คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6 เริ่มต้นเกมส์
บทที่ 6 เริ่มต้นเกมส์
“มัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่อุทานเมื่อริมฝีปากอันร้อนระอุของเขาผละห่างออกจากริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ เฮอร์ไมโอนี่หอบหายใจอย่างหนักหน่วง เพื่อรับอากาศเข้าปอดได้อย่างเต็มที่ เฮอร์ไมโอนี่รีบก้าวเท้าถอยห่างออกจากเขาในทันทีแต่ทว่ามือของเขายังคงจับแขนเธอเอาไว้แน่นและดึงตัวเธอกลับเข้ามาในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เฮอร์ไมโอนี่ออกแรงดิ้นรนต่อสู้สุดฤทธิ์ เธอกำกำปั้นทุบอกเขาและเท้าทั้งสองเตะหน้าแข้งเขาไม่ยั้ง เดรโกแทบหลุดเสียงสบถออกมา แต่ก็ยั้งตัวเองได้ทัน ยิ่งเฮอร์ไมโอนี่ดิ้น เดรโกก็ยิ่งรัดตัวเธอแน่นเข้าไปอีก เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับหายใจไม่ออกไปชั่วคราว เธอมืนงง จนทุกอย่างรอบตัวว่างเปล่าไปหมด เมื่อตั้งสติได้ก็ได้แต่สะอื้นด้วยความโกรธและกลัวเมื่อใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยความยโสและจองหองของเขากำลังจ้องมองเธอเขม็ง
“เธอชอบแบบนี้หรือเปล่ายายเลือดสีโคลน”เขากระซิบข้างหูของเธอ “หรือเธอต้องการมากกว่านั้น แบบวิ
ล่า”
“ปล่อยฉัน ไม่งั้นฉันร้องจริงๆด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดขู่ออกมาอย่างแข็งกร้าวแต่มันไม่ได้ทำให้เดรโกสะดุ้งเลยแม้แต่น้อย เขากลับกระชับอ้อมแขนกอดกระหวัดเธอแน่นยิ่งขึ้นและประกาศเสียงห้วน
“ก็เอาสิ ถ้าเธอร้องฉันจะอุดปากของเอด้วยปากของฉันเองและถ้าเธอหายใจไม่ออกตายขึ้นมาอย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน”
เออรืไมโอนี่ผงะไปกับคำพูดของเขา หญิงสาวพยายามบังคับตัวเองให้พูดออกมาได้ยากเต็มทนราวกับว่าปากของเธอถูกปิดผนึกด้วยกาวเวทมนต์
“มัลฟอย นายสนุกมากนักหรือไง ที่คอยตามฉันไปทุกฝีก้าวแบบนี้”
“สนุกสิ การที่ทำให้เธอกลัวมันเป็นความสุขสุดยอดของฉันเลยล่ะ”เสียงช้าๆเนิบๆนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความร้ายกาจของเขามันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นไปทั้งตัวเพียงแค่คิดว่าอะไรอยู่ภายในหัวสมองของเขา แข้งขาของเธอก็อ่อนปวกเปียกขึ้นมาเกินกว่าจะพยุงตัวเองเอาไว้ได้ แต่เดรโกก็ใช้อ้อมแขนของเขาพยุงตัวเธออยู่เช่นกัน
“ขอร้องล่ะเลิกตามตอแยกับฉันเสียที ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่บอกใคร และฉันจะไม่ยุ่งอะไรกับนายอีกไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม”เฮอร์ไมโอนี่อ้อนวอนเสียงเริ่มอ่อนแรง
“นั่นไม่ใช่ประเด็นยาหยี”เขาพึมพำอย่างนุ่มนวลทว่าร้ายแรงดั่งงูพิษ”ประเด็นมันอยู่ที่ว่าฉันสนุกกับเธอพอแล้วหรือยังต่างหาก”
“นายมันไอ้โรคจิต ไอ้หมาบ้า ไอ้เลว ไอ้ชั่ว” เฮอร์ไมโอนี่สติแตกและนั่นมันถือได้ว่าเรียกความสนใจจากเขาได้ดีทีเดียวคิ้วของเขาข้างหนึ่งเลิกสูงขึ้นอย่างเย้ยหยัน
“โว้ โว้”เดรโกทำเสียงในลำคอพร้อมกับปล่อยเสียงหัวเราะเหมือนปีศาจร้ายพ่นใส่หน้าเธอ
“ใจเย็นๆสิที่รัก เรามีเรื่องสนุกให้ทำกันอีกตั้งเยอะ”
เฮอร์ไมโอนี่แทบส่งเสียงกรี๊ดออกมา ถ้าไม่มีเสียงเข้มงวดของ บรรณารักษ์ห้องสมุดมาดามพินซ์พูดขัดขึ้นมาจากทางด้านหลังของเดรโกเสียก่อน
“พวกเธอสองคนมีปัญหากันงั้นเหรอ”หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่ในตอนนี้รู้สึกพองโตด้วยความดีใจจากการปรากฎตัวของบรรณารักษ์ห้องสมุดมันเหมือนว่ามาดามพินซ์เป็นนางฟ้าโบยบินลงมาเพื่อช่วยเธอจากซาตานที่ชั่วร้ายอย่างเดรโกในตอนนี้ เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้ามองผ่านไหล่บึกบึนของเด็กหนุ่มที่ขวางกั้นตัวเธอเอาไว้ในซอกของชั้นหนังสือ และเธอเห็นมาดามพินซ์ยืนสงบนิ่งอยู่ทางด้านหลังของเขาแววตาจ้องเขม็งมาทางพวกเธอทั้งสอง
เดรโกเงยหน้าขึ้นจากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ นัยน์ตาสีเทาที่ลุกโชนของเดรโกจ้องลึกเข้าไปยังดวงตาของเธอเขาคลายแขนออกจากร่างบอบบางของเฮอร์ไมโอนี่ ก่อนที่จะหันกลับมายิ้มอย่างอ่อนโยน ไปที่นางฟ้าอารีย์ของเฮอร์มโอนี่
“ไม่มีอะไรครับมาดาม เมื่อกี้เกรนเจอร์เก็บหนังสือไว้ที่ชั้นบน ขาของเธอสะดุดผมเลยจับตัวเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้ล้มครับ”เขาพูดอย่างสบายๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้าง เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เดรโกแก้ตัว โดยเอาความดีใส่ตัวเองได้อย่างหน้าตาเฉยแบบนั้น
“ทำได้ดีนี่คุณมัลฟอย”มาดามพินซ์พูดและยิ้มอย่างเย็นชาเล็กน้อยให้กับเดรโก มัลฟอย
”เอาล่ะคุณเกรนเจอร์ฉันคิดว่าคุณคงหิวแล้วสินะรีบกลับไปที่ห้องโถงใหญ่สิจ๊ะ”คราวนี้มาดามพินซ์หันกลับมาบอกกับเฮอร์ไมโอนี่เสียงอ่อนโยน เฮอร์ไมโอนี่ลดสายตาลงมองที่ปลายเท้าของเธอ หน้าของเฮอร์ไมโอนี่แดง เธอไม่กล้าสบตากับมาดามพินซ์แล้วในตอนนี้ เนื่องจากความอับอายที่เธอคิดว่ามาดามพินซ์คงเห็นสิ่งที่เดรโกทำไว้กับเธอ มาดามพินซ์ถึงเข้ามาขัดจังหวะเอาไว้เสียก่อน เธออยากเอ่ยปากขอบคุณสักพันครั้งที่ช่วยเธอเอาไว้ แต่จากสายตาของเดรโกที่จ้องมองเธอตลอดเวลามันทำให้เธอไม่สะดวกนักในตอนนี้ เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจที่จะขอบคุณมาดามพินซ์ในวันหลัง เธอโค้งหัวให้มาดามพินซ์เล็กน้อยก่อนเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วออกจากบริเวณนั้น
ในขณะที่เดรโกสาวเท้าเพื่อไล่ตามหลังเฮอร์ไมโอนี่ไปนั้น เสียงแข็งๆของมาดามพินซ์ทำให้เขาต้องหยุดชะงักอยู่กับที่พร้อมรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาที่จางหายไปอย่างรวดเร็ว
“คุณมัลฟอยไหนๆคุณก็อยู่ที่นี่แล้วช่วยอยู่ต่ออีกสักครู่ได้ไหม ฉันอยากรบกวนให้คุณช่วยเก็บหนังสือกองนี้เข้าชั้นให้เป็นระเบียบเสียหน่อยโดยห้ามใช้เวทมนต์เก็บทีละเล่มทีละเล่มจนหมด หลังจากนั้นคุณค่อยไปรัปทานอาหารเย็นได้ ขอบคุณ”
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
เช้านี้เริ่มต้นไม่ค่อยดีนักเนื่องจากเฮอร์ไมโอนี่ตื่นสายเล็กน้อย เฮอร์ไมโอนี่มุ่งหน้าเพื่อไปพบกับแฮร์รี่และรอน พวกเขาเดินไปด้วยกันที่ห้องโถงใหญ่โดยต่างพากันหัวเราะและหยอกล้อซึ่งกันและกัน นี่เป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์หลังจากเกิดเรื่องในห้องสมุดที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกผ่อนคลาย
ในห้องโถงใหญ่ มัลฟอยเหมือนกับมองไม่เห็นเธอเพราะเขามัวแต่ยุ่งคุยอยู่กับเครปและกอยส์ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ตาม มันคงจะเป็นเรื่องสนุกเพราะมีรอยยิ้มแบบโง่ๆปรากฏบนใบหน้าพวกเขา เฮอร์ไมโอนี่ดีใจที่เขาไม่คอยจ้องมองเธอเหมือนที่เขาคอยทำอยู่เสมอ บางทีเขาอาจจะยอมแพ้? มันจะเป็นไปได้เหรอ? อย่างไรก็ตาม เขาทำให้เธอลำบากใจในความตั้งใจของเขา บางทีตอนนี้เขาอาจจะเลิกทำมันแล้วก็ได้ เธอปรบมือให้กับโชคชะตา
มันดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทันทีที่มัลฟอยจบการสนทนากับเครปและกอยส์ วิล่าก็โผล่มาพร้อมกับขนตาปลอมของเธอ เธอกระซิบที่ข้างหูของเขาอย่างเบาๆ ทำให้มัลฟอยยิ้มเล็กน้อย และหันมามองเธอ เขาโน้มตัวลงแล้วกระซิบตอบเธอเบาๆที่ข้างหูเธอ ทำให้วิล่าหน้าแดง
เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างมัลฟอยและวิล่า เชื่อเถอะ เธอไม่อยากจะรู้ด้วยซ้ำ เธอหันหน้าไปทางอื่น เธอรอรอนและแฮร์รี่ โดยไม่มองไปที่โต๊ะสลิธีรินอีกเลย ไม่ว่ามัลฟอยอยากจะทำอะไรกับพวกเอาแต่ใจตัวเองอย่างวิล่ามันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ มันเพิ่งไม่กี่วันมานี้ที่เธอร้องขอให้เค้าเลิกสนใจเธอไม่ใช่เหรอ? ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเธอก็ควรจะดีใจที่เธอสามารถเดินไปทั่วฮอกส์วอตต์โดยไม่ต้องเช็คว่าเขาอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า แล้วความรู้สึกสบายใจหายไปไหนล่ะ?
สองชั่วโมงหลังจากนั้น แฮร์รี่และรอนต่างพากันโยนไม้กวาดไปมาเพื่อโชว์ความสามารถให้ทุกคนที่สนใจจะดูพวกเขาที่สนามควิชดิช เฮอร์ไมโอนี่สังเกตได้ว่ารอนนั้นค่อนข้างเก่ง และกล้ามเนื้อเริ่มที่จะเผยให้เห็นในหุ่นที่เก้งเก้างของเขา ซึ่งมันคงจะเกิดมาจากการที่เขาเล่นควิดดิช เพราะเขาซ้อมหนักมากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งเธอก็ชื่นชมในความพยายามของเขา การแข่งขันควิดดิชนั้นจะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ และทุกคนต่างพากันซุ่มซ้อม
เฮอร์ไมโอนี่เริ่มเบื่อที่ต้องนั่งดู เธอตัดสินใจที่จะไปอ่านหนังสือแทน เธอเดินตรงไปที่ห้องเธอและไปชนเข้ากับสเนปตรงหัวมุม เมื่อสเนปเห็นว่าใครเป็นคนชนเขา ใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็นสีหน้ารำคาญ เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเธอจะต้องโดนบ่นแน่เธอจึงพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง
“มิสเกรนเจอร์ เธอรู้ตัวไหมว่าตอนนี้เธอควรจะอยู่ที่ไหน?” คำพูดชัดถ้อยชัดคำของเขาทำให้เธองง ซึ่งเธอก็แค่ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วทำสีหน้าเฉยๆ ซึ่งมันเป็นการดีที่สุดที่จะทำตัวเป็นคนโง่
“ในฐานะประธานนักเรียนหญิง มันเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องใช้เวลาระหว่าง บ่ายโมงถึงสามโมงกับมิสเตอร์มัลฟอย เธอมีเรื่องเกี่ยวกับนักเรียนที่ต้องปรึกษากัน” สเนปสังเกตเห็นอาการตกใจของเธอ ซึ่งนั่นทำให้เขายิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ดูเหมือนว่าเธอคงจะทำอย่างที่เธอต้องการไม่ได้หรอกนะ มิสเกรนเจอร์ ฉันขอแนะนำให้เธอไปที่ห้องนั่งเล่นรวมของประธานนักเรียนเดี๋ยวนี้เลย” เมื่อพูดจบ สเนปจึงเดินจากไป คำพูดของเขาทำให้เธอตัวสั่นเล็กน้อย สเนปนั้นเป็นคนที่น่ารังเกียจ ใครจะไปรู้ว่าทำไมดัมเบิลดอร์ถึงไว้ใจเขานัก!
เฮอร์ไมโอนี่ปล่อยให้สิ่งที่สเนปบอกกับเธอจมอยู่ในหัวสมอง ใช่ วันนี้เป็นวันประชุมของประธานนักเรียนและพรีเฟ็ค และเธอต้องไปปรึกษากับมัลฟอยเกี่ยวกับเรื่องปัญหากวนใจและเรื่องร้องเรียนของบรรดานักเรียน ซึ่งเธอก็แทบจะลืมไปแล้วและมัลฟอยคงจะไม่สงสัยนักที่ว่าเธอทำไมถึงมาสาย แต่มัลฟอยคงจะไม่ชอบใจสักเท่าไหร่นักหรอก และเขาคงจะยิ่งเกลียดพวกเลือดมนุษย์มากกว่าเก่าที่เคย ที่ทำให้เขาต้องรออย่างนี้
อะไรก็ตาม เมอลินส์ช่วยคุ้มครองฉันด้วยเถอะ เธอคิดอย่างหมดหนทาง จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปที่โซนที่พักของประธานนักเรียนซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยที่จะย่างกรายกลับมานอนที่นี่เลยแม้แต่สักวันหนึ่งและเฮอร์ไมโอนี่ก็มีข้อแก้ตัวกับศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลไว้แล้วสถ้าหากสักวันหนึ่งเขาถามเธอถึงสาเหตุที่เธอไม่เคยเข้ามาพักที่นี้
ความหวั่นวิตกเริ่มลดลงเมื่อเธอคิดได้ว่ามัลฟอยดูเหมือนจะเลิกทำตามคำสัญญาของเขาที่ว่าจะทำให้เธอ “เจ็บปวด” แล้ว
ใครจะไปรู้ บางทีเขาอาจจะไม่ไปก็ได้ เธอคิดระหว่างที่เธอวิ่งขึ้นบันได ดูเหมือนเขาจะยุ่งอยู่กับวิล่าตอนที่เธอเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน เขาคงจะเลือกไปทำธุระกับวิล่าแทนที่จะมาประชุมกับเธอ
แต่ครั้งนี้โชคไม่ได้อยู่ข้างเธอ มัลฟอยนั่งอยู่ที่โซฟาด้านหนึ่งของห้องนั่งเล่น ใบหน้าของเขาแสดงสีหน้าบึ้งตึงเมื่อเธอเดินเข้ามาในห้อง
“เธอไปอยู่ไหนมา!” เขาถามอย่างโมโห พร้อมกับยืนขึ้นเผชิญหน้าเธอ “เธอสายเกินสามสิบนาทีแล้ว ฉันต้องอ่านโน๊ตด้วยตัวฉันเอง”
เขาชี้ไปที่โต๊ะเล็กๆด้านหลังเขา เฮอร์ไมโอนี่เห็นกระดาษกระจัดกระจายอยู่เต็มโต๊ะ เธอรู้สึกคลื่นไส้ มัลฟอยทำทั้งหมดด้วยตัวเขาเองระหว่างที่เธอไปนั่งดูรอนและแฮร์รี่ขว้างลูกควิดดิช
“เดรโก ฉันขอโทษ ฉันลืม! ฉันหมายถึง....ฉันไม่รู้” เฮอร์ไมโอนี่หยุดพูด และบางอย่างปรากฏขึ้นที่ใบหน้าเขา มันดูเหมือนอาการตกใจ เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับผงะถอยหลังเช่นกัน เดรกโกโน้มหัวไปด้านหลังและมองดูเธอด้วยความสงสัย
“งั้น เราสนิทกันจนถึงขั้นเรียกชื่อแรกกันแล้วงั้นเหรอ...เฮอร์ไมโอนี่” ฟันของเขาเปล่งประกายสีขาวที่ดูเหมือนอันตรายเมื่อเขาสังเกตเห็นอาการตกใจของเธอ ให้ตายสิ! เธอเรียกเขาว่าเดรโก! เธอไม่เคยเรียกเขาอย่างนั้น ไม่เคย! อีกทั้งยังไม่มีใครจากสลิธีรินกล้าเรียกชื่อแรกเขาด้วยซ้ำ
“อย่าทำหน้ากลัวไปเลย เฮอร์ไมโอนี่” เขาเรียกชื่อแรกเธออย่างง่ายดาย ซึ่งดูเหมือนว่ามันออกมาจากลิ้นของเขาอย่างง่ายๆ เวลาที่เขาพูดชื่อเธอดูเหมือนว่าเขาจะชอบใจอยู่ไม่น้อย เขาชอบที่จะเห็นเธอกระวนกระวาย
“เธอชอบมองฉันอย่างแปลกๆอยู่เรื่อย เกิดอะไรขึ้นกับยัยแม่มดปากกล้าที่ชอบกวนโมโหฉัน ฉันคิดถึงเธอคนนั้นจริงๆ” เฮอร์ไมโอนี่พบว่าเธอกำลังผงะถอยหลังระหว่างที่เขาก้าวเดินมาข้างหน้าเธออย่างช้าๆ
“ใช่ ฉันคิดถึงผู้หญิงคนนั้น คนที่ชอบร่ายพ่นคำพูดใส่ฉัน เกิดอะไรขึ้นกับเธอคนนั้นงั้นหรือ เฮอร์ไมโอนี่?” เธอพบว่าตัวเธอสั่นจนถอยหลังไปสุดกำแพง ไม่รู้ว่ามันเกิดจากการกลัวหรือดีใจกันแน่
“นายทำอย่างนั้นกับเธอเอง มัลฟอย” น้ำเสียงเธอเหมือนกระซิบ แต่มัลฟอยก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน
“ไม่มีอะไรเคยทำให้เธอหยุดได้มาก่อน เกรนเจอร์ ไม่ว่าฉันจะทรมานเธอ พวกวีสลีย์ หรือไอ้หัวที่มีแผลเป็น มันก็ไม่เคยทำให้เธอหยุด ดังนั้นฉันจึงอยากจะถามเธอ อะไรทำให้เธอเปลี่ยนใจกระทันหันอย่างนี้?”
เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากล่างของเธอ พยายามจะกลั้นอาการสะอื้น เขาอยู่เหนือเธอ แขนทั้งสองของเขากั้นเธอไว้ชิดกำแพง ตอนนี้เธอเหมือนเป็นนักโทษของเขา กลิ่นของเขาและพลังของเขาทำให้เธอไม่สามารถหายใจได้ มันทำให้เธอรู้สึกวิงเวียน เขายังคงรอคำตอบเธออยู่ระหว่างที่เขามองเธอด้วยดวงตาที่เย็นชา เขาอยากจะรู้ว่าทำไมเธอต้องคอยหลบหน้าเขา
“ฉันไม่รู้....”
“โกหก!” เขาตวาดใส่เธอ มือของเขาโอบรอบข้อมือเธอไว้แน่น เขากระแทกข้อมือเธอกับกำแพงเหนือหัวเธอ ทำให้เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เธอทำอย่างนี้เพราะเหตุผลบางอย่าง และฉันก็อยากรู้ว่าทำไม” เฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นความจริงจังในดวงตาเขา และเธอรู้ว่าครั้งนี้เขาไม่ได้แค่ล้อเล่น เธอเล่นอยู่กับน้ำแข็ง และตอนนี้มันกำลังเผาไหม้เธอ
“มัลฟอย ได้โปรด....ฉันไม่รู้จริงๆ! ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูนายกับวิล่า! อากาศมันร้อนและฉันต้องการรับลม! เธอต้องปล่อยมันไป เราไม่สามารถทำอย่างนี้ได้ตลอดทั้งปี!” เธอสั่นไปทั้งตัว เขาจะรับคำตอบนั้นไหม?
เขาถอยหลังเล็กน้อยและศึกษาเธออย่างใกล้ชิด ใครจะไปรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่? ซึ่งเขาใช้เวลาไม่นานในการศึกษาคำพูดของเธอ
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะแอบดูเราอย่างตั้งใจ เกรนเจอร์ เธอสับสนอยู่กับสิ่งที่ถูกและสิ่งที่ผิด และเธอก็รู้ว่าการแอบดูอย่างนั้นมันผิดมากๆ” น้ำเสียงของเขาแข็งขึ้นเรื่อยๆระหว่างที่พูด คำพูดสุดท้ายของเขาทำให้เขายิ้มเยาะๆซึ่งทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความร้อนจากตัวเขา
“แล้วทำไมเธอถึงทำอย่างนี้?” เธอถามอย่างหมดหนทาง และเธอรอคำตอบเขาอย่างร้อนใจ เฮอร์ไมโอนี่ก้าวข้างหน้าไปหาเขาอย่างไม่รู้ตัว
“ถ้าฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วทำไมนายถึงทำร้ายฉัน?” ความกลัวเข้าปกคลุมเธอเมื่อเธอได้ยินเสียงหัวเราะอย่างเยือกเย็นจากมัลฟอย เขาหัวเราะอย่างนี้กับเธอได้อย่างไรกัน? เธอจริงจังอยู่นะ!
“เพราะทำอย่างนี้มันสนุกกว่าน่ะสิ!” เขากระแทกเสียง พร้อมความโกรธที่อัดแน่นอยู่ในคำพูดเขา “เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ผู้ยิ่งใหญ่ มีความปรารถนาในศัตรูตัวฉกาจของเพื่อนเธอ! เธอรู้ไหมว่าสำหรับฉันมันน่าอายแค่ไหน? ตอนที่เธอแนบชิดฉันตอนที่เราจูบกันเธอทำเหมือนกับกระหายมาก เธอต้องการฉันอย่างมาก เหมือนกับที่ฉันต้องการ แต่เธอแค่ไม่ยอมรับมัน ในทางกลับกัน เธอขังตัวเองอยู่ในห้อง หรือไม่ก็อยู่กับเพื่อนๆเธอ เธอคงต้องทำตัวให้เคยชินกับฉันนะเกรนเจอร์ เพราะฉันคงไม่ไปไหนนานหรอก”
จากนั้นริมฝีปากเขาประกบกับเธอเหมือนกับที่เขาทำเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ครั้งนี้เขาจูบเธออย่างรุนแรงซึ่งไม่เหมือนกับครั้งก่อนหน้านี้ที่มันอ่อนโยนกว่านี้ เขาบดขยี้ปากเธอ ดูดปากเธอ เฮอร์ไมโอนี่พยายามจะกรีดร้องแต่แรงมหาศาลของเขาหยุดยั้งเธอไว้
“หยุด!” เธอคิด เริ่มที่จะกระวนกระวาย ครั้งก่อนมันไม่ใช่อย่างนี้ ครั้งนี้มันมีแต่ความป่าเถื่อน
หลังจากนั้นเธอสามารถเคลื่อนไหวแขนขวา เธอยกมือขึ้นอย่างรวดเร็วและอย่างแรงเท่าที่เธอสามารถทำได้ เธอตบเข้าที่แก้มซ้ายของเขาซึ่งทำให้เขาเซถอยหลัง เขาจับที่แก้มเขา หลับตาลง พยายามจะข่มความเจ็บปวดเอาไว้ เธอไม่ได้อยู่ดูว่าเธอทำความเสียหายอะไรให้กับเขาบ้าง เธอวิ่งตรงไปที่ประตูแล้วเปิดประตูออกอย่างแรง เธอรีบวิ่งลงบันไดไปเพื่อให้พ้นจากปีศาจใจดำตนนี้
เธอไม่เคยเห็นมัลฟอยสำรวจตัวเธอด้วยดวงตาที่ดุร้ายอย่างนี้ และเธอไม่เคยเห็นดวงตาเขาที่บ่งบอกว่าการแก้แค้นได้เริ่มขึ้นแล้ว
ความคิดเห็น