เพื่อน (รัก) ครั้งแรก - นิยาย เพื่อน (รัก) ครั้งแรก : Dek-D.com - Writer
×

    เพื่อน (รัก) ครั้งแรก

    เขาเป็นเพื่อน (มนุษย์) คนเดียวที่ผมยังเหลืออยู่

    ผู้เข้าชมรวม

    50

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    50

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 มี.ค. 62 / 09:02 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    INTRO


    ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมหลาย ๆ คนถึงหาทางออกให้กับทุก ๆ ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตายมันเป็นวิธีที่ดีที่สุดหรือเปล่าอันนี้ผมก็ยังไม่รู้ แต่ใคร ๆ ก็ตามที่ต้องการจะหันหลังให้กับปัญหาทุกอย่างเขาก็มักจะใช้วิธีการเหล่านี้ทั้งนั้นไม่ใช่หรือไง ผมไม่รู้หรอกว่าการฆ่าตัวตายมันจะเป็นยังไง มันอาจจะทำให้คนที่ไม่ต้องการทุกอย่างบนโลกอย่างผมจากไปอย่างเจ็บปวดน้อยที่สุดละมั้ง ก็ไม่รู้ซิผมไม่รู้อะไรเลยผมรู้แค่ว่าผมอยากจะลองจากไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยวิธีที่ตัวเองเลือกดูสักครั้ง

     

     

    ดาดฟ้าของอาพาร์ทเม้นที่ผมพักอยู่เป็นที่ที่ผมเลือกแล้วว่าจะจบชีวิตและความวุ่นวายรวมทั้งเรื่องราวทุกอย่างไว้ที่นี่ ผมตัดสินใจจะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงจากตึกสูงสามสิบชั้นและนี้คือชั้นที่สามสิบชั้นที่สูงที่สุด เท้าขวาของผมก้าวขึ้นไปเหยียบบนขอบปูนอย่างไม่ลังเลและเท้าซ้ายก็ก้าวตามมาติด ๆ  ผมยืนในลักษณะที่แยกขาออกเล็กน้อยเพื่อเป็นการทรงตัวเพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไปด้านล่างในตอนนี้

     

    ผมไม่ได้กลัวที่จะตกลงไปหรอกนะเพราะผมเตรียมใจมาแล้วแต่ผมอยากจะสูดอากาศในโลกที่ผมรักเหลือเกิดนี้เป็นครั้งสุดท้าย ผมกวาดสายตามองไปรอบ ๆ วิวทิวทัศน์ในเมืองหลวงยามที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าช่างสวยงามเสียเหลือเกิน ตึกสูงต่ำขนาดต่างกันถูกประดับไว้ด้วยไฟสีสันสวยงาม ไม่เว้นแม้แต่ท้องถนนที่ตอนนี้รถกำลังติดกันอย่างแน่นขนัดแต่แสงไฟหน้ารถหลายพันครั้งก็สร้างความสวยงามด้วยเหมือนกัน ท้องฟ้าสีส้มอมน้ำเงินเข้มตัดกับแสงไฟจากพื้นเบื่องล่าง มันเป็นความสวยงามที่คนธรรมดาอย่างผมรู้สึกว่ามันพิเศษเพราะมันจะเป็นภาพจำภาพสุดท้ายก่อนที่ผมจะไปใช้ชีวิตในโลกหลังความตาย

     

    ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้งและกวาดสายมองให้ทั่วทำใจให้นิ่งสงบที่สุดผมเคยได้ยินใครหลายคนพูดกันว่าวินาทีสุดท้ายก่อนที่จะตายในกรณีที่เรารู้ตัวว่าเรากำลัง                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                จะตายให้นึกถึงที่ที่อยากจะไปหรือไม่ก็นึกถึงใครสักคนที่เราอยากไปหาแต่ว่าในตอนนี้น่ะนอกจากความอยากตายที่มีอยู่เต็มเปี่ยมผมก็ไม่รู้อะไรอีกเลยไม่มีที่ที่อยากจะไปและไม่มีคนที่อยากไปหา ผมใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มายี่สิบสามปีโดยไม่รู้ว่าพ่อและแม่แท้ ๆ ของตัวเองคือใครแล้วผมจะไปนึกถึงใครได้ละ

     

    ใช่ ผมเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกใครสักคนที่เดาว่าคงจะเป็นพ่อหรือไม่ก็แม่ของผมนำผมมาทิ้งไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและผมก็เติบโตจากที่นั้นและเมื่อโตขึ้นมาจนอายุสิบแปดปีผมก็ตัดสินใจเดินออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เปรียบเสมือนบ้านหลังเดียวที่ผมมี

     

    บ้านที่มีทั้งความสุขและความทุกข์อย่างแสนสาหัส

     

    ผมเข้าศึกษาที่มหาลัยชื่อดังของประเทศในฐานะเด็กทุน ผมเป็นคนเรียนเก่งความสามารถเยอะใคร ๆ ก็มักจะชมผมแบบนั้นและจะตบท้ายด้วยคำว่า แต่ไม่หน้าเป็นเด็กกำพร้าเลยและผมชินกับคำชมพวกนั้นเสียแล้ว

     

    ผมไม่มีทั้งพ่อและแม่ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวด้วยการทำงานทุกอย่างที่สามารถจะทำได้เพื่อให้ได้เงินมาหล่อเลี้ยงชีวิต ผมไม่ได้มีชีวิตสวยหรูแต่ผมก็รักการใช้ชีวิตของผม ผมรักในการทำงานหาเช้ากินค่ำและยังคงต้องแบ่งเวลาไปเรียนแบบนักศึกษาทั่ว ๆ ไป กิจวัตประจำวันอย่างหนึ่งของผมนอกจากเรียนและทำงานก็คือการยิ้มให้ตัวเอง ทุก ๆ เช้าหลักจากที่ผมจัดการตัวเองเรียบร้อยอยู่ในชุดที่พร้อมจะไปเรียนหรือไปทำงานผมจะนำตัวเองมายืนหน้ากระจกแล้วยิ้มให้กับตัวเองทุกวัน 



    ในโลกที่ไม่มีใครเป็นกำลังใจให้ผม ผมก็เลือกที่จะเป็นกำลังใจให้ตัวเองเสมอผมบอกแล้วไงว่าผมน่ะรักการใช้ชีวิตของตัวเอง เพราะรักถึงเลือกที่จะพามันไปในที่ที่ไกลแสนไกล ไกลพอที่จะหลุดจากเรื่องเลวร้าย คำติฉินนินทาและสายตาดูถูกเหยียดหยายจากผู้คนใจร้ายเสียที

     

     

    ในเวลานี้ผมสัมผัสได้ถึงสายลมยามพบค่ำที่พัดมากระทบกับร่างกายของผม ที่สุดขอบฟ้ามีประกายของฟ้าผ่าให้เห็นอยู่ไกล ๆ พื้นที่ขอบฟ้าตรงนั้นฝนคงกำลังจะตกสินะ อีกอย่างที่ผมลืมบอกไปก็คือผมชอบฤดูฝน ผมชอบสายฝนเพราะผมมักจะกลั่นกรองความอ่อนแอที่อัดแน่นอยู่ภายในจิตใจออกมาในรูปแบบของน้ำตาและในวันที่ฝนตกผมจะออกไปเดินเล่นท่ามกลางสายฝนและปล่อย ๆ สายน้ำแห่งฟากฟ้าช่วยชะล้างหยาดน้ำตาและความเจ็บปวด 



    เอาละในตอนนี้ผมมีที่ที่อยากจะไปแล้ว ที่ที่อยู่สุดปลายขอบฟ้านั้นเป็นทีที่ผมอยากจะไป...

     

     

    ลาก่อนโลกเคยที่สวยงาม

    ลาก่อนโลกที่เคยสร้างรอยยิ้ม

    ลาก่อนโลกที่เคยสร้างความสุข

    ลาก่อนโลกที่เคยสร้างความเข้มแข็ง

    ลาก่อนโลกที่พรากเอาทั้งความสวยงามความสุขและความเข้มแข็งไปจากผม

    ลาก่อนความเจ็บปวดที่ผมต้องพบเจอ...


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น