ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 12
ตอนที่ 12
“อิ่มมาทำงานรึยัง” เสียงนุ่มทุ้มถามหลังจากที่หญิงสาวรับสายแล้ว
“คะ?” เธอรับคำงงๆ เพราะไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนที่โทรเข้ามาให้เธอตั้งแต่เช้าขนาดนี้
“ผมจิณณ์วัตรนะ ผมถามว่าคุณจะออกไปทำงานรึยัง?” เขาย้ำกับเธออีกรอบ
“ยังค่ะ แต่งตัวอยู่” เธอตอบเสียงเรียบพลางมองนาฬิกาไปด้วย
‘ก็ยังไม่สายนี่นา’
"แล้วจะมาทำงานยังไงเดี๋ยวผมรับ”
“ไม่ละค่ะ เดี๋ยวอิ่มไปเองดีกว่านะคะเกรงใจคุณจินค่ะ” เธอตอบรัวๆ เมื่อได้ยินว่าเขาจะมารับเธอ
“เกรงใจอะไรกันไปทางเดียวกันแท้ๆ คุณไม่ได้เอารถถกลับไม่ใช่เหรอ?”
“ค่ะ แต่อิ่มว่าอิ่มไปเองดีกว่านะคะ แค่นี้เอง” เธอตอบปัดอย่างเกรงใจ ไม่อยากตายเพราะไปทำงานพร้อมเจ้านายตัวเองเสียด้วย
“เอาน่า...ผมกำลงจะถึงคุณลงมารอด้านล่างเลยนะ” เขาบอกอย่างไม่ต้องการคำปฏิเสธจากเธอ ก่อนจะวางสายไปปล่อยให้หญิงสาวที่โดนสั่งมองโทรศัพท์อย่างอึ้งๆ
“เฮ้ย! อะไรวะ?..อยู่ๆ ก็วางสายไปซะงั้น?” เธอมองโทรศัพท์อย่างสงสัยว่าเจ้านายกินอะไรผิดสำแดงรึเปล่าอยู่ๆ ก็บอกกว่าจะมารับไปด้วยอย่างนี้ เมื่อเธอไม่ได้รบคำตอบจากการมองโทรศัพท์สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือรีบแต่งตัวแล้วลงไปรอเขาดีที่สุด ไม่อยากถูกมองว่าเล่นตัวด้วยยิ่งมีคนมารับไปด้วยแบบนี้
เธอลงมารอเขาอยู่ที่หน้าคอนโดฯ ที่ชายหนุ่มขับรถมาส่งเธอเมื่อคืนพร้อมน้องสาวของเขาหลังจากที่ไปสั่งวิชญาดาก่อนแล้ว มนปริยารีบก้าวเร็วๆ เมื่อเขามาจอดที่หน้าเธอแล้ว และวันนี้เธอต้องแปลกใจที่เขานั่งอยู่ด้านหลังไม่ขับเองอย่างทุกทีที่เธอเห็น
“หน้าผมมีอะไรติดออยู่เหรออิ่ม เห็นมองตั้งแต่ขึ้นมาแล้ว” เขาถามเธอโดยไม่มองหน้า
“เปล่าค่ะ...แค่แปลกใจที่คุณจินไม่ขับรถเองน่ะค่ะ” เธอตอบตรงๆ
“ฮึๆ...ฮึๆ...พอดีว่าต้องอ่านหัวข้อการปะชุมน่ะเลยไม่อยากเสียเวลา”
“เหรอคะ...นึกว่าอะไรเสียอีก แต่อิ่มว่าคุณจินไม่น่าต้องแวะมารับอิ่มก็ได้นะคะอิ่มนั่งรถเมล์ไปเองก็นั่งออกบ่อย” เธอบ่นอย่างเกรงใจ
“ยังไงผมก็ต้องผ่านทางนี้อยู่แล้ว แวะรับคุณแค่นี้ไม่เสียเวลามากนักหรอกนะ”
“นั่นละค่ะ อิ่มก็เกรงใจ คุณจินรู้มั้ยคะว่าวันนี้อิ่มต้องโดนสาวๆ ที่บริษัทฆาตกรรมด้วยสายตาแน่ๆ เลย” เธอบอกอย่างสยอง
“ทำไมละ?” เขาทำหน้าสงสัยที่เธอบกอกอย่างนั้น
“อ้าว! ไม่รู้เหรอคะ แค่อิ่มไปทำงนกับคุณจินที่ข้างบนสาวๆ งี้ตาร้อนผ่าวเชียวค่ะ แล้ววันนี้อีกอิ่มยังมาทำงานพร้อมคุณจินอีกต้องมีใครคิดอะไรอยู่แน่เชียวค่ะ”
“อิ่มก็ไม่ต้องสนใจซิ...”
“ไม่สนใจหรอกแต่พูดให้ฟังเฉยๆ ค่ะจะรู้ว่าตัวเองน่ะเป็นเจ้านายที่ฮอตมากๆ”
คนขับรถที่นั่งเงียบอยู่พยายามกลั้นหัวเราะจนตัวสั่นเมื่อได้ยินสาวสวยบอกเจ้านายตรงๆว่าเขาฮอตและเป็นที่หมายตาของสาวๆ แค่ไหน นี่คงเป็นคนแรกเลยกระมังที่กล้าพูดกับเจ้านายตรงๆ อย่างเธอคนนี้ และเขาเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่อยู่ๆ เจ้านายก็ให้แวะที่นี่ก่อนโดยไม่บอกว่าให้มารับใคร
“พี่ชล...มาทำงานเช้าจังค่ะ” วิชญาดาทักอย่างแปลกใจเมื่อเห็นผู้จัดการเดินมาที่ห้องครัวตั้งแต่เช้า
“พี่ซิต้องถามแกมากกว่านะยัยวิชชี่ลมอะไรที่พัดแกมาตั้งแต่ไก่โห่อย่างนี้” ก็ลูกน้องคนนี้เคยมาเช้ากับชาวบ้านเขาเสียที่ไหนละ ส่วนใหญ่เฉียดฉิวทุกที
“แหม...รู้ทัน”
“ไม่รู้ทันแกก็บ้าแล้ว”
“แหมๆ...มีเรื่องอยากเม้าท์อะ...”
“เรื่องอะไร?”
“เรื่องเจ้านาย...”กระซิบเสียงเบาเกรงว่าจะมีคนได้ยินด้วย
“ทำไม?” ถามกลับอย่างสงสัยว่าเรื่องเจ้านายที่ว่าคือใคร
“ก็..เมื่อวานน่ะซิ วิชชี่กับยัยอิ่มไปเดินหางกันแล้วบังเอิ๊ญ...บังเอิญไปเจอเจ้านายกับน้องสาวเข้าน่ะซิ ท่านก็เลยชวนเราไปทานข้าวด้วย...เอ้ย!...ไม่ใช่น้องสาวท่านน่ะเป็นคนชวนและดูเหมือนจะเคยเจอกับยัยอิ่มมาก่อนด้วย แล้วท่าทางท่านก็ดูยังไงกับยัยอิ่มอยู่นะ”
“คนทำงานห้องเดียวกันมันก็ต้องสนิทกันละว้า...”
“ไม่รู้ซิพี่บรรยากาศมันไม่เหมือนเพื่อนร่วมงาน เจ้านายกับลูกน้องเลยนะ มันเหมือน...”
“หยุด...อย่าพูดออกมาเกิดมันไม่ใช่ คนที่เสียคือคนของเรานะ รอดูไปก่อน..” ชลธิชาเบรกลูกน้องสาวเอาไว้ทันควันเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจะบอกว่าอะไร
“ก็ได้แต่พี่ชลวันเสาร์หน้าทำตัวให้ว่างละ”
“ทำไมจะชวนฉันไปเที่ยวรึไง?” ถามอย่างรู้ทันหากอีกฝ่ายบอกอย่างนี้ก็มีอยู่เรื่องเดียว
“เปล้า...วันเสาร์เราจะไปงานปาร์ตี้กัน” “งานปาร์ตี้?..ของใคร?”
“ถึงวันนั้นพี่จะรู้เองละ” คะยักเอาไว้โดยไม่ยอมบอกว่าจะไปร่วมงานของใครกันแน่ ยิ่งเห็นสีหน้าอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ของหัวหน้ายิ่งอาจะแกล้งมากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
จิณณ์วัตรและมนปริยาเดินทางมาถึงที่ทำงานไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่บริษัทแล้ว ทั้งลงมาจากรถพร้อมๆ กัน โดยมียักษ์คนขับรถร่างใหญ่คอยเปิดประตูให้
“ขอบใจมากยักษ์”
“ขอบคุณค่ะ” มนปริยาเอ่ยขอบคุณเขาอย่างเกรงใจ เธอมองออกว่าชายหนุ่มที่ขับรถมานี้ไม่ได้เป็นคนขับรถธรรมดาแน่นอน
“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่” บอกเสียงเรียบ
“ไปกันครับอิ่ม” ชายหนุ่มดันให้เธอออกเดินไปก่อนอย่างสุภาพไม่ได้คิดล่วงเกินแต่อย่างใด
“ค่ะ...แต่คุณจินให้อิ่มไปทีหลังไม่ดีกว่าเหรอคะ?”
“ทำไมเหรอครับ?”
“ก็...ไม่อยากตกเป็นหัวข้อของวันนี้ค่ะ”
“ไม่เอาน่าอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอกเราบริสุทธ์ใจซะอย่างนี่อย่าไปสนคนที่ว่าเราเลย เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ”
“เอางั้นเหรอคะ?” เธอไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะโดนเท่าไหร่หรอกแต่การ ดึงเอาเจ้านายมาเป็นหัวข้อเม้าท์นี่ไม่ใช่เรื่องน่าปลาบปลื้มเท่าไหร่สำหรับเธอ
‘เอาวะ..เจ้าตัวเขายังไม่เดือดร้อนแล้วฉันจะเดือดร้อนไปทำไมกัน’ เรียกกำลังใจให้ตัวเองก่อนจะเดินนำเขาเข้าตึกไป อย่าพยายามเรียกกำลังใจตัวเอง ทั้งที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อน
การเดินมาพร้อมผู้ชายคนไหนไม่เคยทำให้เธอหวั่นไหวได้เท่ากับมากับเขาเลย แค่ทั้งสองเดินเข้าประตูมากเท่านั้นเสียงทั้งมวลก็อันตรธานหายไปในทันที ทุกสายตาจับจ้องมาที่ชายหนุ่มที่เป็นที่หลงใหลของสาวๆ กับหญิงสาวร่างเล็กที่เพิ่งย้ายขึ้นไปทำงานใหม่ในห้องของเขา เรียกความสนใจจากสายตาทุกคู่ให้หยุดมองอย่างสนใจได้อย่างดี
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงอื้ออึงขึ้นมาอย่างอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ว่าเหตุใดสองคนถึงมาทำงานพร้อมกันได้ บางคนเรียกให้เพื่อนมาดูยังมี และมีหลายคนถ่ายรูปคู่ส่งไปให้เพื่อนดูทั่วทั้งบริษัทเรียกได้ว่าเป็นหัวข้อของวันนี้เลยทีเดียว
“เห็นมั้ยคะ..อย่างที่อิ่มว่ามีผิดเลย” เธอบอกเรียบๆ เมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟต์ส่วนตัวของผู้บริหารแล้ว
“นั่นซิ ผมไม่คิดว่าจะเป็นที่สนใจอย่างนี้นะ” เขาพูดติดตลก เมื่อเห็นสายตาที่ทมองมาที่เขาและมนปริยาอย่างตกใจเต็มที่ บางคนถึงกับยืนนิ่งอยู่กับที่
“เฮ้อ! วันนี้ยัยวิชชี่กับพี่ชลต้องลากอิ่มไปซักแน่เลยค่ะ” เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ เรื่องนี้ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายนัก ค่าทำงานพร้อมกันแค่นี้เนี่ยนะ
“อิ่มก็ตอบไปตามความจริงซิ”
“เรื่องนั้นมันก็ใช่คะ แต่คุณจินรู้มั้ยคะต่อให้เราพูดแทบตายก็ไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะ เขาเชื่อในสิ่งที่เขาเห็นและคิดเท่านั้น ต่อให้อิ่มบอกว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ เขาก็คิดว่ามันมีอยู่ดีละค่ะ”
“ดูท่าว่าอิ่มจะเดือดร้อนมากนะที่เป็นข่าวกับผมนะ” เขาถามเธอเสียงเย็น เมื่อเห็นท่าทีเป็นเดือดเป็นร้อนของเธอเหมือนกลัวว่าใครบางคนจะว่าเอาอย่างนั้นละ
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณจินคิดหรอกค่ะ ที่อิ่มเดือดร้อน เพราะไม่อยากมีเรื่องถึงหูพ่อกับแม่น่ะค่ะ” ถึงเธอจะออกมาอยู่คนเดียวใช่ว่าท่านทั้งสองจะไม่คอยสอดส่องเรื่องเกี่ยวกับเธอยิ่งถ้าเกิดมีเรื่องผู้ชายในเชิงชู้สาวเชื่อเถอะว่าผู้ชายคนนั้นโดนสืบจนไม่เหลือความลับแน่ ต่อให้เรื่องข่าวจริงหรือไม่ก็ตามพวกท่านต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับคนที่ข้องเกี่ยวกับเธออยู่แล้ว
“ผม...นึกว่าที่คุณเดือดร้อนเพราะกลัวว่าแฟนจะว่าซะอีก”
“อิ่มยังไม่มีแฟนหรอกค่ะ ใครเขาจะมาสนใจคนอย่างอิ่มกันคะ เตี้ยก็เตี้ย” ย้ำปมที่โดนว่าประจำเพราะเธอมีปมเรื่องส่วนสูงอยู่พอควรครอบครัวเธอมีเธอที่ตัวเท่าแม่เท่านั้นนอกนั้นพี่ชายพี่สาวสูงกันหมด โลก...ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย
“ผมเพิ่งจะรู้นะอิ่มว่าคนที่เขาจะรักกันต้องมองที่ส่วนสูงกันด้วย?”
“ก็..ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่มันเป็นปมอยู่น่ะค่ะ ส่วนใหญ่ผู้ชาก็ชอบผู้หญิงสูงๆ กันไม่ใช่เหรอคะ?”
“ก็ไม่ทุกคนหรอก บางทีเขาอาจจะชอบผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ดูน่าทะนุถนอมก็เป็นได้”
“ส่วนน้อยน่ะค่ะ ไม่เอาละไม่พูดเรื่องสูงเตี้ยกันแล้ว เราทำงานดีกว่าค่ะ”
“ก็ดี...อิ่มเอากาแฟมั้ย?”
“ค่ะ”
“คุณสาลี่เอากาแฟให้ผมด้วยสองถ้วยนะ” เขากดเรียกเลขาฯ ที่หน้าห้องให้นำเครื่องดื่มสำหรับเขาและเธอ
“ได้ค่ะท่านประธาน” มองเข้าไปภายในห้องอย่างโกรธกรุ่น เธออุตส่าห์วังว่าตัวเองจะได้เข้าไปทำงานในนั้น แต่นังอิ่มกลับมาชุบมือเปิบไปเสียชิบ...
“วันนี้ผมมีต้องอกไปไหนรึเปล่า?” ชายหนุ่มถามอย่างเป็นการเป็นงานกับหญิงสาวที่เอา PDA ของเธอขึ้นมา
“เดี๋ยวนะคะขออิ่มเช็คก่อนแล้วกันค่ะ...อ้อ..วันนี้คุณจินไม่มีนัดออกไปไหนค่ะแต่...ตอนบ่ายคุณจินบอกว่าอยากจะซื้อของขวัญวันเกิดให้น้องจินนี่นี่คะ
“จริงซิ! ผมลืมไปเลยนะเนี่ย!” เขาอุทานอย่างเพิ่งนึกขึ้นมาได้
“ซิคะ....อิ่มถึงได้เตือน”
“งั้นตอนบ่ายอิ่มไปเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ ไปเลือกของขวัญวันเกิดให้ยัยจินนี่ทีไรไม่ค่อยถูกใจน้องซักที อยากให้ช่วยเลือกให้ผมหน่อยไม่ค่อยเข้าใจความคิดน้องนักน่ะครับ”
“กาแฟค่ะท่านประธาน”
“ขอบคุณ...อ้อ..คุณสาลี่ผมไม่รับแขกนะ” เขาส่งสาลินีเสียงเรียบและก้มหน้าเซ็นเอกสารที่อยู่บนโต๊ะอย่างตั้งใจ
“ค่ะ” รีบเดินออกจากห้องใหญ่ทันทีอย่างอึดอัดขัดใจ เธอมาทำงานที่นี่ตั้งนานยังไมเห็นท่านใส่ใจอย่างยัยนี่เลยซักนิดเดียว
“อิ่มกาแฟครับ” เขาเดินเอาอีกถ้วยของเธอมาให้ที่โต๊ะของเธอ
“อุ้ย! ไม่เห็นต้องเอามาให้อิ่มเองเลยค่ะคุณจินเดี๋ยวอิ่มเดินไปเองได้ค่ะ ให้เจ้านายเอามาให้ใครรู้ด่าตายเลยค่ะ” เธอรับแก้วจากมือเขาอย่างกรงใจ
“ไม่เป็นไรครับจริงซิ!..พรุ่งนี้เราต้องไปโรงงานกันอิ่มแต่งตัวทะมัดทะแมงหน่อยก็ดีนะครับ”
“เอ๋?...อิ่มก็ต้องไปเหรอคะ?” ไม่นึกว่าการไปโรงงานจะยอมให้เธอไปด้วยได้อย่างนี้
“ครับ...ผมไปไหนอิ่มก็ต้องไปด้วยนะครับ”
“อย่างกับปลาาท่องโก๋เลยนะคะ”
“คงไม่ต่างนักครับยกเว้นเวลาอยู่บ้านครับที่เราจะไม่ตัวติดกัน”
“อิ่มมาทำงานรึยัง” เสียงนุ่มทุ้มถามหลังจากที่หญิงสาวรับสายแล้ว
“คะ?” เธอรับคำงงๆ เพราะไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนที่โทรเข้ามาให้เธอตั้งแต่เช้าขนาดนี้
“ผมจิณณ์วัตรนะ ผมถามว่าคุณจะออกไปทำงานรึยัง?” เขาย้ำกับเธออีกรอบ
“ยังค่ะ แต่งตัวอยู่” เธอตอบเสียงเรียบพลางมองนาฬิกาไปด้วย
‘ก็ยังไม่สายนี่นา’
"แล้วจะมาทำงานยังไงเดี๋ยวผมรับ”
“ไม่ละค่ะ เดี๋ยวอิ่มไปเองดีกว่านะคะเกรงใจคุณจินค่ะ” เธอตอบรัวๆ เมื่อได้ยินว่าเขาจะมารับเธอ
“เกรงใจอะไรกันไปทางเดียวกันแท้ๆ คุณไม่ได้เอารถถกลับไม่ใช่เหรอ?”
“ค่ะ แต่อิ่มว่าอิ่มไปเองดีกว่านะคะ แค่นี้เอง” เธอตอบปัดอย่างเกรงใจ ไม่อยากตายเพราะไปทำงานพร้อมเจ้านายตัวเองเสียด้วย
“เอาน่า...ผมกำลงจะถึงคุณลงมารอด้านล่างเลยนะ” เขาบอกอย่างไม่ต้องการคำปฏิเสธจากเธอ ก่อนจะวางสายไปปล่อยให้หญิงสาวที่โดนสั่งมองโทรศัพท์อย่างอึ้งๆ
“เฮ้ย! อะไรวะ?..อยู่ๆ ก็วางสายไปซะงั้น?” เธอมองโทรศัพท์อย่างสงสัยว่าเจ้านายกินอะไรผิดสำแดงรึเปล่าอยู่ๆ ก็บอกกว่าจะมารับไปด้วยอย่างนี้ เมื่อเธอไม่ได้รบคำตอบจากการมองโทรศัพท์สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือรีบแต่งตัวแล้วลงไปรอเขาดีที่สุด ไม่อยากถูกมองว่าเล่นตัวด้วยยิ่งมีคนมารับไปด้วยแบบนี้
เธอลงมารอเขาอยู่ที่หน้าคอนโดฯ ที่ชายหนุ่มขับรถมาส่งเธอเมื่อคืนพร้อมน้องสาวของเขาหลังจากที่ไปสั่งวิชญาดาก่อนแล้ว มนปริยารีบก้าวเร็วๆ เมื่อเขามาจอดที่หน้าเธอแล้ว และวันนี้เธอต้องแปลกใจที่เขานั่งอยู่ด้านหลังไม่ขับเองอย่างทุกทีที่เธอเห็น
“หน้าผมมีอะไรติดออยู่เหรออิ่ม เห็นมองตั้งแต่ขึ้นมาแล้ว” เขาถามเธอโดยไม่มองหน้า
“เปล่าค่ะ...แค่แปลกใจที่คุณจินไม่ขับรถเองน่ะค่ะ” เธอตอบตรงๆ
“ฮึๆ...ฮึๆ...พอดีว่าต้องอ่านหัวข้อการปะชุมน่ะเลยไม่อยากเสียเวลา”
“เหรอคะ...นึกว่าอะไรเสียอีก แต่อิ่มว่าคุณจินไม่น่าต้องแวะมารับอิ่มก็ได้นะคะอิ่มนั่งรถเมล์ไปเองก็นั่งออกบ่อย” เธอบ่นอย่างเกรงใจ
“ยังไงผมก็ต้องผ่านทางนี้อยู่แล้ว แวะรับคุณแค่นี้ไม่เสียเวลามากนักหรอกนะ”
“นั่นละค่ะ อิ่มก็เกรงใจ คุณจินรู้มั้ยคะว่าวันนี้อิ่มต้องโดนสาวๆ ที่บริษัทฆาตกรรมด้วยสายตาแน่ๆ เลย” เธอบอกอย่างสยอง
“ทำไมละ?” เขาทำหน้าสงสัยที่เธอบกอกอย่างนั้น
“อ้าว! ไม่รู้เหรอคะ แค่อิ่มไปทำงนกับคุณจินที่ข้างบนสาวๆ งี้ตาร้อนผ่าวเชียวค่ะ แล้ววันนี้อีกอิ่มยังมาทำงานพร้อมคุณจินอีกต้องมีใครคิดอะไรอยู่แน่เชียวค่ะ”
“อิ่มก็ไม่ต้องสนใจซิ...”
“ไม่สนใจหรอกแต่พูดให้ฟังเฉยๆ ค่ะจะรู้ว่าตัวเองน่ะเป็นเจ้านายที่ฮอตมากๆ”
คนขับรถที่นั่งเงียบอยู่พยายามกลั้นหัวเราะจนตัวสั่นเมื่อได้ยินสาวสวยบอกเจ้านายตรงๆว่าเขาฮอตและเป็นที่หมายตาของสาวๆ แค่ไหน นี่คงเป็นคนแรกเลยกระมังที่กล้าพูดกับเจ้านายตรงๆ อย่างเธอคนนี้ และเขาเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่อยู่ๆ เจ้านายก็ให้แวะที่นี่ก่อนโดยไม่บอกว่าให้มารับใคร
“พี่ชล...มาทำงานเช้าจังค่ะ” วิชญาดาทักอย่างแปลกใจเมื่อเห็นผู้จัดการเดินมาที่ห้องครัวตั้งแต่เช้า
“พี่ซิต้องถามแกมากกว่านะยัยวิชชี่ลมอะไรที่พัดแกมาตั้งแต่ไก่โห่อย่างนี้” ก็ลูกน้องคนนี้เคยมาเช้ากับชาวบ้านเขาเสียที่ไหนละ ส่วนใหญ่เฉียดฉิวทุกที
“แหม...รู้ทัน”
“ไม่รู้ทันแกก็บ้าแล้ว”
“แหมๆ...มีเรื่องอยากเม้าท์อะ...”
“เรื่องอะไร?”
“เรื่องเจ้านาย...”กระซิบเสียงเบาเกรงว่าจะมีคนได้ยินด้วย
“ทำไม?” ถามกลับอย่างสงสัยว่าเรื่องเจ้านายที่ว่าคือใคร
“ก็..เมื่อวานน่ะซิ วิชชี่กับยัยอิ่มไปเดินหางกันแล้วบังเอิ๊ญ...บังเอิญไปเจอเจ้านายกับน้องสาวเข้าน่ะซิ ท่านก็เลยชวนเราไปทานข้าวด้วย...เอ้ย!...ไม่ใช่น้องสาวท่านน่ะเป็นคนชวนและดูเหมือนจะเคยเจอกับยัยอิ่มมาก่อนด้วย แล้วท่าทางท่านก็ดูยังไงกับยัยอิ่มอยู่นะ”
“คนทำงานห้องเดียวกันมันก็ต้องสนิทกันละว้า...”
“ไม่รู้ซิพี่บรรยากาศมันไม่เหมือนเพื่อนร่วมงาน เจ้านายกับลูกน้องเลยนะ มันเหมือน...”
“หยุด...อย่าพูดออกมาเกิดมันไม่ใช่ คนที่เสียคือคนของเรานะ รอดูไปก่อน..” ชลธิชาเบรกลูกน้องสาวเอาไว้ทันควันเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจะบอกว่าอะไร
“ก็ได้แต่พี่ชลวันเสาร์หน้าทำตัวให้ว่างละ”
“ทำไมจะชวนฉันไปเที่ยวรึไง?” ถามอย่างรู้ทันหากอีกฝ่ายบอกอย่างนี้ก็มีอยู่เรื่องเดียว
“เปล้า...วันเสาร์เราจะไปงานปาร์ตี้กัน” “งานปาร์ตี้?..ของใคร?”
“ถึงวันนั้นพี่จะรู้เองละ” คะยักเอาไว้โดยไม่ยอมบอกว่าจะไปร่วมงานของใครกันแน่ ยิ่งเห็นสีหน้าอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ของหัวหน้ายิ่งอาจะแกล้งมากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
จิณณ์วัตรและมนปริยาเดินทางมาถึงที่ทำงานไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่บริษัทแล้ว ทั้งลงมาจากรถพร้อมๆ กัน โดยมียักษ์คนขับรถร่างใหญ่คอยเปิดประตูให้
“ขอบใจมากยักษ์”
“ขอบคุณค่ะ” มนปริยาเอ่ยขอบคุณเขาอย่างเกรงใจ เธอมองออกว่าชายหนุ่มที่ขับรถมานี้ไม่ได้เป็นคนขับรถธรรมดาแน่นอน
“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่” บอกเสียงเรียบ
“ไปกันครับอิ่ม” ชายหนุ่มดันให้เธอออกเดินไปก่อนอย่างสุภาพไม่ได้คิดล่วงเกินแต่อย่างใด
“ค่ะ...แต่คุณจินให้อิ่มไปทีหลังไม่ดีกว่าเหรอคะ?”
“ทำไมเหรอครับ?”
“ก็...ไม่อยากตกเป็นหัวข้อของวันนี้ค่ะ”
“ไม่เอาน่าอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอกเราบริสุทธ์ใจซะอย่างนี่อย่าไปสนคนที่ว่าเราเลย เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ”
“เอางั้นเหรอคะ?” เธอไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะโดนเท่าไหร่หรอกแต่การ ดึงเอาเจ้านายมาเป็นหัวข้อเม้าท์นี่ไม่ใช่เรื่องน่าปลาบปลื้มเท่าไหร่สำหรับเธอ
‘เอาวะ..เจ้าตัวเขายังไม่เดือดร้อนแล้วฉันจะเดือดร้อนไปทำไมกัน’ เรียกกำลังใจให้ตัวเองก่อนจะเดินนำเขาเข้าตึกไป อย่าพยายามเรียกกำลังใจตัวเอง ทั้งที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อน
การเดินมาพร้อมผู้ชายคนไหนไม่เคยทำให้เธอหวั่นไหวได้เท่ากับมากับเขาเลย แค่ทั้งสองเดินเข้าประตูมากเท่านั้นเสียงทั้งมวลก็อันตรธานหายไปในทันที ทุกสายตาจับจ้องมาที่ชายหนุ่มที่เป็นที่หลงใหลของสาวๆ กับหญิงสาวร่างเล็กที่เพิ่งย้ายขึ้นไปทำงานใหม่ในห้องของเขา เรียกความสนใจจากสายตาทุกคู่ให้หยุดมองอย่างสนใจได้อย่างดี
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงอื้ออึงขึ้นมาอย่างอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ว่าเหตุใดสองคนถึงมาทำงานพร้อมกันได้ บางคนเรียกให้เพื่อนมาดูยังมี และมีหลายคนถ่ายรูปคู่ส่งไปให้เพื่อนดูทั่วทั้งบริษัทเรียกได้ว่าเป็นหัวข้อของวันนี้เลยทีเดียว
“เห็นมั้ยคะ..อย่างที่อิ่มว่ามีผิดเลย” เธอบอกเรียบๆ เมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟต์ส่วนตัวของผู้บริหารแล้ว
“นั่นซิ ผมไม่คิดว่าจะเป็นที่สนใจอย่างนี้นะ” เขาพูดติดตลก เมื่อเห็นสายตาที่ทมองมาที่เขาและมนปริยาอย่างตกใจเต็มที่ บางคนถึงกับยืนนิ่งอยู่กับที่
“เฮ้อ! วันนี้ยัยวิชชี่กับพี่ชลต้องลากอิ่มไปซักแน่เลยค่ะ” เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ เรื่องนี้ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายนัก ค่าทำงานพร้อมกันแค่นี้เนี่ยนะ
“อิ่มก็ตอบไปตามความจริงซิ”
“เรื่องนั้นมันก็ใช่คะ แต่คุณจินรู้มั้ยคะต่อให้เราพูดแทบตายก็ไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะ เขาเชื่อในสิ่งที่เขาเห็นและคิดเท่านั้น ต่อให้อิ่มบอกว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ เขาก็คิดว่ามันมีอยู่ดีละค่ะ”
“ดูท่าว่าอิ่มจะเดือดร้อนมากนะที่เป็นข่าวกับผมนะ” เขาถามเธอเสียงเย็น เมื่อเห็นท่าทีเป็นเดือดเป็นร้อนของเธอเหมือนกลัวว่าใครบางคนจะว่าเอาอย่างนั้นละ
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณจินคิดหรอกค่ะ ที่อิ่มเดือดร้อน เพราะไม่อยากมีเรื่องถึงหูพ่อกับแม่น่ะค่ะ” ถึงเธอจะออกมาอยู่คนเดียวใช่ว่าท่านทั้งสองจะไม่คอยสอดส่องเรื่องเกี่ยวกับเธอยิ่งถ้าเกิดมีเรื่องผู้ชายในเชิงชู้สาวเชื่อเถอะว่าผู้ชายคนนั้นโดนสืบจนไม่เหลือความลับแน่ ต่อให้เรื่องข่าวจริงหรือไม่ก็ตามพวกท่านต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับคนที่ข้องเกี่ยวกับเธออยู่แล้ว
“ผม...นึกว่าที่คุณเดือดร้อนเพราะกลัวว่าแฟนจะว่าซะอีก”
“อิ่มยังไม่มีแฟนหรอกค่ะ ใครเขาจะมาสนใจคนอย่างอิ่มกันคะ เตี้ยก็เตี้ย” ย้ำปมที่โดนว่าประจำเพราะเธอมีปมเรื่องส่วนสูงอยู่พอควรครอบครัวเธอมีเธอที่ตัวเท่าแม่เท่านั้นนอกนั้นพี่ชายพี่สาวสูงกันหมด โลก...ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย
“ผมเพิ่งจะรู้นะอิ่มว่าคนที่เขาจะรักกันต้องมองที่ส่วนสูงกันด้วย?”
“ก็..ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่มันเป็นปมอยู่น่ะค่ะ ส่วนใหญ่ผู้ชาก็ชอบผู้หญิงสูงๆ กันไม่ใช่เหรอคะ?”
“ก็ไม่ทุกคนหรอก บางทีเขาอาจจะชอบผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ดูน่าทะนุถนอมก็เป็นได้”
“ส่วนน้อยน่ะค่ะ ไม่เอาละไม่พูดเรื่องสูงเตี้ยกันแล้ว เราทำงานดีกว่าค่ะ”
“ก็ดี...อิ่มเอากาแฟมั้ย?”
“ค่ะ”
“คุณสาลี่เอากาแฟให้ผมด้วยสองถ้วยนะ” เขากดเรียกเลขาฯ ที่หน้าห้องให้นำเครื่องดื่มสำหรับเขาและเธอ
“ได้ค่ะท่านประธาน” มองเข้าไปภายในห้องอย่างโกรธกรุ่น เธออุตส่าห์วังว่าตัวเองจะได้เข้าไปทำงานในนั้น แต่นังอิ่มกลับมาชุบมือเปิบไปเสียชิบ...
“วันนี้ผมมีต้องอกไปไหนรึเปล่า?” ชายหนุ่มถามอย่างเป็นการเป็นงานกับหญิงสาวที่เอา PDA ของเธอขึ้นมา
“เดี๋ยวนะคะขออิ่มเช็คก่อนแล้วกันค่ะ...อ้อ..วันนี้คุณจินไม่มีนัดออกไปไหนค่ะแต่...ตอนบ่ายคุณจินบอกว่าอยากจะซื้อของขวัญวันเกิดให้น้องจินนี่นี่คะ
“จริงซิ! ผมลืมไปเลยนะเนี่ย!” เขาอุทานอย่างเพิ่งนึกขึ้นมาได้
“ซิคะ....อิ่มถึงได้เตือน”
“งั้นตอนบ่ายอิ่มไปเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ ไปเลือกของขวัญวันเกิดให้ยัยจินนี่ทีไรไม่ค่อยถูกใจน้องซักที อยากให้ช่วยเลือกให้ผมหน่อยไม่ค่อยเข้าใจความคิดน้องนักน่ะครับ”
“กาแฟค่ะท่านประธาน”
“ขอบคุณ...อ้อ..คุณสาลี่ผมไม่รับแขกนะ” เขาส่งสาลินีเสียงเรียบและก้มหน้าเซ็นเอกสารที่อยู่บนโต๊ะอย่างตั้งใจ
“ค่ะ” รีบเดินออกจากห้องใหญ่ทันทีอย่างอึดอัดขัดใจ เธอมาทำงานที่นี่ตั้งนานยังไมเห็นท่านใส่ใจอย่างยัยนี่เลยซักนิดเดียว
“อิ่มกาแฟครับ” เขาเดินเอาอีกถ้วยของเธอมาให้ที่โต๊ะของเธอ
“อุ้ย! ไม่เห็นต้องเอามาให้อิ่มเองเลยค่ะคุณจินเดี๋ยวอิ่มเดินไปเองได้ค่ะ ให้เจ้านายเอามาให้ใครรู้ด่าตายเลยค่ะ” เธอรับแก้วจากมือเขาอย่างกรงใจ
“ไม่เป็นไรครับจริงซิ!..พรุ่งนี้เราต้องไปโรงงานกันอิ่มแต่งตัวทะมัดทะแมงหน่อยก็ดีนะครับ”
“เอ๋?...อิ่มก็ต้องไปเหรอคะ?” ไม่นึกว่าการไปโรงงานจะยอมให้เธอไปด้วยได้อย่างนี้
“ครับ...ผมไปไหนอิ่มก็ต้องไปด้วยนะครับ”
“อย่างกับปลาาท่องโก๋เลยนะคะ”
“คงไม่ต่างนักครับยกเว้นเวลาอยู่บ้านครับที่เราจะไม่ตัวติดกัน”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น