คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : HUTCAN 47 : แรกพบสบตาเมื่อเจอหน้าเธอ ~
“ไอ้เด็กเวรไอ้เด็กบ้าไอ้เด็กประสาทเสียไอ้ไอ้..โว้ยยยยยยยยย !! “ ทำไมชีวิตผมต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ด้วย ! ชีวิตของเด็กมหาลัยอันแสนสงบสุขของผมจู่ ๆ ก็มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ประกาศต่อหน้าสาธรณชนว่าจะสอยผม ! แถมมันยังกระซิบข้างหูผมว่า ‘จะจีบ’ ให้ตายเหอะริบบิ้น เอ้ย ! โรบิ้น ! แล้วไหนมันจะมาขโมยจุ้บแก้มผมอีก ! ผมถูแก้มตัวเองจนจะหลุดติดมืออยู่แล้วโว้ยยยยยยยย
“เฮ้ยแคนได้ข่าวจะโดนเด็กสอยเหรอว่ะ ? ฮ่าฮ่า“
“พ่องสิ ! ข่าวไวจังนะ“
“เค้ารู้ทั้งมหาลัยแล้วเว้ย “
“ทำไมกูซวยแบบนี้ว่ะชื่อเสียงกูป่นปี้หมดแล้วฮือออ “
“ยอมให้กูซอยตั้งแต่แรกมึงก็ไม่โดนเด็กมันปีนเกลียวหรอก”
“ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยย”
“ฮ่าฮ่า” ผมเบื่อไอ้พวกนี้ ! ไอ้พวกเพื่อนร่วมคณะเฮงซวยจ้องจะสอยผมตั้งแต่ผมเป็นเฟรชชี่จนทุกวันนี้ปีสามพวกมันก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดนั้นแทะโลมผมทางสายตาทุกวันจนผมจะพรุนไปทั้งตัว !
“ แคน อติรุจ ” นั่นคือชื่อของผมเด็กสุโขทัยที่จากบ้านมาเรียนไกลถึงในเมืองกรุงเทพแดนศิวิไลผมเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองกรุงจะสามปีแล้วแรกที่มาจำได้ว่าผม ‘ตื่นเมืองกรุง’ มากไปไหนมาไหนก็ไม่ค่อยจะกล้าเพื่อนก็ไม่ค่อยจะกล้าคบเพราะด้วยความเป็นเด็กบ้านนอกพ่อกับแม่สอนมาตลอดว่าคนเมืองกรุงไว้ใจไม่ได้ผมก็เชื่อจนผมเกือบจะเป็นประสาทหวาดระแวงและเก็บกด
จนกระทั่งวันรับน้องผมเริ่มเปิดใจมากขึ้นยอมรับคนที่เข้ามาหามาทำความรู้จักซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดออกจะดีซะด้วยซ้ำผมมีก๊วนชวนกันไปเที่ยวนุ้นเที่ยวนี่กินเที่ยวเปรี้ยวช็อปเพื่อนผมมีทั้งหญิงทั้งชายเทยทอมตุ้ดผมคบหมดเพื่อนผมไม่จำกัดเพศครับ เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนแซวผมเลยเดินเลี่ยง ๆ มานั่งคนเดียวที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างตึกศิลป์ดีกว่า ..
ผมเป็นเดือนคณะสื่อสารครับอันที่จริงต้องเรียกว่าอดีตเดือนมากกว่าเพราะผมหมดวาระไปนานแล้วฮ่าฮ่า แต่ผมก็ยังฮอตอยู่ยังเป็นที่หมายปองของสาวแท้สาวเทียมไม่เว้นแม้แต่ผู้ชาย..ทุกวันผมนั่งมองตัวเองที่หน้ากระจกว่าหน้าอย่างผมมันดึงดูดเพศผู้ตรงไหน ?
คำว่า ‘จีบ’ ไม่ได้เป็นที่แปลกใจสำหรับผมนักเพราะอดีตเดือนอย่างผมเจอคำนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วผมก็ค่อนข้างดีใจมากกว่าอย่างน้อยผมก็ยังได้รับความสนใจอยู่แต่ไอ้คำว่า ‘จีบ’ ที่ผมไม่ค่อยจะดีใจนักก็ครั้งนี้แหละผมไม่เคยเจอผู้ชายเดินเข้ามาขอ ‘จีบ’ โต้ง ๆ แบบนี้ ! แต่ไอ้เด็กบ้านี่มันเป็นใคร ?! ทำไมมันช่างกล้า คิดแล้วหงุดหงิด !
“จ๊ะเอ๋ ! เบบี๋ “
“ไอ้เชี่ยยยยยยยเบบี๋ป๋ามึงสิ ! “ หัวใจจะวาย ! จู่ ๆ ไอ้เด็กประสาทเสียก็โผล่มาแถมทักทายผมด้วยคำน่าขนลุกนั่นอีกเบบี๋ผีอะไรล่ะ.. ดูดี ๆ ไอ้เด็กนี่มันหล่อครับขาวตี๋สูงโปร่งจมูกโด่งคิ้วเข้มสเปคสาว ๆ ร้อยทั้งร้อย ผมว่ามันต้องฮอตมากแน่ ๆ ถ้ามันไม่ฆ่าตัวเองให้ดับด้วยการประกาศต่อหน้าคนทั้งมหาลัยว่าจะจีบผมซะก่อนนะ
“ฮ่าฮ่าขี้ตกใจจังนะพี่ ! มานั่งทำอะไรแถวนี้ครับยาหยี“
“แกไม่รู้ สึกพะอืดพะอมเวลาแกพูดคำเน่า ๆ แบบนั้นกับผู้ชายด้วยกันบ้างเหรอว่ะ “
“ไม่นะพี่หรือพี่รู้สึก “
“เออ ! ฉันรู้สึกฉันจะอ้วก “
“จะอ้วก !? ยังไม่ทันได้ทำอะไรแพ้ท้องซะแล้ว “
“แพ้ท้องกับแป๊ะแกสิ “
“ตั้งแต่ผมเจอพี่ดูเวลาได้ 5 นาทีพี่พูดถึงคนในครอบครัวผมไปเยอะมาก “
“เอ่อ..ฉันขอโทษนะ “
“หอมแก้มผมก่อนแล้วผมจะยกโทษให้ “
“ไอ้เด็กเวร ! “
“ฮ่าฮ่า “ ไอ้ตี๋ตาตี๋หัวเราะร่วนทิ้งตัวลงนั่งนอนราบไปกับพื้นหญ้าข้าง ๆ ตัวผม อย่าคิดลึกครับผมนั่งเอามือท้าวแขนไปข้างหลังไอ้ตี๋หลับตาแล้วอมยิ้มน้อย ๆ มันจะมีความสุขอะไรนักหนาว่ะเห็นแล้วหมั่นไส้ ชิ !
“พี่อยากรู้ป่ะทำไมผมเลือกเรียนศิลปะศาสตร์ “
“ไม่อยากรู้”
“แต่ผมอยากบอก” แล้วจะถามกูเพื่อ ?
“ผมหลงใหลในศิลปะมาตั้งแต่เด็กผมรู้สึกดีทุกครั้งที่เห็นมันรู้สึกเป็นตัวเองทุกครั้งที่ได้อยู่กับมันผมสามารถปลดปล่อยจิตนาการออกมาได้อย่างเต็มที่ปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาสื่อออกมาจากภาพที่ผมลงมือวาดมันทุกใบศิลปะคือสิ่งผมอยู่กับได้โดยไม่มีเบื่อแต่ตอนนี้ผมว่าผมเจออีกสิ่งที่อาจจะสำคัญมากพอ ๆ กับศิลปะแล้วล่ะ ... “
“อะไรของแก.. “
“ก็พี่ไงครับ”
ทำไมหน้าผมร้อน ๆ ว่ะไม่นะผมกำลังเขินเหรอ ? เขินมันเขินไอ้เด็กตี๋นี่ GODDDDDDDDDDDDDD ร้อยคำพูดชวนเลี่ยนจะอ้วกที่ผมได้ยินมานักต่อนักไม่เคยทำให้ผมเขินได้แต่ทำไมกับคำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ ของไอ้เด็กนี่กลับทำให้ผมร้อนหน้าได้ขนาดนี้
“เขินเหรอพี่ดูดิ่หน้าดำเชียวฮ่าฮ่า”
“ไอ้เด็กเลวววววววววววววววววว”
TBC.
ความคิดเห็น