ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: เรื่องดีๆ จากคุณนายแสนรู้ ::

    ลำดับตอนที่ #10 : ==>> 9 สุขภาพดีด้วย สีบำบัด (Color Therapy)

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 51


    คนในอารยธรรมโบราณบูชาพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของแสงสี ในฐานะเป็นพลังสูงสุดในการบำบัดรักษาความเสื่อมของร่างกาย ขณะที่ในยุคปัจจุบันการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ได้ค้นพบการกำเนิดสี หรือวิธีการมองเห็นสีของคน จากอิทธิพลของการกระจายแสง (ไม่มีแสงสว่างก็จะไม่เห็นสี)

    สีบำบัด (Color  Therapy) โทนสี
    พลังของแสงอาทิตย์สามารถซึมแทรกผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกายที่เรียกว่า พลัง Aura สีของแสงไม่เพียงแต่มีผลต่อสุขภาพร่างกายเราเท่านั้น หากแต่ยังมีผลต่อสุขภาพจิตของเรา และยังมีผลกระทบต่อชีวิตของคนเราในระดับลึกว่าสิ่งที่ตามองเห็น นั่นคือ สีที่มีผลเกี่ยวเนื่องกับอารมณ์ ความรู้สึก และสภาวะจิต ซึ่งจะเชื่อมโยงกับกายภาพของเรา จึงมีการนำพลังของสีแต่ละสีมาปรับใช้ เพื่อบำบัดอาการเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจให้กับผู้ป่วย โดยเรียกศาสตร์แห่งการรักษานี้ว่า สีบำบัด หรือ Color Therapy


    โดยหลักการเบื้องต้น สีบำบัด เป็นการเชื่อมโยงจิตใจและร่างกาย จากการตอบสนองต่อสีต่างๆ ของแต่ละบุคคล ทั้งในด้านบวกและลบ การใช้สีในชีวิตประจำวันถือได้ว่าแทรกอยู่ทุกด้าน ตั้งแต่การแต่งกาย ไปจนถึงการกแต่งสถานที่ และการสร้างบรรยากาศสภาพแวดล้อม ก็มีการคำนึงถึงผลของสีที่มีต่ออารมณ์ ความรู้สึกของคนเสมอ



    การใช้สีบำบัดสามารถแบ่งโทนของสีออกเป็น 2 แบบคือสีโทนร้อน และสีโทนเย็น

    กลุ่มสีโทนร้อน เช่น สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีม่วง จะเป็นกลุ่มสีที่ทำให้เกิดความรู้สึกทีพลัง เร้าร้อน กระตือรือร้น และกระฉับกระเฉง ในทางจิตวิทยาความแรงของสีโทนร้อนจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเจริญอาหาร ทำให้เกิดความรึ้กหิว และกระตุ้นให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ


    สีเหลือง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
    สีเหลือง...เป็นสีแห่งความสนุกสนาน ความฉลาดรอบรู้ สดใสร่าเริง และทำให้มีอารมณ์ขัน ทั้งนี้ผักและผลไม้ที่มีสีเหลืองมักอุดมไปด้วยวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันหวัดและช่วยเสริมสร้างความเจริญเติบโตในร่างกาย พลังของสีเหลืองช่วยให้ระบบการทำงานของน้ำดีและลำไส้เป็นไปตามปกติ ช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น ทั้งยังสามารถใช้เยียวยาอาการท้อแท้หดหู่และหมดกำลังใจของผู้ป่วยบางประเภทได้อีกด้วย


    สีส้ม รักษาโรคหอบหืด
    สีส้ม...เป็นสีแห่งความสร้างสรรค์ อบอุ่น สดใส มีสติปัญญาความทะเยอทะยานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และในขณะเดียวกันก็มีความระมัดระวังไปในตัว ผลไม้และผักที่มีสีส้มอุดมด้วยวิตามินบีที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด เผาผลาญแป้งและน้ำตาล บำรุงระบบประสาท พลังของสีส้มช่วยคลายอาหารหอบหืดและโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ช่วยรักษาความผิดปกติของม้าม ตับอ่อน ลำไส้ ทั้งยังช่วยในการดูดซึมอาหารของกระเพาะและลำไส้ได้เป็นอย่างดี ในทางจิตวิทยา พลังของสีส้มมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการซึมเศร้า หากคุณต้องการเรียกพลังความกระตือรือร้นในชีวิตให้กลับคืนมา สีส้มเป็นสีที่คุณควรมองหาและนำมาประยุกต์ใช้ให้มากที่สุด


    สีแดง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง
    สีแดง...เป็นสีที่กระตุ้นระบบประสาทของเราได้รุนแรงที่สุด ให้ความรู้สึกเร้าใจ ตื่นเต้น ท้าทาย ตื่นตัว ผักและผลไม้สีแดงเป็นแหล่งของวิตามินบี 12 ทองแดงและเหล็ก ซึ่งช่วยบำรุงระบบประสาท พลังของสีแดงกระตุ้นพลังชีวิตให้มีความเข้มแข็ง กระตือรือร้นและมีชีวิตชีวา ในแง่ของการรักษา สีแดงมีอิทธิพลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง เพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย เพิ่มพลังในระบบการไหลเวียนของเลือด และรักษาอาการหวัด เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจ ควรรีบหาสีแดงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันโดยเร็ว ทั้งนี้เพราะพลังแห่งความมั่นใจ กล้าแสดงออก และความรักที่มีอยู่ในสีโทนร้อนเช่นสีแดงนั้นจะสามารถสร้างความรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองให้กับคุณได้เป็นอย่างดี


    สีม่วง ปรับสมดุลในร่างกาย
    สีม่วง...เป็นสีแห่งผู้รู้ ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย กระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ และสร้างความสงบในจิตใจได้เป็นอย่างดี ผักและผมไม้ที่มีสีม่วงเต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินดี ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงาน ช่วยในการย่อยอาหาร พลังของสีม่วงช่วยปรับสมดุลในร่างกายของเราให้กลับมาเป็นปกติ ใช้บำบัดโรคไต กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคผิวหนังบางชนิด อีกทั้งยังช่วยในการบำบัดโรคไขข้อได้อีกด้วย จากการวิจัยพบว่าพลังของสีม่วงยังช่วยให้สมองของเราสงบ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจไปในคราวเดียวกัน เมื่อคุณต้องขบคิดกับปัญหาที่ยังไม่สามารถหาทางออกได้ การนำสีม่วงเข้ามาประยุกต์ใช้กับข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่รอบตัวคุณ จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจกับเรื่องต่างๆ ได้ง่ายขึ้น



    กลุ่มสีโทนเย็น เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน สีฟ้า เป็นต้น เป็นกลุ่มสีที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สงบ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ และไม่ทำให้เครียด สีโทนเย็นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องทำงานหนักและใช้ความคิดเป็นอย่างมาก


    สีเขียว บรรเทาอาการเครียด
    สีเขียว...เป็นสีที่เด่นที่สุดบนโลกให้ความรู้สึกร่มรื่น สบายตา ผ่อนคลาย ปลอดภัย ทำให้เกิดความหวังและความสมดุล นอกจากนี้ผักผลไม้สีเขียวก็อุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญมากมายโดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งช่วยในการสมานแผล ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เล็บสวย ฟันสวย เพิ่มความต้านทานโรค ในด้านการรักษา ใช้เมื่อต้องการผ่อนคลายความตึงเครียด เพราะพลังของสีเขียวสามารถทำให้ประสาทตาผ่อนคลาย และความดันโลหิตของเราลดลงได้ ทั้งยังช่วยผ่อนคลายระบบประสาท ป้องกันการจับตัวของก้อนเลือด ต่อต้านเชื้อโรค รักษาอาการของคนเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เยื่อบุอักเสบ เป็นต้น


    สีน้ำเงิน บรรเทาความดันโลหิตสูง
    สีน้ำเงิน...เป็นสีที่มีความสุขุม เยือกเย็น หนักแน่น และละเอียดรอบคอบ พลังของสีน้ำเงินทำให้ระบบหายใจของเราเกิดความสมดุลและแข็งแรงขึ้น ใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง และคลายความเหงาอีกทั้งยังเป็นสีที่ใช้ในการสร้างแรงบันดาลใจและการแสดงออกทางศิลปะได้ดีอีกด้วย


    สีฟ้า บรรเทาโรคปอด
    สีฟ้า...เป็นแม่สีที่ให้ความรู้สึกสงบเยือกเย็น เป็นอิสระ ปลอดโปร่ง สบาย ปลอดภัย ใจเย็น และระงับความกระวนกระวายในใจได้ดี พลังของสีฟ้ามีคุณสมบัติในการรักษาอาการของโรคปอด ลดอัตราการเผาผลาญพลังงาน รักษาอาการเจ็บคอ และทำให้ชีพจรของเราเต้นเป็นปกติ


    สีแต่ละสีมีความหมายเฉพาะตัว เช่นเดียวกับบุคลิกภาพของคนแต่ละคน การใช้ ‘สีบำบัด’ ยังมีอีกหลากหลายวิธี แต่สิ่งสำคัญคือการศึกษาและเรียนรู้ถึงการเลือกใช้สีบำบัดอย่างถูกต้อง เพื่อความสบายกายสบายใจของตัวคุณเอง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×