ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8
ตอนที่ 8
กันต์ธรยังคงสำรวจร่างบางอย่างอ่อยอิ่งเมื่อเห็นว่าเธอพร้อมสำหรับบทรักครั้งแรกแล้วระหว่างเขาและเธอ ชายหนุ่มยกสะโพกมนขึ้นก่อนจะส่งตัวเองเข้าไปอย่างเชื่องช้าละอ่อนโยนเขารู้ว่าเธอต้องเจ็บสำหรับครั้งนี้
“โอ้ย!” เธอพยายามดิ้นหนีเมื่อรู้สึกเจ็บเมื่อเขาเข้ามาในเธอ “
”ไม่เป็นไรที่รัก พี่จะระวังเองนะ” เขาหยุดตัวเองเอาไว้และก้มจูบเธอละเรื่อยลงมาที่ซอกคอขาวผ่องและหยุดเลนงานที่ทรวงหยุ่นของเธอจนเธอคลายความเกร็งลงไปแล้วเขาถอยตัวเองออกมาและดันเข้าไปสุดแรงในครั้งเดียวเขาหยุดนิ่งอยู่อย่างนั้นเพื่อให้เธอทำความรู้จักกับมันก่อนที่มีจะให้ความสุขกับเธอพาไปยังวิมารแสนสุขที่เธอจะได้เรียนรู้เป็นครั้งแรก กานต์ธิดารู้สึกตึงแน่นไปหมดเมื่อเขาเข้ามาเต็มอยู่ในเธอ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แม้จะคลายความเจ็บไปบ้างแล้วแต่เธอยังอึดอัดอยู่แต่ร่างหนาที่กอดเธอนิ่งอยู่นั้นเธอรับรู้ว่าเขาพยายามอย่างมากที่จะทำให้เธอเจ็บน้อยที่สุด กันต์ธรเริ่มขยับอย่างช้าๆ แต่หนักหน่วง ชายหนุ่มเริ่มแรงในการขยับเมื่อได้ยินเสียงครางของร่างบางใต้ร่างเขา กานต์ธิดาลืมตาขึ้นมองร่างหนาที่อยู่บนเธอเขามีเสียหน้าเหยเกอย่างเจ็บปวดแต่เธอก็รู้ว่าว่าเขาไม่ได้เจ็บปวดแต่กำลังทรมานเพราะความสุขสมที่เขาได้รับ เขาเริ่มขยับตัวแรงเธอพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ส่งเสียงครางออกมาแต่เธอถูกเขาเล่นงานอย่างหนักจนไม่อาจจะกลั้นอยู่
“พี่กันต์” เธอเปล่งเสียงออกมาสั่นตอนนี้เธอแทบจะไม่มีแรงแล้ว อยากให้เขาช่วยเธอหลุดพ้นจากความทมทรมานนี้เสียที ชายหนุ่มยิ่งได้ยินอย่างนั้นเขาเริ่มขยับตัวเร็วขึ้นยิ่งเมื่อด้วยยินเสียงครางอย่างสุขสมของเธอแล้วเขาเร่งตัวเองเร็วขึ้นเขารับรู้ว่าเธอถึงวิมานแสนสุขแล้วจากแรงบีบรัดภายในที่เป้ฯเองตามธรรมชาติ ขยับเพียงสองสามครั้งเขาก็ตามไปดินแดนแห่งความสุขติดๆ กับเธอ เขาเปล่งเสียงออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อฝากเชื้อพันธ์เอาไว้ในเธออย่างท่วมท้น เขาก้มจูบเธอทั้งที่ยังหอบอยู่เกลี่ยผมเธอเล่นเบาและขยับตัวออกจากเธอแต่รั้งร่างบางให้มาอยู่บนตัวเขาแทน
“อุ๊ย! พี่กันต์ทำอะไรคะ?” เธอเอาแขนทั้งสองข้างดันอกเขาเอาไว้
“อยากมองเมียให้เต็มตาซะหน่อย” เขาอบกอย่างชื่นมื่น
“คนบ้า! “เธอทุบที่อกเขาอย่างขัดเขินที่เขาพูดออกมาโพล่งๆ อย่างนี้
“เอ้าพี่พูดจริงนะ” ตอบยังเถียงหน้าตาย
“ปล่อยเถอะค่ะฟ้าจะกลับห้อง...”
“นอนที่นี่ได้มั้ย?” เขาถามเสียงอ้อน
“ไม่ไหรอกค่ะ เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัยเอานะคะ”
“ทำไมเหรอดะอีกเราจะได้แต่งงานกันเร็วข้นไงคะ” บอกย่างไม่เกรงกลัว
“พี่อยากแต่งงานกับฟ้าเหรอคะ?” เธอถามเสียงเครือ ทำไมถามอย่างนั้นละคะ พี่ซิต้องถามว่าฟ้าเสียใจรึเปล่าที่มันกลายเป็นแบบนี้น่ะ ส่วนบอกได้เลยนะว่าพี่ดีใจมากๆ” เขายิ้มให้เธอทั้งปากและตา
“พี่ไม่คิดว่าฟ้า..ฟ้า...ง่ายเหรอคะ?”
“เหลวไหล เอาอะไรมาพูด เคยคิดว่าฟ้าง่ายเลยนะ และพี่ดีใจและภูมิใจมากที่ฟ้าเต็มใจมอบมันให้พี่อย่างนี้” เขาบอกหนักแน่นรัดร่างบางแน่นขึ้น ได้ฟังอย่างนั้นเธอถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เธอกังวลไปสารพักหลังจากเรื่องนี้ผ่านไปแล้ว กลัวก็กลัวว่าเขาจะไม่เห็นค่าที่ยอมเขาง่ายๆ อย่างนี้แถมเธอเป็นคนที่บุกมาหาเขาถึงห้องเสียอีก
“ฟ้า! เป็นอะไรไปเหรอ!?” เขามองเธออย่างตกใจที่อยู่ๆ เธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างนี้ ถามเท่าไหร่เธอก็เอาแต่ส่ายหน้าอย่างเดียว
“เปล่าค่ะ ฟ้าแค่โล่งใจน่ะค่ะ” เธอบอกเขาเสียงเครือจากการร้องไห้
“คิดอะไรทำร้ายตัวเองอยู่ละซิ” ชายหนุ่มดันตัวเองให้พิงพนักที่หัวเตียงโดยไม่ลืมรั้งให้เธอมาด้วยตอนนี้เธออยู่บนร่างเขาครึ่งๆ ภายในอ้อมแขน เขาลูบไปที่ไหล่และหลังเบาๆ อย่างปลอบโยน เขารู้อยู่แล้วว่าเธอต้องคิดมากบอกรักเธอแล้วเขาก็รักเธอทันทีอย่างนี้เป็นใครก็ต้องคิดมาก แต่สำหรับเขาแล้วเขาทรมานมาหลายปีจากความรักครั้งนี้เขาอดกลั้นมาตลอดและไม่เคยยุ่งกับใครอีกเลย ยิ่งมีเธอมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ อย่างนี้มันทำให้เขาถึงกับตบะแกกันทีเดียว
“พี่กันต์คะ ปล่อยเถอะค่ะฟ้าต้องกลับแล้ว..นะคะ”
“โอเคกลับก็กลับ แต่พรุ่งนี้พี่จะไปพูดกับท่านก่อนแล้วจะให้พ่อกับมี่ท่านมาสู่ขออย่างเป็นทางการอีทีนะที่รัก”
“ค่ะ ฟ้าจะรอนะคะ” เธอบอกพร้อมกับลกขึ้นโดยไม่ลืมคว้าเอาผ้าห่มคลุมร่างอย่างขัดเขินเธอหยิบเอาเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มถอดออกแล้วเหวี่ยงไปจนทั่วมาสวม
“มาให้พี่ชื่นใจอ่อนนะคะแล้วค่อยไป” ชายหนุ่มบออกอย่างอ้อนๆ
“ไม่เอาค่ะลุกเร็ว! มาดูต้นทางให้หน่อยค่ะเร้ว”
“ไม่เอา...อะ” งอนป่องอย่างกับเด็กๆ
“ก็ได้ค่ะแค่แก้มนะคะ” เธอยอมแพ้เดินไปหาเขาที่เตียง
“จุ๊บ” เธอหอมแก้มสากไหนึ่งที และกระเด้งตัวออกมาก่อนจะไม่ได้กลับห้องในคืนนี้ เขายิ้มอย่างชื่นใจแม้จะได้แค่นี้แต่เขาก็รู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหนจากสิ่งที่เธอได้มอบให้กับเขาวันนี้
“พี่รักฟ้านะครับ”จับมือบางเอาไว้
“รอพี่แป๊บนะครับ” เขาเดินเข้าไปหยิบอะไรออกมาจากลิ้นชักหัวเตียงของเขาออกมาเธอเห็นว่ามันเป็นกล่องกำมะหยี่สีแดงและรู้ด้วยว่ามันคืออะไร กันต์ธรเดินเข้ามาใกล้และคุกเข่าลงตรงหน้าคนรักจับมือซ้ายของเธอขึ้นมาจูบเบาๆ ที่กลางฝ่ามือเธอก่อนจะมองน้าเธออย่างแน่วนิ่ง
“พี่รักฟ้านะครับ และคิดว่าชาตินี้จะไม่รักใครอีกแล้ว และพี่อยากมีชีวิตที่เหลืออยู่กับฟ้า แต่งงานกับพี่นะครับ และพี่สัญญาว่าจากนี้ไปพี่จะรักฟ้าคนเดียวและตลอดไป” กานต์ธิดายกมือขวาขึ้นปิดปากเธอเอาไว้แน่นเมื่อได้ยินคำขอแต่งงานพร้อมกับแหวนที่เขาหยิบออกมาจากกล่อง เขายกจ่อเธอไว้รอแค่คำตกลงของเธอเท่านั้น
“ค่ะ...ค่ะ...ค่ะ ฟ้าจะแต่งงานกับพี่ค่ะ” เธอตอเขารัวทีเดียว และโผกอดเขาอย่างยินดี “ฟ้าดีใจจังค่ะว่าแต่แหวนเนี่ยเอามาจากไหนเหรอคะ?”
“พี่ซื้อไว้ตั้งนานแล้วหวังว่าซักวันคงได้มีโอกาสให้ฟ้าได้ใส่น่ะ” เขาบอกอยู่ที่ซอกคอเธอเบาๆ ก่อนจะเน้นจนเกิดรอยอยู่บริเวณนั้น
“ขอบคุณค่ะ แต่ตอนนี้นางซินต้องกลับแล้วค่ะหมดเวลาแล้ว”
“ฮึ ฮึ นั่นซินะเดี๋ยวพี่ไปดูต้นทางให้นะครับ” ปล่อยร่างบางและเดินไปดูที่ประตู
“ฟ้าครับไม่มีใครครับมาครับเดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่เรือนใหญ่นะ” เขายื่นมืออกมารับให้เอออมาจากห้องและเดินออกไปด้วยกัน
“เจ็บมากมั้ยครับ” เขาถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นท่าเดินขัดๆ ขอเธอ
“เจ็บค่ะ แต่ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากนะคะ ฟ้าเต็มใจและรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเจ็บ” เธอกระชับมือแน่นเข้าเมื่อเห็นเขาทำหน้ารู้สึกผิดแค่ไหนที่เขาทำเธอเจ็บ
“คราวหน้ามันจะไม่เจ็บอีกพี่สัญญา”
“ตาบ้า///” เธออุทานออมาเสียงดังเมื่อได้ยินเขาพูดออกมาหน้าตาเฉย
“ไปครับเข้าบ้านได้แล้ว” บอกและหอมแก้มก่อนที่จะดันให้เธอเดินเข้าไปในบ้านเขารอจนเธอเดินขึ้นบ้านไปค่อยกลับไปที่เรือนพักและยังไม่เห็นว่าชยันต์จะกลับมาเขาตัดสินใจเดินไปดูที่อีกฝั่งที่เป็นเรือนพักของสาวๆ กันว่าเพราะเหตุใดรุ่นน้องถึงยังไม่กลับมาเสียที
“อ้าว!? พี่กันต์มานั่งด้วยกันซิครับ” ชยันต์ทักเมื่อเห็นว่ากันต์ธรเดินเข้ามาใกล้กลุ่มเขาที่นั่งเล่นกีตาร์อยู่ที่หน้าเรือนพักอย่างสนุกสนาน
“ดึกมากแล้วนะไม่กลับไปนอนกันละ?” “อีกเดี๋ยวก็กลับแล้วครับ”
“งั้นพี่กลับไปนอนก่อนละกันพรุ่งนี้มีเรื่องที่ต้องจัดการแต่เช้าด้วย” เดินเข้าไปแตะไหล่ชยันต์ก่อนจะเดินกลับไปทางเดิมที่มาเมื่อครู่ แต่พอเขาเดินผ่านหน้าหองของเธอที่อยู่ด้านบนเขาอดที่จะเหลือบมองไม่ได้ ก่อนจะตัดใจเดินกลับไปที่ห้องเขาและข่มตาให้หลับ
กฤตเมฆมองตามร่างหนาของรุ่นน้องที่เขาเองก็รักเหมือนน้องคนหนึ่ง เขาเห็นตั้งแต่ที่น้องสาวเขาลงจากเรือนไปและจนกระทั่งกลับมาที่เรือนใหญ่ เขาเองก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบางจากเวลาที่น้องสาวหายไปก็นานพอควรพอกลับมาเห็นทั้งสองคนดูจะแสดงออกกันมากขึ้น นี่คงจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว เหลือก็แต่กันต์ธรว่าจะเป็นสุภาพบุรุษรึเปล่า เขาอยากรู้ว่ารุ่นน้องจะเขามาคุยกบเขาอย่างลูกผู้ชายรึเปล่า
“เฮ้อ สมหวังกับเขาเสียทีนะยัยฟ้า แต่แกไม่น่าใจร้อนเล้ย” เธอบ่นออกมา ไม่คาดเคยคิดว่าตัวเองจะเป้ฯอย่างมี่ว่าน้องเอาไว้ หากมีความรักแล้วก็ยากที่จะหักใจตัวเอง กฤตเมฆเดินกลับเข้าบ้านไปอย่างโล่งใจที่หมดห่วงเรื่องน้องสาวคนเดียวเสียที หากว่าเธอรักกับกันต์ธรจริงๆ เขาก็โล่งอกเพราะเขารู้จักกับชายหนุ่มมานานและรู้จักพื้นเพและนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี และไมห่วงอะไรอีกแล้วหาทั้งคู่จะแต่งงานกันไป
กันต์ธรรีบตื่นแต่เช้าทั้งที่เมื่อคืนเขาก็นอนดึกพอควรกว่าที่เขาจะข่มตาให้หลับไปก็เล่นเอาเกือบเช้าเหมือนกัน แต่วันนี้เขาเองก็มีเรื่องที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย เขาจัดการโทรบอกพ่อกับแม่เขาแล้วเรื่องของกานต์ธิดาและอยากให้ท่านมาที่นี่เร็วที่สุดเพราะเขาไม่อยากที่ระยะเวลาเอาไว้นาน ไม่รู้ว่าการที่เขารักเธอเมื่อคืนจะมีอะไรตามมารึเปล่าเขาไม่อยากให้เธอขายหน้าคนอื่นก่อนแต่งงานกันไป ก๊อก ก๊อก กันต์ธรเคาะหน้าห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มเพื่อคุยอย่างลูกผู้ชายในเมื่อเขากล้าทำเขาเองก็กล้ารับเขาอยากจะคุยกับเจ้านายเสียก่อน แล้วค่อยไปคุยกับท่านทั้งสอง
“นายครับ” เขาเรียกกฤตเมฆที่ก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่ ว่ามา มีอะไร” เขาหยุดงานตรงหน้าและหันมาสนใจลูกน้องหนุ่มแทน จับตามองร่างหนาตรงหน้านิ่ง
“คือว่า...ผมจะบอกว่า..ผมกับ...เอ่อ...”
“มัวแต่เอ่อ อยู่นั่นละ ฉันจะรู้เรื่องมั้ยเนี่ย” ถามออกไปอย่างรำคาญ เมื่ออีกฝ่ายมัวแต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดเสียที
“ผมกับน้องฟ้าเรารักกันครับ” แต่ปฏิกิริยาที่เขาได้รับกลบเป็นการเงียบเฉยซึ่งผิดจากที่เขาคิดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง
“แล้วไงนายสองคนรักกันแล้ว?...”
“ผมอยากแต่งงานกับเธอครับ” บอกอย่างหนักแน่น
“ไม่คิดว่ามันจะเร็วไปเหรอ?” “ไม่ครับผมรักเธอมานานแล้วด้วยทั้งดานที่ดีและไม่ดีผมเห็นเธอมาหมดแล้วและผมไม่อยากจะยืดเวลาออกไปอีกเราสองคนมีเวลาที่ศึกษากันทั้งชีวิตอยู่แล้วครับ”
“นายมั่นใจมากเลยเหรอ ลองคบกันดูก่อนแล้วค่อยแต่งงานกันอีปีสองปีก็ได้นี่นา” เขาลองหยั่งเชิงว่ากันต์ธรจะเป็นอย่างไร
“ไม่เอาหรอกครับผมอยากมีลูกเร็วๆ พ่อกับแม่ผมก็อายุมากแล้วและท่านเองก็อยากจะอุ้มหลานก่อนตายด้วย นายเห็นใจผมเถอะนะครับเรารักกันจริงๆ”
“นายถามยัยฟ้าแล้วเหรอ?” “ครับ เธอบอกว่าให้ไปคุยกับผู้ใหญ่ก่อนผมเลยมาบอกนายก่อนครับ”
“นายสองคนมีอะไรกันรึยัง?” ถามออกไปโต้งๆ
“เอ่อ..” กันต์ธรไม่กล้าพูดออกมาเพราะมันจะทำให้อีกฝ่ายเสียหายแม้อีกฝายจะเป็นพี่ชายของเธอก็ตาม
“เอาละไม่ต้องบอก เรื่องเมื่อคืนฉันเห็นหมดละ”
“นายเมฆเห็น..เอ่อ...” “ทุกอย่าง นายจะคุยกับคุณพ่อคุณแม่เลยรึเปล่า”
“ครับ อยากจะคุยเลยผมกลัวว่าจะมีอะไรผิดพลาดน่ะครับ” บอกตามความจริง
“แกนี่น้าบทจะใจร้อนก็ไม่ดูอะไรเลย” เขาส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ จนด้วยคำพูดเขารู้ว่ากันต์ธรรักน้องสาวของเขาแต่ไม่เคยแสดงออกให้เจ้าตัวเขาได้รู้เลย แต่พอจะแสดงให้รู้ก็กลายเป็นอย่างนี้แล้ว
“ขอโทษครับ แต่นายครับผมรักเธอจริงๆ นะครับ”
“ช่างเถอะๆ เอาเป็นว่าไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ท่านดีกว่าว่าท่านจะว่ายังไงบ้าง” ยกมือห้ามไม่ให้พูดต่อ เขาองก็รู้ว่าพ่อกับแม่เขารู้สึกอย่างไรกับชายหนุ่มท่านทั้งสองอยากได้ชายหนุ่มคนนี้มาเป็นลูกเขยมานานมากแล้วแต่ติดวาทั้งสองคนยังวางตัวห่างกันอยู่ไม่ยอมแสดงความรู้สึกออกมาให้ท่านได้รู้ แต่ถ้าได้รับรู้อย่างนี้ท่านคงดีใจมาก
“ครับ” ชายหนุ่มทั้งสองคนเดินมาหาคุณกฤศและคุณกนิกาที่หน้าระเบียงท่านทั้งสองออกมานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
“พ่อ แม่ครับกันต์เขามีเรื่องจะคุยด้วยครับ”
“สวัสดีครับท่าน เมื่อวานขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้อยู่รอ” กันต์ธรยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน “เอ้า..นั่งซิกันมืออะไรรึเปล่า?” คุณกฤศถามอย่างเอ็นดูเขาชอบชายหนุ่มคนนี้มากตั้งใจทำงานไม่เจ้าชู้ตั้งแต่ที่เห็นมาก็หลายีแล้วยังไม่เคยเห็นมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเสียที ถ้าใครได้แต่งงานด้วยคงโชคดีไม่น้อยเลย
“ครับ..คือว่าท่านครับผมจะบอกว่า..” “มีอะไรก็ว่ามาเถอะฉันก็เหมือนแม่ของกันต์เหมือนกันนะ” คุณกนิกากล่าวอย่างเอ็นดู
“ครับผมจะขอ...อนุญาตแต่งงานครับ” “เฮ้ย! กับใครไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย!?” คุณกฤศตกใจกับเรื่องที่ได้รับรู้เมื่อครู่ กนิกาเองก็ตกใจไม่แพ้สามีคนที่หมายตาเอาไว้ให้ลูกสาวกลับมาบอกกว่าจะแต่งงานเสียนี่แล้วลูกสาวเธอละ?
“ท่านทั้งสองก็รู้จักครับ”
“ใครละ? ที่พวกฉันก็รู้จักน่ะ” ท่านเอ่ยถามอย่างใจเย็น
“คุณฟ้าครับ” กล่าวเสียงเรียบอย่างใจเย็นที่สุด
“ห๋า! ยัยฟ้าเนี่ยนะ ไปรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่กันละ?” คุณกฤศเลิกคิ้วถามอย่างอดที่จะสงสัยไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นท่าทีระหว่างสองคนนี้ให้เห็นเลย เออ ไม่ใช่ซิต้องบอกว่าจากชายหนุ่มแต่ลูกสาวเขาน่ะมันเห็นๆ อยู่ว่ารักผู้ชายคนนี้มานาน คุณกนิกาแอบยิ้มอยู่ในใจอย่างสมใจ ไม่คิดว่าเรื่องที่เคยคุยกับสามีจะเป็นจริงได้ เธอเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีวันนี้ออกจะหมดหวังแล้วเสียอีก
“รักมานานแล้วครับ แต่ผมคิดว่าตัวเองไม่คู่ควร..”
“อะไร? ที่เรียกว่าไม่คู่ควร?”
“ผมเป็นแค่ลูกจ้าง...”
“เหลวไหล คิดอย่างนี้เท่ากับดูถูกพวกเรานะกันต์...ฉันกับเมียไม่แม้แต่จะคิดแบบนั้นเลย เราเองก็คิดเหมือนกันว่าอยากจะได้นายมาเป็นลูกเขย แต่ก็คิดว่าหมดหวังนายเองก็เฉยซะขนาดนี้ ว่าแต่เรื่องแต่งงานจะเอาจริงเหรอ?”
“ครบ ผมอยากแต่งงานจริงๆ กับคุณฟ้าครับถ้าท่านไม่รังเกียจผมจะให้คุณพ่อกับคุณแม่ทำทำการสู่ขออย่างเป็นทางการอีกทีครับ” บอกอย่างอ่อนน้อม
“ฮะๆ ฮะๆๆๆ ดี! กล้าดีฉันชอบ..” คุณกฤศกล่าวออกมาอย่างอารมณ์ เขาชอบคนที่กล้าพูดอย่างนี้ ในเมื่อได้คนที่คิดเอาไว้ทำไมเขาจะไม่ตกลง
“พ่อว่าไงครับ” กฤตเมฆ ถามขึ้นมาหลังจากนั่งเงียบอยู่นาน
“แม่ว่าไง?”หันไปถามภรรยาคู่ยากของเขา
“ฝนแล้วแต่พี่กฤศค่ะ” กนิกาเอ่ยเสียงหวานมองสามีอย่างรักใคร่
“เอาเป็นว่าพ่อกับแม่นายพร้อมเมื่อไหร่ละก็ให้มาหาได้เลย”
“ครับ! พรุ่งนี้นะครับ” กันต์ธรรับคำอย่างยินดี เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีอุปสรรคอะไรแล้ว
“เฮ้อ! กลายเป็นวัยรุ่นใจร้อนไปแล้ว” ส่ายหน้าอย่างเอ็นดูที่คนที่ใจเย็นอย่างกันต์ธรกลายไปไฟอย่างนี้ได้
“จะว่าอะไรมั้ยครับถ้าผมจะขอ...”
“ไปเถอะยัยฟ้าอยู่บนห้องนั่นละ” กฤศเอ่ยอนุญาตเบาๆ
“ขอบคุณครับ” เขาลุกออกไปจากระเบียงขึ้นห้องหญิงสาวไปทันที โดยมีสายตาสามคุ่มองตามไปอยู่
“อุ้ย! ฝนต้องรบหาฤกษ์ซะแล้วซิคะ” กนิกาบออกอย่างตื่นเต้น
“ เห็นมั้ยน้องจะได้แต่งงานก่อนแล้วเราละตามเมฆเมื่อไหร่จะมีให้แม่ชื่นใจเสียที”
“ปล่อยไปเถอะครับแม่ ถึงเวลามันก็มาเองละครับ” เขาตอบอย่างไมใส่ใจ
กันต์ธรยังคงสำรวจร่างบางอย่างอ่อยอิ่งเมื่อเห็นว่าเธอพร้อมสำหรับบทรักครั้งแรกแล้วระหว่างเขาและเธอ ชายหนุ่มยกสะโพกมนขึ้นก่อนจะส่งตัวเองเข้าไปอย่างเชื่องช้าละอ่อนโยนเขารู้ว่าเธอต้องเจ็บสำหรับครั้งนี้
“โอ้ย!” เธอพยายามดิ้นหนีเมื่อรู้สึกเจ็บเมื่อเขาเข้ามาในเธอ “
”ไม่เป็นไรที่รัก พี่จะระวังเองนะ” เขาหยุดตัวเองเอาไว้และก้มจูบเธอละเรื่อยลงมาที่ซอกคอขาวผ่องและหยุดเลนงานที่ทรวงหยุ่นของเธอจนเธอคลายความเกร็งลงไปแล้วเขาถอยตัวเองออกมาและดันเข้าไปสุดแรงในครั้งเดียวเขาหยุดนิ่งอยู่อย่างนั้นเพื่อให้เธอทำความรู้จักกับมันก่อนที่มีจะให้ความสุขกับเธอพาไปยังวิมารแสนสุขที่เธอจะได้เรียนรู้เป็นครั้งแรก กานต์ธิดารู้สึกตึงแน่นไปหมดเมื่อเขาเข้ามาเต็มอยู่ในเธอ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แม้จะคลายความเจ็บไปบ้างแล้วแต่เธอยังอึดอัดอยู่แต่ร่างหนาที่กอดเธอนิ่งอยู่นั้นเธอรับรู้ว่าเขาพยายามอย่างมากที่จะทำให้เธอเจ็บน้อยที่สุด กันต์ธรเริ่มขยับอย่างช้าๆ แต่หนักหน่วง ชายหนุ่มเริ่มแรงในการขยับเมื่อได้ยินเสียงครางของร่างบางใต้ร่างเขา กานต์ธิดาลืมตาขึ้นมองร่างหนาที่อยู่บนเธอเขามีเสียหน้าเหยเกอย่างเจ็บปวดแต่เธอก็รู้ว่าว่าเขาไม่ได้เจ็บปวดแต่กำลังทรมานเพราะความสุขสมที่เขาได้รับ เขาเริ่มขยับตัวแรงเธอพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ส่งเสียงครางออกมาแต่เธอถูกเขาเล่นงานอย่างหนักจนไม่อาจจะกลั้นอยู่
“พี่กันต์” เธอเปล่งเสียงออกมาสั่นตอนนี้เธอแทบจะไม่มีแรงแล้ว อยากให้เขาช่วยเธอหลุดพ้นจากความทมทรมานนี้เสียที ชายหนุ่มยิ่งได้ยินอย่างนั้นเขาเริ่มขยับตัวเร็วขึ้นยิ่งเมื่อด้วยยินเสียงครางอย่างสุขสมของเธอแล้วเขาเร่งตัวเองเร็วขึ้นเขารับรู้ว่าเธอถึงวิมานแสนสุขแล้วจากแรงบีบรัดภายในที่เป้ฯเองตามธรรมชาติ ขยับเพียงสองสามครั้งเขาก็ตามไปดินแดนแห่งความสุขติดๆ กับเธอ เขาเปล่งเสียงออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อฝากเชื้อพันธ์เอาไว้ในเธออย่างท่วมท้น เขาก้มจูบเธอทั้งที่ยังหอบอยู่เกลี่ยผมเธอเล่นเบาและขยับตัวออกจากเธอแต่รั้งร่างบางให้มาอยู่บนตัวเขาแทน
“อุ๊ย! พี่กันต์ทำอะไรคะ?” เธอเอาแขนทั้งสองข้างดันอกเขาเอาไว้
“อยากมองเมียให้เต็มตาซะหน่อย” เขาอบกอย่างชื่นมื่น
“คนบ้า! “เธอทุบที่อกเขาอย่างขัดเขินที่เขาพูดออกมาโพล่งๆ อย่างนี้
“เอ้าพี่พูดจริงนะ” ตอบยังเถียงหน้าตาย
“ปล่อยเถอะค่ะฟ้าจะกลับห้อง...”
“นอนที่นี่ได้มั้ย?” เขาถามเสียงอ้อน
“ไม่ไหรอกค่ะ เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัยเอานะคะ”
“ทำไมเหรอดะอีกเราจะได้แต่งงานกันเร็วข้นไงคะ” บอกย่างไม่เกรงกลัว
“พี่อยากแต่งงานกับฟ้าเหรอคะ?” เธอถามเสียงเครือ ทำไมถามอย่างนั้นละคะ พี่ซิต้องถามว่าฟ้าเสียใจรึเปล่าที่มันกลายเป็นแบบนี้น่ะ ส่วนบอกได้เลยนะว่าพี่ดีใจมากๆ” เขายิ้มให้เธอทั้งปากและตา
“พี่ไม่คิดว่าฟ้า..ฟ้า...ง่ายเหรอคะ?”
“เหลวไหล เอาอะไรมาพูด เคยคิดว่าฟ้าง่ายเลยนะ และพี่ดีใจและภูมิใจมากที่ฟ้าเต็มใจมอบมันให้พี่อย่างนี้” เขาบอกหนักแน่นรัดร่างบางแน่นขึ้น ได้ฟังอย่างนั้นเธอถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เธอกังวลไปสารพักหลังจากเรื่องนี้ผ่านไปแล้ว กลัวก็กลัวว่าเขาจะไม่เห็นค่าที่ยอมเขาง่ายๆ อย่างนี้แถมเธอเป็นคนที่บุกมาหาเขาถึงห้องเสียอีก
“ฟ้า! เป็นอะไรไปเหรอ!?” เขามองเธออย่างตกใจที่อยู่ๆ เธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างนี้ ถามเท่าไหร่เธอก็เอาแต่ส่ายหน้าอย่างเดียว
“เปล่าค่ะ ฟ้าแค่โล่งใจน่ะค่ะ” เธอบอกเขาเสียงเครือจากการร้องไห้
“คิดอะไรทำร้ายตัวเองอยู่ละซิ” ชายหนุ่มดันตัวเองให้พิงพนักที่หัวเตียงโดยไม่ลืมรั้งให้เธอมาด้วยตอนนี้เธออยู่บนร่างเขาครึ่งๆ ภายในอ้อมแขน เขาลูบไปที่ไหล่และหลังเบาๆ อย่างปลอบโยน เขารู้อยู่แล้วว่าเธอต้องคิดมากบอกรักเธอแล้วเขาก็รักเธอทันทีอย่างนี้เป็นใครก็ต้องคิดมาก แต่สำหรับเขาแล้วเขาทรมานมาหลายปีจากความรักครั้งนี้เขาอดกลั้นมาตลอดและไม่เคยยุ่งกับใครอีกเลย ยิ่งมีเธอมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ อย่างนี้มันทำให้เขาถึงกับตบะแกกันทีเดียว
“พี่กันต์คะ ปล่อยเถอะค่ะฟ้าต้องกลับแล้ว..นะคะ”
“โอเคกลับก็กลับ แต่พรุ่งนี้พี่จะไปพูดกับท่านก่อนแล้วจะให้พ่อกับมี่ท่านมาสู่ขออย่างเป็นทางการอีทีนะที่รัก”
“ค่ะ ฟ้าจะรอนะคะ” เธอบอกพร้อมกับลกขึ้นโดยไม่ลืมคว้าเอาผ้าห่มคลุมร่างอย่างขัดเขินเธอหยิบเอาเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มถอดออกแล้วเหวี่ยงไปจนทั่วมาสวม
“มาให้พี่ชื่นใจอ่อนนะคะแล้วค่อยไป” ชายหนุ่มบออกอย่างอ้อนๆ
“ไม่เอาค่ะลุกเร็ว! มาดูต้นทางให้หน่อยค่ะเร้ว”
“ไม่เอา...อะ” งอนป่องอย่างกับเด็กๆ
“ก็ได้ค่ะแค่แก้มนะคะ” เธอยอมแพ้เดินไปหาเขาที่เตียง
“จุ๊บ” เธอหอมแก้มสากไหนึ่งที และกระเด้งตัวออกมาก่อนจะไม่ได้กลับห้องในคืนนี้ เขายิ้มอย่างชื่นใจแม้จะได้แค่นี้แต่เขาก็รู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหนจากสิ่งที่เธอได้มอบให้กับเขาวันนี้
“พี่รักฟ้านะครับ”จับมือบางเอาไว้
“รอพี่แป๊บนะครับ” เขาเดินเข้าไปหยิบอะไรออกมาจากลิ้นชักหัวเตียงของเขาออกมาเธอเห็นว่ามันเป็นกล่องกำมะหยี่สีแดงและรู้ด้วยว่ามันคืออะไร กันต์ธรเดินเข้ามาใกล้และคุกเข่าลงตรงหน้าคนรักจับมือซ้ายของเธอขึ้นมาจูบเบาๆ ที่กลางฝ่ามือเธอก่อนจะมองน้าเธออย่างแน่วนิ่ง
“พี่รักฟ้านะครับ และคิดว่าชาตินี้จะไม่รักใครอีกแล้ว และพี่อยากมีชีวิตที่เหลืออยู่กับฟ้า แต่งงานกับพี่นะครับ และพี่สัญญาว่าจากนี้ไปพี่จะรักฟ้าคนเดียวและตลอดไป” กานต์ธิดายกมือขวาขึ้นปิดปากเธอเอาไว้แน่นเมื่อได้ยินคำขอแต่งงานพร้อมกับแหวนที่เขาหยิบออกมาจากกล่อง เขายกจ่อเธอไว้รอแค่คำตกลงของเธอเท่านั้น
“ค่ะ...ค่ะ...ค่ะ ฟ้าจะแต่งงานกับพี่ค่ะ” เธอตอเขารัวทีเดียว และโผกอดเขาอย่างยินดี “ฟ้าดีใจจังค่ะว่าแต่แหวนเนี่ยเอามาจากไหนเหรอคะ?”
“พี่ซื้อไว้ตั้งนานแล้วหวังว่าซักวันคงได้มีโอกาสให้ฟ้าได้ใส่น่ะ” เขาบอกอยู่ที่ซอกคอเธอเบาๆ ก่อนจะเน้นจนเกิดรอยอยู่บริเวณนั้น
“ขอบคุณค่ะ แต่ตอนนี้นางซินต้องกลับแล้วค่ะหมดเวลาแล้ว”
“ฮึ ฮึ นั่นซินะเดี๋ยวพี่ไปดูต้นทางให้นะครับ” ปล่อยร่างบางและเดินไปดูที่ประตู
“ฟ้าครับไม่มีใครครับมาครับเดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่เรือนใหญ่นะ” เขายื่นมืออกมารับให้เอออมาจากห้องและเดินออกไปด้วยกัน
“เจ็บมากมั้ยครับ” เขาถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นท่าเดินขัดๆ ขอเธอ
“เจ็บค่ะ แต่ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากนะคะ ฟ้าเต็มใจและรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเจ็บ” เธอกระชับมือแน่นเข้าเมื่อเห็นเขาทำหน้ารู้สึกผิดแค่ไหนที่เขาทำเธอเจ็บ
“คราวหน้ามันจะไม่เจ็บอีกพี่สัญญา”
“ตาบ้า///” เธออุทานออมาเสียงดังเมื่อได้ยินเขาพูดออกมาหน้าตาเฉย
“ไปครับเข้าบ้านได้แล้ว” บอกและหอมแก้มก่อนที่จะดันให้เธอเดินเข้าไปในบ้านเขารอจนเธอเดินขึ้นบ้านไปค่อยกลับไปที่เรือนพักและยังไม่เห็นว่าชยันต์จะกลับมาเขาตัดสินใจเดินไปดูที่อีกฝั่งที่เป็นเรือนพักของสาวๆ กันว่าเพราะเหตุใดรุ่นน้องถึงยังไม่กลับมาเสียที
“อ้าว!? พี่กันต์มานั่งด้วยกันซิครับ” ชยันต์ทักเมื่อเห็นว่ากันต์ธรเดินเข้ามาใกล้กลุ่มเขาที่นั่งเล่นกีตาร์อยู่ที่หน้าเรือนพักอย่างสนุกสนาน
“ดึกมากแล้วนะไม่กลับไปนอนกันละ?” “อีกเดี๋ยวก็กลับแล้วครับ”
“งั้นพี่กลับไปนอนก่อนละกันพรุ่งนี้มีเรื่องที่ต้องจัดการแต่เช้าด้วย” เดินเข้าไปแตะไหล่ชยันต์ก่อนจะเดินกลับไปทางเดิมที่มาเมื่อครู่ แต่พอเขาเดินผ่านหน้าหองของเธอที่อยู่ด้านบนเขาอดที่จะเหลือบมองไม่ได้ ก่อนจะตัดใจเดินกลับไปที่ห้องเขาและข่มตาให้หลับ
กฤตเมฆมองตามร่างหนาของรุ่นน้องที่เขาเองก็รักเหมือนน้องคนหนึ่ง เขาเห็นตั้งแต่ที่น้องสาวเขาลงจากเรือนไปและจนกระทั่งกลับมาที่เรือนใหญ่ เขาเองก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบางจากเวลาที่น้องสาวหายไปก็นานพอควรพอกลับมาเห็นทั้งสองคนดูจะแสดงออกกันมากขึ้น นี่คงจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว เหลือก็แต่กันต์ธรว่าจะเป็นสุภาพบุรุษรึเปล่า เขาอยากรู้ว่ารุ่นน้องจะเขามาคุยกบเขาอย่างลูกผู้ชายรึเปล่า
“เฮ้อ สมหวังกับเขาเสียทีนะยัยฟ้า แต่แกไม่น่าใจร้อนเล้ย” เธอบ่นออกมา ไม่คาดเคยคิดว่าตัวเองจะเป้ฯอย่างมี่ว่าน้องเอาไว้ หากมีความรักแล้วก็ยากที่จะหักใจตัวเอง กฤตเมฆเดินกลับเข้าบ้านไปอย่างโล่งใจที่หมดห่วงเรื่องน้องสาวคนเดียวเสียที หากว่าเธอรักกับกันต์ธรจริงๆ เขาก็โล่งอกเพราะเขารู้จักกับชายหนุ่มมานานและรู้จักพื้นเพและนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี และไมห่วงอะไรอีกแล้วหาทั้งคู่จะแต่งงานกันไป
กันต์ธรรีบตื่นแต่เช้าทั้งที่เมื่อคืนเขาก็นอนดึกพอควรกว่าที่เขาจะข่มตาให้หลับไปก็เล่นเอาเกือบเช้าเหมือนกัน แต่วันนี้เขาเองก็มีเรื่องที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย เขาจัดการโทรบอกพ่อกับแม่เขาแล้วเรื่องของกานต์ธิดาและอยากให้ท่านมาที่นี่เร็วที่สุดเพราะเขาไม่อยากที่ระยะเวลาเอาไว้นาน ไม่รู้ว่าการที่เขารักเธอเมื่อคืนจะมีอะไรตามมารึเปล่าเขาไม่อยากให้เธอขายหน้าคนอื่นก่อนแต่งงานกันไป ก๊อก ก๊อก กันต์ธรเคาะหน้าห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มเพื่อคุยอย่างลูกผู้ชายในเมื่อเขากล้าทำเขาเองก็กล้ารับเขาอยากจะคุยกับเจ้านายเสียก่อน แล้วค่อยไปคุยกับท่านทั้งสอง
“นายครับ” เขาเรียกกฤตเมฆที่ก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่ ว่ามา มีอะไร” เขาหยุดงานตรงหน้าและหันมาสนใจลูกน้องหนุ่มแทน จับตามองร่างหนาตรงหน้านิ่ง
“คือว่า...ผมจะบอกว่า..ผมกับ...เอ่อ...”
“มัวแต่เอ่อ อยู่นั่นละ ฉันจะรู้เรื่องมั้ยเนี่ย” ถามออกไปอย่างรำคาญ เมื่ออีกฝ่ายมัวแต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดเสียที
“ผมกับน้องฟ้าเรารักกันครับ” แต่ปฏิกิริยาที่เขาได้รับกลบเป็นการเงียบเฉยซึ่งผิดจากที่เขาคิดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง
“แล้วไงนายสองคนรักกันแล้ว?...”
“ผมอยากแต่งงานกับเธอครับ” บอกอย่างหนักแน่น
“ไม่คิดว่ามันจะเร็วไปเหรอ?” “ไม่ครับผมรักเธอมานานแล้วด้วยทั้งดานที่ดีและไม่ดีผมเห็นเธอมาหมดแล้วและผมไม่อยากจะยืดเวลาออกไปอีกเราสองคนมีเวลาที่ศึกษากันทั้งชีวิตอยู่แล้วครับ”
“นายมั่นใจมากเลยเหรอ ลองคบกันดูก่อนแล้วค่อยแต่งงานกันอีปีสองปีก็ได้นี่นา” เขาลองหยั่งเชิงว่ากันต์ธรจะเป็นอย่างไร
“ไม่เอาหรอกครับผมอยากมีลูกเร็วๆ พ่อกับแม่ผมก็อายุมากแล้วและท่านเองก็อยากจะอุ้มหลานก่อนตายด้วย นายเห็นใจผมเถอะนะครับเรารักกันจริงๆ”
“นายถามยัยฟ้าแล้วเหรอ?” “ครับ เธอบอกว่าให้ไปคุยกับผู้ใหญ่ก่อนผมเลยมาบอกนายก่อนครับ”
“นายสองคนมีอะไรกันรึยัง?” ถามออกไปโต้งๆ
“เอ่อ..” กันต์ธรไม่กล้าพูดออกมาเพราะมันจะทำให้อีกฝ่ายเสียหายแม้อีกฝายจะเป็นพี่ชายของเธอก็ตาม
“เอาละไม่ต้องบอก เรื่องเมื่อคืนฉันเห็นหมดละ”
“นายเมฆเห็น..เอ่อ...” “ทุกอย่าง นายจะคุยกับคุณพ่อคุณแม่เลยรึเปล่า”
“ครับ อยากจะคุยเลยผมกลัวว่าจะมีอะไรผิดพลาดน่ะครับ” บอกตามความจริง
“แกนี่น้าบทจะใจร้อนก็ไม่ดูอะไรเลย” เขาส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ จนด้วยคำพูดเขารู้ว่ากันต์ธรรักน้องสาวของเขาแต่ไม่เคยแสดงออกให้เจ้าตัวเขาได้รู้เลย แต่พอจะแสดงให้รู้ก็กลายเป็นอย่างนี้แล้ว
“ขอโทษครับ แต่นายครับผมรักเธอจริงๆ นะครับ”
“ช่างเถอะๆ เอาเป็นว่าไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ท่านดีกว่าว่าท่านจะว่ายังไงบ้าง” ยกมือห้ามไม่ให้พูดต่อ เขาองก็รู้ว่าพ่อกับแม่เขารู้สึกอย่างไรกับชายหนุ่มท่านทั้งสองอยากได้ชายหนุ่มคนนี้มาเป็นลูกเขยมานานมากแล้วแต่ติดวาทั้งสองคนยังวางตัวห่างกันอยู่ไม่ยอมแสดงความรู้สึกออกมาให้ท่านได้รู้ แต่ถ้าได้รับรู้อย่างนี้ท่านคงดีใจมาก
“ครับ” ชายหนุ่มทั้งสองคนเดินมาหาคุณกฤศและคุณกนิกาที่หน้าระเบียงท่านทั้งสองออกมานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
“พ่อ แม่ครับกันต์เขามีเรื่องจะคุยด้วยครับ”
“สวัสดีครับท่าน เมื่อวานขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้อยู่รอ” กันต์ธรยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน “เอ้า..นั่งซิกันมืออะไรรึเปล่า?” คุณกฤศถามอย่างเอ็นดูเขาชอบชายหนุ่มคนนี้มากตั้งใจทำงานไม่เจ้าชู้ตั้งแต่ที่เห็นมาก็หลายีแล้วยังไม่เคยเห็นมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเสียที ถ้าใครได้แต่งงานด้วยคงโชคดีไม่น้อยเลย
“ครับ..คือว่าท่านครับผมจะบอกว่า..” “มีอะไรก็ว่ามาเถอะฉันก็เหมือนแม่ของกันต์เหมือนกันนะ” คุณกนิกากล่าวอย่างเอ็นดู
“ครับผมจะขอ...อนุญาตแต่งงานครับ” “เฮ้ย! กับใครไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย!?” คุณกฤศตกใจกับเรื่องที่ได้รับรู้เมื่อครู่ กนิกาเองก็ตกใจไม่แพ้สามีคนที่หมายตาเอาไว้ให้ลูกสาวกลับมาบอกกว่าจะแต่งงานเสียนี่แล้วลูกสาวเธอละ?
“ท่านทั้งสองก็รู้จักครับ”
“ใครละ? ที่พวกฉันก็รู้จักน่ะ” ท่านเอ่ยถามอย่างใจเย็น
“คุณฟ้าครับ” กล่าวเสียงเรียบอย่างใจเย็นที่สุด
“ห๋า! ยัยฟ้าเนี่ยนะ ไปรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่กันละ?” คุณกฤศเลิกคิ้วถามอย่างอดที่จะสงสัยไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นท่าทีระหว่างสองคนนี้ให้เห็นเลย เออ ไม่ใช่ซิต้องบอกว่าจากชายหนุ่มแต่ลูกสาวเขาน่ะมันเห็นๆ อยู่ว่ารักผู้ชายคนนี้มานาน คุณกนิกาแอบยิ้มอยู่ในใจอย่างสมใจ ไม่คิดว่าเรื่องที่เคยคุยกับสามีจะเป็นจริงได้ เธอเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีวันนี้ออกจะหมดหวังแล้วเสียอีก
“รักมานานแล้วครับ แต่ผมคิดว่าตัวเองไม่คู่ควร..”
“อะไร? ที่เรียกว่าไม่คู่ควร?”
“ผมเป็นแค่ลูกจ้าง...”
“เหลวไหล คิดอย่างนี้เท่ากับดูถูกพวกเรานะกันต์...ฉันกับเมียไม่แม้แต่จะคิดแบบนั้นเลย เราเองก็คิดเหมือนกันว่าอยากจะได้นายมาเป็นลูกเขย แต่ก็คิดว่าหมดหวังนายเองก็เฉยซะขนาดนี้ ว่าแต่เรื่องแต่งงานจะเอาจริงเหรอ?”
“ครบ ผมอยากแต่งงานจริงๆ กับคุณฟ้าครับถ้าท่านไม่รังเกียจผมจะให้คุณพ่อกับคุณแม่ทำทำการสู่ขออย่างเป็นทางการอีกทีครับ” บอกอย่างอ่อนน้อม
“ฮะๆ ฮะๆๆๆ ดี! กล้าดีฉันชอบ..” คุณกฤศกล่าวออกมาอย่างอารมณ์ เขาชอบคนที่กล้าพูดอย่างนี้ ในเมื่อได้คนที่คิดเอาไว้ทำไมเขาจะไม่ตกลง
“พ่อว่าไงครับ” กฤตเมฆ ถามขึ้นมาหลังจากนั่งเงียบอยู่นาน
“แม่ว่าไง?”หันไปถามภรรยาคู่ยากของเขา
“ฝนแล้วแต่พี่กฤศค่ะ” กนิกาเอ่ยเสียงหวานมองสามีอย่างรักใคร่
“เอาเป็นว่าพ่อกับแม่นายพร้อมเมื่อไหร่ละก็ให้มาหาได้เลย”
“ครับ! พรุ่งนี้นะครับ” กันต์ธรรับคำอย่างยินดี เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีอุปสรรคอะไรแล้ว
“เฮ้อ! กลายเป็นวัยรุ่นใจร้อนไปแล้ว” ส่ายหน้าอย่างเอ็นดูที่คนที่ใจเย็นอย่างกันต์ธรกลายไปไฟอย่างนี้ได้
“จะว่าอะไรมั้ยครับถ้าผมจะขอ...”
“ไปเถอะยัยฟ้าอยู่บนห้องนั่นละ” กฤศเอ่ยอนุญาตเบาๆ
“ขอบคุณครับ” เขาลุกออกไปจากระเบียงขึ้นห้องหญิงสาวไปทันที โดยมีสายตาสามคุ่มองตามไปอยู่
“อุ้ย! ฝนต้องรบหาฤกษ์ซะแล้วซิคะ” กนิกาบออกอย่างตื่นเต้น
“ เห็นมั้ยน้องจะได้แต่งงานก่อนแล้วเราละตามเมฆเมื่อไหร่จะมีให้แม่ชื่นใจเสียที”
“ปล่อยไปเถอะครับแม่ ถึงเวลามันก็มาเองละครับ” เขาตอบอย่างไมใส่ใจ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น