คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8 การช่วยเหลือและ คืนแห่งการปรับความเข้าใจ
Chapter 8 การช่วยเหลือและ คืนแห่งการปรับความเข้าใจ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น สองสามครั้งก่อนเจ้าของบ้านร่างใหญ่จะเดินจากห้องสมุดออกมาดู วิคเตอร์ค่อยๆเปิดประตูพลางชะโงกหน้าออกมาดูอย่างแปลกใจ
“ว่าไงฮะ”เขาถามอย่างหวาดระแวงเมื่อสังเกตเห็นชายหญิงที่เขาไม่รู้จักยืนอยู่หน้าประตูบ้านของเขา
”ผมช่วยอะไรคุณได้บ้างไหมฮะ”วิดเตอร์ถามแต่มือที่ไข้วไว้ด้านหลังของเขากระชับจับไม้วิเศษประจำตัวของเขาไว้แน่น
“อ้อค่ะ ฉันรู้จักกับเฮอร์ไมโอนี่ พวกเรามีธุระอยากจะคุยกับเธอสักหน่อยจะได้ไหมค่ะ”มาเรียถามอย่างสุภาพ
“ธุระอะไร”วิกเตอร์ถามอย่างสงสัย เขาจ้องดูมาเรียอย่างพิจารณา
”คือฉันจะจัดงานปาร์ตี้นค่ะมันเป็นงานเล็กๆแล้วฉันเคยบอกกับเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้แล้วด้วยเธอรับอาสาเรื่องการจัดสถานที่กับเรื่องอาหารไว้ฉันอยากจะมาคุยรายรายละเอียดกับเธอนะค่ะและเธอบอกกับฉันเองว่าให้มาคุยกันที่นี่เพราะเธอจะกลับมาที่นี่นะค่ะ”เธอกล่าวคำโกหกอย่างไหลลื่น วิกเตอร์มองหน้ามาเรียและเบลส อย่างพิจารณาในเวลานี้เขาไว้ใจใครไม่ได้เลย วิกเตอร์เหมือนวัวสันหลังหวะหวาดกลัวไปเสียทุกเรื่องและในตอนนี้ดูเขาเองก็ไม่ค่อยไว้ใจสักเท่าไหร่นัก แต่ถ้าปฎิเสธมันดูออกจะเป็นพิรุธจนเกินไป เขาแสร้งยิ้มกว้างให้กับมาเรียอย่างใจเย็น
“ผมจะไปพาเธอมาหาพวกคุณเองมาดาม”เขากล่าวและจูบที่หลังมือของเธออย่างสุภาพบุรุษพึงมีต่อสตรีที่สูงวัยกว่ามาเรียแสร้งมีรอยยิ้มอย่างพอใจกลับไปให้เขาเช่นกัน
เมื่อเขาปิดประตูมาเรียทำสีหน้ารังเกียจและป้ายมือของเธอเช็ดกับเสื้อผ้าพร้อมกับพึมพำเบาๆ
“น่าขยะแขยงจริงๆ” เบลสจ้องมองมารดาพร้อมยิ้มขันเล็กน้อยให้กับเธอพลางกระซิบกับแม่ของเขา
“เบาๆซิฮะ เดี๊ยวแผนก็แตกหรอก”
ประตูเปิดออกในเวลาต่อมาเฮอร์ไมโอนี่ดูเหมือนเหนื่อยอ่อนและดูเหมือนสีหน้าของเธอดูไม่ดีนัก
”มาเรีย”เธออุทานออกมาอย่างตกใจสีหน้าดูตื่นตระหนก
”ค...คุณมาทำอะไรที่นี่ค่ะ”เฮอร์ไมโอนี่มองผ่านไปยังด้านหลังของมาเรียและเห็นเบลส อยู่ไม่ห่างกันสักเท่าไหร่เฮอร์ไมโอนี่มองไปทางด้านหลังของเธอเพื่อดูวิกเตอร์อย่างหวาดกลัวว่าเขาจะยืนฟังอยู่ด้านหลังของเธอและอาจจะจับสังเกตุใบหน้าที่ตื่นตระหนกของเธอได้
มาเรียมองดูสภาพของเฮอร์ไมโอนี่อย่างกังวลพลางกระซิบเบาๆกับเธอ”มันปลอดภัยไหมถ้าเราจะคุยกันที่นี่”
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเธอเดินออกมาจากประตูและปิดประตูตามหลังเธอเบาๆ
”พวกเรามาที่นี่เพื่อพาเธอกลับไปกับพวกเรา”มาเรียกล่าว
“พวกเราจะไม่ฝืนใจคุณถ้าคุณอยากจะกลับไปกับฉัน”มาเรียพูดเพิ่มขึ้นหลังจากพิจารณาแล้ว
เฮอรืไมโอนี่ส่ายหัวไปมาตัวเธอสั่นเทาจนมาเรียสังเกตุเห็น
“ฉ ฉันไม่สามารถ ไปจากเขาได้อีกแล้ว”เธอบอกกล่าวอย่างเงียบๆ
เบลสเดินตรงเข้ามาหาเธอนัยน์ตาสีครามดูโกรธจัด
“ฟังฉันนะเกรนเจอร์ เขาเป็นตัวอันตราย และสุดท้ายแล้วเขาจะฆ่าคุณ “เบลสกระซิบด้วยความโกรธ “คุณไม่ควรยึดติดกับเขาเลยเกรนเจอร์”
“เขาไม่ได้ทำอะไรผิด” เธอตอบกลับเสียงเบาแต่เสียงของเธอกลับสั่นเทาอย่างไม่แน่ใจ ความจริงเธอกลัววิกเตอร์ ครัม ต่างหากและเธอก็ไม่อยากให้ครอบครัวซาบินี่ต้องมาเดือดร้อนกับเธออีกแล้ว เธอรบกวนพวกเขามามากพอแล้ว
“ไม่ได้ผิด”เบลสกระซิบคุกคาม”เธอพูดออกมาได้ยังไง”
มาเรียตัดบทลูกชาย “เฮอร์ไมโอนี่ ฉันรู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะออกไปจากใครบางคนที่ทำให้คุณมีบาดแผลแต่คุณก็ไม่ควรที่จะได้รับจากสิ่งที่เขาทำกับคุณ”เธอหยุด”คุณมากับเราหรือคุณจะอยู่ที่นี่กับเขาสิ่งนั้นคือสิงที่คุณต้องเลือกแต่ฉันพนันกับคุณได้ว่าคุณจะเลือกสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด ใช่ไหมที่รัก”
เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายอย่างยากลำบากและเธอก็ตัดสินใจมันในทันทีที่มาเรียพูดจบใช่ เธอจะต้องเลือกสิ่งที่ปลอดภัยที่สุดและการอยู่กับวิกเตอร์มันไม่ใช่สิ่งที่ปลอดภัยสำหรับเธอเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สำนึกในเหตุการณ์ที่ผ่านมาเลย เขาได้แต่โทษว่าเป็นความผิดของเธอเท่านั้นและแผนการอื่นๆอีกที่แม่ของเขาวางแผนเอาไว้สิ่งนั้นมันทำให้เธอยากที่จะยอมรับมันได้ เธอพยักหน้าเงียบๆอย่างยอมจำนน
”เขาเอาไม้กายสิทธิ์?ของฉันไป”เธอยอมรับอย่างหมดหนทาง”เขากักฉันไม่ยอมให้ฉันออกไปจากที่นี่”
มาเรียสบตากับเบลส มาเรียหันไปดูรอบๆอย่างใจเย็นในบริเวณนั้นปราศจากคนอื่นนอกจากพวกเขาเป็นการดีที่จะใช้จังหวะนี้หลบหนีโดยใช้ไม้วิเศษของพวกเขา
“ไม่มีปัญหา พวกเราจะกลับไปกับคุณ มาตอนนี้เลยพวกเราจะออกไปจากที่นี่”มาเรียรีบเร่ง แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไรต่อไปเสียงห้าวๆของชายใจโฉดก็ดังออกมาจากข้างในบ้านเสียก่อน
“เฮอร์มี่ นินนี่ คุณน่าจะเชิญเพื่อนของคุณเข้ามาข้างในนะ”วิกเตอร์ ถามและออกมาจากประตู
พวกเขาทั้งหมดรีบทำตัวปกติทันที
”แน่นอนค่ะ มาเรีย เข้าไปข้างในกันเถอะ”เธอกล่าวโดยไม่ทำให้เสียงแตกพร่า แต่หัวใจของเธอกลับเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดตัดสินใจเข้าไปด้านในตามคำเชิญของเจ้าบ้านที่ยืนอยู่ด้านหลังเฮอร์ไมโอนี่และจ้องเขม็งมาทางพวกเขา มาเรียพยักหน้าให้กับเบลสเหมือนรู้กัน
”พวกเรามีชาอยู่บ้างด้านใน”เฮอร์ไมโอนี่นำพวกเขาผ่านไปยังบ้านที่โอ่โถง
“ฉันกลัวว่าพวกเราจะอยู่ได้ไม่นานนักที่รักฉันเพียงแต่แวะมาคุยเรื่องรายละเอียดถึงงานเลี้ยงกลางวันในสัปดาห์นี้เธอก็เห็นว่าฉันจะต้องพาเบลสไปซื้อของขวัญสำหรับเพื่อนสุภาพสตรีคนล่าสุดซึ่งเขาไม่มีพรสวรรค์ในการเลือกซื้อของขวัญเลย”มาเรียหัวเราะราวเสียงดนตรีขณะที่พวกเขานั่งลงโดยมีวิกเตอร์นั่งลงข้างๆเฮอร์ไมโอนี่ เขาวางมือของเขาบนเข่าของเฮอร์ไมโอนี่และคลึงมันเบาๆอย่างเอาใจเธอ
"ถ้าสำหรับวิกเตอร์มักจะให้ของขวัญเป็นพวกของมีค่า จริงไหมค่ะที่รัก"เธอกล่าวคำโกหกและชำเลืองมองไปที่คู่หมั้นของเธอ เธอรู้สึกว่าเขาจ้องมองเธออยู่และยิ้มให้กับเธอ ภายในใจของเธอเหมือนอยากจะวิ่งออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
"ฉันพนันได้เลยว่าต้องเป็นเขา"มาเรียผายมือไปที่วิกเตอร์และกล่าวเสียงหวานดูราวกับว่าเธอกำลังชื่นชมอยู่กับคู่รักแห่งทศวรรษในขณะนี้
"เอาล่ะจ๊ะเรื่องรายละเอียดของงาน ฉันคิดว่าวันที่ดีเยี่ยมสำหรับงานเลี้ยงควรจะเป็นวันพฤหัสนี้ ที่ร้านหม้อใหญ่รั่วเที่ยงวัน ใช่ไหมจ๊ะเฮอร์ไมโอนี่"เธอถามเฮอร์ไมโอนี่และจ้องเขม็งไปที่เธอเฮอร์ไมโอนี่พยักหน้ารับอย่างงงๆ
”โอ้ว เธอเลือกสถานที่ได้เหมาะเหม็งดีจริง ขอบใจมากนะจ๊ะ อีกอย่างนะเฮอร์ไมโอนี่ในวันงานคุณจะต้องเล่าเรื่องเกี่ยวกับแฟนหนุ่มที่หล่อเหลาของคุณให้ฉันฟังด้วยล่ะ"มาเรียแสร้งทำเสียงอ่อนเสียงหวานเอาใจวิกเตอร์เพื่อทำให้เขาคลายความหวาดระแวงลงและมันดูเหมือนจะได้ผล วิกเตอร์ยิ้มกว้างตลอดเวลาเมื่อได้คุยกับมาเรีย
ถ้าไม่ใช่สถานการณ์ที่น่าหวาดเสียวแบบนี้ เฮอร์ไมโอนี่คงจะนั่งหัวเราะจนตัวโยนกับการแสดงละครที่สมจริงของมาเรียเป็นแน่
“ตกลงค่ะมาเรีย”เฮอร์ไมโอนี่ตกลง
“คู่หมั้นครับ คุณนายไม่ใช่แฟน”วิกเตอร์แก้ไขให้ถูกต้องเขายิ้มลงบนฝีปากของเขาพร้อมพูดเสริมอีกนิด”และผมกับเฮอร์ไมโอนี่คงจะแต่งงานกันในอีกวันสองวันนี้“เขาจ้องมองเฮอร์ไมโอนี่และยิ้มให้อย่างอ่อนหวานที่สุดเท่าที่จะทำได้
“โอ้วจริงเหรอ ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ “เธอแกล้งตื่นเต้นและดีใจไปกับเฮอร์ไมโอนี่ แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับยิ้มเล็กน้อยสงวนท่าที
วิกเตอร์มองไปที่พวกเขาอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆพร้อมทั้งยกคิ้วสูงไปที่พฤติกรรมของเฮอร์ไมโอนี่ เธอรู้สึกใบหน้าของเธอเหมือนไหม้เกรียมกับการจ้องมองของเขา มันทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวเร็วอย่างหวาดหวั่น โอ้ เบอลิน เขาช่างเป็นผู้ชายที่น่ากลัวจริงๆ
เบลสมองผ่านไปที่นาฬิกาของเขาที่กระเป๋ากางเกง"มันได้เวลาที่พวกเราจะต้องไปกันแล้ว แม่พวกเรามีเวลาจำกัด"เบลสพูดอย่างมีเลศนัยให้กับแม่ของเขา มาเรียก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือของเธออีกครั้งก่อนพยักหน้า
"ตกลงจ๊ะ ฉันขอโทษด้วยนะจ๊ะที่รัก แต่ฉันคงจะได้เห็นคุณในวันพฤหัสนี้นะ"เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มหวานบนใบหน้าของเธอ"คุณจะออกเดินไปส่งพวกเราไหม"เธอถามเฮอร์ไมโอนี่ ทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
"แน่นอนฮะ” วิคเตอร์ยืนยัน"ฉันจะอยู่ในห้องหนังสือนะ เฮอมีนินนี่"เขากล่าวและออกจากห้องไป
วิกเตอร์ควรจะปล่อยให้เธอหายใจบ้างและเขาเองก็ไม่คิดว่าเธอจะหลบหนีเขาไปอีกแล้ว โดยไม่ทันได้เฉลียวใจ วิกเตอร์เดินเข้าห้องหนังสือโดยไม่ได้หันกลับมามองพวกเขาอีกเลย
พวกเขาเดินมาที่ประตูและทำเป็นว่ากำลังคุยกันและอย่างรวดเร็วเฮอร์ไมโอนี่ปิดประตูด้านหลังของเธอ เธอถอนหายใจออกมา และเอามือของมาเรียโอบไว้ข้างๆเหมือนปกป้องเธอจากการหนีออกมาจากวิกเตอร์พวกเขาใช้เวทมนต์โดยใช้ไม้วิเศษของเบลสและหายตัวออกมา อย่างง่ายดาย
พวกเขามาถึงคฤหาสน์ซาบินี่ในเวลาสองสามนาทีต่อมาพวกเขายืนอยู่ชั่วครู่ในความเงียบและถอนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เฮอร์ไมโอนี่ยังคงจับมือของมาเรียและถอนลมหายใจอย่างหนัก เธอควบคุมน้ำตาโดยการสูดอากาศเข้าเต็มปอด
”ขอบคุณมากค่ะ”เธอเริ่มพูดด้วยตัวเองได้แล้ว โดยที่มาเรียกอดเธอไว้แน่น
มาเรียยิ้มและกอดหญิงสาวที่กลับมา ถูนวดไปมาบนหลังของเธอในขณะที่มีเสียงสะอื้นบนบ่าของเธอ
"มันไม่เป็นไรแล้วที่รักคุณปลอดภัยแล้ว ตอนนี้"
เบลสถอนหายใจเมื่อเขาได้ยินเดรโกเข้ามาในห้อง
"พวกคุณกลับมาแล้วงั้นเหรอ เป็นไงบ้าง"เขากล่าว และไม่ทันสังเกตเห็นเฮอร์ไมโอนี่ที่ถูกมาเรียกอดไว้แนบอก
“เราช่วยเธอออกมาได้สำเร็จแล้ว เธออยู่นี่ไง”มาเรียกล่าวและเดรโกก็เห็นเฮอร์ไมโอนี่ที่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาเขา เดรโกหันมามองเธอเขม็ง เขากำลังคิดว่า ไอ้เลวนั่นมันทำกับเธอไว้มากมาย แต่เธอก็ยังคงกลับไปหาเขาอย่างรวดเร็วความโกรธเกิดขึ้นมาภายในใจของเขา จนเขาเองไม่สามารถระงับอารมณ์อันร้อนแรงของเขาไว้ได้
"เกรนเจอร์"เขาตะโกนและเธอสะดุ้งอย่างตกใจ"คุณคิดอะไรของคุณที่กลับไปหาไอ้เลวนั่น"เขาคุกคามและเดินตรงไปหาเธอก่อนกระชากร่างอันปวกปียกของเธอออกจากอ้อมกอดของมาเรียเธอพยายามดึงตัวเธอออกมาจากเดรโกและเช็ดน้ำตาของเธอจากวงหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
"ฉัน นไม่รู้"เธอกล่าวอย่างเอ่อนแรงพลางสะอื้นฮักตัวโยนอย่างน่าสงสาร
"มันงี่เง่ามากเลยที่คุณกลับไปหาเขา คุณไม่เข้าใจหรือไงว่ามาเรียเป็นห่วงคุณแค่ไหน"
“ดังนั้นคุณควรอยู่ที่นี่”เบลสพูดตัดบทโดยไม่พยายามให้เดรโกพูดอะไรมากไปกว่านั้นเพราะเขารู้ดีว่าเดรโกในตอนนี้มีโทสะที่รุนแรงแค่ไหนแต่ดูท่าทางเดรโกไม่ยอมหยุดแค่นั้น
“ใช่ พวกเราวิตกกับคุณมากแค่ไหนคุณรู้ไหม เขาฆ่าคุณได้นะ”เดรโกยังตะโกนด้วยความขุ่นเคืองใจ
“ฉันขอโทษ”เธอตะโกนไปที่เขา”ฉันเสียใจ ตกลงไหม ฉันโกรธ และกลัว ฉันคิดว่า”
“คิดอะไรเกรนเจอร์ คิดว่าเขาจะเปลี่ยนเหตุการณ์ในวันนั้นได้ คิดว่าเขาจะไม่ทำให้คุณเจ็บอีกงั้น
เหรอ ”เดรโกหัวเราะเยาะ”ฉันพนันได้ว่าเขาทำให้คุณเจ็บอีกแน่นอนใช่ไหมและเขาก็สนุกกับสิ่งที่เขาได้ทำมันด้วย”เขาพูดอย่างเดือดดาล
เฮอร์ไมโอนี่ย่นหลังด้วยความหวาดกลัวและมาเรียดึงแขนเธอมาโอบกอดเพื่อปกป้องเธอ
“เดรโก มัลฟอย”มาเรียว่ากล่าว”เธอผ่านอะไรมาเพียงพอแล้ว”ดังนั้น มาเรียจึงพาเฮอร์ไมโอนี่ออกห่างจากพวกเขาและพาเข้าไปในห้องเธอ
“เดรโก นายอย่าไปลงที่เธอได้ไหมเธอผ่านมันมามากเพียงพอแล้วนายมาที่นี่และตะโกนใส่เธอ นายมันผู้ชายงี่เง่า “ เบลสกล่าว และเดินออกไปจากเดรโกตามลำพังอย่างหงุดหงิด
เดรโกถอนหายใจเขาสางผมสีบลอนส์ผ่านมือของเขา มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเธอแต่เบลสและมาเรียพูดถุก เขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เขาไม่ควรพูดสิ่งเหล่านั้นกับเธอ ถึงแม้เขาจะโกรธเธอที่ตัดสินใจโง่ๆแบบนั้นก็ตาม เขาทำมากเกินไป
@@@@@@@@@@@@
เฮอร์ไมโอนี่นอนอยู่บนเตียงของเธอ เธอใช้มือของเธอปืดตาตัวเองเพื่อหยุดความคิดต่างๆที่มารบกวนการนอนของเธอ มันเป็นเวลาตีสี่กว่าๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาการพักผ่อน
เธอครางและกลิ้งตัวไปมา ในขณะที่เธอเพิกเฉยต่อร่างกายที่เจ็บปวดของเธอ
”มาสิ เฮอร์ไมโอนี่นอนหลับได้แล้ว”เธอพยายามข่มตาให้หลับ แต่มันยากเสียเหลือเกินเมื่อสมองของเธอไม่ยอมทำตามที่ใจเธอต้องการดังนั้นเธอจึงตระหนักได้ว่าการนอนไม่ได้สามารถเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้
”ก็ได้”เฮอร์ไมโอนี่ดึงตัวเธอและกล้ามเนื้อที่ปวดระบมออกมาจากเตึยง
เธอเปิดประตูออกไป และแอบมองไปตามทางเดินระเบียงที่กว้างขวาง มันว่างเปล่า และมืดสนิทเฮอร์ไมโอนี่สบถเบาๆ เธอหวังว่ามาเรียคงจะยังคงพักผ่อนอยู่ โชคไม่ดีที่เธอไม่มีไม้กายสิทธ์เพื่อจุดไฟนำทางตามทางเดินที่มืดมิดแบบนี้เธอหวังว่าเธอจะออกไปเดินเล่นรอบๆโดยไม่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นจากการเดินเหมือนคนตาบอด
“โอ้ว ดีเลย”เธอกระซิบกับตัวเธอเอง” การเดินชนเล็กๆน้อยๆคงไม่ถึงกับฆ่าฉันได้หรอก”เธอพยายามทำตัวเองให้สงบในขณะที่เธอปิดประตูด้านหลังของเธอลงและค่อยๆเดินออกมายังระเบียงทางเดินที่เย็นเฉียบและมืดมิดนั้น
ความรู้สึกเย็นยะเยือกอยู่รอบๆฝ่ามือของเธอเฮอร์ไมโอนี่พยายามเดินคลำทางที่มืดมิดเพื่อหาบันไดและเธอก็พบมันเธอเดินลงมาด้านล่างอย่างช้าๆร่างกายของเธอหนาวเย็นจากข้างนอกเข้าสู่ภายใน
ที่กลางบันไดเธอจับราวบันไดไว้แน่นในขณะที่เธอก้าวเท้าเดินอย่างระมัดระวัง ในขณะนั้นมีแสงสว่างวาบเป็นจุดเล็กๆอยู่ที่ชั้นบนมันค่อยๆเคลื่อนแสงตรงมายังเธอ
“เกรนเจอร์” มีเสียงร้องถามอย่างมึนงง เฮอร์ไมโอนี่มองฝ่าไปยังเบื้องหลังไม้กายสิทธิ์ที่เป็นต้นกำเนิดของแสงสว่างนั้น
“คุณตื่นขึ้นมาทำอะไร”เดรโกถามในขณะที่ยืนอยู่เหนือบันไดและกำลังดูเธอที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงบันไดชั้นล่างต่อจากที่เขายืน
“ฉัน เออ ฉันนอนไม่หลับ”เธอกล่าวอย่างอ่อนล้าก่อนจะเป็นน้ำเสียงที่เย็นชาใส่เขา “เกี่ยวอะไรกับคุณ มัลฟอย แล้วทำไมคุณไม่กลับบ้านไปซะล่ะ”
เขาเดินลงบันไดมาหยุดอยู่ที่เธอก่อนที่จะมองเธอ”ไม่มาด้วยกันเหรอ”เขาพยักหน้าลงไปยังบันไดด้านล่างและเดินวางมาดยักคิ้วให้กับเธอ
เธอยังคงยืนตัวแข็งในขณะที่เขายืนค้ำตัวเธอ”ก็คงจะดีนะ”เธอพูดตะกุกตะกัก และพยายามบังคับตัวเองให้เดินลงบันไดมา
“เกรนเจอร์ ฉันจะไม่ทำร้ายคุณหรอก คุณไม่ต้องกลัวฉัน หรอกน่า” เขาแกล้งพูดเล่นกับเธอเพื่อทำลายความอึดอัดที่เกิดขึ้นกับเขาและเธอ “ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะ”
เธอหัวเราะเล็กน้อยกับคำพูดของเขา”แล้วถ้านายเป็นนายควรเป็นสัตว์ประหลาดประเภทไหนกันล่ะ” เฮอร์ไมโฮนี่ถามกลับในโทนเสียงที่เริ่มผ่อนคลายและนั่นมันทำให้เดรโกรู้สึกดีขึ้น
เขายกคิ้วขึ้นสูง ขณะก้าวเดิน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขบขัน”คุณจะต้องค้นพบด้วยตัวคุณเองแล้วล่ะเกรนเจอร์”เดรโกเล่นสำนวน
เธอกรอกตาของเธอไปมากับคำพูดเจ้าเล่ร์ของเขาเดรโกนำเธอไปยังครัวซึ่งพวกเขาได้เปิดไฟบางส่วนและนั่งลงด้วยกันที่โต๊ะ
“อยากได้ช๊อกโกแลตร้อนไหม”เธอถาม
“ก็ดี”เขากล่าวอยางสุภาพ และพยายามหาคำพูดเพื่อเตรียมจะพูดกับเธอ เขามองดูเธอที่ทำช๊อกโกแลตร้อนด้วยตัวของเธอเองโดยไม่ใช้เวทมนต์ซึ่งมันทำให้เขาแปลกใจ
“เกรนเจอร์ ทำไมคุณทำเครื่องดื่มนั่นแบบพวกมักเกิ้ลเขาทำกันล่ะ”เขาถามอย่างสงสัย
“นายไม่เข้าใจมันหรอก มัลฟอย ดังนั้นหยุดบ่นเสียที”เธอพูดเสียงแหลมเขาหัวเราะเบาๆ”ฉันไม่ได้บ่นเกรนเจอร์ฉันเพียงแต่ต้องการรู้ว่าทำไม”
เฮอร์ไมโอนี่หันมาเผชิญหน้ากับเขาและมองเขา”ถ้าคุณอยากรู้ว่าทำไมฉันจะบอกให้ก็ได้ฉันทำเหมือนพวกมักเกิ้ลเพราะว่ามันทำให้ฉันได้เคลื่อนย้ายตัวเองและฉันก็จะได้ไม่ลืมมรดกที่ฉันได้รับมาไม่ว่าคุณจะพูดว่ามันไม่ดีสักแค่ไหนก็ตาม”
คิ้วของเขายกขึ้นสูง”พระเจ้าฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นฉันเพียงแค่อยากรู้เท่านั้น”
เธอหันหลังกลับดังนั้นเขาถึงไม่เห็นแก้มที่แดงของเธอเมื่อเธอตระหนักถึงเรื่องบางอย่างที่เกิดขึ้นที่บ้านของวิกเตอร์
“และฉันก็ไม่มีไม้กายสิทธิ์ในตอนนี้ด้วย”เธอบ่นเบาๆแต่เขาก็ยังคงได้ยิน
“ทำไม แล้วไม้กายสิทธิ์ของคุณอยู่ที่ไหน”
เธอถอนหายใจในขณะที่เธอเทช๊อกโกแลคลงไปยังแก้ว”มันอยู่ที่วิกเตอร์”เธอกล่าวอย่างคลุมเครือขณะที่ขากรรไกรเธอค้างแน่นเมื่อเธอคิดถึงชั่วโมงที่เจ็บปวด เธอไม่สามารถใช้ไม้กายสิทธิ์หนีจากเขาได้ความทรงจำมันทำให้เธอร้องไห้ออกมาเต็มใบหน้าและมันทำให้เข่าของเฮอร์ไมโอนี่อ่อนแรงในความโหดร้ายที่เกิดขึ้น
เดรโกเห็นเธอคว้าจับโต๊ะและกอดตัวเองแน่น เขาก้าวเท้าของเขามายืนอยู่ข้างหลังเธอ และวางมือบนไหล่ของเธอเพื่อปลอบโยน”เกรนเจอร์ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
เธอเบี่ยงตัวออกจากมือของเขาราวกับแตะต้องของร้อน”อย่าแตะต้องฉัน”เธอเตือน และเบือนหน้าหนีห่างจากเขา
“ฉันเสียใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจสะกิดแผลในใจของคุณ”เขาพึมพำในขณะที่เธอผสมช๊อกโกแลตร้อนอีกครั้งหนึ่ง
“แล้วมันคงจะดีขึ้น”เธอสูดลมหายใจลึกๆและหันหน้ามาหาเขา”ฉันขอโทษนะ”เธอเช็ดน้ำตาออกไป”ฉันเปิดเผยไปหน่อย”เธอยอมรับและหัวเราะเล็กน้อย”ฉันไม่ควรจะร้องไห้เลย “เธอปล่อยเสียงสะอึกสะอื้นเบาๆ
“ไม่เกรนเจอiร์ มันถูกแล้วที่คุณร้องไห้คุณสามารถร้องไห้ได้ ถ้ามันเกิดกับฉันฉันเองก็คงทำแบบเดียวกับคุณ”เขากล่าวตามจริง”และในวันนี้ เมื่อคุณอยู่ที่นี่ ฉันไม่ควรพูดอะไรขึ้นมาอีก ฉันหมายถึง ฉันไม่ได้ตั้งใจ”คำพูดของเขาหายไปในลำคอในขณะที่เธอนั่งลงบนพื้นและเริ่มร้องไห้เธอกอดหัวเข่าของเธอ มัลฟอยเหมือนถูกสาปแช่ง” เมอลิน ฉันมันโง่เองฉันทำให้คุณร้องไห้อีกแล้วกับคำพูดอันบ้าบอของฉัน”
“ไม่...มันไม่ใช่” เฮอร์ไมโอนี่พยายามพูดแต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
“ฉันน่าจะหาอะไรมาอุดปากของฉันไว้เพื่อฉันจะได้ไม่ต้องพูดอะไรเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายอีกมองดูในสิ่งที่ฉันทำลงไปสิกับคำพูดโง่ๆของฉันฉันเคยทำให้เธอวิ่งหนีกลับไปหาเขาและตอนนี้ฉันก็ทำให้คุณร้องไห้อีกอย่างน้อยก็สองครั้ง”
“มัลฟอย”เธอพูดด้วยเสียงอันดังเขาหยุดในทันทีและมองไปที่เธอที่มีใบหน้าที่บึ้งตึงดูน่าขัน
“ฉันขอโทษ”เขาบอกเธอสีหน้าเขาแสดงความขวยเขิน
“ช่วยฉันทีฉันจะได้ทำช๊อกโกแลกของพวกเราให้เสร็จเสียที”เดรโกทำตามคำแนะนำและด้วยแขนอันแข็งแรงของเขาได้ดึงเธอจากพื้นเธอสะดุดและเข้าไปหายังอกของเขาเต็มแรงเขาจับเธอไว้มั่นและดูอ่อนโยน
“ฉันขอโทษ”เธอกล่าวแล้วดึงตัวเธอออกมาจากการช่วยเหลือของเขาเธอหันกลับไปที่เตาและเทช๊อกโกแลกร้อนออกจากเตาและเทใส่แก้วสองถ้วยเธอวางไปที่โต๊ะในขณะที่เขานั่งลง”ขอบคุณ”เขากล่าวอย่างตะขิดตะขวงใจ
เธอพยักหน้าและนั่งลงพร้อมจิบเครื่องดื่มร้อนๆที่อยู่ตรงหน้าเธอ”มัลฟอยคุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลยนะ ทำไมคุณถึงไม่กลับบ้านล่ะ”เธอถามอย่างใจเย็นในขณะที่เขาจิบช๊อกโกแลตร้อน
เขาไม่แสดงอาการใดๆขณะที่ตอบ”มีเรื่องยุ่งๆที่บ้านนิดหน่อย”
“เรื่องยุ่งเหรอ”เธอทวนคำและนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด
เดรโกยิ้ม”ใช่เกรนเจอร์เรื่องยุ่งยาก”เขากล่าว “คุณอย่าได้วิตกเกี่ยวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย”เขายิ้มเ
เธอถอนหายใจ”คุณบอกฉันได้นะฉันไม่บอกใครหรอก”เธอกระซิบกระซาบ
“ไม่”เขายิ้มไปที่เธอแม้ว่าสิ่งนั้นไม่ได้เป็นอันตรายอะไร แต่เขาก็ไม่อยากให้เธอรู้ เขาอยากจะเก็บมันไว้คนเดียว เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่นวกับเธอและเขาไม่อยากให้เธอพลอยกลุ้มใจไปกับเขาด้วย
“ได้โปรด”เธอขอร้อง และทำตาละห้อย
เขายิ้ม”ก็ได้”เขากล่าว”เธอนี่เป็นตัวจุ้นประจำบ้านเลยนะ”เขาเคลื่อนมาใกล้เธอและพูดคุยกันเหมือนกระซิบ
“ใช่ นายจะว่าฉันอย่างงั้นก็ได้ แต่เรื่องอะไรเหรอ”เธอพูดเหมือนกระหายอยากรู้
“ที่บ้านของฉันเก็บเหล่าบรรดาผู้หญิงไว้ที่หอนอนพวกเธอคิดจะไล่จับฉัน”
เธอมองมาที่เขาอย่างสงสัยก่อนที่เธอจะยิ้มบนใบหน้าและหัวเราะออกมาอย่างยั้งไม่อยู่
"ความเป็นจริงคุณเป็นพวกรักร่วมเพศอย่างงั้นเหรอ ถึงไม่ได้สนใจสาวๆน่ะ "เธอถามและยังคงหัวเราะอยุ่"ดูเหมือนว่าคุณจะวิตกกังวลกับเรื่องนี้นะ ซึ่งฉันดูแล้วคนอย่างมัลฟอยไม่น่าจะหนีผู้หญิงนี่นา "เธอหัวเราะอีกครั้ง
เดรโกยิ้มและยังคงอยู่ในท่าเดิมในขณะที่เธอพยายามที่จะควบคุมการหัวเราะและนั่งอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าของเธอแดงและผมหลุดลุ่ย เขาเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง
”คุณอยากรู้ความจริงเหรอ”เธอพยักหน้าและควบคุมไม่ให้ตัวเองหัวเราะออกมา
”มีนางจิ้งจอกสาวๆอยู่ที่บ้านของฉัน นั่นคือความจริงและเธอพยายามที่จะแต่งงานกับฉัน”
เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้วเล็กน้อย”จริงๆนะเหรอ แล้วมันยุ่งยากตรงไหน คุณเพียงแค่ตอบปฎิเสธก็แค่นั้น ทำไมต้องปิดเป็นความลับมากมายด้วยล่ะ”
เดรโกหัวเราะ "มันก็ไม่ถึงกับเลวร้ายเสียทีเดียวหรอก ก็แค่ผู้หญิง พวกเธอเป็นผู้หญิงเจ้าเสน่ห์มันทำให้ฉันพยายามเลี่ยงพวกเธอ เพราะฉันหวาดกลัวต่อผู้หญิงแบบนี้"เขาพูดและมองเธออย่างรำคาญ"ดังนั้นฉันจึงมาที่นี่เพื่อหลบพวกเธอและแม่ของฉัน ถ้าจะสังเกตให้ดีนะเกรนเจอร์เธอจะเห็นนกฮูกอินทรีตัวใหญ่ส่งมาหาฉันเป็นประจำ นั่นน่ะเป็นนกฮูกจากแม่ของฉันเอง ซึ่งฉันก็มักจะแกล้งทำเมินเฉยต่อมันเสมอๆ"เขากล่าวอย่างเบื่อหน่าย
“พวกเธอไม่ดียังไง”เฮอร์ไมโอนี่ถามรู้สึกโกรธเคืองแทนเด็กผู้หญิงเหล่านั้นที่เดรโกทำเหมือนไม่สนใจพวกเธอ
“ไม่มีอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเธอ ขนาดว่าผู้หญิงที่ดีอย่างแพนซี่ฉันก็ยังไม่สามารถที่จะแต่งงานกับเธอได้ นับประสาอะไรกับคนอื่น”เขาอธิบาย
เธอย่นจมูกของเธอไปที่เขา”ความจริงแล้วผู้หญิงพวกนั้นแทบจะอยู่แทบเท้าของคุณด้วยซ้ำไป ที่คุณวิ่งหนีพวกเธอมาเพราะว่าคุณไม่ต้องการที่จะรู้จักพวกเธอต่างหาก”เฮอร์ไมโอนี่พูดเธอยังคงโกรธเคืองแทนผู้หญิงเหล่านั้นอยู่
"ฉันรู้ว่าคุณโกรธแทนพวกผู้หญิงพวกนั้น"เขากล่าวใบหน้าดูเหมือนสบายใจในขณะที่เขาดื่มเครื่องดื่มของเขารวดเดียวหมด
ความคิดเห็น