ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เอาไงดี...นาทีต้องทำไง
การค้นพบคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรง มันก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง...เเต่การค้นพบความรู้สึกนี้ บางทีก็อาจจะแฝงไปด้วยความกังวลบางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเราค้นพบแล้ว ทางที่ต้องเลือกก็ควรมีแค่จะค้นหาต่อ หรือหยุดให้ตัวเองชื่นชมเท่านั้น
ความบังเอิญ...ที่ทำให้เราต้องมาเจอกัน เเล้วฉันควรจะทำยังไง
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นครั้งแล้ว ครั้งเล่า แต่ฉันก็ยังไม่ยอมรับหมายเลขนั้น เพียงเพราะรู้ว่าอยู่เเล้วว่าปลายสายต้องการอะไรจึงโทรมาในเวลาแบบนี้ วันนี้ปอลี่น่าจะชวนฉันไปงานดาวเดือนเฟรชชี่อย่างแน่นอนเพราะหล่อนเคยบอกฉันไว้
ติ๊ง เสียงช่องข้อความเฟสบุ๊คดังเตือนอีกครั้ง
บางทีฉันก็ค่อนข้างจะเเปลกใจในความพยายามของคนที่ติดต่อมาเหลือเกิน พวกเขาไม่มีท่าทีหยุด หรือล้มเลิกความพยายามเลย ถึงแม้ว่าจะไร้การตอบกลับใด ๆ ก็ตาม นี่สินะ ที่เขาว่า "คนเรามักจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ จนกว่าจะได้สิ่งนั้นฉันต้องทำให้เต็มที่ก่อน"
แต่ท้ายที่สุด...ฉันก็ต้องรับโทรศัพท์ เนื่องจากยอมแพ้ให้กับความพยายามของบุคคลอย่างปอลี่ที่วันนี้โทรมาเกือบ 50 สาย
"ฮัลโหล..." ฉันกดรับพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพกว่าปกติ
"แก...ฉันต้องการแกมากตอนนี้ มาหาหน่อย กูอกหัก" เสียงปอลี่ที่ไม่ค่อยดีตอบกลับมา "รู้มั้ย กูต้องการมึงนะ มาอยู่เป็นเพื่อนหน่อย" นั้นคือสิ่งที่ปอลี่พูดกับฉัน ก่อนจะวางสายไป
หลังจากบทสนทนาของฉันกับปอลี่จบลง ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนที่แสนรัก ถึงต้องโทรหาถี่ขนาดนั้น ปัญหาของปอลี่คือหล่อนกับแฟนผู้ชายของหล่อนมักจะทะเลาะกัน เเละบอกเลิกกันอยู่เสมอ ถึงแม้บางทีปอลี่จะดูชื่นชอบผู้ชายคนอื่นไปทั่ว แต่หล่อนก็ยังรักเเฟนหนุ่มของหล่อนตลอดเวลา
"เฮ้อ...ความรักบางทีมันก็ยากเหมือนกันเนอะ" ฉันบ่นกับตัวเอง
ฉันเปิดประตูออกจากห้องพัก เพื่อจะไปหาปอลี่ แต่แล้วประตูของคนข้างห้องก็ได้เปิดขึ้นเช่นกัน
เขาคนนั้น หันมาหน้ามาทางฉัน โดยบังเอิญ ก่อนจะยิ้มให้ฉันเล็กน้อย ตอนนี้เขาอยู่ในชุดกางเกงยีนที่ขากางเกงมีรอยขาดเล็กหน่อย เสื้อตัวยาวที่ใส่ พร้อมกับรองเท้ากีฬาสีสดใสทำให้ฉันนึกถึง มาร์คคึ รวมถึงสไตล์การเซตผมของเขา และรอยยิ้มที่ละมุนมากมาย นั้นชวนให้ฉันนึกชอบเขาขึ้นมา ก่อนที่เขาจะหันหลังเเละก้าวเดินลงบันไดไป ฉันมองเห็นหลังของเขาที่ค่อย ๆ จากฉันไป เขาจะไปไหนนะ ?
ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปขึ้นรถเพื่อออกไปหาปอลี่นั้น เสียงทุ่มต่ำของใครบางคนก็ลอยเข้ามาในโสตประสาทของฉัน ราวกับว่าเขาต้องการจะบอกบางอย่างผ่านการพูดคุยที่ฉันบังเอิญได้ฟัง
"เอ่อน่า...กูกำลังจะออกไปเนี่ย ทันแน่กว่าจะเล่นก็อีกตั้งนาน"
"เคๆ กูกำลังจะไป เจอกันที่งานนะ" ต้นเสียงกำลังพูดอยู่ข้างหลังของฉัน ฉันรู้สึกได้ หรือบางทีเขาอาจจะบอกฉันเป็นนัยแล้วในสิ่งที่เขากำลังจะทำในอนาคต ฉันควรทำยังไงกับเป้าหมายในวันนี้
---------------------------------------
รถมอเตอร์ไซต์จอดที่หน้าหอพักของปอลี่ ไอโฟน 5C ของฉันได้รับข้อความเตือนมากมาย เนื่องจากปอลี่พยายามติดต่อมาหาฉัน
"ถึงแล้วมาเปิดประตูหน่อย" ฉันพิมพ์ข้อความตอบกลับปอลี่ในช่องเเชท
สรุปวันนี้เพื่อนรักของฉันต้องมาก่อนผู้ชายสินะ
ขณะความคิดฉันกำลังโลดเเล่นอยู่นั้น ปอลี่ก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับเสื้อผ้า หน้าผม ที่ครบชุด ดูไม่ออกเลยว่า หล่อนเพิ่งจะอกหัก หรือทะเลาะกับแฟนแต่อย่างใด
"นัท...เราไปงานดาวเดือนกันเถอะ" ปอลี่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ต่างจากปกติ
"เดียวนะ...คือไหนว่าอกหัก จะไปงานได้หรอ" ฉันตอบทันทีด้วยท่าทีสงสัย "ไหวป่ะเนี่ย หรือว่าโกหก"
"ไม่ได้โกหก อกหักจริงเว้ย แต่มึงจะให้กูร้องไห้ทำไมว่ะ มันเศร้าก็จริง แต่ควรจะมีวิธีอื่นนิ...มึงเป็นเพื่อนกูไม่อยากให้กูสบายใจหรอ" ปอลี่ตอบกลับเหมือนซ้อมบทพูดไว้แล้ว ซึ่งฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธ เอาเถอะ!! ถึงจะไม่ชอบงานแบบนี้ แต่ครั้งนี้ยกให้หล่อนสักครั้ง
-------------------------------
"ไอ้มาร์ค...มึงมาสายนะเนี่ย แล้วจะซ้อมยังไงให้ทันว่ะ"
"เอาน่ะ กูมั่นใจในเสียงของตัวเอง 5555" ชายที่ถูกเรียกว่ามาร์ค ตอบกลับทันที
น้องคนนั้น...ยัยเด็กนั้น จะมางานแบบนี้ไหม ท่าทางที่ดูไม่ค่อยปกติ กับรอยยิ้มที่ไม่เหมือนคนอื่น เธอจะเข้าใจที่เขาต้องการจะบอกหรือเปล่า
บ้าไปแล้ว...นี่มึงกำลังคิดถึงใคร เขาบ่นกับตัวเองและมองไปที่เครื่องดนตรีที่เพื่อนร่วมวงกำลังเช็คก่อนขึ้นแสดงในคืนนี้ เพลงที่วงของเขาจะทำการแสดงคือ เพลงใกล้แค่ไหนคือใกล้ คุกเข่า และ เวลา นั้นคือสาเหตุที่เขาต้องร้องเพลงเหล่านี้ทุกวัน ลั่นห้อง ซึ่งเขาก็อยากจะขอโทษห้องข้าง ๆ บางเหมือนกัน บางทีเขาอาจจะไม่ได้ร้องเพลงเพราะแต่อย่างใด เพียงแต่เขาอยากแน่ใจว่าเขาร้องเพลงได้ในทุกสถานการณ์เท่านั้น
------------------------------------------------------
"มึงรู้อะไรไหม" ปอลี่ถามขึ้นขณะนั่งซ้อมรถมอเตอร์ไซต์
"อะไรล่ะ " ฉันตอบกลับทันที
"ก่อนที่กูจะชอบผู้ชาย กูอกหักจากผู้หญิงคนหนึ่งมานะเว้ย" ปอลี่พูด แล้วก็เอาหัวมาซบที่หลังของฉัน
"อืมม ก็พอจะรู้ล่ะ ผู้ชายที่เปลี่ยนไปชอบเพศด้วยกันก็น่าจะมาจากผู้หญิงบ้างล่ะ" ฉันตอบ
"เสียดายนะ มึงไม่สวย โลกส่วนตัวสูงไปหน่อย ไม่งั้นกูอาจจะเปลี่ยนใจ" ปอลี่พูดขึ้นอีก
"งั้นกูก็โชคดีแล้วล่ะ ที่ไม่สวยและไม่ใช่สเปกมึง 555" ฉันตอบกลับ และได้ยินเสียงหัวเราะของปอลี่เบา ๆ อย่างน้อยหล่อนก็ยิ้มบาง ๆ ได้บ้าง
หลังจากที่งานดาวเดือนเริ่มไปสักพักแล้ว ฉันกับปอลี่ก็เพิ่งเข้ามาถึงที่งาน เด็กปีหนึ่งจำนวนมากที่มาเชียร์เพื่อนของตนเอง ส่วนใหญ่ถึงแม้ว่าจะเป็นปีหนึ่งเหมือนกับคนอื่น ก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับงานประเภทนี้สักเท่าไหร่ งานดำเนินไปเรื่อย ๆ ในความคิดของฉัน งานนี้น่าเบื่อกว่าการไปนั่งรอเข้าคอนเสิร์ตของบรรดาโอปป้าเสียอีก รวมทั้งปอลี่ที่พยายามทำตนเองราวกับว่ามีความสุขมากที่สุด เพื่อปกปิดความเศร้าของตนเอง
"เดือนปีนี้ ไรวินร์มาแรงว่ะ เพื่อนเราโคตรหล่อเลยเนอะ" ปอลี่พูดขึ้น
"อืมม หล่อหรอ" ฉันตอบ
"หล่อดิ เห็นในจอโปรเจกเตอร์ไหม ดูดีจะตาย" ปอลี่ยังอวยต่อเนื่อง
"ไม่หรอก หล่อนะ ต้องเเบบมาร์ค" ฉันตอบพร้อมยิ้มอ่อนให้
"แต้ม เเต้ม ทางนี้" ปอลี่พูดขึ้นพร้อมกวักมือเรียกเพื่อนอีกคนให้เข้ามา
"หาตั้งนาน คนเยอะเนอะ" เเต้มพูดขึ้น พร้อมกับเดินตรงมาหยุดต่อหน้าฉันและปอลี่
แต้มเป็นเพื่อนของฉันที่อยู่กลุ่มเดียวกันตอนรับน้อง เธอเรียนคนละสาขากับฉันและปอลี่ แต่เธอก็มักจะมากินข้าวกลางวันกับฉันเสมอ เพราะเธอยังต้องปรับตัวกับเพื่อน ๆ ในสาขาของเธออยู่ เเต้มชอบหมอรุ่นเดียวกันอยู่คนหนึ่ง เพราะมาจากโรงเรียนเดียวกันกับเธอ ดังนั้นงานดาวเดือนแบบนี้จึงไม่แปลกที่จะเจอเธอมาร่วมงานด้วย เพราะเธอก็คงคาดหวังว่าจะเจอหมอคนนั้นอยู่บ้าง
"ใช่ๆ คนเยอะสิ" ฉันตอบกลับ
"เสร็จงานนี้ไปกินข้าวต้มต่อนะ ท่าทางจะดึก" แต้มชวนทันที
"ได้ๆ " ปอลี่ตอบกลับแทน
"ต่อไปถึงวงหมอฟันร้องเพลงเเล้วนะ ...ไปยืนอยู่ข้างหน้ากัน" แต้มพูดขึ้นพร้อมกับดึงมือฉันให้เดินตามไปตรงหน้าเวที "วงนี้นะ นักร้องนำไม่ค่อยหล่อนะ อยากให้ดูมือกลอง" แต้มยังคงพูดเรื่อย ๆ
เสียงไฟสีม่วง ๆ อมชมพูทำให้บรรยากาศหน้าเวทีมีแสงค่อนข้างสลัวฉันว่าคงไม่ใช่วงที่มีเพลงเพราะสักเท่าไหร่ แต่เมื่อแสงไฟเปิดขึ้นอีกครั้ง ภาพของชายข้างห้องก็ปรากฏขึ้น เขาทักทายผู้ชมด้วยสายตา ท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ไม่เขินอายใด ๆ ดวงตากลมโตที่ต่างจากที่ฉันเคยเห็นทำให้เขายิ่งดูดีมากขึ้น เพราะอะไร...ทำไมเขาจึงมีแสงออกมารอบตัว วินาทีนั้น เพลงที่เขาร้องฉันไม่รู้หรอกว่าเป็นเพลงอะไร แต่ฉันรู้แล้วว่า เขาคือคนที่ทำให้ฉันหัวใจเต้นแรง ความใกล้จนจะติดหน้าเวทีกลายเป็นความไกลที่ฉันเพิ่งเข้าใจก็วันนี้
บนเวที...สายตาของผู้คนมากมายจับจ้องไปที่เขา แน่นอนว่าหน้าที่นักร้องนำทำให้เขาไม่สามารถเผยความเขินอายใด ๆ ได้ เขาต้องทำหน้าที่นักร้องให้ดี การทักทายผู้ชมเป็นเรื่องพื้นฐานที่เขาต้องทำ เเล้วสายตาของเขาก็กวาดไปเจอกับดวงตาเป็นประกายของใครคนหนึ่งซึ่งเขารู้สึกคุ้นเคย และเหมือนว่าเธอจะมองมาที่เขาเพียงคนเดียวเสียด้วย
เธอโดดเด่นอยู่ตรงนั้น...ท่ามกลางผู้คนมากมาย เธอมางานนี้ด้วยหรอ แม่สาวน้อย
----------------------------------------------------------------
00.24 น. คือเวลาสิ้นสุดของงานดาวเดือนเฟรชชี่
ผลการคัดเลือกของเป็นไปตามที่ปอลี่ แม่หมอพยากรณ์ว่าไว้
เดือน คือไรวินร์ เพื่อนร่วมชั้นปี ร่วมสาขา ร่วมคณะ
ส่วนดาว คือเเพรว เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่อยู่คณะเภสัช
ส่วนฉัน โดนัท เพื่อนปอลี่ และเเต้ม ก็ยังคงครองตำแหน่งผู้หิวโหยจากการร่วมงาน
"ไปกินข้าวต้นเถอะ" เเต้มพูดขึ้นทันทีหลังจากงานเสร็จ
"ไปดิ ร้านเจ๊ดี๊ดี" ปอลี่เลือกร้านเองเสร็จสรรพ
"งั้นเจอกันที่ร้านเลยนะ" แต้มตอบ ก่อนจะบิดมอเตอร์ไซต์นำไปก่อน
ระหว่างที่ขับรถมาจนถึงร้านข้าวต้มเจ๊ดี๊ดี ฉันได้ยินเสียงปอลี่ พูดอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญเลย เพราะสิ่งที่หล่อนพูดก็มีแค่เรื่องเดือนคนใหม่ที่หล่อนชื่นชมมาตั้งเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว
"ถึงล่ะ ลงค่ะ" ฉันจอดรถมอเตอร์ไซต์แล้วรีบไล่ให้ปอลี่ลงไป บางทีฉันก็รำคาญเพื่อนคนนี้ขึ้นมา
"สั่งอะไรดี ต้มหมูไหม ก๋วยจั๊บ หรืออะไร" แต้มถามขึ้นหลังจากเราทั้งคู่นั่งเรียบร้อยแล้ว
"มาม่าผสมโจ๊กนะ" ปอลี่บอก
"มาม่าแค่นั้น" ฉันตอบ
"ทำไมไม่ต้มกินที่หอย่ะ" แต้มย้อนถามฉัน
"อ้าว ก็อยากกินนิ" ฉันตอบ แต้มเขียนเมนูที่อยากกินลงไปในกระดาษแล้วก็เอาไปส่งเจ๊ดี๊ดี ที่กำลังจัดเตรียมของเสิร์ฟโต๊ะอื่นอยู่
"สนุกดีเนอะ ฉันว่าล่ะ ไอ้วินมาแน่" แต้มพูดขึ้น
"ฉันเดาไว้แล้วว่าต้องเป็นฮี ไม่มีผิดแน่นอน" ปอลี่ กับเเต้มยังพูดคุยกันต่อไปไม่หยุด ทันใดนั้นฉันรู้สึกว่า หูของฉันกับให้ความสนใจกับเสียงของใครบางคนมากกว่า
"เอามาม่า" เสียงผู้ชายคนหนึ่งร้องขึ้นมาแต่ไกลจากด้านหลังของฉัน
"แค่มาม่า มึงไปต้มกินเองที่หอไหม" เสียงชายอีกคนทำท่าจะร้องค้าน
"ก็กูจะกิน สั่งเลยพิเศษด้วย" เสียงชายคนหนึ่งตอบกลับ
จนฉันอดไม่ได้ที่จะพยายามหันหลังกลับไปมองยังต้นเสียงนั้้น และเเล้วฉันก็คิดถูก เขาคือชายข้างห้องคนนั้นจริง ๆ เขาคือคนเดียวกับที่ร้องเพลงบนเวทีเมื่อสองชั่วโมงก่อน และตอนนี้เขาก็กำลังนั่งอยู่ในร้านข้าวต้มเช่นเดียวกับฉัน แต้มเอามือมาสะกิดที่มือฉัน ก่อนจะพูดขึ้นว่า
"นักร้องนำวงหมอฟัน สั่งเหมือนแกเลย โดนัท 5555" แต้มพูดขึ้น ก่อนจะหัวเราะออกมา
"อืม..." ฉันตอบได้เท่านั้น
"ลุกขึ้นไปเอาน้ำดิแก ...นั่งริมสุดล่ะ ลุกง่ายก็ลุกสิ" แต้มพูดต่อ
"โอเค" ฉันพูดพลางลุกขึ้นไปตักน้ำมาบริการเพื่อน
จุดน้ำดื่มที่ต้องบริการตัวเองอยู่หน้าร้าน ฉันกำลังต่อคิวถัดจากชายอีกคนที่ตักน้ำอยู่ และรู้สึกเหมือนมีใครบางคนเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างขวามือของฉัน เขาพูดขึ้นด้วยท่าทีสุภาพ "กินดึกเหมือนกันนะ...งานเลิกดึกก็อย่างนี้ล่ะ หิวเลย"
ฉันนิ่งไปชั่วขณะ วินาทีนั้นฉันต้องทำยังไงดี ราวกับว่าเขากำลังกระซิบข้างหูฉัน ฉันรู้คิดว่าตนเองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเล็กน้อย ก่อนจะมีเสียงของชายอีกคนตะโกนขึ้นมา
"มาร์ค...เอามาสองแก้วนะเว้ย" เสียงชายที่ร่วมโต๊ะของเขาพูดขึ้น
"โอเค" ชายคนที่ยืนอยู่ข้างฉันตอบกลับ
มาร์คหรอ...ชื่อของชายคนนี้ คือมาร์คสินะ ใช่เเล้ว ฉันแน่ใจว่าเขาคือมาร์คที่อยู่ในชีวิตจริง และกำลังยืนอยู่ตข้างฉันในตอนนี้
"ตักน้ำเถอะ รอนานล่ะ" เขาพูดด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มพลางชี้ไปที่แก้วน้ำ และกระติกน้ำที่อยู่ตรงหน้าฉันที่ไร้คนตักน้ำแล้ว เหลือแค่ฉันกับเขาสองคน
"ค่ะ" ฉันก้มหน้าตักน้ำโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากนี้ และกว่าจะรู้ตัวก็ตักน้ำไปมากกว่าจำนวนของเพื่อนตนเองแล้ว
"มากันหลายคนหรอครับ" เขาถามขึ้น
"ค่ะ" ฉันมองหน้าเขาเเล้วพูดขึ้น
"มาหลายคนเนี่ย ไม่มีคนช่วยหรอ" เขาถามอีก
"ค่ะ..สามคนค่ะ" ฉันตอบกลับ
"งั้นเกินแล้วล่ะ" เขาพูดก่อนจะยิ้มให้ฉันอีกครั้ง ฉันหันหน้าไปมองแก้วน้ำที่เป็นจำนวนกว่า 10 แก้วที่วางเรียงอยู่ และรู้แต่เพียงว่า ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันต้องทำยังไง ?? ใครก็ได้บอกฉันที
"งั้นทีเกินมาพวกพี่ขอนะ...ขอบคุณครับ" เขายิ้มเล็กน้อย ภาพของเขาช่างน่ารัก โอปป้าฉันคิดว่าฉันกำลังตกหลุกมรัก!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น