คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 8 ความรักเบ่งบาน
ตอนที่ 8 ความรักเบ่งบาน
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะมัลฟอย ปล่อยฉัน” เฮอร์ไมโอนี่สะบัดตัวหนีจากการเกาะกุมที่แน่นหนาของเด็กหนุ่มแต่ก็ยังคงไม่สามารถหลุดออกไปได้
“ไม่ เกรนเจอร์ ขอโทษฉันก่อนสิ”เด็กหนุ่มยังคงดื้อดึง เขากอดเธอไว้แน่นแนบกับอกที่แข็งแรงของเขาจนตัวเธอเองไม่มีทางที่จะหนีไปไหนได้เลย
“ฉันไม่มีวันขอโทษนาย”เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงกร้าว เธอสะบัดหน้าหนีเมื่อพบกับสายตาสีซีดที่เป็นประกายตาเจ้าเล่ร์ของเด็กหนุ่ม
“อย่างนั้นฉันก็ไม่ปล่อยเธอ”เขาโต้กลับในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่พยายามขืนตัวออกจากเขาอยู่ตลอดเวลา
เดรโกเอนตัวเข้าหาเธอใกล้เสียจนเธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของเขาที่ปัดผ่านพวงแก้มของเธอ การที่ได้เห็นปากอันร้ายกาจของเดรโกลอยมาใกล้ๆกับใบหน้าของเธอ ทำให้โทสะของเฮอร์ไมโอนี่คุกกรุ่นเพิ่มมากขึ้น
“ไม่ปล่อย ใช่ไหม “เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับร่างสูงที่มีทีท่าไม่ยอมจำนนให้กับเธอง่ายๆ พลางสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอด”ได้”เพียงคำพูดสั้นๆที่แทบจะไม่มีความหมายอะไรที่ทำให้เดรโกได้ทันรู้ตัว ว่าเด็กสาวในอ้อมแขนของเขาจะทำในสิ่งที่เดรโกคาดไม่ถึง
เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ เธอก้มหน้าลงไปบนบ่าเปลือยเปล่าของเขาแล้วใช้ฟันของเธอขบกัดไปที่บ่าอันแข็งแกร่งของเดรโกในทันที
“โอ้ย เกรนเจอร์ เป็นหมาบ้าหรือไง” เดรโกร้องด้วยเสียงอันดังก่อนจะกระชากตัวเธอดึงออกจากตัวเขาและเหวี่ยงตัวเธอไปบนเตียงนอนอย่างแรง เฮอร์ไมโอนี่ผวาลุกขึ้น แต่ก็ช้ากว่าเดรโก เขากระโจนตามเธอขึ้นไปบนเตียงติดๆและดันตัวเธอจนหงายหลังและใช้ร่างกายของเขาตรึงตัวเธอเอาไว้กับที่นอน เฮอร์ไมนี่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากยิ่งกว่า เมื่อเดรโกสอดมือของเขากับเรือนผมของเธอไว้ในมือและจับศรีษะของเธอให้แหงนเงยและครอบครองริมฝีปากของเธออย่างหนักหน่วง เพียงครู่เดียวที่ความหนักหน่วงจากรสสัมผัสเปลี่ยนเป็นจูบที่อ่อนโยน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเฮอร์ไมโอนี่สติแตกกระเจิงไปแล้วในตอนนี้ เดรโกเลื่อนมือออกมาจากผมของเธอมาประคองที่พวงแก้มเนียนใสนั้นเขาไล้หัวแม่มือไปที่พวงแก้มอย่างทะนุถนอม ก่อนที่จะดึงริมฝีปากของเขาจากเธออย่างแสนเสียดาย
“นาย.....มัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงกล่ำสมองว่างเปล่าเธอสบตาสีซีดนั้นอย่างมึนงง
“ถ้าเธอยังไม่ยอมขอโทษฉัน ฉันจะจูบปากเธอจนกว่าฉันจะพอใจและสาสมกับสิ่งที่เธอกล่าวโทษฉัน”น้ำเสียงของเขากระต้างแต่นัยน์ตากลับเปล่งประกายระยิบระยับ
“แล้วสิ่งที่นายทำไว้กับฉันนายคิดว่านายทำเกินไปหรือเปล่ามัลฟอย” เธอพลาดไปแล้วเสียงเตือนดังขึ้นมาในหัวของเธอในทันทีเมื่อรู้สึกได้ว่าริมฝีปากของเดรโกสัมผัสกับเธออีกครั้ง เขาจูบเธอจนพอใจก่อนจะถามเธอกลับ
“แล้วการที่ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ โดยที่ตัวเธอเต็มไปด้วยคราบสกรปกและกลิ่มเหม็น มันผิดตรงไหน เกรนเจอร์”
“ผิดสิ ก็นายเห็น .... เห็น ....เออ เห็นสิ่งที่ไม่ควรจะเห็น”ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็พูดโพล่งออกมาอย่างอัดอั้นใจ
“เห็น....”เขาเม้มริมฝีปากแน่นครู่หนึ่งอย่างครุ่นคิด จากนั้นจึงผ่อนคลาย และระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจนเด็กสาวตกใจ”ฮ่า ฮ่า ฮ่า เกรนเจอร์ ฉันไม่ได้เห็นอะไรเลย”
“ว่าไงนะ นายโกหก”
เฮอร์ไมโอนี่ออกแรงดันตัวเดรโกออกจากตัวของเธอ ซึ่งเขาเองก็ยินยอมเบี่ยงตัวออกไปตามแรงผลักดันของเธออย่างง่ายๆ แล้วตัวเธอจึงผุดลุกขึ้นนั่งก้มลงจ้องหน้าเขาเขม็ง ในขณะที่เดรโกนอนหงายบนเตียงอย่างสบายใจข้างๆเธอโดยไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
“ก่อนที่ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ ฉันใช้ผ้าคลุมตัวเธอเอาไว้ แล้วสอดมือเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอในผ้าคลุม แล้วทีนี้เธอคิดว่าฉันจะเห็น อะไรต่อมิอะไรของเธอหรือไง เกรนจอร์”
“จริง เหรอ นาย
“แล้วเธอรู้ไหม กว่าฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอได้มันลำบากแค่ไหน แต่เธอกลับกล่าวหาว่าฉันเป็นคนฉวยโอกาส เป็นคนเลวอีก”เดรโกหันมามองเธอ ซึ่งตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ กัดริมฝีปาก....และรู้สึกเหมือนดั่งเธอกำลังจนมุมกับความผิดของตัวเธอเอง
“เออ ...ฉัน ฉัน ขอโทษ มัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่หลบสายตาของเดรโกที่มองจ้องเธอเขม็งก่อนที่จะพึมพำเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะทำให้เขาได้ยินคำขอโทษที่ออกมาจากปากอวบอิ่มสวยงามของเธอ
เดรโกเบือนหน้าหนีไปอีกทางพร้อมซ่อนรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก
“ฉันไม่ยกโทษให้เธอหรอกนะเกรนเจอร์ ยกเว้นแต่..”เขาละคำพูดปริศนาเอาไว้จนเฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นด้วยความหวั่นใจ เฮอร์ไมโอนี่หวนคิดถึงสัมผัสของเดรโกเมื่อสักครู่ที่เขาบรรจงจูบเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทำให้เธออดหน้าแดงอีกครั้งไม่ได้ เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากของเธอเล็กน้อย นี่ เธอกำลังคิดอะไรกัน เธอกำลังคิดถึงรสสัมผัสจากเขาอย่างนั้นเหรอ
โอ้ว ..... เฮอร์ไมโอนี่
เธอรู้สึกร้อนที่สองแก้มและรู้สึกอยากได้เครื่องดื่มเย็นๆ อะไรก็ได้ที่จะทำให้เธอเย็นลง อะไรก็ได้ที่จะทำให้เธอถอนใจ จากเสน่ห์อันเร่าร้อนที่น่าหวาดหวั่น ของเดรโก มัลฟอย
เธอมองเขาอย่างหวาดระแวง ก่อนจะเอ่ยถามเสียงสั่นๆ
“แต่ อะไร” เดรโกชำเลืองมองเธอแล้วอดหัวเราะเบาๆขบขันกับอาการของเธอไม่ได้
“ยกเว้นแต่....เธอจะยอมทำอะไรให้ฉันกินนะซิ เพราะตอนนี้ฉันหิวแล้วนะ“
คำพูดของเดรโกทำให้เฮอร์ไมโอนี่ผ่อนลมหายใจออกมาได้ทันควัน เธอเผลอยิ้ม และหัวเราะออกมาได้ในที่สุด แต่แล้วอะไรบางอย่างก็ทำให้เธอคิดถึงเรื่องของเมื่อวานเรื่องที่ทำให้เธอเมามายขนาดนี้ ภาพของเดรโกและทรีโอน่าที่จูบกันผ่านเข้ามาในหัวเหมือนภาพสไลส์ มันทำให้เธอหยุดหัวเราะได้ในทันที
“ทำไมนายไม่ไปให้ทรีโอน่าทำให้กินล่ะ เขาเป็นแฟนนายไม่ใช่หรือ” เธอเอ่ยเสียงเบาแต่หนักแน่น ทำให้เดรโกหน้าบึ้งเล็กน้อย เขาเบือนหน้าหนี นิ่งเงียบ คิ้วทั้งสมองขมวดเข้าหากัน กรามขบกันแน่น จากนั้นจึงค่อยๆหันมาหาเธอ
“ทรีโอน่าไม่ใช่แฟนฉัน”
“แต่นายจูบกับเธอ”เฮอร์ไมโอนี่พูดไปก็เริ่มรู้สึกถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้น
“ก็แค่ผู้ชายจูบกับผู้หญิง ก็เหมือนผู้ชายทั่วๆไป”เขาพูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน เขาอดรู้สึกผิดต่อทรีโอน่าไม่ได้ที่ทำกับเธอแบบนั้น แต่มันก็ช่วยเหลือไม่ได้ ถ้าเขาไม่พูดความจริงในตอนนี้ทุกอย่างอาจจะสายเกินไป
“อ้อ งั้นก็เหมือนกับที่นายจูบกับฉันหรือผู้หญิงคนอื่นๆสิน่ะ” เธอสูดลมหายใจ น้ำเสียงเพิ่มความกระด้างและห่างเหิน จนเดรโกรู้สึกได้ เขาผุดลุกขึ้นนั่งข้างๆเธอ จนเธอสะดุ้ง เขาเอื้อมมือออกไปสัมผัสใบหน้าของเธอและประคองที่แก้มของเธอเบาๆ ใบหน้าของเธอและเขาห่างกันไม่ถึงคืบสายตาของเขาจ้องมองเธอนิ่งก่อนตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“ไม่เกรนเจอร์ สำหรับเธอ มันแตกต่าง เธอพิเศษสำหรับฉัน”
เฮอร์ไมโอนี่ตกตะลึงไปชั่วครู่พระเจ้า นี่เธอ ฟังผิดไปหรือเปล่า หรือว่าฝันไป ในช่วงเวลานี้ถ้าไม่มีดวงตาสีซีดของ เขาจ้องเธออยู่เธอก็อยากจะลองหยิกตัวเองดูนักว่าสิ่งที่เธอได้ยินเธอคงไม่ได้ประสาทไปเอง
ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วครู่ มีเพียงสายตาของเขาและเธอที่ประสานกันดูระยิบระยับราวมีชีวิตเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากมือของเขา ทำให้เธอได้สติ ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว และสั่นสะท้านจากความร้อนที่แผ่ซ่านมาจากภายใน เฮอร์ไมโอนี่เบือนหน้าหนีออกห่างจากมือของเดรโก เธอพยายามปกปิดความเก้อเขินระหว่างเธอและเขาอย่างรรวดเร็วโดยการที่เธอผุดลุกขึ้นจากที่นอนโดยฉับพลันและเคลื่อนตัวออกไปข้างนอกในทันที จากการกระทำของเธอทำให้เดรโกรู้สึกตกใจจึงอดที่จะเอ่ยปากถามออกไปไม่ได้
“เธอจะไปไหน”
“ก็นายหิวไม่ใช่เหรอ ฉันจะลงไปทำอะไรให้นายกินไง”เฮอร์ไมโอนี่ยืนหันหลังตอบเขาอยู่ที่หน้าประตูโดยที่ไม่ยอมหันมาพูดกับเขาตรงๆเนื่องจากความเก้อเขิน เลยไม่รู้ว่าเดรโกเดินตรงมาอยู่ใกล้ๆเธอแล้วตอนนี้
“รอฉันนะ ฉันจะลงไปช่วยเธอเอง”เดรโกก้มลงกระซิบใส่หูเฮอร์ไมโอนี่และมันก็เพียงพอที่จะทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะอ้าปากตอบแต่เดรโกกลับก้าวเท้ายาวๆเดินออกไปยังห้องน้ำข้างนอกเสียแล้ว
“เกรนเจอร์ฉันว่าตอนนี้รอนนอนหลับอยู่ห้องเธอนะ”เดรโกเดินลงมาในห้องครัว เมื่อเขาแต่งตัวอยู่ในสภาพเรียบร้อยแล้ว
“เธอรู้ได้ไง” เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้วถามออย่างสงสัย เดรโกชูกระดาษโน๊ตเล็กๆแผ่นหนึ่งลอยไปลอยมาอยู่หน้าของเธอ
“เธอคงไม่ได้สังเกตสินะ ไอ้เนี่ยมันแปะอยู่หน้าประตูห้องฉัน”
เฮอร์ไมโอนี่รีบคว้ากระดาษแผ่นนั้นมาอ่านในทันที
เมื่อวานคนที่ร้านบาร์เบียร์วิ่งเอากุญแจห้องของเธอที่ทำตกไว้เอามาให้ฉัน ฉันเลยถือโอกาสนอนห้องเธอเลยนะเฮอร์ไมโอนี่ อ้อ ได้โปรดเมื่อได้รับข้อความนี้แล้วช่วยปลุกฉันหลังเที่ยงด้วย ขอนอนให้เต็มอิ่มหน่อยเถอะ
จากรอนเพื่อนของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่อมยิ้มเมื่ออ่านข้อความในจดหมายของรอนจบ เธอกำลังเป็นห่วงเพื่อนของเธออยู่พอดี
ว่ารอนจะไปนอนที่ไหนเมื่อเธอปักหลักนอนห้องของพวกเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ความคิดของเฮอร์ไมโอนี่ถูกดึงกลับมาหาเดรโกเมื่อเขาพูดชมเธอ
“เธอแต่งตัวแบบนี้ก็ดูน่ารักดีนะ”
เดรโกรู้สึกเขินเมื่อเขาชมเธอ เฮอร์ไมโอนี่อยู่ในเสื้อยืดตัวโคร่งของเดรโกกับกางเกงขาสามส่วนของเขา เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะลงมาในครัวเพราะเธอคิดว่ามันคงจะเรียบร้อยกว่าถ้าจะใส่เสื้อเชิร์ตตัวใหญ่ๆของเดรโกเพียงตัวเดียวลงมาทำอาหารข้างล่าง
เฮอร์ไมโอนี่อมยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาเตรียมเครื่องปรุงต่อไป
“วันนี้ฉันจะทำมะกะโรนีกับชีส ” เธอพูดขึ้นมาลอยๆ
“เมิ่อวานเธอก็ทำมันไปแล้วไม่ใช่เหรอ แถมยังทำได้น่ากินมากอีกด้วย !” เขาครวญคราง พลางนึกถึงอาหารที่เธอทำให้เมื่อวาน
“จะกินหรือไม่กิน! นายมีโอกาสที่จะหยิบบางอย่างและก็เอาไปทำเองได้” เฮอร์ไมโอนี่กระแทกเสียงหน้าตาบูดบึ้ง
“ก็ได้!” เขาพูดเชิงเสียไม่ได้ ถ้าเขาพูดมากเขาอาจจะไม่ได้กินอาหารฝีมือของเด็กสาวแน่
เฮอร์ไมโอนียิ้มกับตัวเองอย่างขำๆ จากนั้นก็มองไปที่ตู้เพื่อหาว่าเธอเก็บมะกะโรนีกับชีสไว้ที่ไหน เมื่อพบแล้วเธอก็อ่านคำแนะนำที่ข้างกล่องอีกครั้งหนึ่งเพื่อกันความผิดพลาดที่จะเกิดอีกรอบ
“แล้วทำไมเธอต้องอ่านคำแนะนำด้วยล่ะ ทั้งๆที่เมื่อวานเธอเองก็ทำมันไปแล้ว?”เดรโกถามอย่างสงสัย เฮอร์ไมโอนีตัวแข็ง แล้วพูดอย่างตะกุกตะกักว่า
“เอ่อ...ฉัน...อืม...ฉัน....”
“โปรดบอกฉันว่า เธอรู้ว่าทำอาหารอย่างไร!” เขาร้องเสียงดังอย่างตกใจ แต่ในใจกลับรู้สึกขบขันกับท่าทางของเธอ
“เอ่อ...ก็ทำได้....แต่ไม่เก่ง” เธอตอบเสียงอ้อมๆแอ้มๆ
“กึ๋ย...!” เดรโกร้องแล้วทำคอย่นเล็กน้อยด้วยท่าทางขยาดๆ
“มันไม่น่ายากเกินกว่าที่คิดหรอก เมื่อวานก็แสดงฝีมือไปแล้วนี่!” เธอตอบ และหวังว่ามันจะเป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ
“ดี! แต่มันจะดีกว่าถ้าเธอทำมันได้โดยไม่ผิดพลาดเหมือนเมื่อครั้งที่แล้วอีก!” เขาพูด
เฮอร์ไมโอนีมองไปที่เขาด้วยสายตาที่เบิกกว้าง เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่! อย่าให้เขารู้เลยว่าเธอกำลังคิดถึงสิ่งนั้น
“อะไร?” เขาถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นเธอมองเขาด้วยตาที่เบิกกว้าง
“ไม่มีอะไร” เธอตอบอย่างรวดเร็ว
“เธอกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่ใช่ไหม?” เขากล่าวหา หรือน่าจะพูดให้ถูกเขาเริ่มสงสัยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพราะเขาเองก็คาดไมถึงว่าเด็กเรียนอย่างเธอจะทำอาหารไม่เป็น
“อย่ามาเสียเวลาในการกล่าวหาฉันเลยน่า เรามาเริ่มทำอาหารกันได้แล้ว! จะเริ่มทำอาหารหรือว่าจะกล่าวหาฉันดีล่ะ? นายต้องการอย่างไหน?” เธอถาม เท้าสะเอวและหันมาทางเขาอย่างหาเรื่อง
“ก็ต้องเป็นอาหารอยู่แล้ว!” เขาตอบอย่างไม่อยากเชื่อ
เฮอร์ไมโอนีกลอกตาไป-มา, พร้อมกับอมยิ้ม เธอนำมันออกมาและใส่น้ำลงไป จากนั้นก็เปิดเตาและวางหม้อที่เตา เธอตั้งเวลาว่ามันควรที่จะใช้เวลาไม่นานนักที่จะทำให้เดือด จากนั้นเธอก็หันกลับไปมองเดรโก
เธอเลิกคิ้วเพื่อมองเขา, และยิ้มเล็กๆที่ริมฝีปาก เขากำลังนั่งอยู่ที่เบาะ โดยท้าวแขนที่เคาเตอร์ ส่วนคางก็อยู่บนมือของเขา เขานั่งมองไปข้างนอกขณะที่มือก็ทำการเคาะที่เคาเตอร์เป็นจังหวะช้าๆ
ทำไมเขาช่างดูน่ารักอย่างนี้ เธอคิดและมองไปที่เขาอย่างเผลอตัว
ใช่....เขาช่างน่าหลงใหล! เธอคิดเสมอว่าผู้หญิงทุกคนที่ฮอร์กวอด..ต่างก็หลงใหลเขา..แต่เธอไม่ชอบเขา! เพราะทั้งเขาและเธอต่างก็เป็นศัตรูกัน แต่ตอนนี้มันกลับเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปจนเธอคาดไม่ถึง ว่าเขาจะมีอีกด้านให้เธอได้เห็น อีกด้านที่ทำให้ใจเธอพยายามจะต่อต้าน แต่กลับพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง ความอ่อนโยนที่มาพร้อมกับความเย็นชาของเขา มันทำให้ป้อมปราการที่แข็งแกร่งของเธอพังทลายอย่างรวดเร็ว
ดับเบิ้ลดอร์ช่างมีความคิดที่ก้าวไกล จนเธอต้องยอมรับว่าสิ่งที่เขาคิดหรือทำ มันเป็นสิ่งที่ทุกคนมองเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับดับบิ้ลดอร์ ทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้
หลายวันมาแล้วที่เธออยู่ที่นี่ เธอได้พัฒนาความรู้สึกที่มีต่อเขาซึ่งเธอไม่สามารถปฏิเสธตัวเธอเองได้ ! เธอชอบดรโก มัลฟอย หรืออาจจะรักเข้าให้แล้วก็ได้ ไม่เช่นนั้นปฏิกิริยาที่ทีต่อเขาเมื่อเห็นเขาจูบกับทรีโอน่าคงไม่รุนแรงขนาดนี้แน่ ความเสียใจ ความเศร้าใจ และความผิดหวังประดังเข้ามายังตัวเธอและมันทำให้เธอได้รู้ถึงจิตใจที่แท้จริงของตัวเอง...แต่ ปัญหามันอยู่ที่ว่า เดรโก มัลฟอย จะรู้สึกกับเธอแบบไหน และตัวเธอจะบอกความในใจกับเขาได้หรือเปล่า
ขณะเดี๋ยวกันอีกด้านหนึ่งของห้อง, เดรโกก็เหมือนกันที่กำลังต่อสู้กับอีกส่วนหนึ่งในใจเขา
เดรโกนั่งฟังเสียงของเธอ มันช่างเป็นน้ำเสียงที่เปิดเผย อบอุ่นและจริงใจ หลายวันมานี้ที่เขาใช้ชีวิตร่วมกับเธอมาทำให้เขาเห็นอีกหลายๆแง่มุมมองของเธอที่เขาไม่คิดว่าจะได้เห็น เธอเป็นคนที่เปิดเผยและทีเด่นชัดที่สุดคือความจริงใจ โดยปกติแล้วเขาเองไม่ใช่คนใส่ใจกับผู้อื่นนักแต่ก็ใช่ว่าเขาจะเป็นคนที่ไร้ความรู้สึกหรอกนะ แต่เขาก็ไม่ชอบที่จะเปิเผยความรู้สึกจากการกระทำของเขาสักเท่าไหร่ เหมือนเช่นตอนนี้ที่เขารู้สึกกับเธอ มันช่างลำบากเหลือเกินกับการที่ต้องแสดงออกอย่างเปืดเผยว่ารักเธอ แล้วตอนนี้เขาควรจะทำยังไงดี
“ครืดดดดด!”
ทั้งเฮอร์ไมโอนีและเดรโกออกจากความคิดทันทีที่ได้ยินเสียงดังครืน เฮอร์ไมโอนี่โยกหัวไป-มา เพื่อออกจากความคิดของเธอจากนั้นก็มองหาว่าเสียงดังนั้นเกิดจากที่ไหน เธอมองไปที่เดรโกและมองไปที่ท้องของเขา และตัวของเขาเองก็ลูบหน้าท้องไปมาอยู่แล้วเช่นกัน
เดรโกรู้สึกได้ว่าสายตาของเฮอร์ไมโอนีมองมาที่เขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกเขินอาย
“อีกนานไหม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“เอ่อ...ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน” เธอตอบ และมองไปที่หม้อน้ำที่กำลังเดือด เธอเห็นว่ามันล้นแล้วจึงรีบวิ่งไปที่เตาและปิดมันซะ
“ ฉันทำทุกอย่างจนกระทั่งตอนนี้โดยที่นายไม่ได้ช่วยเลยแล้วยังจะมาเร่งอีก คนบ้า” เธอพูดและถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ
“แล้วไง?” เขาถามอย่างงงๆไม่เข้าใจว่าเธอต้องการอะไรกันแน่
“นายควรที่จะเรียนรู้การทำอาหารด้วยกัน !”เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเป็นการเป็นงาน
“ทำไมฉันต้องเรียนรู้หรือว่าเธอจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกับฉันล่ะ?”รอยยิ้มของเขาร้ายกาจเมื่อขยับตัวเข้าใกล้เธอ
“เพราะว่า....เพราะว่า...เอ่อ...” เธอตะกุกตะกักแถอยหลังหนีเขา
“ไม่มีเหตุผลเพราะมันเรื่องจริงใช่ม่ะ” เรียวปากของเดรโกเหยียดยิ้มเป็นเส้นตรง
“เงียบน่ะ! แล้วก็มาช่วยฉัน !” เธอตอบอย่างโกรธๆซึ่งมันแฝงความอายซ่อนไว้อยู่ด้วย
“รู้สึกว่าจะมีใครบางคนที่เขินอายเพราะว่าเธอไม่สามารถตอบคำถามได้” เขาพูดเหน็บแหนมและหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ไม่ใช่ฉัน!” เธอพูด และพยายามที่จะทำให้เขาเชื่อในสิ่งที่เธอพูดว่าเป็นความจริง
“งั๊นก็ทำมันเลยซิ!” เขาบอก เมื่อเฮอร์ไมโอนีได้ยิน ที่เขาพูดก็ถลึงตาใส่ทันที
เขาทำเป็นไม่สนใจที่เธอถลึงตาใส่ในสิ่งที่เขาพูด เขาหัวเราะออกมา ทำให้เฮอร์ไมโอนีสงสัยว่าหัวเราะทำไม
“นายหัวเราะอะไร เดรโก?” เธอถามอย่างรู้สึกรำคาญกับเสียงหัวเราะกวนๆของเขา
เดรโกไม่ได้ตอบเธอ เฮอร์ไมโอนีกลอกตาไป-มาและตัดสินใจรอคำตอบจากเขา ที่ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็ผ่านไปแล้วหลายนาทีก็ยังไม่ได้คำตอบ เธอจึงหมดความอดทนจากนั้นก็เดินไปตีเขาที่หัวและหลัง เขาหันกลับไปมองที่เธอ พร้อมกับบ่นว่า
“อะไร?” เขาถามอย่างรู้สึกรำคาญ “เธอก็รู้ว่าที่หัวฉันมีแผลฟกช้ำจากการที่เธอเอาถังตีหัวครั้งที่แล้ว มันยังไม่หายเจ็บเลยนะ!” เขาพูด
“หยุดหัวเราะ แล้วมาช่วยฉัน!” เธอพูดและไม่สนใจคำพูดของเขา
“เธอต้องการให้ฉันช่วยอะไรล่ะ?” เขาถามพลางเดินตามเธอไปที่เตาอย่างไม่มีทางเลี่ยง
“เอามะกะโรนีใส่ลงไป” เธอสั่ง
เดรโกเปิดถุงมะกะโรนีและใส่มันลงไปในหม้อ แต่เขาไม่ระวังจึงทำมันหล่นลงที่พื้นครึ่งหนึ่งแทนที่จะใส่ลงไปในหม้อ
เฮอร์ไมโอนีคำรามด้วยเสียงน่ารำคาญ “เธอทำอะไรเป็นมั่งเนี่ย?”
“เธอถามฉันเหรอ?” เขาถาม “และที่เธอถาม, ฉันคิดว่าฉันสามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้ ถ้าเธออยากพิสูจน์?” เขาถามด้วยน้ำเสียงยั่วยวน
เฮอร์ไมโอนีหลับตาและพยายามที่จะไม่ฟังเสียงของเขา “ใส่ชีสลงไป” เธอพูด
“แต่เมื่อกี๊ เธอบอกให้รอสักครู่”
“ใช่, แต่หนังสือไม่ได้บอกว่าต้องรอนานแค่ไหน ดังนั้นฉันคิดว่ามันน่าจะใช้ได้แล้ว” เฮอร์ไมโอนีตอบ
“โอเค ถ้างั๊นก็ได้” เขาพูดพลางเปิดถุงชีส และใส่มันลงไปในหม้อ
พรึ่บ!
ทั้งเออร์ไมโอนีและเดรโก ทั้งไอและก็ร้องเสียงดังเนื่องจากไอน้ำที่พุ่งขึ้นมาเต็มหน้าของพวกเขา และจากน้ำร้อนที่กระเด็นใส่เขาทั้งคู่
เฮอร์ไมโอนีรีบวิ่งไปที่อ่างน้ำและเอาน้ำเย็นราดที่ตัวเองเพื่อให้ผิวที่โดนน้ำร้อนนั้นเย็นลง ในขณะที่เดรโกคิดว่าเขาถูกไฟไหม้จึงลงไปกลิ้งไป-มาที่พื้น
ทันทีที่เฮอร์ไมโอนีตั้งสติได้ เธอก็หายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้เธอใจเย็น จากนั้นก็มองหาว่าเดรโกไปไหน ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงที่ด้านข้างเตา เธอเดินไปและก็พบว่าเดรโกนั้นกำลังกลิ้งไป-มาและร้องว่า “ฉันยังไม่อยากตายๆ” เฮอร์ไมโอนีเห็นดังนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
เดรโกได้ยินเสียงหัวเราะจึงมองไปที่เฮอร์ไมโอนีซึ่งยืนอยู่ห่างจากศรีษะของเขาเพียงไม่กี่ฟุต เขาคิดว่าอะไรที่ทำให้เธอหัวเราะในขณะที่เขากำลังโดนไฟไหม้ เฮอร์ไมโอนีหยุดหัวเราะและลงไปนั่งที่พื้นข้างๆเขา โดยหลังติดกับตู้
เฮอร์ไมโอนีมองไปที่เดรโก แล้วก็หัวเราะเบาๆเนื่องจากหมดแรงในการหัวเราะไปแล้ว เนื้อตัวของพวกเขาทั้งคู่ต่างเปื้อนมะกะโรนีและชีสเต็มไปหมด
“อาหารที่พวกเราทำนี่ดีจริงๆ” เธอพูดขึ้นเพื่อหยุดความเงียบ
มีเสียงร้องขึ้นจากท้องของเดรโก เขาชี้ไปที่ท้องและพูดขึ้นว่า “ฉันคิดว่ามีเพียงเขาที่ไม่เห็นด้วย”
เฮอร์ไมโอนียิ้มและถอนหายใจพร้อมพูดว่า “ฉันเหนื่อย” ตาของเธอเกือบจะปิดลง เธอเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยเกินที่จะลืมตาไว้ได้ ศรีษะของเธอพิงอยู่ที่ไหล่ของเดรโก
เดรโกเองก็เหนื่อยมากที่จะบ่น เขาปล่อยให้เธอพิงศรีษะที่ไหล่ของเขา ในขณะเดียวกันศรีษะของเขาก็อยู่บนหัวของเธออีกทีหนึ่ง
เวลาผ่านไป.................................................................
เฮอร์ไมโอนีกระพริบตา 2-3 ครั้ง เพื่อลืมตาและพยายามที่จะมองออกไป เธอมองไปข้างหน้าและเธอก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าศรีษะของเธออยู่ที่หน้าอกของเดรโก และหน้าของเธออยู่ใกล้กับหน้าเดรโกห่างกันไม่ถึงนิ้ว
“โว! ฉันไม่น่าตื่นขึ้นมาเลย!” เธอบ่นกับตัวเอง
เธอมองไปรอบๆ แล้วก็พบว่าตอนนี้เธออยู่ในห้องครัว ความจำเมื่อเช้านี้ย้อนกลับมา ว้าว นี้เธอนอนนานแค่ไหนแล้วเนี่ย เธอมองไปรอบๆและก็ต้องแปลกใจว่าห้องครัวได้ถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ต้องเป็นวินนี่และดอบบี๊แน่ๆ เธอคิด จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองเดรโกพบวาเขายังคงหลับอยู่
มันทำให้เธอต้องประหลาดใจว่าตอนที่เขาหลับเขาดูเป็นธรรมชาติและสงบลง เธอยิ้มกับตัวเอง ความคิดเหล่านี้มาจากหัวของเธอและเธอก็พยายามที่จะจดจำว่าเขานอนที่นี่อย่างไรและแบบไหน เธอพบว่ามันยากที่จะคิดสิ่งนี่เกี่ยวกับเดรโก แล้วความคิดของเธอก็กลับมาอยู่ที่การจูบทั้ง ของเขาอีกครั้ง
มันช่างต่างกับบุคคลิกของเขาเหลือเกิน ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เขาจูบเธอมาหลายครั้งแล้วแต่เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเปลี่ยนไปจริงๆ เธอรู้ตัวว่าชอบเขา สีหน้าของเธอสลดลง แต่เธอไม่สามารถหยุดความคิดภายในเธอได้ที่ต่อต้านว่าเธอไม่สามารถชอบเขาได้ มันเป็นสิ่งที่ผิด เพราะเขาคือพวกมัลฟอย! ถึงแม้ว่าเขาจะกลายมาเป็นพวกเดียวกับเธอและคนอื่นๆแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีทางที่เขาจะเปลี่ยนแปลงความรู้สึกเหล่านี้ได้ และเธอเองก็ไม่อยากเจ็บปวดหรือเสียใจ หากต้องบอกความรู้สึกของเธอที่มีออกไปให้เขารู้
มันไม่ปลอดภัย! เมอร์ลินต้องรู้ว่าเธอจะทำอะไร เธอไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน วิคเตอร์ ดรัมเป็นเรื่องราวที่ไม่เหมือนกัน เธอไม่ได้ชอบเขาเหมือนกับคนๆนี้ และเธอก็รู้ว่าหากเธอใกล้ชิดกับเดรโก เธอไม่สามารถที่จะควบคุมใจตัวเองได้ และใจของเธออาจจะนำพาให้เธอทำในสิ่งที่เธอกลัวอยู่ก็ได้
ก่อนที่เธอจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ เธอเอนตัวไปข้างหลังและมองไปที่เขา เธอพบว่าศรีษะของเขาและลมหายใจของเขาอยู่ใกล้ๆหูและคอของเธอ เธอขนลุกและใจของเธอไม่อยู่กับตัว จากนั้นเธอก็มองไปพบว่าแขนของเขาโอบไหล่ของเธอไว้ เธอค่อยๆเคลื่อนตัวออกมาโดยไม่อยากให้เขาตื่น
เธอถูกให้ตอบคำถามจากความคิดของเธอเอง เธอสับสนในตัวเอง เธอรู้สึกอยากจูบเขา เธอมองไปที่ริมฝีปากของเขา แต่ทันใดนั้นก็สลัดความคิดนี้ออกจากหัวของเธอ เธอรู้ว่าใจของเธออาจทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นได้---เธอจึงกลับไปที่ห้องก่อนที่เธอจะทำอะไรลงไป
เฮอร์ไมโอนีเดินไปรอบๆห้อง 2-3 รอบ เพื่อพยายามที่จะทบทวนว่าเธอออกมาอยู่ที่นี่ทำไม เธอรู้ว่าเธอออกมาที่นี่ต้องมีเหตุผล แต่เธอดันลืมไปแล้วว่ามันคือเหตุผลอะไร? เธอหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งและสายตาของเธอก็มองไปเห็นประตูห้องอาบน้ำ อาบน้ำ! ใช่แล้ว เธอคิด แม้ว่าห้องครัวจะถูกทำความสะอาดแล้ว—ขณะที่เธอและเดรโกหลับอยู่--- แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีคราบสกปรกอยู่ที่ตัวเธอ
เธอหยิบเสื้อออกจากตู้ และเดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำ ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนแห้งความบ้าคลั่ง เธอได้มาอยู่ที่นี่ เธอนั่งนับแต่วันที่จะได้ออกไปว่าเหลืออยู่อีกกี่วัน
แต่ตอนนี้ฉันคงสนุกกับเดรโกมากเกินไป จนลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เธอคิด พลางหยิบปฏิทินขึ้นมา โว! ฉันไม่เคยคิดมากก่อนเลยว่าฉันจะพูดประโยคนี้ออกมาในชีวิตฉัน! แต่ความจริงก็คือ เวลาที่เกิดขึ้นที่นี่เธอรู้สึกสนุกจริงๆ คำกล่าวที่ว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขจะผ่านไปเร็วเสมอ เป็นคำกล่าวที่เป็นจริง เธอคิด
เธอสงสัยว่ามันผ่านไปเร็วมาก เธอจะต้องเก็บกระเป๋ากลับ กริมโมลด์ เลขที่ 12 มันไม่มีเวลาที่จะเช็คสำหรับเวลาที่ผ่านไป 2-3 วันนี้ เธอไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ที่เธอจะได้ออกไป เธอดูที่นาฬิกา มันบอกวันที่ 23 พร้อมกับมองไปที่ปฏิทินอย่างไม่แน่ใจ
หนึ่งเดือน!
หนึ่งเดือนเต็ม!
หนึ่งเดือนเต็ม!
ข้อเท็จจริงไม่ได้อยู่ในความคิดของเธอมาก่อน
หนึ่งเดือนผ่านไปแล้ว เธอรู้ว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่มันไม่น่าเร็วขนาดนี้! ในหนึ่งเดือนครึ่ง พวกเขาทั้งคู่ต้องกลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง และก็ต้องลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่ อย่างน้อยเธอก็รู้จักเดรโกดีที่เดียว
ความคิดนี้ทำให้เธอหน้าบึ้ง เธอหวังว่าเขาจะไม่ลืมเรื่องราวเหล่านี้ แต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เธอยังจำเรื่องราวต่างๆได้ดี เช่น การโต้เถียง, การต่อสู้, ความรำคาญ, เวทมนต์คาถา, การเรียกชื่อ, การพูดแดกดัน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะมาที่นี่
พวกเขาทั้งคู่รู้ดีว่าแต่ละคนมีชีวิตที่แตกต่างกันและต้องกลับไปใช้ชีวิตนั้น แต่จริงๆแล้วมันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า? ใช่ เธอยังคงใช้ชีวิตของเธอแต่มันจะไม่เหมือนเดิม ตอนนี้เธอกลายมาเป็นเพื่อนคนๆหนึ่งซึ่งเธอเคยเกลียด
ความคิดเห็น