คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5...
ตอนที่ 5 หวง..
สายตาหลายคู่มองตามสามคนที่เพิ่งเดินจากไป...ไม่ว่าจะมีสาวๆ คนไหนทอดสะพานให้ชายหนุ่มที่กำลังเดินตามสาวสวยไปมากแค่ไหนก็โดนปฏิเสธออย่างไร้เยื่อใย สร้างความเสียดายให้สาวๆ พวกนั้นอย่างมาก หลายคนพวกเขารู้ว่าเป็นสาวๆ ที่มหาลัยพวกเขา
“ท่าทางพี่ราฟจะอาการหนักนะเนี่ย..ตั้งแต่พี่ไวน์เข้ามาในร้านแล้วมีหนุ่มๆ มองอย่างสนใจพี่ราฟก็แทบจะเข้าไปชกผู้ชายพวกนั้นเลยนะ” พสุธาเอ่ยออกมาเมื่อทั้งสามพ้นไปแล้ว
“เออ...ฉันก็ว่างั้นแหละพี่แท๊ปว่าไง?” ธาวินหันไปถามรุ่นพี่หนุ่มหลังจากที่เขาชนแก้วกับสาวๆ แล้ว
“ก็นะ..พวกนายก็เห็นนี่ว่าราฟมันตามประกบยัยไวน์ซะขนาดนั้น” ญาณศรณ์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“แกละไอ้กันต์มีอะไรรึเปล่า?” สรวิชมองเพื่อนอีกคนที่ทมองตามหลังเพื่อนทั้งสามไป
“เปล่า..ก็แค่เป็นห่วง...” ปฏิเสธเสียงเรียบ แววตาไหววูบยามเอ่ยถึงใครอีกคน
“เหรอ” หลายเสียงประสานกันอย่างไม่มีใครเชื่อสิ่งที่อีกฝ่ายบอกแม้แต่นิดเดียว
ไม่ต้องให้อีกฝ่ายพูดอะไรพวกเขาก็ดูออก จากสายตาที่ทั้งสองคนใช้มองทั้งสองสาว มันทั้งหวง ทั้งห่วง คอยกันท่าหนุ่มๆ ทุกคนที่เข้ามาใกล้ แรกๆ พวกเขาคิดว่าแค่ห่วงว่าจะมีคนไม่ดีเข้ามาหลอกลวง แต่นานเข้าพวกเขากลับเห็นว่าที่กันต์ยศกับภัทรดนัยทำมันเป็นการกันท่าหนุ่มๆ ทุกคนออกไปจากสองสาว
ไม่แปลกเลยสำหรับท่าทีสนิทสนมที่แสดงออกมาต่อพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็นการโอบกอดการหอมแก้ม จับมือ จนกลายเป็นความเคยชิน พวกเขาเคยลองทำบ้างโดนสองหนุ่มมองตาขวางเชียว
“พูดตรงๆ นะพี่ ผมว่าพี่ไวน์กับพี่จีนเป็นผู้หญิงที่สวยแถมเซ็กซี่มากๆ หรือพี่ไม่เห็นด้วยขนาดพวกพี่เขาแต่งตัวธรรมดาไม่ได้เปิดโน่นเปิดนี่ยังดูเซ็กซี่เลยนะ..” ธาวินเอ่ยออกมาพวกเขาเห็นรุ่นพี่ครั้งแรกตอนรับน้องทั้งสองคนเป็นผู้หญิงที่สวยสะดุดตาอย่างมาก เสียแต่มีเพื่อนที่ดุมากจนไม่มีใครเข้าถึงสองสาวได้เลย
“แล้วไม่สังเกตเหรอว่าทุกครั้งที่พี่ราฟมีเรื่องกับสาวๆ ประเด็นจะอยู่ที่พี่ไวน์เสมอ เพราะพี่ราฟให้ความสำคัญกับพี่ไวน์มากเกินไป” พวกเขายังเคยพูดกันอย่างสนุกปากเมื่อได้ยินข่าวเรื่องการราวีของสาวๆ ในสตอคของรุ่นพี่หนุ่มสุดฮอต
“ชินวะ...” สรวิชบอกเสียงเรียบพลางยกแก้วเหล้าของตัวเองไปด้วย เหล้าขวดนี้ภัทรดนัยเป็นคนเอามา มันนุ่มลิ้นดีจริงๆ
“เออ...พี่ก็ชินวะ..” ญาณศรณ์พยักหน้าอย่างเห็นด้วยเพราะตลอดสามปีมานี้มันเป็นอย่างนี้เสมอ เลยไม่มีแปลกใจซักนิดเดียว
ตลอดเวลาหลายปีมานี้เขาเห็นว่าภัทรดนัยเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น ไม่เคยจริงจังกับใครซักคนเดียว มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวที่เขาไม่ยอมให้ใครเข้าไปได้
ยิ่งตอนนี้ชายหนุ่มปฏิเสธที่จะสานสัมพันธ์กับสาวๆ ทุกคน แม้จะมีบางคนที่ไม่ยอมเลิกราง่ายๆ อย่างแม่สาวศศิพจีเมื่อเช้านั่นซิ..ภัทรดนัยไม่ยุ่งเกี่ยวเลยก่อนปิดเทอมแต่เธอก็ยังไม่ละความพยายามที่จะเข้าไปนั่งอยู่ในใจของเขาให้ได้แม้ว่าเขาจะไม่สนใจก็ตาม
ภัทรดนัยยืนกอดอกพิงกำแพงหน้าห้องน้ำเขารอให้สองสาวที่อยู่ในห้องน้ำออกมา มีสาวๆ ในชุดสุดเซ็กซี่หลายคนเดินเข้าห้องน้ำแล้วมองมาที่เขาอย่างเชิญชวน
“สวัสดีค่ะ...สุดหล่อ..มาทำอะไรแถวนี้คะรอใครรึเปล่า” สาวสวยเดินเข้ามาทัก กรีดนิ้วไปที่หน้าอกชายหนุ่มแขนข้างหนุ่มคล้องคอเขาหน้าอยู่ชิดกับหน้าเขา สีหน้าเรียบเฉย
เขาไม่สนใจปลดแขนทั้งสองข้างของอีกฝ่ายออกไป เขาไม่สนใจพวกเธอหรอก ชายหนุ่มเหลือบสายตาไปเห็นว่าทั้งสองสาวเดินออกมาพอดี
“ขอโทษนะคนที่ผมรอออกมาแล้ว” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบพร้อมเดินจากไปโอบเอวร่างบางในชุดจั้มสูทสีน้ำเงินให้เดินไปด้วยกันโดยมีอัญชิษฐาเดินนำหน้า ได้แต่ปล่อยให้สาวอีกคนกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจที่โดนหนุ่มชิ่งหนี ทั้งที่เธอมั่นใจในความเซ็กซี่และเชื่อว่าเขาจะสานสัมพันธ์จนไปจบลงที่ความพอใจของเธอและเขา
“ไอ้หน้าโง่...มีผู้หญิงมาหาขนาดนี้นี้ยังโง่ไม่เอาอีกเนี่ย...” เธอเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เมื่อเห็นว่าผู้ชายที่เธอหมายตามองผู้หญิงที่เพิ่งเดินออกมาตาเชื่อมแววตาอ่อนโยนที่มองไปมันทั้งรักทั้งหลง แล้วท่าทางที่โอบกอดกันอีกละ...ยังมีผู้ชายหล่อๆ แล้วซื่อสัตย์อยู่อีกเหรอเนี่ย
“ไง...โดนเขาปฏิเสธละซิ...” เพื่อนสาวที่มองอยู่เดินเข้ามาทัก หลังจากที่ชายหนุ่มเดินจากไป “ฉันบอกแกแล้ว...เขาไม่สนใจใครเลย...ฉันลองแล้ว” เธอบอกไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้ลองแต่ว่าชายหนุ่มไม่สนใจจะสานสัมพันธ์กับใครเลย ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้
“ก็แค่ผู้ชายหน้าโง่”
“ไง...พ่อหนุ่มเสน่ห์แรงสาวๆ มาให้ท่าอีกแล้ว...ปฏิเสธทำไมละ...” หญิงสาวได้แต่เย้าเขาออกไปเธอเห็นตั้งแต่ที่มีผู้หญิงเดินเข้ามาหาเขาแล้ว และเธอก็รอดูว่าอีกฝ่ายจะว่าทำยังก่อนจะเดินไปหาเขาเมื่อครู่ แล้วเขาเลือกที่จะปฏิเสธสาวสวยแล้วมาหาเธอแทน
“หึๆ ไม่มีใครน่าสนเท่าคนข้างๆ ฉันหรอก” เขาบอกยิ้มพริ้มเดินมาถึงที่โต๊ะพอดี
“ให้มันจริงเถอะยะ...” เธอได้แต่เย้าเขายิ้มเพราะคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้จริงจังอะไรเพราะเขาพูดอย่างนี้ประจำ
“แกนี่น้าราฟ...เมื่อไหร่แกจะปล่อยให้ยัยไวน์มันได้มีโอกาสให้หนุ่มๆ เข้ามาจีบบ้างวะ...” อัญชิษฐาส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับอาการหวงเพื่อนสาวอย่างพิชญ์นรีอย่างหนัก
“แกไปถามไอ้กันต์มันก่อนเถอะ....” โยนไปให้อีกคนที่นั่งอยู่อีกฝั่ง เขามองด้วยสายตาบังคับเมื่อเพื่อนสาวทำท่าว่าจะนั่งอีกฝั่ง ให้ไปนั่งที่เดิม
“อะไรวะ...อยู่ๆ ก็โยนมาทางนี้น่ะ...” กันต์ยศส่ายหน้าอย่างไม่รู้เรื่อง
“เออ...นี่สาวๆ พวกนั้นเขามาฝากให้เอ็งวะ” ญาณศรณ์โยนกระดาษทิชชู่ที่สาวๆ ฝากมาให้ชายหนุ่มที่หนีไปเฝ้าสาวเมื่อครู่นี้
“ขอโทษครับ...” มีหนุ่มหล่อเดินเข้ามาที่โต๊ะขณะที่กำลังคุยกันอย่างออกรส เขาเดินมาข้างๆ พิชญ์นรีพร้อมแก้วเหล้าที่ถือมาด้วย แววตากรุ้มกริ่มที่มองมายังร่างบางทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่พอใจขึ้นมาทันที ไอ้นี่มันกล้าดียังไงมามองคนของเขาอย่างนี้
“คะ?” หญิงสาวหันไปตามเสียงที่ดังอยู่ไม่ไกล
“ขอชนแก้วหน่อยนะครับ..ผมกรครับ...อยากรู้จักสาวสวยอย่างคุณจัง” ยื่นแก้วเหล้ามาตรงหน้าหญิงสาวหวังว่าเธอจะยอมรับไมตรี เขาเห็นว่าที่โต๊ะนี้มีสองสาวหน้าตาดีอยู่ในกลุ่มผู้ชายเลยอยากทำความรู้จัก เขาไม่สนใจว่าเธอจะเป็นผู้หญิงของใครเขาสนใจซะอย่าง...ถ้าผู้หญิงเล่นด้วยก็เขาก็พอใจแล้ว
“ไม่มีใครถามแล้วมึงมาทางไหนไปทางนั้นเลย” ภัทรดนัยมองอีกฝ่ายตากร้าว เขาไม่พอใจที่มันกล้าเข้ามาทักหญิงสาวอย่างนี้ แถมยืนซะใกล้ขนาดนี้
“อะไรผมแค่อยากทำความรู้จักกับเธอคนนี้คนอื่นไม่เกี่ยว” ชายหนุ่มชื่อกรตอบอย่างไม่ใส่ใจเขาสนใจเธอคนนี้มากกว่า
“ไม่อาน่าราฟ...ขอโทษนะคะฉันไม่อยากรู้จักคุณ...เชิญค่ะ” เธอแตะมือที่มือเพื่อนหนุ่มแล้วหันไปบอกผู้มาใหม่เสียงเรียบ
“ได้ยินชัดมั้ย...ถ้าหูไม่หนวกก็ไปไกลๆ เลย” ตอนนี้เขาพอใจอย่างมากที่พิชญ์นรีปฏิเสธออกไปอย่างนั้น ปกติเธอจะไม่ค่อยพูดมากกว่า
“แหม..คนสวยทำไมหยิ่งอย่างนี้ละครับ...แค่ทำความรู้จักเท่านั้นเอง” อีกฝ่ายยังคงไม่ยอมหนีไปไหนแม้ว่าเธอจะบอกไปชัดเจนแล้ว
พิชญ์นรีได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายแววตานิ่งเรียบเธอไม่อยากให้เพื่อนมีเรื่องวันนี้ อีกฝ่ายก็ยังไม่เลิกราเสียที ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรออกไปคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอก็ลุกขึ้นไปแล้วต่อยหน้าอีกฝ่ายจนเขาล้มลง
“ว้าย!!! ราฟหยุดนะ...” เธอรีบเข้าไปรั้งให้เขาถอยออกมาไม่ให้ซ้ำไปอีกรอบ เพื่อนของผู้เคราะห์ร้ายก็ลุกแล้วทำท่าว่าจะเดินมา แต่กลุ่มเธอก็ใหญ่เหมือนกันทุกคนลุกขึ้นเตรียมตัวมีเรื่องเต็มที่
“ไวน์...แกพาไอ้ราฟออกไปก่อนไป...ก่อนที่มันจะฆ่าไอ้หมอนี่น่ะ...” ญาณศรณ์บอกเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนรักที่ทำท่าว่าจะฟิวส์ขาดเอาง่ายๆ วันนี้
“อืม...ฝากทางนี้ด้วยละ...ไปเถอะราฟ” เธอเองก็เห็นด้วยรั้งให้อีกฝ่ายเดินออกจากร้านไปทันที ไม่งั้นคงได้ขึ้นโรงพักกันแน่เลย แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเธอเท่าไหร่นัก เขายังพยายามที่จะกลับเข้าไปซ้อมคนดวงซวยคนนั้นอยู่ “ราฟ...” เธอเรียกเขาเสียงหนักเมื่อเขาทำท่าว่าจะอยากกลับไปอีกครั้ง
“โอเคๆ ยอมแล้ว” เขายอมในที่สุดแล้วเดินตามแรงรั้งของหญิงสาว เมื่อมาถึงรถพิชญ์นรียื่นมืออกมาตรงหน้าเขา
“อะไร?”
“กุญแจรถดื่มไปขนาดนั้นคงไม่คิดว่าฉันจะให้แกขับรถหรอกนะ...” เธอดื่มสปายแค่นิดเดียวไม่ถึงครึ่งขวดด้วยซ้ำ ส่วนเขาน่ะดื่มไปเยอะมาก...
“ขับได้น่า...”
“ไม่เอาหรอก..เอากุญแจรถมาเถอะ...เดี๋ยวขับไปส่งที่ห้อง” เธอยังไม่ยอมตามใจเขาหลายครั้งที่เธอต้องออกมาจากบ้านตอนดึกเพื่อออกมารับพวกเพื่อนๆ ที่ดื่มหนักจนกลับไม่ได้
“ตามใจ” เขายอมในที่สุดเพราะรู้ดีว่าตัวเองเริ่มกรึ่มๆ แล้วเหมือนกัน เมื่อได้รับกุญแจรถตามที่ต้องการแล้วเธอก็ปลดล็อครถแล้วเข้าไปนั่งแล้วสตาร์ทรถรอให้อีกฝ่ายขึ้นมานั่งประจำที่เธอก็ออกตัวพาเขาไปยังคอนโดของอีกฝ่ายทันที
พอเข้ามาในห้องในคอนโดฯ ของภัทรดนัยหญิงสาวเดินตรงไปที่ครัวเพื่อเอาน้ำออกมาดื่มและไม่ลืมรินใส่แก้วมาเผื่ออีกคนที่แผ่หลาอยู่บนโซฟา เขาหลับตาอยู่ก่อนเธอจะนั่งอีกฝั่งของโซฟา
“น้ำ..”
“อืม...ขอบใจวันนี้นอนนี่รึเปล่า?” เขาไม่แน่ใจว่าเธอจะกลับบ้านเลยมั้ยหลังจากที่ส่งเขาแล้ว ตอนนี้เกือบตีหนึ่งแล้วด้วย
“ค้าง...เดี๋ยวนอนห้องเล็กแล้วกัน” หญิงสาวพยักหน้ารับเธอค้างที่นี่บ่อยๆ และรู้ว่าเขาไม่เคยพาใครมาที่นี่เลย ถึงเขาจะเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยเธอเหล่านั้นฝันอยากจะมาที่ห้องนี้กันมาก นี่เป็นอีกเหตุผลที่เธอโดนผู้หญิงของเขาเขม่นอย่างมากเพราะเธอมีคีย์การ์ดห้องนี้ไง
งั้นก็ไปนอนเถอะ...แล้วก็เรื่องวันนี้...” เขาบอกเธออย่างลังเลเขาไม่รู้ว่าเธอไม่พอใจรึเปล่า
“อย่าคิดมากน่า...นายเองก็ไปอาบน้ำนอนเถอะดึกแล้ว” พิชญ์นรีหันหลังกลับมาแล้วยิ้มให้อีกฝ่ายน้อยๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องไป
“โธ่เว้ย...ไม่พูดออกไปวะ...” เขาทึ้งผมอย่างกรุ่นโกรธทำไมเขาไม่กล้าบอกเธอไปนะ แล้วเมื่อไหร่เธอจะรู้เสียทีว่าเขาคิดยังไง อย่างวันนี้เขาหึงแทบบ้าที่ไอ้พวกนั้นมันมองผู้หญิงของเขา(ที่เขาเหมาเอาเอง)อย่างหื่นกระหาย แล้วไอ้บ้านั้นที่กล้าเข้ามาขอชนแก้วกับเธอดีว่ายัยไวน์ไม่มีทีท่าและปฏิเสธออกไปไม่งั้นไอ้บ้านั่นตายแน่
“เฮ้อ..ยังไงก็ต้องบอกให้รู้ให้ได้” เขาบอกตัวเองอย่างนั้น ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องบอกให้เธอรู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอไม่ว่าเธอจะตอบว่ายังไงก็ตาม
ร่างบางที่ยืนพิงหลังกับประตูหลังจากเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นเมื่อครู่เธอทรุดตัวลงกับพื้นเธอเห็นแววตาของอีกฝ่ายที่มองมา มันเต็มไปด้วยความรัก ที่แตกต่างจากที่เขาเคยมองเธอเสมอ คราวนี้มันต่างออกไปมันดูหวานละมุน แต่เธอไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองคนที่เธอรู้สักมาตลอดหลายปี ช่วงนี้เธอรู้ว่าเขากำลังเปลี่ยนตัวเองโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงที่เขาเลิกยุ่งเกี่ยวเพียงเพราะความใคร่ เธอกุมมือที่สร้อยลายลูกกุญแจที่ภัทรดนัยเป็นคนมอบให้ส่วนเขาใส่แม่กุญแจมันสื่ออะไรหลายอย่างแต่เมื่อเขาไม่พูดอะไรเธอก็ขอไม่คิดอะไรมาก
“นายอยากบอกอะไรฉันรึเปล่านะราฟ...” หวังว่าเขาคนนั้นจะตัดสินใจได้เร็ววันคงไม่ยื้อเอาไว้จนเรียนจบหรอกนะ
“เฮ้อ...เอาเถอะ..วันนี้ไม่ต้องคิดมากไปอาบน้ำแล้วก็นอนซะยัยไวน์” เธอบอกตัวเองอย่างนั้น แล้วลุกออกจากหน้าประตูแล้วเข้าห้องน้ำไปทันที
พออาบน้ำให้สดชื่นและหัวโล่งดีแล้วเธอทิ้งตัวลงนอนอย่างเพลียๆ เธอเพิ่งกลับมาถึงเมืองไทยแล้วก็ไปเรียนทันที เพียงเพราะเขาโอดครวญว่าอยากจะเจอหน้าเธอ แค่นั้นเธอก็รีบกลับมาทันที
“นายชักจะมีอิทธิพลต่อฉันมากเกินไปแล้วนะราฟ” เธอต่อว่าคนที่อยู่อีกห้อง โดยที่เจ้าตัวไม่มีโอกาสได้รู้ว่าเขามีผลต่อเธอมากแค่ไหน
มาอัพแล้วจ้า...
ความคิดเห็น