ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    >>.'IS AIR เพราะนายคืออากาศ.'<< { [Fic] WonCin*KiHae*KyuMin}

    ลำดับตอนที่ #3 : ::: IS AIR ::: ChapTer 2 ::: จะทำยังไง // ไม่มีทางเลือก // ก็ผมชอบพี่...!!

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 52


    ::: IS AIR ::: ChapTer 2 ::: จะทำยังไง // ไม่มีทางเลือก // ก็ผมชอบพี่...!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ถามอะไรนายหน่อยสิ?”

    “ครับ”


    ร่างบางที่ขับรถไปถามไป ดวงตาสวยเริ่มฉายแววสงสัย คิ้วเรียวขมวดกันเป็นปม ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะถอนหายใจออกมา


    “ทำไมนายถึงมาแต่งงานกับฉันล่ะ ทั้งๆที่นายก็ไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร”

    “ทำไมผมจะไม่รู้จักพี่ ผมรู้ด้วยซ้ำว่าพี่แอบทำกิจการลับๆน่ะ”


    ร่างสูงว่าอย่างสบายอารมณ์ พลางเอนตัวพิงเบาะรถหรู ก่อนจะผิวปากเบาๆ ฮีชอลเบรกรถในทันที เล่นเอาร่างสูงหน้าทิ่มไปตามๆกัน ก่อนฮีชอลจะเบิกตากว้างและมองซีวอนอย่างตกใจ


    “นายรู้ได้ไง!?!

    “ก็ผับที่พี่อ้างว่าเป็นของพี่อีทึก แต่ความจริงมันเป็นของพี่ซะส่วนใหญ่ด้วยนี่นา”

    “...”

    “พี่น่ะไม่ได้เที่ยวเตร่อย่างที่ใครเค้าว่า พี่ก็แค่ไปสืบว่าผับอื่นมีอะไรดีเท่านั้น”


    ฮีชอลถึงกับอึ้ง ความลับของเค้าที่มีเพียงทงเฮ อีทึก เท่านั้นที่รู้ แม้แต่พี่น้องในไส้อย่างเรียวอุคและคิบอมยังไม่รู้เลย ฮีชอลถอนหายใจอย่างแรง ก่อนจะถอนหายใจเบาพร้อมส่ายหน้าน้อยๆ


    “ฉันยอมแพ้จริงๆ แค่ไม่อยากให้ป๊ากับม๊าลำบากใจ...ฉันไม่อยากแต่งงาน”

    “แต่พี่ก็ไม่เคยทำอะไรให้ครอบครัวนี่นา”

    “จริงอย่างนายว่า”


    ฮีชอลรับคำ ทุกคำที่หลุดออกมาจากปากคนตรงหน้าล้วนจะเป็นความจริง ฮีชอลจากที่เคยอยากรู้เรื่องราวมากมายของร่างสูง อยู่ๆก็ไม่อยากรู้ไปเสียดื้อๆ เพราะดูเหมือนเค้าจะกลัวจริงความเข้าให้แล้ว เมื่อรถของฮีชอลจอด ร่างสูงก็ลงจากรถก่อนจะส่งยิ้มจางๆให้ และเดินไปทางคอนโดหรูที่อยู่ข้างๆแทน


    “อะไรกัน เพิ่งจะทุ่มครึ่ง ถ่อมาแล้วเหรอแม่คนสวย”

    “ทงเฮไปชงเหล้าสิ”

    “คร๊าบบบเจ๊”


    ฮีชอลหันไปสั่งทงเฮอย่างไม่ใส่ใจกับอีทึก ที่ยืนพูดพร่ำเพรื่ออยู่ตรงเคาน์เตอร์ ก่อนฮีชอลจะกวาดตามองไปรอบๆร้าน ยังไม่ดึกมาก แต่คนก็เข้าเต็มร้าน เพราะวันนี้เป็นวันสิ้นเดือนนั่นเอง ร่างบางมองไปรอบๆก่อนจะยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นมาดื่มอย่างไม่ใส่ใจ


    “ตกลงมีอะไร ถึงถ่อมาเร็วจะปาน หวังว่าแกคงไม่คิดออกไปเต้นแทน ยัยดาวยั่วที่ไปหลอกให้ไอ้คิบอมคั่วแล้วพามาอยู่ที่นี่หรอกนะ”

    “เออ! ทำได้ก็จะทำ”


    ฮีชอลตอบอย่างอามรมณ์เสียไปกว่าเดิม หลังจากเห็นร่างสูงที่จู่ๆก็จำได้อย่างชัดเจน โผล่มาจากประตูทางเข้า ฮีชอลกระแทกแก้วเหล้าอย่างโมโห ก่อนจะทำปาดเชิด ซึ่งทำเอาอีทึกและทงเฮสงสัยอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


    “อะไรกันแน่”

    “ฉันไม่มีทางเลือก คำพูดของแกมันเป็นจริง อีทึก...”

    “...”


    ฮีชอลพูดพร้อมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของเพื่อนรัก ดวงตาที่ยิ้มได้ ดวงตาที่สดใสร่าเริง เช่นเดียวกับของฮีชอล แต่บัดนี้มันดูเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ทำเอาอีทึกใจสั่นเลยทีเดียว


    “ไอ้หน้าหล่อที่แกบอกว่าจ้องหน้าฉันทุกวัน ก็มันนั่นแหล่ะ”

    “...”

    “ทำไมนะ ฉันจะทำยังไงดี??”


    ฮีชอลตัดพ้อ ก่อนจะยกชาอุ่นๆที่ทงเฮเปลี่ยนให้ มาจิบแทนเผื่ออารมณ์ของฮีชอลจะดีขึ้น ส่วนอีทึกก็ลูบหัวเพื่อนรักเบาๆ ก่อนจะไปเก็บแก้วไวน์ที่เพิ่งเช็ดเสร็จ และเอ่ยเอื้อนออกไป



    “มีทางเลือกเหรอ? หนีกับหนี จะไปช่วยอะไร”

    “ฉันอยากไปทะเล ไปคิดดูก่อน”

    “ดูท่าเค้าก็ชอบแกนี่ จะรังเกียจทำไม แกแค่ทำตามพ่อแม่สิ ยังไงแกกับเค้าก็มีลูกไม่ได้”

    “...”

    “...”


    หลังจากอีทึกพูดจบ ฮีชอลก็เอาแต่ฟุบหน้าและนิ่งเงียบอย่างอัตโนมัติ ทั้งๆที่อย่างน้อยก็ต้องออกมาโวยวายบ้างล่ะ จนทงเฮที่เอาแต่เงียบอยู่พูดขึ้นเพื่อปลอบใจอีทึก


    “ปล่อยเค้าเถอะฮะ พี่อีทึกผมว่าเจ๊แกคงต้องการเวลา”

    “ถ้าเป็นนาย นายจะทำไหมทงเฮ...?”

    “ผมคงต้องทำ เพราะยังไง พ่อกับแม่ก็ทำเพื่อผมมามากพอ เรื่องแค่นี้...”


    ทงเฮพูด มันทำให้ฮีชอลอดที่จะแสยะยิ้มไม่ได้ ยิ้มที่ดูถูกตัวเอง ขนาดทงเฮที่โดนพ่อแม่ทิ้งไป อย่างไม่มีเหตุผลยังอยากทำเพื่อพวกท่านเลย แต่สำหรับเค้า ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ...

     

     

     

     

     

    ...

    ..

    .

    # อีกมุมหนึ่งของผับ #

    “ว่าไงซีวอน”

    “อืม เค้าไม่อยากแต่ง”


    ซีวอนว่า ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบอย่างหัวเสียเล็กน้อย ดวงตาคู่คมมองไปยังร่างบางที่ฟุบลงกับโต๊ะ และหลายสายตาท่ต่างก็มองร่างบงอย่างหลงใหล ทำให้เค้าออกอาการไม่พอใจเท่าไหร่นัก


    “แต่ก็ต้องแต่ง อย่างเค้าน่ะรู้ว่าอะไรควรไม่ควรแค่กำลังสับสน”

    “มึงคิดว่าถ้าแต่งแล้วมันจะง่ายไง”

    “ทำไม”


    เพื่อนรักเอ่ยถามซีวอนขึ้น ก่อนจะทำหน้าตาครุ่นคิด เพราะเสือผู้หญิงที่อยู่ในคราบคุณชายอย่างซีวอน มันน่าจะง่ายสำหรับเรื่องแบบนี้ ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่เขาใจ


    “ไม่เคยดูหนังไง กุล่ะสงสารพระเอกโดนถีบตกเตียง ห้ามเข้าใกล้นางเอกอีก”

    “มึงนี่ ไอ้คุณชายลิลลี่-_-^^


    ชายหนุ่มอดที่จะหันไปด่าเพื่อนรักไม่ได้ เพราะความคิดงี่เง่าแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่มันจะลงเอย ในใจก็กำลังไม่แน่ใจว่าเพื่อนรักอาจจะหลงรักคนสวยอย่างฮีชอลจริงๆก็ได้


    “ไปกกเมียมึงเถอะเรียวอุคน่ะ ทำเป็นทำงานที่แท้ก็ไปอยู่ด้วยกัน”

    “เหอะ! กุหมั้นกันแล้วจดทะเบียนแล้วแค่ขี้เกียจแต่งเท่านั้นเอง”

    “ไปตอนไหนวะ=_=;;” 


    ซีวอนมองหน้า ก่อนจะทำท่าทางเอือมระอากับเพื่อนรัก ก่อนสายตาจะหันไปมองร่างบางอย่างเก่า


    “แล้วจะใส่ใจทำไม ไหนบอกว่าฮีชอลก็แค่ผู้หญิงกลางคืนไง”

    “ไอ้บ้า แกว่าภรรยาในอนาคตของฉันได้ยังไง ห๊า!!


    เสียงโวยวายและเสียงหยอกล้อยังคงดังแบบสนุกสนาน แต่อีกด้านหนึ่งของผับแห่งนี้ มีร่างบางที่กำลังงัวเงียไม่รู้เพราะสาเหตุใดด้วยซ้ำ เล่นสองสาวเพื่อนรักถึงกับเอือมและงงในเวลาเดียวกัน


    “ฮีชอล อะไรของนายกัน ดื่มก็ไม่ได้ดื่ม ทำไมหน้ามึนอย่างนี้”

    “เวียนหัวน่ะ”

    “ทงเฮพามันไปส่งบ้านไป ตีสองแล้ว นายกลับได้แล้ว”

    “ฮะ รักพี่จองซูจังเลย><!


    ร่างบางอย่างทงเฮหันไปก้มหัวให้คนตาสวย ก่อนจะวิ่งดุ๊กๆไปเก็บของและเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนทงเฮจะวิ่งออกมาแล้วควานหากุญแจรถของฮีชอล ไม่นานรถเฟอร์รารี่คันหรูก็มุ่งหน้าออกจากผับทันที


    “พี่จะเอาไงต่อพี่ฮีชอล”

    “...ฉันขอเวลาหน่อยแล้วกัน”

    “ฮะ ผมเข้าใจพี่ว่ามันเร็วเกินไป”

    “นายไปนอนนะ ฉันขอลงไปหาน้ำกินก่อน”

    “ฮะ ฝันดีนะเจ๊^^


    หลังจากที่ทงเฮถามไถ่อาการของฮีชอลเป็นที่เรียบร้อย ตัวเองก็ไม่ลืมที่จะเดินกลับไปยังห้องนอน แต่ดูเหมือนร่างบางจะยังไม่รู้ว่าลืมของไว้ที่ห้องของฮีชอล ทำให้มันเป็นธุระของฮีชอลที่จะต้องเอาไปให้ แต่ทว่าฮีชอลกับได้ยินอะไรที่ไม่ควรได้ยินเข้า


    “ผมจะถอนหมั้น ไม่ต้องแต่งงาน แล้วผมจะกู้บริษัทเอง”

    “ไม่ได้นะคะ เราจะเริ่มงานอีกสามเดือนข้างหน้าแล้วนะคะ”

    “ฮีชอลไม่อยากแต่ง ดูตาลูกผมก็รู้ คุณจะไปขัดใจเค้าทำไม”

    “...”

    “ยังไงก็ไม่แต่ง”

    “ต้องแต่งค่ะ!

    “ไม่!!

    “ฮึกๆ ฮือ ฮึก ฮือๆ”


    ฮีชอลวิ่งลัดไปยังห้องของทงเฮทันทีโดยไม่ได้สนใจว่าคนข้างในห้องนั้นจะพูดอะไรกันต่อ รู้แต่เพียงว่า...ในตอนนี้เค้าไม่อยากได้ยินอะไรแล้วทั้งนั้น


    “ทงเฮไปเป็นเพื่อนหน่อยนะ”

    “ฮะ!?

    “ไปเถอะ ไปเร็วเข้า”

    “ฮะๆ”


    ฮีชอลคว้าตัวทงเฮที่กำลังถอดเครื่องประดับที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้นออก  ส่วนทงเฮที่โดนลากก็ไม่ลืมที่จะหยิบของสำคัญออกมาอย่างรวดเร็ว ในใจก็นึกงงๆ เรื่องฮีชอล แต่ก็พอจะเข้าใจ เลยไม่ได้ไถ่ถามออกไป เพราะถึงถามตอนนี้คนสวยตรงหน้าก็คงยังไม่พร้อมที่จะเล่าอยู่ดี





    ...
    ..
    .
    Writer Talk
    อ่า รู้สึกว่าคอมเม้น มันไม่ถึงT^T
    ไม่เป็นไร จะมาอัพให้เรื่อยๆและกัน
    แอบเศร้าเล็กๆ มีใครอ่านต่อไหมเอ่ย??
    เค้าจะไม่มาอัพแล้วนะ
    TT~~
    ปล. ช่วยกันฟอเวิดหน่อยสิ เค้าจะร้องแล้วนะT.,T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×