คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter 3:ทำงานวันแรก [100%]
วันนี้หนูนามาถึงบ้าน ‘โรจน์รัตนาอมรบดินทร์’ ด้วยรถชอปเปอร์ของเธอ หากจะให้ชายชุดดำร่างยักษ์ไปรับเธอที่บ้านทุกวันคงมีสักวันแน่ที่เธอต้องตกใจจนเผลอฆ่าพวกเขา
วันนี้แม่บ้านดูวุ่นวายเป็นพิเศษ รีบปัดกวาดเช็ดดูเครื่องร้านเครื่องใช้อย่างขะมักเขม้น หญิงสาววัยชราในชุดแม่บ้านยืนสั่งงานให้บรรดาสาวใช้ในบ้าน เมื่อเห็นหนูนาเธอจึงเดินเข้ามาหาและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“คุณหนูนาใช่มั้ยคะ?” หญิงชราถาม
“ค่ะ” หนูนาตอบรับก่อนจะยิ้มให้
หญิงชรามองเครื่องแต่กายของหนูนาแล้วยิ้มให้ ชุดสูทสีดำที่คลายคลึงกับบรรดาบอดี้การ์ดคนอื่นๆ หากแต่มีสัดส่วนโค้งเว้าแบบผู้หญิง หญิงชรากล่าวด้วยน้ำเสียงใจดี
“ป้าว่าคุณหนูนาไปเปลี่ยนชุดเถอะค่ะ คุณหนูซิงค์เขาไม่ชอบให้บอดี้การ์ดของเขาแต่งตัวแบบนี้
แอ๋ว ไปหยิบชุดที่คุณหนูเตรียมไว้ให้คุณหนูนามาซิ!” หญิงชรากล่าวกับหนูนาก่อนจะหันไปบอกสาวใช้ใกล้ๆ ตัว เธอได้แต่โค้งตัวให้แล้วเดินหายไปอีกทาง “คุณหนูนาลองมองดูผู้ชายสามคนนั้นสิคะ” หญิงชราชี้ไปที่โต๊ะสนามหญ้าด้านข้างของบ้าน ที่มีชายรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวสะอาดสะอ้านสามคนนั่งทางอาหารเช้ากันอยู่ การแต่กายของแต่ละคนนั้นเรียกได้ว่ามีสีสันเจ็บจี๊ดได้ใจคนมองมากๆ ชายคนแรกแต่งกายด้วยเสื้อกล้ามสีขาวทับด้วยเสื้อเจ็กเก็ตสีเทากับกางเกงยีนขาเดฟสีเขียวแสด แว่นกันแดดสีชากับหมวกสีเหลืองไม่ได้เข้ากันสักนิด! ชายคนต่อมาใส่เสื้อยืดสีเหลืองทับด้วยเจ็กเก็ตสีขาว กางเกงยีนขาเดฟสีแดงสด แว่นกันแดดสีดำกับหมวกสีน้ำตาลอำพลางใบหน้า ชายคนสุดท้ายเขาใส่เสื้อยืดสีดำทับด้วยเสื้อเจ็กเก็ตสีแดงกับกางเกงยีนขาเดฟสีซีด แว่นกันแดดสีเหลือง ชายคนนี้ไม่ได้ใส่หมวก หากแต่เขาย้อมผมสีแดงเพลิง
หวังว่าพวกเขาคงไม่ใช่บอดี้การ์ดเหมือนเธอหรอกนะ
“พวกเขาเป็นบอดี้การ์ดของคุณหนูซิงค์ค่ะ” หญิงชราไขข้อสงสัยให้เหมือนรู้ทัน เป็นจังหวะเดียวกันที่สาวใช้เอาเสื้อผ้ามาให้หนูนา
“คุณหนูนาเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำนะคะ ตรงไปอยู่ข้างๆ ครัวน่ะค่ะ”
หนูนาเพียงแต่ยิ้มขอบคุณแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำตามที่หญิงชราบอก
ทันทีที่ถึงห้องน้ำ
หนูนาแทบจะเป็นลม มันเป็นชุดเดียวกันกับคนพวกนั้น ไซส์และสีสันที่แตกต่างกันเท่านั้น
เธอจำใจสวมเสื้อผ้าที่ซิงค์สั่ง เมื่อส่องกระจกเธอก็แทบผงะ นี่เธอมาทำงานเป็นบอดี้การ์ดหรือว่าเป็นเด็กสาวใจแตกที่หนีผู้ปกครองเที่ยวกันนี่!
ผมสีดำเหลือบน้ำตาลที่เคยยาวสยายบัดนี้ถูกรวบขึ้นไปเป็นหางม้า เสื้อกล้ามสีขาวทับด้วยเสื้อเจ็กเก็ตสีเขียว กางเกงขาเดฟสีชมพูแปร๋นกับรองเท้าผ้าใบที่สีเหลืองที่ถูกพ่วงมาด้วย ที่สำคัญยังมีแว่นกันแดดสีชมพูแบบเดียวกับกางเกง และหมวกยีน
เธอเปลี่ยนไป~!!
หนูนาแทบไม่กล้าจะออกจากห้องน้ำเลยถ้าไม่มีสาวใช้มาตาม เธอค่อยๆ ก้าวเท้าไปตามทางเดินของบ้านด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ กลัวว่าเจ้านายของเธอจะหัวเราะกับการแต่งตัวที่แปลกไป
ทันทีที่มาถึงห้องนั่งเล่น ซิงค์เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์แล้วหันมายิ้มให้กับหนูนา เธอแทบจะอ้วกทันทีที่เห็นรอยยิ้มนั่น บวกกันบอดี้การ์ดสามคนที่นั่งอยู่ในสนามก็มายืนอยู่ข้างหลังโซฟาของเขาแล้ว เธอพยายามที่จะมองเลยผ่านพวกเขาไปยังรูปพร้อมครอบครัว และพยายามไม่สนใจสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘ผู้ชาย’ ที่อยู่ตรงหน้าเธอ!
“ว้าว~ เยี่ยมเลย ชุดแบบนี้เหมาะกับบอดี้การ์ดของฉันที่สุด!” ซิงค์อุทานมาด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข หากแต่หนูนาคิดว่าเขาบ้า มีเจ้านายที่ไหนที่จำบอดี้การ์ดแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบบนี้
“ทัน
นายว่าวันนี้ฉันจะไปไหน” เขาเลิกสนใจกันบอดี้การ์ดหญิงตรงหน้า หันไปถามนายหมวกเหลืองที่ยืนอยู่ทางด้านซ้ายของเขา
“ไม่ทราบสิครับ คุณซิงค์อยากจะไปไหนล่ะ?” ทันตอบ
“อ๊ะ
คิมช่วยไปหยิบโทรศัพท์มือถือในห้องฉันให้หน่อยสิ ฉันลืมไว้น่ะ” เขาหันไปบอกนายหมวกน้ำตาลที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง เขารีบโค้งตัวแล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสองทันที
“พัช
นายไปสตาร์ทรถให้ฉันที ฉันจะไปหาคุณแม่ที่ค่ายเพลง แล้วก็จะแวะไปเที่ยวด้วย” เขาหันไปสั่งนายหัวแดงเป็นคนสุดท้ายก่อนที่จะเดินนำออกไปที่โรงรถ ทิ้งให้เธอเดินทิ้งระยะห่างตามเขาไปต้อยๆ
ทันทีที่นายทันหนึ่งในบอดี้การ์ดหยิบโทรศัพท์กลับมาแล้วส่งให้นายซิงค์ เขาก็ขึ้นรถบีเอ็มดับบลิวสีขาวสะอาดที่ด้านหน้ามีมอเตอร์ไซน์คันหนึ่งจอดอยู่ ทันเข้านั่งประจำตำแหน่งคนขับมีคิมนั่งข้างๆ ส่วนมอเอตร์ไซน์ด้านหน้าถูกพัชจับจอง หนูนาจ้องซิงค์ที่มองหน้าเธอเพื่อบอกให้เธอนั่งข้างเขา แต่ไม่มีทางเสียหรอก
เธอคงจะต้องขาดใจตายแน่ๆ
เธอเดินไปที่รถชอปเปอร์คันโปรดขึ้นขี่มันแล้วสตาร์ทเครื่องพร้อมกับตะโกนบอกเขา
“ฉันเป็นบอดี้การ์ด มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เจ้านาย เชิญออกรถเลย” เธอบอกพร้อมกับยักคิ้วยียวนกวนประสาทใส่เขา พัชขับรถออกไปก่อนจะตามด้วยรถบีเอ็มที่มีทันขับ ส่วนหนูนานั้นขับรถชอปเปอร์รั้งท้าย เพราะเธอไม่รู้ทางไปค่ายเพลงของคุณหญิง
ซิงค์กระตุกยิ้มที่มุมปากตอนที่รถติดไฟแดง เขามองไปที่หญิงสาวรูปร่างเล็กที่นั่งคร่อมอยู่บนรถชอปเปอร์ ดูท่าเธอจะหยิ่งไม่น้อย ขนาดให้มานั่งข้างเขายังไม่ยอม ผู้หญิงอะไร ทั้งเก่ง ทั้งแกร่ง ขี่รถชอปเปอร์คันใหญ่ได้ดียิ่งกว่ารถยนต์
หนูนา
เธอน่าสนใจจริงๆ ซิงค์คิดก่อนที่จะยิ้มกว้าง
กลายเป็นว่าตลอดระยะทาง เขาเอาแต่นั่งจับจ้องหนูนาบนรถชอปเปอร์โดยไม่รู้ตัว!
ณ ค่ายพอม ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อยู่แข่งของค่ายฮอฟ ที่มีศิลปินชื่อวง ‘ฮารอส’ เป็นเบอร์หนึ่งของค่าย หากแต่ค่ายของเขามีวง ‘ซัม’ เป็นวงเบอร์หนึ่งเช่นกัน
ศิลปินสองวงนี้ดูด่าจะไม่ถูกกันแบบสุดๆ นักร้องนำหัวหน้าวงซัม ปฏิเสธทุกงานที่จะต้องไปพบเจอกับวงฮารอส
เมื่อพนักงานเห็นคุณหนูของตระกูล ‘โรจน์รัตนาอมรบดินทร์’ เดินเข้ามาในบริษัท ต่างคนก็ต่างรีบตรงดิ่งเข้ามากล่าวทักทาย หากแต่เมื่อเห็นบอดี้การ์ดชายสามคนที่ตามมาก็ถึงกับอึ้ง ยิ่งพนักงานชายมองไปเห็นหญิงสาวที่รวมผมหางม้าที่เดินรั้งท้ายแล้วนั้น หัวใจของพวกเขากำลังจะละลาย
ช่วงนี้ก็ได้แต่วอนพนักงานคนอื่น อย่าเอาไปฟ้องแฟนของพวกเขาก็แล้วกัน
พัชเห็นพนังงานชายจ้องหนูนาตาไม่กระพริบ เขาจึงขยับลงมาเดินข้างๆ เธอ ยื่นหมากฝรั่งรสชาเขียวที่เขาชอบให้
หนูนาทำหน้างง ก่อนจะค่อยๆ รักษาระยะห่างเพื่อไม่ให้อาหารกำเริบ ตอนนี้เธอก็เริ่มมึนๆ หัวแล้ว แต่เธอก็เข้าใจว่าพัชอ่านจะอยากเป็นเพื่อนกับเธอ เธอจึงหยิบหมากฝรั่งจากมือเขามาใส่ปากเคี้ยวมาใส่ปากเคี้ยว แม้มันจะเสี่ยง
แต่เธอก็ทำไปแล้ว
หางตาของซิงค์เหลือบเห็นตอนที่บอดี้การ์ดหนุ่มของเขากำลังทำท่าสร้างสัมพันธไมตรีให้กับอดี้การ์ดสาว เขาก็หยุดเดินทันที พลางหันไปยิ้มให้เหล่าบอดี้การ์ดเหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
“อ๋อ ผมลืมไปครับ ว่าคุณซิงค์ไม่ชอบให้ตามขึ้นไปข้างบน” คิมเดาเอาพร้อมกับโค้งตัว เมื่อมองเห็นลิฟท์ที่อยู่ข้างหน้า
“อืม หนูนา
” ซิงค์เรียกหญิงสาว เธอสะดุ้ง ก่อนจะหันมามองหน้าเขา “เธอช่วยขึ้นไปหาคุณแม่กับฉันหน่อยสิ”
ไม่มีทางที่บอดี้การ์ดอย่างเธอจะปฏิเสธได้อยู่แล้ว เธอพยักหน้า แล้วเดินตามเขาไปยืนรอลิฟท์ ในขณะที่เหล่าบอดี้การ์ดชายเริ่มหาที่นั่งและหยิบนั่งสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน
พัชมองไปทางหนูนากับเจ้านายของเขาอย่างไม่เข้าใจ คุณซิงค์ไม่เคยพาใครขึ้นไปหาคุณหญิงกับเขา หรือว่า
จะมีอะไรในกอหญ้านี้!
ทันที่เห็นเพื่อนยืนเหม่อมองแม้หนูนากับซิงค์จะเข้าไปในลิฟท์แล้ว จึงรีบสะกิดเพื่อน “เฮ้ย! นายคิดอะไรอยูวะ? นั่นบอดี้การ์ดของเจ้านายนะเฟ้ย!” คิดเข้ามาตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนอีกคน “พวกเราน่ะมันแค่บอดี้การ์ด เป็นแค่เพื่อนกันก็พอโว้ย! จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้”
ในลิฟท์
หนูนายืนตัวลีบติดผนังลิฟท์ด้านในสุด เธอหลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เหมือนจะคลื่นไส้อีกแล้ว ทุกครั้งที่เข้าใกล้ซิงค์ อาการเธอจะกำเริบหนักคิดทุกครั้งขนาดตอนที่พัชส่งหมากฝรั่งให้เธอยังแค่มึนๆ ไม่ถึงขนาดนี้ ทุกครั้งที่อาการกำเริบ เธอคิดว่าเธอสามารถควบคุมมันได้ ยกเว้นตอนที่ทดสอบภาคปฏิบัติกับคุณธนาธรตอนนั้นที่เธอไม่ได้ควบคุม เธอปล่อยร่างกายให้เป็นธรรมชาติ และจัดการพวกนั้นตามวิถีของโรคบ้าๆ นี่
ซิงค์เห็นหนูนายืนตัวลีบก็อดหัวเราะไม่ได้ เขาค่อยๆ ขยับเข้าไปยืนใกล้ๆ เธอ โดยที่เธอไม่รู้ตัว
ติ๊ง~!
หนูนาลืมตาขึ้นมาเมื่อลิฟท์มาหยุดอยู่ในชั้นที่ซิงค์กด แต่แล้วเธอก็ต้องสะดุ้ง เขามายืนอยู่ข้างๆ เธอตอนไหนก็ไม่รู้ ที่สำคัญตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนเหงื่อออกทั้งที่อาการเริ่มร้อน ซิงค์ก้าวเท้าออกจากลิฟท์ไปในขณะที่ตาของหนูนาเริ่มลาย
“อ้าวเธอ
ตามมาเร็วๆ สิ”
หนูตาข่มอาการก่อนจะเดินตามเขาออกไป ดีนะ
ที่ไหล่ของเขาไม่ได้กระทบกับไหล่ของเธอ ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องเจ็บตัวมากกว่าเดิมแน่ๆ เมื่อวานแขนหัก วันนี้อาจจะเปลี่ยนเป็นดั้งหักเพราะโดนเธอต่อย
เฮ้อ
การเป็นบอดี้การ์ดให้พวกผู้ชายนี่มันไม่ปลอดภัยจริงๆ หนูนาคิดอย่างนั้น
ซิงค์เดินมาหยุดอยู่ที่ห้องๆ หนึ่ง ประตูทำจากไม้สักแกะสลักอย่างดี หน้าห้องมีเลขานุ่งสั้น อกอึ๋มก้มทีเห็นภูเขาไฟฟูจิกำลังปะทุ (ยัยหนูนามันคิดเองนะยะ! ปอมปาร่ามิเกี่ยว~) ซิงค์ยิ้มให้เลขานุ่งสั้นเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตู
แต่เดี๋ยวก่อน ยัยหนูนาบอดี้การ์ดของเขายังไม่คายหมากฝรั่งที่รับมาจากนายพัชออกเลย เธอยังคงเคี้ยวส่งเสียง ‘แจ๊บๆ’ กระทบโสตประสาทของเขา
“นี่เธอ
กรุณาคายหมากฝรั่งออกด้วย มารยามน่ะมีมั้ย?!” เขารู้สึกหงุดหงิดจึงขึ้นเสียงใจเธอ ในขณะที่เธอแอบเบ้ปากใส่เขาก่อนจะไปคายทิ้งที่ถังขยะ
เขาเองก็หาคำตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมอยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีคนเอาไฟมาจุดในหู จนเหมือนมีควันออกมา อาจจะเป็นเพราะเค้าไม่ชอบที่เธอไม่รู้จักมารยามก็เป็นได้ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
เขาเปิดประตูห้องเข้าไป ผู้เป็นแม่เงยหน้ามองผู้มาเยือนก่อนจะยิ้มกว้าง เขารีบเขาไปอ้อนแม่ของตัวเองทันที
“คุณแม่ครับ เหนื่อยมั้ยเอ่ย?” ซิงค์ถามก่อนจะหอมแก้มผู้เป็นแม่ทั้งสองข้าง
“โห~ แค่ลูกมาหาแม่ก็หายเหนื่อยแล้วจ้ะ”
หนูนามองการกระทำของสองแม่ลูกแล้วเหมือนตัวเองเป็นคนนอก นายซิงค์เองลากเธอมาทำไมก็ไม่รู้ นี่มันเป็นเรื่องในครอบครัวของเขาทั้งนั้น!
“อ้าว~ หนูนามาด้วยเหรอจ้ะ นั่งก่อนสิ” คุณหญิงเอ่ยทักทันทีที่เห็นบอดี้การ์ดสาว เธอเองก็แปลกใจไม่น้อยที่ลูกชายพาหล่อนขึ้นมาหาเธอ หากแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
หนูนาเพียงแต่ยิ้มให้ก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟา อ่านนิตยสารรอเจ้านายของเธอ
ซิงค์เดินนำหนูนาลงมาที่ด้านล่างของบริษัท เขาหันไปมองหน้ามุ่ยๆ ของหญิงสาวก่อนจะหันมายิ้มให้กับตัวเอง
เรื่องสนุกยังไม่จบแค่นี้หรอก หนูนา หึๆๆ
ความคิดเห็น