโต๊ะอย่างยิ้มแย้ม
     
     
     
                ทีกับกูล่ะไม่เคยมี ไอ้รอยยิ้มที่แสนจะเบิกบานอย่างนั้นน่ะ หมั่นเขี้ยวว่ะครับ น่าจับมาฟัดซะให้เข็ด -_-
     
     
     
                "เอ่อ คุณครับ" สะกิดไหล่ "รับอะไรดีครับ" รยออุคที่ยืนมองอยู่นานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทีแปลกๆ กับสายตาของอีกคนที่ตอนนี้ไม่ค่อยสนใจกับการสั่งอาหารสักเท่าไหร่
                "ฮยอกแจ" พูดออกมาจากในหัวคิดทำเอาร่างบางอ้าปากหวอพร้อมกับเสียง 'ห้ะ' เบาๆ ทำให้ร่างสูงที่ยังคงอึนๆ อยู่หลุดจากภวังค์ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบศรีษะอย่างเก้อๆ "ผมหมายถึง เรียกฮยอกแจให้ผมทีครับ"
                "สงสัยจะหลงเด็กใหม่เข้าอีกราย" พูดพร้อมกับยิ้มแฉ่ง แต่รู้ไหมว่านั่นทำให้คิ้วร่างสูงขมวดเป็นปมแทบจะแก้ไม่ออกอยู่แล้ว "วันนี้ตั้งแต่เปิดร้านมีแต่คนมาแอบขอเบอร์เขาไปจากผมด้วยล่ะครับ เสน่ห์แรงจริงๆ" พูดจบ ร่างสูงก็รีบเดินไปยังโต๊ะที่ฮยอกแจยืนอยู่ พร้อมกับรั้งเอวคนตัวเล็กเข้ามาชิด
                "อะไรเนี่ย" พูดเสียงขุ่น พยายามดิ้นขลุกขลิกออกมากพันธนาการของคนข้างๆ
                "ไม่ทราบว่าจะรับอะไรเพิ่มอีกไหมครับ ต้องรีบไปรับออเดอร์โต๊ะอื่นต่อแล้ว ถ้าไม่มีขอคนของผมด้วยนะครับ" ยิ้มอย่างเทพบุตร (แน่นอนว่าเสแสร้ง) แล้วพาร่างเล็กเดินออกห่างจากรัศมีของโต๊ะนั้น
                "รยออุค ฝากดูโต๊ะนั้นด้วยนะ" เอ่ยอย่างตะกุกตะกักให้กับเพื่อนสนิทที่ตัวเล็กกว่าระหว่างที่กำลังเดินผ่านหน้าไป เพราะร่างสูงลากเขามาอย่างไม่สนใจเลยว่าจะเดินชนอะไรบ้างไหมนั่นทำให้เขาต้องพยายามหลบหลีกบรรดาโต๊ะเก้าอี้พวกนั้นเองทั้งหมด
     
     
     
                นิสัยไม่ดี -^-!
     
     
     
                ไอ้เจ้าของร้านหายไปไหนวะสัด อีเพื่อนเวรนี่ เวลากูเดือดร้อนไม่ยักจะโผล่หัวมาช่วยกูเลยนะ
     
     
     
     
                ทั้งสองคนอยู่ด้านหลังของร้านที่มีตู้อบขนมวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ขาเรียวก้าวไปยังเก้าอี้ตัวเล็กที่วางอยู่ไม่ไกล ก่อนจะนั่งลงมองหน้าร่างสูงที่ยืนอยู่ทำท่าทางประหนึ่งพ่อดุลูก(?)
     
    ทงเฮมองตามการกระทำของร่างเล็กอยู่ ก่อนจะเขยิบไปนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของอีกคนแล้วจับมือที่ตกอยู่ข้างลำตัวมาจับกันไว้แบบประสาน เงยหน้ามองอีกคนแล้วยิ้มให้
     
    "จะไปไหนทำไมไม่บอกกันก่อน พี่เป็นกังวลนะครับ" หวงด้วย ยิ่งเรื่องที่เด็กเสิร์ฟตัวเล็กๆ อีกคนบอกเมื่อกี้ทำให้หงุดหงิดสุดๆ
    "…." พยายามแงะมือออก
    "ไม่เอาน่า พี่อยากจับมือเราไว้แบบนี้ล่ะ" กระชับมือให้แน่นขึ้นอีก
    ที่ทงเฮพูดพร้อมกับนิ้วมือที่ประสานกันอยู่นั้นทำให้ร่างบางก็แอบเขินในใจอยู่ไม่น้อย ความรำคาญที่มีอยู่เมื่อกี้ค่อยๆ เลือนหายไปทีละนิด ตอนนี้เขารู้สึกอบอุ่นและดีใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนเก็บอาการเก่งเป็นทุนเดิมอยู่เลย ร่างสูงที่อยู่ตรงข้ามคงจะเดาความรู้สึกของเขาไม่ออกสักเท่าไหร่
    "ไม่อยากบอก มันไม่จำเป็น" เบือนหน้าไปทางอื่น
                "แต่พี่คิดว่ามันจำเป็น.." อมยิ้ม เขารู้แล้วล่ะว่าฮยอกแจเขิน "พี่ไม่ได้อยากจะผูกมัดน้องไว้ แต่พี่แค่อยากเห็นน้องอยู่ในสายตาพี่ตลอดต่างหาก" จ้องหน้า "เอ่ออ .. พี่หมายถึงถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นมาพี่จะได้ไปช่วยทันไง" ทงเฮรีบแก้ต่างประโยคที่พูดออกไปก่อนหน้านี้
     
                เห็นหนาๆ แบบนี้ก็มียางอายนะครับ 5555555555555555
     
                "อย่างนั้นก็ได้" ถ้ามันเกิดอะไรไม่ดีกับกู คงมีแค่มึงสินะ -_-.. "ไปช่วยไอ้ชินดงทำงานต่อล่ะ" ลุกขึ้นพรวด พลางพยายามมือออกจากการกอบกุมของอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะร่างสูงกลับจับมือเขาแน่นขึ้นกว่าเดิมเสียอีก จนเจ้าของมือนุ่มต้องส่งสายตาอาฆาตให้กับคู่กรณีที่กำลังยิ้มหน้าแป้นอยู่อย่างนั้น
                "ปล่อยได้ล่ะ มือกูน่ะ"
                "เดี๋ยวพี่ช่วยทำงานเองครับ" ไม่สนใจคำสั่งของอีกคน ก่อนจะพาเจ้าของมือที่ถูกกุมไว้เดินออกมาหน้าร้าน ไม่สนใจสีหน้าบูดบึ้ง(ที่เป็นงั้นเพราะเขิน)ของอีกคน
     
     
     
     
     
                จากตอนนี้เรื่อยไปจนกระทั่งปิดร้าน  ร้านนี้คงจะมีความหวานเปรี้ยวของทั้งคู่มาเพิ่มเติมจากเดิมแล้วล่ะมั้ง ..
     
     
     
               
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ซารังเงน์ย์ร์
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -   -
     
     
    ซางรังเงรีดเดอร์ร์ร์ร์ ดองไว้นาน ตอนนี้เลยดูกากๆ
    การเรียนค่อนข้างย่ำแย่ -_______-;;;;
    มานั่งฟินเฮอึนต่อ ตกใจกับทีเซอร์อัลบั้ม 6
    นึกว่าคู่เลสเบี้ยน 5555555555555555555555
    ตอนหน้าเอาวอนคยูปร้า ? -/-
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×