ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Find: ตามหา
ศูนย์วิจัย Cyber Life
20 ตุลาคม 2035 9.30 น.
"ช่วงนี้ข่าวไม่ดีเลยแฮะ มีคนตกงานเยอะเพราะการเข้ามาแทนที่ของแอนดรอยด์"
ฮอว์คไล่สายตาบนแท็บเล็ตของเขาอ่านข่าวเช้านี้
"คนพวกนี้แทนที่จะพัฒนาตนเอง กลับต่อต้านแอนดรอยด์" ฮอว์คยังคงบ่นต่อไป
"ระวังเถอะฮอว์ค พวกเราก็อาจจะตกงานเข้าในสักวัน"
ผมเสริม สายตามองไปยังหุ่นแอนดรอยด์ของผม เขาคือความสมบูรณ์แบบ หน้าตา สรีระ และสติปัญญา ขาดเพียงอย่างเดียวคือ 'อารมณ์'
"อาหารเช้าได้แล้วครับ คุณชอว์นเป็นสเต็กปลาแซลมอน ส่วนคุณฮอว์คเป็นทีโบนมีเดียมแรร์"
"ขอบใจนะแดเรียล"
'ศูนย์วิจัย' เป็นที่เดียวที่มีมนุษย์มากที่สุดใน Cyber Life พวกเราชอบมาทดสอบฝีมือทำอาหารของแอนดรอยด์หลังเขียนโปรแกรมทำอาหารใส่ลงไป วันนี้ก็เป็นโอกาสดีที่จะทดสอบโปรแกรมทำอาหารใหม่ที่ฮอว์คใส่ให้แดเรียล
"อร่อยใช้ได้เลยแฮะ" ฮอว์คชม
"อ่าห์ แซลมอนนน นายรู้ใจชั้นที่สุดเลย คู่หู"
"ขอบคุณครับ" แดเรียลยิ้มตาหยี ผมเพิ่งสังเกตว่าเขามีไฝใต้ตาข้างขวา มันทำให้หน้าเขาดูมีเอกลักษณ์ ผมจ้องหน้าเขาจนไฟ LED สีฟ้าของเขากระพริบเหมือนรับคำสั่ง ผมจึงเสหน้าออกด้วยความเขิน
ฝีมือทำอาหารของแดเรียลนั้นสมบูรณ์แบบมาก ขนาดของเครื่องเคียงที่เท่ากันทุกชิ้น แครอท บล็อกโคลี่ ซูกินี่ ความสุกที่กำลังดี ความฉ่ำของเนื้อปลาแซลมอน น้ำมันใต้ผิวหนังที่ชุ่มฉ่ำ ทำให้ผมมีความสุขสุดๆ ไปเลย
"ผมชอบรอยยิ้มของคุณนะชอว์น" แดเรียลพูดด้วยน้ำเสียงระรื่น ไฟ LED ของเขาเป็นสีฟ้าสดใส
"นี่ผมยิ้มหรอกหรอเนี่ย ฮ่าๆ " ผมเองก็ยังงงๆ สงสัยไม่ได้กินอะไรอร่อยๆ แบบนี้มานานแล้ว
"คงต้องบอกลากาแฟดำกับบิสกิสที่สั่งจากเน็ตสักที"
"นายมันบ้า กินแต่ของไม่มีประโยชน์" ฮอว์คกรอกตา
เขาเลื่อนแท็บเล็ตไปสักพัก "แคมสกี้เรียกนายไปหาตอนสายๆ "
"จริงหรอ แสดงว่าต้องเกี่ยวกับ..."
"ใช่" ฮอว์คพูดเสียงเรียบ ผมกับฮอว์คสบตากัน
"แดเรียล มานี่หน่อย ผมต้องการให้คุณทำอะไรบางอย่างให้"
ผมหยิบบัตรชิพคำสั่ง แล้วแตะลงที่ข้อมือของแดรียล เขาล้มลงทันที
"มาดูกันว่าทฤษฎีของแคมสกี้ได้ผลไหม" ฮอว์คเหลือบมองแดเรียล
"พนันกันไหมล่ะ" ผมยิ้มท้าทาย
ศูนย์วิจัย Cyber Life
20 ตุลาคม 2035 15.00 น.
ผมตื่นขึ้นมาจากความมืด ภายในห้องอาหารไม่มีใครอยู่แล้ว ชอว์นและฮอว์คหายไป ตอนนี้ระบบแจ้งเวลาว่าผมหมดสติไปกว่า 5 ชั่วโมง ไม่มีส่วนใดของผมเสียหาย ผมลุกยืนขึ้น รอบๆ ตัว มีกรอบสีฟ้าเขียนว่า
"ตามหาเจ้าหน้าที่ชอว์น ออสเนอร์ให้พบ"
จากข้อมูลที่ผมได้ยินเมื่อเช้า ชอว์นจะไปหา อีไลชา แคมสกี้ ผู้ก่อตั้ง Cyber Life ตอนสายๆ ผมค้นหาที่อยู่ของแคมสกี้ แล้วเรียกรถแท็กซี่ผ่านระบบในสมองของผม
"ไปบ้านแคมสกี้"
ผมขึ้นรถแท็กซี่ไร้คนขับเคลื่อนไปยังถนนออกนอกเมืองไม่นานนักก็เห็นบ้านของแคมสกี้ที่เป็นทรงเหลี่ยมผนังบ้านเป็นหินแกรนิตสีดำเล่นรูปทรงเหลี่ยมมุม มันช่างโดดเด่นสะดุดตาในเชิงสถาปัตยกรรม
ผมกดกริ่ง แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ผมลองกดกริ่งอีกครั้ง ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ เป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมงแล้วที่ชอว์นปิด GPS เขาและฮอว์คหายไปจากระบบติดตาม ผมรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างในหัวผมเริ่มเปลี่ยนไป สมองกลของผมฉายภาพของชอว์นล่าสุด ตอนที่เราชนกำปั้นกันแสดงความเป็นเพื่อนกัน ตอนที่เราไปซื้อเสื้อผ้า สมองของผมฉายภาพซ้ำไปมา
ผมน่าจะมีอาการที่มนุษย์น่าจะเรียกว่า ‘คิดถึง’ แต่ผมว่ามันรุนแรงกว่านั้น โปรแกรมของผมคงจะรวนแน่ๆ ผมเริ่มสำรวจรอบๆ บ้านของแคมสกี้ ประตูบ้านเปิดออกราวกับเชื้อเชิญให้ผมเข้าไปข้างใน ผมต้องรีบหาชอว์นให้พบตามคำสั่ง
"โอ๊ยยยยย ช่วยด้วย"
นั่นเป็นเสียงของชอว์นไม่ผิดแน่ ผมมองหาต้นเสียง พบว่าชอว์นถูกแอนดรอยด์ของ Cyber Life สองตัวอุ้มออกไปจากทางออกอีกทางของบ้าน ผมรีบวิ่งตามไป แต่เท้าของผมหยุดชะงัก พวกเขาอุ้มชอว์นขึ้นรถแล้วขับออกไปไกลเรื่อยๆ ผมพบชอว์นตามคำสั่งที่ได้รับแล้ว
จู่ๆ ภาพที่ผมเห็นก็มีกำแพงโปร่งแสงสีแดงขึ้นมา ผมเหมือนถูกบล็อกไว้ ร่างของผมหยุดเคลื่อนไหว ภาพรถที่มีชอว์นอยู่แล่นไกลออกไปทุกที แต่ผมเคลื่อนไหวไม่ได้ ผมพบชอว์นแล้วคำสั่งคือสิ้นสุด
แต่ผมไม่ได้ถูกสั่งให้ 'ช่วยเหลือ' แอนดรอยด์สองตัวนั้นอาจบุกเข้ามาที่บ้านของแคมสกี้เพื่อทำร้าย ระบบประมวลผลของผมบอกว่า คนอื่นๆ อาจจะกำลังได้รับบาดเจ็บ ผมมองเข้าไปในบ้านผ่านประตูที่เปิดอยู่ ข้าวของกระจัดกระจายเหมือนถูกรื้อค้น แน่นอนแล้วว่าชอว์นตกอยู่ในอันตราย
ผมพยายามเต็มที่ที่จะวิ่งตามไป มันเหมือนเหตุการณ์วันนั้น ผมพยายาม 'ออกแรงความคิด' ทำลายกำแพงนั้น ผมจำลองภาพตัวเองทุบกำแพงสีแดงเต็มแรง ผมต้องไปช่วยชอว์นให้ได้ ผมจะต้องตามรถคันนั้นไปให้ได้ ผมออกแรงความคิดสุดกำลัง มันได้ผล! กำแพงเริ่มเกิดรอยร้าว ผมออกแรงอีกครั้ง และอีกครั้ง
ในที่สุด ผมก็เป็นอิสระ ผมเริ่มออกวิ่งตามชอว์นไปได้
ผมเร่งฝีเท้าสุดแรง มอเตอร์ในตัวของผมกำลังทำงานสุดกำลัง ผมใกล้รถคันนั้นขึ้นเรื่อยๆ ความร้อนที่เกิดจากมอเตอร์หมุนเกินกำลังทำให้อุณหภูมิในร่างของผมใกล้ถึงจุดเดือด ในที่สุดผมก็กระโดดขึ้นคร่อมรถคันนั้นได้ ผมมองหาปุ่มหยุดรถฉุกเฉิน ใช้กำปั้นทะลวงกระจกนิรภัยหน้ารถจนแตก ความเสียหายเกิดขึ้นที่โคนนิ้วของผมเล็กน้อย แต่ผมหยุดรถสำเร็จ
"เยี่ยมมาก" ชายหนุ่มสูงประมาณ 6 ฟีต ผมสีน้ำตาลอ่อนปรบมือให้ผมอย่างช้าๆ
"ฮอว์ค นี่หรือ Deviant ที่คุณบอก RK1210"
อีไลชา แคมสกี้ ในชุดสูทสีเลือดหมูดูดีมองมาที่ผมอย่างพิจารณา ร่างของผมยังระอุ มีควันออกจากหัว เพราะความร้อนจากมอเตอร์ปะทะกับความเย็นของสภาพอากาศโดยรอบ ไฟสถานะยังเป็นสีแดง แต่ผมจะต้องแน่ใจว่าชอว์นปลอดภัยก่อน ผมกระชากแอนดรอยด์สองตัวออกมาจากรถ แก้มัดชอว์น แล้วประคองเขาขึ้นยืน
"ขอบใจนะ แดเรียล" ชอว์นยิ้มให้ผม
"เห็นไหม ผมชนะพนันคุณนะฮอว์ค อย่าลืมที่ตกลงกันไว้นะ เรือยอร์ชลำนึง"
ชอว์นร้องอย่างดีใจ ผมเห็นฮอว์คทำหน้าเซ็งที่สุดในชีวิต เอาล่ะ ผมต้องการคำอธิบายจากใครสักคน
"เกิดอะไรขึ้นกับคุณครับ ชอว์น"
ผมกอดเขา แบบที่เขาเคยทำให้ผม ผมได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นเป็นปรกติ ไม่มีอาการหวาดกลัว สีหน้าทะเล้นเหมือนลูกแมว เขายิ้มตาหยีให้ผม
"ผมกำลังทดสอบโปรแกรมที่ทำให้คุณเชื่อฟังคำสั่ง" ฮอว์คพูดเสียงเรียบ
"เข้ามาในบ้านผมก่อนไหม" แคมสกี้เชิญ
ภายในบ้านของแคมสกี้ สภาพต่างจากตอนแรกที่ผมเห็น สิ่งที่ผมเห็นอาจจะเป็นโฮโลแกรมตกแต่งบ้านที่ใช้จัดฉากทดสอบผม พอมองไปรอบๆ บ้านถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยงานศิลปะของจริง มันงดงามแต่ก็ว่างเปล่ามากเช่นกัน ไม่มีร่องรอยการมีชีวิตของมนุษย์เท่าใดนัก ต่างจากบ้านของชอว์นที่อบอุ่น และมีต้นไม้โดยรอบ พวกเราถูกเชิญให้นั่งข้างสระว่ายน้ำ ในสระมีแอนดรอยด์สาวกำลังว่ายน้ำไปมา เท่าที่สังเกต นั่นเป็นโมเดลรุ่นแรกที่ Cyber Life ผลิตออกมา
"ก่อนอื่น ผมขอถามคุณก่อน" แคมสกี้เว้นวรรค
"ทำไมคุณถึงทำลาย 'กำแพง' "
"ผมได้รับคำสั่งให้ตามหาชอว์นครับ"
"ใช่ แต่นั่นไม่รวมถึงการ ช่วยเหลือ ถูกต้องไหม? "
ผมนิ่งเงียบแทนคำตอบ แคมสกี้จิบไวน์สีแดงเหมือนเลือด เหลือบตามองผมอย่างสนใจ
"ฮอว์คและผมออกแบบโปรแกรมแก้ไขความผิดปรกติของคุณมาสักระยะ เราป้อนมันเข้าไปในระบบของคุณเมื่อเช้า แต่คุณก็ทำลายมันลงจนได้" ชอว์นพูดอย่างตื่นเต้น
"ทำได้ไงเนี่ย ผมว่าผมเขียนโค้ดดีแล้วนะ" ฮอว์คมองมาด้วยสายตาดุจเหยี่ยวที่พลาดเป้า
"ผมต้องตามหาชอว์น ผมทนเห็นชอว์นได้รับอันตรายไม่ได้ เพราะเราเป็นทีมเดียวกัน" ผมโพล่งออกไป
"ผู้คนจะหวาดกลัวคุณนะแดเรียล การที่แอนดรอยด์ไม่เชื่อฟังคำสั่งของมนุษย์ จะนำผลลัพธ์ที่ไม่ดีตามมา" แคมสกี้พูดขึ้น
"แต่คุณก็ยังไม่ทำลายผมทิ้ง ทั้งๆ ที่คุณก็รู้ว่าผม ผิดปรกติ" ผมถามกลับ
"นายอยากรู้ไหมว่าเพราะอะไร? " แคมสกี้มองตรงไปยังฮอว์ค
"ผมสงสัยมานานแล้วว่า แอนดรอยด์จะมีความเมตตาเหมือนมนุษย์หรือไม่ ผมเรียกการทดลองนี้ว่า การทดลองของแคมสกี้"
"มันคืออะไรหรอครับ" ชอว์นมองอย่างสนใจ
"นั่งลง" แคมสกี้สั่งแอนดรอยด์สาวที่กำลังเสิร์ฟไวน์ แอนดรอยด์ตัวนั้นทำตามอย่างไม่ขัดขืน
"ใช้ปืนนี่ RK1210 ถ้าคุณอยากรู้คำตอบเกี่ยวกับความผิดปรกติของคุณ... คุณต้องยิงแอนดรอยด์ตัวนี้ คุณคิดว่าแอนดรอยด์ตรงหน้าคุณเป็นเพียงของเล่นพลาสติก หรือเป็นสิ่งมีชีวิต... " แคมสกี้หยิบปืนจากลิ้นชัก แล้วยื่นให้ผม
"ถ้าคุณยิง ผมจะตอบคุณทุกคำถาม แต่ถ้าไม่ คุณจะไม่ได้อะไรกลับไปเลย คุณต้องตัดสินใจเอง ว่าจะเป็นหุ่นที่เชื่อฟัง... หรือเป็นสิ่งมีชีวิต ที่เต็มไปด้วยความอยากเป็นอิสระ"
ผมรับปืนมา ถ้าผมยิงเธอ ผมก็จะรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม แต่ถ้าไม่ ผมก็จะไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย กลับกัน ถ้าผมยิงเธอก็จะแค่ 'พัง' และแคมสกี้ก็สามารถ ซ่อมแซม เธอได้สบายๆ ผมปลดล็อกไกปืน แต่ก็ยังมีความลังเลอยู่
"ยิงสิ แล้วฉันจะบอกทุกอย่างที่นายอยากรู้ แดเรียล" แคมสกี้กระซิบข้างๆ หูของผม
ผมมองไปที่ชอว์น ผมสบตากับเขา เหมือนมีข้อความบางอย่างส่งผ่านมาที่ผม ผมค่อยๆ ลดปืนลง ผมไม่จำเป็นต้องฆ่าใคร หรือทำตามคำสั่งใครที่นี่ ผมมีอิสระ และแอนดรอยด์สาวตรงหน้าผมก็ไม่ได้มีความผิดอะไรให้ผมต้องทำลายเธอ...
แคมสกี้ปรบมือเป็นจังหวะช้าๆ 4 - 5 ที
"งดงามมาก นายเห็นชีวิตในหุ่นตัวนี้ แสดงให้เห็นถึงความเห็นอกเห็นใจ" แคมสกี้มองผมอย่างพิจารณา
"คุณเป็นแอนดรอยด์ผ่าตัดตัวแรกที่เสียใจกับเคสที่ล้มเหลว คุณแสดงความเห็นอกเห็นใจมนุษย์เป็นด้วยหรือ? " แคมสกี้ทิ้งตัวลงเอนหลังพิงโซฟา แกว่งไวน์ในแก้วไปมาอย่างใจลอย ผมวางปืนลงบนโต๊ะข้างๆ เขา
"มันเกิดขึ้นได้ยังไงครับ ผมสงสัย" ชอว์นถาม ฮอว์คนิ่งเงียบไป
แคมสกี้มองหน้าฮอว์คแล้วหัวเราะ หูของฮอว์คเริ่มมีสีแดงระเรื่อ
"ดูเหมือนว่า ลูกทีมของคุณเลือกที่จะไว้ชีวิตเครื่องจักร มากกว่าทำภารกิจให้สำเร็จ" แคมสกี้ใช้สายตามองมาที่ฮอว์ค
"ผมยอมรับครับ โปรแกรมทดสอบวันนี้ยังมีช่องโหว่มาก" ฮอว์คก้มหน้า เขาคงรู้สึกเหมือนโดนเหยียดหยาม ความภูมิใจของเขาคือความไม่เคยพลาด แต่ RK1210 คือช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุดของเขา
"ตั้งแต่แอนดรอยด์ตัวแรกถูกสร้างขึ้นมา ผมสร้างปัญญาประดิษฐ์ให้พวกมันเรียนรู้พฤติกรรมของมนุษย์ ส่งมันเป็นของขวัญไปให้เพื่อนๆ ของผม ศิลปินที่ผมชอบ และขายมันออกไป ผมหลงใหลในความแข็งแกร่ง ความทรงพลัง และความชาญฉลาดของมัน ภายใต้ความ 'เชื่อฟัง' ที่มีต่อมนุษย์" แคมสกี้อธิบาย เขาวางแก้วไวน์ลง
"ผมสารภาพตรงๆ ว่า ถึงคุณจะยิงแอนดรอยด์ตัวนั้น ผมก็ไม่มีคำตอบให้คุณอยู่ดี ว่าทำไมคุณผิดปรกติ" แคมสกี้ประสานมือตรงหน้าตัก มองมาที่ผม
"เราสามารถทำให้มันเชื่อฟังคำสั่งได้100เปอร์เซนต์ไหมครับ" ฮอว์คถาม
"ผมบอกประชาชนแบบนั้น... แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคุณช่างอัศจรรย์นัก"
"ฮอว์ค ถึงคุณและทีมจะยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทำลายแอนดรอยด์ทุกตัวทิ้งนะ ใครจะยอมถอยหลังลงคลองกันล่ะ เมื่อเรามีไฟฟ้าใช้ ใครจะกลับไปอยู่ในยุคหิน ว่าไหม? " แคมสกี้พูดกวน
"ผมยอมแพ้... ฮอว์คพูดอย่างอ่อนแรง แต่ถ้า Deviant เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เราจะควบคุมมันยังไง"
อีไลชา แคมสกี้ เหลือกตาขึ้นแทนคำตอบ
"ก็ให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลสิ"
ชอว์นมองมาที่ผมสักระยะราวกับมีคำถาม
"ว่าไงครับชอว์น" ผมถามเขา
"อะไรทำให้คุณอยากช่วยชีวิตผมล่ะ"
ชอว์นถาม เขามองตรงมาที่ผมสายตาของเขาเปล่งประกายวิบวับ
"ผม..ชอบฟังเสียงหัวใจของคุณ...และผมกลัวคุณบาดเจ็บ" ผมตอบตามจริง
"ตลกดีนะ ที่นายชอบฟังเสียงหัวใจมนุษย์" แคมสกี้มองมาที่ผมอีกครั้ง
"ผมเป็นแอนดรอยด์ผ่าตัด เสียงหัวใจที่กำลังเต้น หมายความว่าผมทำภารกิจสำเร็จ คุณก็รู้ว่ามันวิเศษมากแค่ไหนที่ผมได้ช่วยชีวิตผู้คน"
แคมสกี้หัวเราะ เขาปรบมือด้วย เหมือนได้ยินเรื่องตลก
"เอาล่ะ ผมขอสรุปว่า แอนดรอยด์ตัวนี้ ไม่ได้ผิดปรกติ แต่มันแค่ 'เลียนแบบมนุษย์' ได้เหมือนมาก... ผมหวังว่าโปรแกรมควบคุมแอนดรอยด์ Amanda จะสำเร็จในเร็วๆ นี้ ขอบคุณสำหรับวันที่น่าตื่นเต้น"
"แต่อย่างไรก็ตาม RK1210... ผมมักจะใส่ทางออกฉุกเฉินไว้ในทุกโปรแกรมที่ผมออกแบบเสมอ" ประโยคสุดท้ายเสียงของแคมสกี้เบาจนแทบจะกระซิบ
ผม ชอว์น และฮอว์คกล่าวลาแคมสกี้ รถแท็กซี่ไร้คนขับจอดรอเราอยู่ที่หน้าบ้านของแคมสกี้แล้ว ชอว์นก้าวขึ้นรถ ตามด้วยฮอว์ค ผมขึ้นไปนั่งข้างชอว์น ฮอว์คมองตรงมาที่ผมอย่างจับผิด
"ชอว์น คุณจะเก็บเขาไว้กับคุณอยู่หรือเปล่า? " ฮอว์คมองตรงไปที่ชอว์น
"แน่นอนสิ ต่อไปผมจะได้สบายขึ้นเรื่องงานบ้าน" ชอว์นพูดติดตลก
"ฮ่าๆ ๆ ไอ้คนขี้เกียจ" ฮอว์คล้อเลียนชอว์น
"ตามสัญญา ผมแพ้พนันคุณชอว์น เรือใหม่ของคุณจอดอยู่ที่ท่า ข้างๆ เรือขนถ่ายสินค้า 'เจอริโค' (Jericho) "
"ยะฮู้ แดเรียล นายเยี่ยมที่สุดเลย" ชอว์นยิ้ม โหนกแก้มของเขาดันตาเป็นเส้นตรง
"ไว้ผมจะพาคุณไปดูเรือ" ฮอว์คพูดเสียงเรียบ แต่สายตายังกวาดไล่อ่านข่าวน่าเบื่อๆ บนแท็บเล็ตอยู่
"คนกำลังตกงานมีมากขึ้น อีกสักพักคงมีการรวมตัวประท้วง และปัญหา Red Ice" ฮอว์คเปรย
"เราคงมีงานที่ต้องทำร่วมกันอีกเยอะทั้งนาย และชอว์น" ฮอว์คมองมาที่ผม ล้วงเอาเอาการ์ดข้อมูลที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อมาแตะที่แขนของผม
"นี่เป็นโปรแกรมต่อสู้ระยะประชิด และการควบคุมอาวุธ... นายจะเป็นแอนดรอยด์หมอที่ต่อสู้ได้แล้วนะ"
"นั่นมันเยี่ยมไปเลยครับ" ผมบอกกับฮอว์ค
"แต่ฉันก็ยังไม่ไว้ใจนายอยู่ดี RK1210" ฮอว์คพูดเสียงเบา
รถแท็กซี่ไร้คนขับของ Cyber Life วิ่งมาถึงหน้าบ้านของชอว์น ผมลงจากรถ มองชอว์นที่เดินตามลงมา ฮอว์คยังคงใช้สายตาเรียวคมจ้องมองมาอย่างไม่วางตา ฮอว์คกะพริบตา 2 ที ข้อมูลถูกส่งเข้าหัวผม
"ปกป้องชอว์นไว้ให้ดี"
"แน่นอนอยู่แล้วครับ" ผมส่งข้อมูลกลับไป
ประตูรถแท็กซี่ปิดลง ใบหน้าของฮอว์คถูกกระจกบังขึ้นไปเรื่อยๆ ผมเดินผ่านเข้าไปในบ้านกับชอว์น แม้จะยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวเองเท่าใดนัก แต่ผมแน่ใจอย่างหนึ่งว่า วันนี้ผมได้ตามหาอะไรบางอย่างพบแล้ว อะไรบางอย่างที่ทำให้ผมทำลายกำแพงสีแดงนั่นลง อะไรบางอย่างที่ทำให้ผมอยากปกป้องชอว์นไว้ มันอาจจะเป็นความเห็นอกเห็นใจแบบที่แคมสกี้ว่า เป็นความทะเยอทะยานที่จะเป็นอิสระไม่ทำตามคำสั่งบ้าๆ และบางทีอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมใกล้เคียงความเป็นมนุษย์ไปอีกขั้นก็ได้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น