ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic แปล harry potter / Strange and beautiful เซดีก/เฮอร์ไมโอ

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 9 : เพราะจุดสิ้นสุดยังมีความสวยงาม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 521
      5
      3 พ.ค. 54

    Strange and beautiful
     
                       บทที่ 8
    เพราะจุดสิ้นสุดยังมีความสวยงาม
    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับเธอกำลังนั่งอยู่บนรอลเลอร์คอสเตอร์ ดวงตาของเธอยังคงปิด และหัวของเธอกำลังหมุนติ้ว ร่างกายของเธอสูงขึ้นสูงขึ้น เธอไม่อาจหยุดมันได้ เธอไม่ได้แม้แต่จะปลุกให้ตัวเองตื่น  เธอเห็นเซดริก เขากำลังยืนห่างจากเธอไม่กี่ก้าว แต่เธอไม้อาจเอื้อมมือถึงเขาได้ เธอพยายามร้องเรียกแต่เขาหันหลังให้เธอ และราวกับว่าจะไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดแม้ว่าจะตะโกนดังแค่ไหน เขาไม่หันกลับมา ทำไมเขาไม่หันกลับมาล่ะ
    เธอรู้สึกถึงน้ำตาอุ่นๆที่เริ่มไหลริน มันทำให้เธอแสบตา เธอไม่อาจเรียกเขาได้ เท้าของเธอรู้สึกราวกับว่าพวกมันติดอยู่บนพื้นดินฝังอยู่ในซีเมนต์ ทำให้เธอขยับเขยื้อนไม่ได้ และไม่มีใครจะมาช่วยเธอ ในตอนนี้หัวของเธอหมุนอย่างควบคุมไม่ได้ และเธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจะเป็นลม
    “เซดริก!” เธอร้องตะโกน แต่เขายังคงไม่หันกลับมามองเธอ   เขาห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าว ถึงกระนั้น เขายังคงหันหลังให้เธอ     เมื่อมองไปรอบๆ เธอถูกรายล้อมไปด้วยพุ่มไม่สูง แทบจะเหมือนเธออยู่ในเขาวงกต ทุกๆที่ที่เธอมองไป เธอถูกรายล้อมด้วยสีเขียวของใบไม้ ความมืดในยามค่ำคืน เธออยู่ที่ไหน?  เซดริกยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แต่เธอเอื้อมมือไปไม่ถึงเขา เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยรู้สึกห่างไกลจากเขามาก่อน เธอรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจของเขา เมื่อหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นในทันที   หัวใจของเธอก็เต้นแบบเดียวกัน และเมื่อเขาเริ่มกลัว เธอก็เริ่มล้นลานเช่นกัน ทุกๆสิ่งที่เขารู้สึก เธอรู้สึกเช่นกันและเมื่อเธอมองไปรอบๆอย่างหวาดกลัว พยายามมองสาเหตุของความวิตกกังวล และความกลัวที่ก่อตัวขึ้นในฉับพลันแต่ถึงกระนั้น เธอไม่เห็นอะไรเลย อย่างไรก็ตามเธอสงสัยว่าทำไมเธอเริ่มว้าวุ่นใจและรู้สึกกลัว เธออยากที่จะเห็น เธอจำเป็นต้องเห็นในสิ่งที่เซดริกเห็น เธอเพียงแค่สัมผัสมันผ่านเขา แต่เธอจำเป็นต้องเห็นมัน เพื่อที่เธอจะสามารถช่วยเขาต่อสู้กับมันได้  
    “เซดริก!” เธอพยายามกรีดร้องเรียกเขาอีกครั้ง แต่เขายังคงไม่ได้ยินเธอ เขาหมกมุ่นเกินไปกับอะไรก็ตามที่เขาเห็น ซึ่งมันยืนอยู่ตรงหน้าเขา  
    หัวของเธอหมุนแรงขึ้น และเธอบังคับให้ตาปิดลง พยายามทำให้มันหยุด เธอรู้สึกคล้ายกับเธอกำลังคลื่นไส้ หัวใจของเธอเต้นรัวในอก และเธอพยายามจดจ่อ พยายามให้เซดริกสงบลง พยายามอย่างหนักมากที่สุด ที่จะวางความกล้าไว้ข้างหน้า แต่เธอรู้สึกถึงความกลัวที่ทำให้ขยับเขยื้อนไม่ได้ของเขาเท่านั้น เธอพยายามสงบอารมณ์แต่นั่นเป็นไปไม่ได้ เธอไม่อาจขยับเขยื้อน และไม่อาจติดต่อกับเขาได้ อารมณ์ที่เขาเป็นเข้าครอบงำเธออย่างสมบูรณ์ และเธอไม่อาจหยุดมัน จากการที่มันกระหน่ำใส่เธอในครั้งเดียวคล้ายกับลูกปืน
    “เฮอร์ไมโอนี่ เขารู้เกี่ยวกับเรา” เซดริกพูดผ่านความคิดของเขาในทันที
    “ใคร” เธอถาม อย่างรีบเร่ง ดีใจที่ในที่สุดเขาตอบสนองเธอ และเธอเกือบจะเริ่มร้องไห้อีกครั้ง เมื่อเซดริกไม่ตอบคำถามของเธอ   อย่างไรก็ตามเฮอร์ไมโอนี่รู้คำตอบอยู่แล้วเพราะเมื่อเซดริกรู้คำตอบ เธอก็รู้คำตอบด้วยเช่นกัน 
    ในตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไม เขาเกือบจะตัวสั่นด้วยความกลัว ใครบางคนเห็นพวกเขา ใครบางคนเห็นเครื่องหมาย และรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเขา พวกเขาถูกสอดแนม และใครคนนั้นจะจากไปเพื่อใครคนหนึ่ง
    “ผ่านเจ้าและเลือดสีโคลน ข้าจะเข้าถึงพอตเตอร์” เสียงที่คล้ายเสียงขู่ของงูวิ่งผ่านร่างกายของเธอ และเธอรู้สึกมวลท้อง เธอไม่เคยรู้สึกกลัวเท่านี้มากก่อน มันครอบงำร่างกายของเธอด้วยมืออันหนาวเย็น และเธอไม่อาจจะคิด ไม่อาจขยับเขยื้อน เช่นเดียวกับเซดริก ในตอนนี้ เธอกลัวจนขยับเขยื้อนไม่ได้  
    “อะวาดา เคดาฟรา!” เสียงขู่ฟ่อสั่งในทันใด
    “ไม่!” เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องแต่มันสายเกินไปแล้ว เธอเห็นประกายแสงสีเขียวออกจากไม้กายาสิทธิ์ที่มองไม่เห็น และ เซดริกล้มลงสู่พื้นตายในทันใด
    แรงที่ครอบงำเธอไปยังอีกที่หนึ่งในฉับพลันทลายลง และเฮอร์ไมโอนี่ล้มลงสู่พื้นแข็ง เธอร้องไห้อย่างหนัก เธอแทบจะมองไม่เห็น แต่เธอพยายามคลานไปหาเขา   เธอไม่รู้สึกถึงเขาอีกต่อไป เขาเลือนหายไปสู่ความว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง และแผลเป็นบนแขนของเขาไม่ส่องประกายอีกต่อไปแล้ว ชีวิตของเขา ไม่ไหลผ่านเธออีกต่อไป เธอร้องไห้คร่ำครวญอย่างหนัก เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังจะทำให้ตัวเองเจ็บป่วย และ เธอล้มลงบนตัวเขาซบอกเขา เขาตัวเย็นแล้ว เธอกอดเขาแน่น และไม่ต้องการให้เขาจากไป
    “เซดริก.... ได้โปรดอย่างทิ้งฉัน”   มันเริ่มเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และ เธอรู้สึกถึงมันได้ไม่ว่าจะอย่างไร เธอยินดีกับมันและตื่นเต้นเพราะมัน เธอจะไม่อยู่โดยปราศจากเซดริก เธอรู้ว่าเธอทำไม่ได้ คาถาก็รู้เช่นกัน และเฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าหัวใจของเธอเริ่มเต้นช้าลงแล้ว ดวงตาของเธอกระพริบปิดลง และในขณะที่เธอสูดลมหายใจครั้งสุดท้าย เธอรู้สึกถึงเสียงลมที่ส่งเสียงดังอื้ออึงในหูของเธอก่อนที่เธอจะตาย 
    “เจ้าทั้งสองจะตายในคืนพรุ่งนี้”
    เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งตื่น เธอถลาอยู่ในท่านั่ง ร่างกายของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อที่เป็นประกายของหยาดน้ำ และผ้าคลุมเตียงของเธอหลุดออกจากร่างกายเธอ เสียงกรีดร้องที่กระชากจากปอดของเธอ ทิ่มแทงค่ำคืนที่เงียบสงบ ทำให้ทุกๆคนในหอกริฟฟินเดอร์ตื่นขึ้น เธอไม่อาจหยุดเสียงกรีดร้อง ความน่ากลัวนี้ไม่สามารถหยุดเธอได้   เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่น และร้องไห้คร่ำครวญ ในขณะที่เธอกรีดร้อง
    อีกฝากหนึ่งของปราสาท เซดริกนอนซุกอยู่บนเตียงของเขา นอนโดยปราศจากฝันร้ายของเขาเอง เซดริกรู้สึกถึงความกลัวของเธอฉีดผ่านร่างกายของเขา และเสียงกรีดร้องของเธอก้องอยู่ในหู เขาไม่แม้แต่ลังเล เขาเหวี่ยงผ้าคลุมออกจากร่างกายของเขา และลุกขึ้นจากเตียงโดยเร็ว เขาต้องไปหาเธอ บางสิ่งกำลังเกิดขึ้น และเขาต้องช่วยเธอ ในขณะที่เซดริกวิ่งไป เขาพยายามพูดกับเธอผ่านความคิด แต่เขาไม่อาจเข้าถึงเธอได้ ความกลัวของเธอมากเกินไป และมันเข้าครอบง้ำหัวใจของเขาด้วยเช่นกัน 
    ศาสตราจารย์มักกอลนากัลพยายามทำให้เธอสงบลง แต่เสียงกรีดร้องของเธอยังไม่หยุด คำพูดจากเสียงขู่คล้ายงูยังคงอยู่ในหัวของเธอ ร่างกายที่เย็นเฉียบของเซดริกยังคงทำให้เธอรู้สึก ฝูงชนเริ่มรวมตัวกันหน้าประตู และ จ้องมองเข้าไปในห้องนอน ที่เธอใช้ร่วมกับลาเวนเดอร์ และปาราตี     รอนกับ แฮร์รี่   ต้องดันฝูงชนไปเพื่อเข้าถึงตัวเธอ
    “เซดริก!” เธอร้องตะโกน ในขณะที่มิเนอร์ว่าจับไหล่ของเธอ เขย่าตัวเธอ และนักเรียนหลายคนมองกันเองด้วยความสับสน เมื่อได้ยินชื่อของฮัฟเฟิลพัฟออกจากปากของเธอ 
    “เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่เรียกกระหืดกระหอบ และในที่สุดพวกเขาสามารถฝ่าฝูงชนเข้าไปในห้องของเธอได้ เขากับรอนอยู่ข้างกายเธอในทันที แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองไม่อาจช่วยเธอได้ก็ตาม รอนจับแขนของเธอ และแฮร์รี่พยายามทำให้เธอมองมาที่เขา แต่เธอได้แต่กรีดร้องและเหวี่ยงตัวไปรอบๆ ราวกับว่าเธอพยายามต่อกรกับอะไรบางอย่างจากจากความฝันของเธอที่พวกเขามองไม่เห็น 
    “โวลเดอมอร์!” เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้อง ทุกๆคน ยกเว้นมิเนอร์ว่าและแฮร์รี่ ที่ได้ยินต่างอ้าปากค้างพร้อมกัน 
    “แฮร์รี่ โวลเดอมอร์กำลังมา!” แฮร์รี่ตกใจสุดขีดจนแน่นิ่ง ในขณะที่เพื่อนรักของเขามองมาที่เขา ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวที่เขาไม่เคยเห็นในดวงตาของเธอมาก่อน  
    “ฉันต้องการเซดริก ฉันต้องการพบเซดริก!”   ไม่มีใครขยับเขยื้อน อากาศดูเหมือนว่าจะหายไปจากห้อง ในขณะที่ดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่เหลือกขึ้น และเธอเป็นลมในอ้อมแขนของมิเนอร์ว่าในทันที 
    เซดริกไปยังเส้นทางที่เขาคุ้นเคยโดยเร็ว และแทนที่เขาจะวิ่งไปที่หอกริฟฟินดอร์ เขากลับวิ่งไปในทิศทางอื่น เซดริกรู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่ขยับเขยื้อนอีกครั้งและเขารีบวิ่งไปยังปีกห้องพยาบาล คำว่า “เลือด” ก้องดังในหูของเขา ในขณะที่หัวใจของเขาเต้นรัวอยู่ในอก
    “เฮอร์ไมโอนี่!” สมองของเขาตะโกนดัง แต่เธอไม่ตอบ เขาไม่อาจเข้าถึงเธอ และนั่นทำให้เขากลัวมากกว่าสิ่งใดๆที่เคยเป็นมาก่อน
    มาดามพอมฟรีย์โน้มตัวข้างเฮอร์ไมโอนี่กดมือที่หน้าผากของเธอ พยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสาวผู้นี้ ในขณะที่มิเนอร์ว่า อัลบัส และ แฮร์รี่ กับ รอน ทุกคนต่างใจจดใจจ่อรออยู่ข้างเตียง ความหวาดกลัว วิตกกังวล สับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อประตูบานใหญ่สุดห้องโถงเหวี่ยงเปิดออก ทุกคนเห็นเซดริกหายใจหอบและก้าวเข้ามาโดยเร็ว แต่ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาใกล้เตียงที่เฮอร์ไมโอนี่นอนอยู่ รอนเดินอาดๆเข้าไปหาเขา ดวงตาสีฟ้าของรอนฉายแววของความโกรธ โดยปราศจากคำพูดใดๆ รอนกำหมัด และพุ่งไปข้างหน้า ทำให้มันปะทะเข้ากับขากรรไกรของเซดริก แรงต่อยอย่างเต็มที่ทำให้เซดริกล้มลงสู่พื้น และ รอนก้มตัวลงเพื่อจะต่อยอีกครั้ง แต่แฮร์รี่จับเขาไว้พยายามเหนี่ยวรั้งเขา
    “แกทำบ้าอะไรกับเธอ” รอนร้องถามตะโกนใส่เขา และไม่แคร์ว่า มักกอลนากัล และดัมเบิลเดอร์จะลงโทษเขา เพราะคำพูดและความรุนแรงของเขา
    “ก่อนหน้าภารกิจที่สองบ้าบอนั่น เฮอร์ไมโอนี่ยังสบายดีอยู่ แกทำอะไรกับเธอ”
    เซดริกลุกขึ้นยืนได้  ในจังหวะที่แฮร์รี่เหนี่ยวรั้งรอนไว้    ขากรรไกรของเขาปวด และเขารู้ดีว่าเขากำลังจะมีแผลฟกช้ำ เขารู้ว่ารอนกับแฮร์รี่เป็นเพื่อนรักของเฮอร์ไมโอนี่ และรู้ว่าทั้งสองเป็นห่วง และกลัวเพื่อเธอ แต่นั่นไม่ใช่สิทธิที่พวกเขาจะต่อยเขาได้    ทั้งรอนและแฮร์รี่ พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่รู้ว่ามันยิ่งใหญ่แค่ไหน
    “ฉันไม่ได้ทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่เลย!” เซดริกตะโกนกลับไป และรอนพยายามเป็นอิสระจากการเหนี่ยวรั้งของแฮร์รี่ เพื่อที่เขาจะได้ปล่อยอีกหมัดไปยังซีกเกอร์แห่งบ้านฮัฟเฟิลพัฟ
    “คุณวีสลีย์!  คุณดิกกอรี่!” ดัมเบิลเดอร์พูดด้วยเสียงสงบราบเรียบ ก้าวไปข้างหน้านักเรียนทั้งสามคน
    “คุณเกรนเจอร์ต้องการความเงียบ ฉันอยากให้ทุกคนออกไปจากที่นี่ทันที” มาดามพอมฟรีย์กระซิบอย่างหนักแน่น 
    “เซดริกมีคำอนุญาตจากผมให้อยู่กับเฮอร์ไมโอนี่” ดัมเบิลเดอร์สั่ง แต่ในขณะที่รอนและแฮรี่เปิดปากทักท้วง เขาพูดต่อ “ศาสตราจารย์มักกอลนากัล และผมจะคุยกับรอนและแฮร์รี่ในห้องทำงานของผม เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”
    เซดริกพ่นลมออกทางจมูกอย่างแรง   ไม่มีใครอธิบายสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเขา หรือเฮอร์ไมโอนี่ พวกเขาต้องคิดมันด้วยตัวเอง แต่แน่นอนดัมเบิลเดอร์จะพะเน้าพะนอแฮร์รี่ เขาส่ายหน้าเล็กน้อย เขาไม่ได้ตั้งใจ เขาไม่ได้มีปัญหากับแฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือ รอน วีสลีย์ ยกเว้นถึงตอนนี้ที่เขาถูกต่อย เขาก็แค่ตกตะลึงเพราะเฮอร์ไมโอนี่ เลยทำให้เขาไม่ได้คิดอย่างชัดเจน
    โดยไม่ลังเลหรือรอให้ทุกคนปล่อยให้เขาและเธออยู่ตามลำพัง เซดริกเข้าไปหาเฮอร์ไมโอนี่ ที่นอนอยู่บนเตียง และสัมผัสเธอ เขาจูบเธอ เขานอนอยู่ข้างเตียง และเอาหน้าผากประกบหน้าผากของเธอ   ปิดตาลงพยายามสงบนิ่ง และส่งความสงบเงียบของเขาไปให้เธอ
    “เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นั่น แฮร์รี่ถามดัมเบิลเดอร์ ในขณะที่ทุกคนออกจากตึกพยาบาล มาดามพอมฟรีย์ปิดประตูไล่หลังพวกเขา
    ห้องสงบเงียบและมืด เซดริกรวบรวมความสนใจทั้งหมดไปที่เฮอร์ไมโอนี่ที่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา หน้าผากของเขายังคงประกบอยู่ที่หน้าผากของเธอ และเอามืออีกข้างหนึ่งวางบนแก้มของเธอ อีกข้างอยู่ที่หน้าอกของเธอ วางอยู่เหนือหัวใจ ในขณะที่เขาเริ่มสงบลง เขารู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ช้าลงของตัวเองและรู้สึกถึงหัวใจของเธอที่เต้นช้าลงด้วยเหมือนกับเขา   เขาปลดปล่อยให้พลังความคิดไหลไปสู่เธอเพื่อให้เธอสงบ ในตอนนี้พวกเขารู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกัน 
    นับตั้งแต่ครั้งแรกของพวกเขาใต้อัฒจันทร์สนามควินิช เกิดความแข็งแกร่งในพันธะของสายสัมพันธ์ของพวกเขา ที่เพิ่มเป็นสิบเท่า เมื่อเขาหิวท้องของเธอก็จะร้องเช่นกัน เมื่อเธอนั่งอยู่ในห้องเรียน และจาม ไม่ว่าเซดริกจะอยู่ที่ไหนในปราสาทเขาจะเริ่มคันจมูก มันไม่ได้ทำให้พวกเขากลัวเหมือนที่ใครคิด   พวกเขาคาดการณ์ว่ามันจะเกิดขึ้น 
    เฮอร์ไมโอนี่อาจเห็นว่าการกระตุ้นทางเพศจะทำให้คาถามีพลังสูงสุด และในตอนนี้ ความปรารถนาทางร่างกายของอีกฝ่ายไม่สามารถควบคุมได้ มันไม่ถูกระงับไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร พวกเขารักกันทุกวัน เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาหาเวลาได้  พวกเขาจะพบกันในห้องเรียนที่ว่างเปล่า และหลายครั้งพบกันในเรือนกระจก พวกเขาต้องการกันและกันเสมอ   อย่างไรก็ตามพวกเขารู้สึกกลวงและว่างเปล่า เมื่อพวกเขาแยกจากกัน
    “อย่างนั้นแหละ   ไมโอนี่” เขากระซิบในหูเธอ ดวงตาของเขาปิดลง ความสนใจของเขาไม่ได้มุ่งไปที่สิ่งใด ยกเว้นเธอ  
    “หายใจกับผมนะ ที่รัก”
    ในตอนนี้เขารู้แล้วว่า ที่เขาหายใจหอบไม่ใช่เพราะ การวิ่งจากห้องของเขาไปตึกพยาบาล เขาหายใจหอบเพราะว่าเธอไม่สามารถหายใจได้ ฝันร้ายของเธอ ทำให้เธอหมดพลัง และเมื่อเธอไม่อาจหายใจได้ ดังนั้น เซดริกไม่สามารถหายใจได้เช่นกัน
    “เฮ้อ...”
    เซดริกลืมตาขึ้นอีกครั้ง และเขาพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ในขณะที่เขาเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นแล้ว
    “อะไรนั่น คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม เกิดอะไรขึ้น” เขาถามในทันที เขาไม่ได้ตั้งใจโยนคำถามใส่เธอ แต่เขาต้องรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอกำลังซ่อนมันจากเขา และไม่ว่าเขาจะค้นหาความคิดของเธอนานแค่ไหน เขาไม่อาจเจอคำตอบ
    เธอผลักของเขาออกจากแก้มเบาๆ และเธออ้าปากเพื่อที่จะพูดบางอย่าง แต่เธอแสดงสีหน้าเจ็บปวดก่อนที่จะปิดปากลงอีกครั้ง 
    “มีใครทำร้ายคุณใช่ไหม” เธอถาม
    “โอ้”เขาพูด และลุกขึ้นนั่ง มือของเขายังคงอยู่บนอกของเธอ เพื่อให้แน่ใจว่าหัวใจของเธอยังคงเต้นสม่ำเสมอเหมือนเดิม 
    “เพื่อนของคุณ...รอน ค่อนข้างมีความคิดรุนแรงเกี่ยวกับผม”
    เฮอร์ไมโอนี่จ้องไปที่เขา เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดบริเวณขากรรไกรของเธอเช่นกัน ที่ๆเซดริกถูกต่อย เธอยกมืออีกข้างไปที่หน้าของเขา  นิ้วมือของเธอแตะลงบนรอยแดงบนขากรรไกรด้านขวาของเขาเบาๆ มันเริ่มเป็นรอยฟกช้ำอย่างช้าๆแล้ว เธอจะต้องพูดกับรอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่อาจเที่ยวไปต่อยคนอื่นๆได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซดริก และไม่ใช่เพราะเขาต่อยเซดริกเท่านั้นในทางเทคนิคแล้วเขากำลังต่อยเธอเช่นกัน เธอสาธยายให้เขาฟังนับไม่ถ้วนแล้วว่าความรุนแรงไม่ใช่คำตอบ    แต่มันเป็นคำพูดที่รอนดูเหมือนจะไม่เคยจดจำ เมื่อดูจากการกระทำที่เขาเข้าไปมีเรื่องหลายครั้ง  
    เธอค่อยๆเริ่มเข้าใจว่าเธออยู่ในห้องพยาบาล อย่างไรก็ตามเซดริกรับรู้ถึงความสับสนของเธอ และเขาขยับเข้าใกล้เธออีกครั้ง   มือของเธอขยับไปที่ปกเสื้อเชิร์ตของเขา และดึงเขาเข้ามาหาเธอ ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่พันเกี่ยวกันจนเขาอยู่ข้างบนตัวเธอ เขาหวังจริงๆว่ามาดาม พอมฟรีย์จะไม่กลับเข้ามาพบพวกเขาในสภาพนัวเนียกันเช่นนี้ แล ความคิดของเขาทำให้เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มจางๆก่อนที่เธอจะประทับริมฝีปากลงบนปากของเขาเบาๆ
                เซดริกไม่ลังเลที่จะจูบเธอ เขาประคองหัวของเธอด้วยมือของเขา เพื่อเอียงมันไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อที่เขาจะได้จูบเธอได้อย่างดูดดื่ม ปากของเขาทำมุมกับปากของเธอ ลิ้นของเขาฉกฉวยเข้าไปในปากของเธอ และลิ้มรสชาติหอมหวานที่เป็นของเธอทั้งหมด
                “บอกผมว่าเกิดอะไรขึ้น” เขาบอกเธอ เซดริกใช้ความแข็งแกร่งจากภายในทั้งหมดเพื่อที่จะอ้าปากพูดกับเธอได้    สิ่งแรกคือเขาต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพื่อที่จะแก้ไขมันได้ และจากนั้นเขาจะร่วมรักเธอจนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้น และเธอออกจากห้องพยาบาล
                เมื่อคิดถึงความฝันของเธอ เฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้สึกหนาวในฉับพลันอีกครั้งหนึ่ง เธอเกาะเซดริกไว้แน่น ไม่ปล่อยให้ไปไหน    เธอไม่อยากพูดถึงมันแต่เธอรู้ว่าเธอต้องทำ   เธอกำลังปิดบังมันจากเซดริก   เธอรู้สึกว่าเขาพยายามอ่านความคิดของเธอแต่เธอกำลังหลบซ่อนมันจากเขา ซึ่งรังแต่จะเพิ่มความวิตกให้แก่เขา    ความสงสัยเพียงเล็กน้อยก่อตัวเพิ่มมากขึ้น ในแต่ละนาทีที่ผ่านไปที่เธอไม่ตอบเขา เธอเกาะกุมเขาแน่นขึ้น
                “เรากำลังจะตาย” เธอกระซิบเข้าไปในซอกคอเขา 
    “ฉันเห็นมันเกิดขึ้น” เธอรู้สึกว่าเซดริกตัวแข็งแต่แขนของเธอกอดเขาแน่น ดังนั้นเขาจะไม่ถอยกลับมามองเธอ    เธอซบเข้าไปในไหล่ และซอกคอของเขา  
    “มีคนรู้เรื่องการผูกจิตวิญญาณของเรา   พวกเขาเห็นรอยแผลเป็นของเรา หรือเห็นเราอยู่ด้วยกัน หรือ .........ฉันไม่รู้”   เสียงของเธอเริ่มสั่น และ เธอรู้สึกว่าเขาประกบริมฝีปากไปที่หูของเธอ พยายามทำให้เธอสงบลงเพื่อที่เธอจะสามารถพูดต่อไปได้   เธอสูดลมหายใจเข้า ตัวของเธอยังคงสั่น และ พยายามบังคับให้ตัวเองพูดต่อ 
    “พวกเขาเป็นคนสอดแนมให้โวลเดอมอร์”
                เช่นเดียวกับคนอื่นๆในโลกพ่อมด เซดริกตัวแข็งเมื่อได้ยินชื่อนั้น เขาไม่เคยพูดชื่อนั้น และไม่อาจทนฟังได้ เมื่อใครซักคนพูดมันออกมา
                “เขาจะฆ่าคุณในระหว่างภารกิจที่สามเพื่อฆ่าฉัน และจากนั้นเขาจะฆ่ารอน   จะฆ่าทุกๆคนที่อยู่ใกล้แฮร์รี่ เขาต้องการเพียงแค่แฮร์รี่แต่เราขวางทางเขา”
                น้ำตาไหลลงสู่แก้มทั้ง 2 ข้างของเธอ และเซดริกรู้สึกถึงความชื้นที่อยู่บนคอของเขา   เขากอดเธอแน่นขึ้นในขณะที่เธอตัวสั่น
                เซดริกไม่เข้าใจ เขาไม่ได้สงสัยในความฝันของเธอแต่เขากำลังสงสัยในความหมายของมัน   ทุกๆครั้งที่เขาฝันถึงความตายของพวกเขา เธอจมน้ำและไม่ได้ตายเพราะเขา   เธอตายก่อนเขาเสมอและ จากนั้นเขาตายตามเธอไป    แม้ว่าเขาจะพยายามช่วยชีวิตเธอ และจากนั้นเขาตายโดยเต็มใจด้วยเสมอ
                “ได้โปรดอย่าทำภารกิจที่สาม   เซดริก” เฮอร์ไมโอนี่อ้อนวอนเขา และ ในที่สุดปล่อยเขา แค่พอที่พวกเขาจะขยับหัวกลับไปเพื่อจ้องกันและกัน   เขาเช็ดน้ำตาให้เธอ แต่น้ำตาไหลลงสู่แก้มของเธอมากขึ้น   ในขณะที่เธอยังคงร้องไห้  
    “ฉันไม่อาจสูญเสียคุณไป เราเพิ่งพบกัน ได้โปรดอย่าทำภารกิจที่สาม เราจะไม่รอดถ้าทำเช่นนั้น”
                เขาไม่ได้ตอบในทันที มันไม่ใช่ธรรมชาติของเขาที่จะจบสิ่งใดที่เขาเริ่มต้นไว้   เธอรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร และรู้ว่าเขาจะไม่ทำในสิ่งที่เธอขอ   เขาจะเผชิญกับสมรภูมิรบที่อยู่ตรงหน้า   ถ้ามีใครพยายามที่จะฆ่าเขาและเฮอร์ไมโอนี่ เขาจำเป็นต้องดูแลมันและทำให้ถึงที่สุดแทนที่จะหันหลังกลับและวิ่งหนีไป เขาไม่อาจออกจากการแข่งขันไตรภาคีได้ เขาต้องอยู่จนถึงจุดสุดท้าย เขาต้องช่วยชีวิตตัวเขาเองและเฮอร์ไมโอนี่ให้ได้ด้วยความหวังเมื่อเขาคิดจะทำ    ภัยร้าย และ ฝันร้ายทั้งหมดจะสิ้นสุดลง   มันคือหน้าที่ของเขาที่ต้องดูแลเธอ เขาไม่อาจทำเป็นว่าเขาล้มเลิกการแข่งและหลบซ่อน และ ใช้ชีวิตอยู่ทุกๆวันด้วยความกลัวที่มันจะเป็นไปตลอดชีวิตของเขา
                เฮอร์ไมโอนี่เห็นความคิดของเขาทั้งหมด เธอจูบเขา ซึ่งจูบนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกกลัวที่เธอมี และความรักที่เธอมอบให้เขา เธอพยายามที่จะทำให้เขาเชื่อมั่นว่าการที่เขาไม่ออกจากการแข่งขัน มันไม่ได้เป็นทางเลือก เพราะเมื่อเขาเข้าสู่เขาวงกตในภารกิจที่สามมันเป็นทางที่เขาจะต้องตาย และเธอจะต้องตายเช่นกัน เขาต้องออกจากการแข่งขันครั้งนี้   เธอรู้ว่ามันขัดกับหลักการของเขา แต่แน่นอนเขารักเธอมากกว่าชัยชนะหรือชื่อเสียง
                “ได้โปรดเซดริก อย่าทำแบบนั้น” เธออ้อนวอนเขา จูบเขาแรงขึ้นลึกซึ้งขึ้น เขาไม่ตอบในทันที แต่กลับจูบเธอแทน ตอบสนองความรุ่มร้อนในตัวของเธอและความหิวกระหายของเขา   เขาผลักเธอกลับไปบนเตียง นอนทับร่างเธอ ทั้งคู่จำได้ว่าพวกเขาอยู่ในชุดนอนบางเบาและเธอร้องครางเสียงแผ่ว เมื่อเขาลูบไล้เธอผ่านเสื้อกล้ามบางเบาที่เธอใส่อยู่
    “ผมต้องพูดกับดัมเบิลเดอร์” เขาตอบ และดูดลิ้นเธอเบาๆ 
    “ผมสัญญา” อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เขามีเรื่องอื่นที่ต้องสนใจมากกว่า เธอฝันร้ายและเขาต้องดูแลเธอ หลังจากที่เขาดูแลเธอคืนนี้แล้วเขาจะดูแลตัวเขาเองด้วยการพูดกับดัมเบิลเดอร์ในตอนเช้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×