ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 14
ตอนที่ 14
“ธร...ได้เรื่องอะไรเหรอ?” มนต์ธัชรีบมาที่คอนโดฯ ของพี่ชายฝาแฝดทันทีหลังจากได้รับโทรศัพท์ ให้รีบมาทันที
“ใจเย็นนายนั่งก่อนเถอะเดี๋ยวเราจะเอาอะไรให้นายดู” เดินไปในห้องทำงานของเขาและหยิบเอกสารที่เพิ่งได้รับมาแล้ววางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาที่น้องชายนั่งอยู่
“อะไร?” มองหน้าอย่างสงสัยแทนที่จะบอกให้เราได้รู้ แต่เอาอะไรมาให้ดูก็ไม่รู้ซิอีกเนี่ย
“นายดูเองเถอะแล้วจะรู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง”
มนต์ธัชไม่พูดอะไรแต่หยิบซองที่วางอยู่ตรงหน้ามาแกะออกดูและเปิดเอกสารขึ้นดูทีละแผ่น และเห็นรูปถ่ายมากมายที่อยู่ในซองและหยิบขึ้นมาดู ทั้งหมดเป็นรู้ของมนปริยาหลายๆ ชุด
“หมายความว่ายังไง?” เขายังไม่เข้าใจอยู่ดี
“ก็..ตอนนี้เรารู้แล้วว่าอิ่มน่ะอยู่ที่ไหนน่ะซิ...”
“อยู่ที่ไหน!?”
“ในเมืองไทยนี่ละ และน้องก็สบายดี”
“แล้ว...ไปทำอะไรที่บริษัทนั้น?” ถ้าจะบอกว่าไปสืบเรื่องงานก็ไม่มีธุรกิจที่เกี่ยวกันนี่นา
“เอาน่า...ว่าแต่จะไปหากันมั้ย?”
“แน่นอนซิ....”
“เราว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งเลยนะ เราได้กลิ่นไม่ค่อยดีด้วยละ”
“เรื่องอะไร”
“ไซม่อนน่ะซิ มันก็รู้ว่าอิ่มไปอยู่ที่อื่นรู้สึกว่าจะให้คนไปตามดูน้องเราอยู่นะ และที่สำคัญอิ่มไม่มีคนคอยอารักขาแม้แต่คนเดียว นายจะว่าไง?”
“ไม่ว่าไง ก็ส่งคนไปดูแลห่างๆ ซิ”
“เราเห็นด้วย ถึงได้ส่งคนไปแล้ว ธัชเราว่าคอยอีกหน่อยก็ดีนะแล้วค่อยไปหาอิ่มแค่เราว่าน้องอยู่ที่ไหนก็น่าจะพอแล้วนี่...” บอกย่างใจเย็น
“เอางั้นเหรอ” ถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะเขาอยากเห็นกับตามากกว่า
“เราว่าอย่างที่บอกดีที่สุดแล้ว อีกฝ่ายจะได้ชะล่าใจด้วยว่าอิ่มอยู่คนเดียว เราจะได้รู้ด้วยไงว่าทางนั้นคิดจะทำอะไรแน่ จะได้หาทางป้องกันถูกนะ”
“ตามใจนายเถอะ แต่เราไม่รอนานหรอกนะ ยังไงเราจะไปหาน้องให้ได้”
“น่าเราไปปล่อยให้เรื่องมันยื้อนานหรอก น้องเราเหมือนกันนี่”
ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างไม่สบายใจ รู้ว่าการปล่อยให้น้องอยู่คนเดียวอย่างนั้นมันอันตรายแค่ไหน ใช่ว่าพวกเขาจะชอบมีเรื่องกับใคร แต่การที่ใครที่คิดจะเข้ามาวุ่นวายหาเรื่องละก็พวกเขาก็ถึงที่สุดเหมือนกัน และการที่อยู่ในวงการธุรกิจจำเป็นต้องมีเขี้ยวเล็บเหมือนกันเพราะไม่งั้นโดนเล่นฝ่ายเดียวอย่างนี้มีนเสียเปรียบ
“พี่อิ่ม!..มาจริงๆ ด้วยค่ะ” จิณห์วราร้องทักอย่างยินดีเมื่อเห็นพี่สาวคนสวยมาถึงที่บ้าน ตอนแรกที่เลยเวลามาตั้งนานนึกว่าหญิงสาวจะไม่มาเสียอีก
“มาซิคะ...มีอะไรรึเปล่าคะเห็นคุณจินบอกว่าน้องจินนี่อยากเจอพี่เหรอ?”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะแค่อยากเจอกันนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่นึกว่าพี่ชายจะใจดียอมชวนพี่อิ่มมาที่บ้านทั้งที่ไม่เคยชวนใครมาก่อนเลยค่ะ”
“แหม..มันก็ต้องมีการยกเว้นกันมั่งซิ” ชายหนุ่มขัดขึ้นหลังจากขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่ห้องของเขาแล้ว ชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นชุดกางเกงขาสั้นแค่เข่าและเสื้อโปโลสีขาว
“เอ้ะ!...งั้นเหรอคะ” มนปริยาไม่พูดอะไรอีก ได้แต่แปลกใจเท่านั้น นี่มันอะไรกันเนี่ย พี่น้องสองคนนี้เล่นอะไรกันอยู่ คนพี่คอยให้เธอตามไปไหนตลอดเวลา และทำตัวสนิทกับเธอจนคนอื่นพากันสงสัย ส่วนคนน้องก็ดูจะติดเธอผิดคาดทั้งที่เธอเคยได้ยินมาจิณห์วราคนน้องค่อนข้างถือตัวและสนิทกับใครยาก แต่กับเธอรู้สึกว่าพี่น้องสองคนนี้พยายามดึงเธอเข้ามามีส่วนร่วมกับพวกเขายังไงไม่รู้
“ไปค่ะเราไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นกันดีกว่า...ขิ่นเอาเครื่องดื่มกับขนมมาให้ด้วยนะ” เรียกคนงานให้เอาเครื่องดื่มตามไปให้ในห้องด้วย
“ใครน่ะพี่ยักษ์ ขิ่นถามอย่างสนใจก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่เข้ามาที่บ้านนี้ซักคนเดียวนอกจากเพื่อนๆ ของคุณจินนี่เท่านั้น และแถมคนนี้ก็มากับคุณผู้ชายเสียด้วย
“จะสนใจไปทำไมทำตามที่คุณจินนี่สั่งดีว่าช้าเดี๋ยวโดนว่าเอานะ” ยักษ์ไม่ยอมตอบแต่ไล่ให้เด็กสาวไปทำงานแทนที่จะมาสนใจเรื่องเจ้านาย
“โธ่...งก แค่นี้บอกหน่อยก็ไม่ได้” บ่นแต่ก็ยอมเดินทำตามที่เจ้านายสั่งแต่โดยดี
“พูดมากน่า”
“ใครเหรอยักษ์? ป้าแช่มแม่ครัวเก่าแก่เดินออกมาจากครัวถามอย่างสงสัยเมื่อได้ยินเรื่องที่ทั้งคู่พูดกัน
“ไม่มีอะไรหรอกป้า แค่คุณจินพาสาวมาบ้านน่ะ”
“ห๋า!...เรื่องปกติเนี่ยนะ!?” ตีที่แขนชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ เรื่องนี้จะเป็นเรื่องปกติได้ยังไง ก็นายหนุ่มที่เธอเลี้ยงมาไม่เคยพาใครมาที่นี่เลย และลั่นปากเอาไว้แล้วว่าจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาบ้านนอกกจากว่าเธอคนนั้นคือคนที่จะมาเป็นนายหญิงของบ้าน ชักอยากเห็นน้าเสียแล้วซิ..
“ไม่เอาน่าป้าแช่ม อีกหน่อยก็จะได้เห็นหน้าเธอบ่อยๆ หรอก ไม่ก็ไปดูในห้องคุณจินก็ได้นี่ เหมือนกันเป๊ะเลย”
“จริงเหรอ!”
“แน่นอนแต่วันนี้ไปเตรียมอาหารอร่อยๆ ดีกว่านะเธอคงอยู่ทานด้วยแน่ๆ”
“เออๆ...เดี๋ยวฉันรีบไปทำหาหาก่อนจะได้เห็นด้วยว่าเป็นยังไง”
“คุณจินนี่คะน้ำค่ะ” ขิ่นเข้าไปในห้อนั่งเล่นพร้อมเครื่องดื่มและของทานเล่นก่อนอาหาร แต่สายตายังคงแอบมองหญิงสาวที่เจ้านายพามาอยู่ อย่างสงสัยว่าเธอเป็นยังไงและที่อยากรู้ที่สุดเธอคือใครกันแน่
“มีอะไรเหรอขิ่นเห็นมองหน้าพี่อิ่มตั้งนานแล้ว?”
“เอ่อ...ปละ..เปล่าค่ะ...แค่คุณสวยดีน่ะค่ะ ขิ่นก็เลยมองเพลินไปหน่อยแค่นั้นเอง” ตอบเจ้านายหน้าแหย เมื่อโดนจับได้ว่าแอบมองอยู่
“ชื่อขิ่นเหรอจ้ะ” มองเด็กสาวหน้าซื่ออย่างเอ็นดู
“ค่ะ...คุณสวยจังนะคะที่บ้านขิ่นไม่เห็นใครสวยเหมือนคุณเลยค่ะ”
“ฮึๆ ยัยขิ่นนี่พี่อิ่มรู้จักเอาไว้พี่เขาอาจจะมาที่นี่บ่อยๆ นะ” ส่ายหน้าขำคนใช้อย่างเอ็นดูที่ซื่อเหลือเกิน
“ค่ะ งั้นขิ่นไปช่วยป้าแช่มเตรียมอาหารก่อนนะคะ”
“ไปเถอะ”
“น่ารักดีนะ...”
“เสียอย่างเดียวค่ะ...สนใจเรื่องเจ้านายเป็นพิเศษ”
“นั่นก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ ว่าแต่พี่ชายหายไปไหนนะ โผล่มาแล้วก็หายไปอีกแล้ว” สอดส่ายสายตามองาพี่ชายแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
“คงไปทำงานในห้องทำงานมั้งคะ เดี๋ยวคงมานะคะ” เพราะเธอเห็นว่าเขาเดินหายเข้าห้องไป และคิดว่าคงทำงาน
“โอ้ย! อะไรจะขนาดนั้นก็ไม่รู้บางทีจินนี่คิดว่าพี่ชายยังไม่กลับบ้านก็มีนะคะเพราะมัวแต่ขลุกอยู่ในห้องงทำงานน่ะค่ะ”
“อย่าไปว่าเธอเลยค่ะ ที่ทำงานหนักนาดนี้ก็เพราะอยากให้จินนี่สบายแค่นั้นละ”
“อันนั้นจินนี่เข้าใจค่ะ แต่ก็ห่วงพี่ชายว่าจะตายก่อนได้แต่งงานรึเปล่า”
“แหม...ถ้าอย่างคุณจินไม่แต่งงานคนอื่นก็ไม่ต้องคิดเลยค่ะ มีแต่ว่าคุณจินจะไม่ยอมแต่งเองมากกว่า”
“ก็คงอยากอยู่น่ะค่ะแต่...ต้องอยู่ที่อีกฝ่ายด้วยว่าจะยอมแต่งด้วยมั้ยน่ะค่ะ” มองหน้ามนปริยาอย่างมีความหมาย
“แสดงว่ามีเป้าหมายอยู่แล้ว?”
“ค่ะ แต่อีกฝ่ายยังไม่รู้ตัว ว่าพี่จินน่ะกำลังจ้องอยู่” ลดเสียงเบาเพื่อไม่ให้พี่ชายได้ยินที่เธอบอกอีกไปฝ่ายไป แม้จะรู้ว่าเขาไม่อยู่ก็ตาม
“นินทาอะไรพี่อยู่รึเปล่าเนี่ย” ชายหนุ่มเดินเข้ามานในห้องช้าๆ และเห็นว่าสองสาวกำลังกระซิบกระซาบอะไรกันอยู่
“เปล่า!” จิณห์วราตอบเสียงสูง ไม่คิดว่าพี่ชายจะออกมาจากห้องทำงานเร็วอย่างนี้ ทั้งที่เวลาที่เข้าไปแล้วจะไม่ยอมออกมาง่ายๆ แท้ๆ ทีเวลาพูดถึงอย่างนี้ละมาเร็วเชียว
“งานเสร็จแล้วเหรอคะ?” มนปริยาถามชายหนุ่มนิ่งๆ อย่างไม่ตกใจเพราะเธอได้ยินเสียงเดินของเขามาใกล้แล้ว และที่พูดกันเมื่อครู่ก็ไม่คิดว่าผิดอะไร
“ครับ แค่รับโทรศัพท์จากเนน่ะครับ”
“อ๋อค่ะ...” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ว่าแต่พี่จินคะ วันนี้ไปไหนกันมาเหรอคะมาถึงบ้านช้าจัง?”
“งานยุ่งน่ะเลยออกมาช้า”
“เหรอคะ งั้น...เราไปทานข้าวเถอะค่ะพี่อิ่มคงหิวแล้ว” ดึงแขนมนปริยาให้ออกเดินไปที่ห้องอาหารด้วยกัน
“อิ่มนี่ป้าแช่ม แม่บ้านใหญ่ที่นี่” ชายหนุ่มแนะนำหญิงสาวให้รู้จักกับป้าแช่มที่เขาเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง
“สวัสดีค่ะป้าแช่มอิ่มเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของคุณจินค่ะ” เธอยกมือไหว้แม่บ้านอย่างนอบน้อม สร้างความประทับใจแกหญิงสาวเป็นอย่างมาก
“ไหวพระเถอะจ้ะ ต้าย...น่ารักจริงคนนี้เหรอคะคุณจิน”
“ครับป้า คนนี้ละ” ตอบอย่างเข้าใจนัยที่แม่บ้านถามเป็นอย่างดี มนปริยาได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจว่าทั้งคู่พูดอะไรกัน และที่สำคัญมองเธอแปลกๆ เสียด้วย
“อาหารพร้อมแล้วทานเยอะๆ นะคะป้าตั้งใจทำเต็มที่เชียว”
“ขอบคุณค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะอิ่มทานเยอะอยู่แล้ว” เธอบอกยิ้มๆ ให้หญิงชราที่ดูใจดี
“งั้นก็ดีค่ะจะได้มีคนช่วยคุณจินนี่ทาน”
“แหมป้าแช่มก็...ดีซะอีกที่มีคนทานอาหารที่ป้าแล้วก็แม่บ้านตั้งใจทำน่ะ ไม่งั้นเสียดายของแย่ค่ะ”
“ป้าไม่ได้ว่าอะไรคุณจินนี่ซักหน่อยอย่าร้อนตัวค่ะ”
“เอาละครับทานเถอะ” หลังจากที่อาหารถูกลำเลียงมาที่โต๊ะอาหารจนครบแล้วจิณณ์วัตรบอกให้ทุกคนหันมาสนใจอาหารตรงหน้าแทนการพูดคุยเล่น จิณณ์วัตรตักอาหารให้มนปริยาอย่างเอาใจ จนเป็นที่สังเกตของหลายคนที่อยู่ในห้องนี้ แต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจ ยังคงวางตัวเหมือนเดิม
ป้าแช่มมองหญิงสาวที่นั่งทานอาหารเงียบๆ นั้นอย่างพินิจ นางมองว่าหญิงสาวคนนี้คงมีดีอยู่ในตัวและดูแล้วคงไม่ร้ายอย่าที่นางเป็นห่วงว่าชายหนุ่มที่นางเลี้ยงมาแต่เด็กจะคว้าเอาผู้หญิงที่ร้ายๆ เข้ามาเป็นนายผู้หญิงเหมือนที่เขาควงๆ อยู่ แต่เมื่อเห็นว่าคนๆนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ค่อยวางใจขึ้นมาหน่อย แต่ของอย่างนี้ต้องมองกันนานๆ ถึงจะรูว่าเป็นยังไง
“ธร...ได้เรื่องอะไรเหรอ?” มนต์ธัชรีบมาที่คอนโดฯ ของพี่ชายฝาแฝดทันทีหลังจากได้รับโทรศัพท์ ให้รีบมาทันที
“ใจเย็นนายนั่งก่อนเถอะเดี๋ยวเราจะเอาอะไรให้นายดู” เดินไปในห้องทำงานของเขาและหยิบเอกสารที่เพิ่งได้รับมาแล้ววางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาที่น้องชายนั่งอยู่
“อะไร?” มองหน้าอย่างสงสัยแทนที่จะบอกให้เราได้รู้ แต่เอาอะไรมาให้ดูก็ไม่รู้ซิอีกเนี่ย
“นายดูเองเถอะแล้วจะรู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง”
มนต์ธัชไม่พูดอะไรแต่หยิบซองที่วางอยู่ตรงหน้ามาแกะออกดูและเปิดเอกสารขึ้นดูทีละแผ่น และเห็นรูปถ่ายมากมายที่อยู่ในซองและหยิบขึ้นมาดู ทั้งหมดเป็นรู้ของมนปริยาหลายๆ ชุด
“หมายความว่ายังไง?” เขายังไม่เข้าใจอยู่ดี
“ก็..ตอนนี้เรารู้แล้วว่าอิ่มน่ะอยู่ที่ไหนน่ะซิ...”
“อยู่ที่ไหน!?”
“ในเมืองไทยนี่ละ และน้องก็สบายดี”
“แล้ว...ไปทำอะไรที่บริษัทนั้น?” ถ้าจะบอกว่าไปสืบเรื่องงานก็ไม่มีธุรกิจที่เกี่ยวกันนี่นา
“เอาน่า...ว่าแต่จะไปหากันมั้ย?”
“แน่นอนซิ....”
“เราว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งเลยนะ เราได้กลิ่นไม่ค่อยดีด้วยละ”
“เรื่องอะไร”
“ไซม่อนน่ะซิ มันก็รู้ว่าอิ่มไปอยู่ที่อื่นรู้สึกว่าจะให้คนไปตามดูน้องเราอยู่นะ และที่สำคัญอิ่มไม่มีคนคอยอารักขาแม้แต่คนเดียว นายจะว่าไง?”
“ไม่ว่าไง ก็ส่งคนไปดูแลห่างๆ ซิ”
“เราเห็นด้วย ถึงได้ส่งคนไปแล้ว ธัชเราว่าคอยอีกหน่อยก็ดีนะแล้วค่อยไปหาอิ่มแค่เราว่าน้องอยู่ที่ไหนก็น่าจะพอแล้วนี่...” บอกย่างใจเย็น
“เอางั้นเหรอ” ถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะเขาอยากเห็นกับตามากกว่า
“เราว่าอย่างที่บอกดีที่สุดแล้ว อีกฝ่ายจะได้ชะล่าใจด้วยว่าอิ่มอยู่คนเดียว เราจะได้รู้ด้วยไงว่าทางนั้นคิดจะทำอะไรแน่ จะได้หาทางป้องกันถูกนะ”
“ตามใจนายเถอะ แต่เราไม่รอนานหรอกนะ ยังไงเราจะไปหาน้องให้ได้”
“น่าเราไปปล่อยให้เรื่องมันยื้อนานหรอก น้องเราเหมือนกันนี่”
ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างไม่สบายใจ รู้ว่าการปล่อยให้น้องอยู่คนเดียวอย่างนั้นมันอันตรายแค่ไหน ใช่ว่าพวกเขาจะชอบมีเรื่องกับใคร แต่การที่ใครที่คิดจะเข้ามาวุ่นวายหาเรื่องละก็พวกเขาก็ถึงที่สุดเหมือนกัน และการที่อยู่ในวงการธุรกิจจำเป็นต้องมีเขี้ยวเล็บเหมือนกันเพราะไม่งั้นโดนเล่นฝ่ายเดียวอย่างนี้มีนเสียเปรียบ
“พี่อิ่ม!..มาจริงๆ ด้วยค่ะ” จิณห์วราร้องทักอย่างยินดีเมื่อเห็นพี่สาวคนสวยมาถึงที่บ้าน ตอนแรกที่เลยเวลามาตั้งนานนึกว่าหญิงสาวจะไม่มาเสียอีก
“มาซิคะ...มีอะไรรึเปล่าคะเห็นคุณจินบอกว่าน้องจินนี่อยากเจอพี่เหรอ?”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะแค่อยากเจอกันนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่นึกว่าพี่ชายจะใจดียอมชวนพี่อิ่มมาที่บ้านทั้งที่ไม่เคยชวนใครมาก่อนเลยค่ะ”
“แหม..มันก็ต้องมีการยกเว้นกันมั่งซิ” ชายหนุ่มขัดขึ้นหลังจากขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่ห้องของเขาแล้ว ชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นชุดกางเกงขาสั้นแค่เข่าและเสื้อโปโลสีขาว
“เอ้ะ!...งั้นเหรอคะ” มนปริยาไม่พูดอะไรอีก ได้แต่แปลกใจเท่านั้น นี่มันอะไรกันเนี่ย พี่น้องสองคนนี้เล่นอะไรกันอยู่ คนพี่คอยให้เธอตามไปไหนตลอดเวลา และทำตัวสนิทกับเธอจนคนอื่นพากันสงสัย ส่วนคนน้องก็ดูจะติดเธอผิดคาดทั้งที่เธอเคยได้ยินมาจิณห์วราคนน้องค่อนข้างถือตัวและสนิทกับใครยาก แต่กับเธอรู้สึกว่าพี่น้องสองคนนี้พยายามดึงเธอเข้ามามีส่วนร่วมกับพวกเขายังไงไม่รู้
“ไปค่ะเราไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นกันดีกว่า...ขิ่นเอาเครื่องดื่มกับขนมมาให้ด้วยนะ” เรียกคนงานให้เอาเครื่องดื่มตามไปให้ในห้องด้วย
“ใครน่ะพี่ยักษ์ ขิ่นถามอย่างสนใจก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่เข้ามาที่บ้านนี้ซักคนเดียวนอกจากเพื่อนๆ ของคุณจินนี่เท่านั้น และแถมคนนี้ก็มากับคุณผู้ชายเสียด้วย
“จะสนใจไปทำไมทำตามที่คุณจินนี่สั่งดีว่าช้าเดี๋ยวโดนว่าเอานะ” ยักษ์ไม่ยอมตอบแต่ไล่ให้เด็กสาวไปทำงานแทนที่จะมาสนใจเรื่องเจ้านาย
“โธ่...งก แค่นี้บอกหน่อยก็ไม่ได้” บ่นแต่ก็ยอมเดินทำตามที่เจ้านายสั่งแต่โดยดี
“พูดมากน่า”
“ใครเหรอยักษ์? ป้าแช่มแม่ครัวเก่าแก่เดินออกมาจากครัวถามอย่างสงสัยเมื่อได้ยินเรื่องที่ทั้งคู่พูดกัน
“ไม่มีอะไรหรอกป้า แค่คุณจินพาสาวมาบ้านน่ะ”
“ห๋า!...เรื่องปกติเนี่ยนะ!?” ตีที่แขนชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ เรื่องนี้จะเป็นเรื่องปกติได้ยังไง ก็นายหนุ่มที่เธอเลี้ยงมาไม่เคยพาใครมาที่นี่เลย และลั่นปากเอาไว้แล้วว่าจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาบ้านนอกกจากว่าเธอคนนั้นคือคนที่จะมาเป็นนายหญิงของบ้าน ชักอยากเห็นน้าเสียแล้วซิ..
“ไม่เอาน่าป้าแช่ม อีกหน่อยก็จะได้เห็นหน้าเธอบ่อยๆ หรอก ไม่ก็ไปดูในห้องคุณจินก็ได้นี่ เหมือนกันเป๊ะเลย”
“จริงเหรอ!”
“แน่นอนแต่วันนี้ไปเตรียมอาหารอร่อยๆ ดีกว่านะเธอคงอยู่ทานด้วยแน่ๆ”
“เออๆ...เดี๋ยวฉันรีบไปทำหาหาก่อนจะได้เห็นด้วยว่าเป็นยังไง”
“คุณจินนี่คะน้ำค่ะ” ขิ่นเข้าไปในห้อนั่งเล่นพร้อมเครื่องดื่มและของทานเล่นก่อนอาหาร แต่สายตายังคงแอบมองหญิงสาวที่เจ้านายพามาอยู่ อย่างสงสัยว่าเธอเป็นยังไงและที่อยากรู้ที่สุดเธอคือใครกันแน่
“มีอะไรเหรอขิ่นเห็นมองหน้าพี่อิ่มตั้งนานแล้ว?”
“เอ่อ...ปละ..เปล่าค่ะ...แค่คุณสวยดีน่ะค่ะ ขิ่นก็เลยมองเพลินไปหน่อยแค่นั้นเอง” ตอบเจ้านายหน้าแหย เมื่อโดนจับได้ว่าแอบมองอยู่
“ชื่อขิ่นเหรอจ้ะ” มองเด็กสาวหน้าซื่ออย่างเอ็นดู
“ค่ะ...คุณสวยจังนะคะที่บ้านขิ่นไม่เห็นใครสวยเหมือนคุณเลยค่ะ”
“ฮึๆ ยัยขิ่นนี่พี่อิ่มรู้จักเอาไว้พี่เขาอาจจะมาที่นี่บ่อยๆ นะ” ส่ายหน้าขำคนใช้อย่างเอ็นดูที่ซื่อเหลือเกิน
“ค่ะ งั้นขิ่นไปช่วยป้าแช่มเตรียมอาหารก่อนนะคะ”
“ไปเถอะ”
“น่ารักดีนะ...”
“เสียอย่างเดียวค่ะ...สนใจเรื่องเจ้านายเป็นพิเศษ”
“นั่นก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ ว่าแต่พี่ชายหายไปไหนนะ โผล่มาแล้วก็หายไปอีกแล้ว” สอดส่ายสายตามองาพี่ชายแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
“คงไปทำงานในห้องทำงานมั้งคะ เดี๋ยวคงมานะคะ” เพราะเธอเห็นว่าเขาเดินหายเข้าห้องไป และคิดว่าคงทำงาน
“โอ้ย! อะไรจะขนาดนั้นก็ไม่รู้บางทีจินนี่คิดว่าพี่ชายยังไม่กลับบ้านก็มีนะคะเพราะมัวแต่ขลุกอยู่ในห้องงทำงานน่ะค่ะ”
“อย่าไปว่าเธอเลยค่ะ ที่ทำงานหนักนาดนี้ก็เพราะอยากให้จินนี่สบายแค่นั้นละ”
“อันนั้นจินนี่เข้าใจค่ะ แต่ก็ห่วงพี่ชายว่าจะตายก่อนได้แต่งงานรึเปล่า”
“แหม...ถ้าอย่างคุณจินไม่แต่งงานคนอื่นก็ไม่ต้องคิดเลยค่ะ มีแต่ว่าคุณจินจะไม่ยอมแต่งเองมากกว่า”
“ก็คงอยากอยู่น่ะค่ะแต่...ต้องอยู่ที่อีกฝ่ายด้วยว่าจะยอมแต่งด้วยมั้ยน่ะค่ะ” มองหน้ามนปริยาอย่างมีความหมาย
“แสดงว่ามีเป้าหมายอยู่แล้ว?”
“ค่ะ แต่อีกฝ่ายยังไม่รู้ตัว ว่าพี่จินน่ะกำลังจ้องอยู่” ลดเสียงเบาเพื่อไม่ให้พี่ชายได้ยินที่เธอบอกอีกไปฝ่ายไป แม้จะรู้ว่าเขาไม่อยู่ก็ตาม
“นินทาอะไรพี่อยู่รึเปล่าเนี่ย” ชายหนุ่มเดินเข้ามานในห้องช้าๆ และเห็นว่าสองสาวกำลังกระซิบกระซาบอะไรกันอยู่
“เปล่า!” จิณห์วราตอบเสียงสูง ไม่คิดว่าพี่ชายจะออกมาจากห้องทำงานเร็วอย่างนี้ ทั้งที่เวลาที่เข้าไปแล้วจะไม่ยอมออกมาง่ายๆ แท้ๆ ทีเวลาพูดถึงอย่างนี้ละมาเร็วเชียว
“งานเสร็จแล้วเหรอคะ?” มนปริยาถามชายหนุ่มนิ่งๆ อย่างไม่ตกใจเพราะเธอได้ยินเสียงเดินของเขามาใกล้แล้ว และที่พูดกันเมื่อครู่ก็ไม่คิดว่าผิดอะไร
“ครับ แค่รับโทรศัพท์จากเนน่ะครับ”
“อ๋อค่ะ...” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ว่าแต่พี่จินคะ วันนี้ไปไหนกันมาเหรอคะมาถึงบ้านช้าจัง?”
“งานยุ่งน่ะเลยออกมาช้า”
“เหรอคะ งั้น...เราไปทานข้าวเถอะค่ะพี่อิ่มคงหิวแล้ว” ดึงแขนมนปริยาให้ออกเดินไปที่ห้องอาหารด้วยกัน
“อิ่มนี่ป้าแช่ม แม่บ้านใหญ่ที่นี่” ชายหนุ่มแนะนำหญิงสาวให้รู้จักกับป้าแช่มที่เขาเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง
“สวัสดีค่ะป้าแช่มอิ่มเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของคุณจินค่ะ” เธอยกมือไหว้แม่บ้านอย่างนอบน้อม สร้างความประทับใจแกหญิงสาวเป็นอย่างมาก
“ไหวพระเถอะจ้ะ ต้าย...น่ารักจริงคนนี้เหรอคะคุณจิน”
“ครับป้า คนนี้ละ” ตอบอย่างเข้าใจนัยที่แม่บ้านถามเป็นอย่างดี มนปริยาได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจว่าทั้งคู่พูดอะไรกัน และที่สำคัญมองเธอแปลกๆ เสียด้วย
“อาหารพร้อมแล้วทานเยอะๆ นะคะป้าตั้งใจทำเต็มที่เชียว”
“ขอบคุณค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะอิ่มทานเยอะอยู่แล้ว” เธอบอกยิ้มๆ ให้หญิงชราที่ดูใจดี
“งั้นก็ดีค่ะจะได้มีคนช่วยคุณจินนี่ทาน”
“แหมป้าแช่มก็...ดีซะอีกที่มีคนทานอาหารที่ป้าแล้วก็แม่บ้านตั้งใจทำน่ะ ไม่งั้นเสียดายของแย่ค่ะ”
“ป้าไม่ได้ว่าอะไรคุณจินนี่ซักหน่อยอย่าร้อนตัวค่ะ”
“เอาละครับทานเถอะ” หลังจากที่อาหารถูกลำเลียงมาที่โต๊ะอาหารจนครบแล้วจิณณ์วัตรบอกให้ทุกคนหันมาสนใจอาหารตรงหน้าแทนการพูดคุยเล่น จิณณ์วัตรตักอาหารให้มนปริยาอย่างเอาใจ จนเป็นที่สังเกตของหลายคนที่อยู่ในห้องนี้ แต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจ ยังคงวางตัวเหมือนเดิม
ป้าแช่มมองหญิงสาวที่นั่งทานอาหารเงียบๆ นั้นอย่างพินิจ นางมองว่าหญิงสาวคนนี้คงมีดีอยู่ในตัวและดูแล้วคงไม่ร้ายอย่าที่นางเป็นห่วงว่าชายหนุ่มที่นางเลี้ยงมาแต่เด็กจะคว้าเอาผู้หญิงที่ร้ายๆ เข้ามาเป็นนายผู้หญิงเหมือนที่เขาควงๆ อยู่ แต่เมื่อเห็นว่าคนๆนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ค่อยวางใจขึ้นมาหน่อย แต่ของอย่างนี้ต้องมองกันนานๆ ถึงจะรูว่าเป็นยังไง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น