ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยัยติ่งเกาหลี กับหนุ่มหน้าตี๋ข้างห้อง

    ลำดับตอนที่ #3 : เอาไงดี...นาทีต้องทำไง

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 60


                การค้นพบคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรง มันก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง...เเต่การค้นพบความรู้สึกนี้ บางทีก็อาจจะแฝงไปด้วยความกังวลบางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเราค้นพบแล้ว ทางที่ต้องเลือกก็ควรมีแค่จะค้นหาต่อ หรือหยุดให้ตัวเองชื่นชมเท่านั้น
                ความบังเอิญ...ที่ทำให้เราต้องมาเจอกัน เเล้วฉันควรจะทำยังไง
                เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นครั้งแล้ว ครั้งเล่า แต่ฉันก็ยังไม่ยอมรับหมายเลขนั้น เพียงเพราะรู้ว่าอยู่เเล้วว่าปลายสายต้องการอะไรจึงโทรมาในเวลาแบบนี้ วันนี้ปอลี่น่าจะชวนฉันไปงานดาวเดือนเฟรชชี่อย่างแน่นอนเพราะหล่อนเคยบอกฉันไว้ 
               ติ๊ง เสียงช่องข้อความเฟสบุ๊คดังเตือนอีกครั้ง 
              บางทีฉันก็ค่อนข้างจะเเปลกใจในความพยายามของคนที่ติดต่อมาเหลือเกิน พวกเขาไม่มีท่าทีหยุด หรือล้มเลิกความพยายามเลย ถึงแม้ว่าจะไร้การตอบกลับใด ๆ ก็ตาม นี่สินะ ที่เขาว่า "คนเรามักจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ จนกว่าจะได้สิ่งนั้นฉันต้องทำให้เต็มที่ก่อน" 
              แต่ท้ายที่สุด...ฉันก็ต้องรับโทรศัพท์ เนื่องจากยอมแพ้ให้กับความพยายามของบุคคลอย่างปอลี่ที่วันนี้โทรมาเกือบ 50 สาย
              "ฮัลโหล..." ฉันกดรับพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพกว่าปกติ
              "แก...ฉันต้องการแกมากตอนนี้ มาหาหน่อย กูอกหัก" เสียงปอลี่ที่ไม่ค่อยดีตอบกลับมา "รู้มั้ย กูต้องการมึงนะ มาอยู่เป็นเพื่อนหน่อย" นั้นคือสิ่งที่ปอลี่พูดกับฉัน ก่อนจะวางสายไป
              หลังจากบทสนทนาของฉันกับปอลี่จบลง ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนที่แสนรัก ถึงต้องโทรหาถี่ขนาดนั้น ปัญหาของปอลี่คือหล่อนกับแฟนผู้ชายของหล่อนมักจะทะเลาะกัน เเละบอกเลิกกันอยู่เสมอ ถึงแม้บางทีปอลี่จะดูชื่นชอบผู้ชายคนอื่นไปทั่ว แต่หล่อนก็ยังรักเเฟนหนุ่มของหล่อนตลอดเวลา
              "เฮ้อ...ความรักบางทีมันก็ยากเหมือนกันเนอะ" ฉันบ่นกับตัวเอง 
         
              ฉันเปิดประตูออกจากห้องพัก เพื่อจะไปหาปอลี่ แต่แล้วประตูของคนข้างห้องก็ได้เปิดขึ้นเช่นกัน
              เขาคนนั้น หันมาหน้ามาทางฉัน โดยบังเอิญ ก่อนจะยิ้มให้ฉันเล็กน้อย ตอนนี้เขาอยู่ในชุดกางเกงยีนที่ขากางเกงมีรอยขาดเล็กหน่อย เสื้อตัวยาวที่ใส่ พร้อมกับรองเท้ากีฬาสีสดใสทำให้ฉันนึกถึง มาร์คคึ รวมถึงสไตล์การเซตผมของเขา และรอยยิ้มที่ละมุนมากมาย นั้นชวนให้ฉันนึกชอบเขาขึ้นมา ก่อนที่เขาจะหันหลังเเละก้าวเดินลงบันไดไป ฉันมองเห็นหลังของเขาที่ค่อย ๆ จากฉันไป เขาจะไปไหนนะ ? 
              ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปขึ้นรถเพื่อออกไปหาปอลี่นั้น เสียงทุ่มต่ำของใครบางคนก็ลอยเข้ามาในโสตประสาทของฉัน ราวกับว่าเขาต้องการจะบอกบางอย่างผ่านการพูดคุยที่ฉันบังเอิญได้ฟัง
              "เอ่อน่า...กูกำลังจะออกไปเนี่ย ทันแน่กว่าจะเล่นก็อีกตั้งนาน" 
              "เคๆ กูกำลังจะไป เจอกันที่งานนะ" ต้นเสียงกำลังพูดอยู่ข้างหลังของฉัน ฉันรู้สึกได้ หรือบางทีเขาอาจจะบอกฉันเป็นนัยแล้วในสิ่งที่เขากำลังจะทำในอนาคต ฉันควรทำยังไงกับเป้าหมายในวันนี้ 
    ---------------------------------------
              รถมอเตอร์ไซต์จอดที่หน้าหอพักของปอลี่ ไอโฟน 5C ของฉันได้รับข้อความเตือนมากมาย เนื่องจากปอลี่พยายามติดต่อมาหาฉัน 
              "ถึงแล้วมาเปิดประตูหน่อย" ฉันพิมพ์ข้อความตอบกลับปอลี่ในช่องเเชท
    สรุปวันนี้เพื่อนรักของฉันต้องมาก่อนผู้ชายสินะ 
              ขณะความคิดฉันกำลังโลดเเล่นอยู่นั้น ปอลี่ก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับเสื้อผ้า หน้าผม ที่ครบชุด ดูไม่ออกเลยว่า หล่อนเพิ่งจะอกหัก หรือทะเลาะกับแฟนแต่อย่างใด 
              "นัท...เราไปงานดาวเดือนกันเถอะ" ปอลี่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ต่างจากปกติ
              "เดียวนะ...คือไหนว่าอกหัก จะไปงานได้หรอ" ฉันตอบทันทีด้วยท่าทีสงสัย "ไหวป่ะเนี่ย หรือว่าโกหก"
              "ไม่ได้โกหก อกหักจริงเว้ย แต่มึงจะให้กูร้องไห้ทำไมว่ะ มันเศร้าก็จริง แต่ควรจะมีวิธีอื่นนิ...มึงเป็นเพื่อนกูไม่อยากให้กูสบายใจหรอ" ปอลี่ตอบกลับเหมือนซ้อมบทพูดไว้แล้ว ซึ่งฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธ เอาเถอะ!! ถึงจะไม่ชอบงานแบบนี้ แต่ครั้งนี้ยกให้หล่อนสักครั้ง
         
        -------------------------------
              "ไอ้มาร์ค...มึงมาสายนะเนี่ย แล้วจะซ้อมยังไงให้ทันว่ะ" 
              "เอาน่ะ กูมั่นใจในเสียงของตัวเอง 5555" ชายที่ถูกเรียกว่ามาร์ค ตอบกลับทันที 
              น้องคนนั้น...ยัยเด็กนั้น จะมางานแบบนี้ไหม ท่าทางที่ดูไม่ค่อยปกติ กับรอยยิ้มที่ไม่เหมือนคนอื่น เธอจะเข้าใจที่เขาต้องการจะบอกหรือเปล่า 
              บ้าไปแล้ว...นี่มึงกำลังคิดถึงใคร  เขาบ่นกับตัวเองและมองไปที่เครื่องดนตรีที่เพื่อนร่วมวงกำลังเช็คก่อนขึ้นแสดงในคืนนี้ เพลงที่วงของเขาจะทำการแสดงคือ เพลงใกล้แค่ไหนคือใกล้ คุกเข่า และ เวลา นั้นคือสาเหตุที่เขาต้องร้องเพลงเหล่านี้ทุกวัน ลั่นห้อง ซึ่งเขาก็อยากจะขอโทษห้องข้าง ๆ บางเหมือนกัน บางทีเขาอาจจะไม่ได้ร้องเพลงเพราะแต่อย่างใด เพียงแต่เขาอยากแน่ใจว่าเขาร้องเพลงได้ในทุกสถานการณ์เท่านั้น
    ------------------------------------------------------

              "มึงรู้อะไรไหม" ปอลี่ถามขึ้นขณะนั่งซ้อมรถมอเตอร์ไซต์
              "อะไรล่ะ " ฉันตอบกลับทันที
              "ก่อนที่กูจะชอบผู้ชาย กูอกหักจากผู้หญิงคนหนึ่งมานะเว้ย" ปอลี่พูด แล้วก็เอาหัวมาซบที่หลังของฉัน
              "อืมม ก็พอจะรู้ล่ะ ผู้ชายที่เปลี่ยนไปชอบเพศด้วยกันก็น่าจะมาจากผู้หญิงบ้างล่ะ" ฉันตอบ
              "เสียดายนะ มึงไม่สวย โลกส่วนตัวสูงไปหน่อย ไม่งั้นกูอาจจะเปลี่ยนใจ" ปอลี่พูดขึ้นอีก 
              "งั้นกูก็โชคดีแล้วล่ะ ที่ไม่สวยและไม่ใช่สเปกมึง 555" ฉันตอบกลับ และได้ยินเสียงหัวเราะของปอลี่เบา ๆ อย่างน้อยหล่อนก็ยิ้มบาง ๆ ได้บ้าง

             หลังจากที่งานดาวเดือนเริ่มไปสักพักแล้ว ฉันกับปอลี่ก็เพิ่งเข้ามาถึงที่งาน เด็กปีหนึ่งจำนวนมากที่มาเชียร์เพื่อนของตนเอง ส่วนใหญ่ถึงแม้ว่าจะเป็นปีหนึ่งเหมือนกับคนอื่น ก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับงานประเภทนี้สักเท่าไหร่ งานดำเนินไปเรื่อย ๆ ในความคิดของฉัน งานนี้น่าเบื่อกว่าการไปนั่งรอเข้าคอนเสิร์ตของบรรดาโอปป้าเสียอีก รวมทั้งปอลี่ที่พยายามทำตนเองราวกับว่ามีความสุขมากที่สุด เพื่อปกปิดความเศร้าของตนเอง 
              "เดือนปีนี้ ไรวินร์มาแรงว่ะ เพื่อนเราโคตรหล่อเลยเนอะ" ปอลี่พูดขึ้น
              "อืมม หล่อหรอ" ฉันตอบ
              "หล่อดิ เห็นในจอโปรเจกเตอร์ไหม ดูดีจะตาย" ปอลี่ยังอวยต่อเนื่อง
              "ไม่หรอก หล่อนะ ต้องเเบบมาร์ค" ฉันตอบพร้อมยิ้มอ่อนให้ 
              "แต้ม เเต้ม ทางนี้" ปอลี่พูดขึ้นพร้อมกวักมือเรียกเพื่อนอีกคนให้เข้ามา
              "หาตั้งนาน คนเยอะเนอะ" เเต้มพูดขึ้น พร้อมกับเดินตรงมาหยุดต่อหน้าฉันและปอลี่ 
              แต้มเป็นเพื่อนของฉันที่อยู่กลุ่มเดียวกันตอนรับน้อง เธอเรียนคนละสาขากับฉันและปอลี่ แต่เธอก็มักจะมากินข้าวกลางวันกับฉันเสมอ เพราะเธอยังต้องปรับตัวกับเพื่อน ๆ ในสาขาของเธออยู่ เเต้มชอบหมอรุ่นเดียวกันอยู่คนหนึ่ง เพราะมาจากโรงเรียนเดียวกันกับเธอ ดังนั้นงานดาวเดือนแบบนี้จึงไม่แปลกที่จะเจอเธอมาร่วมงานด้วย เพราะเธอก็คงคาดหวังว่าจะเจอหมอคนนั้นอยู่บ้าง
              "ใช่ๆ คนเยอะสิ" ฉันตอบกลับ
              "เสร็จงานนี้ไปกินข้าวต้มต่อนะ ท่าทางจะดึก" แต้มชวนทันที
              "ได้ๆ " ปอลี่ตอบกลับแทน
              "ต่อไปถึงวงหมอฟันร้องเพลงเเล้วนะ ...ไปยืนอยู่ข้างหน้ากัน" แต้มพูดขึ้นพร้อมกับดึงมือฉันให้เดินตามไปตรงหน้าเวที "วงนี้นะ นักร้องนำไม่ค่อยหล่อนะ อยากให้ดูมือกลอง" แต้มยังคงพูดเรื่อย ๆ 

                   เสียงไฟสีม่วง ๆ อมชมพูทำให้บรรยากาศหน้าเวทีมีแสงค่อนข้างสลัวฉันว่าคงไม่ใช่วงที่มีเพลงเพราะสักเท่าไหร่ แต่เมื่อแสงไฟเปิดขึ้นอีกครั้ง ภาพของชายข้างห้องก็ปรากฏขึ้น เขาทักทายผู้ชมด้วยสายตา ท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ไม่เขินอายใด ๆ ดวงตากลมโตที่ต่างจากที่ฉันเคยเห็นทำให้เขายิ่งดูดีมากขึ้น เพราะอะไร...ทำไมเขาจึงมีแสงออกมารอบตัว วินาทีนั้น เพลงที่เขาร้องฉันไม่รู้หรอกว่าเป็นเพลงอะไร แต่ฉันรู้แล้วว่า เขาคือคนที่ทำให้ฉันหัวใจเต้นแรง ความใกล้จนจะติดหน้าเวทีกลายเป็นความไกลที่ฉันเพิ่งเข้าใจก็วันนี้ 
                   บนเวที...สายตาของผู้คนมากมายจับจ้องไปที่เขา แน่นอนว่าหน้าที่นักร้องนำทำให้เขาไม่สามารถเผยความเขินอายใด ๆ ได้ เขาต้องทำหน้าที่นักร้องให้ดี การทักทายผู้ชมเป็นเรื่องพื้นฐานที่เขาต้องทำ เเล้วสายตาของเขาก็กวาดไปเจอกับดวงตาเป็นประกายของใครคนหนึ่งซึ่งเขารู้สึกคุ้นเคย และเหมือนว่าเธอจะมองมาที่เขาเพียงคนเดียวเสียด้วย 
                   เธอโดดเด่นอยู่ตรงนั้น...ท่ามกลางผู้คนมากมาย เธอมางานนี้ด้วยหรอ แม่สาวน้อย 
    ----------------------------------------------------------------
              00.24 น. คือเวลาสิ้นสุดของงานดาวเดือนเฟรชชี่ 
              ผลการคัดเลือกของเป็นไปตามที่ปอลี่ แม่หมอพยากรณ์ว่าไว้ 
              เดือน คือไรวินร์ เพื่อนร่วมชั้นปี ร่วมสาขา ร่วมคณะ 
              ส่วนดาว คือเเพรว เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่อยู่คณะเภสัช 
              ส่วนฉัน โดนัท เพื่อนปอลี่ และเเต้ม ก็ยังคงครองตำแหน่งผู้หิวโหยจากการร่วมงาน 
                   "ไปกินข้าวต้นเถอะ" เเต้มพูดขึ้นทันทีหลังจากงานเสร็จ
                   "ไปดิ ร้านเจ๊ดี๊ดี" ปอลี่เลือกร้านเองเสร็จสรรพ
                   "งั้นเจอกันที่ร้านเลยนะ" แต้มตอบ ก่อนจะบิดมอเตอร์ไซต์นำไปก่อน 
              ระหว่างที่ขับรถมาจนถึงร้านข้าวต้มเจ๊ดี๊ดี ฉันได้ยินเสียงปอลี่ พูดอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญเลย เพราะสิ่งที่หล่อนพูดก็มีแค่เรื่องเดือนคนใหม่ที่หล่อนชื่นชมมาตั้งเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว
                   "ถึงล่ะ ลงค่ะ" ฉันจอดรถมอเตอร์ไซต์แล้วรีบไล่ให้ปอลี่ลงไป บางทีฉันก็รำคาญเพื่อนคนนี้ขึ้นมา
                   "สั่งอะไรดี ต้มหมูไหม ก๋วยจั๊บ หรืออะไร" แต้มถามขึ้นหลังจากเราทั้งคู่นั่งเรียบร้อยแล้ว 
                   "มาม่าผสมโจ๊กนะ" ปอลี่บอก
                   "มาม่าแค่นั้น" ฉันตอบ 
                   "ทำไมไม่ต้มกินที่หอย่ะ" แต้มย้อนถามฉัน 
                   "อ้าว ก็อยากกินนิ" ฉันตอบ แต้มเขียนเมนูที่อยากกินลงไปในกระดาษแล้วก็เอาไปส่งเจ๊ดี๊ดี ที่กำลังจัดเตรียมของเสิร์ฟโต๊ะอื่นอยู่
                   "สนุกดีเนอะ ฉันว่าล่ะ ไอ้วินมาแน่" แต้มพูดขึ้น
                   "ฉันเดาไว้แล้วว่าต้องเป็นฮี ไม่มีผิดแน่นอน" ปอลี่ กับเเต้มยังพูดคุยกันต่อไปไม่หยุด ทันใดนั้นฉันรู้สึกว่า หูของฉันกับให้ความสนใจกับเสียงของใครบางคนมากกว่า
                   "เอามาม่า" เสียงผู้ชายคนหนึ่งร้องขึ้นมาแต่ไกลจากด้านหลังของฉัน 
                   "แค่มาม่า มึงไปต้มกินเองที่หอไหม" เสียงชายอีกคนทำท่าจะร้องค้าน
                   "ก็กูจะกิน สั่งเลยพิเศษด้วย" เสียงชายคนหนึ่งตอบกลับ
                   จนฉันอดไม่ได้ที่จะพยายามหันหลังกลับไปมองยังต้นเสียงนั้้น และเเล้วฉันก็คิดถูก เขาคือชายข้างห้องคนนั้นจริง ๆ  เขาคือคนเดียวกับที่ร้องเพลงบนเวทีเมื่อสองชั่วโมงก่อน และตอนนี้เขาก็กำลังนั่งอยู่ในร้านข้าวต้มเช่นเดียวกับฉัน แต้มเอามือมาสะกิดที่มือฉัน ก่อนจะพูดขึ้นว่า
                   "นักร้องนำวงหมอฟัน สั่งเหมือนแกเลย โดนัท 5555" แต้มพูดขึ้น ก่อนจะหัวเราะออกมา 
                   "อืม..." ฉันตอบได้เท่านั้น 
                   "ลุกขึ้นไปเอาน้ำดิแก ...นั่งริมสุดล่ะ ลุกง่ายก็ลุกสิ" แต้มพูดต่อ
                   "โอเค" ฉันพูดพลางลุกขึ้นไปตักน้ำมาบริการเพื่อน 
                   จุดน้ำดื่มที่ต้องบริการตัวเองอยู่หน้าร้าน ฉันกำลังต่อคิวถัดจากชายอีกคนที่ตักน้ำอยู่ และรู้สึกเหมือนมีใครบางคนเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างขวามือของฉัน เขาพูดขึ้นด้วยท่าทีสุภาพ "กินดึกเหมือนกันนะ...งานเลิกดึกก็อย่างนี้ล่ะ หิวเลย"
                   ฉันนิ่งไปชั่วขณะ วินาทีนั้นฉันต้องทำยังไงดี ราวกับว่าเขากำลังกระซิบข้างหูฉัน  ฉันรู้คิดว่าตนเองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเล็กน้อย ก่อนจะมีเสียงของชายอีกคนตะโกนขึ้นมา
                   "มาร์ค...เอามาสองแก้วนะเว้ย" เสียงชายที่ร่วมโต๊ะของเขาพูดขึ้น
                   "โอเค" ชายคนที่ยืนอยู่ข้างฉันตอบกลับ
                   มาร์คหรอ...ชื่อของชายคนนี้ คือมาร์คสินะ ใช่เเล้ว ฉันแน่ใจว่าเขาคือมาร์คที่อยู่ในชีวิตจริง และกำลังยืนอยู่ตข้างฉันในตอนนี้
                   "ตักน้ำเถอะ รอนานล่ะ" เขาพูดด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มพลางชี้ไปที่แก้วน้ำ และกระติกน้ำที่อยู่ตรงหน้าฉันที่ไร้คนตักน้ำแล้ว เหลือแค่ฉันกับเขาสองคน
                   "ค่ะ" ฉันก้มหน้าตักน้ำโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากนี้  และกว่าจะรู้ตัวก็ตักน้ำไปมากกว่าจำนวนของเพื่อนตนเองแล้ว 
                   "มากันหลายคนหรอครับ" เขาถามขึ้น
                   "ค่ะ" ฉันมองหน้าเขาเเล้วพูดขึ้น
                   "มาหลายคนเนี่ย ไม่มีคนช่วยหรอ" เขาถามอีก
                   "ค่ะ..สามคนค่ะ" ฉันตอบกลับ
                   "งั้นเกินแล้วล่ะ" เขาพูดก่อนจะยิ้มให้ฉันอีกครั้ง ฉันหันหน้าไปมองแก้วน้ำที่เป็นจำนวนกว่า 10 แก้วที่วางเรียงอยู่ และรู้แต่เพียงว่า ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันต้องทำยังไง ?? ใครก็ได้บอกฉันที 
                  
                       "งั้นทีเกินมาพวกพี่ขอนะ...ขอบคุณครับ" เขายิ้มเล็กน้อย ภาพของเขาช่างน่ารัก โอปป้าฉันคิดว่าฉันกำลังตกหลุกมรัก!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×