คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 : ครอบครัวสุขสันต์(หรือเปล่า)
HERMIONI MALFOY
ครอบครัวสุขสันต์(หรือเปล่า!)
เฮอร์ไมโอนี่มีมารยาทที่สุภาพอ่อนโยน ต่อคนทั่วไปในกรณีนี้เขารู้ดี เธอกำลังนั่งคุย อยู่กับแม่ของเขา ภาพของแม่สามีและลูกสะใภ้ คุยกันอย่างเป็นมิตร มันน่าที่จะเป็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่พบเห็น แต่ไม่เลย ไม่ใช่เขาแน่!
มันเป็นเวลาสองวัน หรือสี่สิบแปดชั่วโมงแล้ว ที่แม่ของเขาอยู่ที่นี่ และเขามีเวลาใกล้ชิดกับเฮอร์ไมโอนี่ แทบนับครั้งได้ เดรโกคาดหวังประสบการณ์ค่ำคืนอันดื่มด่ำ เพียงลำพังของสามีภรรยาในสถานที่ ที่เธอล้อมรอบเขากับความเงียบที่ปกคลุม พร้อมประกายไฟ ที่ออกมาจากตัวพวกเขายามที่เขาเข้าใกล้เธอ
หมดหวัง! ไม่มีเวลานั้นสำหรับพวกเขาอีกแล้ว ในเมื่อแม่ของเขาเป็นก้างชิ้นโตที่ขวางลำคอของเขาอยู่
สองคืนที่เฮอร์ไมโอนี่หอบหิ้วหมอนและผ้าห่ม เพื่อไปนอนกับ นาร์ซิสซาไม่ใช่เขา! โดยที่แม่ของเขาอ้างเหตุผลที่ทำให้สะใภ้สงสาร ถึงความโศกเศร้าและเจ็บปวดจากการที่พ่อเขาตาย
เดรโกแทบคลั่งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเดินผ่านไปผ่านมาเหมือนหนูติดจั่น เพื่อให้แม่และภรรยาของเขาได้รู้ว่าเขาหงุดหงิดแค่ไหน
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น นาร์ซิสซาได้แต่อมยิ้มและทักทายเขาบ้าง แต่เฮอร์ไมโอนี่ที่เสมองไปทางอื่นไม่สนใจเขา
อาจเป็นไปได้ที่เธอยังคงโกรธเขาอยู่ โชคไม่ดีเอาเสียเลย ที่เด็กหนุ่มรู้ได้จากประสบการณ์ส่วนตัวของเขา ว่าเด็กสาวไม่ใช่พวกที่จะปล่อยให้ความโกรธ หยุดลงแค่นี้
เขาคงต้องขอความช่วยเหลือจากใครสักคนที่มีประสบการณ์กับอารมณ์โกรธของเธอ เดรโกคิดถึงคนที่สนิมสนมกับเฮอร์ไมโอนี่ รอน วิสลี่ย์ แต่ในความเป็นจริง แค่ความคิดโง่ๆของรอน อาจจะยิ่งทำให้ หญิงสาวโกรธมากยิ่งขึ้น
แฮร์รี่ พอตเตอร์ ยิ่งแล้วไปกันใหญ่ เขาจะไม่มีวันยอมให้นักบุญพอตเตอร์ใกล้ชิดกับภรรยาของเขาโดยไม่จำเป็น รอให้เขาสติฟั่นเฟือนไปก่อนเถอะ
และบ้านสลิธลีนของเขาล่ะ เดรโกลิสต์รายชื่อคนที่จะช่วยให้คำแนะนำในสิ่งที่เขากังวลอยู่ได้
เขาถอนหายใจ เฮงซวยเอ้ย !
เขารู้สึกสะอิดสะเอียนกับความภาคภูมิใจ ที่มีต่อสลิธิลีน บรรดาเพื่อนๆของเขาต่างโง่เง่า ยกเว้นก็แต่ เบลส ซาบินี่สุภาพบุรุษตลอดกาล
แต่แทบไม่ต้องขอคำปรึกษาจากเขาเลย เพราะเบลสเป็นสุภาพบุรุษกับพวกผู้หญิงแทบจะทุกคนและเหตุนี้ที่เบลสจะให้คำปรึกษาแบบง่ายๆกับเขาคือให้ยอมๆ หรือไม่ก็ง้อขอคืนดีซึ่งนั่นไม่ใช่นิสัยที่แท้จริงของเดรโก
ไม่มีใครที่เขาจะปรึกษาได้อีกแล้วหรือไง เศร้าใจจริงๆ!เขาคงจะหวังคำแนะนำอะไรจากพวกผู้ชายบ้านสลิธิลีนไม่ได้อีกแล้ว
งั้นรายชื่อบ้านกรืฟฟินดอร์คนอื่นๆล่ะ
เดรโกขีดฆ่าชื่อรอนออกไปก่อน แค่การปะทะคารมกันก่อนจะกินข้าวเนี่ยมันก็ทำให้กินข้าวแทบไม่ลงอยู่แล้ว แถมวิสลี่ย์ยังชอบอวดเก่งกับความคิดโง่ๆของเขาอีก
รายชื่อที่สองที่เดรโกขีดฆ่าออกโดยไม่แม้แต่จะคิด คือแฮร์รี่ พอตเตอร์
งั้นคงจะมีอีกคนที่เป็นไปได้ เดรโก คิด พร้อมกับใช้ปากกาขนนกวงกลมลงไปในรายชื่อๆหนึ่งที่อยู่ข้างใต้ถัดจากชื่อของแฮร์รี่ พอตเตอร์
“ไง วิสลี่ย์น้อย” ดวงตาของจินนี่เบิกตาโตขึ้น เมื่อเธอเห็นว่าใครที่วิ่งเข้ามาหาและทักทายเธอ
“เฮ้”เด็กสาวทักกลับและกระพริบตาไปยังชายหนุ่มด้วยความสับสนที่ได้พบเขาโดยบังเอิญแบบนี้เธอหวังว่าที่เขาปรากฏตัวแบบนี้คงไม่มีอะไรแอบแฝงหรือประสงค์ร้าย
“เธอกำลังจะไปเรียนงั้นเหรอ”เดรโกมองไปรอบๆในทันทีเหมือนกำลังแสกนผู้คนรอบข้างในบริเวณนั้น
“อ้อ ฉันมีเรียนอีกครึ่งชั่วโมงน่ะ แต่เป็นวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดนะ”หญิงสาวยักไหล่”น่าเบื่อ” เดรโกขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดสุดท้าย
“งั้น....เธอก็ไม่ชอบวิชานี้น่ะสิใช่ไหม”
“อือ อาจารย์สอนไม่ได้เรื่อง นักเรียนบ่นกันแทบจะทุกคน นายไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงกันบ้างหรือไง”
“แย่จริง”เด็กหนุ่มบ่นออกมาเบาๆ”เธอคิดว่านักเรียนพวกนั้นจะทนเรียนได้จนถึงสิ้นเทอมหรือเปล่า” จินนี่ยักไหล่
“คนอื่นฉันไม่รู้หรอก แต่ฉันน่ะสบายมาก ว่าแต่นายเถอะ นายมาที่นี่คงจะไม่ใช่แค่มาชวนฉันคุยหรอกใช่ไหม เฮอร์ไมโอนี่อยากได้อะไรหรือเปล่าหรือเขาเป็นอะไรไหม”
“ใช่.....ฟังนะ”เดรโกกลืนน้ำลายพร้อมกับถอนหายใจยาว “เธอรู้จักกับเฮอร์ไมโอนี่ดีใช่ไหม”
“ใช่”จินนี่ตอบและพยักหน้า เธอจ้องมัลฟอยเขม็งในขณะที่ตั้งใจฟัง
“งั้น...ถ้าเธอมี...ฉันขอสมมตินะ ถ้าหากว่ามีคนที่ทำให้เธอโกรธ เธอจะทำยังไงล่ะ”
จินนี่ส่งยิ้มร้ายกาจมายังชายหนุ่ม “โกรธ เหรอ ....สาเหตุล่ะ ...เรื่องอย่างว่าสินะ”จินนี่ถามรัวเป็นชุด
“เปล่า ..ไม่ใช่”เดรโกปฎิเสธเสียงดัง”เราทะเลาะกันนิดหน่อย”
“จริงสิ”จินนี่ยิ้มกว้างเดินวนรอบๆชายหนุ่ม”แต่ฉันว่า สาเหตุต้องมาจากเรื่องนั้นแน่ๆ ความจริงนายน่ะ มือโปรเรื่องนี้อยู่ไม่ใช่เหรอ”
เดรโกกอดอกในขณะที่จินนี่ยังคงเดินหมุนไปรอบๆตัวเขา”มันแย่ตรงที่ว่า เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆนะสิ”
“นายพยายามที่จะรวบรัดเธอ”จินนี่มองไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มและหลุดเสียงหัวเราะออกมา
“มันไม่ใช่แบบนั้น”ชายหนุ่มพึมพำบางสิ่งออกมาพร้อมกับก้มหน้ามองพื้น
“แล้วตกลงเรื่องมันเป็นยังไงล่ะมัลฟอย”
“เธอไม่ยอมให้ฉันเข้าใกล้เธอ”จินนี่อมยิ้มเธอเลิกคิ้วข้างหนึ่งและเหล่มองไปที่เขาอย่างล้อเลียน
“อย่าบอกฉันนะว่านายไม่กล้าพอที่จะถอดกางเกงของเฮอร์ไมโอนี่น่ะ มัลฟอย”
“มันยากตรงที่ว่าตอนที่ฉันต้องการ แต่เธอไม่ต้องการนะสิ แล้วแถมตอนนี้แม่ของฉันเองก็ขวางลำอยู่ในห้องของฉันด้วยนี่แหละ”เดรโกพูดอย่างหงุดหงิด
จินนี่หัวเราะอย่างมีความสุขเมื่อได้ฟังเรื่องราวของเจ้าชายสลิธิลีนผู้เชี่ยวชาญเรื่องบนเตียงแต่ต้องยอมจำนนต่อหนอนหนังสือกริฟฟินดอร์ของพวกเธออย่างราบคาบ
“โอ้ว ไม่นะมัลฟอยนายอย่ายอมแพ้ต่อเฮอร์ไมโอนี่เชียว นั่นไม่ใช่ เดรโก มัลฟอยเลยนี่”
“ถ้างั้นเธอบอกฉันหน่อยสิว่าฉันควรจะทำยังไงดี เธอถึงจะยอมฉันและสนใจฉัน”
เดรโกกล่าวอย่างเซ็งๆขณะที่ก้าวเดินเอื่อยๆไปพร้อมกับจินนี่
“เอาล่ะก่อนอื่นเลยมัลฟอย นายต้องบอกฉันมาก่อนว่านายทำยังไงกับเจ้าสาวของนาย เธอถึงได้โกรธมากมายขนาดนี้ ”
ชายหนุ่มทำหน้าบึ้งตึงใส่จินนี่”สาบานมาก่อนด้วยเกียรติของกริฟฟินดอร์ว่าเธอจะไม่บอกใคร”
หญิงสาวยกมือของเธอและวางมือบนอกของเธออย่างมั่นใจ”ฉันสาบานว่าฉันจะไม่บอกใครด้วยเกียรติของกริฟฟินดอร์”
“เรามีเรื่องทะเลาะกันและฉันก็ตะโกนใส่หน้าเธอหลังจากที่แม่จับได้ว่าเราจูบกัน”
“อ้า...ฉันพอจะเข้าใจล่ะ”จินนี่พยักหน้าหงึกหงัก”นายไม่ต้องสนใจเลยเกี่ยวกับอารมณ์ของเฮอร์ไมโอนี่น่ะเธอเป็นแบบนี้ตลอด”
เดรโกสกัดกั้นอารมณ์ฉุนเฉียว เสียงของจินนี่ที่พูดถึงเฮอร์ไมโอนี่เหมือนตอนที่แม่ของเขาบ่นใส่พ่อก็ไม่ปาน แต่เดรโกพยายามที่จะไม่คิดถึงความสัมพันธ์ของหญิงสาวทั้งสองในทางที่ไม่ดีเพราะเขาไม่ชอบตัดสินใจอะไรโดยปราศจากหลักฐาน อย่างน้อยๆเขาก็ไม่เคยเห็นหรือได้ยินข่าวว่าพวกเธอเป็นเลสเบี้ยน ซึ่งที่ฮอกว๊อตส์แล้ว เกย์หรือเลสเบี้ยนค่อนข้างจะเปิดเผยพอสมควร เและอีกประการหนึ่งเขาเองก็เชื่อมั่นในตัวเฮอร์ไมโอนี่ว่าเธอเองไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น
สำหรับเดรโกแล้วเขาชอบที่จะคิดว่าเขาสามารถมีผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่เขาอยากจะครอบครองเพราะเขาไม่อยากให้ใครๆคิดว่าเขาเป็นเกย์ หรือมีอารมณ์ตายด้านแบบพ่อของเขา และแน่นอนว่าสักวันมันอาจจะกลายเป็นแบบนั้น ถ้าเฮอร์ไมโอนี่ยังไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัวเธอ ความจริงเขาควรต้องรับผิดชอบที่ทำกับเธอโดยการที่ให้เธอเป็นเจ้าสาวของเขาซึ่งนำมาพร้อมกับข้อผูกมัดต่างๆมากมายซึ่งเขาก็พยายามที่จะรับผิดชอบในส่วนนั้นอยู่
“งั้นฉันควรจะทำยังไง” ชายหนุ่มพึมพำ
เขาหวังว่ายายผมแดงคนนี้จะรู้ว่าควรเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่รู้ก่อนเวลาอันสมควรซึ่งมันอาจจะเป็นไปไม่ได้ ก็ได้
“ให้เวลาเธอคิด และที่สำคัญที่สุดนายควรขอโทษเธอซะ”
“ขอบใจจินนี่ มันเป็นคำแนะนำที่เยี่ยมมาก”เดรโกพูดประชดมันเป็นข้อแนะนำพื้นๆที่เขารู้มาก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว แต่ที่เขานึก คิดว่าสาวผมแดงคนนี้ จะแนะนำหรือวางแผนอะไรที่ดีกว่านี้ให้เขาเสียอีก
“ไม่มีอะไรอย่างอื่นที่จะแนะนำแล้วเหรอ”เดรโกถามพร้อมกับใบหน้าที่ผิดหวัง
“นี่แหละคือข้อแนะนำที่ดีของฉัน”จินนี่พูดได้อย่างหน้าตาเฉย
เดรโกแสดงสีหน้าเจ็บปวด””แล้วถ้ามันไม่ได้ผลล่ะ”
“นายก็พยายามเข้าหน่อยสิ” จินนี่แผ่รังสีอำมหิตไปให้เดรโก และเดินกรีดกรายลงไปยังห้องโถงโดยที่ไม่สนใจเขาอีกเลย
ห้องโถงใหญ่ ที่โต๊ะสลิธลีน
เดรโกกำลังครุ่นคิดถึงคำแนะนำของจินนี่ จะมีทางอื่นอีกหรือเปล่านะ! เดรโกคิด
“เดรโก นายได้ยินเรื่องของศาสตราจารย์.....เอ๊ ชื่ออะไรน๊า”เสียงของแพนซี่ลอยออกมาจากด้านข้างของเขาเหมือนเธอสับสนกับชื่อของศาสตราจารย์ที่เธอกำลังพูดถึง
“ศาสตราจารย์คนนั้นจะออกแล้วนะรู้สึกจะมีคนใหม่มาแทน”เดรโกพยักหน้าเล็กน้อย เขาพอจะเข้าใจว่าแพนชื่หมายถึงใครศาสตราจารย์ที่สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่จินนี่เบื่อและนักเรียนอีกหลายคนเซ็ง
“เธอฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่า เดรโก” แพนชี่ยื่นหน้าอย่างจงใจกระซิบที่หูของเขา เดรโกเบี่ยงหัวออกก่อนที่แพนซี่จะเอาจมูกเข้ามาชนกับแก้มของเขา
“ฉันได้ยินแล้ว แพนซี่....เธอควรจะดูเวลาบ้างนะ ฉันมีเรียน”
“เดรโก” แพนซี่ทำท่าทางน้อยใจ”เพราะนายแต่งงานแล้วเราเลยจะพูดคุยกันมากกว่านี้ไม่ได้เลยใช่ไหม” เดรโกหันขวับมาที่เธอและจ้องมองอย่างไม่พอใจ
“คนอย่าง เดรโก มัลฟอย ไม่มีใครห้ามที่จะให้ฉันทำอะไรได้”
แพนซี่หัวเราะเบาๆ”โอ้ว...ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นซะหน่อย” หญิงสาวตีลงไปที่แขนชายหนุ่มอย่างมีจริต ในขณะนั้นเองที่เธอเขม้นมองข้ามไหล่ของเขาไปยังประตูทางเข้า
“เอ๊ะ นั่นภรรยาที่รักของเธออยู่นั่นใช่ไหม เธอยืนอยู่กับใครน่ะ”เดรโกหันกลับไปมองทางที่แพนซี่พูด สายตาของเขาสบเข้ากับภรรยาอย่างจังก่อนที่เธอจะก้มหน้าหลบสายตาของเขา
“เอ๊ะนั่น”แพนซี่อุทานพร้อมจ้องมองไปข้างหน้าเขม็ง”นั่น...”
“แม่ฉันเอง”ชายหนุ่มพูดขัดขึ้นอย่างรำคาญ
“เดรโกลูกรัก”นาร์ซิสซาตะโกนเรียกชายหนุ่มและโบกมือให้เขา
“ดูสิจ๊ะ ใครรอเราอยู่ ดับเบิ้ลดอร์อนุญาตให้พวกเราออกไปฮอกมี๊ดด้วยกันได้แบบครอบครัว”
เดรโกส่งสายตาที่น่ากลัวไปให้เฮอร์ไมโอนี่ แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเขาใช่ไหมเนี่ย พระเจ้าแม่ของเขากำลังวุ่นวายกับชีวิต และครอบครัวของเขาเกินไปเสียแล้วสิ
“ไปเถอะลูก เอาไม้กวาดของลูกไปด้วยนะ เราจะบินไป”นาร์ซิสซาพูดทิ้งท้ายและดึงมือเฮอร์ไมโอนี่เดินนำหน้าออกไปจากห้องโถงใหญ่ก่อนที่เดรโกจะทันได้พูดแย้งอะไรออกมา
“แม่”ชายหนุ่มกระซิบเสียงแหบแห้งและจ้องมองไปยังปลายสุดของไม้กวาดของนาร์ซิสซาน์”นี่มันอะไรกัน”
นาร์ซิสซายกไม้กวาดขึ้นและทำหน้าบึ้งไปยังธงที่ติดอยู่ด้านหลังของไม้กวาด
“อะไรจ๊ะ....โอ้ว...นี่นะเหรอ”เธอชี้ไปที่ธงและหัวเราะร่วน”แม่ก็แค่ภูมิใจในตัวของลูกไงลูกรัก”
“พ่อแม่ภูมิใจ ในตัวเดรโก ลูกรัก”เฮอร์ไมโอนี่อ่านที่ธงอย่างช้าๆ ริมฝีปากของเธอพึมพำ ในขณะที่มีรอยยิ้มสะใจปรากฏอยู่บนริมฝีปากของเธอเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่พวกเขาทะเลาะกันมา
“แม่ ถอดออกไปได้แล้ว น่าเกลียดชะมัด”เขาบ่นหน้าตาเคร่งเครียด
“ทำไมล่ะ ใครๆก็ออกจะชอบกันทั้งนั้นลูกรู้ไหม” ,มันไม่ใช่แค่คำพูดของนาซีซัสน์เท่านั้นที่เป็นลางบอกเหตุให้เฮอร์ไมโอนี่ได้คิดว่านางสามารถสร้างความอับอายให้กับเดรโกได้อย่างมากมายแต่การกระทำของนางเองก็เช่นกัน
มันออกจะเป็นภาพที่ดูน่ารักอยู่ใช่น้อย พวกเขาอยู่รวมกันท่ามกลางสิ่งแวดล้อมของแสงเงินระยิบระยับท่ามกลางแสงแดดของยามเที่ยงวันแต่ภาพเหล่านั้นกลับสร้างปัญหาให้แก่เดรโก นั่นไม่ใช่เขากับเฮอร์ไมโอนี่แต่เป็นภาพของแม่ของเขาเองต่างหาก ถ้าเธอไม่ลุกขึ้นมาจุ้นจ้านและเจ้ากี้เจ้าการมากนัก ป่านนี้เขาและเจ้าสาวของเขาก็คงจะมีชีวิตอยู่ร่วมกันตามลำพัง และเขาก็คงจะใช้บรรยากาศอันแสนโรแมนติกที่อยู่รอบๆตัวสร้างอารมณ์อันสุนทรีให้กับภรรยาตัวน้อยของเขาได้
แต่ช่วงเวลาดังกล่าวคงเป็นไปได้ยากแล้วในตอนนี้ โอกาสที่เขาจะได้ร่วมหอกับหญิงสาวเปอร์เซ็นต์เท่ากับศูนย์ เนื่องจากการที่มีแม่ของเขาเข้ามาเกี่ยวข้องและสาเหตุที่สำคัญอีกประการ คือเฮอร์ไมโอนี่เอง ถ้าเธอเป็นคนที่มีความซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเองมันก็คงจะไม่ยากที่จะได้สัมผัสเธอ
เดรโกถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อย เขาเดินตามหลังมารดาของเขาเหมือนคนไม่รู้สึกตัวแต่ถึงแม้ว่าจะรู้ตัวดี แต่เขาก็ไม่สามารถเอาชนะความพอใจที่แม่ของเขากำลังมองด้วยสายตาวิงวอนทำให้เขาใจอ่อนและยอมตามไปด้วยกันพร้อมไม้กวาดด้ามยาวทั้งสาม
ที่ร้านไม้กวาดสามอัน พวกเขาฝังตัวเองไว้ที่โต๊ะด้านในสุดพร้อมกับวิสกี้ไฟ ทุกครั้งที่มีใครบางคนเดินเข้ามาในร้าน เดรโกจะสะดุ้ง สายตาของเขาล่องลอยไปที่ประตู เพื่อมองดูว่าคนๆนั้นคือคนที่เขารู้จักหรือเปล่า
บางเวลาหญิงสาวก็ส่งสายตาไปมอง ชายหนุ่มด้านข้าง เพียงแค่จะมองดูว่าเขามองอะไรหนักหนาหรือกลัวว่าใครจะเห็นมากมายนัก
เฮอร์ไมโอนี่ชายตามองเขาและก้มลงมองที่วิสกี้ไฟของตนเองและอมยิ้มเมื่อเห็นเดรโกสะดุ้งเมื่อแม่ของเขาตะโกน
”เอาล่ะตอนนี้ชนแก้วกันหน่อย”
เดรโกหันมามองเฮอร์ไมโอนี่ที่ก้มหน้าอมยิ้มก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มอย่างขำๆพวกเขาทั้งสองเบนสายตากลับมาดูที่นาร์ซิสซาที่ดื่มวิสกี้ไฟราวกับน้ำ
“ว่าไง”นาร์ซิสซาแผ่รังสีอำมหิตกลับมายังทั้งสอง”เรามาฉลองกันหน่อย เอ้าชนแก้ว”
นาร์ซิสซาตะโกนเรียกบาร์เทนเดอร์ให้เอาวิสกี้ไฟมาให้อีก
“ฉลองอะไรกันหรือค่ะ”เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างประหม่ามีเพียงงานเดียวที่วิ่งเข้ามาในใจของเธ อนั่นก็คือการตายของลูเซียส คนที่หญิงสาวไม่ได้รู้สึกชอบเป็นพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ควรให้เกียรติเขาอย่างน้อยก็เป็นพ่อสามีและมันก็คงจะไม่เป็นการสมควรจะเลี้ยงฉลองเมื่อเขาตาย
นาร์ซิสซาขมวดคิ้วในขณะที่บาร์เทนเดอร์จัดเครื่องดื่มตรงหน้าของเขา
“ฉลองที่ลูกๆแต่งงานกันไงล่ะจ๊ะ แม่ไม่ได้มาในงานแต่งงานของลูกๆดังนั้นตอนนี้ถือเป็นโอกาสอันดี เอ้าดื่ม” นาร์ซิสซาพูดและดื่มวิสกี้ไฟอีกอึกใหญ่
“โอ้ว “ เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง ส่วนเดรโกหลุดหัวเราะออกมา ชายหนุ่มจึงถือโอกาสจับมือของหญิงสาวขึ้นมาจูบเบาๆ
“ลืมไปแล้วหรือไงที่รัก” ชายหนุ่มขยิบตาเจ้าชู้ส่งให้หญิงสาวซึ่งยิ้มให้กับเขาเพียงชั่วครู่แล้วทำหน้าบึ้ง เมื่อเธอรู้ตัวว่าเธอยังคงโกรธเขาอยู่ เฮอร์ไมโอนี่จึงเสมองไปทางแม่ของเดรโก ที่ดื่มวิสกี้ไฟในมือจนหมดแก้วด้วยความรู้สึกกลัวๆ
มันบ้าอะไรกันเนี่ย!เดรโกคิด การที่เขาต้องมาดื่มกับภรรยาของเขาและแม่ของเขาเอง มันไม่ใช่แผนการที่เขาวางไว้เพื่อจะทำในวันศุกร์ เดรโกตัดสินใจว่าเขาควรจะดื่มให้น้อยที่สุด เท่าที่เขาจะทำได้ในเวลานี้ เขาอาจจะทำอะไรที่ไม่คาดคิดลงไปก็ได้ หากชายหนุ่มคุมสติไม่อยู่ อย่างเช่น เขาอาจจะไม่เห็นว่าแม่ของเขานั่งอยู่ตรงนี้ เพื่อพยายามบังคับให้เฮอร์ไมโอนี่ดื่ม เขาอาจจะทำอะไรๆภรรยาของเขาต่อหน้าเธอเลยก็ได้ พระเจ้า! นี่เขาคิดบ้าอะไรไปแล้ว
“อะไรกันนี่ ครอบครัวสุขสันต์หรือไงกันย่ะ” มีเสียงแทรกเข้ามาในความคิดของเขา และเดรโกเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็ว คนที่เขาเห็นมันทำให้เขาแทบดึงเฮอร์ไมโอนี่ลุกหนีออกจากที่นั่นในทันที
ริต้า สกีตเตอร์ ปรากฏตัวอยู่ที่โต๊ะของเขา
“ริต้าที่รัก มาแล้วเหรอ”นาร์ซิสซากรีดร้องดังลั่นเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของเธอ”มาฉลองกับเราสิจ๊ะ”นาร์ซิสซาลุกขึ้นยืนตัวโงนเงน เดรโกส่ายหน้าอย่างระอา เขาไม่แน่ใจว่าทำไมแม่ของเขา ถึงนำฝาแฝดของเธอมาร่วมวงกับพวกเขา เพียงแค่เธอคนเดียวมันก็เพียงพอกับความวุ่นวายแล้ว
“นั่นเดรโกลูกชาย ฉ้านนนน และนี่ภรรยาของเขา เจ้าสาวเลือดสีโคลน เฮอร์ไมโอนี่” เดรโกขมวดคิ้วทำสีหน้าบึ้งตึงกับคำพูดที่เชือดเฉือนที่เรียกภรรยาของเขาว่าเลือดสีโคลน เขาหันกลับมามองเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังเบิกตาโตมองแม่ของเขาเหมือนแม่ของเขาเป็นมอนสเตอร์
“แม่ควรขอโทษเธอกับคำพูดที่ไม่น่าออกมาจากปากของแม่สามี”เดรโกพูดเสียงเครียด
“อ้า ฉันขอโทษจ๊ะเฮอร์ไมโอนี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ”นาร์ซิสซาพูดอย่างเศร้าสร้อย”ฉันรักเธอนะเด็กน้อย” เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าและโอบแขนไปที่แม่สามีของเธออย่างเข้าใจ
“เดี๊ยวก่อน”ริต้าพยายามที่จะทำความเข้าใจกับสถานะภาพของบุคคลทั้งสอง
”เดรโก มัลฟอยสายเลือดบริสุทธิ์ แต่งงานกับเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ สายเลือด เออ ...มักเกิ้ล น่ะเหรอ ทำไม”
เดรโกทำเป็นไม่สนใจริต้า เขาจ้องมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ที่เริ่มจะโงนเงนเล็กน้อยอยู่บนเก้าอี้ที่เธอนั่ง เพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มที่แม่ของเขาส่งให้เธอดื่มก่อนหน้านั้นหลายแก้ว ชายหนุ่มเคลื่อนตัวไปอีกฝั่งของโต๊ะดึงตัวหญิงสาวขึ้นมานั่งบนตักของเขา หญิงสาวหน้าแดงในขณะที่เขาเล่นผมของเธอ และกระซิบเบาๆที่ข้างหูของเธอ
“เธอเมาแล้ว เรากลับที่พักกันเถอะ”เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าน้อยๆและซุกหัวของเธอลงกับไหล่ของเขาในขณะที่เดรโกลุกขึ้นและโอบเธอให้ลุกตาม
“ริต้าคุณดูแลแม่ผมด้วยส่งเธอกลับคฤหาสน์มัลฟอยไปเลยถ้าเป็นไปได้”เขาพูดโดยที่ไม่ต้องการคำตอบเขาพยุงตัวภรรยาของเขาออกจากร้านในทันที
“อะไรกันเนี่ย ไม่คิดจะสนใจฉันบ้างเลยเหรอ”ริต้าบ่นพึมพำแล้วจึงหันกลับไปมองที่นาร์ซิสซาแทน
“มีข่าวอะไรใหม่ๆบ้างไหมค่ะคุณนายใหญ่มัลฟอย”
“โอ้วใช่ที่รัก ฉันมีข่าวที่เยี่ยมยอดที่จะบอกเธอถึงสองเรื่องเลยละ”นาร์ซิสซายิ้มที่มุมปากก่อนที่จะคว้าวิสกี้ไฟขึ้นมาดื่มอีกครั้ง
“งั้นบอกรายละเอียดมาให้หมดเลย เพื่อนรัก ฉันจะลงพาดหัวข่าวในโลกเวทมนต์เป็นข่าวดังไปเลย”ริต้าพูดอย่างมั่นใจก่อนจะเสกปากกาขนนกและกระดาษหนังเขียนข่าวซึ่งมันจะเขียนด้วยตัวของมันเองอย่างอัตโนมัติเตรียมพร้อมไว้อย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น