คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Alive: มีชีวิต
“แดเรียล นายเคยคิดจะมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้างไหม?”
ผมกำลังซ่อมนิ้วมือของเขาอยู่ ระบบจำลองผิวหนังมนุษย์ถูกปิดอยู่บางส่วน เผยให้เห็นนิ้วมือสีขาวที่มีเลือดสีฟ้าไหลซึมออกมา ผมหยิบสารเคมี Thirium0825 ที่ใช้แทนพลังงานของแอนดรอยด์มาเติมให้เขา แดเรียลไม่ตอบผม เขาทาบนิ้วของผมกับนิ้วของเขา อุณหภูมิจากนิ้วของเขาเย็น สัมผัสเหมือนอะลูมิเนียม ขนาดมือของเขาใหญ่กว่ามือของผมอย่างเห็นได้ชัด
“ผมไม่มีชีวิตครับชอว์น ผมเป็นแค่แอนดรอยด์ แอนดรอยด์ที่กำลังหลงทาง”
“นายคิดว่าชีวิตแปลว่าอะไรกันล่ะ”
มือขวาของผมทาบกับมือซ้ายของเขาอยู่ตอนนี้ เขามองดูมือของผมอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะเปลี่ยนมากุมมือผมไว้
“มือของคุณเล็กมากครับ จังหวะหัวใจของคุณทำให้ผมรู้สึก...”
“รู้สึกอะไรหรือ?”
“ผมรู้สึกถึงการมีชีวิตมั้งครับ”
ไฟ Led ข้างศีรษะของเขากะพริบ เขาเงยหน้าขึ้นมา เราสบตากัน เขามองลึกเข้ามาในดวงตาของผม ทำให้ผมเห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลของเขา ใบหน้าของเขาถูกออกแบบให้เป็นมิตร ตาลักษณะยิ้มนี้เป็นเอกลักษณ์ของแอนดรอยด์รุ่น RK1210 ที่ตอนนี้มีแค่ตัวเดียว
“นายอยากทำอะไรบ้างล่ะ” ผมถามเขา ตามปรกติแล้ว แอนดรอยด์จะเป็นฝ่ายถามมนุษย์ว่า
คุณอยากให้ผมทำอะไร? เสียมากกว่า แดเรียลนิ่งไป ก่อนจะเอ่ยออกมาเบากว่าปรกติว่า
“ผมอยากทำอาหารให้คุณทาน” ผมเลิกตาอย่างสนใจ
“ผมชอบเห็นเวลาคุณกิน... เพราะแอนดรอยด์แบบผมไม่ต้องกินอาหาร”
“พูดให้ถูกคือกินไม่ได้ใช่ไหมล่ะ” ผมหัวเราะเบาๆ ในความจริงจังของแดเรียล
แต่ก็มีแอนดรอยด์บางรุ่นที่สามารถกินอาหารได้ ส่วนใหญ่จะเป็นแอนดรอยด์เด็ก ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมีลูก ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงไม่มีลูกกันจริงๆ แต่นั่นก็ทำให้บริษัทผมทำยอดขายได้สูงพอประมาณสำหรับโปรเจกต์นี้ มันคงเหมือนที่คนสมัยก่อนชอบเล่นตุ๊กตาเสียละมั้ง ใครๆ ก็เหงากันทั้งนั้น
“ผมอยากกิน S'more คุณนั่งเป็นเพื่อนผมได้ไหม ผมไม่ได้สั่งคุณนะแดเรียล ผมถาม”
“ผมอยากนั่งใกล้ๆ คุณ ครับ”
พวกเรากลับมาที่บ้านในเวลาเกือบเที่ยงคืน น่าแปลกที่คืนนี้ฟ้าสว่างไปด้วยดวงดาวฤดูใบไม้ร่วง ผมหิ้วถุงมาร์ชแมลโล และบิสกิตเคลือบช็อกโกแลตมานั่งที่เทอร์เรซชั้นสองของบ้าน มุมนี้เป็นมุมโปรดของผมตอนกลางคืน ผมชอบมองท้องฟ้ายามดึก แม้แสงไฟจากเมืองดีทรอยต์จะกลบแสงดาวไปบ้าง แต่การได้มองท้องฟ้าที่มีดาวบ้างนั้น ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย
“ทำแบบนี้สิ” ผมหยิบมาร์ชแมลโลเสียบแท่งอะลูมิเนียม ผิงกับเตาผิง สักพักกลิ่นน้ำตาลเกรียมก็โชยมา ผมเอามาร์ชแมลโลที่เผาไฟแล้ววางบนบิสกิตเคลือบช็อกโกแลต แล้วประกบอีกชั้น แล้วกัดคำใหญ่
“อร่อยไหมครับชอว์น”
“สุดๆ ไปเลยล่ะ” ผมยิ้มตาหยี
แดเรียลเอามือมาแตะที่แก้มข้างซ้ายของผม “ผมเจอดวงดาวบนหน้าของคุณด้วยล่ะ มีตั้งสามดวงแน่ะ”
ผมปัดมือเขาออกอย่างเขินอาย สงสัยทีมของผมจะเขียนโปรแกรมเก่งเกินไปหน่อยหุ่นแอนดรอยด์ผิดปรกติตัวนี้ถึงได้แสดงอะไรแบบนี้ออกมา ลมเย็นๆ พัดมาปะทะจนใบหน้าของผมเริ่มแสบนิดๆ แดเรียลถอดเสื้อโค้ตของเขามาคลุมตัวผม ไม่นานนักผมก็ผล็อยหลับไป
บ้านชอว์น
22 ตุลาคม 2035 8:00 น.
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดเข้ามาในบ้าน ผมลืมตาขึ้นเห็นตัวเองนอนอิงอยู่หน้าเตาผิงในบ้าน เขาคงอุ้มผมเข้ามาเมื่อคืน ช่วงนี้การประท้วงทำให้ทีมวิจัยทำงานหนักขึ้น เราต้องคิดค้นระบบป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ตามคำสั่งของรัฐบาล ผมแทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย เช้าวันอาทิตย์แบบนี้จึงทำให้ผมไม่อยากขยับตัวไปไหน ผมเบือนหน้าหลบแสงอาทิตย์ที่สาดเข้ามา
“ตื่นแล้วหรือครับ?” ผมเพิ่งสังเกต ผมนอนหนุนตักแดเรียลอยู่ เขาก้มมองใบหน้าผม สายตาเราประสานกัน เขาไล้ปลายผมของผมอย่างแผ่วเบา ผมหลับไปนานแค่ไหนกันนะ
“ผม ผมขอโทษนะแดเรียล คุณเมื่อยมั้ย”
“ผมจะเมื่อยได้อย่างไรกันครับ” แอนดรอยด์หัวเราะคิกคัก
“อ่าห์ นั่นสินะ ผมมานอนบนตัวคุณได้อย่างไรกัน”
“ผมอุ้มคุณเข้ามาแล้ว กำลังจะพาคุณไปนอนบนเตียง แต่คุณกลับขยำเสื้อผม” ไฟ LED กะพริบเป็นสีเหลืองอ่อนๆ
“ผมอยากมองตอนคุณนอนครับ”
ใบหน้าของผมเริ่มอุ่นขึ้นมา แอนดรอยด์ตัวนี้สังเกตพฤติกรรมผมตลอดเวลา ผมชักสงสัยแล้วว่าในสมองกลของแอนดรอยด์ของผมเนี่ยคิดอะไรอยู่บ้าง
“วันนี้ไม่มีกำหนดการครับชอว์น คุณสามารถนอนต่อได้ แต่คุณควรแปรงฟันก่อน เมื่อคืนนี้คุณกินขนมหวาน ที่เป็นสารอาหารของแบคทีเรีย มันจะทำให้ฟันของคุณผุได้” แดเรียลร่ายยาว ผมปัดมืออย่างเสียอารมณ์ ความที่เขาเคยเป็นหุ่นยนต์หมอนี่มันน่ารำคาญจริงๆ ให้ตายสิ
ผมลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำในห้องนอน ขณะที่แดเรียลเริ่มเตรียมอาหารเช้า เขาใส่ผ้ากันเปื้อนสีดำตัดกับเชิ้ตสีขาวตัวโปรด เวลาทำอาหารเขาดูทะมัดทะแมงดีจริงๆ ผมสำรวจตัวเองหน้ากระจก ผมของผมเริ่มยาวหน่อยๆ แล้ว มันปรกหน้านิดๆ
รัฐบาลมีอิทธิพลต่อ Cyber Life มาก เพราะความต้องการด้านกำลังทหาร ไม่มีการส่งมนุษย์ไปสู้รบแต่อย่างใด ผมลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้ามีแอนดรอยด์ทหารบางตัวเป็น Deviant ล่ะ ถ้าเขาไม่อยากไปสู้รบ แต่แค่อยากดูแลเด็กๆ อยู่ในบ้านบ้างล่ะ มันจะยุติธรรมกับพวกเขาไหม
ฮอว์คเป็นคนตีประเด็นนี้ตกไปว่า “ไร้สาระ” เขาเชื่อว่าแอนดรอยด์ต้องเชื่อฟังมนุษย์ และสิทธิแอนดรอยด์ก็ไม่ต่างจากสิ่งของ นั่นเป็นข้อดีข้อเดียวที่ทำให้เกิดกฎหมายห้ามทำร้ายแอนดรอยด์ เพราะแอนดรอยด์ถือเป็น ‘ทรัพย์สิน’ การกระทำการใดๆ ให้แอนดรอยด์ของผู้อื่นเกิดความเสียหาย มีความผิดตามกฎหมายฐานทำให้เสียทรัพย์
ผลประชาพิจารณ์ออกมาสอดคล้องกับแนวคิดของแคมสกี้ ผู้คนอยากได้แอนดรอยด์ไว้ใช้งานมากกว่ากลัวว่าวันนึงมันจะมาปกครองเรา ดังนั้นหน้าที่หลักของผมกับฮอว์คคือเขียนโปรแกรมให้แอนดรอยด์ทำงานได้เยอะขึ้น และไม่มีทางปฏิเสธมนุษย์ แต่ส่วนที่ฮอว์คเขียนต่อจากแคมสกี้นั้นไม่สำเร็จสักที เห็นว่าฮอว์คกับแคมสกี้ กำลังร่วมมือกันเขียนโปรแกรมสำหรับควบคุมหุ่นยนต์ตำรวจที่จะออกมาในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยใช้ชื่อของอาจารย์ของแคมสกี้ว่า “Amanda”
“อาหารเช้าเสร็จแล้วครับ” เสียงแดเรียลตะโกนเรียกผม
“วันนี้มีอะไรกินล่ะ” ผมเดินลงบันไดมา เชฟของผมยืนหล่ออยู่ข้างโต๊ะ สีหน้าภาคภูมิใจ
“มื้อเช้าเป็น Porsche Egg วางบนขนมปังโฮลวีต และแซลมอนรมควันแร่บางครับ” เชฟมือใหม่ที่เพิ่งถูกลงโปรแกรมอธิบาย
“น่ากินจัง” ผมเริ่มตักอาหารเข้าปาก ความอุ่นกำลังดี ไข่ดาวน้ำที่ไข่ขาวสุข ไข่แดงเป็นยางมะตูมนี่สุดยอดไปเลย แซลมอนรมควันก็ให้กลิ่นหอม
“วันนี้เราจะทำอะไรกันดีครับ” แดเรียลถามผมหลังจากเรากินอาหารเช้าเสร็จ เขายังจ้องมองผมกินข้าวเหมือนเคย แต่ผมเริ่มจะ ‘ชิน’ กับพฤติกรรมแปลกๆ ของเขาแล้ว
“ปลอกคอนายยังอยู่ดีหรือเปล่า” แดเรียลปิดระบบจำลองผิวหนังเสมือนให้ผมสำรวจ มันยังอยู่ดี แล้วระบบผิวหนังเสมือนก็ทำงานอีกครั้ง
“มันคืออะไรหรือครับ”
“นายรู้จักเส้นสายไหม? ถ้านายมีเส้นสาย นายก็เข้าได้ทุกที่น่ะแหละ” ผมยิ้มมุมปาก
“เพียงแต่เส้นสายของนายทำงานใน Cyber Life และหล่อด้วย” ผมหัวเราะ
“คุณนี่ท่าจะบ้าแบบที่คุณฮอว์คบอก” แดเรียลส่ายหัว
หลักการทำงานของปลอกคอนั้นคือ ผมใส่ข้อมูลลงไปในระบบว่า ‘มิสเตอร์ แดเรียล ออสเนอร์’ อายุ 21 ปี เป็นผู้ร่วมวิจัยทีมเดียวกับผมใน Cyber Life ดังนั้นมันจึงเหมือนบัตรผ่านทุกหนทุกแห่งของโดเรมอนในศตวรรษที่ 22 เพียงแต่มันเกิดเร็วขึ้นก็เท่านั้น
“ผมให้คุณเลือก แดเรียล วันนี้คุณอยากทำอะไร?” ผมอยากรู้ว่าเขามีความเป็นมนุษย์มากเพียงใดแล้วตอนนี้
“ผมอยากฝึกใช้ปืนครับ”
“งั้นเราไปที่ Cyber Life กัน”
ศูนย์วิจัย Cyber Life
ห้องจำลองการสู้รบ
ที่ Cyber Life แผนกวิจัยแอนดรอยด์สำหรับสู้รบ มีสนามจำลองการรบอยู่ ผมสามารถขอใช้ได้ในวันอาทิตย์ เพราะเป็นวันหยุด ผมเริ่มจากการยิงเป้านิ่ง และเป้าบิน สำหรับมนุษย์อย่างผมแล้ว มันค่อนข้างยากเลยทีเดียว
“โห แม่นมาก”
คะแนนของเขาได้ 100/100 สูงกว่าแอนดรอยด์สู้รบทุกตัวที่มีมา คงเพราะความเสถียรเฉพาะของแกนข้อมือที่ใช้สำหรับผ่าตัด พอมาประยุกต์ใช้กับอาวุธทำให้ไม่เกิดความผิดพลาดเลย
แดเรียลเข้าด่านทดสอบอื่นๆ เขาดูสนุกกับการยิงปืนเลเซอร์จำลอง และเป็นผู้นำทีมที่ยอดเยี่ยมในเกมรบ 5 vs 5 โดยที่ผมนั่งชมอยู่ในห้องควบคุม ไม่นานนัก ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากฮอว์ค
“นายว่าอะไรควบคุมแดเรียลได้ ถ้าเขาเป็น Deviant แบบนี้”
“ใครสักคนล่ะมั้ง ไม่งั้นก็เหมือนคนเราน่ะแหละที่ต้องใช้สามัญสำนึก” ผมตอบโดยอัตโนมัติ
“...ขอบใจมาก” ฮอว์คนิ่งไปสักพัก แล้ววางสาย
เป็นเวลาหลายชั่วโมงที่แดเรียลเล่นอยู่ใน Cyber Life ผมเริ่มจะหิวแล้ว
“แดเรียล เข้าเมืองไปหาอะไรกินกัน”
“ได้เลยครับชอว์น”
“นายก็รู้ผลลัพธ์ว่านายจะชนะ สมองกลของนายฉลาดจะตาย แล้วนายจะเล่นเกมพวกนั้นไปทำไมล่ะ” ผมถามแดเรียลบนรถแท็กซี่ เพลงจังหวะสนุกๆ คลอตามความเร็วจำกัดของรถ แดเรียลนั่งหันหน้าเข้าหาผม
“ประสบการณ์จริงไงครับ”
“นายจะใช้ประสบการณ์สู้รบไปทำไมล่ะ อยากไปรบที่อาร์กติกเหรอ”
“ผมอยากปกป้องคุณ” แดเรียลมองมาอย่างจริงจัง จนผมต้องเบือนหน้ามองหน้าต่าง ให้ตายสิ เล่นยิงมุกมาแบบนี้ผมก็เขินเป็นเหมือนกันนะ หรือที่จริงแล้วแดเรียลอาจจะไม่ได้เล่นมุก แต่ผมก็ยังไม่ชินกับความตรงๆ ของแอนดรอยด์แบบเขาอยู่ดี
รถแท็กซี่หยุดกะทันหัน
“ขออภัยค่ะ ข้างหน้ามีการประท้วง ระบบไม่สามารถเดินรถต่อไปได้ ขอให้คุณลงจากรถ”
เสียง AI ของแท็กซี่ดังขึ้น พวกเราลงจากรถ เดินไปสมทบกับกลุ่มผู้ประท้วง เห็นชายร่างเล็กกำลังตะโกนอยู่ มีคนโดยรอบโห่เชียร์
“แดเรียล วิเคราะห์ซิ” ผมกระซิบ
“นั่นคือ ยูจีน ทอมสัน แกนนำการต่อต้านการใช้แอนดรอยด์ พ่อของเขาเสียชีวิตจากการเสพยา Red Ice เกินขนาดเนื่องจากเครียดจากการปลดพนักงานธนาคารออกเพราะระบบ AI เข้ามาแทนที่ ทำให้ครอบครัวเขาพังพินาศ...”
เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักแถมมีเขี้ยวเล็กน้อยกำลังตะโกนปลุกระดมอย่างดุดัน
“เอาแอนดรอยด์ออกไป ให้มนุษย์ทำงาน”
“เอาแอนดรอยด์ออกไป ให้มนุษย์ทำงาน”
“เอาแอนดรอยด์ออกไป ให้มนุษย์ทำงาน”
“ผมว่าเรากลับกันเถอะครับ” แดเรียลกระซิบบอกผม “มีโอกาสที่ตำรวจจะใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมถึง 50%”
ผู้ชุมนุมเริ่มหนาแน่น มีการขว้างปาสิ่งของและก้อนหินเข้าไปในร้าน Cyber Life อย่างโกรธแค้น กระจกนิรภัยบางส่วนได้รับความเสียหาย แต่หุ่นข้างในยังไม่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ผู้ชุมนุมตะโกนดุดันขึ้นเรื่อยๆ
“แต่นั่นมันเด็กนะ มนุษย์ควรมีอิสระทางความคิดสิ”
“ตำรวจไม่คิดแบบนั้นสิครับ ผมว่า...”
ไม่ทันขาดคำเสียงหวอดังลั่นรถตำรวจกว่า 10 คัน เข้ามาพร้อมอาวุธ แก๊สน้ำตาถูกโยนเข้ากลางกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไร้อาวุธ ผมวิ่งไม่คิดชีวิตเข้าไปคว้าแขนของยูจีนมา แดเรียลตะโกนเรียกผม
“ชอว์นครับ ทางนี้”
ผมวิ่งลากแขนยูจีนไปทางที่แดเรียลเรียก เราวิ่งข้ามไปสามบล็อก ถึงหน้าร้านพิซซ่า ผมผลักประตูเข้าไป “เราจะหลบในนี้ก่อน”
“ข ข ขอบคุณครับ” ยูจีนพูดอย่างเหนื่อยหอบ แต่ทันทีที่เห็นสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีฟ้าบนหน้าอก สายตาเขาดูแข็งกร้าวขึ้นทันที
“ผมไม่มีธุระกับคนของ Cyber Life” ยูจีนมองเหยียดมาที่ผมกับแดเรียล “ชีวิตของผมพังเพราะพวกคุณ! บริษัทคุณ!”
“แต่นายก็เพิ่งรอดมาเพราะพวกเราไม่ใช่หรือไง” แดเรียลทำเสียงดุ
“อย่ามาทวงบุญคุณนะ ใครบอกให้ช่วยกันล่ะ” ยูจีนขึ้นเสียง
“พวกเราสามารถส่งตัวนายให้ตำรวจได้ในทันทีนะ” แดเรียลขู่
“พวกคุณขู่ผมเหรอ?” ยูจีนทำหน้าไม่ไว้ใจ
“ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของนาย” แดเรียลพูดเรียบๆ
“ไหนๆ นายก็รอดจากการสลายการชุมนุมแล้ว ให้ผมเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อนะ” ผมสนใจตัวเขา อยากฟังความคิดของเขาด้วย
“ผมชอว์น ออสเนอร์ ส่วนนายคนนี้คือ แดเรียล ออสเนอร์ ผมรู้จักนายแล้ว ยูจีน ทอมสัน เรามีข้อมูลของนายเยอะเชียวล่ะ” ผมจ้องตรงไปที่เขา
“นายจะให้ความร่วมมือกับเราไหม?” ผมถามย้ำ
“ก็ได้ ถือว่าตอบแทนที่คุณพาผมหนีจากตำรวจเวรนั่น ผมจะยอมคุยกับคุณ” ยูจีนพูดอย่างอวดดี
แดเรียลนั่งนิ่งอย่างระวังภัย เขามองยูจีนอย่างพินิจ ไฟ Led ข้างหัวเขาเป็นสีแดง ก่อนลดระดับลงเป็นสีฟ้าอ่อน
“นายไม่มีอาวุธ” แดเรียลพูด
“อาวุธของผมคือความคิด” ยูจีนตอกกลับ ยิ้มมุมปาก
“นายคิดว่าเทคโนโลยีแย่งงานพ่อนายไปสินะ” ผมพูด ทันทีที่พิซซ่าร้อนๆ มาเสิร์ฟ ยูจีนคว้ามาชิ้นหนึ่งเข้าปากทันที เขาดูเหมือนกับคนที่ไม่ได้กินอะไรมาเป็นเวลานาน ท่าทางการกินแบบคนหิวจัด
“ระวังสำลัก” ผมยื่นเครื่องดื่มให้เขา
“น่าแปลกที่ Cyber Life แสดงความเห็นใจเรา หลังจากที่เอาทุกอย่างไปแล้ว” ยูจีนยิ้มหยัน
“อย่าเสียมารยาทนะเจ้าหนู” แดเรียลเสียงแข็ง
“อะไรทำให้คุณอยากคุยกับผมล่ะ” ยูจีนหันมาทางผม
“ทำไมนายไม่โทษ Red Ice ล่ะ” ผมกล่าวเสียงเรียบ
“พ่อผมต้องไปพึ่ง Red Ice เพราะเครียด คุณจะมาเข้าใจอะไร” เสียงของยูจีนสั่นเล็กน้อย
“พ่อนายอ่อนแอเกินไปต่างหาก”
“แดเรียล” ผมปราม
“พ่อนายไปได้ Red Ice มาจากไหน”
“คุณไม่รู้หรอว่ามันหาง่ายกว่าพิซซ่าอีก” เขามองตรงมาที่ผม แววตาระคนสงสัย “รัฐบาลไม่ได้กวาดล้างจริงจังหรอก เพราะคนขายก็หนึ่งในคณะรัฐบาลน่ะแหละ” เขาเสริม
เป็นความจริงที่ว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งที่จะเข้ามาควบคุม Cyber Life ต้องมีฐานเสียงจำนวนมาก การโฆษณาพรรคก็ต้องใช้เงิน ไม่ว่าเงินจะสกปรกแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายพอได้เป็นรัฐบาลควบคุม Cyber Life ได้ เขาก็ลงจากหลังเสือไม่ได้แล้ว ผู้คนจำนวนมากติดยา รัฐใกล้ล่มสลาย แต่ก็ยังเคลื่อนไปได้ด้วยการทำงานที่ไม่มีวันหยุดของแอนดรอยด์
ตามความคิดของผมนะ ผมคิดว่า Cyber Life ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหานี้บ้างแล้ว การปล่อยให้รัฐล่มสลายไปเองก็ไม่ใช่เรื่องที่ละเลยได้ เพราะผลสุดท้ายปัญหาก็จะกลับมาหาเรา
นี่ทำให้ผมนึกถึงคำพูดที่แคมสกี้เคยพูดไว้ว่า “พวกเขาต่อต้านเราตั้งแต่แอนดรอยด์ตัวแรกสร้างขึ้นมา และโทษให้มันเป็นสิ่งที่ผิดตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้” ที่ผ่านมาเราได้แต่ดูดาย และสุดท้ายรัฐก็โยนปัญหาว่า “....เพราะCyber Life” ทั้งๆ ที่รัฐเองก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้กำไรมหาศาลจากการส่งออกหุ่นรบ
“นี่แอนดรอยด์ของคุณเหรอ?” ยูจีนมองมาที่แดเรียล
“ใช่”
“เขาต่างจากแอนดรอยด์ตัวอื่น” ยูจีนตั้งข้อสังเกต
“ยังไง” ผมเท้าแขนลงบนโต๊ะ ประสานมือแล้ววางคางลง แสดงท่าทีสนใจ
“เขาผ่านประตูร้านอาหารเข้ามาได้ และ...”
“ว่าไงต่อ” แดเรียลแสดงอาการไม่พอใจ
“เขาดูเหมือนว่าปกป้องคุณ เขาเหมือน ‘มีความคิดเป็นของตัวเอง’ ”
ผมไม่ถามอะไรเขาต่อ เขาอดอยากมาหลายวันเพราะอาหารไม่พอ ผมช่วยเขาได้เท่านี้ เด็กหนุ่มคนนี้ต้องรับภาระชีวิตมากมาย การที่เขาโทษสิ่งที่เป็นรูปธรรมมันจับต้องได้กว่าสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เช่นความต่างของชนชั้น ปัญหายาเสพติด บลา บลา บลา
บริษัทของผม Cyber Life เป็นแค่ตัวแทนของเทคโนโลยีหนึ่งซึ่งนำความสะดวกสบายมาให้มนุษย์แท้ๆ แต่ปัญหาจริงๆ เกิดจากอะไร ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจ เพียงแค่ไม่พูดมันออกมา
ผมบอกลายูจีนที่ร้านพิซซ่า เสนองานให้เขาเป็นร้านไก่ทอดที่ผมรู้จัก ในดีทรอยต์จะต้องมีคนอีกหลายคนแน่ๆ ที่ถูกความคิดครอบงำว่า Cyber Life คือความชั่วร้าย
“แดเรียล คุณคิดยังไง... เรื่องของยูจีน” ผมเดินคุยกับแดเรียลบนทางเดินกลับบ้าน
“ผมว่าเขาน่าสงสาร เขาดูผอมแห้งเกินไปสำหรับเด็กในวัยนี้”
“นายจะแก้ปัญหานี้ยังไง”
“ถ้าผมรู้ ผมคงไปรับสมัครเลือกตั้งแล้วครับ” แดเรียลหัวเราะ
“ที่ยูจีนบอก นาย ‘ปกป้อง’ ผมเหรอ”
“ถ้าการที่ผมมีอิสระทางความคิดเป็นเรื่องจริง
...ผมขอบอกไว้เลยว่าชีวิตของผมก็คือคุณ...
ตั้งแต่ตอนที่คุณสั่งไม่ให้ผมร้องไห้แล้วครับ”
เขาคว้ามือผมเข้าไปซุกในกระเป๋าเสื้อโค้ตของเขา มันอุ่นนิดๆ แต่ผมไม่ถือสาที่เขาทำอะไรแบบนี้หรอก เราเดินจับมือกันกลับบ้านทั้งแบบนั้น
ความคิดเห็น