ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พนันร้าย พันหลักใจ (พิมพ์กับ อะเมทิสต์ จ้า...)

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 51


    ตอนที่ 8 


    “เป็นไงบ้างอิ่มงานแรก” เขาถามขึ้นหลังจากที่สั่งอาหารกันเรียบร้อยแล้วสองสามีภรรยาขอตัวออกไปก่อนเพราะลูกสาวกำลังเดินทางมาคุยเรื่องงานด้วยจึงเหลือเพียงเขาและมนปริยาเท่านั้น 


    “ก็ดีค่ะ...ตื่นเต้นดี” เธอยิ้มก่อนจะพูด
     

    “ก็ดีนะ คุณจะได้ชินงานด้วยเพราะหลังจากนี้คุณต้องไปกับผมทุกที่” 


    “เดี๋ยวก็เป็นข่าวหรอกค่ะ เจ้านายหนุ่มไปไหนมาไหนกับสาวน้อยนิรนาม” 


    “ผมบริสุทธ์ใจนี่นา” เขาบอกเธออย่างไม่ใส่ใจ 


    “ไม่ว่าอะไร...” เธอไหวไหล่น้อยๆ 



    “แค่บอกให้รู้ว่าการที่เจ้านายไปกับลูกน้องสาวน่ะ นักข่าวชอบนักละ” 



    “เรื่องนั้นผมรู้ถึงไปออกไปกับคุณสาลี่ไงละ”
     


    “แล้ว...การที่ออกมากับอิ่มคิดว่าจะไม่เป็นข่าวเหรอคะ?” 


    “อาจจะนะ...” 


    “เป็นงั้นไป” 


    “อย่าคิดมากเรามาทำงานนะ คนอื่นจะคิดก็เรื่องของเขาซิ” 



    “ไม่ได้ว่าอยู่แล้วค่ะ อิ่มเป็นคนที่ไม่มีชื่อเสียง ห่วงแต่คุณจินมากกว่าเดี๋ยวสาวๆ หายมหมดอิ่มไม่รู้ด้วยนะ” เธอคิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่ไม่อยากเป็นข่าวเรื่องผู้หญิงเพราะคิดว่าจะทำให้จีบสาวๆ อื่นไม่ติด 



    “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ผมเลิกแล้วเรื่องพวกนั้นน่ะ” 



    “แหมเชื่อหรอกค่ะ หนุ่มๆ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าตัวเองไม่ได้เจ้าชู้หรอก แต่ก็เห็นแอบมีกิ๊กกันทุกคนแหละ” เธอว่าเขาล้อๆ เพราะพอจะรู้กิตติศัพท์เขามาบ้างเกี่ยวกับสาวๆ ของเขา 



    “นั่นมันเมื่อก่อนครับอิ่ม ผมไม่เคยคบใครเป็นแฟน แต่ถ้าผมรู้สึกว่าคนนั้นใช่ผมก็จะหยุดอยู่แล้ว” เขาบอกความคิดของเขา 



    “ตอนนี้เจอเหรอคะคุณจินถึงเลิกเป็นข่าวกับสาวน่ะค่ะ” เพราะเธอได้ยินมาว่าช่วงนี้ชายหนุ่มเก็บตัวเงียบไม่สนใจใครเลย และยังมีข่าวออกมาอีกว่าชายหนุ่มกำลังสนใจสาวบางคนอยู่แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร 



    “อาหารมาแล้วทานเถอะ” 


    “แหม กลัวรู้จริงนะคะ” เธอค้อนเขาอย่างหมั่นไส้ บอกหน่อยก็ไม่ได้ เรื่องแค่นี้เอง 



    “ไม่ได้กลัวครับ แต่เกิดว่าสาวคนนั้นรู้เข้าจะเผ่นก่อนมากกว่าครับ” เขาบอกเธอยิ้มๆ 



    “งั้นก็ทานเถอะค่ะอิ่มไม่ได้อยากรู้นักหรอกค่ะก็ถามไปงั้น...”
     

    “ครับ...ทานอนนี้ซิครับเขาว่าอร่อยนะครับ”เขาตักปลากะพงทอดน้ำปลาให้เธออย่างเอาใจเมื่อพนักงานนำอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟให้ครบแล้ว
     

    “สั่งมาเยอะจังคะ จะทานหมดเหรอคะ?” เธอบอกเมื่อเห็นอาหารี่ถูกนำมาวางตรงหน้า 



    “ไม่เยอะหรอกครบ เราสองคนก็หมดครับ”
     


    “มาตั้งหลายครั้งแล้วแต่ผมไม่ทานอาหรที่นี่ซักครั้งเดียวขอทานหน่อยเถอะครับ” เขาบอกอย่างหมายมั่น
     


    “เป็นได้ยังคะไง คงมากับสาวบ่อย แต่ทำไมไม่ได้ทานข้าวที่นี่ละคะ?” 



    “ส่วนใหญ่ที่มาก็เรื่องงานครับเสร็จก็กลับเลยไม่ได้แวะทานซักทีเจ้าเนมับอกว่าอยากรีบกลับไปเคลียร์งานมากกว่าที่จะนั่งทานข่าวกับผู้ชายน่ะครับ”
     


    “น่าสนใจนะคะคุณผู้ช่วยเนี่ยเขายังไม่มีคนรักเหรอคะถึงตามไปไหนได้ทุกที่อย่างนี้น่ะค่ะ” 


    “ยังครับก็พอๆ กับผมนั่นละครับ” 




    “จินนี่! แกจะรีบไปไหนวะ!?” เพื่อนสาวร้องตามหลังสาวสวยที่กำลังจะเดินลงจากตึกเรียนหลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว 



    “ไปหาอะไรลงท้องน่ะซิหิวจะตายอยู่แล้ว พวกแกนั่นละช้าไม่รู้รึไงว่าหิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวอยู่แล้ว” หันมาบอกเพื่อนๆ หน้าตาย 


    “อะไรจะขนาดนั้นแกเมื่อเช้าก่อนเข้าเรียนแกก็เพิ่งกินไปไม่ไม่ใช่เหรอ?” ประวีณาสาวหมวยของจิณห์วราเอ่ยขึ้นอย่างนึกได้ว่าเพื่อนทานอาหารก่อนเข้าเรียนไปแล้ว 


    “นั่นมันกี่ชั่วโมงมาแล้วละ ตอนนี้ฉันหิวถ้าแกไม่หิวก็รออยู่นั่นละ” 



    “ว่าแต่แกจะไปกินที่ไหนละ?” 



    “ร้านอาหารไทยที่อยู่ในห้องใกล้ๆ นี้ละ แกจะไปด้วยมั้ยฉันหิว แกละไอ้มิ้มยืนยิ้มอยู่นั่นละ” 


    “ฉันน่ะไปอยู่แล้ว เหลือแต่แกสองคนนั้นละเถียงกันอยู่ได้” ส่ายหน้าใส่เพื่อนรักทั้งสองคนอย่ารงระอา แม้จะเป็นอย่างนี้แต่พวกเธอสามคนก็รักกันมาก 


    “เออ...ปล่อยไอ้วีมันไปเถอะมันคงไม่หิว” เดินเข้ามาจับมือของวีรินทร์ให้เดินไปที่รถมินิคันเล็กสีชมพูน่ารักที่พี่ชายซื้อให้ตอนที่สอบติดจอดอยู่ 



    “เฮ้ย! ได้ไงรอฉันก่อนซิวะ ฉันก็หิว ไอ้จินนี่ ไอ้มิ้ม!” วิ่งตามเพื่อนสาวทั้งสิงคนที่รีบเดินหนีเธออย่างร้อนใจกลัวว่าทั้งสองจะทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียว 



    “เรื่องมากมาแต่ทีแรกก็จบแล้ว จะค้านฉันทำไมวะไอ้วี” หันไปว่าเพื่อนหลังจากอยู่ในรถคันเล็กกันแล้ว 



    “ฉันไม่ได้ค้านแค่สงสัยว่าทำไมแกกินเยอะอย่างนี้ พี่แกเลี้ยงไหวเหรอวะ?” 


    “พี่ชายเขาเลี้ยงฉันไหวอยู่แล้วละ แกไม่ต้องห่วงฉันหรอก เขากลัวว่าฉันจะไม่ยอทานอะไรเลยมากกว่า” บอกอยางมีความสุขเวลาที่เอ่ยถึงพี่ชายที่เป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
     


    “ไม่ต้องยิ้มอย่างนั้นก็ได้ไอ้จินนี่ คนอื่นเขาไม่รู้เขาจะคิดว่าแกพูดถึงแฟนอยู่” ค่อนอย่างหมั่นไส้ ก็รู้อยู่หรอกว่าพี่ชายมันหล่อ แต่มันอิจฉานี่นา
     


    “ช่วยไม่ได้เว้ย ก็พี่ชายเขาใจดีนี่นา” ทั้งสามสาวกินลงรถหลังจากที่จอดรถในชั้นใต้ดินของห้างสรพพสินค้าแล้วทั้งสามมุ่งไปที่ชั้นสามที่มีรานอาหารเจ้าประจำตั้งอยู่ พวกเธอมาทานบ่อยจนได้รับส่วนลดจากทางร้านแล้วเพราะพนักงานทุกคนจำพวกเธอได้ หากวันไหนที่มาแล้วขาดไปคนใดคนหนึ่งละก็ต้องมีการถามหากันเชียวละ
     


    “อ้าว..วันนี้เรียนเสร็จแล้วเหรอคะถึงมากันได้” พนักงานทักอย่างคุ้นเคยเมื่อเห็นสามสาวเดินตรงมาที่ร้าน
     

    “คะ เพิ่งเรียนเสร็จแล้วก็หิวมากๆ ด้วยมีโต๊ะว่างมั้ยคะ” 



    “ว่างจ้ะเข้าไปเลยนะ”
     

    “ขอบคุณค่ะ” 



    “ว้าว! ที่ดีด้วยละแกเห็นข้างนอกด้วยว่าแต่จะเอาอะไรบ้างละวีรินทร์หันมาถามเรียบๆ เมื่อเปิดเมนูอาหารมาอ่าน 



    “เอากุ้งอบวุ้นเส้น/กุ้งอบวุ้นเส้น” ทั้งประวีณาและจิณห์วราต่างบอกอย่างพร้อมเพรียงกัน 



    “เหมือนเดิมเลยนะพวกแกนี่มาทีไรสั่งทุกที”
     


    “ช่างฉันเถอะ/ฉันชอบนี่นา”
     


    “เอาเถอะงั้นฉันสั่งเองละกัน เอายำปลาช่อน หลนกุ้งสด ต้มยำทะเล กุ้งอบวุ้นเส้น ขอข้าวโถนึงด้วยค่ะ พี่คะ..ขอเร็วๆ หน่อยนะคะพวกเราหิวมากๆ เลย” บอกด้วยสีหน้าละห้อยซึ่งก็เป้ฯย่างนี้ทุกครั้งที่มาน ที่พวกเธอทั้งสามชอบมาทานอาหารที่ร้านนี้เพราะนอกจากบรรยากาศที่เป็นกันเองแล้ว ที่นี่อาหารราคาไม่แพงมาก
     


    “ได้จ้ะ แต่รอหน่อยนะพี่จะบอกพ่อครัวให้แล้วกัน” บอกก่อนจะเดินเอาเมนูที่สั่งเข้าไปในครัว
     

    “ไงจ้ะสามสาววันนี้ว่างเหรอมาทานที่นี่ได้น่ะ” อรไพลินเจ้าของร้านเดินออกมาทักทั้งสามคนอย่างคุ้นเคย ก็เธอเป็นเพื่อนกับพี่ชายของจิณห์วรานี่นา 



    อรไพลินเป็นสาวผิวสีน้ำผึ้งรูปรางสูงโปร่งเป็นคนที่ยิ้มสวยจัดได้ว่าเป็นคนสวยคนหนึ่งเลยก็ว่าได้เธอเป็นเพื่อนรักของจิณณ์วัตรตั้งแต่เรียนที่บอสตันแล้ว หลังจากกลับจากเรียนเธอก็เปิดร้านอาหารที่นี่ โดยได้รับการแนะนำปากต่อไปเกี่ยวกับรายการอาหารและราคาไม่แพงที่นี่จึงเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักศึกษาและคนทำงาน 



    “ค่ะพี่ไพลิน พี่ชายแวะมาบ้างมั้ยคะ”
     


    “อืม..ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเท่าไรนะ” 



    “เหรอคะ” 


    “เป็นไงคะช่วงนี้ขายดีมั้ยคะ?” 



    “ก็เรื่อยๆ แหละ หายไปนานเชียวช่วงนี้”
     


    “อ๋อ...พวกเรารายงานเยอะค่ะเลยไม่ค่อยได้มากัน คิดถึงละซี้...” เธอมองหน้าพี่สาวอย่างทะเล้น 



    “ก็เหงานะไม่มีใครมาส่งเสียงดังน่ะ” บอกยิ้มๆ อย่างเอ็นดูทั้งสามคน 


    "เฮ้ย! จินนี่! นั่นพี่แกไม่ใช่เหรอ!?” ประวีณาร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ก็เห็นพี่ชายเพื่อนที่กำลังพูดถึงเดินอยู่ที่ห้างนี้ และไม้ได้เดินคนเดียวเสียด้วย เมื่อกี้เธอกำลังมองออกนอกร้านเพื่อนดูคนเดินอยู่ก็เห็นเข้า 



    “ไหนๆ ...แกเห็นจริงรึเปล่าน่ะไอ้วี...” 



    “แน่ซิวะฉันจำไม่พลาดหรอกแก นั่นไง” ชี้ให้เพื่อนทั้งสามคนมองด้านหลังชายหนุ่มกับหญิงสาวร่างเล็กที่เธอไม่ทันเห็นหน้าว่าเป็นใคร
     


    “จินนี่นั่นแกจะไปไหนน่ะ” วีรินทร์ร้องตามหลังเพื่อนไปเมื่อเห็นว่าเธอวิ่งออกไปนอกร้านแล้ว และตามพี่ชายเธอไปติดๆ 



    “พี่จิน!”
     


    “อ้าว?...จินนี่มาทำอะไรแถวนี้วันนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ?” เขาหันมาตามเสียงเรียกและก็เป็นน้องสาวของเขาที่วิ่งมาในชุดนักศึกษา 


    “มาทานข้าวกับเพื่อนๆ ที่ร้านพี่ไพลินค่ะ พี่จินละคะมาทำอะไร?” เธอมองไปที่หญิงสาวที่มาด้วยก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นหน้าเธอคนนั้นชัดๆ 



    “พอดีว่ามาเดินย่อยน่ะ” บอกพร้อมกับทำสัญญาณให้น้องสาวอย่างเพิ่งพูดอะไรตอนนี้
     

    “เหรอคะ ไปที่ร้านพี่ไพลินมั้ยคะ” เธอจำต้องเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อน ไม่งั้นเธอจะไมรู้เรื่องอะไรเลย รอถามที่บ้านก็ได้ ยังไงก็หนีไม่รอดหรอกเธอเห็นแล้วว่าคนคนนี้เป็นใครแต่เพียงไม่รู้ชื่อเท่านั้นเอง 



    “ไปร้านก่อนนะอิ่ม” หันมาบอกหญิงสาวที่เงียบอยู่นานอย่างให้เกียรติ 


    “ค่ะไม่มีปัญหาอยู่แล้วยังไงก็ไม่โดนไล่ออกเพราะเจ้านายพาอู้นี่คะ” เธอบอกติดตลก 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×