คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 รวมก๊วนก็ป่วนแล้ว
ตอนที่ 1 รวมก๊วนก็ป่วนแล้ว
ภายใต้ร่มไม้บริเวณม้านั่งหินอ่อนหน้าตึกวิศวกรรมเป็นที่รวมพลของเหล่านักศึกษา ร่างบางในชุดนักศึกษาเข้ารูปแต่ไม่รัดจนเกินไป นั่งรออยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเธอมานั่งรออยู่ตรงนี้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว คนที่โทรนัดเธอยังไม่เห็นหัวเลย
“ฮึ่ม...ถ้านัดอย่างนี้อย่านัดฉันอีกนะ...” ร่างบางได้แต่บ่นอย่างหงุดหงิดเพราะนี่เพิ่งเปิดเทอมวันแรกหลังจากที่หยุดกันยาวและต่างหายหน้าหายตากันไปอยู่กับครอบครัว
“ไวน์! แกมาถึงนานยังอะ...” คนมาใหม่เดินมานั่งตรงข้ามกับคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
“อ้าวจีน...แกเห็นพวกนั้นมั้ย?” เธอมองสาวร่างบางนามอัญชิษฐา วรปรานนท์หรือจีนของเพื่อน เธอเป็นคนผิวขาว ตาโต หุ่นดีด้วยความสูง 170 ซ.ม. ของเธอทำให้รูปร่างเธอชวนมองมากกว่าเดิม ซ้ำเธอยังมีหุ่นที่ทรมานใจชายอีก ด้วยรอบอก คัพดีของเธอเอวบาง สะโพกผาย แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น
“เกือบครึ่งชั่วโมงไอ้คนที่นัดฉันออกมามันยังไม่มาเลยน่ะ..” ทำหน้าเบื่อๆ
“ใคร?....ไอ้กันต์หรือไอ้ราฟ ไอ้แท๊ปหรือไอ้เบียร์วะ?” เพื่อนสนิทเธอมีทั้งหมด 6 คนที่สนิทกันจริงๆ นอกนั้นก็พูดคุยกันได้ตามปกติ ช่วยเหลือกั นได้
“ไม่เห็นต้องถามเลยไอ้ราฟน่ะซิ...รู้งี้ฉันยังไม่กลับมาเลยนะเว้ย...” หญิงสาวที่ทำหน้าเซ็งอยู่ตอนนี้ บ่นออกมาอย่างเหลืออด
“อิๆ แกเองก็รู้จักราฟดีกว่าใครนี่...เดี๋ยวก็คงมา...พร้อมหน้าเศร้าๆ ตามเดิมแหละ” อัญชิษฐาบอกออกมาด้วยรอยยิ้มพลางส่ายหน้าไปมาอย่างเอ็นดูกับท่าทางน่ารักของอีกฝ่าย
เธอได้แต่มองหน้าหญิงสาวตรงหน้าเธอทั้งที่สวยมากขนาดนี้แต่แปลกใจเหลือเกินทำไมยังไม่มีแฟนเสียที หากเธอเป็นผู้ชายละก็คงจะเข้ามาจีบ คนตรงหน้าเธอนี้มีส่วนสูงเกินมาตรฐานสาวไทยอยู่มากด้วยส่วนสูง 175 ซ.ม. ดวงหน้ารูปไข่ ดวงตาสีนิลกลมโต คิ้วโก่ง จมูกโด่งรับกับใบหน้า ผมยาวสลวยถึงเอวสีน้ำตาลอ่อน สัดส่วนที่ใครๆ เห็นก็ต้องอิจฉาไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ด้วยหน้าอกที่มีมากอย่างเหลือล้น เอวบาง สะโพกผาย คนอย่างพิชญ์นรี กุลพิธานวรากุลหรือไอ้ไวน์ของเพื่อนๆ กลับไม่มีหนุ่มคนไหนเข้าใกล้ใจเธอเลย หญิงสาวโสดและโดนเพ่งเล็งจากคู่ควงของเพื่อนรักบ่อยครั้งเพราะความสนิทสนมที่หนุ่มๆ พวกนั้นมอบให้ หลายครั้งที่คู่ควงของเพื่อนรักเข้ามาหาเรื่องพิชญ์นรีหรือแม้แต่เธอเอง หนุ่มๆ พวกนั้นก็เข้ามาห้ามปรามเสมอ
หลายครั้งที่สาวๆ พวกนั้นให้คนรักของพวกเธอเลือกระหว่างเพื่อนอย่างพวกเธอและคนรักอย่างพวกหล่อนแต่หนุ่มๆ ก็เลือกเพื่อนอย่างพวกเธอทำให้ฝ่ายนั้นไม่พอใจและเลิกรากันไปก็มาก ซึ่งหนุ่มๆ ต่างไม่สนใจสาวๆ ที่เข้ามาส่วนใหญ่เพราะหน้าตา และฐานะมากกว่าเพื่อนของเธอเลยไม่แคร์เท่าไหร่ ต่างฝ่ายต่างได้เท่ากัน
“เออ..ไม่น่าหลงกลมันเลย ว่าแต่แกเถอะจีนไอ้กันต์โทรไปเร่งให้ออกมาเหรอ?” รู้ว่าคงไม่ใช้เบียร์แน่ที่โทรตามให้เพื่อนออกมาอย่างนี้ เพราะดูเหมือนในบรรดาเพื่อนรักของพวกเธอ เบียร์ดูจะเป็นคนที่มีเหตุผลมากที่สุด
“อือ..คนกำลังหลับสบายเชียวว่าจะไม่มาอยู่วันนี้น่ะ...” อัญชิษฐาพยักหน้ารับอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เธอเองก็ไม่ต่างจากเพื่อนมากนัก
“ยังไม่โผล่มาเลยซิท่า...นี่ก็ใกล้เวลาแล้วเราไปห้องดีกว่าไม่ต้องรอแล้ว...อ้าว..นั่นเบียร์กับแท๊ปมาแล้ว” พิชญ์นรีพยักพเยิดให้เพื่อนมองไปทางด้านหลังที่เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีในชุนักศึกษาทั้งสองเดินตรงมาที่พวกเธอ
“ไงเบียร์ แท๊ป...” พิชญ์นรีทักเพื่อนรักทั้งสองคนที่เดินมาด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ไม่เจอกันนานะ...ว่าแต่สองคนนั้นละ...โทรไปบอกว่ากำลังจะถึง” สรวิชหรือเบียร์เดินเข้ามาทักทายสองสาวแล้วถามถึงอีกสองหนุ่มเพื่อนรัก ชายหนุ่มเป็นคนอารมณ์ดี ผิวขาว หล่อตี๋ สูง 184 ซม. เป็นที่กรี้ดกร้าดของสาวๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เพราะความเป็นคนที่ดูเข้าหาง่ายแต่กลับไม่มีใครที่สามารถครอบครองใจหนุ่มโสดคนนี้ได้เลยแม้แต่คนเดียว
“เดี๋ยวก็คงมาแหละ...” ญาณศรณ์หรือแท๊ปเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มอบอุ่นตามสไตล์ของเขาเอง ชายหนุ่มเป็นหนุ่มร่างสูงด้วยความสูง 181 ซม. หน้าตาหล่อเหลาสไตล์เกาหลีผิวขาว ตาคมสาวๆ เห็นเขาทีไรชวนใจละลายทุกที
“ยังไม่เห็นหัวเลย...ไม่ต้องรอแล้วละเราขึ้นห้องเรียนกันดีกว่า” พิชญ์นรีไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เธอเบื่อที่จะรอเพื่อนทั้งสองแล้ว นัดแล้วไม่เป็นนัดไม่รู้จะโทรจิกพวกเธอทำให้พวกเธออยู่บ้านดีกว่า
“อืม/อือ...”
“เฮ้ย!!! อย่าเพิ่งไปรอก่อนซิ...” สองหนุ่มที่กำลังเดินมาร้องเสียงดังเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักทั้งสี่คนกำลังจะเดินออกไปจากโต๊ะประจำของพวกเขา
“อะไร...นี่มันกี่โมงแล้วถ้าจะมาช้าขนาดนี้อย่าโทรไปเรียกอีกนะ” เดินหนีอีกอีกฝ่ายอย่างไม่สนใจ แต่กลับโดนอีกฝ่ายรั้งแขนเข้าไปในอ้อมแขน แล้วโอบเอวบางของเธอเอาไว้ คางเกยที่ไหล่เธออย่างง้องอน ขนาดเธอว่าเธอสูงแล้วนะเจออีตานี่เข้ายังเตี้ยกว่าเขาตั้งสิบกว่าเซ็นเลย
“โธ่...แกอย่างอนดิ...คนมันเมาค้างนี่นา...แล้วก็อยากเจอหน้าเพื่อนนี่นา...” เขาบอกเสียงอ่อย ด้วยความที่อยากเจอหน้าเพื่อนรักเขาต้องโทรไปเร่งให้เธอกลับมาเมืองไทยเร็วๆ และนัดให้เธอมาเจอกันที่มหาวิทยาลัยวันเปิดเทอมวันแรก แต่เขาก็เมาค้างแต่ก็เร่งที่สุดแล้ว
“เหรอ...ไม่ใช่เมื่อคืนไปกับสาวแล้วหนักไปหน่อยเหรอ?” ถามอย่างรู้ทัน ผู้หญิงของเพื่อนคนนี้เยอะมากแต่เธอไม่เคยเห็นคบหาใครจริงจังเสียที มีแต่สาวๆ มาตีกันเพื่อแย่งเขาเนี่ย
“เปล่า...เมื่อคืนไม่ได้พาใครไปนอนด้วยจริงๆ นะ...แค่เมาเท่านั้นจริงๆ” เขารีบปฏิเสธเสียงหลงเกรงว่าเพื่อนจะเข้าใจเขาผิด และเมื่อคืนเขาก็ไม่ได้หิ้วสาวคนไหนจริงๆ กินเหล้ากับกันตยศและเพื่อนอีกกลุ่มใหญ่เท่านั้นเอง
“เหรอ...งั้นก็ปล่อยทีเถอะ...เดี๋ยวฉันขายไม่ออกแค่นี้หนุ่มๆ เขาก็ไม่กล้าเข้ามาจีบฉันแล้ว” เธอสะบัดเสียงอย่างงอนๆ เธอต้องเป็นโสดมาจนทุกวันนี้ก็เพราะอีตานี่แหละ...เพราะความหล่อเหลากระชากใจสาวๆ ของเขา ด้วยหน้ารูปไข่ ตาเฉี่ยว รูปร่างสูง หุ่นดีอย่างนักกีฬา มีกล้ามเนื้ออย่างคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผมยาวละต้นคอสีดำสนิทแต่งทรงอย่างน่ามอง ซ้ำเขายังสูงมากทีเดียว ผู้ชายหลายคนที่ใจกล้าเข้ามาจีบโดนนายภัทรดนัยหรือนายราฟของเพื่อนๆ ไล่กระเจิงหมด ด้วยเหตุผล...ไม่ผ่านเกณฑ์ที่ขาตั้งเอาไว้ ทำให้เธอไร้คู่เคียงกายตลอดเวลา 3 ปี ของชีวิตนักศึกษา จนตอนนี้เธออยู่ปี 4 แล้ว
“หึๆ ไม่เป็นไรฉันเลี้ยงแกได้น่ะ...” เขายิ้มอย่างมีความสุข ทุกครั้งที่หนุ่มๆ คณะเดียวกันหรือว่าต่างคณะเข้ามาจีบหรือแม้แต่มองมาที่ร่างบางนี้อย่างสนใจก็ทำให้เขาไม่พอใจและต้องเขี่ยทุกคนทิ้งไปหมด
“เชื่อหรอกยะ...คงจะทิ้งฉันเอาไว้บนคานแล้วตัวเองไปกับสาวๆละซิผู้ชายน่ะยิ่งแก่ยิ่งเป็นที่หมายปองนะแต่ผู้หญิงน่ะไม่ใช่” ได้แต่บอกอย่างอ่อนใจ และพยายามแกะมือหนาออกจากเอวเธอเสียที
“น่า...อย่างอนน้า...เดี่ยวเลี้ยงอาหารญี่ปุ่น” พยายามง้อให้อีกฝ่ายอารมณ์ดี และรู้ตัวว่าตัวเองผิดเองที่มาสายทั้งที่นัดกับเธอเอาไว้แล้ว
“สับรางทันเหรอ...นั่นไงมาแล้ว” มองไปยังทางเดินที่มีสาวสวยสุดเปรี้ยวดาวคณะบริหารเดินตรงมาทางพวกเธอ พิชญ์นรีรีบแกะมือเพื่อนรักออกจากเอวตัวเองทันทีที่อีกฝ่ายเผลอเขาไม่กลัวที่จะแสดงความสนิทสนมกับเธอต่อหน้าสาวๆ ของเขาแต่สำหรับเธอไม่ใช่ ไม่อยากเสียโฉมเพราะแรงหึงของผู้หญิงของเพื่อนตัวเองหรอก
“ราฟคะ...คิดถึงจังเลยค่ะ” สาวเปรี้ยวตรงเข้ามาหาอีกฝ่าย เบียดพิชญ์นรีให้ออกห่างชายหนุ่มที่เธอหวังให้เขายอมเป็นคนรักเธอเสียที เธอได้แค่ตำแหน่งคู่ควงของเขาเท่านั้นไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่าเพื่อนทานข้าวและเพื่อนนอน
“ศิครับปล่อยก่อนครับ...เดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องเรียนก่อนแล้วกันนะครับ” เขาดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย สีหน้าเรียบเฉย แต่มืออีกข้างเขากุมมือเรียวของคนที่โดนเบียดเมื่อครู่เอาไว้กลัวว่าเธอจะเดินหนีไป เพราะอีกสามคนเดินจากไปแล้ว
“แหม...อะไรกันค่ะนี่เพิ่งเปิดเทอมวันแรกเองนะคะ...ให้เพื่อนคุณเข้าไปก่อนซิคะ” ศศิพจีดาวคณะบริหารบอกเสียงอ้อนกระเง้ากระงอดหวังให้เขาตามใจ
“ผมเป็นคนนัดเพื่อนๆ มาเองจะโดดได้ไงครับ...เฮ้...ไวน์อย่าเพิ่งไปซิ..” เขาร้องบอกคนที่พยายามแกะมือเขาออกอยู่ตอนนี้
“โหย...ศึกชิงนายวะ...” สรวิชที่เดินออกมาจากจุดนั้นบอกกันตยศ ญาณศรณ์ และอัญชิษฐาอย่างสนุกอยู่ที่เห็นฉากแบบนี้ทั้งที่เจอบ่อยครั้ง
“แน่เหรอวะ...เหมือนคู่กรณีอีกคนกำลังจะหนีนะเว้ย...ดูหน้าไอ้ไวน์ซิ...หงิกซะ” กันตยศบอกให้เพื่อนดูหน้าเพื่อสาวที่ตอนนี้อยากออกไปจากตรงนั้นเหลือเกิน
“โหย...ฉันละกลัวใจยัยไวน์จริงๆ เลยเชียวเจออย่างนี้ตั้งแต่วันแรกอย่างนี้น่ะ...” อัญชิษฐาเอ่ยออกมาอย่างเห็นใจเพื่อนรักที่ต้องมาเจอเรื่องอย่างนี้ตั้งแต่วันแรกของเปิดเทอมเสียด้วย
“นั่นดิ...ดูหน้ายัยไวน์ซิ...ท่าทางอยากตายเหลือเกิน” เขาเห็นหน้าเพื่อนรักแล้วสงสารจริงๆ ต้องมาเจอแบบนี้ตั้งแต่เปิดเทอมอย่างนี้ เป็นใครก็ต้องเซ็งเหมือนกันแหละ
“เฮ้อ...ไปเคลียร์กับสาวๆ ของนายเถอะราฟอย่าดึงฉันเข้าไปเกี่ยวด้วยเลย...ถ้าคุยกันจบแล้วก็ตามไปที่ห้องแล้วกัน” พยายามข่มใจที่กำลังเดือดปุดๆ ของตัวเองให้เย็นลง อะไรวะเจอเรื่องแบบนี้ตั้งแต่วันแรกของเปิดเทอมอย่างนี้เนี่ยนะเป็นการเปิดเรียนที่เจ๋งจริงๆ
“ไม่เอาอะ...ไปพร้อมกันซิ...ศิครับเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะครับ...และผมต้องไปเข้าห้องเรียนแล้ว” ชายหนุ่มหันไปบอกอีกฝ่ายที่พยายามยื้อเขาทันที ถ้าจะให้เขาเลือกระหว่างคู่ควงกับเพื่อนยังไงเขาก็เลือกเพื่อนอย่างพิชญ์นรีมากกว่า
“ราฟอะ...เมื่อไหร่จะไปหาศิละคะ...ปิดเทอมคุณก็หายไปเลยน่ะ...” กระเง้ากระงอดใส่อีกฝ่ายอย่างน่ารักในสายตาคนอื่นแต่สำหรับภัทรดนัยนั้นไม่ใช่เลย มันเป็นเพียงมารยาเท่านั้นเอง ช่วงนี้เธอชักจะแสดงความเป็นเจ้าของเขามากเกินไปแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย
“ถ้ามันลำบากมากนักให้มันจบเลยก็ได้นะ...” เขาบอกอย่างไม่แยแส หากอีกฝ่ายยังเซ้าซี้ไม่เลิก
“นี่คุณบอกเลิกศิงั้นเหรอคะ...รู้มั้ยคะว่าศิน่ะมีแต่คนอยากจะคบด้วยทั้งนั้นแต่ศซิไม่สนใจ” เธอถึงกับแหวลั่นเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตัดเธออย่างง่ายดายอย่างนี้
“ระหว่างคุณกับผมมันไม่มีคำว่าเราหรอกนะ...มันก็แค่ความต้องการของคุณและผมเท่านั้นเอง...และผมเองชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าแค่สนุกกันเท่านั้น” ชายหนุ่มบอกอย่างไม่สนใจ
“กรี้ด....อย่าคิดว่าฉันจะยอมง่ายๆ นะ” เธอกรี้ดลั่นอย่างไม่กลัวสายตานักศึกษาที่เดินผ่านไปมาแม้แต่นิดเดียว แต่คนที่ถูกรั้งให้อยู่ตรงนั้นมากกว่าที่อยากแทรกแผ่นดินหนี
“โอ้ย...คนสวยอยากตาย...เจอเรื่องแบบนี้ฉันจะขายออกได้ไงเนี่ย” สาวสวยที่โดนรั้งให้เป็นคนกลางระหว่างสองหนุ่มสาวกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย เธอเจอเรื่องแบบนี้จนเอียนเต็มที
“หึ...ผมไม่สนใจหรอก...จบแค่นี้ดีกว่านะ...ผมไม่ชอบให้ใครมาแสดงความเป็นเจ้าของอย่างนี้ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน” เหลือบตามองอีกฝ่ายนิ่งเรียบ สะบัดแขนแล้วเดินจากไปในที่สุด เขาถือคติที่ว่าไม่รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน...สำหรับคนที่เขาไม่ได้คิดจะจริงจังด้วยกับศศิพจีเขาก็แค่สนองตามที่เธอต้องการ เธอเข้าหาเขาก่อนนะ...
“ไปกันเถอะไวน์...” เขารั้งเอวบางที่พยายามดิ้นหนีอ้อมแขนของเขา “ไม่ช่วยเลยนะพวกแ กน่ะ...ไวน์เองก็เถอะช่วยเราหน่อยก็ไม่ได้” เขาพูดงอนๆ เพื่อนสาวที่ทำท่าอยากจะชิ่งอย่างเดียว
“โหย...นี่มันเรื่องบนเตียงของนายนะจะให้เราไปยุ่งด้วยทำไม...แค่อยู่ฟังเท่านั้นก็เสียหูจะแย่แล้ว...” ค้อนสายตา ทำท่าขนลุกขนพอง เมื่อได้ยินเรื่องระหว่างทั้งคู่คุยกัน
“โหย...น่าจะชินได้แล้วนะไวน์” กันตยศยิ้มมุมปากน้อยๆ กับท่าทางน่ารักของอีกฝ่าย
“ก็อยากจะชินน่ะนะ...แต่ก็ไม่ชินแล้วก็เรื่องผู้หญิงเนี่ยให้เพลาๆ ลงบ้างเถอะ...สงสารพวกเขาบ้าง กลัวไม่ตายเพราะผู้หญิงหรือไงวะ” พิชญ์นรีได้แต่บอกสีหน้าเบื่อๆ แล้วเดินเข้าไปในตึกเรียนชั้นสามที่เป็นห้องเรียนชั่วโมงแรก ส่วนใหญ่อาทิตย์แรกๆ ไม่ค่อยจะได้เรียนอะไรมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการรับน้องเสียมากกว่า
“หึๆ ตอนนี้ก็ครบหน้าเสียทีนะหลังจากที่แยกย้ายกันไปนานเลย...ไอ้ราฟทำท่าจะขาดใจตายให้ได้ตอนที่ไวน์ไม่อยู่น่ะ...” กันตยศเย้าอย่างอารมณ์ดีเขาเห็นเพื่อนตลอดช่วงปิดเทอมที่เพื่อนแต่ละคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน พิชญ์นรีเองก็ไปกับครอบครัว แม้เขากับเพื่อนจะไปช่วยงานที่บริษัทแต่เขาก็ได้ยินภัทรดนัยบ่นว่าติดต่อเพื่อนสาวยากเหลือเกินตลอดปิดเทอมนี้เขาไม่ได้เจอหน้าเลย
“จะเป็นจะตายทำไมเราไม่ได้เป็นแฟนราฟเสียหน่อย...ไปเป็นอย่างนั้นกับแฟนเถอะ...นายละกันต์เรียกยัยจีนออกมาทำไมวะ...ก็รู้ๆ กันอยู่ว่ายัยจีนมันเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดน่ะ...” เพื่อนสาวเธอเพิ่งกลับจากเยี่ยมปู่เธอที่ต่างจังหวัดมา
“หึๆ ไม่รู้เหรอว่าราฟน่ะมันติดเธอยิ่งกว่าแฟนเสียอีก” สรวิชเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี ครบคนอย่างนี้เขาก็รู้สึกว่ามันครบในความรู้สึกจริงๆ นั่นละ
“โธ่...แกก็แค่คิดถึงเพื่อนๆ อยากให้ครบคนเท่านั้นแหละ...ยัยจีนเองก็ไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่หรอกพอปิดเทอมปุบหาตัวไม่เจอติดต่อก็ไม่ได้อีกน่ะ...” ชายหนุ่มทำหน้างอ บอกเสียงงอนๆ เพื่อนรักสาวที่ติดต่อไม่ได้เลย
“เออ...ขอโทษมันก็หลายอย่างน่ะ...” อัญชิษฐาเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิดที่เธอปิดโทรศัพท์แล้วไม่ได้ติดต่อใครเลย
“ดีมากเพื่อนรัก...วันนี้เราไปดริ้งค์กันดีกว่า...” กันตยศเอ่ยชวนทั้งหมด
“โหย...ไอ้กันต์กินเหล้าตั้งแต่วันแรกเลยเหรอไม่เอาอะ...” อัญชิษฐาแย้งออกมาเล็กน้อย
“แกจะไม่ไป?” เลิกคิ้วมองหน้าอีกฝ่ายอย่างกวนๆ เรื่องกินเหล้าเขาเชื่อว่าเพื่อนเขาทุกคนไม่มีใครปฏิเสธซักคนหรอก
“ใครว่า...แต่ขอไปเปลี่ยนชุดหน่อยนะไม่อยากกินเหล้าทั้งที่ใส่ชุดนักศึกษา...ชวนพวกน้องๆ ไปด้วยดีกว่า” เธอยังไม่เจอหน้าน้องรหัสเธอเลยด้วย
“ว่าแต่ใครไม่ไปบ้างวะ?” กันตยศหันไปถามเพื่อนทุกคน และได้รับคำตอบคือไปหมด
“ไปกันหมดนี่แหละ...ชวนคนอื่นด้วย แล้วก็น้องรหัส...วันนี้เลี้ยงฉลองการรวมก๊วนกันหน่อย” ภัทรดนัยบอกอย่างอารมณ์ดี เขาไม่ได้เสียใจเลยแม้แต่น้อยที่เสียคู่ควงระดับดาวคณะอย่างศศิพจีไปเมื่อครู่ใหญ่...เมื่อตกลงกันได้พวกเขาก็หันไปชวนเพื่อนอีกหลายคนแล้วพวกเขาก็โทรเรียกน้องรหัสให้ออกไปเที่ยวกันในตอนเย็นร้านเดิมที่พวกเขามักจะไปบ่อยๆ
****************************
แฮะๆ หายหน้าไปเกือบปีจ้า...ตอนนี้ใสหัวมาแล้วจ้าพร้อมเรื่องใหม่อะอย่าลืมเข้ามาให้กำลังใจกันหน่อยน้า
แงๆๆๆ ใส่รูปไม่ได้อะ...แทรกรูปหายไปหนายยยยยยยยยยยยยยยยย บอกข้าพเจ้าหน่อยหายไปนานจนไม่รู้แล้ว
ความคิดเห็น