ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
ทั้งสามคนนั่งรถของชยันต์มาที่ตึกคอร์นกรุ๊ป ที่เป็นอาณาจักรของแคที ที่เป็นญาติผู้พี่ของที่รักอย่างทึ่งๆ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะประสบความสำเร็จโดยไม่พึ่งบารมีจากพ่อแม่ที่มีอยู่เต็มเปี่ยม แต่ยินดีที่จะสร้างตัวจากศูนย์ ขนาดเงินที่นำมาตั้งบริษัทยังหามาเองจากการเล่นหุ้น และนำเงินที่มานำมาลงทุนกับเพื่อนๆ ที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้คอร์นกรุ๊ปตระหง่านขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งไม่สามารถมีใครโค่นลงได้
“นี่แกแน่ใจเหรอที่ว่าพี่เขาห่างจากเราแค่ 4 ปีน่ะ” สาลิกาถามอย่างไม่แน่ใจวาฟังอายุผิดรึเปล่าเลยอยาก
“แน่ซิ ทำไม?”
“ก็...ถ้าเขาเริ่มตั้งบริษัทมาตั้งสิบห้าปีแล้ว แสดงว่าเขาก็ต้องทำตั้งแต่เล็กๆ เลยงั้นซิ” สาริกาถามอย่างที่คิด แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนที่สามารถทำได้
“อ๋อแน่นะละก็พี่เขาอัจฉริยะนี่นา”
“โห...ตอนนั้นเรายังเลนเป้ฯเด็กๆ อยู่เลย แต่พี่เขาทำงานแล้ว” ถามขณะยืนอยู่ในลิฟต์กันแล้ว
“สวัสดีค่ะมาพบพี่แคทีค่ะ”
“คุณรุ่งรวินรึเปล่าคะ” ซัตจิที่ตามมาจากญี่ปุ่นด้วยเรื่องงานของกลุ่มบริษัทในเครือ วันนี้แคทีมาเซ็นเอกสารที่ตึก แต่ที่เธอมาที่เมืองไทยคราวนี้มาดูแลงานแทนเพื่อนที่กลุ่ม S.K. กรุ๊ปต่างหาก ส่วนมากพนักงานจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าประธานใหญ่มากนักว่ามีหน้าตาเป้นอย่างไรนอกจากรูปที่ติดบอร์ดเอาไว้
“ใช่ค่ะ” ทำความเคารพเลขาฯ ของแคทีก่อนจะยิ้มรับ
“ท่านรออยู่ด้านในค่ะเชิญทั้งสามท่านด้านได้เลย เดี๋ยวดิฉันจะนำเครื่องดื่มตามไปค่ะ”
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาได้”
“พี่เคทคะ” เรียกพี่สาวเสียงร่าเริง ตอนนี้เธอปลอดโปร่งเป็นอย่างมาก เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ต้องหาที่ฝึกงานใหม่แล้ว ทั้งสามคนเดินไปนั่งที่โซฟาที่ตั้งอยู่มุมห้อง
“ว่าไงฮันนี่” แคทีจะเรียกน้องสาวว่าอย่างนี้เสมอ
“ไม่ว่าไงหรอกค่ะ แต่รู้มั้ยคะไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ให้พี่ช่วยพูดกับพ่อ แม่ให้น่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่มีปัญหาหรอกว่าแต่จะไม่แนะนำเพื่อนให้พี่รู้จักเหรอว่าชื่ออะไรบ้าง?” มองทั้งสองคนอย่างพิจารณา
“อ๋อค่ะ นั้นยอร์ชกับราค่ะเพื่อนรักของที่รักเอง เราจะไปฝึกงานด้วยกันค่ะ”
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะพี่เคท” ทั้งสองยกมือไหว้รุ่นพี่สาวที่มองยังไงก็สวยและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่าคนที่สวยและสาวอย่างนี้จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาอย่างนี้
“จ๊ะ ยินดีที่ได้รู้จักทั้งสองคนเลยนะ แล้วที่ไปฝึกงานเนี่ยมีปัญหาอะไรมั้ย?”
“ไม่มีอะไรหรอกครับนอกจากยัยที่รักเนี่ยเกือบไปได้ไปครับเพราะคุณพ่อกับคุณแม่ท่านไม่อยากให้ลูกสาวไกลตาครับ”
“เหรอ ฮึ ฮึ อย่างนี้ละคนที่เป็นพ่อกับแม่ ท่านก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา”
"แต่พี่เคทเก่งนะคะที่พูดให้ท่านคล้อยตามและยอมเซ็นชื่อให้ยัยที่รักไปกับเราได้น่ะคะ”
“ไม่ยากนี่จ้ะแค่นี้เอง” แคทีบอกอย่างเรียบยิ้มอย่างเอ็นดู ที่เธอให้ทั้งสามคนมาในวันนี้เพราะอยากที่จะเห็นว่าเพื่อนของน้องสาวคนนี้เป็นยังไงไว้ใจได้รึเปล่าเท่านั้นไม่ได้มีธุระอะไรมากมายและอยากที่จะมอบของให้น้องสาเก็บเอาไว้กับตัวเวลาที่อยู่ที่โน่น
“ว่าแต่พี่เคทมีอะไรรึเป่าคะที่เรียกให้ที่รักมาหาเนี่ย”
“อ๋อ พี่มีอะไรจะให้น่ะจ้ะ” หยิบเอาของที่เตรียมไว้ในลิ้นชักออกมาให้น้องสาว
“เอ้า พี่ให้”
“อะไรคะ?” เธอรับของมาอย่างงๆ และเปิดออกะดู
“โห..ให้ทำไมคะเนี่ย”
“ของขวัญวันเกิดล่วงหน้าไงจ้ะ วันนั้นพี่คงไม่ได้ให้เพราะเราคงอยู่ที่โน่นเลยจะให้เอาไว้ก่อน” เธอบอกเหตุผลที่ดูไม่มีข้อโต้แย้ง
“ขอบคุณมากค่ะ” เธอดีใจมากที่พี่สาวไม่ลืมวันเกิดของเธอที่จะถึงในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า “ใส่เอาไว้ตลอดและอย่าถอดออกนะ”
“ได้ค่ะ และจะรักษาอย่างดีเลย” เธอมองสร้อยข้อมือที่พี่สาวให้นั้นอย่างชอบใจในความน่ารักของมัน เป็นสายสร้อยเล็ก และมีจี้เป็นรูปผึ้งสามตัวห้อยอยู่อย่างน่ารัก
“เอาละไม่มีอะไรแล้วกลับกันเลยก็ได้นะ”
“งั้นเราสามคนกลับก่อนนะคะ”
“ยอร์ชขับรถดีๆ ละ และอยู่ที่โน่นก็ฝากดูและสาวๆ เขาหน่อยนะเราเป็นผู้ชายคนเดียว” เธอฝากฝังน้องสาวเอาไว้กับเพื่อนที่ดูท่าทางไว้ใจได้คนนี้
“ไม่ต้องห่วงครับผมจะดูแลอย่างดีถ้าดื้อมากๆ จะตีให้หลังลายเลย” “เชอะเขาคงยอมหรอก” ทำปากยื่นนิดอย่างไม่พอใจ ที่เพื่อนบอกว่าจะดูแลทั้งที่เป็นเธอมากกว่าที่ดูแลเขา
“ริกาก็ดูแลตัวเองละ อย่าคิดมากคนเดียวมีอะไรก็บอกขาไปซะ ไม่งั้นมันจะสายไปนะ” เธอบอกเป็นนัยๆ สาริกามองแคทีอย่างตกใจนี่อย่าบอกนะว่ารู้เรื่องที่เธอคิดอยู่น่ะ ไม่มีทางเธอไม่เคยบอกให้ใครรู้มาก่อนว่าคิดยังไงแล้ว...
“พี่เคท” เรียกพี่สาวคนใหม่อย่างตกใจ แต่แคทีเอามือยกขึ้นปิดที่ปากเอาไว้ไม่ให้เธอพูดออกมา
“เอาไว้ไปบอกเขาเองละกันนะ มั่นใจเข้าไว้” ให้กำลังใจ
“ขอบคุณค่ะ” เธอบอกย่างซึ้งใจ ทั้งสามคนออกมาจากตึกคอนร์นกรุ๊ปแลวและกำลังจะไปซื้อของกัน เพื่อไปไว้ใช้ที่โน่น เพราะพรุ่งนี้พวกเขาก็ต้องเดินทางกันแล้ว ไม่มีเวลามากนัก และทั้งสามคนจะไปนอนที่คอนโดฯ ของสาริกากันเพราะจะได้สะดวกในการเดินทาง บ่ายคล้อยที่เกาะสุดที่รักชายหนุ่มเจ้าของเกาะยังคงเร่งงานเอกสารของเขาที่ต้องจัดการอยู่ที่ในออฟฟิศ เพื่อที่จะได้ไม่มีอะไรคั่งค้างก่อนที่เขาจะลงไปหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ ไม่รู้ว่าทางนั้นมีอะไรด่วนรึเปล่า
“กันต์”
“ครับนายเมฆ?” รบคำเสียนงเรียบ
“ฉันไม่อยู่ฝากนายดูที่นี่แทนด้วยนะ แล้วก็เรื่องเด็กฝึกงานที่จะมาพรุ่งนี้ละ?”
“ไม่มีปัญหาอะไรครับเราจัดห้องพักเอาไว้ให้แล้วผู้ชายผมให้พักอยู่กับผม ส่วนสาวผมฝากเอาไว้กับคุณพิชแล้วครับเธอบอกว่าไม่มีปัญหาสาวๆ พักอยู่ที่เรือนเล็กกับเธอก็ได้ ไม่น่ามีอะไรน่าห่วงครับ”
“อืม..งั้นก็ฝากด้วยละกันฉันจะไปซักวันองสองวันเดี๋ยวคงกลับ ส่วนยัยฟ้าก็ช่วยดูให้หน่อยละกันนะ” บอกย่างอ่อนโยนเมื่อพูดถึงน้องสาวคนเดียวที่เพิ่งเรียนจบและมาช่วยงานเขาได้สามปีแล้ว
“ครับ เรื่องคุณฟ้าเองก็ไม่น่าจะมีอะไรเพราะเธอก็รับผิดชอบส่วนของเธออยู่แล้ว”
“งั้นก็..นายมีอะไรก็ไปทำเถอะเดี๋ยวอีกหน่อยฉันก็จะไปแล้ว”
“ครับ...เห็นเมื่อครู่คุณอรโทรมาเจ้านายโทรกลับเธอหน่อยละกันนะครับ”
“มีเรื่องอะไร?”
“ไม่ทราบครับแต่เธอบอกว่าโทรหาเจ้านายไม่ติดเลย ก็เลยโทรเข้าออฟฟิศน่าจะเป็นเรื่องด่วนอะไรซักอย่างน่ะครับ”
“อืม..เอาไว้ผมจะโทรกลับละกัน” รับคำอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับเห็นคุณพิชเธอบอกว่าวันที่จะฝังมุกชุดใหม่น่ะครับเลยว่าจะไปดูเสียหน่อย” กันต์ธรบอกเสียงเรียบ เขาสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่คนนี้มาก จนบางคนคิดว่าเขาชอบเธออยู่ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าคนที่เขารักนั้นเป็นใครกัน แต่เธอคนนี้รู้เรื่องดีเพราะจับสังเกตเขาได้ประจำ
“งั้นไปเถอะ ถ้าเจอยัยฟ้าที่นั่นบอกด้วยนะว่าผมจะไปแล้ว”
“ครับ” รับคำอย่างหนักแน่น ก่อนจะเดินออกไปนอกสำนักงานและเอารถเครื่องที่จอดอยู่ขับไปที่เธออยู่ตอนนี้
“คุณพิชครับ..”
“คะ? คุณกันต์เป็นไงคะเจ้านายไปแล้วเรอถึงมาได้น่ะค่ะ” เธอถามอย่างเป็นกันเองเป็นอันรู้ว่าถ้าเจ้านายยังอยู่เขาจะยังไม่ได้มานี่แสดงว่าสั่งงานเสร็จแล้วและกำลังจะเดินทาง
“ครับกำลังจะไปครับ คุณฟ้าครับเจ้านายบอกว่ากำลังจะไปแล้วนะครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณกันต์” กานต์ธิดาเสหลบไปมองที่อื่นเธอไม่เคยมองหน้าเขาได้เต็มตาเสียที นี่มันก็หลายปีแล้ว เรื่องระหว่างเธอและเขาไม่ก้าวหน้าเสียที ยังหยุดอยู่ที่เดิมเหมือนวันแรกที่เจอกัน กันต์ธรเดินเข้าไปใกล้ พอจอดรถเสร็จเขาก็เดินเข้าไปยังจุดที่หญิงสาวทั้งสองอยู่และกำลังมองช่วยคนงานจัดการฝังมุกที่หอยมุก
“เกือบเสร็จแล้วนี่ครับ” เขาเห็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้เหลือเพียงนิดเดียว
“ค่ะก็ทำมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ค่ะ นิดเดียวก็เสร็จแล้วละค่ะ” วรพิชชาบอกอย่างร่างเริง ทั้งที่เป็นงานที่เหนื่อยและร้อนอย่างนี้เธอยังยิ้มได้อีก ทั้งที่ตอนที่เธอมาแรกๆ เธอยังดูเซื่องซึมไม่ค่อยยิ้มแย้มอย่างนี้แต่ตอนี้เธอเหมือนกับว่าเธอทำใจได้แล้วอย่างนั้นไม่เคยมีใครรู้ว่าเธอเป็นอะไร แต่เมื่อเห็นเธอยิ้มได้อย่างนี้เขาเองก็สบายใจ คบกับเธอได้อย่างสบายใจเธอเป็นเพื่อนที่ดีและคอยให้คำปรึกษาเขาเรื่อยมาเกี่ยวกับความรักที่ไม่กล้าเปิดเผย
“วันนี้วันศุกร์เราไปเที่ยวในเมืองกันมั้ยพิช แล้ะวก็ไปรับเด็กๆ ด้วยเห็นว่าจะมาวันนี้ละคงถึงเย็นๆ หน่อย” กันต์ธรเอ่ยชวนเมื่อเห็นว่างานเธอเสร็จแล้วและดูแล้วคงไม่มีอะไรมากวันนี้วันศุกร์ด้วย
“เอาซิ” บอกอย่างนึกสนุกและเธอก็ไม่ได้ซื้อของมานานแล้วด้วย
“คุณฟ้าไปด้วยกันนะคะ นี่ก็ใกล้เลิกงานแล้ววันศุกร์ด้วยคงไม่มีอะไรหรอกค่ะ” หันไปชวนเด็กสาวที่ยืนเงียบอยู่ด้านหลังเธอชอบแวะมาคุยกับเธอบ่อยๆ แต่พอกันต์ธรมาเด็กสาวจะเงียบทันที จากเท่าที่เธอดูคงจะเขินเสียมากกว่าเลยไม่กล้าที่จะคุย
“แต่ว่า...”เธอมองหน้าชายหนุ่มที่เป็นคนชวนก่อนว่าเขาจะอยากให้เธอไปด้วยหรือเปล่าหรืออยากไปกันสองคน
“เอาน่าไปกันหลายคนสนุกออกใช่มัยกันต์?” หันไปถามความเห็นชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียว
“คะ..ครับไปด้วยกันซิครับคุณฟ้า” เขาบอกเสียงตะกุกตะกัก
ทั้งสามคนนั่งรถของชยันต์มาที่ตึกคอร์นกรุ๊ป ที่เป็นอาณาจักรของแคที ที่เป็นญาติผู้พี่ของที่รักอย่างทึ่งๆ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะประสบความสำเร็จโดยไม่พึ่งบารมีจากพ่อแม่ที่มีอยู่เต็มเปี่ยม แต่ยินดีที่จะสร้างตัวจากศูนย์ ขนาดเงินที่นำมาตั้งบริษัทยังหามาเองจากการเล่นหุ้น และนำเงินที่มานำมาลงทุนกับเพื่อนๆ ที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้คอร์นกรุ๊ปตระหง่านขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งไม่สามารถมีใครโค่นลงได้
“นี่แกแน่ใจเหรอที่ว่าพี่เขาห่างจากเราแค่ 4 ปีน่ะ” สาลิกาถามอย่างไม่แน่ใจวาฟังอายุผิดรึเปล่าเลยอยาก
“แน่ซิ ทำไม?”
“ก็...ถ้าเขาเริ่มตั้งบริษัทมาตั้งสิบห้าปีแล้ว แสดงว่าเขาก็ต้องทำตั้งแต่เล็กๆ เลยงั้นซิ” สาริกาถามอย่างที่คิด แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนที่สามารถทำได้
“อ๋อแน่นะละก็พี่เขาอัจฉริยะนี่นา”
“โห...ตอนนั้นเรายังเลนเป้ฯเด็กๆ อยู่เลย แต่พี่เขาทำงานแล้ว” ถามขณะยืนอยู่ในลิฟต์กันแล้ว
“สวัสดีค่ะมาพบพี่แคทีค่ะ”
“คุณรุ่งรวินรึเปล่าคะ” ซัตจิที่ตามมาจากญี่ปุ่นด้วยเรื่องงานของกลุ่มบริษัทในเครือ วันนี้แคทีมาเซ็นเอกสารที่ตึก แต่ที่เธอมาที่เมืองไทยคราวนี้มาดูแลงานแทนเพื่อนที่กลุ่ม S.K. กรุ๊ปต่างหาก ส่วนมากพนักงานจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าประธานใหญ่มากนักว่ามีหน้าตาเป้นอย่างไรนอกจากรูปที่ติดบอร์ดเอาไว้
“ใช่ค่ะ” ทำความเคารพเลขาฯ ของแคทีก่อนจะยิ้มรับ
“ท่านรออยู่ด้านในค่ะเชิญทั้งสามท่านด้านได้เลย เดี๋ยวดิฉันจะนำเครื่องดื่มตามไปค่ะ”
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาได้”
“พี่เคทคะ” เรียกพี่สาวเสียงร่าเริง ตอนนี้เธอปลอดโปร่งเป็นอย่างมาก เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ต้องหาที่ฝึกงานใหม่แล้ว ทั้งสามคนเดินไปนั่งที่โซฟาที่ตั้งอยู่มุมห้อง
“ว่าไงฮันนี่” แคทีจะเรียกน้องสาวว่าอย่างนี้เสมอ
“ไม่ว่าไงหรอกค่ะ แต่รู้มั้ยคะไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ให้พี่ช่วยพูดกับพ่อ แม่ให้น่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่มีปัญหาหรอกว่าแต่จะไม่แนะนำเพื่อนให้พี่รู้จักเหรอว่าชื่ออะไรบ้าง?” มองทั้งสองคนอย่างพิจารณา
“อ๋อค่ะ นั้นยอร์ชกับราค่ะเพื่อนรักของที่รักเอง เราจะไปฝึกงานด้วยกันค่ะ”
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะพี่เคท” ทั้งสองยกมือไหว้รุ่นพี่สาวที่มองยังไงก็สวยและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่าคนที่สวยและสาวอย่างนี้จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาอย่างนี้
“จ๊ะ ยินดีที่ได้รู้จักทั้งสองคนเลยนะ แล้วที่ไปฝึกงานเนี่ยมีปัญหาอะไรมั้ย?”
“ไม่มีอะไรหรอกครับนอกจากยัยที่รักเนี่ยเกือบไปได้ไปครับเพราะคุณพ่อกับคุณแม่ท่านไม่อยากให้ลูกสาวไกลตาครับ”
“เหรอ ฮึ ฮึ อย่างนี้ละคนที่เป็นพ่อกับแม่ ท่านก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา”
"แต่พี่เคทเก่งนะคะที่พูดให้ท่านคล้อยตามและยอมเซ็นชื่อให้ยัยที่รักไปกับเราได้น่ะคะ”
“ไม่ยากนี่จ้ะแค่นี้เอง” แคทีบอกอย่างเรียบยิ้มอย่างเอ็นดู ที่เธอให้ทั้งสามคนมาในวันนี้เพราะอยากที่จะเห็นว่าเพื่อนของน้องสาวคนนี้เป็นยังไงไว้ใจได้รึเปล่าเท่านั้นไม่ได้มีธุระอะไรมากมายและอยากที่จะมอบของให้น้องสาเก็บเอาไว้กับตัวเวลาที่อยู่ที่โน่น
“ว่าแต่พี่เคทมีอะไรรึเป่าคะที่เรียกให้ที่รักมาหาเนี่ย”
“อ๋อ พี่มีอะไรจะให้น่ะจ้ะ” หยิบเอาของที่เตรียมไว้ในลิ้นชักออกมาให้น้องสาว
“เอ้า พี่ให้”
“อะไรคะ?” เธอรับของมาอย่างงๆ และเปิดออกะดู
“โห..ให้ทำไมคะเนี่ย”
“ของขวัญวันเกิดล่วงหน้าไงจ้ะ วันนั้นพี่คงไม่ได้ให้เพราะเราคงอยู่ที่โน่นเลยจะให้เอาไว้ก่อน” เธอบอกเหตุผลที่ดูไม่มีข้อโต้แย้ง
“ขอบคุณมากค่ะ” เธอดีใจมากที่พี่สาวไม่ลืมวันเกิดของเธอที่จะถึงในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า “ใส่เอาไว้ตลอดและอย่าถอดออกนะ”
“ได้ค่ะ และจะรักษาอย่างดีเลย” เธอมองสร้อยข้อมือที่พี่สาวให้นั้นอย่างชอบใจในความน่ารักของมัน เป็นสายสร้อยเล็ก และมีจี้เป็นรูปผึ้งสามตัวห้อยอยู่อย่างน่ารัก
“เอาละไม่มีอะไรแล้วกลับกันเลยก็ได้นะ”
“งั้นเราสามคนกลับก่อนนะคะ”
“ยอร์ชขับรถดีๆ ละ และอยู่ที่โน่นก็ฝากดูและสาวๆ เขาหน่อยนะเราเป็นผู้ชายคนเดียว” เธอฝากฝังน้องสาวเอาไว้กับเพื่อนที่ดูท่าทางไว้ใจได้คนนี้
“ไม่ต้องห่วงครับผมจะดูแลอย่างดีถ้าดื้อมากๆ จะตีให้หลังลายเลย” “เชอะเขาคงยอมหรอก” ทำปากยื่นนิดอย่างไม่พอใจ ที่เพื่อนบอกว่าจะดูแลทั้งที่เป็นเธอมากกว่าที่ดูแลเขา
“ริกาก็ดูแลตัวเองละ อย่าคิดมากคนเดียวมีอะไรก็บอกขาไปซะ ไม่งั้นมันจะสายไปนะ” เธอบอกเป็นนัยๆ สาริกามองแคทีอย่างตกใจนี่อย่าบอกนะว่ารู้เรื่องที่เธอคิดอยู่น่ะ ไม่มีทางเธอไม่เคยบอกให้ใครรู้มาก่อนว่าคิดยังไงแล้ว...
“พี่เคท” เรียกพี่สาวคนใหม่อย่างตกใจ แต่แคทีเอามือยกขึ้นปิดที่ปากเอาไว้ไม่ให้เธอพูดออกมา
“เอาไว้ไปบอกเขาเองละกันนะ มั่นใจเข้าไว้” ให้กำลังใจ
“ขอบคุณค่ะ” เธอบอกย่างซึ้งใจ ทั้งสามคนออกมาจากตึกคอนร์นกรุ๊ปแลวและกำลังจะไปซื้อของกัน เพื่อไปไว้ใช้ที่โน่น เพราะพรุ่งนี้พวกเขาก็ต้องเดินทางกันแล้ว ไม่มีเวลามากนัก และทั้งสามคนจะไปนอนที่คอนโดฯ ของสาริกากันเพราะจะได้สะดวกในการเดินทาง บ่ายคล้อยที่เกาะสุดที่รักชายหนุ่มเจ้าของเกาะยังคงเร่งงานเอกสารของเขาที่ต้องจัดการอยู่ที่ในออฟฟิศ เพื่อที่จะได้ไม่มีอะไรคั่งค้างก่อนที่เขาจะลงไปหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ ไม่รู้ว่าทางนั้นมีอะไรด่วนรึเปล่า
“กันต์”
“ครับนายเมฆ?” รบคำเสียนงเรียบ
“ฉันไม่อยู่ฝากนายดูที่นี่แทนด้วยนะ แล้วก็เรื่องเด็กฝึกงานที่จะมาพรุ่งนี้ละ?”
“ไม่มีปัญหาอะไรครับเราจัดห้องพักเอาไว้ให้แล้วผู้ชายผมให้พักอยู่กับผม ส่วนสาวผมฝากเอาไว้กับคุณพิชแล้วครับเธอบอกว่าไม่มีปัญหาสาวๆ พักอยู่ที่เรือนเล็กกับเธอก็ได้ ไม่น่ามีอะไรน่าห่วงครับ”
“อืม..งั้นก็ฝากด้วยละกันฉันจะไปซักวันองสองวันเดี๋ยวคงกลับ ส่วนยัยฟ้าก็ช่วยดูให้หน่อยละกันนะ” บอกย่างอ่อนโยนเมื่อพูดถึงน้องสาวคนเดียวที่เพิ่งเรียนจบและมาช่วยงานเขาได้สามปีแล้ว
“ครับ เรื่องคุณฟ้าเองก็ไม่น่าจะมีอะไรเพราะเธอก็รับผิดชอบส่วนของเธออยู่แล้ว”
“งั้นก็..นายมีอะไรก็ไปทำเถอะเดี๋ยวอีกหน่อยฉันก็จะไปแล้ว”
“ครับ...เห็นเมื่อครู่คุณอรโทรมาเจ้านายโทรกลับเธอหน่อยละกันนะครับ”
“มีเรื่องอะไร?”
“ไม่ทราบครับแต่เธอบอกว่าโทรหาเจ้านายไม่ติดเลย ก็เลยโทรเข้าออฟฟิศน่าจะเป็นเรื่องด่วนอะไรซักอย่างน่ะครับ”
“อืม..เอาไว้ผมจะโทรกลับละกัน” รับคำอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับเห็นคุณพิชเธอบอกว่าวันที่จะฝังมุกชุดใหม่น่ะครับเลยว่าจะไปดูเสียหน่อย” กันต์ธรบอกเสียงเรียบ เขาสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่คนนี้มาก จนบางคนคิดว่าเขาชอบเธออยู่ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าคนที่เขารักนั้นเป็นใครกัน แต่เธอคนนี้รู้เรื่องดีเพราะจับสังเกตเขาได้ประจำ
“งั้นไปเถอะ ถ้าเจอยัยฟ้าที่นั่นบอกด้วยนะว่าผมจะไปแล้ว”
“ครับ” รับคำอย่างหนักแน่น ก่อนจะเดินออกไปนอกสำนักงานและเอารถเครื่องที่จอดอยู่ขับไปที่เธออยู่ตอนนี้
“คุณพิชครับ..”
“คะ? คุณกันต์เป็นไงคะเจ้านายไปแล้วเรอถึงมาได้น่ะค่ะ” เธอถามอย่างเป็นกันเองเป็นอันรู้ว่าถ้าเจ้านายยังอยู่เขาจะยังไม่ได้มานี่แสดงว่าสั่งงานเสร็จแล้วและกำลังจะเดินทาง
“ครับกำลังจะไปครับ คุณฟ้าครับเจ้านายบอกว่ากำลังจะไปแล้วนะครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณกันต์” กานต์ธิดาเสหลบไปมองที่อื่นเธอไม่เคยมองหน้าเขาได้เต็มตาเสียที นี่มันก็หลายปีแล้ว เรื่องระหว่างเธอและเขาไม่ก้าวหน้าเสียที ยังหยุดอยู่ที่เดิมเหมือนวันแรกที่เจอกัน กันต์ธรเดินเข้าไปใกล้ พอจอดรถเสร็จเขาก็เดินเข้าไปยังจุดที่หญิงสาวทั้งสองอยู่และกำลังมองช่วยคนงานจัดการฝังมุกที่หอยมุก
“เกือบเสร็จแล้วนี่ครับ” เขาเห็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้เหลือเพียงนิดเดียว
“ค่ะก็ทำมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ค่ะ นิดเดียวก็เสร็จแล้วละค่ะ” วรพิชชาบอกอย่างร่างเริง ทั้งที่เป็นงานที่เหนื่อยและร้อนอย่างนี้เธอยังยิ้มได้อีก ทั้งที่ตอนที่เธอมาแรกๆ เธอยังดูเซื่องซึมไม่ค่อยยิ้มแย้มอย่างนี้แต่ตอนี้เธอเหมือนกับว่าเธอทำใจได้แล้วอย่างนั้นไม่เคยมีใครรู้ว่าเธอเป็นอะไร แต่เมื่อเห็นเธอยิ้มได้อย่างนี้เขาเองก็สบายใจ คบกับเธอได้อย่างสบายใจเธอเป็นเพื่อนที่ดีและคอยให้คำปรึกษาเขาเรื่อยมาเกี่ยวกับความรักที่ไม่กล้าเปิดเผย
“วันนี้วันศุกร์เราไปเที่ยวในเมืองกันมั้ยพิช แล้ะวก็ไปรับเด็กๆ ด้วยเห็นว่าจะมาวันนี้ละคงถึงเย็นๆ หน่อย” กันต์ธรเอ่ยชวนเมื่อเห็นว่างานเธอเสร็จแล้วและดูแล้วคงไม่มีอะไรมากวันนี้วันศุกร์ด้วย
“เอาซิ” บอกอย่างนึกสนุกและเธอก็ไม่ได้ซื้อของมานานแล้วด้วย
“คุณฟ้าไปด้วยกันนะคะ นี่ก็ใกล้เลิกงานแล้ววันศุกร์ด้วยคงไม่มีอะไรหรอกค่ะ” หันไปชวนเด็กสาวที่ยืนเงียบอยู่ด้านหลังเธอชอบแวะมาคุยกับเธอบ่อยๆ แต่พอกันต์ธรมาเด็กสาวจะเงียบทันที จากเท่าที่เธอดูคงจะเขินเสียมากกว่าเลยไม่กล้าที่จะคุย
“แต่ว่า...”เธอมองหน้าชายหนุ่มที่เป็นคนชวนก่อนว่าเขาจะอยากให้เธอไปด้วยหรือเปล่าหรืออยากไปกันสองคน
“เอาน่าไปกันหลายคนสนุกออกใช่มัยกันต์?” หันไปถามความเห็นชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียว
“คะ..ครับไปด้วยกันซิครับคุณฟ้า” เขาบอกเสียงตะกุกตะกัก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น