คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 อย่าคิดว่ามันจะจบนะ...
ตอนที่ 4 อย่าคิดว่ามันจะจบนะ...
ร่างบางในชุดนอนสีชมพูหวานน่ารักกำลังนั่งเอนๆ อยู่ที่เตียงอมยิ้มกับตัวเองอย่างเพลินๆ เธอกำลังคิดถึงชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม ร่างสูงราวๆ 185 ซม. สมาร์ทดูดี ผมซอยสั้นเข้าทรง ตาคมดุ คิ้วคม กล้ามเนื้อที่ดูสวยงามแม้จะอยู่ภายในเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา ชายหนุ่มดูสง่าอย่างมากยามที่เธอเห็นเขาและเธอรู้สึกว่าเขาดูดีอย่างมากเมื่อเห็นเขาใกล้ๆ อย่างวันนี้ หน้าเธอมีรอยยิ้มอย่างสุขใจที่ได้มีโอกาสเจอเขาและรู้จักชื่อเสียงเรียงนามเขาอย่างนี้
“โชคดีจริงๆ นะเราเนี่ย...” ใครมันจะไปคิดว่ายามที่เราคิดว่าตัวเองโชคร้ายสุดๆ กลับมีความโชคดีอยู่ด้วย
พอเธอกลับเข้าไปในบ้านเจอพ่อแม่อยู่ในบ้านเธอก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ท่านได้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง และได้รับความช่วยเหลือจากธีรวิทย์อย่างไร ตอนแรกพวกท่านก็ตกใจที่เกิดเรื่องอย่างนี้และคิดจะเอาเรื่องแต่เธอขอร้องเอาไว้ และให้พวกท่านรอดูก่อนว่าอีกฝ่ายจะทำยังไง เธอเชื่อว่าคนอย่างอุทิศลูกชายนักการเมืองใหญ่น่ะคงไม่ยอมให้เรื่องจบง่ายๆ หรอก ซึ่งพวกท่านก็รับปากว่าจะช่วยดูเรื่องนี้ให้ คาดว่าพรุ่งนี้พี่ชายเธอคงจะรู้เรื่องและคงจะโวยวายแน่
“นี่ยัยไพ...รู้มั้ยว่าวันนี้ฉันโชคดีสุดๆ ไปเลยน่ะ” เธอโทรหาเพื่อนรักและบอกอีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น เรื่องนี้ต้องบอกให้ใครซักคนรับฟัง
“อะไรของแกยัยเรียว?” จิระประไพเป็นเพื่อนรักของอีกฝ่ายแต่ยังไม่เข้าใจอีกฝ่ายนักว่าตกลงเธอเป็นคนยังไงกันแน่
“อิๆ แกรู้มั้ยว่าวันนี้ฉันไปเจออะไรมาบ้างน่ะ...” ใครมันจะไปอดใจไหวกันละ
“อะไรเล่ามาเลยแก...” ทำให้อยากรู้อย่างนี้มันทรมานนะยะหล่อน
“ก็วันนี้น่ะนายอุทิศมันหลอกให้ฉันออกไปน่ะ...มันบอกว่าไอ้กรกับมันเมาจนกลับไม่ได้ให้ฉันไปรับหน่อย...ฉันก็เห็นว่ามันเอาเบอร์ไอ้กรโทรมาเลยคิดว่าไม่มีอะไร..จนมันคิดจะปล้ำฉันละ..” เธอเดินไปที่ที่หน้าต่างแล้วเปิดประตูออกไปที่ระเบียง เพื่อออกไปรับลม
“ตายแล้ว!!! มันทำอะไรแกเปล่าวะ...แกพลาดท่าให้มันรึเปล่า!!!? ไอ้บ้านั่นมันออกลายจนได้...” จิระประไพสบถออกมาอย่างหงุดหงิดและไม่พอใจที่เพื่อนรักไว้ใจอีกฝ่ายเกินไป
“เกือบๆ แหละ...แต่พอดีมีคนมาช่วยได้ทันน่ะซัดไอ้นายอุทิศซะน่วมเลยแหละ...อิๆ โคตรสะใจเป็นบ้าเลยแกอยากจะมีกล้องมาถ่ายเก็บเอาไว้ใจจริงๆ ว่าสภาพเหมือนหมาของมันน่ะเป็นยังไง...” คิดๆ ดูแล้วเธอน่าจะเอาโทรศัพท์มาถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ว่านายอุทิศมีสภาพยังไงตอนนั้น หมดสภาพอย่างมาก แต่ยังปากดีคิดจะเอาเรื่องคนๆ นั้นอีก ไม่รู้เพราะเธอเขาจะเดือดร้อนรึเปล่า พ่อนายนั่นใหญ่ไม่น้อยและมีอิทธิพลอย่างมาก
“เฮ้อ...แล้วไป...ฉันนึกว่าไอ้เลวนั่นมันทำอะไรแกได้ซะอีก ว่าแต่อะไรที่ทำให้แกดูมีความสุขทั้งๆ ที่เพิ่งเกิดเรื่องร่ายกับแกวะ?” นี่ละเรื่องที่น่าสนใจว่าอะไรที่ทำให้เพื่อนเธอดูมีความสุข น้ำเสียงร่าเริงขนาดนี้
“ก็...ฉันเจอคนๆ นั้นวะ...แล้วก็นะ...เขาเป็นคนที่ช่วยฉันเอาไว้...หูย...แก...อกเขาอุ่นเป็นบ้าเลยอะ...” เธอบิดตัวไปมาอยู่ที่ระเบียงยามที่คิดถึงอกอุ่นๆ ที่เธอมีโอกาสได้ซบไม่นาน
“กรี้ด...จริงอะ...โหย...อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นแล้วเขาทำยังไงกับไอ้อุทิศวะ...อย่างมันน่ะคงไม่ยอมให้เรื่องจบแค่นี้หรอก...มันต้องให้พ่อมันเอาเรื่องคุณคนนั้นแน่...” จิระประไพเองเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทโฆษณารายใหญ่ของประเทศ
“อิๆ แกคิดอย่างนั้นใช่มั้ยแต่ฉันว่ามันเป็นพรหมลิขิตวะ...เบื้องบนคงบันดาลให้ฉันกับเขาเจอกันจังๆ เสียที...อิๆ...และที่สำคัญฉันรู้จักชื่อเขาด้วยแหละ...ได้เรียกชื่อเล่นเขาด้วย...” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เธอต้องจำไปอีกนาน
“อี๋...น้ำเน่ามากแก...แล้วเขาเป็นยังไงวะ...” เธอไม่เคยเจอคนที่เพื่อนสาวกรี้ดหรอก มีแต่อีกฝ่ายมาเล่าให้ฟังว่าไปเจอหนุ่มหล่อ แถวๆ บริษัทของที่บ้านของเธอเท่านั้น
“อิๆ ยิ่งพอเห็นเขาใกล้ๆ เขาก็ยิ่งหล่อวะ...ดูคมเข้ม ท่าทางดุๆ แต่ใจดีมากเลยแกเขาให้ฉันยืมเสื้อด้วยแหละ...ตายแล้ว! ยังไม่ได้คืนเสื้อสูทเขาเลยน่ะ...” เพิ่งนึกได้ว่าเธอใส่เสื้อเขาลงจากรถมาด้วยแล้วไม่ได้คืนอีกฝ่าย ตายๆ แล้วจะคืนเขาได้ยังไงเนี่ยเบอร์ติดต่อก็ไม่มีใครมันจะไปกล้าขอเบอร์เขาละ...
“โหย...จะไปยากอะไรเขาทำงานอยู่ๆ แถวๆ บริษัทพ่อแกใช่มั้ยละแกก็ไปวนๆ เวียนๆ แถวนั้นเดี๋ยวก็คงได้เจอหรอกคราวหน้าแกเจอเขาก็ขอเบอร์เขาซะซิ...”
“ใครจะไปกล้าละ...” ใจก็อยากจะขอเบอร์เขาหรอกนะแต่มันไม่กล้านี่ซิ...
“เออ...ถ้าเจอกันคราวหน้าแล้วฉันอยู่ด้วยจะขอให้แล้วกัน...” ไม่คิดว่าเขาจะให้หรอกแต่ถ้าหนุ่มหล่ออย่างเขาเจอเด็กสาวๆ อย่างพวกเธอแล้วยอมให้เบอร์ง่ายๆ คงไม่น่าคบเท่าไหร่...เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำงานอยู่ที่ไหน และมีแฟนรึยังคงต้องดูไปก่อน
“ขอบใจแกวะ...” ยังไงซะเธอถือว่าคนเบื้องบนท่านบันดาลให้เธอกับเขามาเจอกันอย่างนี้แล้วคงไม่ใจดำให้เธอกับเขาเพียงแค่มาเจอกันเท่านั้น บางครั้งเธออาจจะคิดหวังไปเองบ้างได้มั้ยนะ
ร่างสูงนั่งเอนๆ อยู่บนโซฟาในมือข้างหนึ่งถือแก้ววิสกี้ที่มีอยู่ค่อนแก้วเขามีรอยยิ้มติดมุมปากนิดๆ หลังจากที่กลับมาจากที่ทำงานแล้วเกิดเรื่องให้เขาต้องกลับบ้านช้าอยู่นั่น ตอนที่เข้าไปช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนเขาไม่ได้คิดอะไรแค่อยากจะช่วยเท่านั้น แต่พอเขาเห็นหน้าผู้หญิงที่เขาเข้าไปช่วยก็ทำให้เขาเลือดขึ้นหน้าทีเดียว จะว่าเขารู้จักกับเธอก็ไม่ผิดนัก แต่เป็นเขาที่รู้จักเธอฝ่ายเดียวเท่านั้น
เขาเจอรูปเธอในกระเป๋าของภัทรดนัยและรู้ว่าเธอที่อยู่ในรูปนั้นเป็นน้องสาวตอนที่เขาถามว่าคนในรูปใครแฟนเหรอน่ารักดี ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรแต่หลังจากนั้นก็ได้เห็นเด็กสาวในรูปบ่อยครั้ง แถวๆ บริษัทเขานั่นละเธอคงมาทำธุระและกลายเป็นว่าเขาคอยมองหาร่างบางว่าเธอจะผ่านมาหรือไม่
ทุกวันเขาจะเดินลงมาที่ด้านล่างเพื่อจะได้มีเวลาที่ได้เห็นหน้าเธอหลายครั้งแม้จะไม่มีธุระอะไรแต่เขาก็ต้องลงมา
“หึๆ เธอน่ารักจริงๆ นะเรียว...เธอน่าจะระวังตัวกว่านี้หน่อยนะ...” ตอนที่ขับรถไปส่งเธอที่บ้านของเธอนั้นเขาแอบมองเธอบ่อยๆ และได้เห็นสาวน้อยน่ารักอยู่ใกล้ๆ หลายครั้งเขาอยากจะยื่นมือเข้าไปจับแก้มขาวๆ ของเธอว่ามันจะนิ่มน่าสัมผัสแค่ไหน แต่ก็ต้องอดใจไว้เกรงว่าเธอจะตกใจกลัวหาว่าเขาเป็นเหมือนไอ้เดนนรกนั่น
สายตาเขาเหลือบไปเห็นแฟ้มเอกสารสีแดงที่ลูกน้องเขาเอามาให้และเขาอ่านมันจนขึ้นใจแล้ว เขายื่นมือไปหยิบมันมาอ่านอย่างสนใจอีกครั้ง ในนั้นมีรายงานที่ลูกน้องเขาสืบมาให้เกี่ยวกับเธอและมันจะถูกนำมาวางไว้ในทุกๆ อาทิตย์เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเธอคนนั้นทั้งสิ้นเขาให้ลูกน้องเริ่มสืบเรื่องราวของเธอมาเกือบปีแล้ว ว่าแต่ละวันเธอทำอะไรบ้างมีใครเข้ามาจีบเธอรึเปล่า เขารู้จักสาวน้อยอย่างดี แต่ที่ยังไม่เข้าไปทำความรู้จักเสียทีเพราะเขาอยากให้เรื่องระหว่างเขาและเธอดำเนินไปตามทางของมันมากกว่าแต่เขาก็ไม่ยอมให้ไอ้หนุ่มหน้าไหนเข้ามาใกล้เธอเด็ดขาด
เขาไม่คิดว่าเมื่อคืนจะเกิดเรื่องกับเธอได้เพราะเธอเข้าไปบ้านไปแล้ว และลูกน้องเขาก็กลับไปแล้วด้วย แต่ก็ช่วยไม่ได้แหละเรื่องของอุบัติเหตุ และคราวนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้เธอและเขาและเธอได้มาเจอหน้ากันจังๆ เสียที
“คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอผ่านเลยไปอย่างที่แล้วมาแล้วนะน้องเรียว...หึ” ถ้าคนที่รู้จักนิสัยเขาจริงๆ จะรู้ว่าเขาเป็นหวงของแค่ไหน และเขาถือว่าเธอเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ให้ลูกน้องตามเรื่องของเธอแล้ว แม้เธอจะไม่รู้ก็ตาม
“ส่วนไอ้เดนนรกนั่นเขาไม่มีวันปล่อยให้มันลอยหน้าลอยตาอยู่ได้อย่างสบายใจเด็ดขาด เขารู้ว่ามันชั่วและทำเรื่องระยำตำบอนมากแค่ไหนแต่ที่เขาไม่สนใจเพราะมันไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนของเขา แต่คราวนี้ถือว่ามันล้ำเส้นอย่างมากที่เดียวที่กล้ามากระตุกหนวดเสืออย่างเขา ถึงพ่อมันจะเป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลเขาก็ไม่กลัวหรอก...ฝ่ายนั้นยังต้องขอความช่วยเหลือจากทางพวกเขาบ่อยๆ ด้วยซ้ำอยากรู้นักว่ามันจะทำหน้ายังไงว่าเขาไม่ใช่คนที่มันจะมายุ่งด้วยง่ายๆ
สี่หนุ่มเข้ามานั่งในร้านอาหารกึ่งผับที่โต๊ะที่พวกเขาจองเอาไว้ และพวกน้องๆ ของพวกเขาเข้ามานั่งอยู่ก่อนแล้วเท่าที่เห็นมีนายดิน ฐา วิน กอล์ฟ พล แล้วก็ปลา ทุกคนล้วนเป็นน้องรหัสของพวกเขาทั้งสิ้น และร้านนี้เป็นร้านประจำของพวกเขา
“สวัสดีครับเฮียราฟ เฮียกันต์ เฮียเบียร์ เฮียแท๊ปหายหน้าไปเลยนะเนี่ย...” พนธิตรหรือกอล์ฟน้องรหัสของภัทรดนัยบอกหลังจากที่พวกรุ่นพี่นั่งลงแล้ว และอีกคนที่นั่งข้างพนธิตรเป็นคนยื่นแก้วเหล้าให้พี่ๆ
“เออ...ยุ่งๆ วะ ว่าแต่พวกแกละเป็นไงบ้างละแล้วเรื่องรับน้องเป็นไงบ้าง เพราะพวกเขาอยู่ปี4 แล้วเลยไม่ได้เข้าไปยุ่งมากนักปล่อยให้น้องๆ จัดการกันเอง แค่พวกเขาคอยดูอยู่ห่างๆ เท่านั้นก็พอแล้ว
“เฮ้อ...ก็ยุ่งอยู่พี่...เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็นัดรวมน้องๆ น่ะครับ...ว่าแต่เจ้ๆ ไปไหนละไม่มาด้วยเหรอ?” ธาวินหรือวินที่เป็นน้องรหัสของพิชญ์นรีสอดส่ายสายตามองหาสาวสวยประจำกลุ่มของรุ่นพี่สี่หนุ่มหล่อ
“ไปเอาของอยู่น่ะ...” กันตยศบอก หลังจากที่เรียกพนักงานมาสั่งอาหารเพิ่ม
“โห..นั่นเจ้ของเราสวยไม่สร่างจริงๆ นะเนี่ย...ดูดิแค่เดินมาหนุ่มก็มองตามกันตาละห้อยเชียว” ธาวินบอกพสุธาหรือดินนั่งอยู่ด้วยกันมองสองสาวที่เดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเขา แม้ว่าทั้งสองสาวจะไม่ได้แต่งตัวโป้หรือว่าอะไรมากนักพี่ไวน์แค่สวมจั้มสูทขาสั้นสีน้ำเงิน กับจั้มสูทสั้นสีครีมผ้าชีฟอง ทั้งสองคนสวยอยู่แล้วใส่อะไรก็สวยไปหมด
ภัทรดนัยหันไปมองตามที่รุ่นน้องว่าและและกันตยศรีบลุกแล้วเดินตรงไปหาทั้งสองสาวทันที ภัทรดนัยเดินไปโอบเอวพิชญ์นรีอย่างสนิทสนม กันตยศรั้งให้อัญชิษฐา ให้มานั่งข้างเขาที่โต๊ะเอาแขนพาดที่พนักเก้าอี้หญิงสาวอย่างจงใจให้พวกหนุ่มๆ พวกนั้นรู้ว่าอย่าแหยม
“หวัดดีพี่ไวน์ไหนของฝากผม” ธาวินน้องรหัสหนุ่มผิวแทนหล่อเข้ม เป็นที่กรี้ดกร้าดของสาว แต่ไม่สนใจใครเลยสนแต่เพื่อนฝูง
“ยะ..ห่วงพี่เหลือเกินนะแก..เห็นหน้าปุ๊บทวงของฝากปั้บ...ไปเอาที่ห้องนายราฟแล้วกันพี่ไม่ได้เอามาด้วย” เธอค้อนน้องตัวเองแต่เธอก็รักน้องคนนี้มาก
“โห...เจ้ให้แต่ไอ้วินเหรอพวกผมละคร้าบ” ที่เหลือส่งเสียงร้องทวงของฝากกันเกรียวกลัวว่าจะไม่ได้ของฝาก
“ไม่ต้องห่วงหรอกไวน์มันซื้อมาครบทุกคนแหละ” ภัทรดนัยบอกเขาสั่งสปายมาให้สองสาว เพราะพวกเธอไม่ค่อยดื่มกันนัก
“ไม่เจ้ไม่กินบูลละ?” พสุธาถามเมื่อเห็นทั้งสองคนไม่ดื่มเหล้า
“ไม่เอาหรอก...เดี๋ยวไม่มีใครหิ้วพวกนี้ไปส่ง” อัญชิษฐาบอกด้วยรอยยิ้ม ที่พวกเธอมาด้วยเพราะอยากมาเจอทุกคนมากกว่า
“จริงซิ..ไม่ชวนแฟนมาด้วยละ?” ก่อนปิดเทอมเธอเห็นว่าพวกหนุ่มๆ ยังมีแฟนสาวอยู่เลย แต่ไหงไม่ชวนมาด้วยกัน
“ฮุ้ย...ไม่มีแล้วละ...วุ่นวาย..” ธาวินตอบอย่างไม่แยแส เขาละเบื่อจริงๆ ตามติดเขาตลอดเวลาจนน่ารำคาญ จนเขาทนไม่ไหวบอกเลิกไปแล้วละ
“อะไรอะ...เลิกแล้ว?” อัญชิษฐาเลิกคิ้วมองหน้าอีกฝ่ายอย่างข้องใจระยะเวลาการคบกันของอีกฝ่ายสั้นเหลือเกิน เปลี่ยนผู้หญิงยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้า
“เลิกแล้ว...ผู้หญิงน่ารำคาญ”
“เอ้า...” มองหน้าอีกฝายอย่างข้องใจ
“ไม่ใช่พวกพี่หรอกน่า...เว้นไว้สองคน” บอกอย่างอารมณ์ดี เห็นจะมีรุ่นพี่สองคนนี่ละที่พวกเขาคบหาได้อย่างสนิทใจ พวกเธอเป็นคนสบายๆ พูดคุยกันง่าย
“หูย..ร้านนี้แจ่มๆ ทั้งน้าน...” พสุธาเอ่ยเมื่อเห็นสาวๆ โต๊ะอื่น และดูเหมือนว่ากลุ่มพวกเขาจะเป็นจุดสนใจของสาวๆ เสียด้วยบางคนส่งสายตาเชิญชวนอย่างโจ่งแจ้ง
“อารายเนี่ย...” อรรถพลเว้นอย่างเซ็งๆ เมื่อเห็นว่าสายตาของสาวๆ เหล่านั้นมองมมาที่ใคร ใช่ว่าพวกเขาจะขี้เหร่อะไร แต่ว่าอีกคนนี่ซิสเปคสาวๆ อย่างภัทรดนัย
“ขอโทษนะครับ...สาวๆ โต๊ะโน้นส่งนี่มาครับ” พนักงานเดินเอาเก้าเหล้าที่ได้รับมาจากสาวๆ กลุ่มโน้นมาให้ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ตาคมดุ
เขาหันไปมองตามที่พนักงานหนุ่มบอกเขาเห็นสาวชุดแซคแดงรัดรูปโบกมือให้เขา ชายหนุ่มหันกลับมาแล้วเหลือบตาไปมองคนที่นั่งข้างๆ เขา
พิชญ์นรียกขวดสปายขึ้นมาดื่มและพูดคุยกับทุกคนอย่างออกรสหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานหลายเดือน เธอเห็นว่ามีสาวๆ ส่งสายตาเชิญชวนมาให้เพื่อนหนุ่ม และอีกทั้งกลุ่มก็ได้เหล้าพร้อมเบอร์โทรเหมือนกันสาวๆ สมัยนี้กล้ากันจริงๆ ทั้งญาณศรณ์และสรวิชต่างรับมาอย่างไม่เกี่ยงงอน แต่ไม่เข้าไปคุยด้วย วันนี้เป็นวันของเพื่อนอย่างแท้จริงพวกเขาจะไม่หิ้วใครกลับบ้าน
ส่วนอีกสองหนุ่มไม่ยอมรับไมตรีจากสาวๆ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้พวกเธออย่างมาก มือหนาของภัทรดนัยไม่ได้ละจากเอวบางของเธอเลย ที่เขาเดินไปหาเธอแล้วโอบเอวเธอเอาไว้สีหน้าบึ้งตึงจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากเอวเธอเลย
“ไม่รับละ?” เธอเอนตัวไปถามชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าเขาปฏิเสธ
“ไม่เอาอะ...ฉันไม่อยากทำตัวเหมือนเดิมแล้วอยากเปลี่ยนน่ะ...จากนี้ไปฉันจะมีอะไรกับคนรักฉันเท่านั้น” เขาบอกเสียงเรียบ แววตาจริงจังที่ส่งมาที่เพื่อนสาวจนเธอต้องเสหลบสายตา
“หูย...เป็นคนดีนะเนี่ย...อิจฉาเธอคนนั้นจังเลย” เขายิ้มให้เขาน้อยๆ ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้หญิงคนนั้นเธออดจะเขินหน้าแดงไม่ได้เมื่อเขาพูดแล้วจ้องหน้าเธออย่างนี้
“ไวน์ฉันจะไปห้องน้ำแกไปกับฉันมั้ย?” อัญชิษฐาถามเพื่อนสาว ก่อนจะหันไปบอกคนที่นั่งข้างให้หลบให้เธอลุกออกไปได้
“เอาซิ...เดี๋ยวมานะ...” เธอหันไปบอกภัทรดนัย ก่อนจะลุกออกไป
“เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน” ภัทรดนัยจับข้อมืออีกฝ่ายไว้แล้วบอกเสียงเรียบ เห็นว่าเธอมองหน้าเขาอย่างข้องใจ แต่เธอก็ไม่ได้แย้งอะไรออกมาปล่อยให้เขาเดินตามหลังเธอมาพร้อมกับเพื่อนสาวอีกคน
ความคิดเห็น