ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11
ตอนที่ 11
“เฮ้ย!...” วิชญาดาร้องเสียงหลงอย่างตกใจ เมื่อเดินเข้ามาในร้านข้างๆ กันแล้ว และเพื่อนไม่ได้อยู่คนเดียวอย่างที่เข้าใจ แต่คนที่เธออยู่ด้วยเนี่ย....
“อ้าว...มาแล้วเหรอ? รออยู่เชียวมานี่ซิ” มนปริยาทักเมื่อเห็นว่าเพื่อนยืนนิ่งอยู่หน้าร้านไม่ยอมที่จะเดินเข้ามาหาเธอที่ในร้าน วิชญาดาเดินเข้ามาในร้านอย่างเหม่อลอย ไม่นึกว่าวันนี้จะมีโอกาสเห็นท่านใกล้ๆ อีกครั้งและไม่ใช่ในบริษัทอีกด้วย
“คุณจิน คุณจินนี่คะนี่วิชชี่เพื่อนอิ่มค่ะ”
“สวัสดีค้า....จินนี่เป็นน้องสาวพี่จินค่ะ” สาวน้อยทักเสียงใสอย่างเป็นกันเอง
“ค่ะ...สวัสดีค่ะ” ทักเสียงตะกุกตะกักเมื่อเจอทั้งพี่ทั้งน้องเลยคราวนี้
“เจอกันอีกแล้วนะครับคุณวิชชี่” ชายหนุ่มทักเสียงเรียบ
“ค่ะ...ท่านประธาน”
“วิชชี่...คุณจินนี่ชวนเราทานมื้อเย็น...แกว่าไง” ปรึกษากับเพื่อนเมื่อเธอเลือกได้ของที่ต้องการแล้วเป็นสร้อยข้อมือเส้นเล็ก ที่บริเวณรอบๆ เป็นรูปหยดน้ำซึ่งเป็นชื่อของคนที่เธอเลือกของให้ และรอให้พนักงานห่อเป็นของขวัญให้อยู่
“มันจะดีเหรอแก..” เอนตัวมากระซิบที่ข้างหูเพื่อนอย่างไม่แน่ใจ ว่าจะไปด้วยดีหรือเปล่า
“ไม่รู้ซิ แต่แกกล้าปฏิเสธเหรอไง?” มองหน้าเพื่อนเป็นคำถาม
วิชญาดาได้แต่ส่ายหน้าไปมากับคำถามของเพื่อน
“พี่อิ่ม พี่วิชชี่ไปด้วยกันนะคะ อย่าปฏิเสธเลยน้า..” เดินเข้ามาเกาะแขนมนปริยาพลางส่งเสียงอ้อนๆ มาให้ โดยทั้งสองสาวมองหน้ากันอย่างไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้เลย
“ก็ได้ค่ะ”
“เย้!” ร้องออกมาอย่างดีใจ โดยมีพี่ชายยืนยิ้มอยู่ด้านหลัง
“ว่าแต่เราจะไปทานที่ไหนกันดีละ..จินนี่” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นหลังจากนิ่งเงียบไปนาน เมื่อทั้งสองสาวตกลงที่จะทานมื้อค่ำพร้อมกับเขาและน้องสาว
“ไปร้านสวีทพีก็ได้นี่คะพี่จิน ที่นั่นบรรยากาศดีออกค่ะ” จิณห์วราออกความเห็นบ้าง
“ว่าไงครับสองสาวไปร้านนี้กันนะครับ?”
“ยังไงก็ได้ค่ะขอแค่อาหารอร่อยก็พอค่ะ” “รับรองค่ะว่าว่าอร่อยแน่นอน” จิณห์วรารับคำแข็งขัน
ทั้งสี่คนตกลงมารถคันเดียวกับจิณณ์วัตรตามความต้องการของสาวน้อยทีเรียกร้องจะให้ทุกคนมาด้วยกันไม่อยากให้ขับรถมาเองเพราะทางค่อนข้างไกลอยู่ซักหน่อย เมื่อจำด้วยเหตุผลทั้งสองสาวต้องนั่งรถคันหรูโดยมีเจ้านายเป็นสารถีให้
“สาวๆ ถึงแล้วครับ”
“ไปกันค่ะ ถึงร้านแล้ว” น้องน้อยวิ่งลงจากรถไปก่อนและสองสาวก็ตามไปติดๆ มนปริยามองรอบๆ ร้านที่มีต้นไม้เต็มไปหมด ผิดกับที่คิดลิบลับเมื่อได้ยินชื่อร้านครั้งแรก
“เป็นไงครับแปลกใจเหรอครับ” ชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังถามขึ้นเสียงเบาๆ เมื่อจับได้ว่าเธอมองร้านแปลกๆ
“ค่ะ..ผิดกับที่จินตนาการไว้ลิบเชียวค่ะ” เธอตอบโดยไม่หันหลังกลับไปที่ชายหนุ่ม
“ตอนแรกที่มาก็แปลกใจเหมือนกันครับที่เห็นชื่อร้านนึกว่าจะเป็นอะไรที่หวานๆ อย่างร้านคอฟฟี่ช็อปซะอีกครับ แต่กลายเป็นว่าเป็นร้านอาหาร” เขาพูดติดตลกเมื่อมาที่นี่ครั้งแรกตามคำเรียกร้องของน้องสาว แต่เข้าไปแล้วกลับเป็นร้านออาหารธรรมดาแต่บรรยากาศอบอุ่นน่านั่งมาก และอาหารก็รสชาติดีมากเสียด้วย จนกลายเป็นร้านประจำขอเขาและน้องสาวไปเลย
“เข้าไปกันดีกว่าค่ะสองคนนั้นเข้าไปในร้านจนได้ที่นั่งแล้วมั้งคะ?”
“นั่นซิ...สงสัยจะหิวมากแน่เลย” เดินตามมนปริยาไปเงียบๆ
“พี่จิน พี่อิ่มมาค่ะ เดี๋ยวไม่ทันนะคะจินนี่กับพี่วิชชี่สั่งไปบ้างแล้วค่ะ” น้องน้อยรายงานเมื่อเห็นพี่ชายและพี่สาวเดินเข้ามาในร้านพร้อมกันหลังจากที่เธอเลือกที่นั่งได้ไม่นาน
“ตามสบายเถอะพี่ทานอะไรก็ได้ ว่าแต่คุณอิ่มจะทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าที่นี่เขารอร่อยทุกอย่างนะ” เขาหันมาถามหญิงสาวที่ทรุดตัวนั่งข้างวิชญาดาอย่างใส่ใจ ส่วนตัวเขานั่งลงติดกับน้องสาว
“ไม่ละค่ะ อิ่มทานง่ายค่ะ” เธอส่ายหน้าปฏิเสธ
“รายนี้เขากินง่ายค่ะ ขอแค่อร่อยและเยอะก็พอค่ะ” วิชญาดาส่งเสียงสนับสนุนความน่าเชื่อถืออีกคน
“แก..ไม่ต้องสนับสนุนก็ได้ เสียหน้านะแก” หันไปพูดกับวิชญาดาเสียงต่ำพร้อมกับบิดที่แขนเพื่อนเบาๆ
“โอ้ย!”
“เป็นอะไรไปคะพี่วิชชี่!” จิณห์วราถามอย่างตกใจที่อยู่ก็ได้ยินเสียงร้องออกมาเสียงดัง
“ปละ...เปล่าค่ะ! แค่มดกัดน่ะค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ” มนปริยาได้แต่นั่งกลั้นหัวเราะที่เห็นสีหน้าเก้อๆ ของเพื่อนสาว
“ไม่ต้องมาทำหน้ายิ้มๆ เลยนะแก” ว่าเพื่อนสาวอย่างเข่นเขี้ยว
“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไปค่ะ จินนี่เป็นห่วงนึกว่าเป็นอะไรไปเสียอีก” จิณห์วราถอนหายใจอย่างโล่งอก
“อาหารมาแล้วทานเถอะ” ชายหนุ่มตัดบท เมื่อเห็นพนักงานกำลังทยอยนำอาหารที่สั่งมาจัดที่โต๊ะ อย่างมากมาย นี่เขามาทานกันสี่คนหรือทั้งแผนกกันเนี่ย
“คุณอิ่มทานนี่ซิครับอร่อยนะครับ” เขาตักอาหารให้เธออย่างเอาใจ ก่อนจะหันไปสนใจน้องสาวที่นั่งมองตาไม่กระพริบนั้น
“เอ้า..เราเองก็ทานเยอะๆ จะได้ตัวโตๆ
“ไม่ต้องมาล้อเลย” วิชญาดามองการกระทำนั้นอย่างจับสังเกตเหมือนกัน การมาทานข้าวกับท่านประธานวันนี้ทำให้เธอได้รู้อะไรหลายอย่างเหมือนกัน แม้จะไม่กล้าฟันธงนัก แต่ก็ค่อนข้างที่จะมั่นใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่เรื่องนี้เธอคงไม่กล้าพูดออกไปรอให้มั่นใจก่อนเถอะ...
“พี่อิ่ม พี่วิชชี่วันเสาร์ตอนเย็นว่างกันหรือเปล่าคะ?” จิณห์วราถามขึ้นมาหลังจากที่ทานของหวานกันอยู่ อย่างเพิ่งนึกขึ้นมาได้
“คะ..ทำไมเหรอคะ” วิชญาดาถามอย่างสงสัย ความจริงวันนั้นก็ไม่ได้มีโปรแกรมอะไรอยู่แล้ว นอกจากไปเที่ยวตามประสาสาวโสดที่ไร้คู่ครอง
“วันเสาร์นี้พี่จินเขาจะจัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดให้จินนี่ที่บ้านน่ะค่ะ จินนี่ว่าจะชวนพี่ๆ ไปด้วยไม่รู้ว่าจะว่างกันหรือเปล่า?”
“ว่างค่ะ” วิชญาดาตอบแทนเสียงดัง
“งั้นเหรอคะ...แหมดีใจจัง จินนี่ยังเกรงว่าจะไม่ว่างเสียอีก” ถามกลับอย่างโล่งอก
“พี่อิ่มละคะ” หันไปถามพี่สาวอีกคนที่มองเพื่อนอย่างเหหวอๆ ที่ตอบไม่ทันเพื่อนสาว
“คะ?”
“จินนี่ถามาว่าพี่อิ่มว่างมั้ยคะ”
“อ๋อ...ก็...ไม่มีโปรแกรมอะไรค่ะ” เธอจำต้องตอบออกไปเพราะแรงที่อยู่แถวๆ ต้นขาเธอมันเพิ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ
“งั้น...ไปนะคะ” จิณห์วราถามอย่างมีความหวังเต็มเปี่ยม
“แต่...พี่ว่า...”
“โหย...ไปเถอะแกจะเล่นตัวไปทำไมเสียน้ำใจน้องเขาหมด”
“แกนี่...” หันไปเอ็ดเพื่อนเสียงเขียวที่ขัดเธอขึ้นมา
“เอ้า...ฉันหวังดีนะ...เอาเป็นว่าเราสองคนตกลงค่ะ..ว่าแต่พี่ชวนเพื่อนอีกคนไปด้วยได้มั้ยคะ?” ถามอย่างเกรงใจ เพราะเท่าที่เขาชวนไปงานนี้ก็ถือว่ามากเกินไปแล้ว
“ใครเหรอคะ คงไม่ใช่แฟน...”
“โอ้ย! แฟนเฟินที่ไหนคะ ตอนนี้โสดสนิททั้งสองเลยค่ะ แต่คนที่อยากชวนน่ะเป็นพี่ที่ทำงานค่ะ ชื่อพี่ชล”
“ผู้จัดการแผนกน่ะเหรอ” จิณณ์วัตรถามอย่างนึกออก
“ค่ะพี่ชลนั่นละค่ะ ได้มั้ยคะ?”
“เอาซิ ผมไม่ว่าหรอกนะ ไปหลายคนก็สนุกดีเหมือนกัน”
“เอ้ะ..งั้นก็ไม่ได้เชิญคนเยอะซิคะ” ติดใจกับคำพูดของชายหนุ่ม
“ไม่หรอกค่ะแค่เพื่อนๆ ของจินนี่แล้วก็เพื่อนพี่ชายที่สนิทด้วยเท่านั้นเอง”
“งั้นพวกเราไปด้วยจะดีเหรอคะ?” วิชญาดาถามอย่างไม่แน่ใจ เธอนึกว่าจะเป็นงานที่คนเยอะๆ เสียอีก แต่นี่กลายเป็นงานภายในครอบครัวการที่เธอและเพื่อนซึ่งเป็นคนนอกจะไปร่วมงานด้วยนั้นคงไม่ดีนัก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะไปเถอะจินนี่อยากให้เพื่อนๆ รู้จักพี่ทั้งสองคนด้วย” บอกอย่างมีนัย
“เอาเป็นว่าจินนี่ขอเบอร์โทรของพี่ด้วยแล้วกันนะคะ”
“ก็ได้ค่ะ”
“เฮ้ย!...” วิชญาดาร้องเสียงหลงอย่างตกใจ เมื่อเดินเข้ามาในร้านข้างๆ กันแล้ว และเพื่อนไม่ได้อยู่คนเดียวอย่างที่เข้าใจ แต่คนที่เธออยู่ด้วยเนี่ย....
“อ้าว...มาแล้วเหรอ? รออยู่เชียวมานี่ซิ” มนปริยาทักเมื่อเห็นว่าเพื่อนยืนนิ่งอยู่หน้าร้านไม่ยอมที่จะเดินเข้ามาหาเธอที่ในร้าน วิชญาดาเดินเข้ามาในร้านอย่างเหม่อลอย ไม่นึกว่าวันนี้จะมีโอกาสเห็นท่านใกล้ๆ อีกครั้งและไม่ใช่ในบริษัทอีกด้วย
“คุณจิน คุณจินนี่คะนี่วิชชี่เพื่อนอิ่มค่ะ”
“สวัสดีค้า....จินนี่เป็นน้องสาวพี่จินค่ะ” สาวน้อยทักเสียงใสอย่างเป็นกันเอง
“ค่ะ...สวัสดีค่ะ” ทักเสียงตะกุกตะกักเมื่อเจอทั้งพี่ทั้งน้องเลยคราวนี้
“เจอกันอีกแล้วนะครับคุณวิชชี่” ชายหนุ่มทักเสียงเรียบ
“ค่ะ...ท่านประธาน”
“วิชชี่...คุณจินนี่ชวนเราทานมื้อเย็น...แกว่าไง” ปรึกษากับเพื่อนเมื่อเธอเลือกได้ของที่ต้องการแล้วเป็นสร้อยข้อมือเส้นเล็ก ที่บริเวณรอบๆ เป็นรูปหยดน้ำซึ่งเป็นชื่อของคนที่เธอเลือกของให้ และรอให้พนักงานห่อเป็นของขวัญให้อยู่
“มันจะดีเหรอแก..” เอนตัวมากระซิบที่ข้างหูเพื่อนอย่างไม่แน่ใจ ว่าจะไปด้วยดีหรือเปล่า
“ไม่รู้ซิ แต่แกกล้าปฏิเสธเหรอไง?” มองหน้าเพื่อนเป็นคำถาม
วิชญาดาได้แต่ส่ายหน้าไปมากับคำถามของเพื่อน
“พี่อิ่ม พี่วิชชี่ไปด้วยกันนะคะ อย่าปฏิเสธเลยน้า..” เดินเข้ามาเกาะแขนมนปริยาพลางส่งเสียงอ้อนๆ มาให้ โดยทั้งสองสาวมองหน้ากันอย่างไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้เลย
“ก็ได้ค่ะ”
“เย้!” ร้องออกมาอย่างดีใจ โดยมีพี่ชายยืนยิ้มอยู่ด้านหลัง
“ว่าแต่เราจะไปทานที่ไหนกันดีละ..จินนี่” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นหลังจากนิ่งเงียบไปนาน เมื่อทั้งสองสาวตกลงที่จะทานมื้อค่ำพร้อมกับเขาและน้องสาว
“ไปร้านสวีทพีก็ได้นี่คะพี่จิน ที่นั่นบรรยากาศดีออกค่ะ” จิณห์วราออกความเห็นบ้าง
“ว่าไงครับสองสาวไปร้านนี้กันนะครับ?”
“ยังไงก็ได้ค่ะขอแค่อาหารอร่อยก็พอค่ะ” “รับรองค่ะว่าว่าอร่อยแน่นอน” จิณห์วรารับคำแข็งขัน
ทั้งสี่คนตกลงมารถคันเดียวกับจิณณ์วัตรตามความต้องการของสาวน้อยทีเรียกร้องจะให้ทุกคนมาด้วยกันไม่อยากให้ขับรถมาเองเพราะทางค่อนข้างไกลอยู่ซักหน่อย เมื่อจำด้วยเหตุผลทั้งสองสาวต้องนั่งรถคันหรูโดยมีเจ้านายเป็นสารถีให้
“สาวๆ ถึงแล้วครับ”
“ไปกันค่ะ ถึงร้านแล้ว” น้องน้อยวิ่งลงจากรถไปก่อนและสองสาวก็ตามไปติดๆ มนปริยามองรอบๆ ร้านที่มีต้นไม้เต็มไปหมด ผิดกับที่คิดลิบลับเมื่อได้ยินชื่อร้านครั้งแรก
“เป็นไงครับแปลกใจเหรอครับ” ชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังถามขึ้นเสียงเบาๆ เมื่อจับได้ว่าเธอมองร้านแปลกๆ
“ค่ะ..ผิดกับที่จินตนาการไว้ลิบเชียวค่ะ” เธอตอบโดยไม่หันหลังกลับไปที่ชายหนุ่ม
“ตอนแรกที่มาก็แปลกใจเหมือนกันครับที่เห็นชื่อร้านนึกว่าจะเป็นอะไรที่หวานๆ อย่างร้านคอฟฟี่ช็อปซะอีกครับ แต่กลายเป็นว่าเป็นร้านอาหาร” เขาพูดติดตลกเมื่อมาที่นี่ครั้งแรกตามคำเรียกร้องของน้องสาว แต่เข้าไปแล้วกลับเป็นร้านออาหารธรรมดาแต่บรรยากาศอบอุ่นน่านั่งมาก และอาหารก็รสชาติดีมากเสียด้วย จนกลายเป็นร้านประจำขอเขาและน้องสาวไปเลย
“เข้าไปกันดีกว่าค่ะสองคนนั้นเข้าไปในร้านจนได้ที่นั่งแล้วมั้งคะ?”
“นั่นซิ...สงสัยจะหิวมากแน่เลย” เดินตามมนปริยาไปเงียบๆ
“พี่จิน พี่อิ่มมาค่ะ เดี๋ยวไม่ทันนะคะจินนี่กับพี่วิชชี่สั่งไปบ้างแล้วค่ะ” น้องน้อยรายงานเมื่อเห็นพี่ชายและพี่สาวเดินเข้ามาในร้านพร้อมกันหลังจากที่เธอเลือกที่นั่งได้ไม่นาน
“ตามสบายเถอะพี่ทานอะไรก็ได้ ว่าแต่คุณอิ่มจะทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าที่นี่เขารอร่อยทุกอย่างนะ” เขาหันมาถามหญิงสาวที่ทรุดตัวนั่งข้างวิชญาดาอย่างใส่ใจ ส่วนตัวเขานั่งลงติดกับน้องสาว
“ไม่ละค่ะ อิ่มทานง่ายค่ะ” เธอส่ายหน้าปฏิเสธ
“รายนี้เขากินง่ายค่ะ ขอแค่อร่อยและเยอะก็พอค่ะ” วิชญาดาส่งเสียงสนับสนุนความน่าเชื่อถืออีกคน
“แก..ไม่ต้องสนับสนุนก็ได้ เสียหน้านะแก” หันไปพูดกับวิชญาดาเสียงต่ำพร้อมกับบิดที่แขนเพื่อนเบาๆ
“โอ้ย!”
“เป็นอะไรไปคะพี่วิชชี่!” จิณห์วราถามอย่างตกใจที่อยู่ก็ได้ยินเสียงร้องออกมาเสียงดัง
“ปละ...เปล่าค่ะ! แค่มดกัดน่ะค่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ” มนปริยาได้แต่นั่งกลั้นหัวเราะที่เห็นสีหน้าเก้อๆ ของเพื่อนสาว
“ไม่ต้องมาทำหน้ายิ้มๆ เลยนะแก” ว่าเพื่อนสาวอย่างเข่นเขี้ยว
“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไปค่ะ จินนี่เป็นห่วงนึกว่าเป็นอะไรไปเสียอีก” จิณห์วราถอนหายใจอย่างโล่งอก
“อาหารมาแล้วทานเถอะ” ชายหนุ่มตัดบท เมื่อเห็นพนักงานกำลังทยอยนำอาหารที่สั่งมาจัดที่โต๊ะ อย่างมากมาย นี่เขามาทานกันสี่คนหรือทั้งแผนกกันเนี่ย
“คุณอิ่มทานนี่ซิครับอร่อยนะครับ” เขาตักอาหารให้เธออย่างเอาใจ ก่อนจะหันไปสนใจน้องสาวที่นั่งมองตาไม่กระพริบนั้น
“เอ้า..เราเองก็ทานเยอะๆ จะได้ตัวโตๆ
“ไม่ต้องมาล้อเลย” วิชญาดามองการกระทำนั้นอย่างจับสังเกตเหมือนกัน การมาทานข้าวกับท่านประธานวันนี้ทำให้เธอได้รู้อะไรหลายอย่างเหมือนกัน แม้จะไม่กล้าฟันธงนัก แต่ก็ค่อนข้างที่จะมั่นใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่เรื่องนี้เธอคงไม่กล้าพูดออกไปรอให้มั่นใจก่อนเถอะ...
“พี่อิ่ม พี่วิชชี่วันเสาร์ตอนเย็นว่างกันหรือเปล่าคะ?” จิณห์วราถามขึ้นมาหลังจากที่ทานของหวานกันอยู่ อย่างเพิ่งนึกขึ้นมาได้
“คะ..ทำไมเหรอคะ” วิชญาดาถามอย่างสงสัย ความจริงวันนั้นก็ไม่ได้มีโปรแกรมอะไรอยู่แล้ว นอกจากไปเที่ยวตามประสาสาวโสดที่ไร้คู่ครอง
“วันเสาร์นี้พี่จินเขาจะจัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดให้จินนี่ที่บ้านน่ะค่ะ จินนี่ว่าจะชวนพี่ๆ ไปด้วยไม่รู้ว่าจะว่างกันหรือเปล่า?”
“ว่างค่ะ” วิชญาดาตอบแทนเสียงดัง
“งั้นเหรอคะ...แหมดีใจจัง จินนี่ยังเกรงว่าจะไม่ว่างเสียอีก” ถามกลับอย่างโล่งอก
“พี่อิ่มละคะ” หันไปถามพี่สาวอีกคนที่มองเพื่อนอย่างเหหวอๆ ที่ตอบไม่ทันเพื่อนสาว
“คะ?”
“จินนี่ถามาว่าพี่อิ่มว่างมั้ยคะ”
“อ๋อ...ก็...ไม่มีโปรแกรมอะไรค่ะ” เธอจำต้องตอบออกไปเพราะแรงที่อยู่แถวๆ ต้นขาเธอมันเพิ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ
“งั้น...ไปนะคะ” จิณห์วราถามอย่างมีความหวังเต็มเปี่ยม
“แต่...พี่ว่า...”
“โหย...ไปเถอะแกจะเล่นตัวไปทำไมเสียน้ำใจน้องเขาหมด”
“แกนี่...” หันไปเอ็ดเพื่อนเสียงเขียวที่ขัดเธอขึ้นมา
“เอ้า...ฉันหวังดีนะ...เอาเป็นว่าเราสองคนตกลงค่ะ..ว่าแต่พี่ชวนเพื่อนอีกคนไปด้วยได้มั้ยคะ?” ถามอย่างเกรงใจ เพราะเท่าที่เขาชวนไปงานนี้ก็ถือว่ามากเกินไปแล้ว
“ใครเหรอคะ คงไม่ใช่แฟน...”
“โอ้ย! แฟนเฟินที่ไหนคะ ตอนนี้โสดสนิททั้งสองเลยค่ะ แต่คนที่อยากชวนน่ะเป็นพี่ที่ทำงานค่ะ ชื่อพี่ชล”
“ผู้จัดการแผนกน่ะเหรอ” จิณณ์วัตรถามอย่างนึกออก
“ค่ะพี่ชลนั่นละค่ะ ได้มั้ยคะ?”
“เอาซิ ผมไม่ว่าหรอกนะ ไปหลายคนก็สนุกดีเหมือนกัน”
“เอ้ะ..งั้นก็ไม่ได้เชิญคนเยอะซิคะ” ติดใจกับคำพูดของชายหนุ่ม
“ไม่หรอกค่ะแค่เพื่อนๆ ของจินนี่แล้วก็เพื่อนพี่ชายที่สนิทด้วยเท่านั้นเอง”
“งั้นพวกเราไปด้วยจะดีเหรอคะ?” วิชญาดาถามอย่างไม่แน่ใจ เธอนึกว่าจะเป็นงานที่คนเยอะๆ เสียอีก แต่นี่กลายเป็นงานภายในครอบครัวการที่เธอและเพื่อนซึ่งเป็นคนนอกจะไปร่วมงานด้วยนั้นคงไม่ดีนัก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะไปเถอะจินนี่อยากให้เพื่อนๆ รู้จักพี่ทั้งสองคนด้วย” บอกอย่างมีนัย
“เอาเป็นว่าจินนี่ขอเบอร์โทรของพี่ด้วยแล้วกันนะคะ”
“ก็ได้ค่ะ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น