คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : จุดเริ่มต้นกับคนหน้าประตู้
บทนำ
ฉันกำลังเดินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางถนนที่เต็มไปด้วยหิมะแรกอันขาวสะอาด ฉันหันหน้ามองไปยังที่เจย์โอปป้า ผู้ชายที่ฉันหลงรักมานานเจ็ดปี เขาจับมือฉันแน่นมาก ตาของเขาเล็ก กล้ามของเขาเห็นเด่นชัด รอยสักของเขาช่างดูเซ็กซี่ ออมม่า!! นี่ฉันกำลังออกเดทกับชายหนุ่มที่ฉันรักหรอนี่ ไอกูๆ ฉันมีความสุขจังเลย โอปป้าหอมฉันสิ หอมฉันได้โปรด...
“ แหม่ มานอนด้วยหลายวัน ก็ยังไม่เปลี่ยนนะ นอนยิ้มใหญ่เชียว” เสียงพูดใครบางคน ครั้งที่ 1
“ มันคงไม่ตื่นอ่ะแม่...มาดูนะ ลูกสาวแม่ มันบ้าไปแล้ว” เสียงพูดใครคนหนึ่ง ครั้งที่ 2
“ ยังอีก แหม่ๆ มันกะว่าจะนอนให้ลืมว่ามีโลกแห่งความจริงเลยหรอ” เสียงคนเดิม ครั้งที่ 3
“ ถ้าไม่ตื่นรอบนี้ ฉันจะเอาน้ำสาดเลยจ้า” เสียคล้ายคนเดิมดังขึ้นใน ครั้งที่ 4
ฉันค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น เพื่อพบกับใบหน้านางยักษ์ ที่ยืนจ้องฉันตาเขียวอยู่ข้างๆ นี่เธอรู้หรือไม่ ว่ากำลังทำร้ายเดทในฝันของฉันกับเจย์โอปป้า ชายหนุ่มที่ฉันหลงรักผ่านโปสเตอร์มาเกือบ 7 ปี
“ กี่โมงแล้ว อิหมู” คำถามแรกที่ฉันถามผู้หญิงคนนี้ทันที ที่ตั้งสติได้
“สิบเอ็ดโมงแล้วย่ะ ถ้าสมมุติว่าฉันไม่กลับหอ แกจะไม่ตื่นเลยใช่ป่ะ ไปอาบน้ำ ฉันหิวข้าว” เจ๊ซิตต้าพี่สาวฝีปากกล้าของฉันตอบกลับ สีหน้าท่าทางอารมณ์ไม่ค่อยดีหนัก บ่งบอกถึงความเครียดจากการสอบปลายภาค หรืออาจจะด้วยอากาศที่เจ๊ไม่ค่อยชอบ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นฉันไม่ค่อยใส่ใจเท่าใดนัก
ฉันลุกขึ้นจากตื่นแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อทำภารกิจส่วนตัวเป็นการใหญ่ ความฝันหรอ ที่เดินจับมือ หอมแก้มโอปป้า คือความฝันหรอ เฮ้อ!! เจ๊ทำไมชอบทำร้ายความฝันฉันอยู่ตลอดเวลา นานทีฉันจะฝันเห็นโอปป้ามาหอมแก้ม มาออกเดท เดินช้อปปิ้งสักที
“เร็ว ๆ ก็บอกอยู่ว่าหิว หิว หิว มันจะชักช้าอะไรหนักหนาว่ะ” เสียงเจ๊ลอยเข้าโสตประสาทอีกคราถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ในห้องน้ำก็ตามเสียงเธอก็ยังชัดเจน “ฉันขีดคิ้วจนหางยาวถึงดาวพลูโตล่ะนิ” เจ๊พูดต่อน้ำเสียงเรียบเฉย
“เสร็จแล้วๆ อะไร? จะเร่งอะไรหนักหนา เจ๊นะ นางมารร้าย รู้ตัวป่าว” ฉันเปิดประตู พร้อมกับก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำ และพยายามรีบแต่งตัวให้เรียบร้อยโดยเร็ว
“นางมาร? มารอะไร? ฉันหรอ?” เจ๊พูดต่อ พลางหรี่ตาข้างหนึ่ง มือข้างหนึ่งของเจ๊ค่อยๆ กรีดอายไลเนอร์คมเฉียบไปที่ดวงตาข้างขวา
“ ก็ฉันกำลังมีความสุขกับความฝันของฉันนี่ เจ๊คือคนที่เข้ามาทำร้าย” ฉันพูดพลางมัดผมกล่าวเป็นม้วยไว้ตรงกลาง หรือที่เรียกว่าทำโดนัท “ว่าแต่ ทำไมเจ๊สอบเสร็จเร็วจังอ่ะ ข้อสอบง่ายหรอ?”
“ ก็พอทำได้อยู่ อย่าลืมสิ นี่คือซิตต้าพลังเป๊ะ ฉันทำได้ย่ะ เรื่องเขียนเยอะเนี่ย งานถนัดฉัน” เจ๊พูดต่อ น้ำเสียงสูงนิด ตามแบบฉบับของเจ๊ พร้อมกับการบรรจงกรีดอายไลน์เนอร์กับเปลือกตาข้างซ้ายอย่างคมเฉียบ
“ นั่นสิเนอะ เจ๊เรียนในสิ่งที่เจ๊อยากเรียนนิเนอะ เจ๊ๆ ถ้าฉันสอบได้ที่มอเดียวกับเจ๊เนี่ย มันคงจะดีมากเลยเนาะ” ฉันพูดต่อ
“ ก็ดี...ฉันจะได้มีเพื่อน แต่ขอเลยนะ โปสเตอร์หนุ่มเกาหลีของแกเนี่ย อย่าเอามาติดในห้องฉันนะ ขี้เกียจแกะออกตอนจบ 555” เจ๊พูดพลางทาลิปติกเป็นอันจบภารกิจการแต่งหน้าของเจ๊แก
หลังจากที่ฉันแต่งตัวเสร็จก่อนเจ๊(ทั้ง ๆ ที่เพิ่งตื่นเพิ่งอาบน้ำ) ฉันก็ได้แต่นั่งรอเจ๊ต่อไป เพราะนอกจากเจ๊ซิตต้าจะเยอะตั้งแต่การแต่งหน้าแล้ว เรื่องเสื้อผ้าก็ไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะถึงเจ๊จะอยู่ในชุดนักศึกษาในตอนแรก แต่ถ้าได้กลับมาเปลี่ยนแล้ว ก็จะต้องจัดเต็มทุกที ฉันมาพักกับเจ๊ซิตต้าพี่สาวแท้ๆ เมื่อสองวันก่อนเพราะต้องมาสอบสัมภาษณ์ และพบว่าความจริงพี่สาวของฉันคนนี้ นางจัดเต็มกับทุกสิ่งอย่าง ดังที่นางเคยบอกแม่ไว้จริงๆ ‘ถ้าไม่เป๊ะนะแม่ ซิตไม่ออกจากบ้าน อย่างน้อยขอคิ้วล่ะ’
ระหว่างรอเจ๊ เฟสบุ๊คก็แจ้งเตือนเรื่องหนุ่มๆ วงทูพีเอ็มที่กำลังจะจัดคอนเสิร์ตในประเทศไทยสัปดาห์หน้า “ แฟนๆชาวไทยครับ พวกเราคิดถึงคุณ” ด้งน้อยของฉันน่ารักจริงๆ ดูคำพูดของนายสิ และเพราะคลิปวิดีโอนี้ ก็ทำให้ฉันต้องขอตัวลงมานั่งเล่น Wifi ใต้หอพัก เพื่อการชมคลิปความยาว 2 นาทีให้มีอัตถรสยิ่งขึ้น (ทุ่มเทขนาดนั้น)
ขณะนั้นรอเจ๊ซิตต้าอยู่ใต้หอก็ทำให้ฉันได้พบกับใครบางคนที่มีลักษณะบางอย่างคล้ายๆ กับอูยองโอปป้า หรือด้งน้อยของคุณนี่ แห่งวงทูพีเอ็ม ผู้ชายคนนั้นค่อยเปิดประตูออกมา แล้วเขาก็เดินผ่านหน้าฉันไป วินาทีนั้น ฉันรู้สึกกำลังตกหลุมรักชายหนุ่มหน้าตี๋คนนี้ไปแล้วถึง 50 เปอร์เซ็น ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ เสียงหัวใจ ออมม่า!!! เขาคือคนธรรมดา ไม่ใช่ไอดอลซุปตาร์แน่หรือ
อาหารกลางวันของฉันคือก๋วยเตี๋ยวไก่ที่เจ๊ซิตต้าชอบทานตลอดสามวันที่ฉันมาอยู่ด้วย เจ๊มักจะบอกตลอดว่า “ฉันว่าเขาใส่กัญชาว่ะ อร่อยเนอะ” สำหรับฉันมันก็ไม่ได้อร่อยมากมายแต่อย่างใด ทว่าวันนี้ก๋วยเตี๋ยวไก่ กับภาพของชายหนุ่มหน้าประตูคนนั้นทำให้มันอร่อยขึ้นมาอย่างประหลาด
“เอ๋อ!! โดนัท เมื่อเช้าฉันตื่นมาทันข่าวลุงยุทธบอกทูพีเอ็มจะมาเรื่องเล่าเช้านี้ ทูพีเอ็มวงนี้ วงสามีแกนิ” เจ๊สนทนาด้วยท่าทางสุภาพ เพราะว่าอยู่ท่ามกลางสาธารณชน
“จริงดิ!! ทำไมเจ๊ไม่ปลุกล่ะ อยากไปคอนจัด ยืมเงินหน่อยดิ เจ๊คนสวย” ฉันเกิดเสียงดังขึ้นมา อย่างบ้าพลัง แต่เมื่อเจอสายตาเจ๊ซิตต้าก็ค่อยๆ เบาลงอย่างรู้ตัว
“แล้วทำไมไม่ไปล่ะ สอบเสร็จแล้วนิ ที่เรียนก็ได้แล้ว” เจ๊ถามต่อหน้าตาเฉย
“อ้าว!! ก็บัตรขายหมดแล้วไง อีกอยากติดสอบโอเน็ตด้วยยังไงม๊าก็ไม่ให้ไป จะร้องไห้” ฉันเว้นวรรคเล็กน้อยเพื่อสะกดน้ำตา และมองหน้าเจ๊ซิตต้าที่กำลังกินก๋วยเตี๋ยวอย่างไม่รู้สึกรู้สา “เจ๊รู้ป่าว ฉันรอคอยให้โอปป้ามาเมืองไทยตั้งนานเท่าไหร่?” ฉันพยายามพูดเพื่อเรียกความสนใจ
“ ไม่อยากรู้อ่ะ โทษที” เจ๊พูดต่อหน้าตาย หน้าก็ยังไม่มอง
“เลือดเย็น!!! เลือดเย็นที่สุด เจ๊ไม่เข้าใจติ่งอย่างเค้าเลย TT” ฉันตะโกนออกมาเสียงดัง จนเจ๊หันมามองหน้าในที่สุด “เจ๊...รู้ไหม เพราะทูพีเอ็มเนี่ยล่ะ เค้าถึงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเจ๊ได้..ดังนั้นเจ๊ต้องอยากรู้ เข้าใจไหม” ฉันพูดออกมาอย่างมั่นใจ ถึงแม้ว่าจะแผ่วปลายก็ตาม
“โอเคๆ อยากรู้ก็ได้ เอาเป็นว่าฉันอยากรู้ อยากเล่าอะไรก็เล่า ไหนเล่าให้ฟังสิ..ถ้างั้น” เจ๊ยอมฟังฉันอีกครั้ง นี่คือนิสัยอย่างหนึ่งของเจ๊ซิตต้าที่ฉันชอบ เพราะเจ๊แกมักจะหยุดฟัง และยอมให้ฉันเสมอ
“ทูพีเอ็มเป็นชื่อบอยแบรนด์ ไอดอลสัตว์ป่าอ่ะ แต่ก่อนมีเจ็ดคน ตอนนี้ก็เจ็ดคนนะ แค่หัวหน้าวงไม่ได้อยู่ในวงเฉยๆ ฉันรอคอยคอนเสิร์ตวงนี้มาสี่ปีแล้วนะ ครั้งแรกฉันพลาดเพราะยังเด็ก ครั้งนี้ฉันพลาดเพราะมีสอบ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ตัวเองรู้ตัวว่าเศร้าสุดแสน พลางส่ายหน้าเบาๆ เจ๊เงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยวสบตาฉันอีกครั้ง ก่อนจะถามต่อว่า
“เดียวนะ อะไรคือเจ็ดคน หมายความว่าไง หัวหน้าวงไม่ได้อยู่ในวง?”
“เมื่อก่อนทูพีเอ็มมีเจ็ดคนไง ก็เจย์ปาร์ค พี่คุณ แทคยอน จุนซู จุนโฮ ชานซอง และอูยอง” ฉันอธิบายต่อพร้อมกับหยิบ Iphone ขึ้นมาเปิดรูปภาพประกอบ “แต่เมื่อสามปีก่อนหน้านี้เกิดเรื่องเข้าใจผิดบางอย่างเจย์โอปป้าเลยออกจากวงไป ฉันนะ ถึงจะคลั่งเจย์มาก แต่ก็ไม่ได้เลือกข้างนะ ฉันรอเจย์และติดตามผลงานเสมอ และระหว่างเจย์ไม่อยู่ ฉันก็มีเมนในวงเป็นจุนซู หรือปู่แดกู คนนี้ล่ะ” ฉันชี้ไปที่รูปของเขาที่เปิดอยู่ ฉันรู้สึกได้ว่าตัวเองมีความสุขที่ได้กล่าวถึงวงที่ตนชื่นชอบ
“เอ๊ะ!! คนที่ถ่ายคู่ซูซูเนี่ย คือใคร? น่ารักดีเนอะ” เจ๊ให้ความสำคัญกับคนข้างปู่แดกูมากกว่า ส่วนฉันเมื่อเห็นคนที่อยู่ข้างปู่แดกูแล้ว กลับกลายเป็นนึกถึงชายหนุ่มหน้าประตูคนนั้นต่างหาก
“ชื่ออะไรหรอ?” เสียงใครบางคน ครั้งที่ 1
“ชื่ออะไร ? ฉันไม่แย่งหรอกน่า ตอบมาดิ” เสียงใครคนเดิม ครั้งที่ 2
“เพลียะ ! ถามว่าชื่ออะไร?” เสียงและอุปกรณ์มือตบ ครั้งที่ 3
“อ่อ!! O_O อูยอง เจ๊...เขาคืออูยอง” ฉันพูดชื่ออูยองพลางนึกในใจว่า อูยองหน้าประตูคนนั้น และพบว่าตนเองต้องอยู่ในภวังค์อีกแล้ว เพราะแม้แต่ฝ่ามือของเจ๊ซิตต้าที่ปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ก็ไม่มีผลแต่อย่างใดกับร่างกายเลยสักนิด...ขอร้องเถอะโอปป้าให้ฉันได้พบกับโอปป้าที่ประตูนั้นอีกครั้ง
|
...อูยองหน้าประตูคนนั้น และพบว่าตนเองต้องอยู่ในภวังค์ อีกแล้ว เพราะแม้แต่ฝ่ามือของเจ๊ซิตต้าที่ปลุกฉันให้ตื่นจากภวังค์ก็ไม่มีผลแต่อย่างใดกับร่างกายเลยสักนิด...ขอร้องเถอะโอปป้าให้ฉันได้พบกับโอปป้าที่ประตูนั้นอีกครั้ง
|
|
ความคิดเห็น