ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fic แปล Heart of Ice (เดร/เฮอร์)

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7:Innate Qualities

    • อัปเดตล่าสุด 9 ม.ค. 53


    Chapter 7: Innate Qualities

     

    ดัมเบิลเดอร์นำทางพวกเขาเดินผ่านปราสาทไปอย่างเงียบๆ ขึ้นไปบนชั้นสี่ จนกระทั่งพวกเขาเข้ามาถึงรูปภาพชายสองคน และหญิงสองคนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ

    “เรามากันแล้ว!” ดับเบิลดอร์พูดอย่างมีความสุข เฮอร์ไมโอนี่ชะโงกหน้าเล็กน้อยเพื่อมองภาพวาดอย่างถนัดถนี่ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่า พวกเขาช่างดูคุ้นเคยเหมือนเคยเห็นจากที่หนึ่งที่ใดมาก่อน แต่...จากที่ไหนกันนะ เฮอร์ไมโอนี่กำลังครุ่นคิดจวบจนกระทั่ง เด็กชายผมบลอนส์ศัตรูของเธอเอ่ยเสียงใสทักทายรูปภาพนั้น

                “สวัสดีครับท่านผู้ก่อตั้ง” เดรโกพูดขึ้นหลังจากหยุดเดิน เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองเขาอย่างงุนงง

                “ท่านผู้ก่อตั้งเหรอ ” เธอถามโดยแสดงความ ไม่พอใจที่เขารู้ในสิ่งที่เธอไม่รู้ เดรโกเลื่อนสายตากลับไปจ้องมองเธออย่างดูหมิ่นเล็กน้อย

                “สำหรับใครบางคนที่ดูเหมือนว่าจะฉลาดเขาหรี่ตามองเธอและกล่าวข่มเธออีกครั้ง เธอโง่ใช้ได้เลยจริงๆเกรนเจอร์ เห็นๆอยู่ว่าพวกเขาคือผู้ก่อตั้ง ยังไม่รู้อีก”

                ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะทันได้โต้กลับไปผู้หญิงผมยาวเส้นตรงสีน้ำตาลพูดปลอบใจเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาเสียก่อน

                “เอาล่ะ เอาล่ะ ที่รัก อย่าวิตกไปเลย ฉันแน่ใจว่า แม่หนูคนนี้คงจะนึกออกในไม่ช้านี่แน่นอน” เ ธอหันมาหาเฮอร์ไมโอนี่พร้อมยิ้มให้อย่างเอ็นดู

                “ฉันบอกได้เลยว่าเธอเป็นคนที่ฉลาด เธอมาจากเรเวนคลอใช่ไหม จ๊ะ”

                “ไม่ใช่ค่ะ หนูมาจากกริฟฟินเดอร์” เฮอร์ไมโอนี่พูดปฎิเสธโดยเร็ว และรู้สึกประหม่าอย่างเห็นได้ชัดเพราะเธอกำลังพูดกับผู้หญิงแสนสวยซึ่งก็คือ โรวี่น่า เรเวนคลอ และมันทำให้ชายหัวแดงที่ยืนอยู่ข้างๆชายรูปหล่อร้อง อะฮ้า!ด้วยเสียงอันดัง  ด้วยความพออกพอใจ และ เฮอร์ไมโอนี่ก็เข้าใจด้วยตัวเองว่าเขาคือ ก็อดดริก กริฟฟินเดอร์ ผู้ก่อตั้งบ้านของเธอเอง

                “แล้วเธอล่ะ พ่อหนุ่มผู้หล่อเหลาของฉัน” ผู้หญิงผมแดงค่อนข้างบึกบึนมีกระบนหน้าจำนวนมากถาม นั่นทำให้เดรโกยิ้มให้กับคำชมอย่างพอใจ

                “ผมชื่อเดรโก มัลฟอย ครับ ท่านผู้ก่อตั้งฮัฟเฟิลพัฟ และผมมาจากสลิธีริน” เขาตอบเรียบๆแต่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจมันทำให้หัวหน้าหญิงบ้านกริฟฟินดอร์อยากจะอาเจียนตาม

    เธอทำหน้าเบ้ใส่เดรโกพาลนึกระอาคนข้างๆอย่างหงุดหงิด 

    อี้! เขากำลังทำให้ผู้ก่อตั้งโรงเรียนคิดว่าเขาคือผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้าเหรอเนี่ย

                “อ้า เยี่ยม!” ชายผมดำใบหน้าหล่อเหลา มีดวงตาสีฟ้าอ่อนสดใสพูดขึ้น เฮอร์ไมโอนี่กระพริบตา ชายหน้าตาดีที่โกนหนวดเคราสะอาดแล้วเป็นใครกันนะ

                “คุณคือ ซัลลาซา สลิธีรินเหรอค่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่ถามตรงๆ ทุกคนมองไปที่เธอ และขำกับคำถามอันไร้เดียงสาของเธอ   เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าหน้าของเธอแดงจนร้อนฉ่า

                “ขอโทษค่ะ ถ้าหนูดูเหมือนไร้มารยาท แต่หนูเคยเห็นรูปปั้น และภาพวาดของคุณแล้ว แต่มันไม่เหมือนกับคุณในตอนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ”

                “สิ่งที่เกรนเจอร์กำลังพูดถึงคือ คุณดูดีมากกว่าภาพเหมือนของคุณน่ะครับเดรโกกล่าวชมผู้ก่อตั้งบ้านของตนเอง ต่อจากนั้นจึงหันมาถามเฮอร์ไมโอนี่อย่างสงสัยพลางแสยะยิ้มและยักคิ้วให้

      ทำไมเหรอ เกรนเจอร์มันดีที่เห็นว่าพวกเราผู้ชายบ้านสลิธีรินดูดีเสมอไม่ว่าจะยังไง ยังงั้น ใช่ไหม”  เดรโกถาม แต่เฮอร์ไมโอนี่อยากอ้วก!ใส่เขาเสียมากกว่า

    เชอะ!ไปบอกแครบกับกอยล์เถอะ!” เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างร้ายกาจ  ผู้ก่อตั้งสลิธีรินหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นภาพเด็กหนุ่มและเด็กสาวตรงหน้าที่ดูท่าทางจะไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่

                “รูปภาพ และรูปปั้นพวกนั้นไม่ใช่ฉันจริงๆ หรอกนะแม่หนูพวกมันเป็นเพื่อนของฉันเอง”

                “อ้าว ทำไมคุณทำแบบนั้นละครับ” เดรโกอุทานและถามด้วยความงุนงง

                “ฉันติดหนี้บุญคุณของพวกเขา...บางอย่างน่ะ และพวกเธอคงไม่อยากรู้หรอกว่าเรื่องอะไร” เดรโกดูเหมือนจะพยายามยอมรับเรื่องนี้เขานิ่งเฉยไปชั่วขณะ ในขณะที่มันกลับสร้างความประหลาดใจให้กับเฮอร์ไมโอนี่เป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเมื่อได้ยินเสียงผู้ก่อตั้งบ้านกริฟฟินดอร์กระแอมเบาๆแต่ได้ยินกันไปทั่ว

    “อะแฮ่ม ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแทรกหรอกนะ แต่บางทีพวกเธอทั้งสองควรจะทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ไม่ใช่เหรอ” กริฟฟินเดอร์ถามอย่างสุภาพ

                “ถูกของคุณ ลอร์ดกริฟฟินเดอร์! ถึงเวลาแล้ว เดรโก เฮอร์ไมโอนี่ พวกเธออยากได้รหัสผ่านเป็นอะไรล่ะ” ดัมเบิลเดอร์ถาม เดรโกจ้องไปที่เฮอร์ไมโอนี่ และยักไหล่   ในที่สุดก็อึกอักไม่ยอมพูดอะไรในทันที 

    “เอาล่ะพวกเธอมีอะไรคล้ายกันบ้าง” ผู้ก่อตั้งบ้านเรเวคอลแหย่ สายตาของพวกเขาและเธอหลายคู่สื่อความหมายบางอย่าง เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างหนักแต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้  ผู้ก่อตั้งโรงเรียนทั้ง 4 ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างอดไม่อยู่

                “โอ้ ที่รัก นี่จะเป็นหัวหน้านักเรียนชายหญิงที่น่าสนใจในปีนี้อย่างแน่นอน!” เฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟหัวเราะคิกคัก เดรโกถลึงตาใส่เธอ ด้วยความไม่พอใจ

    “มันไม่ใช่ความผิดของพวกเรานี่ฮะที่เราไม่มีอะไรเหมือนกันเลย” เดรโกรีบตอบกลับไป  ผู้ก่อตั้งสลิธีรินยิ้มให้เดรโกอย่างชื่นชม

    “เขาเป็นหนึ่งในพวกคุณอย่างแจ่มแจ้งซัลลาซาร์” โรวีน่าหัวเราะ สลิธีรินยิ้มให้เธอ และ จูบลงบนมือของเธอเบาๆ

    “และคุณชอบเขาซะแล้ว ผมน้อยใจนะ” เขาหยอกเย้ากลับหญิงสาวสวยผมแดงผู้ก่อตั้งบ้านเรเวคอล

     เฮอร์ไมโอนี่หน้ามุ่ย และพยายามคิด โอ้พระเจ้า! สลิธีริน กับ เรเวนคลอเป็นไปไม่ได้...  ไม่มีทาง! ฉันไม่อยากจะเห็นอีก  คิดซิเฮอร์ไมโอนี่   คิด!  อะไรที่เรามีเหมือนกัน?และแล้วคำตอบก็ผุดขึ้นมายังหัวของเธอ

    “ฮอกวอตส์!” เธอตะโกนพร้อมกับที่เดรโกเองก็ตะโกนพูดคำเดียวกับเธอพอดี

    ดัมเบิลเดอร์ มองพวกเขาด้วยความขบขันที่เก็บซ่อนไว้ ในขณะที่เดรโก และเฮอร์ไมโอนี่แลกเปลี่ยนสายตาที่แสดงถึงความเกลียดชังกันและกันอย่างชัดแจ้ง  เดรโกคืนสติได้โดยเร็ว เขาสะดุ้งด้วยความตกใจ และพูดต่อ

    “เพียงสิ่งเดียวที่เรามีเหมือนกันคือ การที่พวกเราทั้งคู่อยู่ฮอกวอตส์”

    ใช่ค่ะ มีแค่สิ่งนี้สิ่งเดียวเท่านั้น เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดเหมือนกลัวว่าจะไม่ได้พูดออกมาอีกแล้วและพวกเขาก็ส่งสายตาที่ไม่เป็นมิตรให้กันต่อไปอย่างเอาเป็นเอาตาย

    ชั่วขณะหนึ่ง ดัมเบิลเดอร์ฉุกคิดว่าพวกเขาเหมือนกันอย่างชัดเจนมากกว่าที่คิด และเขาคงต้องรอให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากกว่านี้

    “ดีล่ะ ถ้าเช่นนั้น ก็ฮอกวอตส์” โรวีน่าพูด ขยิบตาให้ดัมเบิลเดอร์ เห็นได้ชัดว่าเธอสังเกตเห็นความคล้ายคลึงของพวกเขาทั้งคู่เหมือนกับที่ดัมเบิลดอร์เห็น  

    ดับเบิลดอร์คิดว่าในฐานะที่เขาเป็นอาจารย์ใหญ่ เขาควรตำหนิเดรโกเพราะความหยาบคายของเขาหลายครั้งในปีที่ผ่านๆมา แต่คาดไม่ถึงว่าเดรโก มัลฟอย จะประพฤติตัวแตกต่างจากปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าเขาจะยังคงดื้อรั้นและเย่อหยิ่งบ้างในบางครั้งก็เถอะ แต่นั่นมันเป็นนิสัยของเขาที่ติดตัวมาตั้งแต่เล็กคงเป็นการยากที่จะให้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด และอีกประการที่สำคัญจากเหตุการณ์ที่ มัลฟอยเอาตัวรอด จากการถูกอบรมสั่งสอนที่ผิดๆที่ได้รับมาจากพ่อของเขามาตลอดรวมทั้งยังต่อต้านเจ้าแห่งศาสตร์มืดด้วยแล้ว อย่างน้อยที่สุดในตอนนี้ดับเบิลดอร์เองก็เต็มใจที่จะยอมให้มัลฟอยปลดปล่อยความขมขื่นออกมาได้บ้างเล็กน้อยง   ดัมเบิลเดอร์คิดอย่างเงียบๆเราจะพยายามกับเขาต่อไป

     ภาพวาดเปิดออก และมันดึงดับเบิลดอร์ออกจากความคิดทั้งหมด และทั้งสามคนก็เข้าไป....ยังภายใน ในเวลาต่อมา

     

    ++++++++++++++++

                ห้องนั่งเล่นรวมของหัวหน้านักเรียนชายและหญิง  พูดง่ายๆคือมันน่าทึ่ง  ในห้องถูกประดับประดาด้วยพรมสีเขียวหนานุ่ม และเห็นได้ชัดว่าร่ายมนตร์ไว้เพื่อให้มีความอบอุ่น  กำแพงต่างๆถูกตบแต่งด้วยไม้จนไปถึงครึ่งห้องซึ่งถูกระบายด้วยสีแดงเข้ม กำแพงด้านหนึ่งมีหน้าต่างบานมหึมา 2 บาน หันหน้าสู่ทะเลสาบ  พร้อมด้วยผ้าม่านผืนหนาสีเขียวเข้มสลับทองทำให้มันสวยงามครบสมบรูณ์  ระหว่างหน้าต่างสองบานนั้นมีตู้หนังสือไม้ ที่บรรจุหนังสืออยู่เต็มตู้ ซึ่งร่ำร้องให้เปิดอ่าน  ที่ว่างตรงหน้าชั้นหนังสือเป็นโต๊ะกลมขนาดใหญ่มีเก้าอี้ด้านละ 1 ตัว เฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นว่ามันเป็นโต๊ะเพียงตัวเดียวในห้อง  เห็นได้ชัดว่าเธอกับเดรโกต้องทำงานด้วยกัน  กำแพงด้านตรงข้ามมีเตาผิงหินขนาดใหญ่จุดไฟไว้แล้ว และความอบอุ่นกระจายไปทั่วห้องในทุกๆด้าน   เหนือขึ้นไปคือตราสีเงิน ทอง ซึ่งมีลวดลายของสิงโตและงู  ในตอนนี้ปรากฏให้เห็นว่าสิงโตและงูบนตรากำลังหลับอยู่  ตรงข้ามกับเตาผิง     ทางด้านซ้ายคือเก้าอี้โซฟาสีเขียวอ่อน และ ทางขวาคือเก้าอี้สีแดง  โต๊ะกาแฟทำมาจากไม้ตัวยาวตั้งอยู่ตรงหน้าเก้าอี้ทั้ง 2 ตัว

                “ศาสตร์จารย์ค่ะ มันช่างยอดเยี่ยม!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเสียงแหลม ดัมเบิลเดอร์ยิ้มอย่างอบอุ่นให้เธอ

                “ฉันดีใจที่เธอชอบ คุณเกรนเจอร์  แล้วเธอล่ะ มัลฟอย  เธอคิดว่าเป็นยังไงบ้าง” ทั้งเฮอร์ไมโอนี่ และอาจารย์ใหญ่อยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไร เพราะเขาเติบโตมาอย่างมั่งคั่ง  เขาหมุนไปโดยรอบอย่างช้าๆ ไปยังทุกๆด้านของห้องและสำรวจทุกอย่างไปทั่วห้อง พลางพยักหน้าอย่างพอใจกับมัน

                “คุณรู้ไหม ผมจะทำให้คนมากมายในฮอกวอตส์ อิจฉาผมได้เลย เพียงแค่ผมสาธยายห้องนี้ให้พวกขาฟัง”

                “ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างนายจะยอมรับว่าชอบอะไรได้!” เธอพูดเยาะเย้ยเขาพลางมองอย่างดูแคลน เดรโกส่งสายตามุ่งร้ายไปยังเธอ แต่เธอกลับไม่สนใจและแกล้งทำเป็นมองไปทางอื่นโดยเร็ว

                “เอาล่ะ  ฉันแน่ใจว่าคุณมัลฟอย ยอมรับอะไรได้ถ้าเขาอยากจะทำ” ดัมเบิลเดอร์พูดขึ้นมายิ้มๆ  หางตาเกิดรอยยับย่นด้วยความร่าเริงใจ ในขณะที่เดรโกคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้

                “โอ้! แต่เธอต้องรู้นะเกรนเจอร์ ปัญหาเดียวของฉันที่มีกับห้องนี้คือ ความพยายามรวมสีบ้านที่ทำให้มันดูเหมือนคริสต์มาสจนเกินไป  นี่ฉันว่าจะไม่พูดแล้วเชียวนะ เฮอร์ไมโอนี่หน้าบึ้ง และเกือบจะโต้ตอบกลับไป   ดัมเบิลเดอร์รับรู้ได้ถึงความคิดจริงๆของเดรโก เขาจึงตัดสินใจที่จะวางเฉยต่อความเห็น และเปลี่ยนเรื่อง

                “เอาล่ะ” เขาพูดเสียงดัง เกินกว่าความจำเป็นเล็กน้อย เพื่อให้พวกเด็กๆรู้ตัว เราจะนั่งลงสักครู่ได้ไหม ฉันอยากจะลองนั่งเก้าอี้โซฟาสักตัวจะแย่แล้ว

                “แน่นอนค่ะ ศาสตราจารย์” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ  ขมวดคิ้วไม่พอใจใส่เดรโกในขณะที่เธอเดินตรงไปยังโซฟาสีแดง  ทุกๆคนประหลาดใจ และพึงพอใจที่โซฟาดูเหมือนทำให้ทั้งร่างกายผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

                “เพราะเวทมนตร์เหรอครับ ศาสตร์จารย์” เดรโกถาม  เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างสงสัย

                “ใช่แล้ว เดรโก โซฟาร่ายเวทมนตร์เพื่อทำให้เธอรู้สึกสบาย และพรมถูกร่ายเวทมนตร์เพื่อทำให้เธออบอุ่น  ประตูที่อยู่บนกำแพงทางซ้ายจะนำไปสู่ห้องน้ำซึ่งโอ่อ่าทีเดียว  ฉันกล้าพูดได้เลย   และห้องน้ำจะทำความสะอาดตัวเอง  จะมีน้ำอุ่นอยู่ตลอดเวลา  ส่วนประตูในแต่ละด้านของเตาผิงจะนำไปสู่ห้องของเธอแต่ละคน  มีอะไรจะถามอีกไหมเกี่ยวกับที่พักใหม่ของเธอ”

                “มีเส้นทางลัดไปยังห้องนั่งเล่นรวม และห้องโถงใหญ่หรือเปล่าค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

                “ห้องนั่งเล่นของเธอทั้งสองมีทางเข้าไปสู่ห้องนั่งเล่นรวม แต่ฉันเกรงว่าพวกเธอจะต้องเดินไปห้องโถงใหญ่เอาเอง” เฮอร์ไมโอนี่ผงกหัว 

    “ดังนั้น ฉันมีกฎพื้นฐาน 2-3 ข้อที่พวกเธอต้องปฏิบัติ  ข้อแรก ฉันเชื่อว่าในฐานะหัวหน้านักเรียนชาย และหญิงพวกเธอจะสามารถเป็นตัวอย่างให้แก่นักเรียนทุกคนที่นี่  นั่นหมายถึงว่าจะไม่มีการทะเลาะกัน...โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างพวกเธอ 2 คน” เดรโก และเฮอร์ไมโอนี่จ้องกันและกันอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่มีใครคิดที่จะยอมลงให้กันก่อน

    “อะแฮ่ม!  ถ้าพวกเธอจำเป็นต้องทะเลาะกันจริงๆ ขอร้องละกัน อย่าทำให้พวกนักเรียนเห็น” ดัมเบิลเดอร์สูดลมหายใจยาวๆ เฮือกหนึ่งเพื่ออดกลั้นไม่ให้ตัวเองหัวเราะกับภาพเด็กทั้งสองยื่นหน้าจ้องกันเหมือนรอจังหวะทำสงครามย่อยๆใส่กัน

    “ข้อสอง เวลาที่ลงโทษ หรือให้รางวัลแก่พวกนักเรียน  พวกเธอต้องทำอย่างยุติธรรม และ ไม่มีอคติ  หน้าที่รับผิดชอบของพวกเธอในปีนี้รวมไปถึงการจัดการประชุมพรีเฟ็ค และชี้นำพวกเขา พวกเธอมีหน้าที่ที่จะต้องทำ อย่างแน่ใจว่าโอกาสพิเศษต่างๆ   การเดินทางพิเศษ   การเต้นรำ จะดำเนินไปได้ดีและปลอดภัยภายในปราสาทฮอกว๊อกส์”

                “ไม่มีปัญหาครับ ศาสตราจารย์” เดรโกพูดเรียบๆ 

                “เกรนเจอร์ล่ะ” เดรโกถาม ท้าทายให้เธออกความคิดเห็น เธอจ้องไปที่เขา

                “ฟังดูดีสำหรับฉันเลย ไม่มีปัญหามัลฟอย”เธอตอบกลับอย่างท้าทายเช่นกัน

                “ยอดเยี่ยม!” ดัมเบิลเดอร์ยิ้มกว้างให้พวกเขา ดูเหมือนมองไม่เห็นถึงความเกลียดชังระหว่างเด็กทั้งสองคน  แม้แต่นิดเดียว แต่กลับชัดแจ้งอย่างกับมองดูในกระจกทีเดียว

                “เธอทั้งสองต้องเหน็จเหนื่อยมากขึ้น และฉันแน่ใจว่าพวกเธอคงจะมีอะไรต้องคุยกัน  ดังนั้นฉันจะปล่อยพวกเธอให้ได้พักสักหน่อย ราตรีสวัสดิ์ทั้งคู่”

                “ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด เดรโกแค่ผงกหัวให้เขา เฮอร์ไมโอนี่กลอกตาทันที

                หลังจากที่อาจารย์ใหญ่ออกไป เกิดความเงียบน่าอึดอัดขึ้นในห้อง เฮอร์ไมโอนี่นั่งจ้องไปที่เท้าของเธอ  มัวแต่ครุ่นคิด จนกระทั่งเธอได้ยินเสียงแปลกๆมาจากห้องของเธอ ด้วยความสงสัยว่ามันเป็นเสียงอะไร และคิดได้ว่านี่เป็นเวลาที่ดีที่จะไปตรวจดูห้องใหม่ของเธอ   เฮอร์ไมโอนี่จึงลุกออกจากโซฟา และหันไปหาเดรโก  เขากำลังเอนหลังอยู่อย่างสบาย และใจลอยมองความว่างเปล่าบนเพดานห้องอีกครั้ง 

                แฮร์รี่คิดถูก...มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นกับเดรโก มัลฟอยในปีนี้ 

                “ฉันจะไปดูห้องของฉัน แค่บอกไว้เฉยๆ” เธอบอกเขาเสียงห้วนๆ แต่เขาไม่สนใจเธอ  เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ และเดินไปยังประตู  ไม่มีลูกบิดประตู  เธอประหลาดใจ และหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมา 

                “อะโลฮาโมร่า!” เธอลองดู ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอรู้สึกปั่นป่วน และลองดูอีกครั้ง 

                “อะโลฮาโมร่า!!!

                เดรโก เงยหัวจากการนอนเพื่อมองดูเธอ และรู้สึกขำขันในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่พยายามเปิดประตูห้องของเธอด้วยคาถาปลดล็อค  เขาคิดว่าจะปล่อยให้เธอลองต่อไปเรื่อยๆ และแค่มองดูอย่างเพลิดเพลินเท่านั้น  จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงร้องของแมวดังมาจากห้องของเธอ เขารับรู้ด้วยความกังวลใจว่าแมวของเธอ... ครุกแชงก์ ติดอยู่ข้างใน    และเพื่อเป็นการตอกย้ำกับตัวเองว่าเขาไม่ได้จะอ่อนโยนกับเธอ  เขาก็แค่ไม่อยากมีปัญหาเพราะไม่ยอมช่วยเธอ  เขาจึงก้าวเดินไปยังประตูห้องของเธอเพื่อทำบางอย่าง

                “นายต้องการอะไร มัลฟอย” เธอถามอย่างขุ่นเคืองโดยเร็ว เขาเลื่อนสายตาเฉื่อยชาจับจ้องไปที่เธอ

                “ใจเย็น ใจเย็น  เกรนเจอร์  ฉันเห็นว่าเธอนึกไม่ออกว่าจะเปิดประตูได้ยังไง และคิดว่าฉันจะแสดงให้เธอดูว่าพ่อมดที่แท้จริงเขาทำกันอย่างไร”  เขามองด้วยความพอใจในขณะที่แก้มของเธอกลายเป็นสีแดงเพราะความโกธร

                “ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนาย มัลฟอย ไปให้พ้น” เธอหันหน้ากลับไปยังประตู และชี้ไม้กายสิทธิ์  เดรโกพยายามอดกลั้นรอยยิ้มเล็กๆที่กำลังจะเผยให้เห็น   เธอไม่เคยยอมแพ้เลยใช่ไหม  เขาคิด

                “รีอาลีโอ้  อินแคนทาเท็ม!” เธอร้อง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                “เมื้ยว!!!!   ครุกแชงก์ร้องเรียกเสียงยาว  เฮอร์ไมโอนี่ลังเล จากนั้นถอนหายใจอย่างยอมจำนน  ในขณะที่เธอหันไปหาเดรโกที่กำลังยิ้มเยาะเย้ย

                “ก็ได้ มัลฟอย  ถ้านายเก่งมากนัก  นายก็เปิดประตูสิ!” เธอบอกโดยเร็ว เดรโกยักไหล่

                “ฉันเก่งมากอยู่แล้ว” เขาโบกมือให้เธอขยับไปข้างๆ ซึ่งเธอก็หลบไปอย่างลังเล 

                เอาล่ะ มาดูกัน...  ฉันเห็นประตูวิเศษมาทุกรูปแบบแล้วที่คฤหาสน์ และไม่มีบานไหนที่ฉันไม่เคยเข้าไป...   เขาคุยโวเพื่อข่มเธอ เขาพยายามเคาะไม้ไปที่ประตู แต่....ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาแกล้งทำเป็นไม่สนใจเสียงหัวเราะคิกคักของเฮอร์ไมโอนี่ ทั้งๆที่รู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย ในทันใดเขานึกถึงประตูแบบเดียวกันนี้ที่นำไปสู่ห้องสมุด คิดซิเดรโก!   นายเปิดมันยังไง?’

                เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าของเดรโกด้วยความสงสัย  เธอยังคงหัวเราะกับตัวเองที่เขาเคาะประตูเพื่อพยายามเปิดมัน  แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หมดความพยายามเพราะมันเลย  เวลานี้เขากำลังกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อย และในดวงตาของเขามีประกายซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยเห็นมันมาก่อนบนใบหน้าที่ชอบเยาะเย้ยคนอื่นของเขา  เธอนึกขึ้นได้ในทันที่ว่ามันเป็นประกายในดวงตาแบบเดียวกับที่เธอใกล้จะแก้โจทย์เลขออก  เธอสะดุ้งโดยไม่รู้ตัว  บางสิ่งที่เหมือนกันระหว่างเธอและเดรโก มัลฟอยทำให้เธอตกใจอย่างมาก  และเธอตัดสินใจที่จะพยายามเพิกเฉยกับมัน

                “ ไม่ เป็นไปไม่ได้น่า  ฉันพยายามแล้วมันคล้ายจะเปิด  แต่แล้วอยู่ๆเหมือนมีอะไรบางอย่างที่มันมาขัดขวางมือฉัน...” เขากำลังพึมพำกับตัวเอง ดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่เบิกกว้าง

                “อะไรขัดขวางมือนาย” เขาโบกมือให้เธอเงียบๆอย่างใจลอย พลางใช้ความคิดอย่างหนักเฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วอย่างงุนงง ไม่เข้าใจ 

                “ถ้าเกิดประตูทำให้นายได้รับบาดเจ็บ  บางทีนายก็ไม่ควรที่จะ.......” เธอถูกแทรกด้วยเดรโกที่ดีดนิ้วอย่างมีชัย  ทันใดเขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ผงะถอยห่างเล็กน้อยอย่างตกใจกับปฎิกิริยาที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของเขา เดรโกไม่พูดอะไรแต่เขากลับคว้าแขนเธอ และดึงเธอเข้าไปใกล้เขาเพื่อให้เธออยู่ตรงหน้าประตูโดยตรง  แต่การสัมผัสอย่างไม่คาดคิดนั้น เพียงพอที่จะทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่เป็นสุข  อาการสั่นแปลกๆที่แล่นไปตามแขนขาของเธอมันทำให้เธอกระอักกระอ่วนใจพิกล  มันแปลกจริงๆ   เธอรู้ตัวในทันใดว่าเธออยู่ใกล้กับเขามากแค่ไหน  ใกล้พอที่จะรู้สึกถึงความอบอุ่นของเขา  ใกล้พอที่จะ..รับรู้ถึงลมหายใจของเขาที่เป่ารดข้างแก้มในขณะที่เขายืนอยู่ด้านหลังของเธอ.

    ด้วยความตกใจ และสับสนกับสิ่งที่ไม่คาดคิดนี้ มันเป็นความคิดที่ไม่เหมาะสมเอาซะเลย  เฮอร์ไมโอนี่พยายามดึงตัวออกห่าง  แต่เดรโกกลับไม่ยอมปล่อยเธอเขากลับอ้อมมาจับแขนเธอไว้แน่นจนมันกลายเป็นเหมือนเขากำลังกอดเธออยู่ข้างหลังแบบนั้น

                “นายคิดจะทำบ้าอะไรของนาย  มัลฟอย! 

    to be con>>>>>>

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×