คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : อารยธรรมอียิปต์ ง่ายๆ
อารยธรรม อียิปต์
อารยธรรมที่มีความยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก
ที่มีถิ่นกําเนิดในดินแดนใกล้เคียง
กับอารยธรรมเมโสโปเตเมีย
เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีพื้นที่ตั้งอยู่บนสองฟาก
“เฮโรโดตัส (นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก)
กล่าวว่า
"อียิปต์เป็นของขวัญจากแม่น้ําไนล์"
........................................
ก่อนสมัย ของฟาโรห์นาเมอร์ ( Namer
)
ชาวอียิปต์ได้เริ่มก่อตั้งอาณาจักรขึ้นในบริเวณ
ที่ราบลุ่มสองฝากฝั่งแม่น้ําไนล์
ขยายอาณาเขตออกไปกว้างใหญ่ไพศาล
ซึ่งในขณะนั้น
ยากแก่การปกครองได้ทั่วถึง
ต่อมาจึงได้แบ่งแยกการปกครองออกเป็น 2
อาณาจักร
ประวัติศาสตร์ของอียิปต์
จึงแบ่งออกได้เป็น 4
ยุค
โดยเริ่มที่...
1.สมัยต้นราชวงศ์
(ราชวงศ์ที่ 1-2)
เริ่มจากการแบ่งแยกดินแดน ราชาแมงป่อง (Scorpion
king)
ผู้ครองนครชีส (This)
อันตั้งอยู่บริเวณตอนกลางแห่งลุ่มแม่น้ำไนล์
เข้ายึดครองนครรัฐต่างๆในอียิปต์บน
และตั้งตนเป็นฟาโรห์แห่งอาณาจักรบน
เขาปรารถนาจะรวมอียิปต์เข้าด้วยกัน
แต่พระองค์สิ้นพระชนม์เสียก่อน
โอรสของพระองค์นามว่า
“นาเมอร์"Narmer
(ข้อนี้นักประวัติศาสตร์ยังไม่แน่ใจนักแต่จาก
หลักฐานที่มีแสดงว่าทั้งสองพระองค์น่าจะเกี่ยวดองกัน)
ได้สานต่อนโยบาย
เข้าโจมตีอียิปต์ล่าง
ด้วยความสามารถของพระองค์
สามารถผนวกทั้งสองอาณาจักรเข้าด้วยกันได้สําเร็จ
และ สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็น
“ฟาโรห์(Pharaoh)”
และตั้ง “เมมฟิส (Memphis)” เป็นเมืองหลวง
ตั้งอยู่ในอียิปต์ล่าง
ตอนกลางของลุ่มน้ําไนล์
"ฟาโรห์นาเมอร์"
เป็นฟาโรห์องค์แรกแห่งราชวงศ์ที่ 1
**มีหลายพระนามแบบกรีก (Greek) คือ
มิน (Min) มีนาออส(Mina ios) เมนาส (Menas)นาเมอร์ (Narmer)
***แม้จะรวมดินแดนเข้าเป็น
ผืนเดียวกันเป็นชาติ
แต่ชาวอียิปต์โบราณก็ยังนิยมเรียกชาติตนครั้งนั้นว่า
"Land of Two Lands" และหลักฐานประวัติศาสตร์ในสมัยนี้มีน้อยมาก
2.สมัยอาณาจักรเก่า (ราชวงศ์ที่ 3-6)
สมัยนี้บางครั้งถูกเรียกว่า สมัยปิรามิด (The Pyramid Age) เพราะเกิดการสร้างปิรามิดขึ้นเป็นครั้งแรกและมีพีระมิดเกิดขึ้นมากกว่า 20 แห่ง
-สมัยราชวงศ์ที่ 3
“ฟาโรห์ โจเซอร” (ojoser)
มีการสร้างพีระมิดครั้งแรก
เรียกว่า
"Pyramid of Djoser"
-สมัยราชวงศ์ที่ 4 “ฟาโรห์คูฟู (Khufu)”
มีวิทยาการใหม่ ศิลปกรรม
และสถาปัตยธรรมเจริญมาก
ประจวบกับกษัตริย์มีอํานาจในการปกครอง
เป็นผลให้เกิด
"พีระมิดที่ใหญ่ที่สุด"
ที่เมือง กีซา (Giza)
เรียก
"Great pyramid of Khufu"
................
และแล้วสมัยอาณาจักรเก่าสิ้นสุดลง
ในราชวงศ์ที่ 6
เพราะ
กษัตริย์ไร้ความสามารถในการปกครองและการรบ
+ ความทะเยอทะยานแย่งชิงอํานาจของขุนนาง
“โนมาร์ซ (Nomarch)”
เป็นผลให้อียิปต์โบราณต้องวุ่นวายเกิดสงครามกลางเมือง ขึ้นบ่อยครั้งและต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของพวกขุนนางนานกว่าสองศตวรรษ
เรียกช่วงนี้ว่า
“ช่วงขุนนางปกครองครั้งที่1”(The First Federal)
ช่วงนี้ขุนนางมีอํานาจตั้งราชวงศ์(ราชวงศ์ที่
7-11)
มาปกครองอียิปต์โบราณ
ที่เมืองธีปส์ (Thebes)
ใน อียิปต์บน เป็นศูนย์กลางของ ราชวงศ์ที่ 7-8
ต่อมา...
ขุนนางที่เมืองเฮราเคบโอโปลิส (Herclepopolis)
ในอียิปต์ล่าง
ได้ตั้งราชวงศ์ที่ 9-10
ขึ้น
ขณะที่อยู่ในราชวงศ์ที่ 10
ปรากฏว่าได้มีการจัดตั้งราชวงศ์ที่ 11
ขึ้นที่เมืองธีปส์ควบคู่กันขึ้นมา
ทําให้เกิดสงครามกลางเมืองเพื่อแย่งชิงอํานาจและดินแดนกัน
3.สมัยอาณาจักรกลาง (The Middle Kingdom)
เริ่มด้วย
“ฟาโรห์เมนตโฮเต็ปที่ 2 (Mentuhotep 2)
กษัตริย์องค์สุดท้ายในราชวงศ์ที่ 11 แห่งธีปส์
ปรามขุนนางได้และรวบรวมดินแดนอียิปต์โบราณเข้าด้วยกัน
ทรงฟื้นฟูการค้าและสภาพแวดล้อม
เวลาส่วนใหญ่ของสมัยอาณาจักรกลาง
จะอยู่ในช่วงราชวงค์ที่ 12
คือ
“ฟาโรห์อเมเนมฮัสที่ 1 (Amenemhat)”
ทรงเก่งในการรบและทรงฟื้นฟูการค้ากับฟินิเชียน
4.สมัยอาณาจักรใหม่หรือสมัยจักรวรรดิ
(The New Kingdom or the Empire Age) (ราชวงศ์ที่ 18-20
)
“ธีปส์” เป็นเมืองหลวง
จักรวรรดิ์อียิปต์โบราณเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
เพราะกษัตริย์เก่งการรบและปกครอง
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ในสมัยนี้มีมาก
และแน่นอนกว่าสมัยใดๆ ที่ผ่านมา
สรุป
การปกครอง
ปกครองแบบเทวราชา
มีกษัตริย์เรียก “ฟาโรห์
สังคม
เชื่อเรื่องเทพเจ้าหลายองค์
เทพสูงสุดคือ สุริยเทพ(ราห์)
ศาสนา
เชื่อเรื่องภพหน้า ชีวิตหลังความตาย
ความอมตะของวิญญาณ
ภูมิปัญญา
ด้านสถาปัตยกรรม
- พีระมิด Pyramid
สร้างจากหิน เป็นสุสานเก็บศพ
ด้านอักษรศาสตร์
-สร้างอักษรภาพ “เฮียโรกลิฟฟลิค Hieroglyph
เขียนบนกระดาษปาปิรุส
ด้านวรรณกรรม
- คัมภีร์มรณะ (Book of dead) หรือ คัมภีร์ของผู้มรณะ
**คัมภีร์มรณะนี้มิใช่เรื่องราวที่นักเขียนทั่วไปจะแต่งกันได้
แต่ผู้จัดทําจะต้องเป็นพระหรือนักบวช
ที่หากินกับญาติคนตายโดยเฉพาะ
ซึ่งเป็นจะมีเนื้อหา
คาถาอาคม คําสวด บทร้อง บทภาวนาและคําแนะนําเช่น
-ปฏิบัติตน
อย่างไรในขณะที่วิญญาณถูกเหล่าเทพเจ้าซักฟอก
-หากมีความผิดจริงจะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร
-หากเป็นที่ยอมรับของเหล่าคณะเทพแล้วจะได้พบกับอะไรบ้าง
-ตลอดจนพิธีกรรมต่าง ๆ
เกี่ยวกับตัวมัมมี่ เพื่อว่าหลังฟื้นคืนชีพอีกครั้งจะได้ไม่เป็นคนพิการ
<<<ปกติผู้เขียนคัมภีร์มรณะมักจะจัดทําขึ้นล่วงหน้า
โดยเว้นชื่อลูกค้าไว้ - -"
ทํากันเป็นอุตสาหกรรม มีคุณภาพหลายระดับ หลายอยู่กับราคา>>
จริงๆแล้วคัมภีร์มีชื่อดั้งเดิมว่า
"คัมภีร์แห่งการล่วงเข้ามาในเวลากลางวัน"
(Book of Coming Forth by Day) หรือ
“คัมภีร์แห่งการปรากฎเข้าสู่แสงสว่าง" (Book of Emerging
Forth into the Light)
**การที่ตั้งชื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหา
เพราะมีธรรมเนียมที่จะไม่กล่าวถึงความตาย และคนตายกันตรง ๆ
นิยมใช้คําเปรียบเปรยต่าง ๆ นานาที่พบบ่อย ๆ
มี2สํานวน ได้แก่ "เขาไปทิศตะวันตกแล้ว" กับ "ผู้ตายมีเสียงอื่นแม้จริง"
คัมภีร์มรณะมีด้วยกันหลายสํานวนขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต
นักโบราณคดีลงความเห็นว่า
'สํานวนที่สําคัญที่สุดมาจากธีบส์
โดยมักจะกล่าวสรรเสริญเทพเจ้า โดยเฉพาะเทพโอซิริส'
ด้านวิทยาศาสตร์
-ทําปฏิทิน สุริยคติและจันทรคติ
โดยกําหนด 1ปี มี 365 วัน
-ทํามัมมี่ (Mummification)
โดยอาศัยความรู้ทางการแพทย์และสรีรวิทยา
เป็นการรักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อย
****************(แถม)******************
มงกุฎของแต่ละอาณาจักร
มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
1.Hediet(มงกุฎขาว) --- Upper
Egypt
2.Hedjet(มงกุฎแดง) --- Upper
Egypt
3.Pschent(มงกุฎแดง+ขาว) -Unitate
Egypt
....
"นาร์เมอร์พาเลต"
Narmer
palette หนึ่งในวัตถุโบราณที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งอียิปต์
แสดงให้เห็นถึง
“ชัยชนะของฟาโรห์นาเมอร์ในการรวมชาติอียิปต์
และฉลองความสําเร็จยิ่งใหญ่ครั้งนี้
คลีโอพัตรา สตรีที่มีบทบาทมากในการเมืองอียิปต์
ต้นตระกูล คือราชวงศ์ทอเลมี หรือ ลากิด
Ptolemaic dynasty หรือ Lagids
ทอเลมีที่ 1 โซเตอร์ เป็น 1 ใน7 แม่ทัพชาวกรีกที่
พระเจ้าอเลกซานเด้อร์ส่งมาครองเมืองอียิปต์
หลังจากที่อเล็กซานเดอร์เสด็จสวรรคต
ทอเลมีก็ประกาศตนเป็น
และต่อมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “โซเตอร์” แปลว่า ผู้มาช่วย
ต่อมาชาวอียิปต์ก็ยอมรับราชวงศ์ทอเลมี
ว่าเป็นราชวงศ์ที่สืบการเป็นฟาโรห์ของอียิปต์
ราชวงศ์ทอเลมีปกครองอียิปต์
จนมาถูกพิชิตโดยโรมัน
ในปี 30 ก่อนคริสต์ศักราช
ความคิดเห็น