ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พนันร้าย พันหลักใจ (พิมพ์กับ อะเมทิสต์ จ้า...)

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 16

    • อัปเดตล่าสุด 7 ม.ค. 52


    ตอนที่ 16 


    ทั้งสี่คนเดินออกจากห้องทำงานโดยมีหนุ่มแฝดสุดหล่อเดินตามหลังพ่อกับแม่อย่างองครักษ์ คอยพิทักษ์ทั้งสองคน เมื่อเดินไปที่รถแล้ว สองหนุ่มทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้และที่ๆ พวกเขาตั้งใจพามาร์โคและข้าวปั้นมานั้นก็คือร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
     
    “เอ๋?...อะไรกันทำไมพาพ่อกับแม่มาที่ร้านนี้กันได้เนี่ย?” ข้าวปั้นอดที่จะสงสัยไม่ได้ เมื่อลูกชายแทบจะไม่เคยมาที่ร้านแบบนี้เลยด้วยซ้ำ
     
    “ไม่มีอะไรหรอกครับแม่ เพื่อนๆ มันแนะนำบอกร้านนี้อาหารอร่อยครับ” มนต์ธรบอกเสียงเรียบ เมื่อโดนซักจากมารดาที่น่ารัก
     

    “เหรอ...” 

    “แล้วเพื่อนแกบอกมั้ยว่าอาหารอะไรอร่อยบ้างละ?” มาร์โคถามย่างสงสัย มองภายในร้านอย่างสำรวจ เขาเคยเห็นร้านนี้มาก่อน แต่ไม่เคยมาจริงๆซักที 


    “บอกว่าอร่อยทุกอย่างครับ พ่อกับแม่จะทานอะไรดีครับ” ถามอย่างเอาใจ ที่เขามาที่ร้านนี้จริงๆ แล้วอยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับน้องสาวมากกว่าเพราะเคยเห็นมาที่ร้านนี้ และเพียงอยากจะรู้ว่าที่นี่รู้เรื่องรึเปล่าเท่านั้น แต่ที่พาพ่อกับแม่มาด้วยเพราะอยากดูปฏิกิริยามากกว่า 


    “งั้นธรกับธัชก็สั่งเถอะลูกพ่อกับแม่ทานอะไรก็ได้” ข้าวปั้นบอกลูกชาเสียงอ่อน 


    “เอางั้นเหรอครับ งั้นเดี๋ยวผมสั่งให้แล้วกันนะครับ” มนต์ธรบอกพลางหยิบเมนูอาหารขึ้นมาเปิดดูภายใน และจัดการสั่งอาหารสำหรับเขาและพ่อกับแม่อย่างรู้ความชอบของท่านทั้งสองคนดี 

    “ธรตอนนี้งานเป็นไงบ้างละ” 


    “ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจครับเราสองคนจัดการได้อยู่แล้วพ่อไม่ต้องห่วงหรอกครับ” 


    “เหรอ...พ่อก็อดเป็นห่วงไม่ได้เจ้าตัวแสบไม่อยู่อย่างนี้” 


    “งั้นพ่อก็ให้น้องกลับมาเสียทีซิครับ” 

    “เรื่องนั้นคงทำไม่ได้หรอก แต่รอหน่อยนะ อีกหน่อยน้องก็จะกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิมแล้วละ” 


    “แต่...” มนต์ธัชพยายามยื้อ
     

    “เอาน่าธัช พ่อยอมพูดแค่นี้ก็ดีแล้ว เราเองก็ต้องจัดการงานที่กำลังมีปัญหาพวกนี้ให้เรียบร้อยก่อน ไม่แน่หรอกพอเสร็จแล้วอิ่มอาจจะกลับมาบ้านแล้วก็ได้” 


    “ว่าแต่เรื่องจัดงานแฟชั่นโชว์เปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ไปถึงไหนแล้วธร ธัช” ข้าวปั้นเอยถามเรื่องงานใหญ่ประจำปีของบริษัทที่กำลังจะจัดขึ้นมาในตอนปลายปี
     

    “สบายมากครับ ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบเรื่องต่างๆ ก็ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นส่วนใหญ่พร้อมหมดแล้วครับเหลือแค่ตัวนางแบบเท่านั้นเอง” มนต์ธรตอบคำถามของมารดาที่รักและเอ็นดูพวกเขาทุกคนตลอดเวลา และเห็นพวกเขาเป็นเด็กเล็กๆตลอดไม่ว่าเขาจะโตแค่ไหนก็ตาม 


    “งั้นก็ดีแล้ว”
     
    “คุณถามอย่างกับสองคนนี้ไม่เคยจัดงานนี้มันจัดมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วละ” ส่ายหน้าให้ภรรยาที่เป็นห่วงเกินเหตุ 


    “พี่มาร์คก็...ข้าวเป็นห่วงลูกนี่นา” ตีแขนสามีเบาๆ ที่เขาขัดเธอ 


    “พี่รู้ว่าข้าวเป็นห่วงลูก แต่ข้าวก็น่าจะรู้นี่นาว่าลูกเราเก่งแค่ไหน” บอกภรรยาอย่างภาคภูมิใจในตัวลูกๆทุกคน เขาไม่เคยบังคับให้ลูกเรียนบริหารเพื่อกลับมาทำงานของที่บ้าน เขาให้ลูกๆ เลือกเรียนตามที่ชอบ แต่ลูกก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังหลังจากทำสิ่งที่ตัวเองรัก ทั้งสี่คนก็กลับมารับงานของเขาต่ออย่างเต็มใจ และทำได้ดี 


    เพราะไปฝึกวิชากับเพื่อนๆ เขามาแล้ว ตอนแรกเขาคิดว่าลูกสาวคนเล็กคงไม่กลับมาช่วยงานแล้ว แต่เมื่อสามปีก่อนลูกสาวเขากลับมาแล้วบอกว่าพร้อมที่จะทำงานให้แล้ว สั่งมาเลย เธอรับได้ทุกอย่าง เขางี้อึ้งไปเลย เพราะสภาพเธอที่ปรากฏต่อหน้าเขานั้นเรียกว่าเซอร์สุดๆ กางเกงยีนสีซีดขาดเป็นจุดๆ และเสื้อยืดตัวโคร่งสีดำเขายังติดตาไม่หาย แต่พอเธอเริ่มงานจริงๆ 


    เธอก็ทำได้ดีอย่างไม่ติดขัดกับงานที่เขาและพี่ๆ ต่างมอบหมายให้เธอรับผิดชอบเธอจะดูเรื่องการตลาดและรับผิดชอบเรื่อวัตถุดิบด้วย อาจจะต่างกันแต่มนปริยาคนนี้เก่งเรื่องการเลือกวัตถุดิบเป็นอย่างมาก เธอไปเรียนมาอย่างหนักเพื่อกลับมาทำงาน เธอบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ชอบเลยไม่หนักหนาอะไรแต่การไปเรียนที่นั่นต้องติดดินเท่านั้นเองซึ่งลูกสาวเขาบอกว่าไม่เดือดร้อนนี่หน้าตาเฉย 


    แรกๆ พวกเขาก็ให้เริ่มจากตำแหน่งเล็กๆ ก่อนค่อยให้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะตอนที่มาทำงานครั้งแรกไม่มีใครรู้ว่ามนปริยาเป็นใครซักคนเดียวเพราะไม่เคยมีใครเห็นหน้าลูกสาวคนเล็กท่านประธานตอนโตเป็นสาวซักคนเดียว
     



    “อิ่มคุณเห็นร้านนี้ได้ยังไงเนี่ยผมมาที่โรงงานตั้งหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยมาทานเลย” เขามองรอบๆ ร้านที่หญิงสาวเลือกมาทานมื้อเที่ยงอย่างสงสัย มันเป็นร้านริมทางแต่รสชาติอาหารดีมากๆ และราคาไม่แพงเสียด้วย 


    “อ๋อ...อิ่มเคยมาทานตอนมากับเพื่อนๆ น่ะค่ะ คุณจินดูท่าจะชอบนะคะ” มองไปที่จานอาหารที่ชายหนุ่มทานไป
     

    “แน่ซิ ผมไม่เคยทานเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยนะ..อย่างนี้ผมจ่ายดีกว่านะ” เขากำลงควักตังค์มาจ่ายแต่โดนเธอชิงตัดหน้าไปเสียก่อน
     
    “ไม่เอาหรอกค่ะอิ่มบอกว่าจะเลี้ยงก็ต้องเลี้ยงค่ะ แค่นี้เองไม่ทำให้อิ่มจนกว่านี้หรอกค่ะ” 


    “แต่ว่า..ผมทานเยอะมากเลยเกรงใจอิ่มจัง”
     

    “เกรงจงเกรงใจอะไรกันคะ ที่คุณจินซื้อนาฬิกาให้เนี่ยแพงกว่าอีก” เธอยกนาฬิกาที่สวมอยู่ให้เขาดู 


    ‘คนอะไรคิดมาจริงเชียวเลี้ยงข้าวแค่นี้เองไม่ได้ขอแต่งงานซะหน่อยนะ’ เธอได้แต่ค่อนเขาในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมาให้เขาได้ยินหรอกนะ กลัวตกงานน่ะ
     

    “งั้นก็ได้ครับ อิ่มทานน้อยจังครับ” 


    “อิ่ม...ไม่ค่อยหิวค่ะ” 


    “อิ่มน่ะเหรอครับไม่ค่อยหิว?” เขาถามอย่างไม่เชื่อที่เธอบอกซักนิดเดียว 


    “คะ....” 


    “งั้นเราแวะซื้อขนมก่อนค่อยเข้าโรงงานแล้วกันนะครับเผื่อว่าอิ่มจะหิวช่วงบ่ายๆ น่ะ” เขาบอกย่างเป็นห่วงเธอ เกรงว่าเธอจะหิวทีหลัง “เอางั้นก็ได้ค่ะ คุณจินจะเอาอะไรมั้ยคะ” 


    “ผมลงไปด้วยดีกว่าจะได้ดูด้วยว่าอิ่มซื้ออะไรบ้าง” บอกอย่างไม่ไว้ใจถ้าให้เธอลงไปซื้อคนเดียวมีหวังเธอไม่ยอมซื้ออะไรแน่ๆ เลย และวันนี้เธอก็ดูแปลกๆ ด้วย เหมือนกับว่าเธอเบื่ออาหารทั้งที่ชอบทานขนาดนั้น 

    “งั้นเหรอคะ ไปกันค่ะ” เธอมองหน้าเขา ก่อนจะไม่พูดอะไรอีกและทั้งสองลงไปในร้านค้าด้วยกันเพื่อเลือกของเอาไว้ทานเล่น และบริเวณร้านนั้นก็เป็นแถวโรงงาน และยังไม่เลยช่วงพักหลายคนก็อยู่แถวนั้นและจำได้ว่าชายหนุ่มที่ลงรถมาเป็นใคร ต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
     
    “นี่ยังไม่เลยเที่ยงเลยนี่อิ่ม” ยกนาฬิกาดูเมื่อเห็นพนักงานนั่งอยู่ 



    “ค่ะ...คุณจินจะเอาอะไรมั้ยคะ” หันไปถามลังจากที่หยิบเอาขนมแล้ว 


    “ไม่ละ..อิ่มได้ครบแล้วใช่มั้ยงั้นเราไปกันเถอะครับ” เดินนำเธออกไปที่รถก่อนและรอให้เธอเดินตามมาทั้งคู่เข้ารถไปท่ามกลางสายตาสนใจของพนักงาน 


    “ขอโทษค่ะอิ่มขอรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” เธอบอกขณะที่เดินออกจารถเรียบร้อยแล้วและกำลังจะเข้าโรงงาน และมีเสียงเรียกเข้ามา 


    “เดี๋ยวผมเดินเข้าไปรอด้านในเสร็จแล้วอิ่มก็ตามไปละกันถ้าหาผมไม่เจอก็โทรถามเอานะ” พยักหน้าให้มนปริยาอย่างเข้าใจก่อนจะเดินห่างออกมา
     

    “ค่ะคุณจิน” 

    “ว่าไงวิชชี่ แกโทรมาเนี่ย” กรอกสียงลงไป
     
    “ไม่ทำไมหรอกแค่จะถามว่าเย็นนี้แกว่างมั้ยน่ะ” 

    “คงว่างมั้ง ไม่มีธุระอะไรนี่...”
     

    “ดี แกลืมรึเปล่าว่าวันนี้วันอะไร?”
     

    “ก็วันศุกร์ไง” ตอบออกไปทื่อๆ
     

    “เออ..รู้..ว่าวันนี้วันศุกร์แต่ที่ถามเนี่ยลืมไปรึเปล่าวะ ว่าเรานัดกับพี่ชลเอาไว้น่ะ” 


    “เออ...ใช่ลืมไปเลยนะเนี่ย” 


    “อิ่ม...แกนี่น้า อะไรก็ดีหมดเสียแต่ขี้ลืมนี่ละ ไปทำงานเป็นไงฉันไม่เห็นแกตั้งแต่เช้าแล้ว”
     

    “จะเห็นได้ไงละ ฉันอยู่ที่โรงงานน่ะ เหนื่อยจะตาย” บ่นทำปากยื่นใส่เพื่อนทางโทรศัพท์
     

    “ฮ้า! จริงดิ!?”
     

    “เออ...มาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ยังเดินไม่ทั่วเลย ดีไม่ดีอาจต้องมาอีกนะ” พลางมองไปข้างในและมองหาจิณณ์วัตรไปด้วย
     

    “เหรอ...งั้นแกจะมาทันมั้ยละ?” 


    “คงทันแหละ พอเลิกงานก็จะกลับไปเปลี่ยนชุดทันทีเลย แกไม่ต้องห่วงหรอกฉันไปแน่นอน....แต่วิชชี่แกแค่นี้ก่อนนะเดี๋ยวคุณจินจะรอนานน่ะ” 


    “เออ..ไปเถอะ เจอกันตอนเย็นเพื่อน บาย”
     
    “บาย” 


    รีบเดินเข้าโรงงานอย่ารวดเร็วทันที และกวาดสายตามองหาเขาไปด้วยและเห็นเขายืนอยู่กับวิศวกรคนเดิมก่อนจะไปทานข้าว คงเป็นคนที่ดูแลเครื่องจักรที่จะมาใหม่มั้ง? 

    “อ้าว?...คุยเสร็จแล้วเหรออิ่ม?” จิณณ์วัตรถามเมื่อมองเห็นว่าเธอเดินตรงมาที่เขาแล้ว 


    “ค่ะ เป็นไงคะเครื่องจักร?” เธอมองไปยังพื้นที่ ที่เตรียมเอาไว้สำหรับเครื่องจักรใหม่ที่กำลังจะมา 


    “เห็นว่าจะมาถึงพรุ่งนี้เย็นนะอิ่มว่างมั้ยละ?” ถามออกไปอย่างเกรงใจเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเสียด้วย แต่ขาอยากให้เธอมาด้วยนี่นา ช่วงนี้ก็อ้างเรื่องงานไปก่อน 


    “ถ้าเย็นพรุ่งนี้ละก็ว่างทั้งวันค่ะแต่เย็นนี้ไม่ว่างค่ะ” 


    “เหรอ...ไปธุระเหรอ?” อดที่จะสนใจไม่ได้เมื่อได้ยินว่าเธอไม่ว่าง 


    “จะว่าธุระก็ไม่เชิงหรอกค่ะ พอดีนัดกับเพื่อนๆ เอาไว้ว่าจะไปเลี้ยงวันเกิดพี่ชลแกน่ะค่ะ” 


    “จะเป็นอะไรมั้ย..ถ้า....ผมอยากไปด้วยน่ะ?”
     

    “ห๋า!...คุณจินเนี่ยนะ!?” เธอมองหน้าเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน ก็ใครจะไปนึกละว่าเจ้านายอยากไปงานเลี้ยงที่มีแต่พวกเธอไป 


    “ครับ...ว่ายังไง?” 

    “ก็...ก็...แต่มันจะดีเหรอคะ? ที่คุณจินจะไปด้วย” ถามเขาอย่างไม่แน่ใจ 


    “ทำไมละครับ มีอะไรที่ไม่ดีงั้นเหรอครับ?” ถามเธออย่างไม่รู้เรื่องอะไร 


    “ก็..ไม่ใช่ว่าไม่ดีหรอกค่ะ อิ่มแค่กลัวว่าสาวๆ เขาจะตกใจเท่านั้นเอง”
     

    “ผมก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างน่ะครับ แล้ว...ให้ผมไปด้วยได้มั้ยครับ?”
     

    “ถ้าคุณจินไม่รังเกียจจะไปก็ได้ค่ะ”
     

    “ครับ งั้นเราไปพร้อมกันนะครับ”
     
    “แต่ว่า...” 


    “นะครับ...ผมรู้จักแต่กับอิ่มนี่นาอยู่ๆ จะให้เดินเข้าไปมันก็กะไรอยู่นา”
     

    “เอางั้นก็ได้ค่ะแต่คุณจินต้องให้อิ่มเปลี่ยนชุดก่อนนะคะค่อยกลับมารับทีหลังก็ได้” เธอยอมรับอย่างจนปัญญาแล้ว คราวนี้ละเกิดเรื่องแน่ เพราะร้านที่ไปนั้นมีแต่สาวๆ ในแผนกทั้งนั้นแต่ใครจะพากใครไปด้วยนั้นเธอไม่รู้ 


    “ว่าแต่อิ่มจะให้ผมกลับมารับกี่โมงดีละ” 


    “เอาซักสอองทุ่มก็ได้ค่ะ เพราะเรานัดกันสองทุ่มครึ่งค่ะ”
     


    “ได้ งั้นเราก็กลับเร็วหน่อยอิ่มจะได้มีเวลาแต่งตัว” บอกอย่างเข้าใจเพราะสาวๆ มักจะแต่งตัวนานอยู่แล้ว เขาเองก็ชักอยากเห็นเธอในชุดที่ไม่ใช่ชุดทำงานอยู่เหมือนกันว่าเธอจะน่าดูแค่ไหน 


    “แหม...ขอบคุณค่ะ อิ่มแต่งตัวไม่นานอย่างที่คิดหรอกค่ะ”
     

    “ผมว่าเรารีบเดินดูรอบๆ เถอะจะได้ไม่เสียเวลา” เขาบอกอย่างกระตือรือร้นที่จะทำงาน
    ให้เสร็จ 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×