ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry potter I never regretted that she lovers (เดร/เฮอร์)

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 9: บทลงโทษของวินเวิรืด มัลฟอย

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 53


    Harry potter I never regretted that she lovers (เดร/เฮอร์)
    Chapter 9 บทลงโทษของวินเวิรืด มัลฟอย
     
    “ปล่อยฉันนะมัลฟอยฉันไปทำอะไรให้นาย นายถึงมาดึงมาลากฉันแบบนี้”
    เดรโกไม่ได้สนใจในคำพูดของแคทเธอลีนนักเขาคว้ามือของเธอและลากเธอไปยังต้นไม้ใหญ่ข้างทะเลสาบ แคทเธอลีนสะดุดสองครั้งและขาก็อ่อนเปลี้ยไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อเดรโกปล่อยเธอในที่สุด แคทเธอลีนเอนตัวพิงต้นไม้และรอดูว่าเขาจะทำอะไรต่อไป
     
    “ทำอะไ?ถามได้เธอเห็นอะไรที่ไม่ควรจะเห็นนะสิ”สายตาของเขาจับอยู่ที่แคทเธอลีนขณะบรรยายโทสะ
     
    “นายหมายความว่าอะไร? เห็น ! ฉันเห็นอะไร?” แม้แคทเธอลีนจะไม่เข้าใจทุกคำพูดแต่เธอก็บอกได้ว่ามันเป็นสิ่งเลวร้ายจากประกายหน้ากลัวในดวงตาของเดรโก
     
    “เมื่อวานเธอขึ้นไปทำอะไรที่ห้องพยาบาลร้าง”เดรโกถามย้ำพร้อมหรี่ตาเพื่อจับโกหกเธอ
     
    “มัลฟอยหมายความว่าที่ห้องนั้นคนที่ ที่ ฉัน เห็นก็คือ.... “แคทเธอลีนทำตาโตก่อนโพล่งสิ่งที่เธอคิดไว้ก่อนจะทันห้ามปากตัวเองได้ทัน
     
    “อย่าบอกนะว่ะเธอไม่รู้ว่าเป็นฉัน”เดรโกคำรามออกมาด้วยความแปลกใจ
     
    “ฉัน ฉ ฉันไม่รู้ว่าเป็นนายจริงๆนะมัลฟอย”
     
    เดรโกครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วมองหน้าเธอด้วยแววตาวาวโรจน์
     
    “เมื่อวานเธอเห็นอะไรบ้าง”เดรโกถามหน้าตาบึ้งตึงกว่าเก่า
     
    “ฉัน เออ ฉันไม่เห็น...”เธอพูดอ้ำอึ้งเล็กน้อย
     
    “โกหก เธอเห็นอะไรบ้าง”เดรโกกระตุกยิ้มขัดแย้งกับสายตาแข็งกระด้างของเขาก่อนที่เขาจะยึดข้อมือเธอเอาไว้ข้างหนึ่งและออกแรงบิดข้อมือให้แหงนเงยไปทางด้านหลังอย่างแรง
     
    “โอ๊ยเจ็บนะ”แคทเธอลีนกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและน้ำตาเริ่มซึม
     
    “เจ็บก็บอกมาสิว่าเธอเห็นอะไรบ้าง” เดรโกตวาดกลับและพยายามบีบบังคับถึงสิ่งที่เธอได้เห็น
     
    “ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละห้องนั้นมืดก็มีดใครจะเห็นอะไรล่ะ”แคทเธอลีนส่งเสียงกร้าวด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มีทั้งความกลัวและความโกรธ
     
    “ฉันไม่เชื่อ”เขาพูดเสียงต่ำ
     
    “ไม่เชื่อฉันก็จนปัญญา ปล่อยนะ”เธอพูดออกมาโดยไม่มองหน้าเขาและพยายามสลัดข้อมือที่เขาจับไว้ให้หลุดออกมาให้ได้ แต่ความแข็งแรงของเดรโกมีมากกว่าเธอเกินครึ่งจึงเป็นการยากที่เธอจะสลัดเขาหลุด
     
    “ปล่อยเธอเดี๊ยวนี้นะมัลฟอย”เสียงกราดเกรี้ยวที่ดังอยู่เบื้องหลังของเขาไม่จำเป็นต้องหันมามองเขาก็รู้ดีว่าเป็นใคร น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความจงเกลียดจงชังที่มีให้กับเขาเสมอมาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ยายเลือดสีโคลนที่ปลุกปั่นอารมณ์เขาตั้งแต่อยู่บนรถไฟ นั่นเอง
     
    “เฮอร์ไมโอนี่”แคทเธอลีนเปล่งเสียงออกมาทันทีด้วยความดีใจเมื่อเห็นร่างของเฮอร์ไมโอนี่ที่ถือไม้วิเศษจ่อมาที่เดรโกอย่างมั่นคง
     
    “ยายเกรนเจอร์” เฮอร์ไมโอนี่ประสานสายตาโกรธเคืองของเดรโกอย่างสงบขัดกับความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในกายของตัวเธอเอง เขาจ้องเธออย่างสงวนท่าทีอีกครั้งและมีร่องรอยถึงความประหลาดใจเมื่อเห็นเธอมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้             
     
    “เธอนี่มันชอบแส่ไปกับเขาทุกเรื่องเลยนะถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ถอยออกไปห่างๆฉัน “เดรโกเห็นความโกรธจุดประกายในดวงตาสีน้ำตาลของเธอเพียงชั่วครู่จนเขาแน่ใจได้ว่าจะไม่มีทางเห็นถ้าเขาไม่จับตามองเธออยุ่ในตอนนี้
     
    “นายนั่นแหละมัลฟอยถอยไปห่างๆ ถ้าไม่อยากให้ฉันสาปนาย”
     
    เขายักไหล่กว้างของเขาขยับอย่างสบายภายใต้เสื้อเชิร์ตสีขาวแบบฟอร์มนักเรียนของฮ๊อกว๊อตส์ทั้งๆที่อีกมือหนึ่งเขาจับข้อมือของแคทเธอลีนที่ดิ้นไปดิ้นมาอยู่ข้างหลังเขาอยู่
     
    สายตาของเดรโกเลื่อนขึ้นมาดูริมฝีปากอิ่มเอิบสีชมพูของเธอและคิดถึงริมฝีปากนุ่มร้อนแรงที่เขาเคยสัมผัสและอ้อยอิ่งอยู่ที่นั่นก่อนที่จะกลับมามองตาเธออีกครั้งและยิ้มอย่างร้ายกาจส่งไปให้เธอ
     
    “ว้าวเก่งขึ้นเยอะเลยนะเกรนเจอร์ นี่แสดงว่าเธอลืมบทลงโทษเก่าๆ ที่ฉันเคยสั่งสอนเธอไปแล้วใช่ไหม อยากให้ฉันรื้อฟื้นบทลงโทษ เธอใหม่หรือไง แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะคราวที่แล้วมันแค่อุ่นเครื่องแค่เบาๆฉันยังไม่ทันเอาจริงเลย แต่คราวนี้เธอเจ็บจริงๆแน่เกรนเจอร์”
     
    ท้องไส้ของเฮอร์ไมโอนี่ปั่นป่วนกับน้ำเสียงบ่งบอกความนัยอันตรายที่เขากล่าว เธอกลืนน้ำลายอย่างแรงแต่กระนั้นเสียงของเธอก็ยังคงมั่นคงขณะที่เธอถลึงตาใส่เขาแล้วก็พูดขึ้นมาอย่างดุดัน
     
    “คราวที่แล้วฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะไม่คิดว่าที่ฮ๊อกว๊อตส์ยังจะมีคนชั่วๆความคิดต่ำๆหลงเหลือยู่อีก แต่คนเลวยังไงก็ย่อมเป็นคนเลวอยู่วันยังค่ำ”
     
    “นังโสโครกแกด่าฉัน”สันกรามของเดรโกสั่นกระตุกนัยตาน์สีเทาจ้องเธอแทบจะทะลุราวกับจะยกคำพูดของเขาจับทุ่มใส่เธอให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
     
    เฮอร์ไมโอนี่เชิดคางขึ้นอย่างทระนง“ฉันว่าทุกคนที่ชอบทำตัวเป็นอันธพาลแบบนี้”พลางยิ้มเยาะไปที่เขาอย่างไม่เกรงกลัว
     
    “ปากเก่งนัก เดี๊ยวได้รู้กันว่าบทลงโทษของฉันบทต่อไปที่เธอจะได้รับมันยังจะทำให้เธอปากเก่งอยู่อีกหรือเปล่า”
     
    เดรโกกระชากข้อมือของแคทเธอลีนปลิวตามเขาที่เดินเข้าใกล้เฮอร์ไมโอนี่โดยไม่พูดพร่ำทำเพลงเธอสะดุ้งโหยงแล้วสูดลมหายใจลึกๆจากนั้นจึงถอยหนีไปสองสามเก้าและกระชับไม้ในมือแน่น
     
    “เอาสิมัลฟอยเก่งจริงก็เข้ามา แต่อย่าลืมว่าไม้กายสิทธิ์ของฉันมันจ่อคอหอยนายอยู่”เดรโกชะงักความเงียบแพร่ขยายออกไปเรื่อยๆความคิดของเขาเริ่มหาแผนการณ์ต่างๆอย่างเร็วจี๋ที่จะกำจัดไม้วิเศษที่จี้คอหอยเขาอยู่ให้ออกไปให้พ้นๆตัว
    เฮอร์ไมโอนี่กำลังดูท่าทีในขณะที่สายตาเขาจ้องมองมาและปฎิกิริยาแข็งกร้าวของเขาลดลง เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ และในที่สุด
     
    “ก็ได้ เอาอย่างงี้ก็แล้วกันเกรนเจอร์ ฉันจะยอมปล่อยยายนี่ตามที่เธอต้องการแต่เธอก็ต้องเก็บไม้กายสิทธิ์ของเธอไปพร้อมๆกับฉันด้วยเหมือนกัน”
     
    น้ำเสียงเรียบไร้อารมณ์ของเดรโกทำให้เฮอร์ไมโอนีครุ่นคิด
     
    แค่นั้นเหรอ! จริงสิ! แน่นอนว่าเธอไม่เชื่ออย่างนั้นแน่ ถ้าเป็นคนอื่นเธออาจจะทบทวนคำพูดเหล่านั้นและเชื่อในที่สุด แต่ไม่ใช่เดรโก มัลฟอยแน่
     
    เฮอร์ไมโอนี่คิดเสมอว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ จากหลายๆเหตุการณ์ที่ทั้งเธอและเหล่าพวกพ้องของเธอเคยเจอะเจอมา มันทำให้เธออดระแวงไม่ได้
     
    เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เดรโกพูด
     
    “ฉันไม่เชื่อคนอย่างนายหรอก เพราะนายมันเจ้าเล่ร์มัลฟอย”
     
    สีหน้าเย็นชา และเฉยเมยราวกับซาตานของเขามีแววลึกลับบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ในขณะที่เธอยังคงเล็งไม้วิเศษไปที่เขาโดยไม่ยอมอ่อนข้อให้แม้แต่น้อย
     
    “ฉันไม่สนว่าเธอจะเชื่อฉันหรือไม่แต่ฉันจะแสดงให้เธอดูว่าเธอจะต้องยอมฉันเองจนได้ไม่ว่าจะยังไง”เดรโกพูดเสียงกร้าวและบิดข้อมือของแคทเธอลีนอย่างรวดเร็ว
     
    “โอ้ย”
    เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของแคทเธอลีนทำให้เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับตัวสั่นเธอเหลือบมองไปรอบๆอย่างไม่สบายใจนักไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นเลยสักนิดทั้งๆที่ยังเป็นช่วงพักอยู่แท้ๆ
     
    “หยุดนะมัลฟอย นายมันบ้า”
     
    “ว่าไงจะเก็บไม้หรือจะให้ฉันหักมือยายนี่ดี”เดรโกยิ้มร้ายกาจไปให้เธอเขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่รู้ว่าจะใช้เล่ห์เหลี่ยมและข่มขู่คนอื่นได้อย่างไร และเขาเองไม่ลังเลที่จะทำสิ่งนั้นมื่อมันช่วยให้เขาบรรลุวัตถุประสงค์
     
    “ก็ได้ฉันจะเก็บไม้พร้อมๆกับที่นายปล่อยแคทเธอลีน ฉันจะนับหนึ่งถึงสามแล้วเราจะปล่อยพร้อมๆกัน แต่ ห้ามตุกติกนะมัลฟอยไม่งั้นฉันเอานายตายแน่”เฮอร์ไมโอนี่พูดและเธอทันสังเกตุเห็นสายตาของเดรโกเป็นประกายขึ้นมาแว๊บหนึ่งอย่างพึงพอใจ
     
    “ หนึ่ง..สอง…สาม……”เฮอร์ไมโอนี่เบี่ยงไม้วิเศษของเธอออกไปในขณะที่เดรโกปล่อยมือจากแคทเธอลีนพร้อมกันและในทันใดนั้นเดรโกถลันเข้ามาหาเธอในทันที
    เฮอร์ไมโอนี่นั้นถึงแม้จะเป็นผู้หญิงในเรื่องสติปัญญาเธอเป็นที่หนึ่ง แต่ในเรื่องการต่อสู้เธอเองก็ไม่เป็นสองรองจากใครเช่นกันเพราะเธอเองต้องสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับแฮร์รี่และรอนด้วยกันเสมอ ดังนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงต้องระมัดระวังตัวเองตลอดเวลา กรณีนี้ก็เช่นกัน เธอเองไม่ไว้ใจในตัวเดรโกอยู่แล้วเมื่อเขาเล่นผิดกติกา เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ลังเลที่จะสั่งสอนเขา อีกทั้งแคทเธอลีนถูกปล่อยตัวแล้วทำให้เธอยิ่งมั่นใจได้ว่าเดรโกจะไม่เอาร่างของคนอื่นมาบังป้องกันตัวเองหากเธอส่งเวทมนต์ออกไป
     
    ดูเหมือนเดรโกจะมั่นใจในตัวเองมากไปเขาเปลี่ยนท่าทีเป็นวางอำนาจในทันทีเขาถลันเข้าหาเฮอร์ไมโอนี่ดุจดั่งราชสีห์ตะครุบเหยื่อ แต่เหยื่อของเดรโกตัวนี้กลับกลายเป็นหนูที่แสนจะปราดเปรียว ว่องไว เกินกว่าราชสีห์จะทำอะไรตามอำเภอใจได้
     
     
    “ริกตัสเซมปรา”แสงสีเงินพุ่งออกมาจากปลายไม้ของเฮอร์ไมโอนี่มันพุ่งตรงไปถูกร่างสูงใหญ่ของเดรโกที่ถลันเข้ามาหาเธอทำให้เขากระเด็นออกไปและจุกจนตัวงอแทบลุกไม่ขึ้น ยังไม่ทันที่เขาจะตั้งตัวได้ทัน
     
    “อินคาเซอรัส”เฮอร์ไมโอนี่ร่ายคาถาอีกครั้งคราวนี้มีเชือกหลายเส้นพุ่งออกมาทางอากาศแล้วผูกมัดรอบๆตัวของเดรโกจนเขาแทบกระดิกตัวไม่ได้
     
    “โว๊ย”  
     
    เดรโกส่งเสียงร้องด้วยความเคียดแค้นดวงตาสีเทาของเขาจ้องที่เฮอร์ไมโอนี่เขม็งระอุไปด้วยความโกรธเกรี้ยวปนเปไปกับความชื่นชมในความกล้าที่เธอต่อกรกับเขา
     
    “ฉันเตือนนายแล้วมัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงรื่นเริงปกปิดอาการเย้ยหยันไว้ไม่มิด เธอยิ้มกว้างให้กับเดรโกเมื่อเห็นเขาอยู่ในสภาพที่ไม่น่าดูสักเท่าไหร่
     
    “เธอทำฉัน บ้าเอ๋ย ปล่อยฉันนะ”เดรโกส่งเสียงร้องโวยวายแต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจที่จะฟัง เธอเดินไปหาแคทเธอลีนที่แอบมองเดรโกอย่างนึกสงสารแล้วจูงมือเพื่อกลับไปยังตัวปราสาท
     
    แคทเธอลีนฉุดเฮอร์ไมโอนี่ไว้แล้วพยักหน้าไปทางเดรโก
     
    “แล้วเขาล่ะ”
     
    “คนใจหินแบบนี้ตายยากอย่าไปสนใจเขาเลยแคทไปกันเถอะ”
    แคทเธอลีนลังเลเธอเหลียวกลับไปมองเดรโกอย่างว้าวุ่นใจก่อนดึงแขนเฮอร์ไมโอนี่ให้หยุดเดิน
     
    “ไม่เอาน่าเฮอร์ไมโอนี่ปกติเธอไม่ใจร้ายอย่างงี้นี่นา”
    สีหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ลังเลเธอนิ่งไปชั่วครู่แล้วจึงพูดขึ้นว่า
     
    “ก็ได้งั้นเดี๊ยวเราไปบอกพวกสลิธลีนคนใดคนหนึ่งให้มาช่วยมัลฟอยก็แล้วกัน”
     
    “อีอ ก็ดีงั้นเราไปกันเถอะ”แต่แคทเธอลีนเองกลับแปลกใจเมื่อเฮอร์ไมโอนี่กลับยืนนิ่งเหมือนกำลังใช้ความคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
     
    “มัลฟอยคุยอะไรกับเธอ”รอยยิ้มบนริมฝีปากของแคทเธอลีนจางหายไปและเฮอร์ไมโอนี่แทบจะสาบานได้ว่าเธอเห็นริ้วรอยของความกระอักกระอ่วนใจในดวงตาสีดำของแคทเธอลีนได้อย่างชัดเจน
     
    แคทเธอลีนกลืนน้ำลายนิ่งไปสักพักก่อนตัดสินใจ“เรื่องเมื่อคืนที่ฉันเล่าให้เธอฟัง คนที่ฉันวิ่งหนีมาเมื่อวานก็คือมัลฟอย”
     
    เฮอร์ไมโอนี่ทำตาโตก่อนย้อนคิดไปยังเรื่องราวเมื่อคืนก่อนที่แคทเธอลีนเล่าให้เธอฟัง
     
    “เขารู้ได้ไงว่าเป็นเธอ แล้วเขาทำอะไรเธอหรือเปล่า”
     
    แคทเธอลีนส่ายหน้าและอมยิ้ม“เขาไม่ได้ทำอะไรฉันหรอก เขาพียงแต่ถามว่าฉันเห็นอะไรบ้างก็เท่านั้น ส่วนที่เขารู้ว่าเป็นฉันอาจจะเป็นเพราะ”
     
    “เพราะอะไร”เฮอร์ไมโอนี่ถาม
    “จำได้ไหมว่าฉันบอกว่าฉันลืมเอาคางคกของเนวิลกลับมา”แคทเธอลีนหยุดเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วแล้วพยักหน้าตอบกลับ 
     
    “มันไม่ใช่แค่คางคกนะสิ ฉันลืมไปว่าฉันยืมหนังสือเพื่อทำรายงานจากห้องสมุดก่อนที่จะไปหาคางคกของเนวิล”
     
    เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเครียดเล็กน้อย“หมายความว่าเธอลืมวางทั้งหนังสือและทั้งคางคกไว้ที่นั่น และคนที่เก็บมันได้คือมัลฟอย และวิธีเดียวที่เขาจะรู้ว่าคนที่แอบเห็นเขาเล่นเซ็กร์กับสาวๆคือใครโดยสอบถามมาดามพริ้นถึงชื่อคนที่ยืมหนังสือเล่มนี้ไป”
     
    แคทเธอลีนพยักหน้าและยิ้มเจื่อนๆ“ใช่ฉันคิดว่าอย่างงั้น”
     
    เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตาเล็กน้อยเหมือนครุ่นคิดพลางหันไปมองเดรโกที่มองเธอด้วยสาตาคมกริบอยู่ก่อนแล้ว
    “งั้นก็แสดงว่า คางคกของเนวิลล์ หนังสือสองเล่มของเธอ รวมทั้งหนังสือประวัติพ่อมมดมูทาอิบเล่มที่สามและปากกาขนนกของฉันก็อยู่กับเจ้าวายร้าย เดรโกมัลฟอยละสิ”
     
    “เธอหมายความว่ายังไงปากกาขนนกของเธอ”แคทเธอลีนถามเธอแบบงงๆ
     
    “เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก”เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเดรโกอีกครั้งอย่างเคร่งเครียดอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วจึงหันมาส่งยิ้มให้กับแคทเธอลีนเหมือนนึกแผนการอะไรขึ้นมาได้ “ฉันว่าเราต้องเปลื่อนแผนกันนิดหน่อยแล้วล่ะ”
     
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
     
    “เธอบ้าไปแล้วเฮอร์ไมโอนี่ ไม่ใช่แค่เดรโกคนเดียวนะสลิธลีนทั้งบ้านเลยนะนั่น”แคทเธอลีนอุทานอย่างตกใจกับความคิดบ้าๆของเฮอร์ไมโอนี่ในขณะที่เธอกระชิบเล่าแผนการบางอย่างให้เธอฟัง การที่จะเข้าไปยังบ้านสลิธลีนก็เข้าไปหาความตายดีๆนี่เอง ซึ่งไม่เป็นการดีเลยที่เฮอร์ไมโอนี่จะเสี่ยงเข้าไปเองแบบนั้น
     
    “ถ้าเราไม่เข้าไปยังหอของสลิธลีนแล้วเราจะเข้าไปเอาของในห้องของเดรโกคืนมาได้ยังไงกันแคท”เฮอร์ไมโอนี่มองตาแคทเธอลีนขณะที่เอื้อมมือไปบีบมือของเธอเพื่อให้คำมั่นใจ
     
    “เราจะใช้น้ำยาสรรพรส ทุกคนก็ไม่รู้แล้วว่าฉันปลอมตัวมาเพียงแต่เธอจะต้องกันคนที่ฉันปลอมตัวไว้อยู่ให้ห่างๆฉันให้นานที่สุดไม่งั้น จบเห่แน่”เฮอร์ไมโอนี่ประเมินความเป็นไปได้ของการกระทำอย่างนั้นให้แคทเธอลีนฟังโดยที่สีหน้าของคนฟังปรากฎแววตาที่ตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา
     
    แคทเธอลีนกระพริบตาเมื่อเรียบเรียงคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่แล้วและผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างตกใจ“นี่ เธอหมายความว่าเธอจะให้ฉันเฝ้าเดรโกไว้งั้นเหรอ”
     
    “ใช่อย่างน้อยก็ช่วงเวลาหนึ่งที่ฉันอยู่ที่บ้านสลิธลีนและเอาของๆพวกเรากลับคืนมาให้ได้ก่อน”เฮอร์ไมโอนี่อธิบายด้วยน้ำเสียงที่หวังว่าจะฟังดูเยือกเย็นและมีเหตุผลพอ
     
    “เธอคิดว่าเธอจะทำสำเร็จเหรอเฮอร์ไมโอนี่ แล้วน้ำยาสรรพรสเธอจะไปเอามาจากที่ไหนของที่จะปรุงก็ไม่ใช่จะหามาง่ายๆนะ”แววตาเธอมีแววสงสัยขึ้นมาอีก
     
    สายตาของเฮอร์ไมโอนี่เป็นประกายขึ้นมาแว๊บหนึ่ง“น้ำยาสรรพรสหาไม่ยากหรอกอย่างน้อยๆฉันก็รู้ว่าทีไหนมีเก็บเอาไว้”
     
    “ที่ห้องปรุงยา”สีหน้าของแคทเธอลีนมีแววตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง
     
    “ใช่ ฉันจะแอบไปที่ห้องปรุงยาเพื่อไปเอาเครื่องปรุงออกมาแล้วค่อยเอาเส้นผมของเดรโกใส่ลงไปแล้วจะเข้าไปเอาของๆเราคืนมาเห็นไหมไม่ยากเลย”
     
    “แต่”แคทเธอลีนยังไม่ไว้ใจ แต่เฮอร์ไมโอนี่ตัดบทเธอเสียก่อนที่เธอจะพูดแย้งอะไรออกมา
     
    “เอาตามที่ฉันบอกนั่นแหละ แต่ก่อนอื่นเราจะต้องย้ายที่มัลฟอยให้อยู่ในที่ลับตาคนเสียก่อน”เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาที่ลับตาคนไปทั่วบริเวณนั้น
     
    “แล้วเราจะเอาเขาไปไว้ที่ไหนล่ะ”แคทเธอลีนถามพร้อมกับมองตามมือของเฮอร์ไมโอนี่ที่ชี้ไปยังพุ่มไม้ใกล้ๆต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
     
    “ที่นั้น พุ่มไม้ใหญ่ตรงนั้น มาเถอะช่วยกัน”เฮอร์ไมโอนี่เดินดุ่มเข้าไปยังพุ่มไม้ใหญ่ก่อนแหวกเป็นทางเข้าไปยังด้านในซึ่งเป็นโพรงกว้างขนาดใหญ่ที่จุคนตัวไม่ใหญ่นักได้สองถึงสามคน
     
    “เธอรู้ได้ไงว่าที่นี่เป็นโพรงใหญ่ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย”แคทเธอลีนถามอย่างแปลกใจระคนทึ่งเล็กน้อยกับโพรงขนาดใหญ่ที่เธอไม่เคยเห็นมันมาก่อน
     
    “เหตุบังเอิญน่ะ มีวันหนึ่งฉันตามหาครุกแซงก์หาไปหามาก็เลยเจอโพรงนี่เข้า ฉันชอบเข้ามาอ่านหนังสือตรงนี้บ่อยๆด้วยลับตาคนดี”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างภคภูมิใจเล้กน้อยก่อนเดินออกไปภายนอกเพื่อไปเอาตัวเดรโกเข้ามา ระหว่างนั้นแคทเธอลีนได้ยินเสียงตะโกนด่าทอเฮอร์ไมโอนี่จากเดรโกตลอดเวลา จนกระทั่งร่างของเดรโกถูกผลักเข้ามายังด้านใน
     
    “ ยายสกปรก ปล่อยฉันนะ”เขาสบถไม่หยุดปากในขณะที่ยังมีแรงดิ้นไปดิ้นมา
     
     
    “ถ้านายยังไม่เลิกเห่าฉัน ฉันจะเอาโคลนอุดปากนายมัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่เน้นเสียงหนักในตอนท้าย การท้าทายของเธอเห็นได้อย่างชัดเจน ในขระที่เดรโกหลิ่วตาข้างหนึ่งมองประเมินเธออีกครั้งหนึ่งก่อนยอมเงียบในที่สุด แต่สายตาวาววับของเดรโกจับไปที่ร่างบางของเฮอร์ไมโอนี่ ความคิดอยากแก้แค้นแผ่ซ่านเข้ามาในตัวเขาในทันทีเธอจะต้องชดใช้ต่อความทุกข์ทรมานในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ทว่าเดรโกไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเขายังมีเวลาอีกหนึ่งปีในการสำรวจความรู้สึกนึกคิดของเธอและลงโทษเธอให้ได้ ………………………..
    เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจสายตาของเดรโกที่มองเธออย่างเคียดแค้นเพราะสายตาของเขามันทำให้เธอเกิดความชาชินไปเสียแล้วเธอหันหน้าไปหาแคทเธอลีนแล้วกระซิบเบาๆกับเพื่อนสาวของเธอ
    “ฉันไปก่อนนะแคท แล้วอย่าลืมที่ฉันบอกห้ามปล่อยเขาเด็ดขาดไม่ว่าเขาจะพูดดีแค่ไหนกับเธอก็ตาม เขามันเจ้าเล่ห์ เธอต้องระวังตัวเองดีๆด้วย”
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
    ใบหน้าดูมีเสน่ห์ของหญิงสาวสวยผมหยิกเป็นลอนเปลี่ยนไปเป็นชายหนุ่มผิวขาวซีดผมบลอนส์ เขาหรือเธอคนนั้นคุกเข่าอยู่ข้างๆหม้อปรุงยาใบเล็กที่มีสมุนไพรหลายอย่างอยู่ข้างหน้า เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นและเดินไปที่อ่างล้างหน้าที่มีกระจกเงาเก่าๆบานใหญ่ตั้งอยู่ เธอมองภาพสะท้อนของร่างเดรโกในกระจกเงาพลางสำรวจดูตัวเองและยิ้มให้อย่างพอใจในฝีมือการปรุงยาของเธอ
     
    “สมบูรณ์แบบจริงๆ “ เธอพึมพำ
     
    “ช่ายยยยยยย.......หล่อดี”เสียงกรีดร้องโหยหวนพร้อมกับร่างลางๆของผีสาวที่สิงสู่อยู่ในห้องน้ำชั้นสองพูดขึ้น พลางลอยไปลอยมาอยู่ข้างๆเฮอร์ไมโอนี่
     
    “เธออีกแล้วทำไมชอบมาวุ่นวายที่ห้องน้ำของฉันเป็นประจำเลย”เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญพูดพร้อมกับหน้ามุ่ยใส่เฮอร์ไมโอนี่ เธอจำได้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ครั้งหนึ่งเคยมาปรุงยาแบบนี้พร้อมกับเพื่อนของเธออีกสองคนผลที่ได้ไม่เป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่นักสำหรับเด็กสาวและคราวนี้เธอกลับมาใช่สถานที่นี้อีกเป็นครั้งที่สองซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเมอร์เทิลที่เด็กสาวมาก้าวล้ำสถานที่ส่วนตัวของเธอ
     
    “อย่ามายุ่งกับฉันเมอร์เทิล” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวเสียงไม่พอใจเมื่อได้ยินเมอร์เทิลส่งเสียงกรีดร้องดังลั่นห้องน้ำไปหมด
     
    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วพลางส่งเสียงตวาดลั่น
     
    “หยุดนะเมอร์เทิล ถ้าเธอไม่หยุดร้อง ฉันจะสาปเธอ”ได้ผลเสียงกรีดร้องของเมอร์เทิลหยุดในทันที หัวของเธอโผล่ออกมาจากห้องน้ำห้องหนึ่งและทำหน้าบึ้งตึง
     
    “ฉันจะฟ้องศาสตราจารณ์”
     
    “เชิญ”เฮอร์ไมโอนี่กอดอกและมองสายตาขุ่นไปให้เมอร์เทิล
     
    “ฉันจะฟ้องศาสตราจารณ์ว่าเธอใช้น้ำยาสรรพรสโดยไม่ได้ขออนุญาติจากอาจารณ์ใหญ่ก่อนและเธอมีแผนการร้าย”เมอร์เทิลร่ายยาวด้วยความโมโหเมื่อยังเห็นเฮอร์ไมโอนี่ใช้เวทมนต์เก็บอุปกรณ์ในการปรุงยาของเธออย่างหน้าตาเฉย
     
    “อยากฟ้องใครก็เชิญฟ้องเลยเมอร์เทิลแต่เธอมีหลักฐานอะไรไหมที่จะกล่าวหาฉัน”เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเป็นต่อเธอรู้ดีว่าแค่คำพูดของผีอย่างเมอร์เทิลไม่มีใครเชื่อแน่อีกอย่างเธอไม่ค่อยจะออกจากห้องน้ำมากนัก เพราะกระทรวงเวทมนตร์สั่งให้เธออยู่ในนั้นตั้งแต่ที่เธอตามหลอกโอลีฟ ฮอร์บี ตอนที่เรียนจบจากฮอกวอตส์ไปแล้ว จึงเป็นการยากที่เธอจะได้พบปะเจอใคร
     
     
     
    เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอีกครั้งก่อนจะมองดูที่กระจกเงาและเดินออกไปจากห้องน้ำโดยไม่ได้สนใจกับเมอเทิ้ลที่ยืนหันหลังให้กับเธออย่างขุ่นเคือง
     
    เพียงชั่วครู่เสียงฝีเท้าวกกลับมาอีกครั้งพร้อมประตูที่เปิดกลับเข้ามา
    เมอเทิ้ลร์ลอยตัวพุ่งขึ้นไปที่ฝาผนังด้านบนก่อนหมุนตัวลอยลงมาดูผู้ที่เข้ามาใหม่ก่อนที่จะทำตาโตด้วยความแปลกใจ
     
    “สวัสดี มาคุยกันหน่อยสิ” เสียงห้าวทักทาย
     
    และสิ่งที่เมอร์เทิลเห็นทำให้เมอเทิ้ลผงะนัยตาน์เบิกกว้างอย่างหวาดกลัว ดวงตาสีเขียวมรกต ดวงตาที่เธอคิดว่าใช้ แต่เมื่อดูสำรวจคนนั้นดีๆอีกครั้ง เมอเทิ้ลกลับส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ ไม่ใช่คนคนนี้แน่ ไม่ใช่คนที่เธอเข้าใจว่าเป็น.......เพราะใบหน้าไม่ได้เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย น้ำเสียงก็ไม่ใช่ แต่ .... เมอเทิ้ลกำลังคิด นัยน์ตาของเขานี่สิ นัยน์ตาของเขาเป็นคนๆนั้น เป็นคนเดียวกันแน่ๆ นัยน์ตา ของคนที่เคยจ้องมองเธอและเป็นคนเดียวกับที่ปล่อยไอ้งูบ้านั้นออกมา .......................................................
     
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
     
    “เอาล่ะทีนี้ก็ต้องหาทางเข้าบ้านสลิธลีนกันล่ะ”เฮอรืไมโอนี่ในร่างของเดรโกคิดในใจตอนนี้เธออยู่ที่หน้าหอสลิธลีนแล้วแต่ปัญหาในตอนนี้ของเธอก็คือเธอจะเข้าไปในหอโดยวิธีไหน เธอไม่รู้รหัสเข้าบ้านดังนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงแฝงกายหลบอยุ่ในซอกหลีบของกำแพงเพื่อรอใครสักคนหรือบางคนที่จะเข้าหอในช่วงเวลานี้
     
    เฮอร์ไมโอนี่ใช้เวลาเพียงไม่นาน เมื่อมีเด็กชายปีหนึ่งของสลิธลีนคนหนึ่งกำลังจะเดินเข้าหอ เฮอร์ไมโอนี่ในร่างของเดรโกจึงรีบเดินออกมาทำทีว่าจะเดินเข้าหอเช่นเดียวกัน
     
    มันช่างง่ายดายเสียเหลือเกินสำหรับเฮอร์ไมโอนี่เธอเดินเข้ามายังห้องนั่งเล่นรวมสลิธลีนพร้อมกับสำรวจไปทั่ว พื้นหินอ่อนสีดำสนิท มีโซฟาสีเขียวเข้มตั้งอยู่ตรงกลางห้องมีเตาผิงที่ส่องไฟเจิดจ้าด้วยเวทมนต์และมีบันไดหินอ่อนแยกออกเป็นสองทาง หอชายและหอหญิงคล้ายๆบ้านกริฟฟินดอร์
     
    “ว้าแล้วห้องมัลฟอยอยู่ไหนกันล่ะทีนี้ ถ้าจะให้ไปถามใครดื้อๆคงไม่ดีแน่มันจะยิ่งน่าสงสัย แต่จะทำยังไงดี”เฮอร์ไมโอนี่ทรุดนั่งอย่างอ่อนแรงที่โซฟาในห้องนั่งเล่นรวมที่มีสมาชิกสลิธลีนบางคนอยู่ที่นั่น เฮอร์ไมโอนี่กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก แต่เธอก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกของหญิงสาวซึ่งเป็นศัตรูคนหนึ่งของเธอ แพนซี่ พาร์กิสัน
     
    “เดรโก”
     
    เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงเรียกของแพนซี่ก็หน้าเสียแต่ก็จำใจต้องเงยหน้ามองเธอ
    “พากิสัน”เฮอร์ไมโอนี่พยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุดแต่เธอเองก็ต้องถึงกับสะดุ้งเมื่อแพนซี่ทรุดกายลงนั่งโซฟาเดียวกันกับเธอจนเนื้อตัวแทบเกยกันอยู่แล้ว เฮอร์ไมโอนี่ผงะตัวกระเถิบหนีถอยห่างจากแพนซี่
     
    และมันทำให้แพนซี่ถึงกับหน้าเสียเพราะคิดว่าเดรโกโกรธเธอ
     
    “เธอยังโกรธฉันเรื่องเมื่อตอนบ่ายอยู่อีกเหรอ”แพนซี่ถามเบาๆน้ำตาเริ่มคลอหน่วย
     
    เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับตกใจ บ้าเอ๋ย! การสวมรอยเป็นคนอื่นมันน่าอึดอัดใจมากพออยู่แล้ว แล้วนี้เธอต้องแสดงบทบาทเป็นพวกเพลร์บอยเหมือนเดรโก มัลฟอยอีกหรือนี่
     
    “เออ เปล่านี่”เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงอ่อนลงเพื่อให้เธอหยุดร้องไห้เสียที
     
    “ถ้าเปล่าแล้วทำไมเธอถึงไม่เรียกชื่อฉันล่ะ”แพนซี่ต่อรองในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบๆห้องนั่งเล่นรวมของสลิธลีนและเห็นมีอยู่สองสามคนที่มองดูเธอและซุบซิบ
     
    “ก็ได้แพนซี่”เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจก่อนจะยอมเรียกชื่อเธออย่างจำใจ
     
    “ดีจัง”แพนซี่ผวากอดแขนเฮอร์ไมโอนี่อย่างออเซาะมันทำให้เธอถึงกับขนลุกซู่และจักกะจี้เล็กน้อย
     
    “เดรโก”เสียงหวานๆเรียกเดรโกอีกครั้งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับผวาเธอหันไปมองและต้องตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาใกล้ชัดๆ
     
    ร่างของอมาธาร์ เมอร์เร่ควงแขนมากับวินเวิร์ด มัลฟอย
     
    “ทำไมนายไม่ไปเรียนวิชาพืซศาสตร์ที่ห้องเรือนกระจกล่ะหลังจากช่วงบ่ายฉันก็ไม่เห็นนายอีกเลย นายเป็นอะไรไปหรือเปล่า”อมาธาร์เดินเข้ามานั่งขนาบข้างเดรโกอีกข้างและพยายามนั่งชิดกับเดรโกให้มากที่สุดจนทำให้แพนซี่เริ่มมองอย่างไม่พอใจนัก
     
    “นั่นสิเดรโก ทำไมเธอโดดเรียนล่ะ”แพนซี่ดูเหมือนเพิ่งจะนึกออกเธอกระแซะเดรโกเข้ามาอีกและถามเสียงอ่อนเสียงหวานอย่างเอาใจ
     
    เฮอร์ไมโอนี่ใจหายวาบ เดรโกมีเรียนวิชาพืชศาสตร์และเธอเองก็มีเรียนเช่นกันวิชาประวัติศาสตร์น่ารู้ แย่ชะมัดเธอลืมเสียสนิท แฮร์รี่กับรอนต้องสงสัยแน่ว่าทำไมเธอถึงไม่ไปเรียนวิชานี้ โอ๊ยเฮอร์ไมโอนี่เธอโดดเรียนเพราะจะมาเอาของพวกนี้คืนจากเดรโกแค่เนี่ยเหรอ บ้าหรือเปล่าเฮอร์ไมโอนี่
     
    “ว่าไงทำไมเธอโดดเรียน”แพนซี่พูดซ้ำเมื่อเห็นเดรโกทำหน้าบึ้ง
    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเครียดเป็นครั้งแรกเธอถอนหายใจพรืดใหญ่ก่อนหันไปตวาดแพนซี่จนหน้าเสีย
     
    “อย่าพูดซี้ซั้วแพนซี่ ฉันไม่ได้โดดเรียนนะ เออ วันนี้ฉันรู้สึกเพลียแล้วก็ปวดหัวน่ะก็เลยไปห้องพยาบาลมาดามพร๊อฟฟี้ให้ฉันกินยาแล้วก็นอนพักผ่อน ฉันเพิ่งกลับจากห้องพยาบาลมาเมื่อกี้นี่เอง”
     
    แพนซี่ทำตาโตก่อนอังหน้าผากของเดรโกอย่างเป็นห่วงแต่เดรโกเบี่ยงหน้าผากของเขาออกห่างจากมือเธอ
     
    “ฉันขอโทษเดรโกฉันไม่รู้ว่าเธอป่วยนะแล้วตอนนี้เธอค่อยยังชั่วแล้วหรือยัง”
    “รู้สึกไม่ค่อยดีเลย ไงฉันไปพักผ่อนก่อนก็แล้วกันนะ”เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอเองไม่รู้ว่าห้องของเดรโกอยู่ไหนเธอจึงหยุดและนึกอะไรบางอย่างออกในทันที
    ” เออแพนซี่เธอช่วยพยุงฉันเข้าไปพักหน่อยสิ ฉันรู้สึกหน้ามืดยังไงก็ไม่รุ้”เฮอร์ไมโอนี่ในร่างของเดรโกทำเป็นพูดสำออยจนแทบทำให้ร่างของแพนซี่กระโดดจนตัวลอยและรับอาสาให้อย่างเต็มใจ
     
    “ได้เลยเดรโก”
     
    แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และแพนซี่นิ่งอึ้งเหมือนโดนคาถาจังงันคือคำพูดของวินเวิร์ด มัลฟอย
     
    “ไม่ต้องหรอกแพนซี่ ฉันว่ามันไม่ค่อยเหมาะเธอเป็นผู้หญิงด้วยเข้าไปหอนอนผุ้ชายมันน่าเกลียด ฉันพาพี่ชายฉันไปเองดีกว่า มานี่เถอะเดรโก”
     
    และโดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่คาดคิด วินเวิร์ด คว้าแขนของเธอและกระชากเข้ามาหาตัวเขาจนร่างของเฮอรืไมโอนี่ในร่างของเดรโกตัวปลิวเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแทบจะในทันที
     
    “นายจะทำอะไรวินเวิร์ด”เฮอร์ไมโอนี่ร้องเสียงหลงจนเกือบจะไม่ใช่เดรโก
    วินเวิร์ดแค่นยิ้มให้กับเดรโกก่อนตอกกลับ“ทำไมล่ะก็แค่พยุง หรือว่านายเดินไม่ไหวฉันจะได้ช่วยอุ้มไป”
     
    วินเวิร์ดทำท่าจะอุ้มเดรโกไปจริงๆถ้าไม่เป็นเพราะชายหนุ่มข้างหน้าเขาผงะถอยหลังออกห่างจากเขาเสียก่อน
     
    “เฮ้ย ไม่ต้องปล่อยฉันเดี๊ยวนี้”เฮอร์ไมโอนี่ในร่างของเดรโกแกล้งทำเสียงกร้าวใส่และสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา
     
    วินเวิร์ดส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนยิ้มเยาะและคำพูดของเขาทำให้เฮอร์ไมโอนี่รุ้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ“ไม่ต้องอุ้มก็ดี เพราะฉันเองก็ไม่ถนัดที่จะอุ้มผู้ชายด้วยกันหรอกมันจักกะจี๊น่ะ ถ้านายกลายร่างเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่างจริงไหมเดรโก มัลฟอย”
     
    เฮอร์ไมโอนี่ส่งสายตาขุ่นมัวให้วินเวิร์ดก่อนที่เขาจะสบตากับเธอและยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มแปลกๆจนเฮอร์ไมโอนี่ชักเอะใจ
     
    เมื่อวินเวิร์ดเดินมาส่งเดรโกถึงห้อง เฮอร์ไมโอนี่ในร่างของเดรโกอยากสลัดวินเวิร์ดให้ออกไปให้พ้นๆเธอจึงขอบคุณเขาเบาๆและแทรกตัวของเธอเข้าไปด้านในแต่ก่อนที่เธอจะปิดประตูร่างของวินเวิร์ดก็แทรกเข้ามาด้านในโดยที่เธอเองก็ไม่ทันได้ระวังตัวเช่นกัน
     
    “นายเข้ามาทำไม”เดรโกตวาดเสียงกร้าว
     
    “พี่ชายไม่สบายทั้งคนฉันจะดูดายได้ยังไงล่ะจริงไหม มาเถอะ”วินเวิร์ดคว้าข้อมือของเดรโกดึงห่างออกจากประตูก่อนจะปิดล๊อคประตูอย่างแน่นหนา
     
    “นายออกไปเถอะวินเวิร์ดฉันเหนื่อยแล้วก็อยากพักผ่อนแล้วด้วย”เฮอร์ไมโอนี่สลัดมือเขาหลุดและพูดอย่างเหนื่อยอ่อน
     
    “ถ้าคิดว่าเหนื่อยและอยากมาพักผ่อนที่นี่ ฉันว่าคิดผิดนะ เพราะที่นี่ไม่ใช่กริฟฟินดอร์แต่มันเป็นสลิธลีน”วินเวิร์ดตัดสินใจอย่างรวดเร็วเพื่อจะจับผิดคำพูดของเธอและเพื่อดูปฎิกิริยาของเธอยามถูกจับโกหก
     
    “อะไรนะ ก็ๆมันหอนอนฉันทำไมฉันถึงนอนที่นี่ไม่ได้”   เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกแปลกใจในคำพูดของเขา แต่เธอก็ยังคงพูดจาเหมือนไม่รู้เรื่องในสิ่งที่เขาพูด
    วินเวิร์ดอมยิ้มเขาเดินมาที่กระจกพลางเรียกเดรโก
     
    “กระจกนี่มันมักจะไม่โกหกเรา ลองเดินมาดูหน่อยดีไหม”
     
    “นายทำบ้าอะไรเนี่ย ”เฮอร์ไมโอนี่เริ่มทำเสียงเครียดเธอเดินมาที่กระจกอย่างเบื่อหน่ายก่อนที่จะจ้องมองไปที่กระจกบานนั้น  
     
    ภายในกระจกร่างของเฮอร์ไมโอนี่กลับเป็นเหมือนเดิมแล้วน้ำยาสรรพรสกลับคืนสภาพเดิมของมันเมื่อถึงเวลา
     
    เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นเทา บ้าจริง เธอเสียเวลาไปกับข้างล่างนั้นมากเกินควร ทำให้การกะเวลาของเธอ ผิดพลาดไปจนหมด
    “นาย นายรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นฉัน นายถ่วงเวลาฉันจนฉันกลายร่างกลับมาเหมือนเดิม”เฮอร์ไมโอนี่เสียงสั่นรู้สึกแค้นใจเป็นที่สุด เล่เหลี่ยมของวินเวิร์ด มัลฟอยไม่เบาเลยจริงๆ แต่เขารู้ได้ยังไงกันว่าเธอแปลงร่างเป็นเดรโก
     
    เหมือนวินเวิร์ดจะรู้ถึงสิ่งที่เธอคิด
    “ความจริงแผนการณ์เธอน่าจะสำเร็จนะเกรนเจอร์ ถ้าฉันไม่บังเอิญไปได้ยินเสียงกรีดร้องของผีสาวตัวนั้นมันทำให้ฉันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนฉันเลยเดินเพื่อจะเข้าไปดูแต่บังเอิญเจอเดรโกเดินออกมาจากห้องน้ำเสียก่อน ฉันอยากรู้ว่าพี่ชายฉันเข้าไปทำอะไรในห้องน้ำที่ที่ไม่มีใครใช้มาก่อนเลยฉันเลยเข้าไปข้างในนั้นและเจอกับเมอร์เทิล เราได้คุยกันนิดหน่อยและถึงได้รู้ว่าคนที่เดินออกไปคือใคร”
    “บังเอญเจอหรือนายกำลังหาอะไรแถวนั้นกันแน่ วินเวิร์ด มัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้วเหมือนรู้ทันในบางอย่าง
     
    “ฉันไม่จำเป็นต้องบอกเธอ แต่เธอคงต้องบอกฉันว่ามาทำอะไรที่นี่กันแน่และเดรโกอยู่ไหน”เขาพูดเสียงแข็งกระด้างเปลี่ยนท่าทีในทันที
     
    “ทำไมฉันต้องบอกนายในเมื่อนายยังไม่ได้บอกฉันเลยว่านายไปทำอะไรหรือหาอะไรที่ห้องน้ำหญิง”เฮอร์ไมโอนี่เชิดหน้าใส่อย่างไม่เกรงกลัวทั้งๆที่สถานะการณืตอนนี้เธอเสียเปรียบเขาอย่างเห็นได้ชัด
     
    “เพราะเราอยู่กันคนล่ะสถานการณ์และเวลานะสิเกรนเจอร์ เวลานี้ ฉันเป็นสลิธลีน และเธอคือกริฟฟินดอร์ที่บุกรุก ฉันจำเป็นต้องปกป้องบ้านของฉัน แทนพี่ชายของฉันที่ไม่อยู่ในเวลานี้ และถ้าเธอไม่บอกความจริงกับฉันเกรนเจอร์ ฉันคงจำเป็นต้องยืมบทลงโทษของพี่ชายของฉันมาใช้กับเธอบ้างแล้ว”
     
    วินเวิร์ดยิ้มให้เธอ และก้าวเท้าเดินเข้ามาหาเธอทีละน้อยในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ก้าวถอยหลังไปจนติดกำแพงแล้วในตอนนี้ เฮอร์ไมโอนี่เป็นกังวลกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขาเธอเงยหน้าขึ้นมองเขาพยายามอ่านใจเขาแต่เธอก็รู้ว่าเป็นความพยายามที่ไร้ผลวินเวิร์ดปกปิดความรู้สึกเขาได้เป็นอย่างดี ดีเกินกว่าที่เธอจะตัดสินใจได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ หรือต้องการทำอย่างที่พูดจริงๆหรือเปล่า
     
    เฮอร์ไมโอนี่พยายามที่จะเบี่ยงตัวหลบเขาแต่มันก็สายไปเสียแล้วเขากักตัวเธอเข้ากับตัวเขาอย่างเหนียวแน่นก่อนที่จะจับคางเธอไว้ด้วยมือเรียวยาวของเขาข้างหนึ่งแล้วเชยคางเธอขึ้นมองเขา
     
    ก่อนที่วินเวิร์ดจะได้ใช้เวลาคิดได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่เขาได้เคลื่อนตัวมาข้างหน้าและจับคางเธอเอาไว้ด้วยมืออันทรงพลังของเขาและบีบให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขา
     
    เฮอร์ไมโอนี่มีเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่จะตระหนักได้ถึงความมุ่งมั่นอย่างไร้ความปราณีภายในดวงตาของเขาแต่มันก็ไม่นานพอที่จะส่งเสียงร้องค้านออกมาอย่างที่ใจคิดปากของเธอกำลังจะอ้าเพื่อพูดในขณะที่เขาก้ม ลงมาประกบอย่างมุ่งมั่น พลางบดเบียดอย่างรุนแรง จนถ้อยคำคัดค้านถูกกลืนหายลงไปในลำคอเธอหมดสิ้น
    รสจูบของเขารู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลและดูร้ายกาจในคราเดียวกัน และยิ่งไปกว่านั้น รสจูบของเขาเหมือนเป็นการลงโทษที่บังอาจดื้อดึงกับเขามีเพียงความตั้งใจอย่างเดียวเท่านั้นที่จะแสดงให้เธอได้เห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้คุมเกม
    ------------------------------------------------------
    ตอนต่อไป
    “ระวัง เฮอร์ไมโอนี่”
    เสียงของรอนร้องดังขึ้นและร่างของแฮร์รี่ถลันเข้าไปเพื่อคว้าร่างของเธอ แต่ช้าไปเมื่อร่างของเฮอร์ไมโอนี่ที่ถูกเดรโกยึดจับไว้มั่นตอนที่ทะเลาะใส่กัน ถูกดูดเข้าไปยังกำแพงภายในห้องโถงใหญ่และได้หายไปทั้งคู่
    ท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของนักเรียนทุกคนในฮ๊อกว๊อตส์
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×