ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : [SF,woncin]Special feeling {ความพิเศษ}
Title :: Special feeling {ความพิเศษ}
Author :: Nukkinz {CHU-HEE}
Note :: WonCin
Rate :: PG
“พี่ฮะ. วันนี้เราว่างทั้งคู่ ไปดูหนังกันสักเรื่องไหม ?”
ผมได้ยินเสียงรุ่นน้องหน้าหล่อในวงซุปเปอร์จูเนียร์ของผมดังขึ้นก่อนจะมีสัมผัสยวบยาบบนโซฟานิ่ม บ่งบอกให้ผมรู้ว่าเขากำลังนั่งข้างๆผม คิม ฮีชอลคนนี้จะรออะไรล่ะ.? ผมจึงเอนลงเพื่อนอนตักของเขาทันที
เชว ชีวอน.
“ว่าไง ? หืม ?”
“นายก็รู้ว่าเราไปที่ที่คนเยอะแยะไม่ได้”
ผมหลับตาลงอย่างเหนื่อยใจ ตลอดทั้งเดือนที่ผมทำงานหนัก เพิ่งจะมีเวลาให้ผมพักบ้างก็อาทิตย์นี้แหละ ร่างสูงไม่ได้ว่าอะไรที่ผมไม่ได้ตอบคำถามเค้า มือหนากลับเกลี่ยผมสีน้ำตาลที่ถูกรักษาอย่างดีจากเจ้าของเส้นผมอย่างอ่อนโยน.
ผมรับรู้ถึงสายตาอ่อนโยนที่เขาส่งมาให้ผมในขณะที่ผมกำลังหลับตาอยู่ ชีวอนไม่ได้มองโทรทัศน์เลย เขากลับก้มลงมามองที่ผมอย่างเดียว
“งั้นก็เช่าหนังมาดูสักเรื่อง.เป็นไง ? เห็นพี่บ่นอยากดูเรื่อง ‘Because I said so’.”
“นั่นมันหนังนานมาแล้วไม่ใช่เหรอ ? แล้วอีกอย่างถ้าดูหนังฝรั่งฉันจะต้องลุกขึ้นมาอ่านซับไตเติ้ล”
“ไม่ต้องห่วง. เดี๋ยวผมจะแปลให้ฟัง”
“จะได้เรื่องไหมล่ะ ?”
ผมเอ่ยจิกกัดคนตัวสูง ทั้งที่รู้ว่าถ้าเช่ามายังไงผมก็ต้องตั้งใจดูอยู่ดี.
.
.
.
‘Why I have to do this,mom ?’
(ทำไมฉันต้องทำตามที่แม่บอกด้วยล่ะ ?)
‘Just because
I said so !’
(ก็เพราะฉันสั่งยังไงล่ะ !)
ผมนั่งซบชีวอนอย่างหน่ายๆ ตาก็จ้องมองโทรทัศน์ไม่วางตา รู้สึกอินกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากอยู่
ทำไมแม่จอมบงการชีวิตลูกจังนะเนี่ย ! ถ้าเป็นผมผมก็คงรำคาญสุดๆไปเลย ผมจะบอกแม่ไปเลยว่านี่มันชีวิตของผม !!!
‘Listen ! This is my life,not your !’
(ฟังนะ ! นี่คือชีวิตของฉัน ไม่ใช่ชีวิตของคุณสักหน่อย !)
นั่นไง.เหมือนที่ผมคิดเด๊ะๆเลย,
“ไหนบอกจะนอนไง ?”
เสียงเข้มของคนข้างๆทำให้ผมละความสนใจมาจากโทรทัศน์ได้ ผมเอื้อมมือไปหยิบตุ๊กตาของใครสักคนที่ทิ้งไว้ตรงพื้นขึ้นมากอดก่อนจะพูด
“ก็นายนั่นแหละ ไม่ให้ฉันนอน”
“ตอนไหนเนี่ย ?”
“ตอนที่เช่าหนังมาดู ยังไงนายก็รู้อยู่ว่าฉันต้องไม่นอนแน่ๆ”
“งั้นพี่ก็หลับตา เดี๋ยวผมบรรยายให้ฟังแล้วกัน”
“ฉันจะลองดู...”
ผมว่าพลางทิ้งตัวลงหนุนตักชีวอนอีกครั้งหนึ่ง มือเรียวทั้งสองยังคงกอดตุ๊กตาไว้ไม่ห่าง กอดตุ๊กตาแล้วคิดถึงฮีบอมจังน้า..~ ตอนนี้มันคงหลับอยู่บนเตียงของผมไม่ก็ไปคุยเสื้อผ้าของผมมาเล่นอีกตามเคย
ผมพยายามฟังจับใจความภาษาอังกฤษที่ในภาพยนตร์พ่นออกมาให้ได้ ที่จริงมันก็ไม่ได้ยากอะไร ด้วยความที่ผมจบเอกภาษาอังกฤษการท่องเที่ยวมา แต่ตอนนี้ผมขี้เกียจแม้แต่จะลืมตา หรือจะจับใจความอะไรก็ตาม.
“ถึงไหนแล้วชีวอน” ผมอยากรู้เพราะเสียงมันเงียบลง ในฉากนั้นคงไม่มีใครพูดอะไร
“ตอนนี้ คนที่เป็นแม่นางเอกนั่งอยู่บนโซฟากับพ่อพระเอก กำลังนั่งดูหนังด้วยกันอยู่...”
เหมือนเราเลยเนอะ. เพียงแต่ผมไม่แก่ขนาดนั้น
“ว่าต่อสิ...”
“ทั้งสองคนนั้น...กำลัง..จูบกัน”
เมื่อสิ้นเสียง ผมสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นที่รดใกล้เข้ามาที่ใบหน้าผมเรื่อยๆ ผมรีบยกตุ๊กตานั้นขึ้นมาบังหน้า ถึงเราจะเคยจูบกันที่คอนเสิร์ต SM TOWN ณ ประเทศไทย
แต่นายก็ไม่ต้องเคลิ้มจากหนังมาจูบฉันว้อยย !
‘กริ๊ง ง ง กริ๊งง ง ง’
“กริ๊ง ง ง กริ๊งง ง ง”
เสียงโทรศัพท์ข้างนอกดังขึ้นพร้อมๆกับฉากในหนัง แต่มันไม่ใช่เสียงเดียวกันหรอก แน่นอน.โทรศัพท์ของชีวอนเป็นเพลงอังกฤษ’You belong with me’ ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาฟังเพลงแนวนี้ด้วยเหรอ ดูมันเป็นแนวที่ไม่ใช่เขาเลยนะเนี่ย แต่พูดถึงความหมายเพลง.ก็ซึ้งดีอยู่หรอก เพราะส่วนมากเขาจะฟังประเภทคลาสสิก เสียงโหยหวนหน่อยล่ะ
ฮีชอลไม่ได้สนใจเสียงชีวอนคุยโทรศัพท์มือถือเลย ผมเริ่มเอาตุ๊กตาลง ไม่ใช่ว่าไม่กลัว แต่ผมคิดว่าสามารถป้องกันตัวเองได้จากชีวอนแน่ๆ ถ้าเขาจะจูบผมอีก ร่างสูงคุยโทรศัพท์เพียงไม่กี่วิก็วาง ผมจึงรบเร้าให้เขาบรรยายฉากต่อ
“เมื่อกี้.สองคนนั้นถูกขัดจังหวะ เออ,โดยโทรศัพท์ ตอนนี้.พวกเขาจูบกัน...เอ่อ อย่างดูดดื่มด้วย”
เสียงชีวอนเริ่มตะกุกตะกักขึ้น ใบหน้าคมก็คงจะแดงด้วยสินะ. ผมอยากเห็นใบหน้าหล่อๆเวลาเขิน จึงลืมตาขึ้น และผมก็ได้รับรู้เรื่องๆหนึ่งที่ผมคิดผิด.
ผมคิดว่าสามารถป้องกันตัวเองได้จากชีวอนแน่ๆ ถ้าเขาจะจูบผมอีก
ใช่ ! ผมคิดผิด !!
ทันทีที่ผมลืมตา ใบหน้าหล่อคมก็โน้มลงมาประชิดใบหน้าของผมเสียแล้ว ปากของเขาแนบชิดปากของผม แต่ไม่มีการสอดลิ้นล่วงล้ำกันแต่อย่างใด มือหนาจับใบหน้าของผมไว้แน่น สงสัยกลัวว่าผมจะขยับหนี
ผมไม่ได้หนี. แต่ผมตัวแข็งตาค้างเป็นผีตาเหลือกอยู่ตรงนี้ เขาแนบริมฝีปากของเขากับผมไว้นานเกือบสองนาที ก่อนจะผละออกไป
ปากผมพยายามขยับจะพูดอะไรตั้งมากมาย แต่กลับไม่มีเสียงออกมาจากลำคอสักนิดเดียว จึงได้แต่อ้าปากพะงาบๆอยู่อย่างนั้น ผมพยายามลุกขึ้นนั่งช้าๆก่อนจะมองหน้ารุ่นน้อง สงสายตาสงสัยไปแทน.
ไม่ได้ว่าเลยนะ ถ้าจะทำแบบนี้ แต่ช่วยบอกกันก่อนนิดนึงได้ไหมเนี่ย ! ผมพยายามใช้สายตาคาดคั้นคำ’ขอโทษ’ออกมาจากปากชีวอน
ผมเพิ่งเห็นความสำคัญของการแสดงก็ตอนนี้แหละ ! เวลาเราจะแกล้งใครสักคนต้องแสดงละครตบตาให้เนียนที่สุด ทั้งสีหน้า ท่าทาง และสายตาที่ใช้ อา...ผมขอบคุณจริงๆที่ตลอดมาผมได้แสดงละครหลายๆเรื่อง !
“ผมไม่ขอโทษนะพี่ เพราะครั้งนี้ผมตั้งใจ.”
“หา !”คำตอบของเขาผิดคาด สามารถสกัดคำด่าของผมไว้ได้เลย
“ก็ผมตั้งใจ ผมรู้สึกดีกับพี่นะ ถึงแม้จะไม่ใช่แบบชู้สาวก็เถอะ”
“ฉัน...ไม่เข้าใจ”
“หมายถึง รู้สึกกับพี่พิเศษกว่าคนอื่นๆในวงไง คือไม่ใช่ว่าผมรักพี่แบบนั้นนะ.”
“ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี”
“คือแบบ..เอ่อ...”
ตอนนี้ไม่มีใครสนใจหนังเลย เขาคงจนปัญญาจะอธิบายจริงๆล่ะ มือหนายกขึ้นมาเกาหัวแกรกๆแก้เขิน ผมเว้นเวลาให้เขาคิดคำขึ้นมาโดยการมองหน้าเขาเงียบๆ ทำไมผมจะไม่รู้เรื่องนี้ ผมก็รู้สึกกับเขาแบบเดียวกันนั่นแหละ ไม่ต่างกันเลยสักนิด
รู้สึกพิเศษกว่าคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ถึงกับคนรัก
มีเพียงเส้นกั้นที่บางมากๆกั้นระหว่างตำแหน่งที่เขายืนอยู่ กับตำแหน่งว่าที่ภรรยาในอนาคตของผม
ไม่ได้โกหกนะ...บางมากๆจริงๆ
บางครั้งผมยังสับสนเลยว่าผมชอบผู้ชายรึเปล่า แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะต้องสนใจ
สิ่งที่ผมสนใจคือหัวใจของผมเท่านั้น
มันบอกว่าอะไร ผมก็จะไปตามทางนั้น
เพียงแต่ตอนนี้ความรู้สึกพิเศษๆสำหรับชีวอนมันยังไม่ชัดเจนเท่านั้น
โอกาสในขณะนี้ของผมคือทำให้มันชัดเจน,ผมย้อนกลับมาถามตัวเอง
และอะไรที่ทำให้ผมคิดว่ารู้สึกกับชีวอนเป็นพิเศษกว่าคนอื่นๆล่ะ ?
“คือ..ผม เหมือนกับจะรัก.ไม่สิ !! คือ แค่ชอบมั้ง.”
ทำไมผมถึงคิดแบบนี้ คิดว่าชีวอนพิเศษ.
“ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น”
ผมตอบคำถามของตัวเองไปพร้อมๆกับเขาในใจ
เพราะแค่เจอหน้านาย ฉันก็มีความสุขเล็กๆ
“เพราะแค่เจอหน้าพี่ ผมก็มีความสุข”
เพราะเวลามองนายยิ้ม ใจฉันเต้นโครมคราม
“เพราะเวลามองพี่ยิ้ม ใจผมมักจะเต้นแรง”
เพราะเมื่อมองเข้าไปในตาของนาย เหมือนกับมีแรงดึงดูดให้เราเข้าไปหากัน
“เพราะเมื่อสบสายพี่ ผมเหมือนถูกดึงเข้าไปหาพี่”
เพราะเวลาเห็นนายสนิทกับคนอื่น ฉันรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“เพราะเวลาเห็นพี่สนิทกับคนอื่นๆ ผมหงุดหงิดและน้อยใจ”
เพราะเวลาได้กลิ่นตัวของนาย มันทำให้ฉันอยากอยู่ใกล้ๆนาย
“เพราะได้กลิ่นของพี่ ผมอยากจะดึงพี่เข้ามากอด”
เพราะเมื่อนายแต่งตัวหล่อๆ ใจของฉันจะละลายทุกครั้ง
“เพราะเมื่อพี่แต่งตัวดีๆ ผมรู้สึกร้อนๆ”
เพราะเมื่อสายตาฉันว่าง ฉันจะเหลือบไปมองนายทุกครั้ง
“เพราะเมื่อผมเผลอ สายตาผมจะมองแต่พี่”
เพราะเมื่อกี้ที่นายจูบฉัน อุณหภูมิในร่างกายฉันก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เพราะเมื่อกี้ผมจูบพี่ เพียงแค่แตะเบาๆตัวผมก็ร้อนไปหมด”
เพราะนายก็คือนาย ความรู้สึกที่พิเศษนี้ฉันมีเพียงมอบให้นายเท่านั้น
“เพราะความรู้สึกนี้ผมมอบให้พี่แค่คนเดียว,เท่านั้นจริงๆ.”
ชัดเจนแล้วใช่ไหม ? ความรู้สึกในใจผมแจ่มชัดมากขึ้น จนผมสามารถบอกได้เลยว่า’เรารักกัน’ !! ไม่ต้องการเหตุผลมากไปกว่านี้ แค่นี้ก็สามารถยืนยันคำตอบที่ค้างอยู่ในใจมากนานได้แล้ว
“ผมรู้สึกแบบนี้กับพี่ มันจะเรียกว่าอะไรได้อีกนะ...? ถ้าไม่ใช่..”
“ความรัก” x.2
ผมกับเขาเอ่ยพร้อมกันเบาๆ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาอีก เราจ้องหน้ากันนิ่งๆด้วยเวลาเนิ่นนาน มีเพียงสายตาที่เต็มไปด้วย’ความพิเศษ’ที่ส่งไปให้กัน
ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยแคร์ใครๆ
เขาเป็นคนที่ห่วงใยคนอื่นไปทั่ว
ผมชอบทำลายข้าวของ
เขาเป็นคนถนอมสิ่งของ
ผมปากแข็ง
เขาพูดทุกอย่างออกมาตามใจคิด
ผมดื้อ
เขาทำตามใครๆก็ได้
ผมเอาแต่ใจ
เขาแสนเอาใจ
ผมเป็นคนตลก
เขาก็หัวเราะง่าย
ผมเงียบ
เขาคอยอยู่ข้างๆ
ผมเศร้า
เขาปลอบใจ
ผมมีความสุข
เขาจะพูด’ยินดีด้วย’
ผมอารมณ์ร้อน
เขาอารมณ์เย็น
ผมคือไฟ
เขาคือน้ำ
ผมคือสีแดง
เขาคือสีน้ำเงิน
ผมคือคนพิเศษของเขา
และเขาคือคนพิเศษของผม
เราเข้ากันได้ดีอย่างประหลาด เหมือนกับว่าฟ้าส่งเข้ามาเพื่อเคียงข้างกับผม ด้วยนิสัยของเขาที่เหมือนน้ำ และนิสัยของผมที่เหมือนไฟ
“ชีวอน...คือ ฟังนะ มันอาจจะไม่ใช่ความรัก แต่มันคือความรู้สึกที่พิเศษที่นายมีให้ฉัน และฉันก็มีให้นาย. เรายังไม่ได้รักกันจริงๆ”
แต่มันคือกำหนดจากฟ้าน่ะ.
ให้เราเกิดมา...!
“ผมคิดว่ามันคงจะชัดเจนแล้ว ให้...ให้ผมลองอีกที..”ร่างสูงพูดเบาๆ
“อะ...อะไร ? อุ๊บส์ !”
เขาจูบผม...เอ่อ... ใช่ อย่างดูดดื่ม
ผมเต็มใจที่จะจูบต่อ เมื่อกี้ผมคิดค้างไว้
ผมคิดว่า
มันคือกำหนดจากฟ้า
ให้เราเกิดมา.....คู่กัน !!!!
ไม่ใช่ความรักที่เกิดจากการตกหลุมรัก
ไม่ใช่ความรักที่เกิดจากความรู้สึกดีๆ
ก็ไม่ใช่ความรักน่ะสิ !!!
เพราะตอนนี้มันก็คือ’ความพิเศษ’และจะพัฒนาความรู้สึกให้เป็น’ความรัก’ได้อย่างแน่นอน !!!!
Isn’t the love that from falling in love
Isn’t the love that from good feeling
Yeah,it isn’t love !!!
Because right now it’s ‘special’ and of course it will grown up to ‘lover’
เจ้าหญิงซินเดอเรลล่า และ เจ้าชายซิมบ้า
กับบันทึกความพิเศษ
Talk with writer
ไม่คิดจะเอาเรื่องนี้ลงหรอกนะ !
แต่ก็อาจจะเอาลงให้ได้อ่านกัน
นี่คือฟิกสั้นก็ออกแนวอิงความจริง(เริ่มแรก)
และหลังๆเริ่มเพ้อฝัน ใช่ ! มุมมองของไรท์เตอร์ที่มีต่อคู่วอนซิน
ไม่ใช่ความรัก...ยังไม่ชัดเจนขนาดนั้น !
แต่อาจจะเป็นความรู้สึกพิเศษที่ถ่ายทอดขึ้นมาในเรื่องนี้
ความรู้สึกมากกว่าคนอื่นๆในวง
ความรู้สึกที่มีค่าสุดบรรยาย
นี่แหละคำนิยามของวอนซินในมุมมองไรท์เตอร์ !
จบก่อนจะทอล์กกับไรท์เตอร์จะกลายเป็นฟิกสั้นอีกเรื่องหนึ่ง
๕๕๕ ๕ ๕+
สำนวนภาษายังไม่ดีเท่าไหร่ ก็พยายามฝึกอยู่น่ะ
ช่วงนี้อัพฟิกบ่อย ย ,55
๒๔.๐๙.๒๐๐๙ // ๒๔.๑๘
NUKKIEZZZ {CHU-HEE}
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น