ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุดที่รัก สุดดวงใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 51


    ตอนที่ 4 

    ชยันต์มานั่งรอเพื่อนทั้งสองคนเมื่อทานอาหารเสร็จแล้วเขาเดินมาอยู่ที่เรือนพักของเพื่อนด้วยกันและนั่งคุยกันเงียบๆ และวรพิชชาบอกว่าให้เอาขนมกับเครื่องดื่มมาดื่มกันและเธอเข้าไปหยิบเอากีตาร์มาเขาดีดเล่นจะได้ไม่เหงา 

    “เอ้า..เล่นให้พี่ฟังหน่อย” ชยันต์รับมาอย่างเต็มใจตอนี่เขาออมาจากคอนโดฯ เขารีบจนลืมเอามาด้วยทำให้คิดว่ามาคราวนี้คงเงียบเหงาเสียแล้ว 

    “วันนี้งดแอลกอฮอล์นะเดี๋ยวคนอื่นเขาจะมองไม่ดีมาวันแรกก็เมาแอ๋ซะแล้ว” เธอบอกเด็กทั้งสามคนที่นั่งดื่มเครื่องดื่มและขนมและร้องเพลงคลอไปกับเสียงกีต้าร์ที่ชัยต์เป็นคนเล่น กฤตเมฆมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงเย็นและเข้าไปเคลียร์งานในบริษัทของเขาก่อนและเขานัดกับอรรณพและธีระยุทธทั้งสองมากันก่อนแต่กฤตเมฆบอกว่าจะตามมาหลังจากที่เขาทั้งสองย้ายจากร้านอาหารไปที่ตึกของมอริสโตะแล้วอรรณพก็เคลียร์งานก่อนที่จะออกมา 

    “มาอย่างนี่แล้วคึกเป็นบ้า แกว่ามั้ยริค” ธีระยุทธบอกอย่างร่าเริง เขาเป็นคนสนุกสนานอยู่แล้ว และที่สำคัญใจเย็นมากซึ่งบุคลิกผิดกันมากกับอรรณพที่ออกจะเป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่เสียหน่อย 

    “อือ” อรรณพตอบอย่างไรอารมณ์ตอนนี้ใจเขามันลอยไปอยู่ที่หญิงสาวคนนั้นมากกว่า แต่มานี่ก็เพียงเพื่อจะผ่อนคลายเท่านั้น 

    “เอ้ย! เรามาเที่ยวสนุกกันนะ ทำตัวร่างเริงหน่อยเพื่อน” ตบไหล่เพื่อนเบาๆ อย่างกระตุ้นให้เขามีใจสนุกหน่อย ทุกทีมาเที่ยวกันอย่างนี้อรรณพจะมีสาวๆ ข้างกายตลอด แต่คราวนี้มาแปลกที่เขาไม่ชวนใครมาอย่าที่บอกจริงๆ 

    “เอาอะไรวะริค” 

    “อะไรแกสั่งเถอะ” 

    “เป็นเอามากเว้ย” มองหน้าเพื่อนแล้วส่ายหน้าอย่างระอา และก็จัดการสั่งเครื่องดื่มสำหรับขาทั้งสามคนและหญิงสาวที่เขาพามาด้วย หญิงสาวคนนี้เต็มใจที่จะมากับเขาและมีข้อตกลงกันเอาไว้แล้ว ธีระยุทธมองไปรอบๆ ร้านอย่างเคยชินและเห็นว่ากฤตเมฆกำลังเดินเข้าร้านมาเพียงลำพัง 

    เฮ้อ..เพื่อนคนนี้ก็อีกคนทำตัวอย่างกับฤๅษีจำศิลป์ไม่สนใจสาวๆ เลย ทั้งที่หน้าตาออกหล่อเหลา เข้มอย่างชายไทย 

    “เฮ้ย เมฆทางนี้” โบกมือให้เพื่อนที่สอดส่ายสายตามองหาอยู่ และกฤตเมฆก็เดินมาที่โต๊ะอย่างใจเย็น 

    “ไงเพื่อน มากันนานรึยัง” “เพิ่งมาถึงไม่นาน แกละทำอะไรอยู่เพิ่งมา” 

    “ทำงานเพิ่งเสร็จน่ะ เลยเพิ่งปลีกตัวออกมาได้ เฮ้ย ริคมาแปลกจังคราวนี้แกไม่พาสาวคนไหนมาด้วยเนี่ย” หันไปกระเซ้าเพื่อนรักอีกคนที่นั่งเงียบอยู่อีกมุม 

    “อย่าไปใส่ใจมันเลยกัน ตอนนี้มันกำลังตกหลุมลึกอยู่” 

    “หลุม? หลุมอะไรวะ?” มองหน้าเพื่อนทั้งสองสลับกันไม่มาอย่างสงสัย 

    “หลุมรักน่ะซิ จะหลุมอะไร” 

    “ฮ้า! ใครวะ?” วินดี้นางแบบสาวสวยตั้งใจฟังเต็มที่ว่าชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าไร้หัวใจนั้นจะรักใครได้ เพราะเท่าที่เธอรู้นั้นเพื่อนเธอเองหลายคนอยากเป็นที่รักของเขาแต่ไม่เคยมีใครที่ทำสำเร็จซักคนเดียว 

    “ก็...เคทไงละ” บอกอย่างรู้กัน 

    “ห๋า...เคทเนี่ยนะ มันคู่หมั้นไอ้ริคไม่ใช่เหรอแล้ว..” 

    “ไม่ต้องงง เคทเพิ่งกลับมาแล้วดูท่าคราวนี้ไอ้ริคมันจะทวงความรักมันคืน ดูอย่างวันนี้ซิ มันไม่สนใครซักคนเดียว” 

    “เออ จริงว่าแต่น้องเขายอมเหรอไม่ได้โกรธกันอยู่เหรอวะ?” ถามอย่างรู้ความเป็นไปดี 

    “ก็ โกรธแต่คิดว่าคงไม่เกินความสามารถที่จะทำให้เขากลับมารักฉันเหมือนเดิมหรอกนะ” “แกเจอเขารึยังและที่สำคัญแกรู้ได้ยังไงว่าเขากลับมาแล้ว?” 

    “เจอแล้ว และเรื่องมันยาวแล้วจะเล่าให้ฟังแล้วกัน” อรรณพไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องมากนัก เกรงว่าจะเป็นการกระจายข่าวมากเกินไปไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็เป็นข่าวไปเสียหมดทั้งที่เขาไม่ใช่ดารา นักแสดงแต่ย่างใด 

    “อืม” กฤตเมฆรับคำอย่างเข้าใจดี เมื่อสังเกตเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย 

    “สวัสดีครับผมคงเสียมารยาทมากเลยที่ไม่ทักทายสาสวยอย่างคุณวินดี้น่ะครับ คงไม่ถือสาผมนะครับ” 

    “แหม ใครจะกล้าละคะ” เธอส่งสายตาให้กฤตเมฆอย่างหวานเยิ้ม เธอหวังว่าจะมีวันทีจะคว้าไม่ใครคนหนึ่งมาเป็นของเธอให้ได้ 

    “เป็นไงบ้างสบายดีกันทุกอย่างนะ ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนี่หว่า” อรรณพถามอย่างห่วงใย เพราะส่วนมากกฤตเมฆอยู่ที่ทางใต้เพื่อดูเหมืองของเขามากกว่าที่จะมาดูบริษัทเอง แต่จะมาเฉพาะเรื่องสำคัญเท่านั้น 

    “ไม่มีอะไรหรอก แค่เข้าเคลียร์งานเท่านั้น แต่ไม่น่าเชื่อนะว่าคราวนี้จะได้ฟังข่าวดีน่ะ” 

    “จะดีกว่านี้อีกถ้า...” อรรณพค้างได้เท่านั้นเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนทั้งสองมองอยู่ที่ร่างๆ หนึ่งจนเขาต้องหันไปมอง ว่าอะไรถึงดึงความสนใจจากเพื่อนเขาได้ 

    “เฮ้ย! นั่นเคทนี่” ธีระยุทธทักอย่างจำหญิงสาวได้ดีแม้จะเคยเห็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น 

    “เออ จริงวะ ใช่เคทจริงๆ ด้วยแต่มากับใครวะ?” 

    “เพื่อนเขาไง...นั่นธีมที่เป็นดารากับภรรยากับมาร์โคและภรรยาแต่อีกคนฉันผู้หญิงอีกคนไม่รู้จักน่าจะเป็นเพื่อนเขานะ” 

    “โห แกใจเย็นขึ้นเยอะเลยนี่นา” กฤตเมฆบอกล้อๆ เมื่อเห็นเพื่อนบอกเสียงเรียบ 

    “มันไม่ได้ใจเย็นขึ้นหรอกเมฆ แต่มันรู้แล้วต่างหากว่ากลุ่มนั้นน่ะไม่มีทางที่จะมีใครจะรักเคทมากกว่าเพื่อนเด็ดขาด” 

    “น่าสนใจ แต่นี่โชคดีมากเลยนะแกที่เจอเขาวันนี้แต่สวยขึ้นกว่าเก่าตั้งเยอะ” ธีระยุทธบอกย่างชื่นชมหญิงสาวที่สวมชุดแซคดำยาวแค่เข่าเป็นเสื้อไม่มีแขนแต่มีสายคล้องที่คอแทนทำให้ดูเซ็กซี่มากๆ นางแบบสาวมองตามสายตาของชายหนุ่มทั้งสามคนอย่างสนใจ ก่อนจะเห็นอย่างเดียวกับที่ทั้งสามคนเห็นคือกลุ่มหกคนที่หน้าตาโดดเด่นเป็นอย่างมาก แต่ที่สะดุดตาคือสาวชุดแซคดำต่างหาก และเห็นว่าอรรณพมองเธอไม่วางตาอีกด้วย ด้วยสายตาแสนรักที่เขาใช้มอง เธอไม่เคยเห็นเขามองใครอย่างนี้มาก่อน และไม่คิดว่าจะมีอีกด้วย หรือว่าคนนี้คือที่พูดถึงเมื่อกี้... 

    กฤตเมฆมองตามเพื่อนที่มองคู่หมั้นสาวอย่างไม่วางตา ทั้งที่เมื่อหลายปีก่อนอรรณพมาโอดครวญกับเขาเรื่องเธอคนนั้นแต่มาวันนี้กลับมาบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดและตอนนี้เขาจะเอาเธอกลับมาเป็นของเขาให้ได้... วรพิชชาปล่อยให้ทั้งสามคนนั่งเล่นกีต้าร์อยู่ด้านนอกไปแต่เธอกำลังต่อสายหาเพื่อนสาวทันทีที่รู้ข่าว 

    “เคท! แกนอนยัง?” 

    “เปล่าแกมีอะไรรึเปล่าวะไม่โทรมาตั้งนาน? แกรู้มั้ยว่ามีบางคนที่ตามหาแกอยู่” 

    “อย่าพูดถึงเรื่องที่มันผ่านมาแล้วเลย ว่าแต่จริงรึเปล่าเรื่องที่แกกำลังจะแต่งงานน่ะ?” 

    “ห๋า!!! แกเอาอะไรมาพูดน่ะ?” 

    “ไม่รู้..แต่มันจริงรึเปล่าละ? และที่สำคัญนะเขาว่าเจ้าบ่าวแกชื่ออรรณพเสียด้วย” 

    “เฮ้ย! เอาอะไรมาพูดแต่แต่กลับมาเนี่ยฉันเจอดเขาสองครั้งเองนะแก จะไปแต่งงานกันได้ยังไง?” 

    “ฉันไม่รู้ ถึงได้โทรมาถามาแกไง?” ลากเสียงยาวถาม 

    “ว่าแต่เขามาขอคืนดีรึเปล่า?” “คงงั้น เขามาแล้วบอกว่าจะทำทุกทางให้ฉันยอมคืนดีกับเขาน่ะ” 

    “แกว่าไง?”
     
    “ไม่รู้มัน...กรทันหันจนฉันตั้งตัวไม่ติด” บอกอย่างไม่แน่ใจ 

    “อย่าหนีความจริงแล้วก็ใจตัวเองละ” 

    “ขอบใจแกมากนะว่าแต่แกอยู่ไหน รู้มั้ยว่าเจ้านั่นมันตามหาแกให้ควั่กเลย จะไม่ยอมให้มันเจอหน่อยเหรอ?” 

    “จะเจอกันอีกทำไมเมื่อมันเป็นคนบอกเองนะ ว่าให้ฉันเลิกวุ่นวายกับมันเสียทีน่ะ” บกเสียงขืน 

    “แต่ตอนนี้มันรู้แล้วนี่นาแกจะใจแข็งไปถึงไหน ไม่สงสารมันเหรอ?” พยายามเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนใจอ่อนนี่ก็ผ่านมาสองปีแล้ว เธอยังไม่ยอมหายโกรธอีกคนเลย 

    “เอาไว้ฉันทำใจได้เมือไหร่ฉันจะไปหามันเองไม่ต้องห่วงหรอกอาจจะเป็นวันที่มันแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นก็ได้” บอกเสียงเครือผ่านมาสองปีแล้วเอยังไม่ลืมเรื่องวันนั้นได้เลย 

    “มันเลิกกบผู้หญิงคนนั้นแล้ว พอรู้ว่าแกหายไปมันก็เลิกกับเขาเลยนะ แกเลิกโกรธแล้วกลับมาเถอะนะ” 

    “ถ้ามันอยากเจอกฉันจริงๆ ให้มันตามหาฉันให้เจอเอง แล้วฉันจะลองคิดดูเรื่องอยกโทษให้รึเปล่า” 

    “จริงนะ!! แกอย่าคืนคำละ” 

    “จะคืนคำทำไมละ แค่ยกโทษให้เพื่อนคนหนึ่งไม่ใช่สามีหรือพ่อฉันเสียหน่อย” 

    “แกยังโกรธมันอยู่จริงๆ เสียด้วย เกิดมนคิดได้ละว่าคิดอะไรกับแกอยู่มากว่าเพื่อนอย่างที่บอกแกไปละ?" 

    “ไม่รู้แต่วันนั้นทำให้ฉันรู้ว่าอย่าเข้าไปยุ่งกับชีวิตคนอื่นเดี๋ยวจะโดนอย่างที่โดนมาจนหน้าหงายอย่างนี้” 

    “แต่กำไม่โหดไปหน่อยเหหรอที่อยู่ๆ ก็เอาแหวนไปคืนแล้วหายไปเลย ความผิดครั้งแรกเขายังรอลงอาญาเลยนะแก” 

    “ถ้ามาเพราะรูสึกผิดบอกมันนะว่าอย่ามา ไม่เจอกันไปเลยอาจจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดก็เป็นได้” 

    “ถ้าไม่ได้มาเพราะรู้สึกผิดก็มาได้ใช่มั้ย” ถาอย่างตื่นเต้น 

    “เอาไว้ให้ถึงวันนั้นก่อนละกันหรือถ้าเป็นวันที่ฉันแต่งงานไปแล้วฉันอาจจะเชิญมันมาก็ได้นะ” 

    “นี่! แกตัดใจได้แล้วเหรอ?” 

    “คงมีวันนั้นถึงลืมไม่ได้แต่เราก็เริ่มความรักใหม่ได้นี่นา” 

    “งั้นไม่มีอะไรแล้วแค่นี้นะส่วนยัยฮันนี่ฉันจะดูแลให้เองละกันไม่ต้องห่วง”
     
    “งั้นแกก็...” แคทีพูดไม่ทันจบเพื่อนตัวดีก็วางสายไปเสียก่อนที่เธอจะทันรู้เรื่อง แต่สิ่งที่ทำให้รู้อีกอย่างคือว่าเพื่อนเธออยู่ที่ไหนแล้วและเธอจะสามารถช่วยให้สองคนคืนดีกันได้มั้ย? จากสภาพทั้งสองคงไม่ต่างกันเท่าไรนัก
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×