ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6
ตอนที่ 6
“เฮ้อ..พรุ่งนี้จะตายเพราะสายตากรีดแทงรึเปล่าน้อ...” เธอนึกถึงสาวๆ หลายคนที่อยากอยู่ใกล้ๆ เจ้าของบริษัท แค่เล็กน้อยก็ยังดี แต่นี่เธอต้องไปทำงานใกล้ชิดกับเขาแล้วยังมีแม่ผู้ช่วยที่กิตติศัพท์ล่ำลือในหมู่พนักงานด้วยกันว่าเป็นคนที่คอยทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง จนสาวๆ อื่นไม่สิทธิ์เข้าใกล้ เรียกได้ว่าเกลียดผู้หญิงที่เข้าใกล้ท่านทุกคนกันทีเดียว
มนปริยาได้แต่คิดอยู่คนเดียวหลังจากที่เธอกลับมาถึงคอนโดฯ แล้ว เธอไม่อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เลยให้ตายซิ นี่วันซวยของเธอรึเปล่าเนี่ย
‘ช่างเถอะ คิดมากไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดกันละ’ ก่อนจะผล็อยหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน เพราะเมื่อคืนเธอเร่งงานของเธอเกือบตายไม่ได้นอนเลย แล้วนี่ยังเกิดเรื่องระทึกขวัญสั่นประสาทกับเธออีก
“นี่...หล่อนจะไปไหนน่ะ” เสียงประชาสัมพันธ์สาวคู่อริของมนปริยาและวิชญาดาทักดังขึ้นเมื่อหญิงสาวกำลังจะไปลิฟต์ตัวเดิมตามปกติเหมือนทุกวัน
“เอ้า...ไม่เห็นเหรอว่าจะไปทำงานน่ะ ว่าแต่เธอมีอะไรรึไงส่งเสียงรบกวนอารมณ์แต่เช้าอย่างนี้น่ะ” หันมามองหนาหญิงสาวคนนั้นกวนๆ
“เป็นไปได้ฉันไม่อยากจะเสวนากับหล่อนหรอกยะ...เจ้านายสั่งว่าถ้าหล่อนมาแล้วให้ขึ้นลิฟต์ส่วนตัวท่านไปหาท่านที่ห้องด้วย ไม่ต้องแวะที่แผนก” บอกเสียงหนักอย่างไม่พอใจ ขนาดเธออยากที่จะใกล้ชิดท่านยังไม่ได้เข้าใกล้เลย นี่นังอิ่มมันเป็นใครท่านโทรมาเองว่าให้นังอิ่มขึ้นไปหาด้วย แต่เอ้ะ! หรือว่านังอิ่มไปสะดุดขาใครเข้าจนต้องเรียกไปตักเตือน
“อ้าวเหรอ? อะไรจะเร็วขนาดนั้น” เธอบ่นกับตัวเอง โดยไม่เห็นสายตาริษยาจากสาวสวยอีกคนที่กำลังเต็มไปด้วยไฟแค้น นังอิ่มมีอะไรดีกว่าเธอเนี่ย เตี้ยก็เตี้ยมีดีอย่างเดียวขาวก็แค่เนี้ย
“ขอบใจที่บอก”
“หนอย...อย่าให้ถึงทีฉันนะ” ข่าวการโดนสั่งย้ายที่ทำงานของมนปริยากระจายไปทั่วตึกอย่างเร็วเพราะเรื่องเจ้านายเป็นที่สนใจของพนักงานอยู่แล้ว และยิ่งสาวสวยของบริษัทโดนสั่งให้ทำงานใกล้ชิดท่านโดยที่ไม่มีใครรู้สาเหตุจริงๆว่าอะไรที่ทำให้เขามีคำสั่งอย่างนี้
“ดิฉันมาหาท่านประธานค่ะ” เดินมาที่โต๊ะเลขาฯ หน้าห้องที่นั่งอยู่ หญิงสาวที่นั่งอยู่มองหน้ามนปริยาอย่างเอาเรื่องทีเดียว
“ท่านไม่ว่าง ไม่ต้องการพบ” ตอบอย่างไม่ต้องคิด นี่คิดจามาอ่อยท่านของฉันเหรอยะ
“แต่ท่านให้ดิฉันมาพบนะคะ ถ้าท่านไม่ต้องการพบดิฉันละก็...” เธอทำท่าว่าจะเดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจกับท่าทีของอีกฝ่าย
“เดี๋ยว!” เรียกเอาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินจากไป
“มีอะไรคะ?” หันกลับมาทำหน้าซื่อออย่างไม่รู้เรื่อง
“รอก่อนเดี๋ยวฉันจะเรียนท่านให้ จะให้บอว่าเธอเป็นใคร” หยิบโทรศัพท์พลางมองหน้าหญิงสาวอย่างดูแคลน
“บอกว่ามนปริยามาพบ ถ้าไม่ต้องการพบก็อย่าเรียกมาอีก” บอกเรียบๆ ไม่สนใจสายตาไม่เป็นมิตรที่มองมานั้น
“ท่านคะ....มีคนชื่อมนปริยามาขอ...”
“ท่านให้เข้าไปได้” เธอบอกอยังไม่ทันจบด้วยซ้ำท่านประธานก็บอกให้เขาไปได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดคาดมากๆ
“ขอบคุณ..” บอกอีกฝ่ายเสียงเย็น และผลักประตูหน้าห้องเข้าไปและเห็นว่าชายหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว นี่เขามาทำงานเช้าขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย....
“อ้าวมาแล้วเหรอคุณอิ่มนั่งซิเอากาแฟมั้ย?”
“คะ ขอซักถ้วยแล้วกัน ขอบคุณค่ะ”
“เอากาแฟสองถ้วยนะคุณสาลี่” บอกผู้ช่วยของเนติธรเสียงเรียบ
“ค่ะ” เธอรับคำเสียงหนักอย่างไม่พอใจเมื่อต้องชงกาแฟมาให้ผู้หญิงคนนี้ด้วย
“ทะ...เอ่อคุณจินมีอะไรให้ฉันทำเหรอคะถึงสั่งไปแต่เช้าขนาดนี้?”
“เปล่าผมแค่ได้ยินอะไรมาน่ะ เห็นว่าคุณกับประชาสัมพันธ์ไม่ค่อยถูกกันเหรอ?”
“ก็นิดหน่อยค่ะ เรื่องไร้สาระ..”เธอตอบปัดๆ อย่างไม่ใส่ใจ “ตั้งแต่นี้ไปคุณมาทำงานที่ห้องผมเลยนะ “
“วันนี้!?”
“ใช่...วันนี้เดี๋ยวอิ่มย้ายมาทำงานในห้องนี้กับผมนะ ผมให้คนเตรียมเอกสารมาให้คุณศึกษาแล้ว ตั้งแต่วันนี้คุณจะมาเป็นผู้ช่วยผมแทนเน ที่จะไม่อยู่ในช่วงนี้เพราะเขาต้องไปตรวจสาขาที่ลอนดอนน่ะ”
“แต่ว่า...งานของฉัน...”
“ไม่ต้องห่วงผมบอกคุณชลไปแล้วเรื่องงานในส่วนที่คุณดูอยู่น่ะ....แล้วก็ต่อไปแทนตัวเองด้วยชื่อนะผมไม่ชอบเรียกฉันอย่างนั้นฉันอย่างนี้ไม่เอา....มันฟังแข็งๆ ยังไงไม่รู้”
“เอ่อ...”
“ว่าไง?”
“ขอ...ขอตัวไปเก็บของที่แผนกได้มั้ยคะ”
“ได้...แต่ต้องแทนตัวเองใหม่นะ”
“ค่ะ..อิ่มขอไปเก็บของได้มั้ยคะคุณจิน”
“ไปเถอะ พอกลับมาทุกอย่างคงเรียบร้อยพอดี”
“ขอบคุณค่ะ” ก่อนจะรีบลุกออกไปจากห้องโดยไม่รอกาแฟ เธอขอตัวหลบไปพักหายใจก่อนให้หัวใจได้ทำงานเป็นปกติก่อน ดูเขามองเธอซิ คมกริบเชียวเล่นเอาใจแกว่งไปเหมือนกัน
จิณณ์วัตรมองตามร่างบางที่ผลุนผลันออกจากห้องทำงานของเขาไปอย่างอ่อนโยน ยังไงช่วงนี้เขาจะต้องทำให้เธอยอมรับความรู้สึกของเขาให้ได้ และจะทำให้ชีวิตนี้เธอจะขาดเขาไม่ได้เลยทีเดียว
“แหม...ไม่นึกว่าเข้านายผู้เงียบขรึมและเย็นชาเป็นปีศาจอย่างคุณจินจะเล่นอย่างนี้เพียงเพื่อให้หญิงสาวที่พอใจมาอยู่ใกล้ๆ เนี่ยยอมให้ผมไปลนดอนเชียวเหรอเนี่ย” เนติธรเดินออกมาจากห้องพักเล็กๆมุมหนึ่ง
“อย่าพูดมากเน แกมีหน้าที่ไปตรวจงานก็ไปทำให้เรียบร้อย อย่าให้หลุดรอดไปได้ซักคนเดียวนะ และที่สำคัญฉันให้อำนาจในการตัดสินใจนายเต็มที่”
“ขอบคุณค้ราบ...ว่าแต่คิดว่าจะสำเร็จมั้ย?”
“เรื่อง?”
“อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องนายก็รู้ว่าฉันหมายถึงเรื่องอะไร แต่จะบอกให้ก็ได้ก็เรื่องคุณมนปริยาเธอน่ะซิ ดูท่าว่าเธอจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนี่นา จากประวัติงานของเธอและเรื่องเกี่ยวกับตัวเธอเองเนี่ยก็ใช่ย่อยอยู่เหมือนกันนะ แต่ที่ฉันสงสัยสุดๆ ไม่มีใครที่รู้จักครอบเธอซักคนเดียวเลยนะ”
“เรื่องนั้นฉันไม่สน ฉันสนเขาคนเดียวเท่านั้น และฉันเชื่อว่ายังไงเธอก็หนีฉันไม่รอดหรอกเน” บอกอย่างเจ้าเล่ห์ ยังไงเขาก็ต้องทำทุกทางให้ได้หัวใจเธอมาครบครองเอาให้ให้จงได้อยู่แล้ว
“งั้นก็ขอให้โชคดีนะ ฉันไปก่อนละเดี๋ยวไม่ทันเครื่อง” เนติธรเดินออกจากห้องไปทันที ความจริงเขาเรียนจบกฎหมายระหว่างประเทศแต่เขาสมัครใจที่จะมาช่วยงานเพื่อนของเขาอย่างจิณณ์วัตรมากกว่าเลยเลือกที่จะมาเป็นผู้ช่วยของเขาอย่างนี้
“นายเองก็เช่นกันนะ ฉันจะรอฟังข่าวดีอยู่ทางนี้” เนติธรโบกมือเป็นสัญญาณให้คนข้างหลังรับรู้วาเขาจะไมทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
‘จินนายดูท่าว่าจะเป็นเอามากนะเนี่ยเล่นย้ายสาวสวยมาอยู่ใกล้ชิดแบบนี้ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้เพื่อนของเขาจะมีชื่อเสียงเรื่องผู้หญิงอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่เคยให้ใครมาทำงานใกล้ชิดถึงขนาดนี้ ไม่แน่ว่าช่วงที่เขาไม่อยู่อาจจะมีอะไรสนุกๆก็เป็นได้’
“ยัยอิ่ม! แก๊! ไปทำอะไรมาถึงได้โดนเรียกไปแต่เช้าอย่างนั้นน่ะ” วิชญาดารี่เข้ามาให้มานริยาเพื่อนสนิททันทีที่เห็นว่าหญิงสาวเดินมาที่โต๊ะแล้ว
“เปล่า..”
“เปล่า?...มันจะเปล่าได้ยังไงโดนเรียกนะแก...”
“ก็บอกว่าไม่มีอะไรไงละ คุณจินเอ้ย! ท่านประธานน่ะจะให้ฉันไปช่วยงานก็แค่นั้นน่ะ ตอนเที่ยงอย่าลืมไปเรียกฉันด้วยละ แม่เลขาฯ หน้าห้องนาหมั่นไส้ชะมัดยาดเลยแก” บอกอย่างโมโห
“เออ...แต่ยัยอิ่มไปทำยังไงท่านถึงให้ไปช่วยงานท่านนะ?” อดที่จะถามไม่ได้
“ไม่มีอะไรมากหรอก แค่แจ็กพอ็ตแตกก็เท่านั้นไม่ต้องห่วงหรอกไม่นานก็ได้กลับมาเหมือนเดิมแหละ” ตอบอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนักเพราะคิดว่าเรื่องย้ายไปช่วยงานเจ้าของบริษัทแค่นี้คงไม่มีอะไรมาก แต่ไม่ใช่กับคนอื่นหลายคนคิดว่าการที่ได้ไปทำงานในห้องท่านก็เท่ากับว่ามีโอกาสก้าวหน้าไปในตำแหน่งอื่นๆ ต่อไป
“แกก็ระวังด้วยละ ท่านดุอย่างนั้นน่ะ” บอกอย่างรู้กิตติศัพท์เจ้านายใหญ่เป็นอย่างดี
“เหรอ? ไม่นี่...” เธอบอกตามที่เห็นเขาก็ดูใจดีนี่นาไม่เห็นดุเหมือนกับที่ว่าเลยซักหน่อย
“ห๋า..ประสาทกลับรึไงยัยอิ่ม..ที่นี่ใครๆ เขาก็รู้ไปทั่วว่านายใหญ่ดุยังกับเสือแนะ” “โอเคๆ ฉันจะระวังละกัน”
“รู้ก็ดีแล้ว จากนี้ไปแกโดนแน่ยัยอิ่มไม่รู้เหรอว่าที่นี่เขาอยากเข้าไปทำงานที่ห้องนั้นกันแค่ไหนน่ะ บางทีฉันยังคิดว่าแทบจะฆ่ากันตายทีเดียวนะแก...”
“เรื่องนั้นฉันรู้อยู่แล้ว แต่ฉันไม่ได้ขอไปนี่หว่า ท่านให้ฉันไปช่วยเองนะ จะมาโทษฉันไม่ได้นะเว้ย...”
“มันก็ใช่ แต่คนที่ได้เข้าไปยังไงไม่มีใครเขาโทษท่านประธานหรอกเขาจะมาเขม่นแกแทนมากกว่า”
“เรื่องนั้นเป็นเรื่องอนาคต ใครร้ายมาฉันก็ร้ายคืนแค่นั้น...”
“คงไม่เอาถึงตายะนะ” มองอย่างระแวง
“ไม่รู้..อยู่ที่อีกฝ่ายมากกว่า บังเอิญนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นน่ะฉันติมาจากพวกอาๆ วะ แกไม่หายหรอก ขนาดพ่อกับแม่ฉันยังแก้ไม่ได้เลย” ยอมรับหน้าชื่นตาบาน เรื่องนิสัยนี้พ่อเธอยังเคยเอ่ยปากเลยว่าเธอได้ส่วนนั้นของพวกอาๆ ที่คอยดูแลอยู่ช่วงที่อยู่ต่างประเทศนั้น เธอรับมาเต็มๆ
“เฮ้อ..พรุ่งนี้จะตายเพราะสายตากรีดแทงรึเปล่าน้อ...” เธอนึกถึงสาวๆ หลายคนที่อยากอยู่ใกล้ๆ เจ้าของบริษัท แค่เล็กน้อยก็ยังดี แต่นี่เธอต้องไปทำงานใกล้ชิดกับเขาแล้วยังมีแม่ผู้ช่วยที่กิตติศัพท์ล่ำลือในหมู่พนักงานด้วยกันว่าเป็นคนที่คอยทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง จนสาวๆ อื่นไม่สิทธิ์เข้าใกล้ เรียกได้ว่าเกลียดผู้หญิงที่เข้าใกล้ท่านทุกคนกันทีเดียว
มนปริยาได้แต่คิดอยู่คนเดียวหลังจากที่เธอกลับมาถึงคอนโดฯ แล้ว เธอไม่อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เลยให้ตายซิ นี่วันซวยของเธอรึเปล่าเนี่ย
‘ช่างเถอะ คิดมากไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดกันละ’ ก่อนจะผล็อยหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน เพราะเมื่อคืนเธอเร่งงานของเธอเกือบตายไม่ได้นอนเลย แล้วนี่ยังเกิดเรื่องระทึกขวัญสั่นประสาทกับเธออีก
“นี่...หล่อนจะไปไหนน่ะ” เสียงประชาสัมพันธ์สาวคู่อริของมนปริยาและวิชญาดาทักดังขึ้นเมื่อหญิงสาวกำลังจะไปลิฟต์ตัวเดิมตามปกติเหมือนทุกวัน
“เอ้า...ไม่เห็นเหรอว่าจะไปทำงานน่ะ ว่าแต่เธอมีอะไรรึไงส่งเสียงรบกวนอารมณ์แต่เช้าอย่างนี้น่ะ” หันมามองหนาหญิงสาวคนนั้นกวนๆ
“เป็นไปได้ฉันไม่อยากจะเสวนากับหล่อนหรอกยะ...เจ้านายสั่งว่าถ้าหล่อนมาแล้วให้ขึ้นลิฟต์ส่วนตัวท่านไปหาท่านที่ห้องด้วย ไม่ต้องแวะที่แผนก” บอกเสียงหนักอย่างไม่พอใจ ขนาดเธออยากที่จะใกล้ชิดท่านยังไม่ได้เข้าใกล้เลย นี่นังอิ่มมันเป็นใครท่านโทรมาเองว่าให้นังอิ่มขึ้นไปหาด้วย แต่เอ้ะ! หรือว่านังอิ่มไปสะดุดขาใครเข้าจนต้องเรียกไปตักเตือน
“อ้าวเหรอ? อะไรจะเร็วขนาดนั้น” เธอบ่นกับตัวเอง โดยไม่เห็นสายตาริษยาจากสาวสวยอีกคนที่กำลังเต็มไปด้วยไฟแค้น นังอิ่มมีอะไรดีกว่าเธอเนี่ย เตี้ยก็เตี้ยมีดีอย่างเดียวขาวก็แค่เนี้ย
“ขอบใจที่บอก”
“หนอย...อย่าให้ถึงทีฉันนะ” ข่าวการโดนสั่งย้ายที่ทำงานของมนปริยากระจายไปทั่วตึกอย่างเร็วเพราะเรื่องเจ้านายเป็นที่สนใจของพนักงานอยู่แล้ว และยิ่งสาวสวยของบริษัทโดนสั่งให้ทำงานใกล้ชิดท่านโดยที่ไม่มีใครรู้สาเหตุจริงๆว่าอะไรที่ทำให้เขามีคำสั่งอย่างนี้
“ดิฉันมาหาท่านประธานค่ะ” เดินมาที่โต๊ะเลขาฯ หน้าห้องที่นั่งอยู่ หญิงสาวที่นั่งอยู่มองหน้ามนปริยาอย่างเอาเรื่องทีเดียว
“ท่านไม่ว่าง ไม่ต้องการพบ” ตอบอย่างไม่ต้องคิด นี่คิดจามาอ่อยท่านของฉันเหรอยะ
“แต่ท่านให้ดิฉันมาพบนะคะ ถ้าท่านไม่ต้องการพบดิฉันละก็...” เธอทำท่าว่าจะเดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจกับท่าทีของอีกฝ่าย
“เดี๋ยว!” เรียกเอาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินจากไป
“มีอะไรคะ?” หันกลับมาทำหน้าซื่อออย่างไม่รู้เรื่อง
“รอก่อนเดี๋ยวฉันจะเรียนท่านให้ จะให้บอว่าเธอเป็นใคร” หยิบโทรศัพท์พลางมองหน้าหญิงสาวอย่างดูแคลน
“บอกว่ามนปริยามาพบ ถ้าไม่ต้องการพบก็อย่าเรียกมาอีก” บอกเรียบๆ ไม่สนใจสายตาไม่เป็นมิตรที่มองมานั้น
“ท่านคะ....มีคนชื่อมนปริยามาขอ...”
“ท่านให้เข้าไปได้” เธอบอกอยังไม่ทันจบด้วยซ้ำท่านประธานก็บอกให้เขาไปได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดคาดมากๆ
“ขอบคุณ..” บอกอีกฝ่ายเสียงเย็น และผลักประตูหน้าห้องเข้าไปและเห็นว่าชายหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว นี่เขามาทำงานเช้าขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย....
“อ้าวมาแล้วเหรอคุณอิ่มนั่งซิเอากาแฟมั้ย?”
“คะ ขอซักถ้วยแล้วกัน ขอบคุณค่ะ”
“เอากาแฟสองถ้วยนะคุณสาลี่” บอกผู้ช่วยของเนติธรเสียงเรียบ
“ค่ะ” เธอรับคำเสียงหนักอย่างไม่พอใจเมื่อต้องชงกาแฟมาให้ผู้หญิงคนนี้ด้วย
“ทะ...เอ่อคุณจินมีอะไรให้ฉันทำเหรอคะถึงสั่งไปแต่เช้าขนาดนี้?”
“เปล่าผมแค่ได้ยินอะไรมาน่ะ เห็นว่าคุณกับประชาสัมพันธ์ไม่ค่อยถูกกันเหรอ?”
“ก็นิดหน่อยค่ะ เรื่องไร้สาระ..”เธอตอบปัดๆ อย่างไม่ใส่ใจ “ตั้งแต่นี้ไปคุณมาทำงานที่ห้องผมเลยนะ “
“วันนี้!?”
“ใช่...วันนี้เดี๋ยวอิ่มย้ายมาทำงานในห้องนี้กับผมนะ ผมให้คนเตรียมเอกสารมาให้คุณศึกษาแล้ว ตั้งแต่วันนี้คุณจะมาเป็นผู้ช่วยผมแทนเน ที่จะไม่อยู่ในช่วงนี้เพราะเขาต้องไปตรวจสาขาที่ลอนดอนน่ะ”
“แต่ว่า...งานของฉัน...”
“ไม่ต้องห่วงผมบอกคุณชลไปแล้วเรื่องงานในส่วนที่คุณดูอยู่น่ะ....แล้วก็ต่อไปแทนตัวเองด้วยชื่อนะผมไม่ชอบเรียกฉันอย่างนั้นฉันอย่างนี้ไม่เอา....มันฟังแข็งๆ ยังไงไม่รู้”
“เอ่อ...”
“ว่าไง?”
“ขอ...ขอตัวไปเก็บของที่แผนกได้มั้ยคะ”
“ได้...แต่ต้องแทนตัวเองใหม่นะ”
“ค่ะ..อิ่มขอไปเก็บของได้มั้ยคะคุณจิน”
“ไปเถอะ พอกลับมาทุกอย่างคงเรียบร้อยพอดี”
“ขอบคุณค่ะ” ก่อนจะรีบลุกออกไปจากห้องโดยไม่รอกาแฟ เธอขอตัวหลบไปพักหายใจก่อนให้หัวใจได้ทำงานเป็นปกติก่อน ดูเขามองเธอซิ คมกริบเชียวเล่นเอาใจแกว่งไปเหมือนกัน
จิณณ์วัตรมองตามร่างบางที่ผลุนผลันออกจากห้องทำงานของเขาไปอย่างอ่อนโยน ยังไงช่วงนี้เขาจะต้องทำให้เธอยอมรับความรู้สึกของเขาให้ได้ และจะทำให้ชีวิตนี้เธอจะขาดเขาไม่ได้เลยทีเดียว
“แหม...ไม่นึกว่าเข้านายผู้เงียบขรึมและเย็นชาเป็นปีศาจอย่างคุณจินจะเล่นอย่างนี้เพียงเพื่อให้หญิงสาวที่พอใจมาอยู่ใกล้ๆ เนี่ยยอมให้ผมไปลนดอนเชียวเหรอเนี่ย” เนติธรเดินออกมาจากห้องพักเล็กๆมุมหนึ่ง
“อย่าพูดมากเน แกมีหน้าที่ไปตรวจงานก็ไปทำให้เรียบร้อย อย่าให้หลุดรอดไปได้ซักคนเดียวนะ และที่สำคัญฉันให้อำนาจในการตัดสินใจนายเต็มที่”
“ขอบคุณค้ราบ...ว่าแต่คิดว่าจะสำเร็จมั้ย?”
“เรื่อง?”
“อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องนายก็รู้ว่าฉันหมายถึงเรื่องอะไร แต่จะบอกให้ก็ได้ก็เรื่องคุณมนปริยาเธอน่ะซิ ดูท่าว่าเธอจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนี่นา จากประวัติงานของเธอและเรื่องเกี่ยวกับตัวเธอเองเนี่ยก็ใช่ย่อยอยู่เหมือนกันนะ แต่ที่ฉันสงสัยสุดๆ ไม่มีใครที่รู้จักครอบเธอซักคนเดียวเลยนะ”
“เรื่องนั้นฉันไม่สน ฉันสนเขาคนเดียวเท่านั้น และฉันเชื่อว่ายังไงเธอก็หนีฉันไม่รอดหรอกเน” บอกอย่างเจ้าเล่ห์ ยังไงเขาก็ต้องทำทุกทางให้ได้หัวใจเธอมาครบครองเอาให้ให้จงได้อยู่แล้ว
“งั้นก็ขอให้โชคดีนะ ฉันไปก่อนละเดี๋ยวไม่ทันเครื่อง” เนติธรเดินออกจากห้องไปทันที ความจริงเขาเรียนจบกฎหมายระหว่างประเทศแต่เขาสมัครใจที่จะมาช่วยงานเพื่อนของเขาอย่างจิณณ์วัตรมากกว่าเลยเลือกที่จะมาเป็นผู้ช่วยของเขาอย่างนี้
“นายเองก็เช่นกันนะ ฉันจะรอฟังข่าวดีอยู่ทางนี้” เนติธรโบกมือเป็นสัญญาณให้คนข้างหลังรับรู้วาเขาจะไมทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
‘จินนายดูท่าว่าจะเป็นเอามากนะเนี่ยเล่นย้ายสาวสวยมาอยู่ใกล้ชิดแบบนี้ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้เพื่อนของเขาจะมีชื่อเสียงเรื่องผู้หญิงอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่เคยให้ใครมาทำงานใกล้ชิดถึงขนาดนี้ ไม่แน่ว่าช่วงที่เขาไม่อยู่อาจจะมีอะไรสนุกๆก็เป็นได้’
“ยัยอิ่ม! แก๊! ไปทำอะไรมาถึงได้โดนเรียกไปแต่เช้าอย่างนั้นน่ะ” วิชญาดารี่เข้ามาให้มานริยาเพื่อนสนิททันทีที่เห็นว่าหญิงสาวเดินมาที่โต๊ะแล้ว
“เปล่า..”
“เปล่า?...มันจะเปล่าได้ยังไงโดนเรียกนะแก...”
“ก็บอกว่าไม่มีอะไรไงละ คุณจินเอ้ย! ท่านประธานน่ะจะให้ฉันไปช่วยงานก็แค่นั้นน่ะ ตอนเที่ยงอย่าลืมไปเรียกฉันด้วยละ แม่เลขาฯ หน้าห้องนาหมั่นไส้ชะมัดยาดเลยแก” บอกอย่างโมโห
“เออ...แต่ยัยอิ่มไปทำยังไงท่านถึงให้ไปช่วยงานท่านนะ?” อดที่จะถามไม่ได้
“ไม่มีอะไรมากหรอก แค่แจ็กพอ็ตแตกก็เท่านั้นไม่ต้องห่วงหรอกไม่นานก็ได้กลับมาเหมือนเดิมแหละ” ตอบอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนักเพราะคิดว่าเรื่องย้ายไปช่วยงานเจ้าของบริษัทแค่นี้คงไม่มีอะไรมาก แต่ไม่ใช่กับคนอื่นหลายคนคิดว่าการที่ได้ไปทำงานในห้องท่านก็เท่ากับว่ามีโอกาสก้าวหน้าไปในตำแหน่งอื่นๆ ต่อไป
“แกก็ระวังด้วยละ ท่านดุอย่างนั้นน่ะ” บอกอย่างรู้กิตติศัพท์เจ้านายใหญ่เป็นอย่างดี
“เหรอ? ไม่นี่...” เธอบอกตามที่เห็นเขาก็ดูใจดีนี่นาไม่เห็นดุเหมือนกับที่ว่าเลยซักหน่อย
“ห๋า..ประสาทกลับรึไงยัยอิ่ม..ที่นี่ใครๆ เขาก็รู้ไปทั่วว่านายใหญ่ดุยังกับเสือแนะ” “โอเคๆ ฉันจะระวังละกัน”
“รู้ก็ดีแล้ว จากนี้ไปแกโดนแน่ยัยอิ่มไม่รู้เหรอว่าที่นี่เขาอยากเข้าไปทำงานที่ห้องนั้นกันแค่ไหนน่ะ บางทีฉันยังคิดว่าแทบจะฆ่ากันตายทีเดียวนะแก...”
“เรื่องนั้นฉันรู้อยู่แล้ว แต่ฉันไม่ได้ขอไปนี่หว่า ท่านให้ฉันไปช่วยเองนะ จะมาโทษฉันไม่ได้นะเว้ย...”
“มันก็ใช่ แต่คนที่ได้เข้าไปยังไงไม่มีใครเขาโทษท่านประธานหรอกเขาจะมาเขม่นแกแทนมากกว่า”
“เรื่องนั้นเป็นเรื่องอนาคต ใครร้ายมาฉันก็ร้ายคืนแค่นั้น...”
“คงไม่เอาถึงตายะนะ” มองอย่างระแวง
“ไม่รู้..อยู่ที่อีกฝ่ายมากกว่า บังเอิญนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นน่ะฉันติมาจากพวกอาๆ วะ แกไม่หายหรอก ขนาดพ่อกับแม่ฉันยังแก้ไม่ได้เลย” ยอมรับหน้าชื่นตาบาน เรื่องนิสัยนี้พ่อเธอยังเคยเอ่ยปากเลยว่าเธอได้ส่วนนั้นของพวกอาๆ ที่คอยดูแลอยู่ช่วงที่อยู่ต่างประเทศนั้น เธอรับมาเต็มๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น