คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Dream: ความใฝ่ฝัน
บ้านชอว์น
27 พฤศจิกายน 2035 7.30 น.
“ชอว์น คุณมีความฝันไหมครับ”
แดเรียลโพล่งขึ้นมา ตอนนี้ผมกำลังพยายามแกะถุงแป้งวาฟเฟิลตามลูกศร
โพละ!
ถุงแป้งระเบิดออก เศษแป้งสาลีกระจัดกระจายไปทั่วครัว แดเรียลหันหน้ามาทำหน้าเหนื่อยหน่าย ผมกลัวเขาดุเลยก้มหน้าลงแบบสำนึกผิด
“ซุ่มซ่ามจังเลยนะครับ” แอนดรอยด์ตัวใหญ่ส่ายหัว แล้วเดินไปหยิบเครื่องดูดฝุ่นมาทำความสะอาดครัว ผมก้มหน้าสำนึกผิดที่อยากลองทำวาฟเฟิลเองตอนเช้าวันจันทร์แบบนี้แทนที่จะให้เขาทำให้เหมือนทุกที
“เงยหน้าขึ้นมาหน่อยสิครับ”
“ไม่โกรธใช่ไหม?” ผมตอบเสียงอ่อย
เขาใช้มือขวาเชิดคางของผมขึ้นมา เอานิ้วแตะแป้งสาลี วาดลงบนหน้าผมเป็นเส้นฝั่งละสามเส้น แล้วหัวเราะคิกคัก
“นายทำอะไรน่ะ” ผมร้อง
“ก็มนุษย์เวลาทำผิดมักจะโทษว่าแมวทำนี่ครับ” แดเรียลยังคงจับปลายคางของผมอยู่
“นายไปจำมาจากไหน” เขายังไม่หยุดมือ เอานิ้วจิ้มแป้งปะจมูกผมแล้ววาดเป็นวง สายตาของเขาจ้องผมอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนไฟ Led ข้างหัวของเขาจะกะพริบเหมือนรับคำสั่งอะไรบางอย่างเสร็จสิ้น
“แมวน้อยของผมต้องไปอาบน้ำแล้ว ให้เวลา 15 นาที วาฟเฟิลจะพร้อมเสิร์ฟครับ”
“แต่ผมไม่อยากให้คุณไปไหนเลย...” เขาเอานิ้วแตะแป้งอีกรอบแล้ววาดปากแมวบนปากของผม หัวใจผมเต้นแรงขึ้น การถูกสัมผัสที่ปากทำให้ผมเขิน และแดเรียลต้องรู้แน่
“ผม...ขอ...” แดเรียลพูดช้าๆ
ปิ๊งป่อง! ปิ๊งป่อง!
“ไก่ทอดบังคับส่งครับ” เสียงยูจีนตะโกนมาจากหน้าบ้าน จังหวะนี้ที่แดเรียลชะงัก ผมผละตัวออกแล้ววิ่งไปเปิดประตู
“อ้าว คุณแมวน้อย วิลให้เอาไก่ทอดมาส่งครับ” ยูจีนยิ้มแฉ่ง ตั้งแต่ผมส่งเขาไปทำงานกับวิลเลี่ยม นี่ก็ผ่านมาเกือบเดือนนึงแล้วสินะ ยูจีนดูมีความสุข วิลก็เริ่มขยับขยายสาขา มีการจ้างงานคนของยูจีนไปบ้าง การกินอาหารที่มนุษย์ทำเริ่มจะกลายเป็นแฟชั่น ซึ่งทำให้ธุรกิจของวิลไปได้ดี เขาเลยมักให้ยูจีนส่งไก่ทอดแสนอร่อยมาให้ผมบ่อยๆ เวลามีลูกค้าบ้านใกล้ๆ สั่ง
“สบายดีไหมเรา” ผมถามเขา เอามือปัดคราบแป้งออก
“ขอบคุณมากนะครับ ที่แนะนำงานนี้ให้ผม” ยูจีนยิงฟัน
“เอ่อ ผมขัดจังหวะอะไรอยู่หรือเปล่าครับ” แดเรียลเดินมาสีหน้าบ่งบอกว่าหงุดหงิดอะไรบางอย่าง ไฟ Led เป็นสีเหลือง
“ไม่ ไม่เลย ทำงานให้สนุกนะ” ผมยิ้มให้ยูจีน
“คร้าบบบบ” ยูจีนกลับไปที่รถขนสินค้าขนาดเล็ก ผมกลับเข้าไปในครัว
“ไปอาบน้ำสิครับแมวน้อย เดี๋ยวจะสายเอานะ” แดเรียลเตือน
“อย่าล้อผมแบบนั้นสิ” ผมตะโกนไล่หลังเขาที่เดินกลับเข้าไปในครัว ส่วนผมกำลังขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องนอน ที่ตอนนี้มี 2 เตียงแล้ว ผมไม่ชอบให้แดเรียล ‘ยืน’ ดูผมนอนทั้งคืน และตัวเขาก็ใหญ่ไปที่จะนอนเตียงเดียวกับผม
ผมเลยต้องซื้อเตียงเพิ่มให้เขา เรานอนห้องเดียวกัน เพราะห้องอื่นเต็มไปด้วยสิ่งของไร้ประโยชน์ที่ผมพยายามสะสมไว้ เช่นพวกหนังสือการ์ตูน ของเล่น ข้าวของเครื่องใช้ของมนุษย์เมื่อสามสิบปีที่แล้ว
ผมแต่งตัวสบายๆ ใส่กาวน์ยาวของ Cyber Life นั่งลงตรงโต๊ะอาหาร แดเรียลยกอาหารมาเสิร์ฟ
“อาหารเช้าวันนี้ ไก่ทอดเสิร์ฟบนวาฟเฟิลราดซอสเนยเมเปิลครับ”
“สุดยอดไปเลย ผมคิดถึงร้านนี้จัง” ผมนึกถึงร้านวาฟเฟิลตรงคลินตันสตรีท ถ้าได้ไปนั่งกินวาฟเฟิลตอนเช้า ในวันที่มีแดดอุ่นๆ มันคงจะวิเศษไปเลย
“ผมอยากได้น้ำส้มคั้น” ผมมองแดเรียลที่ตอนนี้จ้องผมใหญ่
“ลองพูดว่า ‘เมี้ยว’ ด้วยสิครับ” เขาเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบน้ำส้มคั้นสำเร็จรูปมาเทใส่แก้วของผม
“นายเนี่ย เล่นไม่เลิกเลยจริงๆ ผมชักจะหงุดหงิดแล้วนะ”
“จริงด้วย หน้าคุณแดงใหญ่เลย” แดเรียลล้อเลียน พฤติกรรมของเขาเหมือนคนเลยทีเดียว และที่สำคัญ เขาดูเหมือนจะก้าวข้ามเส้นแบ่งความเป็นส่วนตัวของผมมา ผมเคยถามเขาว่าทำไม เขาถึงกล้าเล่นอะไรแบบนี้กับผม เขาตอบแบบยียวนกลับมาว่า ‘ผมเป็นของคุณแล้ว แล้วคุณจะเป็นของผมด้วยไหม?’ ฟังดูพิลึกจริง สงสัยต้องเอาไปปรึกษาฮอว์คอย่างจริงจังซะที
Cyber Life Meeting Room
27 พฤศจิกายน 2035 10.00 น.
“ปัญหาใหญ่ของเมืองตอนนี้คือ ผู้คนตกงาน และเกือบทั้งหมดโทษว่าเป็นเพราะแอนดรอยด์” แคมสกี้กล่าวกลางที่ประชุม
“ชอว์น คุณมีอะไรเสนอบ้างไหม” แคมสกี้เล็งมาทางผม ให้ตายสิ เขามองผมออกเสมอ
“ผมพบว่า ตอนนี้กระแสความนิยมอาหารที่ผลิตจากฝีมือมนุษย์กำลังมาแรงครับ”
“พูดต่อสิ” แคมสกี้พูด
“เราน่าจะปรับแผนจากการผลิตอาหารสำเร็จรูป เป็นการสร้างเครื่องอำนวยความสะดวกและสนับสนุนอาชีพไปพร้อมกัน”
“ยังไงล่ะ” ฮอว์คถาม
“เราสามารถเปลี่ยนจากอาหารสำเร็จรูป เป็นอาหารสดพร้อมปรุง ส่งไปยังร้านค้าต่างๆ หรืออาจจะเปิดร้านค้าของเราเองก็ได้”
ผมเปิดสไลด์ “เมื่อมีอาหารสดเข้ามาแทนอาหารสำเร็จรูป จะมีการจ้างงานตรงส่วนหน้าร้าน ส่วนเราจะกลายเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่แทนครับ” ภาพสไลด์แสดงถึงขั้นตอนและกระบวนการทางโลจิสติกส์ “และเรายังต่อยอดไปสู่สินค้ารายการอื่นๆ เช่นกิจการบริการ งานศิลปะทำมือ”
“ผมว่ามันยุ่งยาก เราขายอาหารสำเร็จรูปง่ายกว่า ไม่ต้องสนคนพวกนั้นหรอก” ฮอว์คพูด
“แอนดรอยด์ของเราก็สามารถทำทุกสิ่งที่คุณว่ามาได้ แถมไม่ต้องลาป่วย ลากิจ ให้เสียเวลา” ผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นเสริม ผมชักจะเสียกำลังใจ
เอาล่ะ แต่ผมก็มีอุดมการณ์ของผมเหมือนกัน ผมต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
“เราจะเกาะกระแสการต่อต้านแอนดรอยด์นี้ครับ” ผมเว้นวรรค “การขายวัตถุดิบเกือบสำเร็จรูปเป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว จนระบบแอนดรอยด์เข้ามาแทนที่ พวกเราจัดการแทนพวกเขาทั้งหมด"
"และนั่นทำให้พวกเขาตกงาน” คนหนึ่งในที่ประชุมเสริม
“เราต่างก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แรงงานไร้ฝีมือตกงานทันทีที่แอนดรอยด์ทำงานบางอย่างได้แทนมนุษย์ ส่วนแรงงานที่มีฝีมือก็ทยอยตกงานเพราะเครื่องจักรก็ทำได้ดีกว่า” ผมร่ายยาว แคมสกี้หลิ่วตาตรงมาที่ผม
“สักวัน พวกเราอาจถูกแทนที่ด้วยแอนดรอยด์ก็ได้ ใน Cyber Life นี้” ผมสรุป
“ยอดเยี่ยมมาก!”
แคมสกี้ปรบมือเป็นจังหวะช้าๆ สองสามที เขาลุกขึ้นยืน ทุกคนในห้องจับจ้องเขา
“ก่อนที่เราจะกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไร้ค่า เราต้องทำอะไรสักอย่างให้ตัวเองมีคุณค่า” แคมสกี้กล่าว “ผมสนับสนุนคุณ ชอว์น เราจะใช้กระแสนี้ปรับโครงสร้างของรัฐ บางทีเราอาจจะทำทุกอย่างให้เกือบเสร็จ แล้วจ้างมนุษย์มาทำต่อให้สำเร็จแบบที่คุณว่า”
“กำไรจะมาจากเครื่องแปรรูปวัตถุดิบ และยอดขายของร้านสาขาครับ” ผมเสริม คนในที่ประชุมเริ่มเห็นทางไปต่อของแผน ผมใจชื้นขึ้นมาบ้าง
“ดีเหมือนกัน บางทีนี่อาจจะช่วยให้มนุษย์จำนวนหนึ่งมีงานทำ แต่มันก็ไม่ได้แก้ไขต้นตอของปัญหาหรอกนะ” ฮอว์คแย้ง
เราต่างก็รู้ว่าต้นตอของปัญหาคืออะไร ความแตกต่างทางชนชั้นทำให้คนรวยเลือกซื้อแอนดรอยด์แทนการจ้างงาน แอนดรอยด์ทำงานได้ดีและไม่บ่น ไม่ต้องการสวัสดิการ และยังทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข
“ถ้าแอนดรอยด์ทำทุกอย่างแล้วจะเหลืออะไรให้มนุษย์ทำกันล่ะ” ผมถาม
“มีชีวิตอย่างสุขสบาย...ล่ะมั้ง” แคมสกี้พูดติดตลก
“เอาเป็นว่า ผมสนับสนุนทฤษฎีขายฝันของชอว์นไปก่อน เพราะตอนนี้เราต้องเร่งผลิตแอนดรอยด์สู้รบเพื่อแย่งชิงคาบสมุทรอาร์กติก รัฐอนุมัติคำสั่งซื้อจำนวนมาก ฝั่งรัสเซียก็กำลังพัฒนาหุ่นเหมือนเรา”
“น่าตลกดีนะครับ เหมือนเอาทหารของเล่นมาสู้กัน” ฮอว์คหยัน
“นี่แหละความสนุกของมนุษย์... เลิกประชุมได้” แคมสกี้กล่าวปิด
โฮโลแกรมของผู้เข้าร่วมประชุมหายวับไป เหลือเพียงแค่ผมกับฮอว์ค
“นายคิดว่านี่จะแก้ปัญหาได้จริงๆ หรอ” ฮอว์คถามแบบเพื่อน เขาเสยผมหนึ่งที ผมรู้ว่าเขากำลังสับสน จริงอยู่ที่การช่วยเหลือผู้คนมันยุ่งยาก แต่ทุกคนก็ต่างรู้ดีว่าวันหนึ่งแอนดรอยด์อาจจะมาแทนที่พวกเรา สักวันอาจจะเป็นแอนดรอยด์ที่นั่งเขียนโปรแกรมสร้างแอนดรอยด์เอง ส่วนมนุษยชาติจะเป็นยังไงต่อไปก็สุดแล้วแต่อนาคต
“ผมว่าเราต้องลองทำดู” ผมยืนยัน
“Deviant เป็นยังไงบ้าง” ฮอว์คถาม เขาหมายถึงแดเรียล
“เขาชื่อแดเรียล... ผมว่าเขามีท่าทีแปลกๆ เขาเหมือน...”
“เหมือนอะไร พูดมา” ฮอว์คดุ
“เหมือนจะข้ามเส้น เขาทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของผมเลยฮอว์ค”
“หมายความว่า...”
“ใช่ พฤติกรรมของเขาเหมือนกำลังจีบผม”
“ยังไงบ้าง” ฮอว์คกอดอก สีหน้าเคร่งเครียด
“ผมเปิดดูไฟล์ที่แดเรียลบันทึกไว้ ไฟล์ส่วนใหญ่ของเขาคือรูปผม” ผมส่งแท็บเล็ตให้เขาดูแล้วเหลือบไปเห็นรูปเมื่อเช้า เลยเอามือไปบังไว้ หวังว่าฮอว์คคงไม่เห็นผมหน้าแมวนะ
“คุณว่าแอนดรอยด์มีความรักได้จริงหรือ” ฮอว์คพูดเสียงเรียบ และเบา ความที่เป็นเพื่อนกันมานานทำให้ผมรู้ว่าเขาขัดใจอะไรสักอย่าง
“คนเขียนโปรแกรมคือพวกเรา คุณกับผมเขียนให้เขา ‘เรียนรู้’ ผมว่าน่าจะได้นะ” ผมใช้ความคิด
“ความรักเกิดจากการเรียนรู้กันและกัน” ผมเสริม
“ผมหวงคุณนะชอว์น ผมจะไม่ยอมให้คุณแต่งงานกับหุ่นผิดปรกตินั่น” ฮอว์คพูดสบายๆ แต่ทำไมไม่รู้ผมรู้สึกว่าเขาพูดจริง
“อย่ามาล้อเล่นน่า” ผมแกล้งกลบเกลื่อน
บ้านชอว์น
27 พฤศจิกายน 2035 23.00 น.
“คุณยังไม่ตอบผมเลยว่าคุณเคยมีความฝันไหมครับ” แดเรียลถามเสียงอ่อนโยนขณะที่เรากำลังนอนดูดาวด้วยกันอยู่
“ฮอว์คเคยหัวเราะความฝันของผม” ผมเอ่ย ตายตามองขึ้นไปยังเพดานโปร่งแสง พวกเราย้ายมานอนในเรือนกระจกเพื่อนอนดูดาวด้วยกัน เราหันหัวที่นอนชนกันแต่มีหมอนใบใหญ่ใบเดียว แดเรียลใช้หมอนอีกฝั่งของผมหนุนหัวไว้ ไฟ Led ของเขากะพริบเป็นสีฟ้า
“เล่ามาสิครับ ผมสัญญาว่าจะไม่หัวเราะ” แดเรียลหันมามองผม แต่ตาของผมยังจับจ้องที่กลุ่มดาว
“คุณเคยดูการ์ตูนเรื่อง The Jetsons ไหม?”
“ไม่เคยครับ”
“ผมฝันว่าสักวันหนึ่ง แอนดรอยด์กับมนุษย์จะอยู่ร่วมกันได้เป็นสุขแบบนั้น... ไม่มีใครตกงาน ถึงแม้เจ้านายของจอร์จจะดุไปหน่อยก็ตาม แอนดรอยด์อย่างโรซี่จะช่วยให้ชีวิตสะดวกสบาย มนุษย์ไม่สูญเสียคุณค่า ผมฝันว่าอยากเห็นโลกแบบนั้นจริงๆ ”
แดเรียลขยับศีรษะของเขามาแนบกับแก้มของผม
“คืนนี้ดาวสวยดีนะครับ”
“ไหน นายมองดาวดวงไหนอยู่”
“ดาววีการ์ ดาวอัลแตร์ และดาวเดเนป เห็นไหมครับ ดาวสามดวงที่สว่างที่สุด”
“เห็นสิ”
“แต่นั่นไม่สวยเท่าดาวสามดวงตรงนี้หรอกครับ”
ผมรู้ว่าแดเรียลหมายถึงอะไร... ที่แก้มของผมมีไฝเล็กๆ สามจุดเป็นกลุ่มดาวที่น้อยคนนักจะสังเกตเห็น ผมเคยคิดว่าจะไปลบออก แต่แม่ของผมชอบมัน เลยให้ผมเก็บเอาไว้
“แดเรียล ผมชักง่วงแล้วล่ะ” ผมแกล้งง่วงแก้เขิน ผมแสร้งทำเป็นนอนหลับ สักพัก แดเรียลก็ลุกมาสำรวจ
“ราตรีสวัสดิ์ครับ” แดเรียลจุมพิตลงบนกลุ่มดาว อุณหภูมิบนใบหน้าของผมร้อนผ่าวตรงจุดที่แอนดรอยด์จูบ แม้จะเย็นๆ แต่มันนุ่ม อ่อนโยน และแผ่วเบา เขาขยับผ้าห่มให้ผม ให้ตายสิ คืนนี้ผมจะหลับลงไหม
”
อย่าแกล้งหลับอีกนะครับ
ผมเป็น Deviant ที่มีความอดทนต่ำ
คุณก็รู้...
”
ผมยังคงแกล้งหลับต่อไป ไม่รู้ว่าผมหลับจริงๆ ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ หัวใจของผมมันมีอาการแปลกๆ ตอบสนองกับพฤติกรรมของแดเรียล ผมไม่รู้สึกว่ามันผิดแผก กลับกันผมรู้สึกว่ามันเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ มันสวยงาม อ่อนโยน และอบอุ่น ทำให้ผมต้องเริ่มคิดนิดๆ แล้วว่า 'คนเราจะมีความรักกับแอนดรอยด์ได้ไหมนะ? '
____________________________________________________________
เด็กๆ รู้จัก The Jetsons กันไหมเอ่ย (ดักแก่)
มันเป็นการ์ตูนเกี่ยวกับโลกอนาคตตั้งแต่ปี 1962 รุ่นพ่อแม่ของชอว์นเลยล่ะค่ะ
ในเรื่องครอบครัวเจ็ทสันส์มีหุ่นยนต์แม่บ้านชื่อโรซี่ เรื่องราวน่ารักดีค่ะ
ส่วนกลุ่มดาวที่แดเรียลและชอว์นมองกันคือ
ดาวจากแผนที่ดวงดาวในเดือนพฤศจิกายน
อ้างอิงจาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ไทย
เห็นดาวสามดวงนั่นไหมคะ คือกลุ่มดาววีการ์ อัลแตร์ และเดเนป นั่นเองค่ะ
เหมือนดาวที่แก้มของคุณชอว์นเป๊ะเลย
ความคิดเห็น