คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 ในเรื่องร้ายๆ ก็ยังมีเรื่องดีๆ
ตอนที่ 3 ในเรื่องร้ายๆ ก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่
ร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งหกคนเลือกที่นั่งติดกระจกหลังจากที่เลือกซื้อของกันเสร็จแล้วพวกเขาก็แวะมาหาอะไรทานกัน และเมนูก็คืออาหารญี่ปุ่นตามที่สองสาวเรียกร้อง โดยพิชญ์นรีนั่งติดกระจก ถัดมาเป็นภัทรดนัย และเป็นญาณศรณ์ อีกฝั่งเป็นอัญชิญฐานั่งในสุด กันตยศ และสรวิช เมื่อนั่งที่เรียบร้อยแล้ว ก็จัดการสั่งอาหาร เป็นเซตอาหารและซาชิมิและเทมปุระกุ้งของโปรดของพิชญ์นรีที่ภัทรดนัยเป็นคนสั่งมาให้อย่างรู้ใจว่าอีกฝ่ายชอบทานมากแค่ไหน ทุกครั้งที่มาเธอจะสั่งเมนูนี้ทุกครั้ง
“ราฟ...สงสัยมานานตั้งแต่ก่อนปิดเทอมแล้ว สาวๆ พวกนั้นมาโอดครวญกับพวกฉันแหละว่าแกเปลี่ยนไป?” สรวิชอดจะถามขึ้นมาไม่ได้หลังจากที่พนักงานเดินออกไปแล้ว
“หึ” ภัทรดนัยมองหน้าเพื่อนรัก แล้วไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
เขายังคงบริการเพื่อนสาวอย่างเอาใจเหมือนที่เคยทำ แต่กับสาวๆ คนอื่นเขาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ให้ แทบจะไม่เคยไปนั่งกินด้วยกันด้วยซ้ำ ส่วนมากเจอกันก็ไปจบที่เตียง เสร็จก็แยกย้ายต่างคนต่างไป
“ก็นี่ไง...สาวๆ ชวนออกไปเที่ยวแกก็ไม่ไป...แล้วที่แกทำตัวติดกับยัยไวน์อย่างนี้น่ะ” พวกเขามองพฤติกรรมของภัทรดนัยมานานและเห็นว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะคอยบริการอีกฝ่ายอย่างเต็มใจ และช่วงหลังก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจสาวๆ พวกนั้นเลยในช่วงก่อนปิดเทอม เรื่องเมื่อเช้าอีก
พิชญ์นรีเองก็มองหน้าภัทรดนัยอย่างอยากรู้เหมือนกัน เธอเองก็เคยชินกับการปฏิบัติตัวของอีกฝ่ายด้วย การเอาใจใส่อย่างเพื่อนที่เขากรอกหูเธอตลอดหลายปีทำให้เธอไม่คิดอะไรมาก เขาเองก็เป็นฝ่ายชอบสัมผัสเธออีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการโอบเอว กอดคอ หอมแก้ม ถึงเธอจะรู้ว่ามันไม่ใช่แค่นั้น แต่เธอก็สบายใจที่จะคิดแบบนั้นมากกว่าเลยทำเป็นไม่รับรู้อะไร
“อะไร?...กูเป็นอย่างนี้มานานละ...พวกนั้นเรียกร้องมากเอง..ไม่ใช่แฟนเสียหน่อย” คนที่เขาให้ความสำคัญคือเธอคนนี้มากกว่า อยู่กับพิชญ์นรีแล้วสบายใจเขาเลยไม่ใส่ใจมากนัก
สาวๆ พวกนั้นเข้าหาเขาเอง พอเขาเบื่อก็มาเรียกร้องให้เขาใส่ใจนั้นไม่ได้ผลกับเขาหรอกเมื่อใจเขาอยู่ที่ใครอีกคนแล้ว และเรื่องพวกนั้นเขาเองก็พยายามที่จะเคลียร์ตัวเองก่อนจะเผยความรู้สึกกับเธออีกด้วย
“เหอะ...ระวังเถอะสาวๆ พวกนั้นน่ากลัวจะตายไป....” กันตยศบอกอย่างรู้ดี เขาเองก็เคยเห็นหลายครั้งว่าสาวๆ ของเพื่อนไม่ยอมเลิกราแต่โดยดีมาหาเรื่องพิชญ์นรีบ่อยครั้ง แต่เพื่อนเขาคนนี้ไม่ใช่สาวน้อยใสซื่อไร้เดียงสา ใครมันจะไปทำอะไรเธอได้แรงมาก็แรงกลับเท่านั้น
“ช่าย...แกรู้มั้ยว่าฉันต้องเจออะไรบ้างจากสาวๆ ของแกน่ะ...” พิชญ์นรีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย พลางคีบอาหารตรงหน้ากินอย่างเอร็ดอร่อย เพราะเธอชอบอาหารญี่ปุ่นมาก และเหมือนคนที่นั่งข้างๆ จะรู้ใจคีบอาหารมาให้เธออย่างต่อเนื่อง
“ก็รู้ไง..ถึงต้องเซ่นบ่อยๆ ไงละหึๆ” เขาได้แต่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี แววตาพราวอย่างมีความสุขเวลาที่เอมาอยู่ใกล้ๆ ตัว ใกล้สายตาอย่างนี้
และเพราะอย่างนี้ไงละเขาถึงต้องพาเธอมาเลี้ยงบ่อยๆ เพื่อนเขาคนนี้ช่วยได้มากเวลาต้องการเขี่ยใครออกไปจากชีวิต
“นั่นดิ...ถ้าไม่ได้อานิสสงค์จากยัยไวน์นะรับรองพวกเราไม่ได้มากินฟรีร้อก...” ญาณศรณ์บอกเสียงเรียบเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไรดี แต่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีเงินซื้อกินเองหรอก แต่กินของฟรีอร่อยกว่าเป็นไหนๆ
“เหอะ...ยังกับกูไม่เคยเลี้ยงพวกมึงนี่...” เขาสบถออกมาเมื่อเพื่อนทั้งกลุ่มรุมเขาอยู่ตอนนี้
“เราว่านะ...สงสัยเราสองคงต้องถอยห่างจากพวกแกแล้วละ...” อัญชิษฐาเอ่ยออกมา เมื่อเธอรู้สึกว่าตัวเองชักจะมีภัยแล้วละ เธอเห็นว่าสาวๆ ของเพื่อนแต่ละคนแรงๆ ทั้งนั้น มาออกตัวกับพวกเธอก็หลายครั้งแต่พวกเธอไม่สนใจ
“หึๆ ช้าไปหน่อยแล้วละ ตอนนี้พวกแกคงรอดยากแล้วละ” สรวิชยักคิ้วกวนๆ ใส่อีกฝ่าย นี่มันขึ้นปี4 แล้วนะ ยังไงคงต้องรับกรรมต่อไปนั่นละ ตราบใดที่พวกเขายังเป็นเพื่อนกันอย่างนี้
“ก็ไม่แน่หรอกยะ...จริงซิไวน์ได้ยินว่าพี่เวียร์จะขึ้นรับรางวัลนักธุรกิจแห่งปีเหรอ?” อัญชิษฐาถามอย่างสนใจ
“ก็นะ...” ไม่รู้ใครเป็นคนตัดสินเรื่องรางวัลในแต่ละปี ทำไมพี่ชายเธอถึงได้รับรางวัลเกือบจะทุกปี สำหรับเธอเขาเป็นพี่ชายที่น่ารักมากๆ สำหรับคนอื่นเขาคือนักธุรกิจที่เด็ดขาด และเฉียบคมอย่างมาก ตัดสินใจเรื่องธุรกิจไม่เคยพลาดบริษัทที่พี่ชายเข้ามาดูแลแทนบิดาเธอก็เจริญก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ธุรกิจที่มั่นคงอยู่แล้วไม่มีใครสามารถล้มไปได้ ซ้ำยังได้รับคำแนะนำจากมารดาของเธอยิ่งทำให้บริษัทของพวกเธอเหมือนเสือติดปีก
“เออ..ไม่เจอหน้าพี่เวียร์ตั้งนานแล้วงานยุ่งมากเหรอวะ” ปกติพวกเขาสนิทกับพี่ชายเพื่อนรักมาก ดื่มด้วยกันบ่อยๆ นอกจากเขาจะเป็นพี่ชายเพื่อนแล้วยังเป็นรุ่นพี่ที่คณะอีกด้วย
“แกจะชวนพี่เวียร์กินเหล้าน่ะซิไอ้เบียร์” ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนๆ เธอและพี่ชายรักการดื่มแค่ไหน แต่ยังดีหน่อยที่รู้จักเวลาว่าตอนไหนควรดื่ม
“หะๆ แกรู้ทันอีกแล้วนะยัยไวน์...” สรวิชเองก็ได้แต่หัวเราะอย่างหน้าชื่นตาบาน ก็ความจริงนี่นา
“อิๆ พวกแกนี่ก็แหละนะ...ควงสาวๆ ไปทั่วแต่ไม่ยักกะเคยเห็นพวกแกคบใครจริงจังเลยซักคนทั้งๆ ที่สาวๆ พวกนั้นสวยๆ เยอะแยะจะตายไป ไม่เลือกใครซักคนละแก...” อัญชิษฐาเองก็เห็นเพื่อนๆ ควงสาวๆ มากหน้าหลายตา เกือบจะทุกคณะเลยแหละ แต่ละคนเป็นดาวกันทั้งนั้นแต่ไม่เห็นว่าสาวๆ พวกนั้นจะได้สถานะแฟนจากเพื่อนรักเลย นอกจากคู่ควงเท่านั้น เบื่อแล้วก็จบ
“พวกนั้นไม่ใช่คนที่พวกฉันรักหรอกนะ...แล้วสาวๆ พวกนั้นก็ไม่ได้รักเราจริง ต่างตอบแทนน่ะ...เขาได้หน้าตาจากการควงพวกเรา...พวกฉันเองก็ได้สิ่งที่พวกเขาเสนอให้” ญาณศรณ์บอกอย่างไม่ใส่ใจพวกเขาไม่ได้เรียกว่าเจ้าชู้หรอกเพราะเขายังไม่มีคนรัก แต่ถ้ามีเขาก็พร้อมที่จะหยุดทุกอย่างแต่ตอนนี้เขาสนุกกับชีวิตอย่างนี้อยู่ เอาไว้เจอคนที่ใช่เมื่อไหร่เขาก็จะรู้เองว่านั่นน่ะคือคนที่เขาพร้อมจะหยุดอยู่ที่เธอ
“เลววะ...แต่ก็ดีไม่ให้ความหวังใครดี” เธอได้แต่เบะปากกับความคิดของเพื่อนเธอแต่ละคนจริงๆ เสนอมาก็สนองไป คนสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมดไม่ใช่แค่ผู้ชายหรอกสาวๆ พวกนั้นด้วยที่พร้อมจะกระโดดขึ้นเตียงกับหนุ่มๆ พวกนี้ซักครั้งก็พอใจแล้ว
“หึๆ กินๆ เข้าไปเถอะพูดมากวะ...แต่วันนี้ไม่เมาไม่กลับนะเว้ย...” กันตยศบอกอย่างรู้สึกสนุก เพียงแค่คิดว่าจะได้กินและดื่มกับเพื่อนๆ อีกครั้งหลังจากไปแบบไม่ครบทีม...
“ถ้าพวกฉันเมาแล้วใครจะขับรถพวกแกกลับละ” อัญชิษฐากับพิชญ์นรีจะดื่มบ้างแต่ว่าไม่ถึงกับเมาเพราะต้องพาเพื่อนๆ ทุกคนไปส่งที่พักส่วนมากจะค้างด้วยกันหมด เพราะคงไม่มีปัญญาขับรถไปส่งทุกคนแน่ กองกันอยู่ที่คอนโดฯ ของภัทรดนัยกันหมด
“เออ...ลืมวะ...” รอยยิ้มกรุ่มกริ่มจากเพื่อนๆ ทุกคนยังคงมองมาที่สองสาวที่กำลังกินของชอบอย่างมีความสุข เวลาที่สองสาวโกรธหรืองอนพวกเขาต้องพามาเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นนี่ละรับรองหาย...หึๆ...เลี้ยงง่ายดี
“เดี่ยวพวกนายไปกันก่อนได้เลยนะพวกเราจะกลับห้องก่อน จัดของก่อนน่ะ” เธอไม่อยากให้หนุ่มๆ เสียเวลาไปกับพวกเธอกว่าที่เธอจะจัดของที่ซื้อมาแล้วแต่งตัวอีก ส่วนหนุ่มๆ น่ะแค่ถอดเสื้อนักศึกษาออกก็พอสำหรับการไปเที่ยวแล้ว
“ไม่เอาหรอกเดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแกแล้วกัน” เขาไม่ยอมกหรอกไปด้วยกันนี่แหละ สองสาวสวยน้อยเมื่อไหร่ ไปกันสองคนเดี๋ยวพวกหนุ่มๆ แซวเอาอีก เขายังไม่อยากวางมวยทั้งที่อยากไปสนุก
“เอ้า...ทำไมละ..เดี๋ยวก็ได้ดื่มช้าหรอก...” อุตส่าห์เป็นห่วงกลัวจะดื่มไม่ทันคนอื่นนะ
“น่า...ไปพร้อมกันก็ดีแล้ว..” กันตยศเองก็เห็นด้วยกับเพื่อนรัก ในรถของพวกเขามีชุดเปลี่ยนอยู่แล้ว แค่เอาไปเปลี่ยนที่ห้องเพื่อนสาวก็จบแล้ว
“เออ...ตามใจแกแล้วกัน” อัญชิษฐาบอกอย่างหมดปัญญาที่จะแย้ง
เมื่อเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะห้ามปรามอะไรแล้ว พวกเธอก็จัดการไปซื้อของเข้าห้องพักแล้วให้หนุ่มๆ เป็นคนเดินตามช่วยเข็นรถให้พวกเธอ เมื่อได้ของที่ต้องการครบแล้ว ก็รีบกลับคอนโดฯ ทันที ตอนนี้ผลจากการเดินซื้อของทำให้พวกเธอทั้งหมดเหนื่อยมาก และอยากกลับไปพักก่อนที่จะไปเที่ยวกัน
ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีขาวดึงเนคไทให้หลวมปลดกระดุมลงมาสองเม็ด พับแขนเสื้อขึ้นไปจนถึงศอกตอนนี้เวลาสองทุ่มกว่าแล้ว หนุ่มร่างสูงหน้าตาคมเข้ม เดินลงมาจากตึกอย่างเหนื่อยๆ เขาอยู่เคลียร์งานจนดึก และลงมาจากตึกจนตอนนี้เขาเดินมาที่ลานจอดรถและเดินไปที่รถ porche 911 carrera 4sสีดำของเขาเอง ขับรถออกไปได้ไม่นานสายตาของเขาก็พลันมองไปเห็นอะไรอยู่ข้างทางในมุมมืด สายตาคมเขม้นมองอย่างไม่แน่ใจ เขาชะลอรถหยุดมองก็เห็นว่ามีร่างบางของหญิงสาวในชุดเสื้อขาว กระโปรงสีดำกำลังดิ้นรนอยู่ข้างทาง
“หยุดนะ...” เขาเดินลงไปแล้วเห็นว่าร่างบางที่เขาเห็นกำลังเดือดร้อนจริงๆ ก็เข้าช่วยเหลืออย่างไม่รอช้า เมื่อคนทั้งคู่เห็นว่ามีคนเข้ามาแทรกก็หยุดชะงักทันที ร่างบางที่เห็นว่ามีคนเข้ามาช่วยเธอก็รีบสะบัดอีกฝ่ายจนหลุดระหว่างที่อีกฝ่ายเผลอ เธอวิ่งตรงมาที่คนมาใหม่แล้วหลบหลังอีกฝ่ายทันที
“ชะ...ช่วยด้วยค่ะ...เขาจะทำร้ายฉันค่ะ!!!” เธอร้องขอความช่วยเหลือเสียงสั่นมือบางเกาะที่แขนแกร่งของอีกฝ่าย ยังไงเขาก็คงไม่ทำร้ายเธออย่างอีกฝ่ายหรอก
“อย่ามายุ่งเรื่องของแฟนเขาจะคุยกัน...” เสียงอีกฝ่ายดังขึ้นมา หลังจากที่เห็นว่าอีกฝ่ายสลัดเขาหลุดไปแล้ว กว่าจะหลอกล่อให้เธอออกมาได้เขาแทบแย่ทั้งที่คิดว่าวันนี้แหละจะจัดการอีกฝ่ายเสียที แต่กลายเป็นว่าหล่อนไหวตัวทัน วิ่งหนีออกมาและเขาต้องตามออกมา
“อย่าไปเชื่อค่ะ...ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขา...ผู้ชายคนนี้คิดจะทำมิดีมิร้ายฉันค่ะ...” แววตาหวาดหวั่นยามมองไปที่อีกฝ่ายที่ทำท่าว่าจะเข้ามากระชากให้เธอไปกับเขาอยู่นั่น เธอไม่น่าไว้ใจคนผิดเลยให้ตายซิไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำอะไรอย่างนี้
“เว้ย...หมูเขาจะหามอย่าเสือก...นังนี่มันก็แค่เล่นตัวเพื่อเรียกร้องความสนใจเท่านั้นแหละ” อีกฝ่ายบอกอย่างหัวเสีย ที่อยู่ๆ ก็มีคนเข้ามาขวาง
“อ้าว...” อีกฝ่ายที่เข้ามาขวางก็ดูจะเบื่อหน่ายกับฝ่ายตรงข้าม
“คุณ..ช่วยฉันด้วยนะคะ...ฉันไมได้เล่นตัวแต่เขาหลอกฉันมาค่ะ...ช่วยฉันด้วยค่ะ...” เธอบอกอย่างหวาดหวั่นไม่เคยกลัวอะไรอย่างนี้ไม่คิดว่าคนที่เธอไว้ใจอย่างเขาจะกล้าทำอย่างนี้
“ผมว่าคุณไปซะดีกว่านะ...ก่อนที่ผมจะแจ้งความว่าคุณทำร้ายเธอคนนี้แล้วคิดดูนะว่าใครจะเดือดร้อนมากกว่ากัน...อีกอย่างคุณเองก็ยังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่อย่างนี้คงไม่ดีแน่หากว่าตอนนี้เกิดเรื่องถึงตำรวจ” แววตาที่อมอีกฝ่ายคมกริบ เย็นยะเยือกจนอีกฝ่ายหวั่นเกรง
“เชอะ..ก็แค่ตำรวจพวกนั้นจะทำอะไรฉันได้...แกไม่อยากเดือดร้อนก็ถอยไป...” เขาไม่กลัวหรอกแค่นี้ให้พ่อเขาเคลียร์แป้บเดียวก็จบแล้ว...พูดเสร็จเขาก็กำหมัดพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายทันทียามที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว
“ว้าย!! คุณระวัง” ร่างบางที่หลบอยู่หลังอีกฝ่ายกรีดร้องอย่างตกใจอีกฝ่าอยู่ๆ อีกฝ่ายก็ปล่อยหมัดออกมาอย่างนั้น เธอถอยหลบไปอีกหลายก้าวหลังจากที่เขาผลักให้เธอหลบไป
“หึ...” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายลงมือกับเขาก่อน ชายหนุ่มร่างสูงก็หลบหลีกอย่างมีชั้นเชิง แล้วสวนหมัดใส่อีกฝ่ายไปอย่างทันที เล่นเอาหนุ่มสุดกร่างล้มฟุบลงไปที่พื้น หนุ่มร่างสูงยังซ้ำจนอีกฝ่ายลุกไม่ขึ้น
“จำเอาไว้นะ...อย่าคิดจะทำอะไรชั่วๆ อีก...แล้วอย่าให้ฉันเห็นว่านายทำอะไรอย่างนี้กับผู้หญิงที่เป็นเพศแม่นายอีกละก็ฉันไม่เอาไว้แน่” เขามองอีกฝ่ายที่ฟุบอยู่ที่พื้นกุมปากกุมท้องตัวเองเอาไว้อย่างเจ็บปวด เกิดมาเขาไม่เคยโดนใครกล้าทำอย่างนี้กับเขามาก่อน เรื่องนี้ต้องถึงพ่อเขาแน่ แววตาอาฆาตถูกส่งไปยังผู้มาใหม่
“แกกล้าทำอย่างนี้กับฉัน...แกไม่ตายดีแน่...แกชื่ออะไร...” มองหน้าอีกฝ่ายอย่างโกรธเกรี้ยว เขาต้องเอคืนใครมันกล้าทำอะไรกับเขาอย่างนี้
“หึๆ...จะเอาชื่อฉันไปทำอะไร...จะให้คนมาจัดการฉันงั้นเหรอหรือว่าจะเอาไปฟ้องพ่อกันละ...” ไม่คิดว่าจะเจอลูกคนใหญ่คนโตอย่างนี้หรอกนะ...ปกติเห็นแต่ทำตัวดีๆ ทั้งนั้น
“แกกลัวเหรอ?”
“งั้นจำเอาไว้ให้ขึ้นใจนะฉันชื่อว่าธีรวิทย์ กุลพิธานวรากุล...จำเอาไว้ให้แม่นนะ...แล้วก็ไปฟ้องพ่อนายซะละฉันรออยู่...” ยกยิ้มมุปากอย่างสมเพชพวกที่อาศับบารมีของพ่ออย่างนี้ไม่มีทางที่จะได้ดีหรอก บอกอย่างไม่หวั่นเกรง แล้วคว้ามือร่างบางให้เดินตามเขาไปที่รถ และปล่อยให้อีกฝ่ายนอนจมกองเลือดของตัวเองอย่างนั้น ถ้ายังปากดีได้ขนาดนี้คงไม่เป็นอะไรมาก เขายั้งมือให้อีกฝ่ายมากแล้วนะ...
เมื่อมาอยู่ในรถแล้ว ร่างบางในชุดนักศึกษาที่เขาเพิ่งจะเห็นว่ามันเป็นชุดนักศึกษาเพราะเขาเห็นเข็มและกระดุมเสื้อของอีกฝ่าย เมื่อเห็นสภาพของเธอชัดๆ เขาก็ต้องเอี้ยวตัวไปด้านหลัง แล้วคว้าเสื้อสูทของเขามาให้เธอ
“อะ...ใส่นี่เอาไว้ก่อนแล้วกัน...” บอกอย่างเป็นห่วงอีกฝ่ายที่เอาแขนกอดอกตัวเองเอาไว้ แม้หน้าตาจะไมได้มีบาดแผลอะไรแต่เขาไม่แน่ใจว่าเธอถูกให้เดนมนุษย์นั่นทำร้ายส่วนไหนไปบ้าง
“ขอบคุณค่ะ...เอ่อ...”
“ไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่ามั้ย?” ธีรวิทย์ถามอย่างไม่แน่ใจนัก ขณะมองหน้าอีกฝ่ายอย่างพิจารณา ผิวขาว อมชมพู ดวงตากลมโตดั่งกวางสาว ดวงหน้ารูปไข่ คิ้วโก่งผมยาวสลวยแม้ตอนนี้จะดูยุ่งไม่เป็นทรง รูปร่างสูง ดูจากสายตาเขาแล้วเธอหุ่นดีมากทีเดียว มิน่าไอ้หนุ่มเมื่อกี้ถึงคลั่งนักตอนที่เขาเข้าไปแทรก
“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ...ขอบคุณนะคะไม่ได้คุณเรียวคงแย่แน่เลยค่ะ...” หญิงสาวบอกฝ่ายไป เพราะเธอไม่ได้โดนอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายส่วนไหนนอกจากแรงจากากรกระชากเท่านั้น
“เหรอ...คราวหน้าคราวหลังจะไปไหนมาไหนกับผู้ชายก็ระวังหน่อยละ...” อดที่จะเตือนอย่างหวังดีไม่ได้ แม้เขาจะไม่รู้จักอีกฝ่าย แต่เขาก็มีน้องสาวหากเกิดเรื่องแบบนี้กับน้องสาวเขาละก็...ไม่อยากจะคิดเลยว่าครอบครัวเขาจะเป็นยังไง
“ค่ะ...ก็ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำอย่างนี้หรอกค่ะ...เขาบอกว่าเกิดเรื่องกับเพื่อนสนิทเรียว...เอ่อ...หนูชื่อเรียวนะคะ...คุณเอ่อ...ชื่ออะไรเหรอคะ?” ถึงจะรู้ชื่อจริงเขาแล้วและเธอจำชื่อเขาได้เป็นอย่างดีแม้จะได้ยินเพียงครั้งเดียวเธอก็มั่นใจว่าเธอไม่มีทางลืมชื่อเขาแน่นอน
“เวียร์ฉันชื่อเวียร์เอาเถอะ...เรียวใช่มั้ยบ้านอยู่ไหนเดี๋ยวฉันไปส่งให้” ขืนให้กลับเองอีกฝ่ายคงโดนแท็กซี่ลากไปข่มขืนแทนการกลับบ้านแน่
“ขอบคุณค่ะคุณเวียร์...บ้านอยู่ที่...” เธอบอกที่อยู่ให้เขาอย่างไว้ใจอย่างน้อยๆ เขาก็เป็นคนที่ช่วยเธอจากคนๆ นั้น ที่เธอเห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมคณะ แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าหลอกให้เธอออกมาแล้วทำกับเธออย่างนี้หากว่าคนๆ นั้นไม่บังเอิญผ่านมาและเข้ามาช่วยเหลือเธอยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเป็นยังไงบ้าง
ตลอดเวลาที่ขับรถไปส่งอีกฝ่ายเขาก็ตักเตือนการคบเพื่อนของเธอให้ดูดีๆ หน่อยหากว่าไม่อยากเป็นอย่างนี้อีก ก่อนจะออกมาให้บอกที่บ้านไว้ด้วยว่าจะมาทำอะไรบ้างที่บ้านจะได้รู้เอาไว้หากเกิดเรื่องกับเรา อีกฝ่ายก็รับคำอย่างดี ก่อนไปเธอไหว้และขอบคุณเขาอีกครั้ง อย่างน้อยๆ ก็ดีใจที่ตัวเองได้ช่วยผู้หญิงคนหนึ่งไม่ให้เกิดเรื่องได้ ถึงจะไม่สามารถช่วยได้ทุกคนก็เถอะ...
“ขอบคุณคุณเวียร์อีกครั้งนะคะ” เธอบอกเขาอีกครั้งแล้วยิ้มกว้างให้เขาอย่างน้อยๆ หลังจากที่เกิดเรื่องร้ายเธอก็ยังเจอเรื่องดีๆ กับเขาบ้าง
“ไม่เป็นไร...เข้าบ้านไปเถอะ...” เขาพยักหน้ารับและรอให้อีกฝ่ายเดินเข้าไปในบ้านแล้วเขาค่อยออกรถเพื่อกลับไปที่บ้านของเขาเสียที เหนื่อยอยากพักเป็นบ้าเลย
ร่างบางหมุนตัวเดินเข้าไปในบ้านเธอหันหลังให้อีกฝ่ายแล้วเปิดยิ้มกว้างกับคนที่เข้ามาช่วยเหลือ แต่เธอจำเขาได้เธอเจอเขาหลายครั้งแล้วเพราะเธอไปทำธุระให้แม่ของเธอและเธอได้เจอเขาหลายครั้งแต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและชื่ออะไรแต่การที่เขามาช่วยเธอได้คราวนี้ทำให้เธอดีใจมาก เธอเชื่อว่าพรหมลิขิตทำให้เธอและเธอมาเจอกัน...
เธอละอยากจะกรี้ดออกมาดังๆ แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้ เธอรีบเดินเข้าไปในบ้านทันที อยากบอกให้ใครได้รู้ว่าเธอเจออะไรมาบ้างเธอและครอบครัวไม่มีความลับต่อกันอยู่แล้วเกิดเรื่องอย่างนี้เธอไม่ปิดบังใครหรอก ครอบครัวเอจะได้หากทางช่วยได้ทันหากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเพราะเธอรู้ดีว่าอกฝ่ายเป็นลูกชายผู้มีอิทธิพลแค่ไหน ไม่เคยมีใครรอดมาเอาเรื่องเขาซักคนเดียวและไม่มีใครกล้าเอาเรื่องอีกฝ่ายอีกด้วย
****************************************
มาอัพแล้วจ้า
ความคิดเห็น