คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7 ใกล้ชิดศัตรูมากกว่า (Enemies Closer)
หัวใจที่หลุดลอย (Take My Heart Away) 7 ใกล้ชิดศัตรูมากกว่า (Enemies Closer)
ดัมเบิลดอร์เดินอย่างช้าๆ และกลับเข้าห้องทำงานของเขา เขามักจะไปสอน แบบนี้เป็นประจำทุกวัน อันที่จริงแล้วมันเป็นอะไรที่ดิพพิตมอบหมายให้เขาทำต่างหาก เขาถูกขัดจังหวะโดยเสียงเคาะประตู เขาจัดเสื้อคลุมให้เรียบร้อยแล้วเดินข้ามห้องไปเปิดประตู และต้องแปลกใจทีเดียวเมื่อเขาเห็นสิ่งที่อยู่ด้านนอก
“สวัสดี” เขาเอ่ยกับแม่มดสาวที่กำลังยืนอยู่ด้านนอกห้องทำงาน เธออายุน้อยกว่าเขา คาดว่าคงประมาณยี่สิบต้นๆ เธอมีผมยาวสีดำเหมือนนกอีกาและดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่แหลมคม ไม่มีอะไรใกล้เคียงกับคำว่าสวยงาม ด้วยโหนกแก้มสูงที่ดูยโสและริมฝีปากบางเฉียบ ในเวลานี้ใบหน้าเธอดูเหมือนว่าเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและความหวังเสียมากกว่า
“ศาสตราจารย์อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ใช่ไหมค่ะ? ดิฉันคือ มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบคุณค่ะ” เธอพูดด้วยความนับถือพร้อมกับยิ้มแย้มขณะยื่นมือออกมา ดัมเบิลดอร์จับมือเธอรู้สึกประหลาดใจกับความตื่นเต้นมีชีวิตชีวาของหญิงสาว
“มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล ดีใจมากที่คุณมา ทางกระทรวงคงจะมอบหมายให้คุณมาเป็นผู้ช่วยของผม ถูกต้องไหมครับ?”
เธอพยักหน้าอย่างกระตือรือร้นและแก้มแดงเล็กน้อย “ใช่ค่ะ ศาสตราจารย์ จนกว่าจะมีการเปิดรับทำงานที่โรงเรียนอื่น”
“ไม่จำเป็นต้องเรียกผมว่าศาสตราจารย์ ที่นี่หรอกนะ? คิดดูแล้วผมเกรงว่าเราทั้งคู่มีคุณวุฒิเท่ากัน” ดัมเบิลดอร์ขยิบตาให้ และเธอผงกศีรษะรับ
“ฉันรู้สึกดีใจมากที่ได้ทำงานที่ฮอกวอตส์นี้ ศาสตา...เออ... อัลบัส มันเป็นความฝันของฉันมานานแล้ว และฉันหวังว่าจะอยู่ที่นี่สำหรับข่วงเวลาที่เหลือของชีวิต...”
-------------------------------------------------
เฮอร์ไมโอนี่เข้าห้องเรียนวิชาการปรุงยาอย่างหวั่นๆ เธอคิดเรื่องเกี่ยวกับทอม ริดเดิ้ล บ่อยทีเดียวและมาถึงบทสรุปสั้นๆ ในเวลานี้เธอได้มาอยู่ในปี 1944 เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้เงื่อนงำอะไรแม้แต่น้อยเกี่ยวกับสิ่งที่เธอกำลังจะทำ เธอรู้ว่าเธอต้องฆ่าทอม ริดเดิ้ล ให้ได้ ก่อนที่เขาจะฆ่าเธอ มันดูเหมือนว่าเป็นภารกิจที่ง่ายๆ ยกเว้นสำหรับความจริงที่ว่า เขาอยู่เหนือการคาดหมายของเธอและมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแอบซุ่มโจมตีทอม ดังนั้นเธอจึงได้เริ่มต้นคิดถึงวิธีอื่นในการฆ่าเขา
ให้ความสนิทสนมกับเพื่อนๆ ของคุณ แต่กับศัตรูต้องใกล้ชิดมากกว่า
เธอได้บทสรุปแล้วว่า เธอจะต้องทำบางอย่างที่เป็นไปไม่ได้คือ เป็นมิตรกับทอม ริดเดิ้ล เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมและเขารู้สึกไว้วางใจในตัวเธออย่างเต็มที่แล้วนั้นแหละ เธอจะจู่โจมเขาโดยไม่ให้เขารู้ตัวและเขาจะไม่มีโอกาสได้รู้ว่าความตายกำลังมาเยือน เวลานี้มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ต้องทำ นั่นคือการเป็นเพื่อนกับเขา เธอหัวเราะให้กับตัวเอง
ถ้ามีใครบางคนมาบอกฉันเมื่อเดือนก่อนว่า ฉันควรจะฉวยโอกาสเป็นเพื่อนกับลอร์ดโวล
เดอมอร์แล้วล่ะก็ ฉันคงต้องพาพวกนั้นไปโรงพยาบาลบ้าโดยไม่ต้องมีคำถาม น่าสมเพชจริงๆ
เธอนั่งลงถัดจากเขา “ฉันขอโทษ” เธอกล่าวห้วนๆ และกึ่งเป็นมิตรนิดหน่อย เขามองตรงไปข้างหน้า ไม่รับรู้ว่าเธอกำลังพูดอยู่ “ฉันไม่ควรที่จะ...”
ทอมหันมามองเธอทันที ดวงตาของเขาแข็งกร้าวเต็มไปด้วยอารมณ์ของความโกรธ
“เธอไม่เข้าใจเลยใช่ไหม? ฉันสงสัยว่าเธอคงลืมไปแล้วที่เมื่อคืนฉันบอกเธอว่า ไม่ต้องมาพูดกับฉันอีก ฉันไม่รู้จักเธอและฉันไม่ต้องการทำอะไรร่วมกับเธออีก” เขาพูดจนจบและหันหน้ากลับไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่แม้แต่จะแยแสเธอ
เธอสามารถบอกได้จากน้ำเสียงของเขาว่า เขาหมายความตามนั้นทุกคำพูด
นี่กำลังไปได้ดี! เธอคิดแบบประชดนิดๆ อะไรที่ฉันทำให้เขาเจ็บปวดมากมายขนาดนี้ ? ช่างเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเลย!
เธอแอบส่งสายตามองไปที่เขา เขาไม่ได้ขึ้นเสียงในตอนท้าย ใบหน้าเขาดูนิ่งและเรียบเฉยเหมือนเคย เธอหรี่ตาด้วยความผิดหวัง และความโกรธที่ขึ้นมาเฉยๆ
“แต่ฉันทำบางอย่างให้นายได้นะ?” เธอพูดโดยไม่รอคำตอบจากอีกฝ่ายหนึ่ง และในทันใดนั้นเธอยกมือเล็กๆของเธอตบไปที่ใบหน้าอันยโสของเขาดังสนั่น จนนักเรียนหลายๆคนหันมามองอย่างตกใจ
เขาอ้าปากค้างเหวอ เมื่อมือของเธอกระทบกับแก้มเขา ทอมยกมือแตะรอยตรงที่เธอตบจากนั้นเขาหันมามองเธอ แต้มสีชมพูเข้มค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าซีดๆ ของเขา
“เธอมีปัญหาอะไร? เธอมันน่ารังเกียจ เลือดสีโคลน คนบ้าเจ้าอารมณ์กริฟฟินดอร์!” เขาด่ากราดใส่เธอ อย่างโกรธเกรี้ยว และอยู่ๆขวดปรุงยาบนโต๊ะแตกกระจายทันที ทำให้เฮอร์ไมโอนี่เลอะเทอะเปียกโชกด้วยของเหลวสีเหลืองเหนียวเหนอะ เธอเพียงแค่ยิ้มอย่างเยือกเย็นไปกับความเดือดดาลของเขา
“เธอมันสัตว์ประหลาด” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงน่ากลัว “เธอไม่รู้หรอกว่าฉันสามารถทำอะไรกับเธอบ้างสำหรับการกระทำครั้งนี้”
เยี่ยมมันทำให้เขาไม่ต้องเย็นชากับเธอ และอารมณ์ที่เขาควบคุมมันไม่อยู่ นั่นช่วยไขความลึกลับของนิสัยเขากับเธอ เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างเชื่อมั่น เขามีความรู้สึกตามสภาพปัจจุบันและมันเป็นประโยชน์ที่จะได้รับรู้จากสิ่งนั้น อาจจะไม่ใช่ความรู้สึกที่เป็นมิตรนัก แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีอย่างแน่นอน
“เกิดอะไรขึ้นตรงนั้น?” ศาสตราจารย์อโลนซินร้องเสียงดัง เมื่อเห็นความสกปรกเลอะเทอะ ทอมรีบนั่งตัวตรงทันที
“ผมเสียใจจริงๆ ครับ ศาสตราจารย์ ผม...ชนน้ำยาตกจากโต๊ะโดยไม่ท้นระวัง ผมจะอยู่หลังเลิกเรียนและทำความสะอาดให้เรียบร้อย” เขาเสนออย่างจริงจัง
“ไม่จำเป็นหรอก มิสเตอร์
“ผมจะพยายามระวังให้มากกว่านี้ครับ” ทอมยืนยัน ขณะที่ศาสตราจารย์เดินจากไป
“ช่วยเหลือไม่ได้ คุณทำให้ฉันโกรธเอง” เฮอร์ไมโอนี่บอกทันที เมื่อศาสตราจารย์อยู่ไกลเกินกว่าได้ยินเสียง ทอมไม่ได้มองดูเธอ เขาคว้าผ้าขี้ริ้วและเริ่มต้นเช็ดของเหลวสีเหลืองบนพื้น
เธอไม่อาจซ่อนความประหลาดใจ เมื่อเธอสังเกตเห็นว่าเหล่าบรรดาอาจารณ์รู้สึกอย่างไรกับทอม อา...ไม่เคยมีใครได้เป็นคนโปรดพิเศษของอาจารย์เหมือนกับเขา เธอคิดพร้อมกับยิ้มอย่างมีอารมณ์ขัน
-------------------------------------------------
ทอมเดินลงไปที่ห้องโถงใหญ่ด้วยอารมณ์น่ากลัวราวกับพายุ
ฉันเกลียดเธอ เขาคิดอย่างมีอารมณ์ที่คุกกรุ่น อย่างไรก็ตามเขาชะงักชั่วขณะ ในชีวิตเขาไม่เคยเสียการควบคุมอารมณ์ตัวเองเหมือนกับที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ ความจริงแล้วถ้าเขาไม่ใช้พลังทุกๆ ออนซ์ในการข่มกลั้นตนเองไว้ เขาแน่ใจได้เลยว่าเพดานคงจะถล่มลงมารอบตัวเขาไปนานแล้ว นี่เธอทำอะไรกับเขากันมันถึงทำให้เขาโมโหได้มากมายขนาดนี้?ความจริง เขาเคยโดนโจมตีมาหลายครั้งแล้วและหนักหนามากกว่านี้เสียด้วยช้ำไป แต่เขาก้ยังควบคุมตัวเองได้ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ ตอนนี้
บางทีอาจเป็นความรู้สึกไว้ตัวบนใบหน้าของเธอ หรือการที่เธอหาญกล้าตบหน้าเขาซึ่งไม่มีใครเคยกล้าทำแบบนี้กับเขามาก่อนก็เป็นได้
หรือบางทีการที่ทอมไม่อยากพูดคุยกับเธอในตอนแรก อาจจะเป็นเพราะว่า ทุกสิ่งทุกอย่างแตกต่างไปเมื่อมีเธออยู่ร่วมด้วยและทอมก็เกลียดกับความรู้สึกแบบนี้ เขาใช้ชีวิตเกือบทั้งหมดในการสร้างเกราะปิดกั้นความรู้สึกต่างๆ ของเขา แต่มันกลับหายไปหมดเมื่อเธออยู่ที่นี่ ความรู้สึกต่างๆ ปรากฏขึ้นมาใหม่ซึ่งเขาคิดว่ามันได้ตายไปนานแล้ว ไม่ต้องสงสัยว่าเธอกำลังใช้เวทมนตร์คาถาที่ซับซ้อนบางอย่างทำให้การป้องกันของเขาอ่อนแอลง ยิ่งกว่านั้นเขาไม่ควรเสี่ยงเกี่ยวข้องกับพวกเด็กมักเกิ้ล พวกกริฟฟินดอร์ แบบเธอ
เขาไม่ต้องการพูดกับเธอ และไม่จำเป็นต้องพูดกับเธอ เธอไม่มีผลประโยชน์ใดๆให้แก่เขาฉะนั้นเธอก็ไร้ค่า และนี้คือเหตุผลที่เป็นส่วนหนึ่งที่แข็งแกร่งต่อความคิดของเขาเสมอมา และเหตุผลนี้ดูเหมือนไม่มีจุดด่างพร้อยที่เขาจะปฎิเสธมัน
“ริดเดิ้ล! เฮ้...ริดเดิ้ล!” เขาได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากทางด้านหลัง
ไรออน มัลฟอย ตามมาสบทบกับเขา ดวงตาสีเงินเป็นประกายดูเหมือนกำลังสนุกสนานกับอะไรอยู่ เด็กหนุ่มสองคนต่างก็ไม่ชอบหน้ากันเท่าไร จนกระทั่งจบชั้นปีที่หก ทอมเกลียดความจองหองของมัลฟอย และความจริงที่ว่าเขามีทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตใส่พานมาให้ตั้งแต่เกิด มัลฟอยเองก็ขุ่นเคืองใจกับความจริงที่ว่าเด็กเลือดผสมไร้ค่าคนนี้เก่งกว่าเขาในทุกๆ วิชา แถมยังได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทอมตระหนักว่าเขาไม่ต้องการเป็นศัตรูกับครอบครัวที่มีอำนาจอย่างครอบครัวมัลฟอย และนั่นจึงทำให้เขาได้สร้างสัมพันธ์ชั่วคราวกับไรออน มัลฟอย
“ฉันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในวิชาการปรุงยาวันนี้” เขาพูดช้าๆ น้ำเสียงฟังขัดหูทอม “นางเด็กผู้หญิงเนสโธว์ ตบหน้านายและไม่เบาด้วยสิ นายคงต้องทำอะไรสักอย่างที่ร้ายกาจจึงทำให้หล่อนโกรธมากขนาดนี้ นังเลือดสีโคลนสกปรกนั่น”
การกระทำของฉันมากพอที่ทำให้เธอโกรธอย่างชัดเจน ทอมคิดอย่างเย้ยหยัน แต่กลับพูดว่า “ฉันแค่สบประมาทเธอ เหยียดหยามครอบครัวและสถานะทางสังคมของเธอนิดหน่อย หล่อนก็เลยโกรธ นายรู้ดีนี่ว่าพวกกริฟฟินดอร์เป็นอย่างไร?”
ไรออนพยักหน้าเอาจริงเอาจัง ไม่ปิดบังการถากถางในคำพูดเขา “นายคงไม่ปล่อยเลือดสีโคลนกริฟฟินดอร์ไปเฉยๆ จากการกระทำนี้ ใช่ไหม? มันจะทำให้ชื่อเสียงของนายเสียหาย”
ทอมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักครู่ก่อนพูด “ไม่! อย่างแน่นอน ฉันมีความคิดเกี่ยวกับอุบายน่ากลัวที่จะทำให้เธอถูกไล่ออกต่อหน้าคนทั้งโรงเรียน นายคิดว่านั่นโหดร้ายพอไหม?” ทอมถามเป็นเชิงขบขันและประชดประชัน
“สำหรับบทเรียนที่นังนั่นสมควรได้รับ จากทอมผู้ยิ่งใหญ่ รึ? ไม่เลย” ไรออนบอก พร้อมหัวเราะร่วมกับทอม
“สายแล้วสำหรับวิชาการแปลงร่าง ไว้เจอกันทีหลังมัลฟอย” ทอมพูดสบายๆ พร้อมกับพยักหน้าเป็นการอำลา
ทอมหน้าตาบึ้งตึงขณะเดินจากมา คนโง่ชัดๆ เขาคิดด้วยความเชื่อมั่น สิ่งนี้แสดงให้ทอมรู้ได้ว่าคนโง่ๆอย่างมัลฟอยหรือคนที่เขาชอบน้อยที่สุดอย่างมัลฟอย ยังยอมสวามิภักดิ์ให้เขาอย่างง่ายดาย มันเป็นเครื่องวัดอำนาจของเขาว่า เขาเป็นคนที่น่าหลงใหลแค่ไหน หลังจากเขาลองคิดใคร่ครวญดูแล้วแล้วพบว่าทอม ริดเดิ้ล เป็นคนมีเสน่ห์ เป็นผู้ชายที่น่าหลงใหล หลังจากนั้นก็จะกลายเป็น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้โหดเหี้ยม
มัลฟอยจะเป็นม้ารับใช้ที่ดี พวกเขาทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน
-------------------------------------------------
“ในเยอรมนีมีวีล่า(Veela) มากไหม?” เฮอร์ไมโอนี่ทวนคำถาม ดวงตาเป็นประกายขบขันมองไปยังคริสตอฟ แบล็ก “ฉันคิดว่าคงไม่มากกว่าที่นี่หรอก”
เอ็มม่าซึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้นวมเพื่อทำการบ้าน หัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของคริสตอฟ เขาไม่เคยเจอวีล่าและหวังว่าเฮอร์ไมโอนี่จะรู้จักสักตัวในเยอรมนี
มันอาจจะช่วยได้ถ้าฉันเคยไปอยู่ที่เยอรมนี เฮอร์ไมโอนี่คิดด้วยอารมณ์สนุกสนาน
“ฉันได้ยินว่าพวกเขาเหมือนคนบัลแกเรียนส่วนใหญ่ เป็นไปได้ที่พวกเขาทั้งหมดใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น” เธอสร้างเรื่องขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
สีหน้ายิ้มแย้มของคริสตอฟกลับมาอย่างรวดเร็ว “ฉันเห็นเธอตบหน้าริดเดิ้ลในชั้นเรียนวันนี้ เรื่องราวทั้งหมดมันเป็นมาอย่างไร?”
เอ็มม่าอ้าปากค้าง และมองตรงไปที่เฮอร์ไมโอนี่
“เขาสบประมาทฉันนิดหน่อย ดูถูกครอบครัวและสถานะทางสังคมของฉันเล็กน้อย ฉันก็เลยโกรธขึ้นมา เธอก็รู้ว่าพวกสลิธีรินเป็นอย่างไร?”
คริสตอฟไม่เก็บซ่อนน้ำเสียงถากถางในคำพูด “พวกสลิธีรินเลวทรามน่ารังเกียจ” คริสตอฟพูดด้วยความขยะแขยงชัดเจน
“เออ...” เอ็มม่าแทรกขึ้นอย่างขลาดๆ “เขาเป็นหนึ่งในบรรดาชายหนุ่มหน้าตาดีที่สุดในชั้นเรียนของเรา โอ้...เฮเลนอย่ามองฉันแบบนั้นสิ...นัยน์ตาสีดำเข้มดูลึกลับของเขามันช่างน่า...”
“เอ็มม่า! เธอรู้ไหมว่ากำลังพูดถึงใครอยู่?” คริสตอฟโมโหเดือดทันที “ทอม ริดเดิ้ล หัวหน้าพวกสลิธีริน ปีศาจร้ายผิดธรรมดาทั่วไป”
“ฉันแค่พูดเท่านั้น คริส นอกจากนั้นเธอทำให้ฉันเข้าใจว่าทอมกลายเป็นเจ้าแห่งศาสตร์มืดไปแล้ว! ราวกับว่าฉันไม่รังเกียจชายหนุ่มที่กระทำเกินไป...”
เฮอร์ไมโอนี่เริ่มไม่สบายใจมากกับการสนทนานี้ ยกมือขึ้นเพื่อจะยุติการโต้เถียงนั้น แต่ถูกตัดโอกาสไปด้วยเสียงของคริสตอฟ
“อย่างงั้นถ้าฉันเสกคาถาใส่พวกเด็กมักเกิ้ลไปทั่วแบบไม่มีเหตุผลที่ดีบ้าง เธอจะชอบฉันมากขึ้นกว่านี้! ใช่ไหม?”
เอ็มม่าจ้องเขม็งไปที่เขาอย่างนึกไม่ถึง ก่อนตะโกนเสียงดัง “เธอมันเลวมากเหลือเกิน คริสตอฟ แบล็ก!” เธอถลันออกไปจากห้องด้วยความโกรธอย่างดุเดือด
“ฉันพูดอะไรผิดเหรอ?” คริสตอฟถามเฮอร์ไมโอนี่ เมื่อเอ็มม่าไปไกลไม่ได้ยินแล้ว ก่อนที่จะยิ้มติดตลก
มันเป็นอะไรที่ดูเหมือนรอนกับฉันเลยใช่ไหม? เฮอร์ไมโอนี่คิดขึ้นมาทันที ไม่แปลกใจเลยที่แฮร์รี่จะปวดหัวเมื่ออยู่กับพวกเรา! เธอตระหนักว่าเธอยังคงคิดถึงเด็กหนุ่มทั้งสองคนในช่วงเวลาปัจจุบัน... เป็นความคิดที่น่าเศร้าใจในชีวิตของเธอ นับตั้งแต่พวกเขาทั้งคู่ได้ตายจากไป
“.เธอจะไปดูฉันแข่งจะ.......ได้ไหม?” คริสตอฟพูดจบ
“ฮึ? ขอโทษ” เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดอย่างรวดเร็ว และออกรู้สึกเขินๆที่ไม่ได้ฟังเขาพูด เขากลอกลูกตาไปมาก่อนพูดซ้ำ
“มีการแข่งขันควิดดิชระหว่างสลิธีรินกับกริฟฟินดอร์ เธอจะไปดูฉันหรือไม่?”
คริสตอฟมองเธอด้วยสายตาที่ดูเหมือนเต็มไปด้วยความหวัง
เฮอร์ไมโอนี่หักห้ามใจไม่ให้กลอกลูกตาตัวเอง มีบางสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงไหม? เด็กผู้ชายกับเรื่องกีฬาของเขาเป็นอย่างงี้ทุกสมัย
“ฉันไม่รู้ คริส ฉัน...” เธอชะงักที่จะพูดว่าเธอมีงานเรียนมากมายที่ต้องทำ ยกเว้นความจริงที่ว่าเธอต้องไม่ทำเพราะ เธอไม่ใช่เฮอร์ไมโอนี่ เธอเป็นเฮเลน จำไว้?
“แน่นอน ฉันไปอยู่แล้ว” เธอพูดในที่สุด รอยยิ้มแผ่กระจายไปทั่วใบหน้าเขา น่าประหลาดที่เขาคล้ายคลึงกับซีริอัส แบล๊ค มากแค่ไหน
-------------------------------------------------
“การแข่งขันควิดดิชหรือ?” มิเนอร์ว่าถามดัมเบิลดอร์ ระหว่างที่พวกเขาเดินกลับไปที่ห้องทำงาน “ฉันชื่นชอบกีฬาควิดดิชมากๆ เลย” เธอพูดพร้อมกับแก้มเริ่มค่อยๆ แดงขึ้น
“ผมไม่ค่อยได้เจอผู้หญิงมากนักที่รู้สึกสนุกกับการแข่งขันควิชดิช ท่าทางคุณดูชอบนะ” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างสุภาพ ความคิดของเขาเกี่ยวกับเธองอกงามขึ้นทุกๆ คำที่เธอพูด และความจริงที่ว่าเขาพบเสน่ห์ดึงดูดอย่างล้นเหลือของเธอ
ดัมเบิลดอร์ดูนาฬิกาข้อมือ “ถึงเวลาที่ผมต้องไปสอนบทเรียนส่วนตัวกับนักเรียนคนหนึ่งของผมแล้ว” ดัมเบิลดอร์พูดพร้อมโบกมืออำลา
“ฉันไปด้วยได้ไหม? ฉันเต็มใจช่วย” มิเนอร์ว่าพูดพร้อมดวงตาเป็นประกายสำหรับความท้าทายใหม่
“ผมเกรงว่าคงไม่ได้มิเนอร์ว่า นักเรียนคนนี้เป็น...ยุ่งยาก จะพูดอย่างนั้นก็ได้ บางทีผมอาจจะให้คุณพบเขาในอนาคต?” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างนุ่มนวล กระนั้นในน้ำเสียงก็บอกว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว มิเนอร์ว่าทำหน้านิ่วอย่างใช้ความคิดก่อนจะพยักหน้า
“ฉันจะพบคุณที่สนามแข่งขันควิดดิช” มิเนอร์ว่าตอบอย่างฉลาด สัมผัสความผิดหวังในน้ำเสียงได้ “ฉันคิดว่าฉันจะอยู่ข้างกริฟฟินดอร์”
“การแข่งขันควิดดิช” ดัมเบิลดอร์ตกลงพร้อมกับรอยยิ้ม
-------------------------------------------------
แล้วก็มาถึง เฮอร์ไมโอนี่, มิเนอร์ว่า, คริสตอฟ, ทอม และเอ็มม่า พวกเขาต่างก็มาอยู่ที่สนามควิดดิชในเช้าวันเสาร์เวลา 09.30 น. เป็นยามเช้าที่สวยงามมากในเดือนตุลาคม สายลมพัดผ่านตลอดหมู่แมกไม้นานาอย่างสดชื่น เฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่สูงบนอัฒจรรย์กับเอ็มม่า และพวกกริฟฟินดอร์ชั้นปีที่เจ็ดสองสามคน มันน่าตื่นเต้น ความรู้สึกนี้แพร่กระจายไปในอากาศอย่างที่เกิดขึ้นเสมอในตอนเริ่มต้นการแข่งขัน
“และนี่คือทีมควิดดิชบ้านกริฟฟินดอร์” ผู้ประกาศร้องตะโกน ขณะที่ร่างชุดคลุมสีแดงทั้งเจ็ดเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเข้าสู่สนามและลอยอยู่ในอากาศ
“และทีมบ้านสลิธีริน” ผู้ประกาศร้องตะโกนอีกครั้ง สีเขียวแต้มสีเงินตีลังกาอยู่รอบสนามควิดดิชก่อนที่จะลงสู่พื้น กัปตันทั้งสองทีมจับมือกัน แล้วการแข่งขันก็เริ่มขึ้น
เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองไปที่สองร่างกำลังบินสูงสุดในท้องฟ้า ความเจ็บปวดผ่านเข้ามาในหัวใจเธออย่างฉับพลัน เมื่อคิดว่าหนึ่งในคนเหล่านั้นเป็นแฮร์รี่ อย่างไรก็ตามมีคนหนึ่งมีท่าทางทำให้เธอนึกถึงการบินของแฮร์รี่ เธอหรี่ตามองแต่ก็ไม่สามารถเห็นหน้าตาของเขา เขาเป็นใคร?
การแข่งขันดำเนินไปเรื่อยๆ กริฟฟินดอร์ได้คะแนนนำอยู่จากการรักษาประตูที่เยี่ยมยอดของคริสตอฟ ตอนนี้เหลือแค่เก็บลูกสนิชให้ได้เท่านั้น ทีมกริฟฟินดอร์ก็จะชนะ เอ็มม่ากำลังเชียร์ร่วมกับคนอื่นๆ และทันใดเธอคว้ามือเฮอร์ไมโอนี่แล้วลากเธอผ่านฝูงชน
“เฮเลน! ฉันต้องการเห็นภาพที่ดีกว่านี้!”
เฮอร์ไมโอนี่พบตัวเองกำลังยืนอยู่บนระเบียงในอัฒจรรย์ระดับความสูง 30 เมตรของเสาประตู และสามารถมองเห็นการแข่งขันชัดเจนกว่าเมื่อก่อนนี้ เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตาเพ่งมองหาและตอนนี้เห็นซีกเกอร์สองคนชัดเจนขึ้น
ดวงตาเอ็มม่าตรึงแน่นอยู่ที่คริสตอฟ และสีหน้าท่าทางเปลี่ยนแปลงไปตามทุกอย่างที่เขาทำ ดังนั้นเด็กสาวทั้งสองคนจึงไม่เห็นไรออน มัลฟอย ที่หยุดไม้กวาดของเขานิดเดียวกำลังมองอย่างมุ่งร้ายไปที่เฮอร์ไมโอนี่ เธอกำลังพยายามอย่างเต็มที่มองดูบางอย่างที่อยู่ไกลเหนือตัวเธอขึ้นไป ยืนเขย่งอยู่บนสุดปลายเท้ายากแก่การทรงตัว เพียงแค่การผลักเบาๆเธอก็อาจจะตกลงไปได้...
ทันใดลูกบลัดเจอร์พุ่งตรงมาที่มัลฟอย เขาจับไม้ตีไว้ในมือและตีลูกบอลออกไปอย่างเต็มแรงตรงไปที่เฮอร์ไมโอนี่
และในขณะเดียวกันเฮอร์ไมโอนี่กำลังครุ่นคิดถึงผู้เล่นบางคนที่เหมือนแฮร์รี่
ฉันรู้แล้วว่าเป็นใคร? เฮอร์ไมโอนี่คิดได้ในที่สุด นั่นคือ..........................................................
แต่ความคิดของเธอถูกขัดจังหวะด้วยบางสิ่งที่ฟาดใส่เธอทางด้านหลัง และส่งให้เธอล้มคว่ำเหนือขอบระเบียง
“เฮเลน!” เธอได้ยินเสียงตะโกนของเอ็มม่า แต่ความเจ็บปวดที่จู่โจมเธอกำลังเริ่มขึ้น และเฮอร์ไมโอนี่คิดไม่ออกว่าเอ็มม่ากำลังตะโกนเรียกชื่อปลอมของเธอ เฮเลนเป็นใคร? เธอคิดอย่างเลื่อนลอยและเธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังกรีดเสียงร้อง เสียงกรีดร้องดังมากจนกลบเสียงของผู้ประกาศการแข่งขัน
จากนั้นเธอรู้สึกถึงแขนแข็งแรงรัดรอบตัวเธอ รู้สึกถึงความแข็งแกร่งของแผ่นอกที่ด้านหลังของเธอ และความคิดเลือนรางเกี่ยวกับการกระแทกโครมลงสู่พื้นดิน แล้วในที่สุดเธอก็หมดสติไป
TBC......................
ความคิดเห็น