ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พนันร้าย พันหลักใจ (พิมพ์กับ อะเมทิสต์ จ้า...)

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 51


    ตอนที่ 13 



    “ว่าไงคะน้องสาว” จิณณ์วัตรรับสายจากน้องสาวคนเดียวเสียงหวาน 


    “ไม่ว่าไงหรอกค่ะ แต่อยากถามว่าพี่จินอยู่ที่ไหนเหรอคะ?” 


    “อ๋อ...พี่กำลังจะออกไปข้างนอกมีอะไรเหรอ?” 


    “เปล่าหรอกค่ะแค่จะแวะไปหาน่ะค่ะ” 


    “เหรอพอดีว่าพี่ออกมาทำธุระเสียด้วยซิ...” 


    “ไม่เป็นไรค่ะเอาไว้เจอกันที่บ้านก็ได้ แต่พี่จินคะ พี่อิ่มไปด้วยมั้ยคะ?” 


    “มาซิ...อยู่ข้างๆ พี่นี่ละ ทำไมเหรอ?” เขาสงสัยว่าเหตุใดน้องสาวถึงดูสนใจมนปริยานักหนาทั้งที่เจอกันนับครั้งได้....
     

    “ว้า..เสียดายจัง” ทำเสียงเสียดายเต็มที่เมื่อพี่สาวคนสวยไม่อยู่
     

    “งั้นตอนเย็นพี่จะชวนพี่อิ่มเขาไปทานข้าวที่บ้านให้แล้วกันถ้ามีอะไรจะถามก็รอหน่อยนะคนดี”
     

    “จริงนะคะ!” กรอกเสียงลงไปอย่างตื่นเต้น 


    “อันนี้คงต้องแล้วแต่ว่าพี่อิ่มเขาจะยอมไปด้วยรึเปล่าน่ะนะ” ปรายตาไปมองหญิงสาวที่นั่งมองหน้าเขาอยู่ข้างๆ นอย่างเป็นคำถาม
     

    “พี่จินชวนพี่เขามาให้ได้นะคะอย่าลืมนะ จินนี่ไปก่อนนะคะ” 


    “จ้ะ ขบรถระวังๆ ละ” บอกอย่างเป็นห่วง
     

    “ค้า...” รับเสียงสดใส 


    พอวางสายจากน้องสาวแล้วเขาหันมามองหน้าเธออย่างเป็นคำถามแต่ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว 


    “อะไรคะ? มองหน้าอิ่มทำไม?” เธอขมวดคิ้วมุ่นเมื่อชายหนุ่มไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาเสียที 


    “ได้ยินไม่ใช่เหรอว่าผมคุยว่าอะไรน่ะ” 


    “ค่ะ...ก็ยินค่ะ แต่ไม่รู้นี่คะว่าคุณจินคุยว่าอะไรบ้าง....ทั้งหมด”
     

    “จินนี่เขาอยากเจออิ่มน่ะผมเลยบอกว่าเอาไว้ตนเย็นผมจะชวนคุณได้ทานข้าวที่บ้านจะได้เจอกัน แล้วอิ่มว่าไง?” เขาหันหน้ามามองหน้าเธอตรงๆ
     

    เอาละซิงานเข้าแล้วมั้ยละยัยอิ่ม จากตัวติดกันทั้งวันในเวลางาน นี่หลังเลิกงานยังจะให้เธอตามไปที่บ้านอีกเหรอเนี่ย 


    “หรือว่าอิ่มไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะผมไม่ได้บังคับอะไรอยู่แล้ว” เขาเอนตัวไปพิงเบาะเหมือนเดิม และไม่มองหน้าเธอสายตาเหม่อมองไปข้างหน้า 


    “….ก็ได้ค่ะ” เธอรับคำเสียงอ่อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเห็นเขาทำหน้าผิดหวังอย่างนั้น
     

    “ไม่เต็มใจก็ไม่ต้องไปหรอกนะ” 


    “เปล่าค่ะ...อิ่มเต็มใจ..อย่าทำหน้าตูมอย่างนั้นซิคะเด็กทำมันก็น่ารักอยู่หรอกค่ะ” เธอพยายามซ่อนรอยยิ้มขำเขาเอาไว้อย่างดี 


    “ใครว่าผมหน้าตูม?” เขาหันมามองหน้าหญิงสาวกวนๆ 


    “ค่ะไม่ตูมก็ไม่ตูม....ลงได้แล้วค่ะถึงแล้ว” 


    “คุณจินคิดจะซื้ออะไรให้น้องจินนี่คะ?” เธอหันมาถามความตั้งใจของเขา
     

    “อืม...ผมว่าจะซื้อนาฬิกาให้นะ แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะเลือกแบบไหนดี อิ่มว่าไงบ้าง” 


    “ก็ดีนี่คะ..งั้นเราไปที่ร้านกันเถอะค่ะจะเลือกแบบที่เหมาะกับเจ้าของถูก” เธอจับมือเขาโดยไม่ทันนึกเดินไปที่ร้านนาฬิกายี่ห้อดังตั้งอยู่ เมื่อมาถึงที่ร้านพอเธอจะคลายมือกลายเป็นเธอเสียเองที่เป็นฝ่ายที่โดนกุมมือเธอไว้แน่น 


    หญิงสาวมองที่มือตัวเองและมองหน้าจิณณ์วัตรอย่างต้องการรู้ว่าเขาจะปล่อยเธอได้เมื่อไหร่กัน
     

    “ผมกลัวหลงนี่นา” เขาแก้ตัวเสียงอ่อน 


    “หลง!? อย่างคุณจินเนี่ยนะหลง..” เธอมองหน้าเขาอย่างกับเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก 


    “ครับ...”
     

    “โอ้ย! ....คงมีคนเชื่อหรอกค่ะ แล้วก็ปล่อยมืออิ่มเสียทีค่ะ”พยายามแกะมือเขาออกจากมือของเธอ 

    “ว้า..เสียดายจังเกิดผมหลงจริงๆ จะทำไงเนี่ย” เขาถามเธอตาพราวอย่างมีความหมาย 


    “มะ....ไม่ทราบซิคะ แต่อิ่มเชื่อว่าคนอย่างคุณจินไม่มีทางที่จะหลงไปไหนหรอกค่ะ” เธอตอบเสียงตะกุกตะกัก 


    “ไม่แน่นา...” 


    “พูดมาก...เลือกเถอะค่ะว่าจะเอาแบบไหนบ้าง?” ชายหนุ่มจัดการชี้ชิ้นที่เขามองว่าสวยมาให้เธอดูสี่ห้าชิ้น 


    “คุณ...รู้มั้ยว่าตัวเองไม่มีเซ้นท์ทางการเลือกเครื่องประดับสุดๆ” เธอว่าเขาหลังจากที่เห็นนาฬิกาแต่ละแบบที่เขาให้พนักงานหยิบมาให้ดู 



    “เอ้า!...มาว่าผม นี่ผมก็ว่าสวยดีนะ”
     

    “มันนาฬิกาผู้ชายนะคะ นี่คิดจะซื้อไปใส่เองหรือว่าซื้อให้น้องสาวที่กำลังเป็นสาวเต็มตัวกันคะ” 


    “ผมบอกอิ่มแล้วน่าว่าผมไม่ถนัดน่ะ ถึงได้ให้มาช่วยกันเลือกไง” ทำหน้ายุ่งใส่เธอ เมื่อโดนว่า 

    “ค่ะ..งั้นน้องเอาสามเรื่อนที่พี่หยิบเมื่อครู่ออกมาหน่อยซิคะ” หันไปบอกพนักงานที่ยืนรอฟังเธอยู่ และรีบทำตามทันที เพราะดูจากการแต่งตัวของทั้งคู่แล้ววันนี้คงได้ค่าคอมฯ เยอะอยู่ และชายหนุ่มเธอก็เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆเหมือนกัน
     

    “ไม่ทราบว่าสนใจรุ่นไหนเป็นพิเศษรึเปล่าคะ”
     

    “เป็นไงคะคุณจินเอาแบบไหนดี”
     

    “ผมอิ่มเลือก จะเอาเรือนไหนตามใจอิ่มเลย”
     

    “งั้นเอาเรือนนี้นะคะ” นาฬิกาที่หญิงสาวเลือกนั้นเป็นแบบผู้หญิงใส่กันตัวเรือนทำจากทองคำขาวเรือนเล็กและมีเพชรอยู่ในตัวเรือนตรงพรายน้ำด้วย ไม่ดูเวอร์เกินไปสำหรับนักศึกษา 


    “สวยตรงไหนเนี่ย” 


    “สายตาผู้ชายกับผู้หญิงไม่เหมือนกันค่ะ จ่ายเงินด้วยนะคะ....แปลกเวลาที่คุณจินจีบสาวซื้อของให้สาวๆยังไงคะ?” เธอยื่นนาฬิกาให้ชายพนักงานละหันไปบอกเขาเสียงหวาน และหันไปสนใจของสำหรับตัวเองบ้าง ตอนนี้เธอไม่มีนาฬิกาใส่เลยเพราะทำหายไปหลายวันแล้ว 


    "ส่วนใหญ่พาไปแล้วจายเงินให้เท่านั้นเอง" จิณณ์วัตรยื่นบัตรเครดิตสีดดำให้กับพนักงานอย่างเซ็งๆ นี่ผู้หญิงชอบอะไรแบบนี้เหรอ มิน่าละทุกครั้งที่เขาให้อะไรน้องสาวจะค่อนว่าหยั่งกับซื้อให้ผู้ชายใส่ 


    “น้องคะพี่ขอดูเรือนนั้นหน่อยค่ะ” ชายหนุ่มหันไปสนใจคนข้างๆ ทันทีเมื่อเห็นเธอสนใจนาฬิกาอยู่เหมือนกัน 


    “อิ่มจะซื้อเหรอ?” เขาถามเธออย่างสนใจ 


    “ค่ะ..พอดีว่าเรือนเก่ามันหายน่ะค่ะ เลยว่าจะดูอันใหม่” เธอตอบโดยไม่มองหน้าคนที่ถามเธอแม้แต่น้อย 


    มนปริยาพิจารณาตัวเรือนอย่างถี่ถ้วนอยู่สี่ห้าอันก่อนจะตัดสินใจเลือกเรือนสุดท้ายที่เธอเลือกมาดู แม้จะไม่เล็กน่ารักเหมือนกับที่เลือกให้น้องสาวเขา แต่ก็มีความเป็นผู้หญิงอยู่ไม่น้อย และจากราคาที่อบยู่ตามป้ายเรียกได้ว่าคงไม่มีใครกล้าควักตังค์จ่ายง่ายๆ หรอก 


    “เอาเรือนนี้ละค่ะ” 


    “รวมบิลเลยนะ” เสียงชายหนุ่มสั่งพนักงานี่กำลังไปคิดเงิน 

    “ไม่เอานะคะ!...” หันมาห้ามเขาอย่างตกใจ
     

    “ไม่เอาน่าผมจ่ายให้เองถือว่าเป็นของขวัญสำหรับเพื่อนร่วมงานคนใหม่และขอบคุณที่ช่วยเลือกของขวัญให้น้องสาวผมด้วย” เขาไม่สนใจเสียงทัดทานของเธอ 


    “แต่ว่า...” เธอมองหน้าเขาอย่างไม่สบายใจ 


    “ไม่ทราบว่าจะให้ห่อเป็นของขวัญทั้งสองเรือนเลยมั้ยคะ” พนักงานขัดจังหวะขึ้น 



    “ไม่ครับเอาเฉพาะเรือนแรก ส่วนอีกเรือนนี้เอามานี่เลยนะครับ” เขารับจากพนักงานมาและจัดการสวมมันให้เธออย่างอ่อนโยน
     

    “ของขวัญจากผมนะครับอิ่ม อย่าปฏิเสธเลยนะครับ” 


    “เอ่อ...ขอบคุณมากค่ะ”
     

    “ด้วยความยินดีครับ” เขายิ้มอย่างยินดีที่เธอยอมรับของขวัญจากเขาแล้ว เฮ้อ..เธอรับมาอย่างไม่สบายใจนี่ของก็ไม่ใช่ถูกๆ ซะด้วย
     





    “พี่มาร์คคะ ข้าวว่ามันชักจะยังไงแล้วนะคะ” ข้าวปั้นบอกสามีอย่างไม่สบายใจเมื่อรูปที่ได้รับมาจากคนของสามีที่เอามาให้ประจำวัน
     

    “พี่ว่าเรารอดูกันไปก่อนดีกว่านะ” เขาเองก็ใช่ว่าจะสบายใจนัก เมื่อเห็นภาพที่ชายหนุ่มดูใส่ใจลูกสาวเขาอย่างนี้ และยังมีภาพให้ของราคาแพงอีกแถมสวมให้อีกด้วย ตลอดเวลาทั้งคู่ดูถ้อยทีถ้อยอาศัย คนเป็นพ่ออย่างเขาต้องเรื่องสนใจคนทั้งคู่มากยิ่งขึ้นแม้จะเพิ่งเริ่มมีอาการอย่างนี้แต่เขาก็วางใจไม่ได้เหมือนกัน 


    “ข้าวห่วงลูกจังค่ะ” ลูกสาวคนเล็กออกจะร้ายกาจแต่ไม่ประสาเรื่องความรักเอาเสียเลย 



    “ไม่ต้องห่วงหรอก ลูกเราเก่งจะตาย พี่มาอิ่มไม่เป็นไรหรอก เขาเอาตัวรอดเก่งอยู่แล้ว” ปลอบภรรยาอย่างมั่นใจ 




    ณ บริษัท Daimon Rich ผู้บริหารสูงสุดที่เป็นบริษัทคู่แข่งกับแซนด์บิทกรุ๊ป จิม ไซม่อนชายวัยกลางคนที่เจ้าเล่ห์และทำทุกทางเพื่อให้ตัวเองรุ่งเรืองโดยไม่สนใจคำว่าศีลธรรม เขาไม่เคยรู้จักมันตั้งแต่แรก และแซนด์บิทก็เป็นหนามยอกอกเขามาตลอดหลายสิบปีที่เขาบริหารมา แม้ไอ้เจ้ามาร์คมันจะลามือไปแล้ว 


    แต่ลูกๆ ของมันก็เก่งทุกคนสมกับที่โดนสอนมาอย่างดี ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายต่างมีเล่ห์เหลี่ยมในเชิงธุรกิจกันทุกคน 


    “นายครับเราได้ข่าวมาว่าลูกสาวคนเล็กของแซนด์บิทออกมาอยู่เองครับ” เวธน์เดินเข้ามารายงานเจ้านายเสียงเรียบ เขาเพิ่งได้ข่าวนี้ไม่นานนักก่อนจะมาบอกเจ้านาย 


    “เหรอ...แล้วมันออกมานานเท่าไหร่แล้ว” ถามอย่างเจ้าเล่ห์เพราะเขามีแผนการอยู่ในใจแล้วว่าจะจัดการกับเด็กนี่ยังไงดี เพราะเมื่อก่อนมันทำเขาเอาไว้แสบมากๆ ไม่แพ้พ่อมันทีเดียว
     

    “นานหลายเดือนแล้วครับ นายจะเอายังไงดีครับ”
     

    “จับตามันเอาไว้ฉันมีอะไรจะให้พวกแกเล่นกัน” 



    “ได้ครับ” ถอยตัวออกจากห้องไปอย่างเงียบกริบเหมือนขามา
     

    “คอยดูเถอะไอ้มาร์คอยากรู้นักว่าถ้าลูกสาวคนเล็กที่แกหวงนักหวงหนาเป็นอะไรไปละก็ แกจะทำหน้ายังไง” 




    มนปริยาต้องนั่งรถมาพร้อมกับจิณณ์วัตรเพื่อมาที่บ้านเขาหลังจากที่เลิกงานแล้ว นี่เธอก็ไม่ได้ขับรถตัวเองอีกแล้วเหรอเนี่ย 



    “อิ่ม...เป็นอะไรไปเหรอผมเห็นอิ่มเหม่อๆ นะ” เขาถามเธออย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นท่าทีแปลกๆ ของเธอ 


    “ก็...คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะคะมี่อะไรมากหรอกค่ะ” เธอส่ายหน้าอย่างไม่มีอะไรจริงๆ เพื่อให้เขาสบายใจ 


    “เอ...บ้านคุณจินเนี่ย...สาวๆ คงมาบ่อยซิคะ”
     


    “เปล่า...ผมไม่เคยพาใครมาบ้านหรอก น่ารำคาญน่ะ” นอกจากคุณคนเดียวที่กลังจะได้เข้าไปในบ้านผม เขาสาบานกับตัวเอง 


    “อ้าว!?”
     

    “ส่วนใหญ่ก็ไปเที่ยวอะไรกันประมาณเนี้ย แต่ไม่เคยให้ใครมาที่ส่วนตัวของผมและน้องซักที”
     


    “มีใครบุกมาหาที่บ้านบ้างมั้ยคะ?” 



    “ก็ มีนะ แต่ไม่มีใครที่ทะลุเข้ามาในบ้านได้หรอกผมสั่งเอาไว้น่ะ” 


    “แหม...ร้ายจังนะคะ ไปให้ความหวังพวกเธอแล้วก็ไม่เคยพาใครมาเยี่ยมชมบ้านหลังงามเสียที” 


    “รู้ได้ไงว่าบ้านผมสวยน่ะ”
     

    “แหม...บ้านคุณจิณณ์วัตรนะคะจะกระจอกได้ไง อย่างน้อยก็ต้องมีพื้นที่เยอะละค่ะ” เธอค้อนเขาอย่างหมั่นไส้ ใครๆ ก็ต่างพากันพูดถึงบ้านเจ้านายกันทั้งนั้นถึงเธอจะไม่ค่อยสนใจแต่ก็ได้ยินมาบ้างละว่าสวยและกว้างมาก
     

    “เอาละถึงแล้วเชิญครับคุณผู้หญิง” เขาเปิดประตูรอรับเธออย่างหยอกล้อ 


    “ขอบคุณค้า แหมอยากรู้จังว่ามีใครเห็นคุณจินเป็นแบบนี้อย่างที่อิ่มเห็นมั้ยเนี่ย” อดจะสงสัยไม่ได้ก็เขาดูขี้เล่นขนาดนี้ต่างจากที่บริษัทกันลิบเชียวละ 


    มนปริยามองดูบ้านของชายหนุ่มที่เธอเปิดประตูให้เธอลงมา ภายในบ้านนั้นกว้างใหญ่และร่มรื่นไปด้วยต้นไม่น้อยใหญ่มากมาย และตัวบ้านที่ใหญ่โตหรูหราสีขาวทั้งหลัง นี่อยู่กันกี่คนกันเนี่ย?
     

    “อย่าเอ็ดไปละ ไม่มีใครเห็นหรอกเขาคิดว่าผมเป็นหุ่นยนต์กัน” เขาจุ้ปากห้ามเธอเอาไว้เหมือนเป็นเรื่องที่ต้องห้ามอย่างนั้น 


    “อิๆๆ อิ่มคงเชื่อหรอกค่ะ ตลกละ...” เธอบอกอย่างไม่เชื่อเขาซักนิดเดียว 



    “แล้วอิ่มจะเชื่อ ไปกันเถอะครับจินนี่รอจนคอยาวแล้วมั้ง”
     

    “ค่ะ” ทั้งสองคนเดินตามกันเข้าบ้าน เพื่อไปเจอหญิงสาวคนสำคัญของชายหนุ่มที่เขารักมากที่สุดในชีวิต 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×