คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8 ลมสงบเมื่อพายุกำลังจะมา
Angels Temptation ตอนที่ 8 ลมสงบเมื่อพายุกำลังจะมา
“อย่าเข้ามานะมัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงที่สั่นและแววตาตื่นตระหนกเธอตะเกียกตะกายจนหลังชิดติดกับหัวเตียงหมดหนทางที่จะดิ้นหนีไปไหนได้อีก
“เธอหนีฉันไปไหนไม่ได้อีกแล้วเกรนเจอร์”เด็กหนุ่มก้าวเท้าเข้าไปหาเธอก้าวหนึ่ง
“ไม่”เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าอย่างหมดหนทางเธอเบียดชิดจนร่างแทบแทรกลงไปในเตียง เมื่อเห็นว่าเดรโกคลานตามขึ้นมาอยู่บนเตียงเดียวกันกับเธอ
“”ยอมฉันแล้วฉันจะอ่อนโยนกับเธอ”เขากล่าวพร้อมกับขยับตัวอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าหาเธอ แต่เฮอร์ไมโอนี่เบี่ยงตัวหลบออกจากเขาได้ทันท่วงทีเช่นกันเธอลุกขึ้นจากเตียงในทันทีก่อนจะวิ่งออกพ้นประตู แต่ เดรโกกลับคว้าเอวเธอได้ทันเสียก่อน เขากระชากร่างอันบอบบางของเธอมาปะทะกับอกของเขา
หญิงสาวส่งเสียงร้องในขณะที่เขาโอบกอดเธอไว้แน่นทั้งสองเผชิญหน้ากันและหอบอย่างหนัก น้ำตาแห่งความโกรธนองไปทั่วใบหน้าของเธอเฮอร์ไมโอนี่รัวกำปั้นใส่อกและพยายามดันตัวออกจากเขาให้ได้ แต่พละกำลังของเดรโกมีมากกว่าเขาดึงตัวเธอเข้ามากอด และรวบผมเธอดึงศรีษะเธอให้ไปด้านหลัง เพื่อเขาจะได้มองเห็นใบหน้าของเธอได้ชัดๆเขามองใบหน้าที่บูดบึ้งของเธอและหัวเราะเบาๆ
“วันนี้เธอต้องชดใช้ให้ฉัน ในทุกๆสิ่งที่เธอทำไว้กับฉัน”
“อย่าให้ฉันหลุดไปได้ ฉันสาบานว่าจะสาปนาย มัลฟอย”เธอตวาดใส่เขาอย่างรังเกียจ เดรโกรับรู้ปฎิกิริยาเหล่านั้นโดยการเบียดชิดร่างกายของเขากับเธออย่างจงใจ
“เสียใจด้วยที่ทำให้เธอผิดหวัง เกรนเจอร์”เขากระซิบพร้อมกับโน้มกายเข้าหาเธอและก่อนที่เธอทันจะกระตุกหนีเดรโกบดเบียดริมฝีปากของเขากับเธออย่างรุนแรง เฮอร์ไมโอนี่หวาดกลัวอย่างจับใจ ริมฝีปากของเขาลงโทษเธออย่างหนักหน่วง เธอเกลียดปลายลิ้นที่ช่ำชองของเขาที่แทรกลึกเข้าไปในปากของเธอ
สมองของเฮอร์ไมโอนี่กำลังทำงานอย่างหนักในขณะที่เดรโกดูจะเพลิดเพลินไปกับริมฝีปากอันนุ่มนวลของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่กำลังคิด ถ้าเพียงแต่เดรโกคลายแขนที่แข็งแรงออกจากเธอชั่วครู่บางทีเธออาจจะป้องกันตัวเธอเองออกจากเขาได้ แต่ปัญหาคือเธอจะทำยังไง
ใช่สมองซิเกรนเจอร์! สาเหตุที่เขากอดเธอแน่นแบบนี้เพราะเขากลัวว่าเธอจะหาทางหนีไปจากเขา เพราะเธอยังไม่ละพยศ แต่ถ้าเธอ แกล้งยินยอมโอนอ่อนไปตามเขา และหาโอกาสหรือจังหวะดีๆเพื่อหาทางหนีเอาตัวรอด แต่ถ้าไม่สำเร็จล่ะ? มัลฟอยอาจโกรธ และ !..... เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แต่ถ้าเธอไม่ทำอะไรเลยทุกอย่างมันอาจจะสายเกินไป เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจในที่สุด
“ได้โปรด”หญิงสาวกระซิบ เดรโกมองดูใบหน้าที่แดงซ่านของเธอ”ฉันอยากสัมผัสคุณ”
เขารู้สึกวาบหวามด้วยไฟปรารถนาที่คุกกรุ่นจากคำพูดของเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาเองก็นึกแปลกใจ
“ทำไมเธอถึงเปลี่ยนใจล่ะ”
“ฉันต้องการคุณ”เฮอร์ไมโอนี่พูดย้ำอีกครั้งด้วยใบหน้าที่แดงซ่านกว่าเดิมพร้อมกับเบียดร่างนุ่มๆของเธอใกล้ชิดกับเขามากกว่าเดิม มันทำให้ไฟปรารถนาของเดรโกพุ่งพล่านจนลืมความผิดปกติจนหมดสิ้น เดรโกคลายวงแขนแข็งแรงปลดปล่อยเธอก่อนที่จะปลดกระดุมเสื้อของตัวเขาอย่างเร่งร้อน ตอนนี้เด็กหนุ่มเปลือยตั้งแต่ช่วงบนลงมายังเอว
ถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติเฮอร์ไมโอนี่คงจะชื่นชมไปกับความงดงามที่สมบูรณ์แบบของเขาเหมือนสาวๆคนอื่นอย่างแน่นอน แต่ในสถานกาณ์ตอนนี้มันดูเหมือนไม่เอื้ออำนวยกับความชื่นชมของเธอเลยแม้แต่น้อย
เฮอร์ไมโอนี่ขยับตัวอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้ตั้งหลัก มือของเธอชกใส่หน้าท้องเขาอย่างเต็มแรงเท่าที่เธอยังมีแรงอยู่ แรงนั้นทำให้เขางอตัวเล็กน้อยด้วยความตกใจมากกว่าที่จะเจ็บเดรโกรีบคว้าตัวเธอไว้แต่ก็โดนหญิงสาวกระแทกเข่าที่หว่างขาเขาเต็มแรงด้วยความเกรี้ยวกราด คราวนี้ได้ผลชะงัด เขาคู้ตัวทรุดลงคุกเข่าด้วยความเจ็บปวด แต่ยังพอมีสติที่จะคว้าขาของเธอได้ทันก่อนที่เธอจะขยับตัวหนีไป
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกหัวหมุน เมื่อขาของเธอถูกกระชากอย่างแรงจนเสียหลัก เธอได้ยินเสียงดังตุ๊บ! ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดสนิท และเธอก็เจ็บปวด
“โอ้ เมอร์ลิน ฉันกำลังจะตาย”เธอครวญครางในใจและก่อนที่เธอจะหมดสติไปจริงๆเธอได้ยินเสียงแผ่วๆพูดกับเธอท่ามกลางความมืดทึบ
“เกรนเจอร์ ..บ้าเอ๋ย ตื่นสิ”
############################
สายลมยามเช้าพัดผ่านม่านสีขาวริมหน้าต่างจนพลิ้วไหว รวมกับเสียงเซ็งแซ่ของเหล่าบรรดานักเรียนฮอกวอตส์ที่เริ่มออกมาสูดอากาศยามเช้าก่อนเข้าเรียน ช่วยปลุกร่างที่อยู่บนเตียงสีขาวภายในห้องพยาบาลให้รู้สึกตัวได้เป็นอย่างดี
เฮอร์ไมโอนี่ปรือตามองผ่านผ้าม่านสีขาวพบกับแสงแดดยามเช้าด้วยความมึนงง เธอยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองอย่างเพลียๆ อาการปวดที่อยู่บนหลังศรีษะของเธอยังคงอยู่ มันราวกับว่าสมองของเธอกำลังจะปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เธอถอนหายใจยาวก่อนที่พยายามที่จะลุกขึ้นจากเตียง และพยายามนึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอ
“ตื่นแล้วสินะ คุณเกรนเจอร์” น้ำเสียงนุ่มนวลดังขึ้นทางอีกฝากฝั่งหนึ่งของเตียง
“มาดามพ็อมฟรีย์”เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองมาดามพ็อมฟรีย์ที่เดินเข้ามาหาเธอพร้อมถ้วยยาสีเขียวที่อยู่ในมือ
“ดีแล้ว ลุกขึ้นมาดื่มยาเสียหน่อยแล้วนอนพักอีกสักครู่ อาการเจ็บที่หัวของเธอคงจะดีขึ้น แต่เธอเองคงต้องนอนพักรักษาตัวที่ห้องพยาบาลก่อนอีกสักสองสามวันนะ ฉันถึงจะยอมอนุญาตให้เธอออกไปได้”
“หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงค่ะ”เฮอร์ไมโอนี่แสดงอาการลังเลด้วยคำพูด
“คุณมัลฟอยเป็นคนพาเธอลงมาที่นี่”ร่างกายของเฮอร์ไมโอนี่มีอาการแข็งขืนต่อต้านอย่างน่าตกใจ เมื่อได้ยินชื่อนี้ แต่โชคดีมาดามพ็อมฟรีย์ไม่ได้สังเกตุเห็นเธอ
“มัลฟอยหรือค่ะ”เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงริมฝีปากและร่างกายของเขาที่ปะทะกับตัวเธอ ก่อนหน้านั้นมันทำให้เธอตัวชาและสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ใช่จ๊ะ เมื่อคืนคุณมัลฟอยอุ้มเธอมาส่งที่ห้องพยาบาล ”น้ำเสียงของผู้ดูแลหอผู้ป่วยกล่าวออกแนวชื่นชม
“พูดก็พูดเถอะนะการเรียนก็สำคัญอยู่หรอกนะ แต่สุขภาพก็สำคัญเช่นกัน หนูไม่น่าจะเคร่งเครียดไปกับตำราเรียนทั้งคืนแบบนั้น ดูสิเลยเป็นลมเลย ดีนะที่คุณมัลฟอยมาเจอเข้าก็เลยช่วยพามาส่งที่นี่”
เฮอร์ไมโอนี่หายใจลึกๆพยายามสะกดกลั้นอาการท้องไส้ปั่นป่วน
“มัลฟอยเป็นคนบอกว่าหนูเป็นลมเพราะมัวแต่อ่านหนังสือพวกนั้นจนดึกหรือค่ะ”
“ใช่จ๊ะ”
ความคิดของเธอหมุนคว้าง เธอพยายามที่จะบังคับประติดประต่อความคิด เพื่อตีความในสิ่งที่เธอได้ยินถึงข้ออ้างของมัลฟอย เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด
“โกหก”เฮอร์ไมโอนี่พึมพำเบาๆ
มาดามพ็อมฟรีย์ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ เหมือนว่าเธออาจจะฟังอะไรผิดไป
“หนุว่าอะไรนะ เกรนเจอร์”
เฮอร์ไมโอนี่ใช้มือบีบหมอนแน่น นี่เธอจะบอกกับทุกคนถึงอันตรายที่เธอได้รับจากเด็กหนุ่มผมบลอนส์ได้อย่างไร ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาเฉพาะหน้าโดยการสงบปากสงบคำเอาไว้ก่อนในตอนนี้
“เออ ไม่มีอะไรค่ะ มาดามพ็อมฟรีย์”
“ดีจ๊ะ งั้นก็ดื่มยาเถอะ ฉันต้องไปดูเตียงอื่นๆอีก”
เฮอร์ไมโอนี่ยกยาขึ้นมาดื่มอย่างว่าง่าย ก่อนที่มาดามพ็อมฟรีย์จะย้ายตัวเองออกจากเตียงของเธอ เฮอร์ไมโอนี่พยายามกลั้นอาการอ้าปากหาวอีกครั้ง เธอพยายามที่จะต่อสู้กับความอ่อนล้า พยายามสลัดอาการปวดเมื่อยที่ต้นคอ ใช่เลย ตอนนี้เป็นเวลาที่ดี ที่เธอจะต้องคิดว่าเธอควรจะทำอย่างไร เพื่อป้องกันตัวเธอเองและสะสางเรื่องนี้ให้จบลงอย่างรวดเร็ว เธอจะไม่มีวันยอมเสี่ยงใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวงไปกับเขาอีกต่อไป เธอจะไม่ยอมเป็นหนู ที่ถูกแมวอย่างมัลฟอย คอยไล่กวดตะครุบตัวอยู่ตลอดเวลา แต่....เวลานี้..... เฮอร์ไมโอนี่ล้มลงนอนแผ่หลา ดวงตาของเธอปิดสนิทและหลับไปอย่างง่ายดาย
ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่พยายามปิดเปลือกตาของเธอลงอีกครั้ง เธอสะดุ้งเมื่อหูได้ยินเสียงแว่วของใครบางคน เสียงเรียกที่เหมือนเสียงตะโกนมาจากที่ไกลๆ แทรกผ่านอากาศหนาวเย็นยามใกล้ค่ำ เมื่อเธอผงกหัวและเพ่งมองไปที่ประตู เธอเห็นเด็กชายสองคนวิ่งพรวดพราดข้ามายังด้านใน และร้องเรียกชื่อเธอดังลั่น พร้อมๆกับเสียงหอบหายใจอย่างหนักของพวกเขาทั้งสอง
“เฮอร์ไมโอนี่”
มาดามพ็อมฟรีย์เงยหน้าของเธอจากเหล่าบรรดายาสารพัดชนิดของเธอและขมวดคิ้วย่นด้วยอาการที่ไม่น่าพอใจนัก
“ขอโทษด้วย พวกคุณทั้งสอง ที่นี่คือห้องพยาบาล ไม่ใช่สนามตวิชดิช กรุณาเงียบๆด้วย”
แฮร์รี่และรอนหยุดวิ่งโดนอัตโนมัติ และเปลี่ยนเป็นเดินอย่างช้าๆเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่นั่งที่ขอบเตียงส่วนรอนนั่งที่เก้าอี้ด้านข้างของเธอ
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่ห้องพยาบาลได้ล่ะ”รอนเป็นฝ่ายถามอย่างกังวลใจ
เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ตอบคำถามของรอนแต่เธอกลับถามสิ่งที่เธอเป็นกังวล
“พวกเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ห้องพยาบาล”เฮอร์ไมโอนี่พยายามถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติทั้งๆที่เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเหมือนถูกโขลกอย่างแรง เมอร์ลิน เธอไม่อยากจะคิดในเรื่องร้ายๆว่าเดรโกบอกอะไรให้พวกเขารับรู้ในสิ่งที่เลวร้ายนี้หรือเปล่า เพราะเธอเองไม่มั่นใจกับการกระทำของเขามากนักเพราะเขาเป็นคนที่ทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามหรือศัตรูของเขาเจ็บปวด
“ปาราวตีมาบอกพวกเรานะสิ เมื่อตอนเช้าเธอมาขอยาแก้ปวดหัวให้ลาเวนเดอร์ และเห็นเธอนอนหลับอยู่บนเตียง ขอโทษนะเฮอร์ไมโอนี่ที่พวกเรามาเยี่ยมช้า กว่าปาราวตีจะบอกพวกเราก็เกือบบ่ายและพวกเราก็มีเรียนเต็มคาบเลยกว่าจะว่างจริงๆก็ตอนนี้เอง”
“ไม่เป็นไรหรอกรอน แฮร์รี่ อีกอย่างพรุ่งนี้ฉันคิดว่าคงจะออกจากห้องพยาบาลได้แล้ว”เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นมาอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจนักเพราะมาดามพ็อมฟรีย์บอกเธอว่าเธออาจจะต้องใช้เวลาพักผ่อนในห้องพยาบาลอีกสองหรือสามวันเลยทีเดียว
“ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นเหรอเฮอร์ไมโอนี่”แฮร์รี่ถาม
“คือ....ฉัน...”เฮอร์ไมโอนี่ลังเลเธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี เธอนิ่งเงียบใปนานเป็นครู่ใหญ่ก่อนตัดสินใจที่จะเลี่ยงบอกเพื่อนของเธอเหมือนอย่างกับที่มาดามพ็อมฟรีย์เข้าใจ
“เมื่อวานฉันอ่านหนังสือเรียนจนดึก แล้วรู้สึกหน้ามืดเลยเป็นลมไป”
“ใครเป็นคนพาเธอมาที่นี่”รอนถามและชำเลืองมาทางเฮอร์ไมโอนี่แวบหนึ่งอย่างตั้งใจ
เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายก่อนตอบอย่างไม่สบายใจ “มัลฟอย”
“อะไรนะ”พวกเขาทั้งคู่ตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน แฮร์รี่มองจ้องหน้าเธอ และอยากจะหัวเราะกับสิ่งที่เขาได้ยิน แต่เขากลับหัวเราะไม่ออกเสียอย่างงั้น
“ทำไมต้องเป็นมัลฟอยด้วย ไม่ใช่มันทำร้ายเธอจนเป็นแบบนี้นะเฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดแทงใจดำทำให้เฮอร์ไมโอนี่ข่มอารมณ์จนหน้าแดงกล่ำ เธอขยับตัวอย่างอึดอัดก่อนจะพูดอย่างอ่อนแรง
“เขาไม่ได้ทำร้ายฉันจริงๆรอน ที่ฉันเป็นลมไปก็เหราะเหนื่อยและเพลียก็เท่านั้น”
“เฮอร์ไมโอนี่คงเหนื่อยจริงๆนั่นแหละรอน”แฮร์รี่พูดตัดบท”ไหนจะเรื่องเรียนและหน้าที่ประธานนักเรียนหญิงอีก คงไม่ใช่งานง่ายๆแน่”
รอนส่งยิ้มมาที่เฮอร์ไมโอนี่” ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็โล่งใจ แต่...ฉันก็ยังสงสัยอยู่ทำไมมัลฟอยมันถึงช่วยเธอล่ะเฮอร์ไมโอนี่”ความกังขาของรอนดูเหมือนจะไม่สิ้นสุด
เฮอร์ไมโอนี่นิ่วหน้าขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะยักไหล่เหมือนไม่ค่อยสนใจ
“ฉันเองก็ไม่รู้หรอกรอนบางทีเขาอาจจะกลัวว่าฉันจะตายอยู่ในห้องพักของเขาก็ได้”
แฮร์รี่พยักหน้าก่อนเสนอแนะความคิดของตัวเขาเอง ”หรือไม่เขาอาจจะกลัวมัลกอลนากัลป์ตำหนิถ้าเขาเห็นแล้วยังคงเพิกเฉย”
“ช่างเถอะอย่างไงตอนนี้ฉันเองก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้กับเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอทั้งสอง
แฮร์รี่และรอนอยู่คุยกับเธอต่ออีกสักพักจึงลากลับ พวกเขารู้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อได้พูดคุยกับเธอ และรับรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรที่ร้ายแรง พวกเขาสัญญากับเธอว่า วันพรุ่งนี้เขาจะมาหาเธอตั้งแต่เช้า เพื่อรอดูว่ามาดามพ็อมฟรีย์จะอนุญาตให้เธอออกจากห้องพยาบาลได้แล้วหรือยัง
กว่าที่มาดามพ็อมฟรีย์จะอนุญาตให้เฮอร์ไมโอนี่ออกจากห้องพยาบาลก็หลังจากนั้นอีกสองวัน เช้าวันนั้น เฮอร์ไมโอนี่มุ่งตรงไปยังห้องนั่งเล่นรวมที่มีเธอและเดรโกใช้ร่วมกันในหอประธานนักเรียน ประตูหอถูกเปิดโดยที่เฮอร์ไมโอนี่ยังไม่ทันได้บอกรหัสผ่าน และสิ่งที่เธอเห็นก็คือ เดรโก มัลฟอยยืนอยู่ที่หน้าประตูกำลังจะออกไป
“กลับเข้าไปก่อนมัลฟอย เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน”
เดรโกเอามือล้วงกระเป๋าเอียงคอมองเธออย่างเหยียดหยาม เขาไม่แม้แต่จะขยับตัวไปด้านใน แต่เขากลับยืนกั้นเธอไว้ระหว่างประตูทางเข้า
“อยากสานต่อวันนั้นหรือไงกันเกรนเจอร์ แต่เอาไว้วันหลังก็แล้วกัน หัดดูเวลาเสียบ้างตอนนี้ฉันไม่ว่างมีเรียน” เดรโกผลักเธอเบาๆให้พ้นทางเธอเซออกนอกทางไปสองสามก้าว ก่อนที่เธอจะคว้าเสื้อคลุม จากด้านหลังของเขาไว้แน่น
“ฉันจะไม่ปล่อยนาย จนกว่านายจะเข้ามาข้างในและตกลงเรื่องของเราให้เรียบร้อยก่อน หรือไม่อย่างงั้น นายก็รอสักสองสามชั่วโมง อาจได้รับคำเชิญจากสำนักงานอาจารย์ใหญ่และอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับเขาเอง เลือกเอามัลฟอย นายจะเลือกจุดจบให้ตัวเองแบบไหน คุยกับฉันหรือจะคุยกับอาจารย์ใหญ่ดับเบิ้ลดอร์”เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองเดรโกอย่างแข็งกร้าว เขายืนมองเหมือนอยากจะขย้ำเธอออกเป็นชิ้นๆ ก่อนที่เขาจะกระแทกร่างของเธอ เดินกลับเข้าไปยังด้านใน เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจและเดินตามเขาเข้าไปยังด้านใน
“มีอะไร”เสียงก้าวร้าวของเดรโกดังขึ้นทำให้เธอสะดุ้ง เฮอร์ไมโอนี่พยายามรวบรวมความกล้าเพื่อคลำหาเสียงของตัวเอง
“นายกับฉันพวกเราต้องจบเรื่องนี้กันตอนนี้และเดี้ยวนี้”เฮอรืไมโอนี่พูดขึ้นพยายามทำเสียงไม่ให้สั่น
“เธอคิดว่ามันจะจบได้ง่ายๆงั้นเหรอ”เขาพูดและเดินมาที่เธออย่างประสงค์ร้าย แต่ก็หยุดในทันทีเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ ตวัดไม้วิเศษของเธอจ่อไปที่หน้าอกของเขา
“อย่าแม้แต่จะคิดมัลฟอย ถ้านายแตะต้องตัวฉันอีก แค่ครั้งเดียวฉันจะสาปนายและจะบอกดับเบิ้ลดอร์ว่านายทำเรื่องเลวร้ายอะไรลงไปบ้าง”
เดรโกชะงักงันสีหน้าของเขาดูสับสน เด็กสาวข้างหน้าเขากินดีเสือมาหรือไง หรือสมองกลับ ถึงได้กล้าหาญมาต่อกรกับเขาในตอนนี้
“เธอกล้าที่จะฟ้องดับเบิ้ลดอร์เรื่องฉันงั้นเหรอ ยายเลือดสกปรก”
เฮอร์ไมโอนี่กอดอกจากนั้นจึงบังคับให้ตัวเองเผชิญหน้ากับสายตาโกรธกริ้วที่เย็นเยียบของเดรโก สายตาโกรธเกรี้ยวไม่รู้สำนึกของเขา มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกโมโห
“ถ้านายกล้าทำร้ายฉันอีก ฉันทำแน่มัลฟอย แล้วเราลองมาดูกันว่า เจ้าชายสลิธลีนอย่างนายหรือเลือดสีโคลนอย่างฉัน คนไหนที่จะถูกดับเบิ้ลดอร์ไล่ออกจากฮ๊อกวอตร์ก่อนกัน”
ในที่สุดเธอก็พูดออกไปจนได้ความกระด้างที่เธอใส่ลงไปในน้ำเสียงทำให้คำพูดของเธอฟังดูแหลมสูงและห้วนสั้น
ช่วงวินาทีที่น่าหวาดหวั่นสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธอย่างรุนแรงนัยตาน์เขาลุกโชน เฮอร์ไมโอนี่เกรงว่าเขาอาจจะไม่สนใจ และยื่นมือออกมาจับเธออีกครั้ง เธอประหม่ากลัวจนแทบจะหนีไปเมื่อเธอเห็นเขาตั้งสติ เขาส่ายหน้าน้อยๆและแสดงอาการว่าสามารถควบคุมตัวเองได้ในระดับหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่อดจะโล่งใจไม่ได้
“เก่งมากเกรนเจอร์ “เขาสะกดลิ้นของเขาก่อนนิ่งเงียบ เพื่อคิดชั่วครู่”แล้วเธอจะเอายังไง”
เดรโกพูดพร้อมกับความคิดอันสับสน เขารู้สึกว่าความสนุกกำลังจะหายไป การมีปากเสียงหรือทะเลาะเบาะแว้งกับเธอมันติดเป็นนิสัยของเขาเสียแล้ว เธอไม่ได้เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ โดยทั่วไป และนั่นทำให้เขาอดชื่นชอบเธอไม่ได้แต่ในขณะเดียวกันความรังเกียจในสายเลือดของพวกเขาก็ทวีความรุนแรงด้วยเช่นกัน
และนั่นมันทำให้เขาสับสนว่าการที่เขาตอแยกับเธอเป็นเพราะความชื่นชอบหรือรังเกียจที่แท้จริงกันแน่
“อย่ามาระรานฉันอีก เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เรื่องที่มันเกิดขึ้นขอให้มันหยุดเพียงแค่นี้”
ความเงียบของเดรโก สร้างความงุนงงให้กับเธอ เรื่องการต่อต้าน ท้าทาย เป็นเรื่องที่เธอเข้าใจได้หรือแม้แต่ความโกรธ ก็ยังเป็นเรื่องที่มีเหตุผลเข้าใจได้อย่างดีที่สุด ทว่าโทสะที่ลุกโชนในตัวเขา ดูจะสลายไปจนหมดสิ้น แทนที่ด้วยความเย้ยหยันที่ไม่ได้ระเบิดออกมาจริงๆ
“ก็ได้ ถ้าเธอต้องการแบบนั้น เราต่างคนต่างอยู่ แต่เธอกับฉันเรายังคงป็นศัตรูกัน และจำไว้ว่าฉันจะไม่ละสายตาออกไปจากเธอเลย ระวังตัวไว้ให้ดี ก็แล้วกันเกรนเจอร์”
เขายิ้มในขณะที่พูด แต่ประกายเย็นเยียบในสายตาของเขา และน้ำเสียงที่ดูคุกคามอย่างน่าอันตรายทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคำเตือนนั้นมีความหมายว่าอย่างไร
เดรโก ทำตามที่พูดหลังจากเช้าวันนั้น เขาไม่พยายามข้าใกล้เธออีกเลยไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ
จากวันเป็นเดือนเฮอร์ไมโอนี่เริ่มสงบลง ทุกอย่างราบรื่นดี และเธอก็เริ่มหายกังวล เฮอร์ไมโอนี่เริ่มเรียนและทำหน้าที่ประธานนักเรียนได้อย่างเต็มที่ และภายในเดือนนั้นทั้งเดือนทำให้เธอมีความสุขเป็นครั้งแรกอย่างแท้จริง
“เฮอร์ไมโอนี่ได้โปรดฉันรู้สึก ไม่ดีเอาเลย” ลาเวนเดอร์ร้องขึ้นพร้อมกับน้ำตา
“เธอเป็นอะไรไป เช้านี้มีอะไรตกถึงท้องเธอแล้วหรือยัง” เฮอร์ไมโอนี่ถามและทรุดตัวลงนั่งที่ขอบเตียงของเธอในตอนนี้ ไม่มีใครอยู่ในหอนอน เนื่องจากเป็นช่วงเช้าที่คนส่วนมากรวมตัวกันอยู่ในห้องโถงใหญ่เพื่อทานอาหารเช้าและเฮอร์ไมโอนี่ก็เตรียมตัวที่จะลงไปเช่นกันถ้าเธอไม่มัวแต่เอาหนังสือที่เธอยืมเนวิลย์มาคืนและได้ยินสียงครางเล็ดรอดออกมาที่หอนอนหญิง เธอจึงเดินขึ้นมาตรวจและเจอลาเวนเดอร์นอนครวญครางอยู่บนเตียงตามลำพัง
“ไม่ กลิ่นของอาหารในตอนเช้า มันทำให้ฉันอยากอ้วก” ลาเวนเดอร์พูดขึ้นพร้อมกับทำใบหกน้าที่เบื่อหน่าย เฮอร์ไมโอนี่เริ่มเครียดภายใต้ความกดดัน ลาเวนเดอร์เหวี่ยงแขนเธอกอดเฮอร์ไมโอนี่และร้องไห้ ถึงแม้ว่าลาเวนเดอร์จะไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุด แต่เธอก็ถือว่าเป็นเพื่อนคนหนึ่งของเธอ เพื่อนสมควรต้องช่วยเพื่อน
“ก็ได้ งั้นเธอก็พักผ่อนเถอะนะ ฉันจะลงไปเอาอะไรให้เธอกินก่อน”เธอพูดเสียงอ่อนโยน
“ขอบคุณ เฮอร์ไมโอนี่”ลาเวนเดอร์ผ่อนลมหายใจและคลายอ้อมกอดจากเธอ เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าและออกจากห้องไป
มันค่อนข้างเร็วเกินไปในตอนเช้านี้ที่จะวิ่งไปวิ่งมาทั่วทุกที่ ตั้งแต่ที่เธอกลับมาเรียนที่ฮ๊อกว๊อตส์ในปีนี้ และหลังจากที่เธอต้องสู้รบกับมัลฟอยมานาน หลังจากการพูดคุยกันครั้งสุดท้าย มัลฟอยถอยห่างออกจากเธอ นอกจากสายตาของเขาเท่านั้นที่ยังคอยติดตามเธอยามที่มีโอกาส เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่ถอนหายใจยามที่เธอสบสายตากับเขา ยังไงก็ตามการที่เขามองเธอ มันก็ยังดีกว่าการที่เขาตามตอแยเธอ เฮอร์ไมโอนี่จึงพยายามทำเป็นไม่สนใจในสายตาที่มีเล่ห์เหลี่ยมของเขา
เฮอร์ไมโอนี่พยายามทำตัวยุ่งวุ่นวายทั้งวัน ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือหน้าที่ประธานนักเรียนของเธอ เธอตระเตรียมหนังสือเรียนในช่วงเวลาต่อไป แต่เนื่องจากเฮอร์ไมโอนี่ลงเรียนหลายวิชาและเธอเองก็ต้องแบกหนังสือเป็นจำนวนมากไปรอบๆและในตอนนี้เธอเองก็ต้องคอยดูแลลาเวนเดอร์ที่ป่วยอีก เมอร์ลินเธออยากหยุด! เธอดีเกินไปแล้ว!
“ทำไมหนังสือเยาะจัง”รอนถามในขณะที่เธอลงมาจากหอนอนและรอนเข้ามาเอาหนังสือเพื่อไปคืนยังห้องสมุด เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มไปที่เขาพลางคิดถึงความอ่อนโยนของรอนที่มีให้เธอเสมอมา
“วันนี้ฉันมีเรียนหลายวิชาน่ะรอน มันค่อนข้างหนักแต่มันก็คุ้มนะ รู้อะไรไหมฉันเพิ่งค้นพบว่า วิชามักเกิ้ลศึกษามันน่าสนใจจริงๆทั้งๆที่ฉันเองก็เป็นมักเกิ้ลแท้ๆ”เฮอร์ไมโอนี่ภอนหายใจเมื่อเมื่อเธออดคิดถึงเรื่องบางอย่างที่กวนใจเธอ แต่รอนไม่ได้สังเกตเห็นมัน
“ฉันรู้เฮอร์ไมโอนี่เธอเคยพูดถึงมันมาแล้ว”เขากล่าว”แต่มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแบกหนังสือเหล่านั้นไปรอบๆทุกวัน ทำไมเธอไม่ปล่อยมันเอาไว้ที่ห้องแล้วมาเอามันใหม่ตอนช่วงกลางวันล่ะ” เขาแนะนำและยิ้มให้กับเธอ
“ไม่เป็นไรหรอกฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แล้วพบกันในชั้นเรียน”เฮอร์ไมโอนี่โบกมือลาและแบกกระเป๋าออกจากห้องนั่งเล่นรวม เฮอร์ไมโอนี่อมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของรอนก่อนที่เธอจะพ้นประตูไป
“มันหนักจัง”เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับล้มลงบนที่นั่งในห้องโถงใหญ่ อาหารทั้งหมดดูน่ากินและเธอสงสัยว่าลาเวนเดอร์ อยากกินอะไร ในที่สุดเธอก็คว้าแอปเปิ้ลและขนมปังปิ้งห่อเอาไว้ในผ้าเช็ดปากและสะกดมันไว้เพื่อไม่ให้ขนมปังแตกและเธอเอาใส่ไว้ในถุงเสื้อ เฮอร์ไมโอนี่ทาเนยลงบนขนมปังของตนเองและเริ่มกิน
“เฮอร์ไมโอนี่”แฮร์รี่ทักทายเธอในขณะที่เขานั่งลงตรงข้ามกับเธอ
“หวัดดี แฮร์รี่ วันนี้เธอมาสาย”
“ใช่ฉันหิวมากจนหลับไปเลย”เขาหัวเราะระหว่างที่ตามองดูบรรดาอาหารที่อยู่ตรงหน้า “วันนี้อาหารน่ากินจัง”แฮร์รี่พูดพร้อมกับตักอาหารใส่จานเขาเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเล็กน้อย
“กินเหมือนหมู นั่นมันไม่ทำให้ฉันแปลกใจเลยกับพวกกริฟฟินดอร์”เสียงเย็นๆลอยมาจากโต๊ะคู่อริและมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตัวแข็งทื่อ
“เงียบไปเลยมัลฟอย ตอนนี้มันยังเช้าไปฉันขี้เกียจต้องมานั่งมองหน้าตางี่เง่าของนาย”แฮร์รี่ตอบกลับทันควัน
“ดูเหมือนฉันอยากจะสนใจคนอย่างแกกับเลือดสีโคลนเพื่อนของแกนักนี่”มัลฟอยพูดขึ้นและหัวเราะเยาะศัตรูของเขาก่อนตวัดสายตามองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งก้มหน้านิ่งเงียบไม่โต้ตอบกลับ เดรโกยิ้มเยาะก่อนที่จะพาพวกเพื่อนๆที่โง่เง่าของเขาเดินห่างออกไป
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงใบหน้าที่แดงกล่ำของเธอ ที่เต็มไปด้วยความอดกลั้นไม่โต้ตอบเขา เธอเงยหัวที่ซ้อนอยู่ที่หลังผมของเธอขึ้นและขอบคุณกับความเงียบสงบที่มัลฟอยมีให้กับเธอ
“ดูมัน มันกล้าพูดดูถูกเธอ”แฮร์รี่พูดออกมาอย่างหัวเสียและเฮอร์ไมโอนี่พยายามทำให้เขาสงบลง
“แฮร์รี่ช่างมันเถอะฉันไม่สนกับคำพูดของเขาหรอก เขามันน่าสงสาร”เธอพูดพึมพำในขณะที่แฮร์รี่มองมาที่เธอเหมือนไม่อยากจะเชื่อในคำกล่าวของเธอ
“เธอควรจะสู้เขากลับนะเฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่ได้กลัวเขาใช่ไหม”เขาถามเธอและมันทำให้เธอตัวสั่นเล็กน้อย เธอไม่ได้กลัวเขาแต่เธอไม่ชอบที่จะอยู่ใกล้เขา เขามักจะชอบดูหมิ่นและคุกคามเธอเสมอ ตั้งแต่ปีหนึ่งมาแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ความหยิ่ง อวดดี เห็นแก่ตัว และใจร้ายของเขา แค่นี้ก็เลวร้ายเพียงพอแล้วสำหรับเขา
“ไม่ต้องกังวลใจไปเฮอร์ไมโอนี่อีกไม่นานเราก็จะจบกันแล้ว เราจะไม่ต้องเห็นหน้าเขาอีก”แฮร์รี่กล่าวอย่างมีความสุข “ขอบคุณเมอร์ลิน”เขากล่าวติดตลกและเขายิ้มมาที่เธอและทานอาหารของเขาต่อไป เฮอร์ไมโอนี่กินเสร็จแล้วเธอมีอะไรให้ทำอีกเยอะในวันนี้ เธอต้องกลับไปและเอาอาหารไปให้กับลาเวนเดอร์
“แล้วเจอกันที่ชั้นเรียนนะแฮร์รี่”เธอโบกมือขณะที่เธอเดินออกไปและผ่านรอนที่เดินสวนมาพวกเขาหยุดพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนที่เธอจะเดินจากไป
เฮอร์ไมโอนี่เดินกลับไปยังห้องนั่งเล่นรวมและเห็นฝูงชนล้อมรอบอยู่ที่โซฟากลางห้อง
“ลาเวนเดอร์”เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนเรียกร่างบางที่ขดตัวอยู่บนโซฟา ลาเวนเดอร์ดูขาวซีดเธอมีอาการดูแย่ลง
“ลาเวนเดอร์เธอเป็นยังไงบ้าง”เฮอร์ไมโอนี่ถามพร้อมกับความกังวลวิ่งผ่านหัวเธอ
“เฮอร์ไมโอนี่”เธอครางอย่างอ่อนแรง”ฉันหิวมากดังนั้นฉันจึงคิดที่จะลงไปยังห้องโถงเพื่อไปหาเธอแต่อยู่ๆหัวก็หมุนแล้วฉันก็เป็นลมไป”เฮอร์ไมโอนี่มองเธออย่างเป็นกังวลลาเวนเดอร์ดูซีดขาวในตอนนี้ เธอควรจะทำอย่างไรดี
“ฉันคิดว่าควรพาเธอไปห้องพยาบาล”เนวิลล์เสนออย่างเอียงอาย ลาเวนเดอร์กำแขนรอบๆเธอแน่นและดึงเธอเข้ามากอด
”ฉัน...ฉัน..ไม่ไปห้องพยาบาลนะเฮอร์ไมโอนี่”
ลาเวนเดอร์กระซิบที่ข้างหูของเธอ
”รอบเดือนของฉันขาด ฉันคิดว่าฉันท้อง”
ความคิดเห็น