ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13
ตอนที่ 13
“ว่าไงคะน้องสาว” จิณณ์วัตรรับสายจากน้องสาวคนเดียวเสียงหวาน
“ไม่ว่าไงหรอกค่ะ แต่อยากถามว่าพี่จินอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”
“อ๋อ...พี่กำลังจะออกไปข้างนอกมีอะไรเหรอ?”
“เปล่าหรอกค่ะแค่จะแวะไปหาน่ะค่ะ”
“เหรอพอดีว่าพี่ออกมาทำธุระเสียด้วยซิ...”
“ไม่เป็นไรค่ะเอาไว้เจอกันที่บ้านก็ได้ แต่พี่จินคะ พี่อิ่มไปด้วยมั้ยคะ?”
“มาซิ...อยู่ข้างๆ พี่นี่ละ ทำไมเหรอ?” เขาสงสัยว่าเหตุใดน้องสาวถึงดูสนใจมนปริยานักหนาทั้งที่เจอกันนับครั้งได้....
“ว้า..เสียดายจัง” ทำเสียงเสียดายเต็มที่เมื่อพี่สาวคนสวยไม่อยู่
“งั้นตอนเย็นพี่จะชวนพี่อิ่มเขาไปทานข้าวที่บ้านให้แล้วกันถ้ามีอะไรจะถามก็รอหน่อยนะคนดี”
“จริงนะคะ!” กรอกเสียงลงไปอย่างตื่นเต้น
“อันนี้คงต้องแล้วแต่ว่าพี่อิ่มเขาจะยอมไปด้วยรึเปล่าน่ะนะ” ปรายตาไปมองหญิงสาวที่นั่งมองหน้าเขาอยู่ข้างๆ นอย่างเป็นคำถาม
“พี่จินชวนพี่เขามาให้ได้นะคะอย่าลืมนะ จินนี่ไปก่อนนะคะ”
“จ้ะ ขบรถระวังๆ ละ” บอกอย่างเป็นห่วง
“ค้า...” รับเสียงสดใส
พอวางสายจากน้องสาวแล้วเขาหันมามองหน้าเธออย่างเป็นคำถามแต่ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
“อะไรคะ? มองหน้าอิ่มทำไม?” เธอขมวดคิ้วมุ่นเมื่อชายหนุ่มไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาเสียที
“ได้ยินไม่ใช่เหรอว่าผมคุยว่าอะไรน่ะ”
“ค่ะ...ก็ยินค่ะ แต่ไม่รู้นี่คะว่าคุณจินคุยว่าอะไรบ้าง....ทั้งหมด”
“จินนี่เขาอยากเจออิ่มน่ะผมเลยบอกว่าเอาไว้ตนเย็นผมจะชวนคุณได้ทานข้าวที่บ้านจะได้เจอกัน แล้วอิ่มว่าไง?” เขาหันหน้ามามองหน้าเธอตรงๆ
เอาละซิงานเข้าแล้วมั้ยละยัยอิ่ม จากตัวติดกันทั้งวันในเวลางาน นี่หลังเลิกงานยังจะให้เธอตามไปที่บ้านอีกเหรอเนี่ย
“หรือว่าอิ่มไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะผมไม่ได้บังคับอะไรอยู่แล้ว” เขาเอนตัวไปพิงเบาะเหมือนเดิม และไม่มองหน้าเธอสายตาเหม่อมองไปข้างหน้า
“ .ก็ได้ค่ะ” เธอรับคำเสียงอ่อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเห็นเขาทำหน้าผิดหวังอย่างนั้น
“ไม่เต็มใจก็ไม่ต้องไปหรอกนะ”
“เปล่าค่ะ...อิ่มเต็มใจ..อย่าทำหน้าตูมอย่างนั้นซิคะเด็กทำมันก็น่ารักอยู่หรอกค่ะ” เธอพยายามซ่อนรอยยิ้มขำเขาเอาไว้อย่างดี
“ใครว่าผมหน้าตูม?” เขาหันมามองหน้าหญิงสาวกวนๆ
“ค่ะไม่ตูมก็ไม่ตูม....ลงได้แล้วค่ะถึงแล้ว”
“คุณจินคิดจะซื้ออะไรให้น้องจินนี่คะ?” เธอหันมาถามความตั้งใจของเขา
“อืม...ผมว่าจะซื้อนาฬิกาให้นะ แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะเลือกแบบไหนดี อิ่มว่าไงบ้าง”
“ก็ดีนี่คะ..งั้นเราไปที่ร้านกันเถอะค่ะจะเลือกแบบที่เหมาะกับเจ้าของถูก” เธอจับมือเขาโดยไม่ทันนึกเดินไปที่ร้านนาฬิกายี่ห้อดังตั้งอยู่ เมื่อมาถึงที่ร้านพอเธอจะคลายมือกลายเป็นเธอเสียเองที่เป็นฝ่ายที่โดนกุมมือเธอไว้แน่น
หญิงสาวมองที่มือตัวเองและมองหน้าจิณณ์วัตรอย่างต้องการรู้ว่าเขาจะปล่อยเธอได้เมื่อไหร่กัน
“ผมกลัวหลงนี่นา” เขาแก้ตัวเสียงอ่อน
“หลง!? อย่างคุณจินเนี่ยนะหลง..” เธอมองหน้าเขาอย่างกับเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
“ครับ...”
“โอ้ย! ....คงมีคนเชื่อหรอกค่ะ แล้วก็ปล่อยมืออิ่มเสียทีค่ะ”พยายามแกะมือเขาออกจากมือของเธอ
“ว้า..เสียดายจังเกิดผมหลงจริงๆ จะทำไงเนี่ย” เขาถามเธอตาพราวอย่างมีความหมาย
“มะ....ไม่ทราบซิคะ แต่อิ่มเชื่อว่าคนอย่างคุณจินไม่มีทางที่จะหลงไปไหนหรอกค่ะ” เธอตอบเสียงตะกุกตะกัก
“ไม่แน่นา...”
“พูดมาก...เลือกเถอะค่ะว่าจะเอาแบบไหนบ้าง?” ชายหนุ่มจัดการชี้ชิ้นที่เขามองว่าสวยมาให้เธอดูสี่ห้าชิ้น
“คุณ...รู้มั้ยว่าตัวเองไม่มีเซ้นท์ทางการเลือกเครื่องประดับสุดๆ” เธอว่าเขาหลังจากที่เห็นนาฬิกาแต่ละแบบที่เขาให้พนักงานหยิบมาให้ดู
“เอ้า!...มาว่าผม นี่ผมก็ว่าสวยดีนะ”
“มันนาฬิกาผู้ชายนะคะ นี่คิดจะซื้อไปใส่เองหรือว่าซื้อให้น้องสาวที่กำลังเป็นสาวเต็มตัวกันคะ”
“ผมบอกอิ่มแล้วน่าว่าผมไม่ถนัดน่ะ ถึงได้ให้มาช่วยกันเลือกไง” ทำหน้ายุ่งใส่เธอ เมื่อโดนว่า
“ค่ะ..งั้นน้องเอาสามเรื่อนที่พี่หยิบเมื่อครู่ออกมาหน่อยซิคะ” หันไปบอกพนักงานที่ยืนรอฟังเธอยู่ และรีบทำตามทันที เพราะดูจากการแต่งตัวของทั้งคู่แล้ววันนี้คงได้ค่าคอมฯ เยอะอยู่ และชายหนุ่มเธอก็เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆเหมือนกัน
“ไม่ทราบว่าสนใจรุ่นไหนเป็นพิเศษรึเปล่าคะ”
“เป็นไงคะคุณจินเอาแบบไหนดี”
“ผมอิ่มเลือก จะเอาเรือนไหนตามใจอิ่มเลย”
“งั้นเอาเรือนนี้นะคะ” นาฬิกาที่หญิงสาวเลือกนั้นเป็นแบบผู้หญิงใส่กันตัวเรือนทำจากทองคำขาวเรือนเล็กและมีเพชรอยู่ในตัวเรือนตรงพรายน้ำด้วย ไม่ดูเวอร์เกินไปสำหรับนักศึกษา
“สวยตรงไหนเนี่ย”
“สายตาผู้ชายกับผู้หญิงไม่เหมือนกันค่ะ จ่ายเงินด้วยนะคะ....แปลกเวลาที่คุณจินจีบสาวซื้อของให้สาวๆยังไงคะ?” เธอยื่นนาฬิกาให้ชายพนักงานละหันไปบอกเขาเสียงหวาน และหันไปสนใจของสำหรับตัวเองบ้าง ตอนนี้เธอไม่มีนาฬิกาใส่เลยเพราะทำหายไปหลายวันแล้ว
"ส่วนใหญ่พาไปแล้วจายเงินให้เท่านั้นเอง" จิณณ์วัตรยื่นบัตรเครดิตสีดดำให้กับพนักงานอย่างเซ็งๆ นี่ผู้หญิงชอบอะไรแบบนี้เหรอ มิน่าละทุกครั้งที่เขาให้อะไรน้องสาวจะค่อนว่าหยั่งกับซื้อให้ผู้ชายใส่
“น้องคะพี่ขอดูเรือนนั้นหน่อยค่ะ” ชายหนุ่มหันไปสนใจคนข้างๆ ทันทีเมื่อเห็นเธอสนใจนาฬิกาอยู่เหมือนกัน
“อิ่มจะซื้อเหรอ?” เขาถามเธออย่างสนใจ
“ค่ะ..พอดีว่าเรือนเก่ามันหายน่ะค่ะ เลยว่าจะดูอันใหม่” เธอตอบโดยไม่มองหน้าคนที่ถามเธอแม้แต่น้อย
มนปริยาพิจารณาตัวเรือนอย่างถี่ถ้วนอยู่สี่ห้าอันก่อนจะตัดสินใจเลือกเรือนสุดท้ายที่เธอเลือกมาดู แม้จะไม่เล็กน่ารักเหมือนกับที่เลือกให้น้องสาวเขา แต่ก็มีความเป็นผู้หญิงอยู่ไม่น้อย และจากราคาที่อบยู่ตามป้ายเรียกได้ว่าคงไม่มีใครกล้าควักตังค์จ่ายง่ายๆ หรอก
“เอาเรือนนี้ละค่ะ”
“รวมบิลเลยนะ” เสียงชายหนุ่มสั่งพนักงานี่กำลังไปคิดเงิน
“ไม่เอานะคะ!...” หันมาห้ามเขาอย่างตกใจ
“ไม่เอาน่าผมจ่ายให้เองถือว่าเป็นของขวัญสำหรับเพื่อนร่วมงานคนใหม่และขอบคุณที่ช่วยเลือกของขวัญให้น้องสาวผมด้วย” เขาไม่สนใจเสียงทัดทานของเธอ
“แต่ว่า...” เธอมองหน้าเขาอย่างไม่สบายใจ
“ไม่ทราบว่าจะให้ห่อเป็นของขวัญทั้งสองเรือนเลยมั้ยคะ” พนักงานขัดจังหวะขึ้น
“ไม่ครับเอาเฉพาะเรือนแรก ส่วนอีกเรือนนี้เอามานี่เลยนะครับ” เขารับจากพนักงานมาและจัดการสวมมันให้เธออย่างอ่อนโยน
“ของขวัญจากผมนะครับอิ่ม อย่าปฏิเสธเลยนะครับ”
“เอ่อ...ขอบคุณมากค่ะ”
“ด้วยความยินดีครับ” เขายิ้มอย่างยินดีที่เธอยอมรับของขวัญจากเขาแล้ว เฮ้อ..เธอรับมาอย่างไม่สบายใจนี่ของก็ไม่ใช่ถูกๆ ซะด้วย
“พี่มาร์คคะ ข้าวว่ามันชักจะยังไงแล้วนะคะ” ข้าวปั้นบอกสามีอย่างไม่สบายใจเมื่อรูปที่ได้รับมาจากคนของสามีที่เอามาให้ประจำวัน
“พี่ว่าเรารอดูกันไปก่อนดีกว่านะ” เขาเองก็ใช่ว่าจะสบายใจนัก เมื่อเห็นภาพที่ชายหนุ่มดูใส่ใจลูกสาวเขาอย่างนี้ และยังมีภาพให้ของราคาแพงอีกแถมสวมให้อีกด้วย ตลอดเวลาทั้งคู่ดูถ้อยทีถ้อยอาศัย คนเป็นพ่ออย่างเขาต้องเรื่องสนใจคนทั้งคู่มากยิ่งขึ้นแม้จะเพิ่งเริ่มมีอาการอย่างนี้แต่เขาก็วางใจไม่ได้เหมือนกัน
“ข้าวห่วงลูกจังค่ะ” ลูกสาวคนเล็กออกจะร้ายกาจแต่ไม่ประสาเรื่องความรักเอาเสียเลย
“ไม่ต้องห่วงหรอก ลูกเราเก่งจะตาย พี่มาอิ่มไม่เป็นไรหรอก เขาเอาตัวรอดเก่งอยู่แล้ว” ปลอบภรรยาอย่างมั่นใจ
ณ บริษัท Daimon Rich ผู้บริหารสูงสุดที่เป็นบริษัทคู่แข่งกับแซนด์บิทกรุ๊ป จิม ไซม่อนชายวัยกลางคนที่เจ้าเล่ห์และทำทุกทางเพื่อให้ตัวเองรุ่งเรืองโดยไม่สนใจคำว่าศีลธรรม เขาไม่เคยรู้จักมันตั้งแต่แรก และแซนด์บิทก็เป็นหนามยอกอกเขามาตลอดหลายสิบปีที่เขาบริหารมา แม้ไอ้เจ้ามาร์คมันจะลามือไปแล้ว
แต่ลูกๆ ของมันก็เก่งทุกคนสมกับที่โดนสอนมาอย่างดี ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายต่างมีเล่ห์เหลี่ยมในเชิงธุรกิจกันทุกคน
“นายครับเราได้ข่าวมาว่าลูกสาวคนเล็กของแซนด์บิทออกมาอยู่เองครับ” เวธน์เดินเข้ามารายงานเจ้านายเสียงเรียบ เขาเพิ่งได้ข่าวนี้ไม่นานนักก่อนจะมาบอกเจ้านาย
“เหรอ...แล้วมันออกมานานเท่าไหร่แล้ว” ถามอย่างเจ้าเล่ห์เพราะเขามีแผนการอยู่ในใจแล้วว่าจะจัดการกับเด็กนี่ยังไงดี เพราะเมื่อก่อนมันทำเขาเอาไว้แสบมากๆ ไม่แพ้พ่อมันทีเดียว
“นานหลายเดือนแล้วครับ นายจะเอายังไงดีครับ”
“จับตามันเอาไว้ฉันมีอะไรจะให้พวกแกเล่นกัน”
“ได้ครับ” ถอยตัวออกจากห้องไปอย่างเงียบกริบเหมือนขามา
“คอยดูเถอะไอ้มาร์คอยากรู้นักว่าถ้าลูกสาวคนเล็กที่แกหวงนักหวงหนาเป็นอะไรไปละก็ แกจะทำหน้ายังไง”
มนปริยาต้องนั่งรถมาพร้อมกับจิณณ์วัตรเพื่อมาที่บ้านเขาหลังจากที่เลิกงานแล้ว นี่เธอก็ไม่ได้ขับรถตัวเองอีกแล้วเหรอเนี่ย
“อิ่ม...เป็นอะไรไปเหรอผมเห็นอิ่มเหม่อๆ นะ” เขาถามเธออย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นท่าทีแปลกๆ ของเธอ
“ก็...คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะคะมี่อะไรมากหรอกค่ะ” เธอส่ายหน้าอย่างไม่มีอะไรจริงๆ เพื่อให้เขาสบายใจ
“เอ...บ้านคุณจินเนี่ย...สาวๆ คงมาบ่อยซิคะ”
“เปล่า...ผมไม่เคยพาใครมาบ้านหรอก น่ารำคาญน่ะ” นอกจากคุณคนเดียวที่กลังจะได้เข้าไปในบ้านผม เขาสาบานกับตัวเอง
“อ้าว!?”
“ส่วนใหญ่ก็ไปเที่ยวอะไรกันประมาณเนี้ย แต่ไม่เคยให้ใครมาที่ส่วนตัวของผมและน้องซักที”
“มีใครบุกมาหาที่บ้านบ้างมั้ยคะ?”
“ก็ มีนะ แต่ไม่มีใครที่ทะลุเข้ามาในบ้านได้หรอกผมสั่งเอาไว้น่ะ”
“แหม...ร้ายจังนะคะ ไปให้ความหวังพวกเธอแล้วก็ไม่เคยพาใครมาเยี่ยมชมบ้านหลังงามเสียที”
“รู้ได้ไงว่าบ้านผมสวยน่ะ”
“แหม...บ้านคุณจิณณ์วัตรนะคะจะกระจอกได้ไง อย่างน้อยก็ต้องมีพื้นที่เยอะละค่ะ” เธอค้อนเขาอย่างหมั่นไส้ ใครๆ ก็ต่างพากันพูดถึงบ้านเจ้านายกันทั้งนั้นถึงเธอจะไม่ค่อยสนใจแต่ก็ได้ยินมาบ้างละว่าสวยและกว้างมาก
“เอาละถึงแล้วเชิญครับคุณผู้หญิง” เขาเปิดประตูรอรับเธออย่างหยอกล้อ
“ขอบคุณค้า แหมอยากรู้จังว่ามีใครเห็นคุณจินเป็นแบบนี้อย่างที่อิ่มเห็นมั้ยเนี่ย” อดจะสงสัยไม่ได้ก็เขาดูขี้เล่นขนาดนี้ต่างจากที่บริษัทกันลิบเชียวละ
มนปริยามองดูบ้านของชายหนุ่มที่เธอเปิดประตูให้เธอลงมา ภายในบ้านนั้นกว้างใหญ่และร่มรื่นไปด้วยต้นไม่น้อยใหญ่มากมาย และตัวบ้านที่ใหญ่โตหรูหราสีขาวทั้งหลัง นี่อยู่กันกี่คนกันเนี่ย?
“อย่าเอ็ดไปละ ไม่มีใครเห็นหรอกเขาคิดว่าผมเป็นหุ่นยนต์กัน” เขาจุ้ปากห้ามเธอเอาไว้เหมือนเป็นเรื่องที่ต้องห้ามอย่างนั้น
“อิๆๆ อิ่มคงเชื่อหรอกค่ะ ตลกละ...” เธอบอกอย่างไม่เชื่อเขาซักนิดเดียว
“แล้วอิ่มจะเชื่อ ไปกันเถอะครับจินนี่รอจนคอยาวแล้วมั้ง”
“ค่ะ” ทั้งสองคนเดินตามกันเข้าบ้าน เพื่อไปเจอหญิงสาวคนสำคัญของชายหนุ่มที่เขารักมากที่สุดในชีวิต
“ว่าไงคะน้องสาว” จิณณ์วัตรรับสายจากน้องสาวคนเดียวเสียงหวาน
“ไม่ว่าไงหรอกค่ะ แต่อยากถามว่าพี่จินอยู่ที่ไหนเหรอคะ?”
“อ๋อ...พี่กำลังจะออกไปข้างนอกมีอะไรเหรอ?”
“เปล่าหรอกค่ะแค่จะแวะไปหาน่ะค่ะ”
“เหรอพอดีว่าพี่ออกมาทำธุระเสียด้วยซิ...”
“ไม่เป็นไรค่ะเอาไว้เจอกันที่บ้านก็ได้ แต่พี่จินคะ พี่อิ่มไปด้วยมั้ยคะ?”
“มาซิ...อยู่ข้างๆ พี่นี่ละ ทำไมเหรอ?” เขาสงสัยว่าเหตุใดน้องสาวถึงดูสนใจมนปริยานักหนาทั้งที่เจอกันนับครั้งได้....
“ว้า..เสียดายจัง” ทำเสียงเสียดายเต็มที่เมื่อพี่สาวคนสวยไม่อยู่
“งั้นตอนเย็นพี่จะชวนพี่อิ่มเขาไปทานข้าวที่บ้านให้แล้วกันถ้ามีอะไรจะถามก็รอหน่อยนะคนดี”
“จริงนะคะ!” กรอกเสียงลงไปอย่างตื่นเต้น
“อันนี้คงต้องแล้วแต่ว่าพี่อิ่มเขาจะยอมไปด้วยรึเปล่าน่ะนะ” ปรายตาไปมองหญิงสาวที่นั่งมองหน้าเขาอยู่ข้างๆ นอย่างเป็นคำถาม
“พี่จินชวนพี่เขามาให้ได้นะคะอย่าลืมนะ จินนี่ไปก่อนนะคะ”
“จ้ะ ขบรถระวังๆ ละ” บอกอย่างเป็นห่วง
“ค้า...” รับเสียงสดใส
พอวางสายจากน้องสาวแล้วเขาหันมามองหน้าเธออย่างเป็นคำถามแต่ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
“อะไรคะ? มองหน้าอิ่มทำไม?” เธอขมวดคิ้วมุ่นเมื่อชายหนุ่มไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาเสียที
“ได้ยินไม่ใช่เหรอว่าผมคุยว่าอะไรน่ะ”
“ค่ะ...ก็ยินค่ะ แต่ไม่รู้นี่คะว่าคุณจินคุยว่าอะไรบ้าง....ทั้งหมด”
“จินนี่เขาอยากเจออิ่มน่ะผมเลยบอกว่าเอาไว้ตนเย็นผมจะชวนคุณได้ทานข้าวที่บ้านจะได้เจอกัน แล้วอิ่มว่าไง?” เขาหันหน้ามามองหน้าเธอตรงๆ
เอาละซิงานเข้าแล้วมั้ยละยัยอิ่ม จากตัวติดกันทั้งวันในเวลางาน นี่หลังเลิกงานยังจะให้เธอตามไปที่บ้านอีกเหรอเนี่ย
“หรือว่าอิ่มไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะผมไม่ได้บังคับอะไรอยู่แล้ว” เขาเอนตัวไปพิงเบาะเหมือนเดิม และไม่มองหน้าเธอสายตาเหม่อมองไปข้างหน้า
“ .ก็ได้ค่ะ” เธอรับคำเสียงอ่อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเห็นเขาทำหน้าผิดหวังอย่างนั้น
“ไม่เต็มใจก็ไม่ต้องไปหรอกนะ”
“เปล่าค่ะ...อิ่มเต็มใจ..อย่าทำหน้าตูมอย่างนั้นซิคะเด็กทำมันก็น่ารักอยู่หรอกค่ะ” เธอพยายามซ่อนรอยยิ้มขำเขาเอาไว้อย่างดี
“ใครว่าผมหน้าตูม?” เขาหันมามองหน้าหญิงสาวกวนๆ
“ค่ะไม่ตูมก็ไม่ตูม....ลงได้แล้วค่ะถึงแล้ว”
“คุณจินคิดจะซื้ออะไรให้น้องจินนี่คะ?” เธอหันมาถามความตั้งใจของเขา
“อืม...ผมว่าจะซื้อนาฬิกาให้นะ แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะเลือกแบบไหนดี อิ่มว่าไงบ้าง”
“ก็ดีนี่คะ..งั้นเราไปที่ร้านกันเถอะค่ะจะเลือกแบบที่เหมาะกับเจ้าของถูก” เธอจับมือเขาโดยไม่ทันนึกเดินไปที่ร้านนาฬิกายี่ห้อดังตั้งอยู่ เมื่อมาถึงที่ร้านพอเธอจะคลายมือกลายเป็นเธอเสียเองที่เป็นฝ่ายที่โดนกุมมือเธอไว้แน่น
หญิงสาวมองที่มือตัวเองและมองหน้าจิณณ์วัตรอย่างต้องการรู้ว่าเขาจะปล่อยเธอได้เมื่อไหร่กัน
“ผมกลัวหลงนี่นา” เขาแก้ตัวเสียงอ่อน
“หลง!? อย่างคุณจินเนี่ยนะหลง..” เธอมองหน้าเขาอย่างกับเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
“ครับ...”
“โอ้ย! ....คงมีคนเชื่อหรอกค่ะ แล้วก็ปล่อยมืออิ่มเสียทีค่ะ”พยายามแกะมือเขาออกจากมือของเธอ
“ว้า..เสียดายจังเกิดผมหลงจริงๆ จะทำไงเนี่ย” เขาถามเธอตาพราวอย่างมีความหมาย
“มะ....ไม่ทราบซิคะ แต่อิ่มเชื่อว่าคนอย่างคุณจินไม่มีทางที่จะหลงไปไหนหรอกค่ะ” เธอตอบเสียงตะกุกตะกัก
“ไม่แน่นา...”
“พูดมาก...เลือกเถอะค่ะว่าจะเอาแบบไหนบ้าง?” ชายหนุ่มจัดการชี้ชิ้นที่เขามองว่าสวยมาให้เธอดูสี่ห้าชิ้น
“คุณ...รู้มั้ยว่าตัวเองไม่มีเซ้นท์ทางการเลือกเครื่องประดับสุดๆ” เธอว่าเขาหลังจากที่เห็นนาฬิกาแต่ละแบบที่เขาให้พนักงานหยิบมาให้ดู
“เอ้า!...มาว่าผม นี่ผมก็ว่าสวยดีนะ”
“มันนาฬิกาผู้ชายนะคะ นี่คิดจะซื้อไปใส่เองหรือว่าซื้อให้น้องสาวที่กำลังเป็นสาวเต็มตัวกันคะ”
“ผมบอกอิ่มแล้วน่าว่าผมไม่ถนัดน่ะ ถึงได้ให้มาช่วยกันเลือกไง” ทำหน้ายุ่งใส่เธอ เมื่อโดนว่า
“ค่ะ..งั้นน้องเอาสามเรื่อนที่พี่หยิบเมื่อครู่ออกมาหน่อยซิคะ” หันไปบอกพนักงานที่ยืนรอฟังเธอยู่ และรีบทำตามทันที เพราะดูจากการแต่งตัวของทั้งคู่แล้ววันนี้คงได้ค่าคอมฯ เยอะอยู่ และชายหนุ่มเธอก็เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆเหมือนกัน
“ไม่ทราบว่าสนใจรุ่นไหนเป็นพิเศษรึเปล่าคะ”
“เป็นไงคะคุณจินเอาแบบไหนดี”
“ผมอิ่มเลือก จะเอาเรือนไหนตามใจอิ่มเลย”
“งั้นเอาเรือนนี้นะคะ” นาฬิกาที่หญิงสาวเลือกนั้นเป็นแบบผู้หญิงใส่กันตัวเรือนทำจากทองคำขาวเรือนเล็กและมีเพชรอยู่ในตัวเรือนตรงพรายน้ำด้วย ไม่ดูเวอร์เกินไปสำหรับนักศึกษา
“สวยตรงไหนเนี่ย”
“สายตาผู้ชายกับผู้หญิงไม่เหมือนกันค่ะ จ่ายเงินด้วยนะคะ....แปลกเวลาที่คุณจินจีบสาวซื้อของให้สาวๆยังไงคะ?” เธอยื่นนาฬิกาให้ชายพนักงานละหันไปบอกเขาเสียงหวาน และหันไปสนใจของสำหรับตัวเองบ้าง ตอนนี้เธอไม่มีนาฬิกาใส่เลยเพราะทำหายไปหลายวันแล้ว
"ส่วนใหญ่พาไปแล้วจายเงินให้เท่านั้นเอง" จิณณ์วัตรยื่นบัตรเครดิตสีดดำให้กับพนักงานอย่างเซ็งๆ นี่ผู้หญิงชอบอะไรแบบนี้เหรอ มิน่าละทุกครั้งที่เขาให้อะไรน้องสาวจะค่อนว่าหยั่งกับซื้อให้ผู้ชายใส่
“น้องคะพี่ขอดูเรือนนั้นหน่อยค่ะ” ชายหนุ่มหันไปสนใจคนข้างๆ ทันทีเมื่อเห็นเธอสนใจนาฬิกาอยู่เหมือนกัน
“อิ่มจะซื้อเหรอ?” เขาถามเธออย่างสนใจ
“ค่ะ..พอดีว่าเรือนเก่ามันหายน่ะค่ะ เลยว่าจะดูอันใหม่” เธอตอบโดยไม่มองหน้าคนที่ถามเธอแม้แต่น้อย
มนปริยาพิจารณาตัวเรือนอย่างถี่ถ้วนอยู่สี่ห้าอันก่อนจะตัดสินใจเลือกเรือนสุดท้ายที่เธอเลือกมาดู แม้จะไม่เล็กน่ารักเหมือนกับที่เลือกให้น้องสาวเขา แต่ก็มีความเป็นผู้หญิงอยู่ไม่น้อย และจากราคาที่อบยู่ตามป้ายเรียกได้ว่าคงไม่มีใครกล้าควักตังค์จ่ายง่ายๆ หรอก
“เอาเรือนนี้ละค่ะ”
“รวมบิลเลยนะ” เสียงชายหนุ่มสั่งพนักงานี่กำลังไปคิดเงิน
“ไม่เอานะคะ!...” หันมาห้ามเขาอย่างตกใจ
“ไม่เอาน่าผมจ่ายให้เองถือว่าเป็นของขวัญสำหรับเพื่อนร่วมงานคนใหม่และขอบคุณที่ช่วยเลือกของขวัญให้น้องสาวผมด้วย” เขาไม่สนใจเสียงทัดทานของเธอ
“แต่ว่า...” เธอมองหน้าเขาอย่างไม่สบายใจ
“ไม่ทราบว่าจะให้ห่อเป็นของขวัญทั้งสองเรือนเลยมั้ยคะ” พนักงานขัดจังหวะขึ้น
“ไม่ครับเอาเฉพาะเรือนแรก ส่วนอีกเรือนนี้เอามานี่เลยนะครับ” เขารับจากพนักงานมาและจัดการสวมมันให้เธออย่างอ่อนโยน
“ของขวัญจากผมนะครับอิ่ม อย่าปฏิเสธเลยนะครับ”
“เอ่อ...ขอบคุณมากค่ะ”
“ด้วยความยินดีครับ” เขายิ้มอย่างยินดีที่เธอยอมรับของขวัญจากเขาแล้ว เฮ้อ..เธอรับมาอย่างไม่สบายใจนี่ของก็ไม่ใช่ถูกๆ ซะด้วย
“พี่มาร์คคะ ข้าวว่ามันชักจะยังไงแล้วนะคะ” ข้าวปั้นบอกสามีอย่างไม่สบายใจเมื่อรูปที่ได้รับมาจากคนของสามีที่เอามาให้ประจำวัน
“พี่ว่าเรารอดูกันไปก่อนดีกว่านะ” เขาเองก็ใช่ว่าจะสบายใจนัก เมื่อเห็นภาพที่ชายหนุ่มดูใส่ใจลูกสาวเขาอย่างนี้ และยังมีภาพให้ของราคาแพงอีกแถมสวมให้อีกด้วย ตลอดเวลาทั้งคู่ดูถ้อยทีถ้อยอาศัย คนเป็นพ่ออย่างเขาต้องเรื่องสนใจคนทั้งคู่มากยิ่งขึ้นแม้จะเพิ่งเริ่มมีอาการอย่างนี้แต่เขาก็วางใจไม่ได้เหมือนกัน
“ข้าวห่วงลูกจังค่ะ” ลูกสาวคนเล็กออกจะร้ายกาจแต่ไม่ประสาเรื่องความรักเอาเสียเลย
“ไม่ต้องห่วงหรอก ลูกเราเก่งจะตาย พี่มาอิ่มไม่เป็นไรหรอก เขาเอาตัวรอดเก่งอยู่แล้ว” ปลอบภรรยาอย่างมั่นใจ
ณ บริษัท Daimon Rich ผู้บริหารสูงสุดที่เป็นบริษัทคู่แข่งกับแซนด์บิทกรุ๊ป จิม ไซม่อนชายวัยกลางคนที่เจ้าเล่ห์และทำทุกทางเพื่อให้ตัวเองรุ่งเรืองโดยไม่สนใจคำว่าศีลธรรม เขาไม่เคยรู้จักมันตั้งแต่แรก และแซนด์บิทก็เป็นหนามยอกอกเขามาตลอดหลายสิบปีที่เขาบริหารมา แม้ไอ้เจ้ามาร์คมันจะลามือไปแล้ว
แต่ลูกๆ ของมันก็เก่งทุกคนสมกับที่โดนสอนมาอย่างดี ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายต่างมีเล่ห์เหลี่ยมในเชิงธุรกิจกันทุกคน
“นายครับเราได้ข่าวมาว่าลูกสาวคนเล็กของแซนด์บิทออกมาอยู่เองครับ” เวธน์เดินเข้ามารายงานเจ้านายเสียงเรียบ เขาเพิ่งได้ข่าวนี้ไม่นานนักก่อนจะมาบอกเจ้านาย
“เหรอ...แล้วมันออกมานานเท่าไหร่แล้ว” ถามอย่างเจ้าเล่ห์เพราะเขามีแผนการอยู่ในใจแล้วว่าจะจัดการกับเด็กนี่ยังไงดี เพราะเมื่อก่อนมันทำเขาเอาไว้แสบมากๆ ไม่แพ้พ่อมันทีเดียว
“นานหลายเดือนแล้วครับ นายจะเอายังไงดีครับ”
“จับตามันเอาไว้ฉันมีอะไรจะให้พวกแกเล่นกัน”
“ได้ครับ” ถอยตัวออกจากห้องไปอย่างเงียบกริบเหมือนขามา
“คอยดูเถอะไอ้มาร์คอยากรู้นักว่าถ้าลูกสาวคนเล็กที่แกหวงนักหวงหนาเป็นอะไรไปละก็ แกจะทำหน้ายังไง”
มนปริยาต้องนั่งรถมาพร้อมกับจิณณ์วัตรเพื่อมาที่บ้านเขาหลังจากที่เลิกงานแล้ว นี่เธอก็ไม่ได้ขับรถตัวเองอีกแล้วเหรอเนี่ย
“อิ่ม...เป็นอะไรไปเหรอผมเห็นอิ่มเหม่อๆ นะ” เขาถามเธออย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นท่าทีแปลกๆ ของเธอ
“ก็...คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะคะมี่อะไรมากหรอกค่ะ” เธอส่ายหน้าอย่างไม่มีอะไรจริงๆ เพื่อให้เขาสบายใจ
“เอ...บ้านคุณจินเนี่ย...สาวๆ คงมาบ่อยซิคะ”
“เปล่า...ผมไม่เคยพาใครมาบ้านหรอก น่ารำคาญน่ะ” นอกจากคุณคนเดียวที่กลังจะได้เข้าไปในบ้านผม เขาสาบานกับตัวเอง
“อ้าว!?”
“ส่วนใหญ่ก็ไปเที่ยวอะไรกันประมาณเนี้ย แต่ไม่เคยให้ใครมาที่ส่วนตัวของผมและน้องซักที”
“มีใครบุกมาหาที่บ้านบ้างมั้ยคะ?”
“ก็ มีนะ แต่ไม่มีใครที่ทะลุเข้ามาในบ้านได้หรอกผมสั่งเอาไว้น่ะ”
“แหม...ร้ายจังนะคะ ไปให้ความหวังพวกเธอแล้วก็ไม่เคยพาใครมาเยี่ยมชมบ้านหลังงามเสียที”
“รู้ได้ไงว่าบ้านผมสวยน่ะ”
“แหม...บ้านคุณจิณณ์วัตรนะคะจะกระจอกได้ไง อย่างน้อยก็ต้องมีพื้นที่เยอะละค่ะ” เธอค้อนเขาอย่างหมั่นไส้ ใครๆ ก็ต่างพากันพูดถึงบ้านเจ้านายกันทั้งนั้นถึงเธอจะไม่ค่อยสนใจแต่ก็ได้ยินมาบ้างละว่าสวยและกว้างมาก
“เอาละถึงแล้วเชิญครับคุณผู้หญิง” เขาเปิดประตูรอรับเธออย่างหยอกล้อ
“ขอบคุณค้า แหมอยากรู้จังว่ามีใครเห็นคุณจินเป็นแบบนี้อย่างที่อิ่มเห็นมั้ยเนี่ย” อดจะสงสัยไม่ได้ก็เขาดูขี้เล่นขนาดนี้ต่างจากที่บริษัทกันลิบเชียวละ
มนปริยามองดูบ้านของชายหนุ่มที่เธอเปิดประตูให้เธอลงมา ภายในบ้านนั้นกว้างใหญ่และร่มรื่นไปด้วยต้นไม่น้อยใหญ่มากมาย และตัวบ้านที่ใหญ่โตหรูหราสีขาวทั้งหลัง นี่อยู่กันกี่คนกันเนี่ย?
“อย่าเอ็ดไปละ ไม่มีใครเห็นหรอกเขาคิดว่าผมเป็นหุ่นยนต์กัน” เขาจุ้ปากห้ามเธอเอาไว้เหมือนเป็นเรื่องที่ต้องห้ามอย่างนั้น
“อิๆๆ อิ่มคงเชื่อหรอกค่ะ ตลกละ...” เธอบอกอย่างไม่เชื่อเขาซักนิดเดียว
“แล้วอิ่มจะเชื่อ ไปกันเถอะครับจินนี่รอจนคอยาวแล้วมั้ง”
“ค่ะ” ทั้งสองคนเดินตามกันเข้าบ้าน เพื่อไปเจอหญิงสาวคนสำคัญของชายหนุ่มที่เขารักมากที่สุดในชีวิต
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น