ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8
ตอนที่ 8
“เป็นไงบ้างอิ่มงานแรก” เขาถามขึ้นหลังจากที่สั่งอาหารกันเรียบร้อยแล้วสองสามีภรรยาขอตัวออกไปก่อนเพราะลูกสาวกำลังเดินทางมาคุยเรื่องงานด้วยจึงเหลือเพียงเขาและมนปริยาเท่านั้น
“ก็ดีค่ะ...ตื่นเต้นดี” เธอยิ้มก่อนจะพูด
“ก็ดีนะ คุณจะได้ชินงานด้วยเพราะหลังจากนี้คุณต้องไปกับผมทุกที่”
“เดี๋ยวก็เป็นข่าวหรอกค่ะ เจ้านายหนุ่มไปไหนมาไหนกับสาวน้อยนิรนาม”
“ผมบริสุทธ์ใจนี่นา” เขาบอกเธออย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่ว่าอะไร...” เธอไหวไหล่น้อยๆ
“แค่บอกให้รู้ว่าการที่เจ้านายไปกับลูกน้องสาวน่ะ นักข่าวชอบนักละ”
“เรื่องนั้นผมรู้ถึงไปออกไปกับคุณสาลี่ไงละ”
“แล้ว...การที่ออกมากับอิ่มคิดว่าจะไม่เป็นข่าวเหรอคะ?”
“อาจจะนะ...”
“เป็นงั้นไป”
“อย่าคิดมากเรามาทำงานนะ คนอื่นจะคิดก็เรื่องของเขาซิ”
“ไม่ได้ว่าอยู่แล้วค่ะ อิ่มเป็นคนที่ไม่มีชื่อเสียง ห่วงแต่คุณจินมากกว่าเดี๋ยวสาวๆ หายมหมดอิ่มไม่รู้ด้วยนะ” เธอคิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่ไม่อยากเป็นข่าวเรื่องผู้หญิงเพราะคิดว่าจะทำให้จีบสาวๆ อื่นไม่ติด
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ผมเลิกแล้วเรื่องพวกนั้นน่ะ”
“แหมเชื่อหรอกค่ะ หนุ่มๆ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าตัวเองไม่ได้เจ้าชู้หรอก แต่ก็เห็นแอบมีกิ๊กกันทุกคนแหละ” เธอว่าเขาล้อๆ เพราะพอจะรู้กิตติศัพท์เขามาบ้างเกี่ยวกับสาวๆ ของเขา
“นั่นมันเมื่อก่อนครับอิ่ม ผมไม่เคยคบใครเป็นแฟน แต่ถ้าผมรู้สึกว่าคนนั้นใช่ผมก็จะหยุดอยู่แล้ว” เขาบอกความคิดของเขา
“ตอนนี้เจอเหรอคะคุณจินถึงเลิกเป็นข่าวกับสาวน่ะค่ะ” เพราะเธอได้ยินมาว่าช่วงนี้ชายหนุ่มเก็บตัวเงียบไม่สนใจใครเลย และยังมีข่าวออกมาอีกว่าชายหนุ่มกำลังสนใจสาวบางคนอยู่แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร
“อาหารมาแล้วทานเถอะ”
“แหม กลัวรู้จริงนะคะ” เธอค้อนเขาอย่างหมั่นไส้ บอกหน่อยก็ไม่ได้ เรื่องแค่นี้เอง
“ไม่ได้กลัวครับ แต่เกิดว่าสาวคนนั้นรู้เข้าจะเผ่นก่อนมากกว่าครับ” เขาบอกเธอยิ้มๆ
“งั้นก็ทานเถอะค่ะอิ่มไม่ได้อยากรู้นักหรอกค่ะก็ถามไปงั้น...”
“ครับ...ทานอนนี้ซิครับเขาว่าอร่อยนะครับ”เขาตักปลากะพงทอดน้ำปลาให้เธออย่างเอาใจเมื่อพนักงานนำอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟให้ครบแล้ว
“สั่งมาเยอะจังคะ จะทานหมดเหรอคะ?” เธอบอกเมื่อเห็นอาหารี่ถูกนำมาวางตรงหน้า
“ไม่เยอะหรอกครบ เราสองคนก็หมดครับ”
“มาตั้งหลายครั้งแล้วแต่ผมไม่ทานอาหรที่นี่ซักครั้งเดียวขอทานหน่อยเถอะครับ” เขาบอกอย่างหมายมั่น
“เป็นได้ยังคะไง คงมากับสาวบ่อย แต่ทำไมไม่ได้ทานข้าวที่นี่ละคะ?”
“ส่วนใหญ่ที่มาก็เรื่องงานครับเสร็จก็กลับเลยไม่ได้แวะทานซักทีเจ้าเนมับอกว่าอยากรีบกลับไปเคลียร์งานมากกว่าที่จะนั่งทานข่าวกับผู้ชายน่ะครับ”
“น่าสนใจนะคะคุณผู้ช่วยเนี่ยเขายังไม่มีคนรักเหรอคะถึงตามไปไหนได้ทุกที่อย่างนี้น่ะค่ะ”
“ยังครับก็พอๆ กับผมนั่นละครับ”
“จินนี่! แกจะรีบไปไหนวะ!?” เพื่อนสาวร้องตามหลังสาวสวยที่กำลังจะเดินลงจากตึกเรียนหลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว
“ไปหาอะไรลงท้องน่ะซิหิวจะตายอยู่แล้ว พวกแกนั่นละช้าไม่รู้รึไงว่าหิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวอยู่แล้ว” หันมาบอกเพื่อนๆ หน้าตาย
“อะไรจะขนาดนั้นแกเมื่อเช้าก่อนเข้าเรียนแกก็เพิ่งกินไปไม่ไม่ใช่เหรอ?” ประวีณาสาวหมวยของจิณห์วราเอ่ยขึ้นอย่างนึกได้ว่าเพื่อนทานอาหารก่อนเข้าเรียนไปแล้ว
“นั่นมันกี่ชั่วโมงมาแล้วละ ตอนนี้ฉันหิวถ้าแกไม่หิวก็รออยู่นั่นละ”
“ว่าแต่แกจะไปกินที่ไหนละ?”
“ร้านอาหารไทยที่อยู่ในห้องใกล้ๆ นี้ละ แกจะไปด้วยมั้ยฉันหิว แกละไอ้มิ้มยืนยิ้มอยู่นั่นละ”
“ฉันน่ะไปอยู่แล้ว เหลือแต่แกสองคนนั้นละเถียงกันอยู่ได้” ส่ายหน้าใส่เพื่อนรักทั้งสองคนอย่ารงระอา แม้จะเป็นอย่างนี้แต่พวกเธอสามคนก็รักกันมาก
“เออ...ปล่อยไอ้วีมันไปเถอะมันคงไม่หิว” เดินเข้ามาจับมือของวีรินทร์ให้เดินไปที่รถมินิคันเล็กสีชมพูน่ารักที่พี่ชายซื้อให้ตอนที่สอบติดจอดอยู่
“เฮ้ย! ได้ไงรอฉันก่อนซิวะ ฉันก็หิว ไอ้จินนี่ ไอ้มิ้ม!” วิ่งตามเพื่อนสาวทั้งสิงคนที่รีบเดินหนีเธออย่างร้อนใจกลัวว่าทั้งสองจะทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียว
“เรื่องมากมาแต่ทีแรกก็จบแล้ว จะค้านฉันทำไมวะไอ้วี” หันไปว่าเพื่อนหลังจากอยู่ในรถคันเล็กกันแล้ว
“ฉันไม่ได้ค้านแค่สงสัยว่าทำไมแกกินเยอะอย่างนี้ พี่แกเลี้ยงไหวเหรอวะ?”
“พี่ชายเขาเลี้ยงฉันไหวอยู่แล้วละ แกไม่ต้องห่วงฉันหรอก เขากลัวว่าฉันจะไม่ยอทานอะไรเลยมากกว่า” บอกอยางมีความสุขเวลาที่เอ่ยถึงพี่ชายที่เป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
“ไม่ต้องยิ้มอย่างนั้นก็ได้ไอ้จินนี่ คนอื่นเขาไม่รู้เขาจะคิดว่าแกพูดถึงแฟนอยู่” ค่อนอย่างหมั่นไส้ ก็รู้อยู่หรอกว่าพี่ชายมันหล่อ แต่มันอิจฉานี่นา
“ช่วยไม่ได้เว้ย ก็พี่ชายเขาใจดีนี่นา” ทั้งสามสาวกินลงรถหลังจากที่จอดรถในชั้นใต้ดินของห้างสรพพสินค้าแล้วทั้งสามมุ่งไปที่ชั้นสามที่มีรานอาหารเจ้าประจำตั้งอยู่ พวกเธอมาทานบ่อยจนได้รับส่วนลดจากทางร้านแล้วเพราะพนักงานทุกคนจำพวกเธอได้ หากวันไหนที่มาแล้วขาดไปคนใดคนหนึ่งละก็ต้องมีการถามหากันเชียวละ
“อ้าว..วันนี้เรียนเสร็จแล้วเหรอคะถึงมากันได้” พนักงานทักอย่างคุ้นเคยเมื่อเห็นสามสาวเดินตรงมาที่ร้าน
“คะ เพิ่งเรียนเสร็จแล้วก็หิวมากๆ ด้วยมีโต๊ะว่างมั้ยคะ”
“ว่างจ้ะเข้าไปเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ว้าว! ที่ดีด้วยละแกเห็นข้างนอกด้วยว่าแต่จะเอาอะไรบ้างละวีรินทร์หันมาถามเรียบๆ เมื่อเปิดเมนูอาหารมาอ่าน
“เอากุ้งอบวุ้นเส้น/กุ้งอบวุ้นเส้น” ทั้งประวีณาและจิณห์วราต่างบอกอย่างพร้อมเพรียงกัน
“เหมือนเดิมเลยนะพวกแกนี่มาทีไรสั่งทุกที”
“ช่างฉันเถอะ/ฉันชอบนี่นา”
“เอาเถอะงั้นฉันสั่งเองละกัน เอายำปลาช่อน หลนกุ้งสด ต้มยำทะเล กุ้งอบวุ้นเส้น ขอข้าวโถนึงด้วยค่ะ พี่คะ..ขอเร็วๆ หน่อยนะคะพวกเราหิวมากๆ เลย” บอกด้วยสีหน้าละห้อยซึ่งก็เป้ฯย่างนี้ทุกครั้งที่มาน ที่พวกเธอทั้งสามชอบมาทานอาหารที่ร้านนี้เพราะนอกจากบรรยากาศที่เป็นกันเองแล้ว ที่นี่อาหารราคาไม่แพงมาก
“ได้จ้ะ แต่รอหน่อยนะพี่จะบอกพ่อครัวให้แล้วกัน” บอกก่อนจะเดินเอาเมนูที่สั่งเข้าไปในครัว
“ไงจ้ะสามสาววันนี้ว่างเหรอมาทานที่นี่ได้น่ะ” อรไพลินเจ้าของร้านเดินออกมาทักทั้งสามคนอย่างคุ้นเคย ก็เธอเป็นเพื่อนกับพี่ชายของจิณห์วรานี่นา
อรไพลินเป็นสาวผิวสีน้ำผึ้งรูปรางสูงโปร่งเป็นคนที่ยิ้มสวยจัดได้ว่าเป็นคนสวยคนหนึ่งเลยก็ว่าได้เธอเป็นเพื่อนรักของจิณณ์วัตรตั้งแต่เรียนที่บอสตันแล้ว หลังจากกลับจากเรียนเธอก็เปิดร้านอาหารที่นี่ โดยได้รับการแนะนำปากต่อไปเกี่ยวกับรายการอาหารและราคาไม่แพงที่นี่จึงเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักศึกษาและคนทำงาน
“ค่ะพี่ไพลิน พี่ชายแวะมาบ้างมั้ยคะ”
“อืม..ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเท่าไรนะ”
“เหรอคะ”
“เป็นไงคะช่วงนี้ขายดีมั้ยคะ?”
“ก็เรื่อยๆ แหละ หายไปนานเชียวช่วงนี้”
“อ๋อ...พวกเรารายงานเยอะค่ะเลยไม่ค่อยได้มากัน คิดถึงละซี้...” เธอมองหน้าพี่สาวอย่างทะเล้น
“ก็เหงานะไม่มีใครมาส่งเสียงดังน่ะ” บอกยิ้มๆ อย่างเอ็นดูทั้งสามคน
"เฮ้ย! จินนี่! นั่นพี่แกไม่ใช่เหรอ!?” ประวีณาร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ก็เห็นพี่ชายเพื่อนที่กำลังพูดถึงเดินอยู่ที่ห้างนี้ และไม้ได้เดินคนเดียวเสียด้วย เมื่อกี้เธอกำลังมองออกนอกร้านเพื่อนดูคนเดินอยู่ก็เห็นเข้า
“ไหนๆ ...แกเห็นจริงรึเปล่าน่ะไอ้วี...”
“แน่ซิวะฉันจำไม่พลาดหรอกแก นั่นไง” ชี้ให้เพื่อนทั้งสามคนมองด้านหลังชายหนุ่มกับหญิงสาวร่างเล็กที่เธอไม่ทันเห็นหน้าว่าเป็นใคร
“จินนี่นั่นแกจะไปไหนน่ะ” วีรินทร์ร้องตามหลังเพื่อนไปเมื่อเห็นว่าเธอวิ่งออกไปนอกร้านแล้ว และตามพี่ชายเธอไปติดๆ
“พี่จิน!”
“อ้าว?...จินนี่มาทำอะไรแถวนี้วันนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ?” เขาหันมาตามเสียงเรียกและก็เป็นน้องสาวของเขาที่วิ่งมาในชุดนักศึกษา
“มาทานข้าวกับเพื่อนๆ ที่ร้านพี่ไพลินค่ะ พี่จินละคะมาทำอะไร?” เธอมองไปที่หญิงสาวที่มาด้วยก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นหน้าเธอคนนั้นชัดๆ
“พอดีว่ามาเดินย่อยน่ะ” บอกพร้อมกับทำสัญญาณให้น้องสาวอย่างเพิ่งพูดอะไรตอนนี้
“เหรอคะ ไปที่ร้านพี่ไพลินมั้ยคะ” เธอจำต้องเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน ไม่งั้นเธอจะไมรู้เรื่องอะไรเลย รอถามที่บ้านก็ได้ ยังไงก็หนีไม่รอดหรอกเธอเห็นแล้วว่าคนคนนี้เป็นใครแต่เพียงไม่รู้ชื่อเท่านั้นเอง
“ไปร้านก่อนนะอิ่ม” หันมาบอกหญิงสาวที่เงียบอยู่นานอย่างให้เกียรติ
“ค่ะไม่มีปัญหาอยู่แล้วยังไงก็ไม่โดนไล่ออกเพราะเจ้านายพาอู้นี่คะ” เธอบอกติดตลก
“เป็นไงบ้างอิ่มงานแรก” เขาถามขึ้นหลังจากที่สั่งอาหารกันเรียบร้อยแล้วสองสามีภรรยาขอตัวออกไปก่อนเพราะลูกสาวกำลังเดินทางมาคุยเรื่องงานด้วยจึงเหลือเพียงเขาและมนปริยาเท่านั้น
“ก็ดีค่ะ...ตื่นเต้นดี” เธอยิ้มก่อนจะพูด
“ก็ดีนะ คุณจะได้ชินงานด้วยเพราะหลังจากนี้คุณต้องไปกับผมทุกที่”
“เดี๋ยวก็เป็นข่าวหรอกค่ะ เจ้านายหนุ่มไปไหนมาไหนกับสาวน้อยนิรนาม”
“ผมบริสุทธ์ใจนี่นา” เขาบอกเธออย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่ว่าอะไร...” เธอไหวไหล่น้อยๆ
“แค่บอกให้รู้ว่าการที่เจ้านายไปกับลูกน้องสาวน่ะ นักข่าวชอบนักละ”
“เรื่องนั้นผมรู้ถึงไปออกไปกับคุณสาลี่ไงละ”
“แล้ว...การที่ออกมากับอิ่มคิดว่าจะไม่เป็นข่าวเหรอคะ?”
“อาจจะนะ...”
“เป็นงั้นไป”
“อย่าคิดมากเรามาทำงานนะ คนอื่นจะคิดก็เรื่องของเขาซิ”
“ไม่ได้ว่าอยู่แล้วค่ะ อิ่มเป็นคนที่ไม่มีชื่อเสียง ห่วงแต่คุณจินมากกว่าเดี๋ยวสาวๆ หายมหมดอิ่มไม่รู้ด้วยนะ” เธอคิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่ไม่อยากเป็นข่าวเรื่องผู้หญิงเพราะคิดว่าจะทำให้จีบสาวๆ อื่นไม่ติด
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ผมเลิกแล้วเรื่องพวกนั้นน่ะ”
“แหมเชื่อหรอกค่ะ หนุ่มๆ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าตัวเองไม่ได้เจ้าชู้หรอก แต่ก็เห็นแอบมีกิ๊กกันทุกคนแหละ” เธอว่าเขาล้อๆ เพราะพอจะรู้กิตติศัพท์เขามาบ้างเกี่ยวกับสาวๆ ของเขา
“นั่นมันเมื่อก่อนครับอิ่ม ผมไม่เคยคบใครเป็นแฟน แต่ถ้าผมรู้สึกว่าคนนั้นใช่ผมก็จะหยุดอยู่แล้ว” เขาบอกความคิดของเขา
“ตอนนี้เจอเหรอคะคุณจินถึงเลิกเป็นข่าวกับสาวน่ะค่ะ” เพราะเธอได้ยินมาว่าช่วงนี้ชายหนุ่มเก็บตัวเงียบไม่สนใจใครเลย และยังมีข่าวออกมาอีกว่าชายหนุ่มกำลังสนใจสาวบางคนอยู่แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร
“อาหารมาแล้วทานเถอะ”
“แหม กลัวรู้จริงนะคะ” เธอค้อนเขาอย่างหมั่นไส้ บอกหน่อยก็ไม่ได้ เรื่องแค่นี้เอง
“ไม่ได้กลัวครับ แต่เกิดว่าสาวคนนั้นรู้เข้าจะเผ่นก่อนมากกว่าครับ” เขาบอกเธอยิ้มๆ
“งั้นก็ทานเถอะค่ะอิ่มไม่ได้อยากรู้นักหรอกค่ะก็ถามไปงั้น...”
“ครับ...ทานอนนี้ซิครับเขาว่าอร่อยนะครับ”เขาตักปลากะพงทอดน้ำปลาให้เธออย่างเอาใจเมื่อพนักงานนำอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟให้ครบแล้ว
“สั่งมาเยอะจังคะ จะทานหมดเหรอคะ?” เธอบอกเมื่อเห็นอาหารี่ถูกนำมาวางตรงหน้า
“ไม่เยอะหรอกครบ เราสองคนก็หมดครับ”
“มาตั้งหลายครั้งแล้วแต่ผมไม่ทานอาหรที่นี่ซักครั้งเดียวขอทานหน่อยเถอะครับ” เขาบอกอย่างหมายมั่น
“เป็นได้ยังคะไง คงมากับสาวบ่อย แต่ทำไมไม่ได้ทานข้าวที่นี่ละคะ?”
“ส่วนใหญ่ที่มาก็เรื่องงานครับเสร็จก็กลับเลยไม่ได้แวะทานซักทีเจ้าเนมับอกว่าอยากรีบกลับไปเคลียร์งานมากกว่าที่จะนั่งทานข่าวกับผู้ชายน่ะครับ”
“น่าสนใจนะคะคุณผู้ช่วยเนี่ยเขายังไม่มีคนรักเหรอคะถึงตามไปไหนได้ทุกที่อย่างนี้น่ะค่ะ”
“ยังครับก็พอๆ กับผมนั่นละครับ”
“จินนี่! แกจะรีบไปไหนวะ!?” เพื่อนสาวร้องตามหลังสาวสวยที่กำลังจะเดินลงจากตึกเรียนหลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว
“ไปหาอะไรลงท้องน่ะซิหิวจะตายอยู่แล้ว พวกแกนั่นละช้าไม่รู้รึไงว่าหิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวอยู่แล้ว” หันมาบอกเพื่อนๆ หน้าตาย
“อะไรจะขนาดนั้นแกเมื่อเช้าก่อนเข้าเรียนแกก็เพิ่งกินไปไม่ไม่ใช่เหรอ?” ประวีณาสาวหมวยของจิณห์วราเอ่ยขึ้นอย่างนึกได้ว่าเพื่อนทานอาหารก่อนเข้าเรียนไปแล้ว
“นั่นมันกี่ชั่วโมงมาแล้วละ ตอนนี้ฉันหิวถ้าแกไม่หิวก็รออยู่นั่นละ”
“ว่าแต่แกจะไปกินที่ไหนละ?”
“ร้านอาหารไทยที่อยู่ในห้องใกล้ๆ นี้ละ แกจะไปด้วยมั้ยฉันหิว แกละไอ้มิ้มยืนยิ้มอยู่นั่นละ”
“ฉันน่ะไปอยู่แล้ว เหลือแต่แกสองคนนั้นละเถียงกันอยู่ได้” ส่ายหน้าใส่เพื่อนรักทั้งสองคนอย่ารงระอา แม้จะเป็นอย่างนี้แต่พวกเธอสามคนก็รักกันมาก
“เออ...ปล่อยไอ้วีมันไปเถอะมันคงไม่หิว” เดินเข้ามาจับมือของวีรินทร์ให้เดินไปที่รถมินิคันเล็กสีชมพูน่ารักที่พี่ชายซื้อให้ตอนที่สอบติดจอดอยู่
“เฮ้ย! ได้ไงรอฉันก่อนซิวะ ฉันก็หิว ไอ้จินนี่ ไอ้มิ้ม!” วิ่งตามเพื่อนสาวทั้งสิงคนที่รีบเดินหนีเธออย่างร้อนใจกลัวว่าทั้งสองจะทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียว
“เรื่องมากมาแต่ทีแรกก็จบแล้ว จะค้านฉันทำไมวะไอ้วี” หันไปว่าเพื่อนหลังจากอยู่ในรถคันเล็กกันแล้ว
“ฉันไม่ได้ค้านแค่สงสัยว่าทำไมแกกินเยอะอย่างนี้ พี่แกเลี้ยงไหวเหรอวะ?”
“พี่ชายเขาเลี้ยงฉันไหวอยู่แล้วละ แกไม่ต้องห่วงฉันหรอก เขากลัวว่าฉันจะไม่ยอทานอะไรเลยมากกว่า” บอกอยางมีความสุขเวลาที่เอ่ยถึงพี่ชายที่เป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
“ไม่ต้องยิ้มอย่างนั้นก็ได้ไอ้จินนี่ คนอื่นเขาไม่รู้เขาจะคิดว่าแกพูดถึงแฟนอยู่” ค่อนอย่างหมั่นไส้ ก็รู้อยู่หรอกว่าพี่ชายมันหล่อ แต่มันอิจฉานี่นา
“ช่วยไม่ได้เว้ย ก็พี่ชายเขาใจดีนี่นา” ทั้งสามสาวกินลงรถหลังจากที่จอดรถในชั้นใต้ดินของห้างสรพพสินค้าแล้วทั้งสามมุ่งไปที่ชั้นสามที่มีรานอาหารเจ้าประจำตั้งอยู่ พวกเธอมาทานบ่อยจนได้รับส่วนลดจากทางร้านแล้วเพราะพนักงานทุกคนจำพวกเธอได้ หากวันไหนที่มาแล้วขาดไปคนใดคนหนึ่งละก็ต้องมีการถามหากันเชียวละ
“อ้าว..วันนี้เรียนเสร็จแล้วเหรอคะถึงมากันได้” พนักงานทักอย่างคุ้นเคยเมื่อเห็นสามสาวเดินตรงมาที่ร้าน
“คะ เพิ่งเรียนเสร็จแล้วก็หิวมากๆ ด้วยมีโต๊ะว่างมั้ยคะ”
“ว่างจ้ะเข้าไปเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ว้าว! ที่ดีด้วยละแกเห็นข้างนอกด้วยว่าแต่จะเอาอะไรบ้างละวีรินทร์หันมาถามเรียบๆ เมื่อเปิดเมนูอาหารมาอ่าน
“เอากุ้งอบวุ้นเส้น/กุ้งอบวุ้นเส้น” ทั้งประวีณาและจิณห์วราต่างบอกอย่างพร้อมเพรียงกัน
“เหมือนเดิมเลยนะพวกแกนี่มาทีไรสั่งทุกที”
“ช่างฉันเถอะ/ฉันชอบนี่นา”
“เอาเถอะงั้นฉันสั่งเองละกัน เอายำปลาช่อน หลนกุ้งสด ต้มยำทะเล กุ้งอบวุ้นเส้น ขอข้าวโถนึงด้วยค่ะ พี่คะ..ขอเร็วๆ หน่อยนะคะพวกเราหิวมากๆ เลย” บอกด้วยสีหน้าละห้อยซึ่งก็เป้ฯย่างนี้ทุกครั้งที่มาน ที่พวกเธอทั้งสามชอบมาทานอาหารที่ร้านนี้เพราะนอกจากบรรยากาศที่เป็นกันเองแล้ว ที่นี่อาหารราคาไม่แพงมาก
“ได้จ้ะ แต่รอหน่อยนะพี่จะบอกพ่อครัวให้แล้วกัน” บอกก่อนจะเดินเอาเมนูที่สั่งเข้าไปในครัว
“ไงจ้ะสามสาววันนี้ว่างเหรอมาทานที่นี่ได้น่ะ” อรไพลินเจ้าของร้านเดินออกมาทักทั้งสามคนอย่างคุ้นเคย ก็เธอเป็นเพื่อนกับพี่ชายของจิณห์วรานี่นา
อรไพลินเป็นสาวผิวสีน้ำผึ้งรูปรางสูงโปร่งเป็นคนที่ยิ้มสวยจัดได้ว่าเป็นคนสวยคนหนึ่งเลยก็ว่าได้เธอเป็นเพื่อนรักของจิณณ์วัตรตั้งแต่เรียนที่บอสตันแล้ว หลังจากกลับจากเรียนเธอก็เปิดร้านอาหารที่นี่ โดยได้รับการแนะนำปากต่อไปเกี่ยวกับรายการอาหารและราคาไม่แพงที่นี่จึงเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักศึกษาและคนทำงาน
“ค่ะพี่ไพลิน พี่ชายแวะมาบ้างมั้ยคะ”
“อืม..ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเท่าไรนะ”
“เหรอคะ”
“เป็นไงคะช่วงนี้ขายดีมั้ยคะ?”
“ก็เรื่อยๆ แหละ หายไปนานเชียวช่วงนี้”
“อ๋อ...พวกเรารายงานเยอะค่ะเลยไม่ค่อยได้มากัน คิดถึงละซี้...” เธอมองหน้าพี่สาวอย่างทะเล้น
“ก็เหงานะไม่มีใครมาส่งเสียงดังน่ะ” บอกยิ้มๆ อย่างเอ็นดูทั้งสามคน
"เฮ้ย! จินนี่! นั่นพี่แกไม่ใช่เหรอ!?” ประวีณาร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ก็เห็นพี่ชายเพื่อนที่กำลังพูดถึงเดินอยู่ที่ห้างนี้ และไม้ได้เดินคนเดียวเสียด้วย เมื่อกี้เธอกำลังมองออกนอกร้านเพื่อนดูคนเดินอยู่ก็เห็นเข้า
“ไหนๆ ...แกเห็นจริงรึเปล่าน่ะไอ้วี...”
“แน่ซิวะฉันจำไม่พลาดหรอกแก นั่นไง” ชี้ให้เพื่อนทั้งสามคนมองด้านหลังชายหนุ่มกับหญิงสาวร่างเล็กที่เธอไม่ทันเห็นหน้าว่าเป็นใคร
“จินนี่นั่นแกจะไปไหนน่ะ” วีรินทร์ร้องตามหลังเพื่อนไปเมื่อเห็นว่าเธอวิ่งออกไปนอกร้านแล้ว และตามพี่ชายเธอไปติดๆ
“พี่จิน!”
“อ้าว?...จินนี่มาทำอะไรแถวนี้วันนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ?” เขาหันมาตามเสียงเรียกและก็เป็นน้องสาวของเขาที่วิ่งมาในชุดนักศึกษา
“มาทานข้าวกับเพื่อนๆ ที่ร้านพี่ไพลินค่ะ พี่จินละคะมาทำอะไร?” เธอมองไปที่หญิงสาวที่มาด้วยก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นหน้าเธอคนนั้นชัดๆ
“พอดีว่ามาเดินย่อยน่ะ” บอกพร้อมกับทำสัญญาณให้น้องสาวอย่างเพิ่งพูดอะไรตอนนี้
“เหรอคะ ไปที่ร้านพี่ไพลินมั้ยคะ” เธอจำต้องเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน ไม่งั้นเธอจะไมรู้เรื่องอะไรเลย รอถามที่บ้านก็ได้ ยังไงก็หนีไม่รอดหรอกเธอเห็นแล้วว่าคนคนนี้เป็นใครแต่เพียงไม่รู้ชื่อเท่านั้นเอง
“ไปร้านก่อนนะอิ่ม” หันมาบอกหญิงสาวที่เงียบอยู่นานอย่างให้เกียรติ
“ค่ะไม่มีปัญหาอยู่แล้วยังไงก็ไม่โดนไล่ออกเพราะเจ้านายพาอู้นี่คะ” เธอบอกติดตลก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น