ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กามเทพป่วนรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 อย่างที่ต้องการ

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ย. 56


    ตอนที่ 2 อย่างที่ต้องการ

                    หลังจากหมดคาบเรียนในช่วงเช้าและช่วงบ่ายอาจารย์ไม่เข้า พิชญ์นรีก็โดนเพื่อนรักอย่างภัทรดนัยลากออกไปทันที โดยให้เหตุผลว่าเธอต้องไปเปลี่ยนชุดอย่างที่บอกแต่ไม่ได้ไปกันสองคน ไปกันหมดนั่นละแต่เธอโดนเขาลากออกไปด้วย

                    “โหย..ค่อยๆ ก็ได้ราฟฉันไม่ไปไหนหรอก...” แย้งเพื่อนเสียงแข็งหลังจากโดนเขาลากออกมาห้องเรียน ทั้งที่อยู่ในชุดนักศึกษา และรองเท้าสั้นสูงของเธอ

                    “ว่าแต่แกจะกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนจะกลับบ้านหรือว่ายังไง?” ชายหนุ่มหันมาถามเพื่อนสาวอย่างใส่ใจ

                    “ว่าจะกลับไปเปลี่ยนที่ห้องยัยจีนน่ะ..พวกนายไปกันเองก่อนก็ได้เดี๋ยวพวกเราสองคนตามไปทีหลัง...เหลือเวลาอีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลา” เสื้อผ้าของเธออยู่ที่ห้องเพื่อนรักหลายตัวอยู่ หรือไม่ก็เอาชุดของเพื่อนรักมาใส่ก็ได้เพราะหุ่นเธอกับเพื่อนไม่ค่อยต่างกันนัก

                    “หูย...พวกแกว่าไง?” หันไปถามความเห็นเพื่อนรักอีกสามคนที่เป็นหนุ่มหล่อทั้งหมด

                    “ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแต่หิววะ...ไปหาอะไรกินก่อนดีกว่ามั้ย?” ญาณศรณ์ออกความเห็นมื้อเช้าพวกเขาไม่ได้กินข้าวและตอนนี้ก็หิวมากด้วย

                    “ไปกินในห้างฯ ดีกว่ามั้ยพวกฉันจะไปซื้อของอะ...” อัญชิษฐาออกความเห็นเธอเพิ่งกลับมายังไม่ได้ซื้อของเข้าห้องเสียด้วย

                    “อ้าวเหรอ...ไปซิ...พวกแกละ?” สรวิชเองก็เห็นด้วยพวกเขามักจะแวะเวียนไปที่ห้องของเพื่อนรัก ข้าวของอยู่ที่ห้องพวกเธอมีพอสมควรทีเดียว บ่อยครั้งจนมีกุญแจแล้วคีย์การ์ดของเพื่อนทุกคนด้วย เจ้าตัวยังบ่นให้พวกเขาว่าเสียเงินค่าคีย์การ์ดที่ไปขอเพิ่มจากทางคอนโดฯ อีกด้วย

                    “เอาซิ...แล้วสองสาวนี่มาไงกันละ....” กันตยศถามอย่างรู้จักสองสาวดีว่ามาที่นี่ยังไง

                    “เหมือนเดิม” อัญชิษฐาบอกอย่างไม่แคร์ เพื่อนเธอทุกคนมีรถขับกันทุกคนแต่เธอและพิชญ์นรีมักจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเพราะว่าสะดวกไม่เปลืองด้วย ยังไงขากลับพวกเพื่อนๆ ก็ไปส่งอยู่ดี

                    “แกละไวน์?” ภัทรดนัยถามเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างเขา ตลอดเวลาที่คบหาเป็นเพื่อนกันมาเขาแทบจะไม่เห็นเพื่อนขับรถเลยเว้นแต่ตอนที่เขาเมาแล้วโทรตามให้เธอมารับหรือเวลาที่ไปกินเหล้ากันและเขาเมามากเธอก็จะเป็นคนขับรถให้เขาเสมอ

                    “เหมือนยัยจีนแหละ...” นักศึกษาที่นี่มักจะขับรถมาเรียนเพื่ออวดฐานะของตัวเองกันเยอะจนแทบจะหาที่จอดรถไม่ได้

                    “งั้นแกไปกับฉันนะ...” บอกเธออย่างรวดเร็ว

                    “แกเอารถมอเตอร์ไซด์มา?...ถ้าใช่...ไม่ไป” เธอบอกอย่างเร็วเหมือนกัน

                    “เอ้า...ไหงงั้น?” ถามอย่างไม่เข้าใจ รังเกียจมอเตอร์ไซด์เขาหรือไงเนี่ย

                    “บ้าปะ...แกดูสภาพของฉันก่อนดิ...กระโปรงนะยะจะให้ฉันนั่งรถแกยังไง...แล้วรถแกน่ะไม่ใช่สกูปปี้หรือฟีโน่นะยะ...BMW  นะยะ” เธอค้อนเพื่อนรักอย่างหมั่นไส้ถามออกมาได้ว่าทำไมดูรถเขาเสียก่อนเถอะ ถึงสาวๆ อยากจะนั่งรถเขามากมายแค่ไหนก็เถอะแต่เธอขอบาย

                    “หึๆ วันนี้ไอ้ราฟมันเอารถยนต์มา...แกไม่ต้องห่วงหรอกไวน์...” กันตยศยิ้มขำกับเพื่อนสาวที่ค้อนอย่างน่ารัก ถ้าเธอคนนี้ไม่ใช่เพื่อนที่รู้จักนิสัยกันดี เขาคงหลงเสน่ห์ความเป็นธรรมชาติของเธออย่างแน่นอน

                    “เหรอ...แล้วก็ไม่บอก...ว่าแต่ยัยจีน...ว่าจะถามตั้งนานแล้วมันอะไรวะที่ถืออยู่นั่นน่ะ?” มองของในมือเพื่อนอย่างข้องใจ กล่องเฟอเรโร่กล่องใหญ่นั่นน่ะ...เพื่อนเธอไม่ใช่คนที่พิศวาสของพวกนี้นี่นา

                    “หึๆ...อ๋อ...ไอ้นี่น่ะเหรอ...มีหนุ่มน้อยน่ารักเอามาฝากน่ะ” สรวิชเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี เขาอยู่ด้วยตอนที่เดินออกมาจากห้องเรียนคาบสุดท้ายมีคนเอากล่องขนมมาให้

                    “อะไรนะ...ใคร? มันเป็นใครที่ไหน...ทำไมฉันไม่เห็นวะ?” กันตยศร้องออกมาเสียงดังหลังจากที่เพื่อนพูดจบ ใครกันที่กล้าแอบมาตีท้ายครัวเขา หลุดรอดสายตาเขาไปได้ยังไงกัน

    “เว้ย....จะร้องเสียงดังทำไมวะ...ก็แค่มีคนเข้ามาสนใจเพื่อนเราเท่านั้นเอง” ญาณศรณ์เอ่ยออกมาอย่างไม่ใส่ใจ

    “นั่นดิวะ...แกจะโวยวายทำไมวะ...” สรวิชพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เขาคิดว่าดีเสียอีกมีคนเข้ามาจีบเพื่อนเขาอย่างนี้น่ะ

    “เฮ้ย...พวกแกไม่ห่วงจีนเหรอไงวะ...เกิดคนที่เข้ามาน่ะมันแค่หวังอย่างอื่นละ?” กันตยศเสหลบตาเพื่อนแล้วมองไปทางอื่น สีหน้าไม่พอใจที่มีคนเข้ามาจีบหญิงสาว

    “อ้าว...ไอ้นี่...ก็แค่ขนมนะเว้ยเรื่องอย่างนี้ต้องดูกันนานๆ” สรวิชบอกอย่างไม่เห็นด้วย

                    “พอๆ พวกแกนี่อะไรกันวะ...ก็แค่เขาเอาขนมมาฝากเท่านั้นเองไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นหรอก...” พิชญ์นรีบอกอย่างเป็นกลางเธอไม่รู้ว่าคนที่เอาของมาให้เพื่อนคิดอะไรอยู่ เรื่องอย่างนี้มันต้องดูกันยาวๆ

                    “แกคิดอะไรง่ายไปเปล่าไวน์...ผู้ชายที่ไหนเขาจะยอมลงทุนซื้อขนมราคาแพงอย่างนั้นมาให้คนอื่นกินเฉยๆ ถ้าไม่คิดอะไรด้วยน่ะ” ภัทรดนัยบอกอย่างไม่เห็นด้วยกับความคิดของอีกฝ่าย เพราะอย่างนี่นี่ไงเขาคิดคอยกันหนุ่มๆ ที่เข้าหาเพื่อนสาวอยู่เสมอกลัวเจอคนไม่ดี

                    “หูย...พูดกับพวกแกแล้วเหนื่อยวะ...สงสัยจะมีคนรักทั้งทีต้องแอบมีแล้วมั้งเนี่ย...กลัวพวกแกขวางทาง” อัญชิษฐาส่ายหน้ายิ้มๆ พลางยื่นกล่องขนมให้กันตยศเอาไปถือเอาไว้

                    “อะ...ฉันไม่ค่อยชอบอะ...แกซื้อเค้กให้ฉันกินหน่อยนะ...” พอเธอพูดเสร็จก็ได้รับรอยยิ้มเป็นการตอบแทนเหมือนพอใจที่เธอไม่ได้ชอบของที่มีคนนำมาฝาก

                “เท่าที่แกกินไหวเลยละ...” เขาโปรยยิ้มหวานให้หญิงสาวตรงหน้า เห็นว่าเธอไม่ได้มีทีท่าปลาบปลื้มกับขนมชิ้นนี้ทำให้เขาพอใจอย่างมาก

                    “อิๆ ทีอย่างนี้ยิ้มหวานเชียวละ...ฉันว่าไปเถอะหิวแล้ว” พิชญ์นรีเย้าเพื่อนรักที่มีสีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มมุมปากที่เธอชอบทำทั้งแววตารู้ทันมองไปยังอีกฝ่ายนิ่ง

                    “ไวน์ไปกับเรานะ จีนไปกับกันต์ แล้วก็แท๊ปไปกับนายเบียร์แล้วกัน” ภัทรดนัยบอกเสร็จสรรพ ไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่มองมาที่พวกเขาอย่างสนใจ บางคนใจกล้าก็เดินเข้ามาใกล้และให้ท่าพวกเขาอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้เขาเริ่มเบื่อชีวิตเดิมๆ แล้วอยากจะมีคนที่รักเขาจริงๆ เสียที แต่ไม่รู้ซิเขากลับรู้สึกว่ายังไม่เจอใครที่เขารู้สึกอย่างนั้นเสียที อยากจะอยู่กับเพื่อนๆ เขาไปอย่างนี้ เขากลับรู้สึกสงบอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างเรื่องเมื่อเช้าเขาก็รู้สึกว่าไม่เสียดายอีกฝ่ายแม้แต่นิดเดียวที่จะสลัดอีกฝ่ายออกไปจากชีวิต...เขาตัดสินใจไม่ยากเลยระหว่างเพื่อนกับคู่ควง

                ความจริงจะว่าเขาไม่เจอคนที่ทำให้ใจสั่นก็ไม่ใช่หรอก..หลังจากที่ทำตัวเสเพลมานาน สับสนกับความรู้สึกตัวเองอยู่นานว่ารู้สึกยังไงกับคนๆ นั้น ตอนนี้เขาก็มั่นใจแล้วว่ารู้สึกยังไง ตอนนี้เขาเลิกควงผู้หญิงหรือมีอะไรกับคนที่เข้ามาเสนอแล้ว แม้จะยังเคลียร์สาวๆ ไปยังไม่หมดแต่เขาก็ไม่หาเพิ่มอีกแล้ว

                    “เป็นอะไรวะราฟยิ้มอยู่คนเดียว?” พิชญ์นรีโบกมือไปมาผ่านหน้าเพื่อนที่ประจำที่คนขับแล้วแต่ไม่ยอมออกรถเสียที จนเธอต้องท้วงเนี่ย...คนอื่นออกไปหมดแล้ว

                    “อะ...เปล่า..แล้วเป็นไงบ้างไวน์หายไปเลยช่วงปิดเทอม” เขาละอดน้อยใจอีกฝ่ายไม่ได้ ทั้งที่ปกติพิชญ์นรีไม่เคยหายหน้าไปเลย เขายังได้เจอะเจอเธอบ้าง ถึงจะโทรคุยกัน ออนไลน์กันตลอดก็เถอะ แต่มันไม่เหมือนกับเจอหน้ากันตรงๆ อย่างที่ไอ้กันต์บอกนั่นแหละเขาเหงาเวลาที่ไม่เจอหน้าเธอ

                    “อ๋อ...ไปทำงานพิเศษมาน่ะ...” ก็เธอไปฝึกงานที่บริษัทของแม่เธอมาน่ะซิ นั่นทำให้เธอหายหน้าไม่ได้มาเจอเขาเลยตลอดสามเดือนมานี้

                    “เหรอ...สนุกมั้ย...” เขาทอดเสียงน้อยใจ

                    “ไม่สนุกเลย...งานหนักจะตาย...ออกไปไหนก็ไม่ได้เลยอะ...นายก็เห็นนี่นาว่าเราน่ะทำงานตลอดไม่ได้ไปไหนเลย” เธอบอกเขาไปตามตรง ตลอดช่วงปิดเทอมเธอต้องทำงานหนักมาก จริงอยู่เธอยังเป็นนักศึกษาเรียนยังไม่จบ แต่เธอก็เรียนรู้งานของบิดามารดาตลอดเวลาที่มีโอกาสแต่คราวนี้เธอต้องเดินทางไปฮ่องกงเพิ่งกลับมาถึงวันนี้นี่แหละ....

                    “เหรอ...ไม่ใช่ว่าอยู่ที่โน่นมีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบเพียบเหรอ?” เขาละสายตาจากถนนมามองหน้าอีกฝ่ายน้อยๆ แล้วกลับไปสนใจทางข้างหน้าต่อ

                    “อิๆ ก็มีบ้างแหละคนมันสวย...” เธอยิ้มออกมาอย่างร่าเริง นี่คงน้อยใจว่าเธอไม่ได้กลับมาเลยซิท่าความจริงเธอก็คิดถึงเขานะแต่ว่าเธอเป็นเด็กฝึกงานนี่นา

                    “เชอะ...ไม่คิดถึงเพื่อนเลยนะ...” ทำแก้มป่องอย่างน้อยใจ

                    “โอ๋ๆ แต่เราไม่ได้สนใจหรือแม้แต่ให้เบอร์ใครเลยน้า...เราสัญญากับราฟแล้วไงละจะให้เบอร์หนุ่มๆ น่ะต้องถามราฟก่อนเรารักษาสัญญาอย่างดีเลยน้า...พอมีหนุ่มๆ เข้ามาเราก็บอกว่าเราให้เบอร์ใครไม่เพราะมีคนสั่งห้ามอะ...” บอกเขาอย่างมีความสุขยิ่งเห็นรอยยิ้มอย่างพอใจของอีกฝ่ายหลังจากที่เธอพูดจบ ก็รู้ว่าเขาพอใจมากที่เธอรักษาสัญญา

                    “ว่าแต่เราราฟละ..ปิดเทอมเป็นไงบ้าง...สาวๆ เยอะเปล่า?” พิชญ์นรีได้แต่ถามเขาอย่างสนใจว่าตลอดเวลาที่เธอไม่อยู่เขาเป็นยังไงบ้าง

                    “ทำงานน่ะแหละ...ถ้าเราว่างเราคงไปหาไวน์แล้วแหละ...” บอกอย่างเบื่อๆ นี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้เขาไม่สามารถไปหาเธอได้อย่างที่ใจต้องการ

                    “เหรอ...ก็จะได้เก่งๆ ไงละ...” เธอได้แต่พยักหน้ารับรู้

                    “เออ...ช่วงนี้พวกน้องๆ เขาเตรียมการรับน้องเป็นยังไงบ้าง?” เพราะเธอไม่อยู่เลยไม่รู้เรื่องการรับน้องเลย มีเพียงเพื่อนรักที่คอยส่งข่าวเท่านั้น และมีรุ่นน้องจัดการทุกอย่างหมดแล้ว พวกเธอแค่คอยดูอยู่ห่างๆ เท่านั้นเอง

                    “ไม่มีอะไรหรอก...ช่วงนี้ก็แค่เรียกรวมตัวทำกิจกรรมแหละ...เหมือนเดิม” เขาไหวไหล่น้อยๆ

                    “แล้วเรื่องของยัยศิน่ะ...จะเลิกจริงๆ น่ะเหรอ?” เธอไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะมาเลิกกันเพราะเธอเป็นต้นเหตุหรอกนะ...
                    “อืม..ไม่เกี่ยวกับไวน์หรอก...ศิน่ะเขาเริ่มเซ้าซี้แล้วทำตัวเป็นเจ้าของมากเกินไปน่ะ...ทั้งที่ตกลงกันไปแล้วแท้ๆ เมื่อจะทำเกินตัวเราก็ต้องยุติแหละ...” เขาเองก็พยายามที่จะสลัดอีกฝ่ายออกไปขากชีวิตเขาอยู่แล้ว บังเอิญแค่ว่าเป็นตอนที่พิชญ์นรีอยู่ด้วยเท่านั้นเอง

                    “แน่ใจนะ....แต่แปลกนะปกตินายไม่ค่อยจะสนใจนี่ว่าใครจะมาแสดงตัวอย่างนี้น่ะ” อดที่จะข้องใจพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายไม่ได้

                    “หึๆ ไม่อยากให้คนที่เขารักเราต้องเสียใจน่ะ...” เขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าพยายามเคลียร์ตัวเองในเวลาที่เขาพร้อมและเปิดเผยความในใจและคนๆ นั้นยอมรับความรู้สึกและไม่เกิดข้อกังขาเรื่องตัวเขาอีก

                    “จ้า...ว่าแต่คุยกันมาตั้งนานแล้วเรียวเป็นไงบ้างอะ...” เธอถามถึงน้องสาวเพียงคนเดียวของเพื่อนรัก ที่ตอนนี้กำลังอยู่ที่ชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมแต่เธอเลือกเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ ต่างจากพวกเธอที่เรียนโยธา

                    “ก็เรื่อยๆ แหละยัยเรียวก็คงสนุกกับชีวิตแหละ...แต่ออกจะเอ๋อๆ ไปหน่อยก็ตาม” น้องสาวของเขาเป็นคนร่าเริง แต่ติดที่ว่าจะเป็นคนซื่อบื้อไปหน่อย...เพราะเป็นคนที่มองโลกในแงดี มองว่าทุกคนเป็นคนดี แต่ก็ดีที่มีเพื่อนที่ดีคอยให้ความช่วยเหลืออยู่นั่นละที่ทำให้เขาห่วงไปหน่อย

                    “เหรอ...ไม่ได้เจอหน้าเลยนี่นา...เดี๋ยวต้องหาโอกาสโทรหาแล้วละ...” เธอเองก็สนิทกับน้องสาวเพื่อนรักมาก เพราะเข้านอกออกในบ้านนั้นบ่อยๆ เลยทำให้เธอสนิทกับทุกคนในบ้านและภัทรดนัยเองก็รู้จักกับบ้านเธอดีด้วยเหมือนกัน

                    “อย่าชวนยัยเรียวไปไหนกันสองคนละ...เราไม่ยอมนะ...ต้องให้เราไปด้วย” เขาบอกอย่างไม่ต้องการให้ทั้งคู่ไปด้วยกันเองเพียงลำพัง เพื่อนและน้องสาวเขาน่ะสวยน้อยเมื่อไหร่ถ้าไปกันเองตามลำพังมีหวังหนุ่มๆ เข้าหาเพียบเลย

                    “จ้า...พวกนั้นรออยู่ที่ชั้นไหนนะ...” เธอลงจากรถแล้วยืนรอที่ข้างๆ รถ วันนี้เพื่อนรักของเธอมาด้วยรถ BMW Z4 สีดำ ดีนะไม่เอารถคันหรูกว่านี้มาขับน่ะ...แค่นี้สาวๆ ก็อยากจะกระโจนเข้าหาเขาจะแย่อยู่แล้ว

                    “ถามจริงๆ เถอะไวน์รถที่บ้านก็มีตั้งหลายคันไม่เห็นขับมาเลยละ?” ที่บ้านของเธอมีรถเยอะมากเพราะพ่อและพี่ชายของเธอเป็นคนที่ชอบรถมาก แต่เขาไม่เห็นว่าเพื่อนสาวเขาจะขับมาเลยซักครั้ง จนหลายครั้งมีบางคนที่ถือเรื่องเงินและฐานะทางสังคมเคยพูดจาในทางที่ไม่ดี พอเขาได้ยินก็ต่อว่าไปเยอะเหมือนกัน...แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่สนใจสิ่งเหล่านั้นเท่าไหร่

                    “อิๆ ขี้เกียจน่ะ...” เธอเห็นอีกฝ่ายมองหน้าเธออย่างข้องใจนี่คงจะสงสัยมานานแล้วซิ ปกติเธอจะยิ้มแล้วก็ไม่ตอบซะมากกว่า

                    “ก็...มาเรียนตอนเช้ามันสะดวกกว่าน่ะ...และเวลากลับราฟก็ไปส่งทุกทีอะ...จะว่านายทำให้ฉันเคยตัวก็ได้นะ...” เธอมองหน้าอีกฝ่ายิ้มๆ เพราะเขานั่นแหละที่ทำให้เธอเคยตัว ชินกับการที่เขาไปส่งเสียแล้ว ความจริงเขาก็เสนอที่จะไปรับเธอทุกวันแต่เธอไม่อยากให้เขาวุ่นวายเลยปฏิเสธไป

                    “หึๆ เพิ่งรู้ตัวเหรอเราจะทำให้ไวน์ติดเราจนขาดไม่ได้น่ะ...” เขายิ้มอย่างมีความสุขอย่างน้อยๆ สิ่งที่เขาทำไปก็มีผลต่อเธออย่างมาก

                    “เจ้าเล่ห์นะเราน่ะ...” เธอได้แต่ยิ้มแล้วมองหน้าเพื่อนอย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่นัก

                    “น่า...เราทำกับไวน์คนเดียวแหละ” เขาเดินมาหาแล้วกอดคอเธอแล้วเดินไปด้วยกัน อย่างนี้ซิอย่างที่ต้องการ แค่มีเธออยู่ด้วยอย่างนี้ก็มีความสุขแล้ว


    *****************************************************
    มาลงให้อีกตอนแล้วจ้า เมกือบลงที่ id เดิมไม่ได้เนื่องจากขี้ลืมจัด 5555 แต่ตอนนี้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว
    เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่จ้ไม่เกี่ยวกับเรื่องเก่าๆ เลยอาจจะชื่อคล้ยกันเพราะคนแต่งเบลอ มีคนทักนี่ละค่อยรู้ว่าชื่อคล้ายกัน...หวังว่าคงสนุกกันจ้า...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×