คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 ข้อสงสัย
บทที่ 5 ความสงสัย
ทั้งอาทิตย์ที่เหลืออยู่เหมือนกับนรก มัลฟอยไม่ได้เข้ามาใกล้เธอเลยนับตั้งแต่วันนั้นที่ใต้ต้นไม้ แต่ดวงตาของเขาเฝ้าติดตามตัวเธอไปทุกแห่ง ตอนที่เธอทานข้าวกับรอนและแฮร์รี่ที่ห้องโถงใหญ่ เธอรู้ว่าเขาจ้องมองเธออยู่ หรือแม้แต่ตอนที่เขานั่งอยู่ข้างหลังเธอในห้องเรียน เธอรู้สึกได้ถึงดวงตาเขาที่จ้องทะลุหลังเธอเข้ามาถึงกระดูก
รอยยิ้มเยาะของเขาปรากฏบนใบหน้าทุกครั้งที่เธอหันกลับมาจ้องเขา ซึ่งเธอไม่ค่อยทำอย่างนั้นบ่อยนัก ปรกติเธอจะหลบดวงตาสีเหลืองอมแดงของเธอไว้ที่หนังสือที่มีค่าของเธอ เธอยอมรับว่าเธอค่อนข้างหงุดหงิดและหวาดหวั่นไปกับท่าทางบ้าระห่ำของเขา เธอพยายามที่จะหลบหลีกเขาให้มากที่สุด เหมือนกันกับคราวนี้
ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือเล่มโตภายในห้องนั่งเล่นรวม แฮร์รี่และรอนในชุดนักกีฬาควิชดิชเดินลงมาจากหอของเขา
“เฮอร์ไมโอนี่ วันนี้ไปดูพวกเราซ้อมควิชดิชนะ”รอนบอกเมื่อเขานั่งลงข้างๆเฮอร์ไมโอนี่เพื่อรอเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ
“น่าสนเหมือนกันนะ บางทีฉันอาจเอาหนังสือไปนั่งอ่านที่นั่นเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้ม
“เฮอร์ไมโอนี่”รอนครางชื่อเธอเสียงลั่น”เธอจะเก็บหนังสือไว้สักชั่วโมงไม่ได้หรือไง ผ่อนคลายซะบ้างอย่าจริงจังกับมันมากนัก”
หญิงสาวกำลังจะอ้าปากพูดโต้ตอบรอนแต่เหลือบไปเห็นจินนี่ที่แต่งชุดควิชดิชเต็มยศลงมาพร้อมๆกับเพื่อนสาวอีกหลายคน
“ทำไมพวกพี่ยังไม่ไปกันอีกล่ะ ไม่ไปจองสนามไว้ก่อนพวกสลิธิรีนก็ตัดหน้าพวกเรายึดสนามฝึกซ้อมพอดี ”จินนี่พูดขึ้นด้วยความแปลกใจเพราะเท่าที่รู้มาสนามควิชดิชของพวกกริฟฟินดอร์มักจะถูกแย่งโดยกลุ่มสลิธิรีนอยู่เสมอ
“ไม่ต้องห่วงจินนี่ วันนี้พวกเขาไม่แย่งพวกเราหรอก แองเจลบอกเราว่าวันนี้เราต้องซ้อมร่วมกันกับสลิธิลีน”แฮร์รี่พูดพร้อมกับถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
“จริงสิ ถ้างั้น เดรโก มัลฟอยก็ต้องลงสนามซ้อมด้วยละสิใช่ไหม”สาวนางหนึ่งอุทานอย่างดีใจ และมีเสียงเซ็งแซ่ของสาวอื่นๆก็ตามมา ในขณะที่ผู้ชายหลายๆคนในบ้านกริฟฟินดอร์หันหน้ามามองอย่างไม่พอใจเมื่อเธอกำลังพูดถึงศัตรูตัวฉกาจของบ้านตรงข้ามอย่างชื่นชม
เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลาย เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเดรโก มัลฟอยเป็นที่ชื่นชอบของสาวหลายๆคนอย่างแท้จริง และในทันใดนั้นเธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอควรจะไปที่สนามควิชดิชดีหรือไม่หลังจากที่รู้ว่าคู่ซ้อมของพวกเขาคือสลิธรีน ซึ่งเธอไม่ต้องการให้มัลฟอยมีโอกาสเข้าใกล้เธอเหมือนที่เขาเคยทำ มันเสี่ยงเกินไป
ตัวของเดรโก มัลฟอยนั้นไม่อันตรายเท่าไหร่ เธอมั่นใจว่าเธอสามารถรับมือเขาได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว อันตรายนั้นไม่ใช่สิ่งที่เดรโกอาจจะทำกับเธอ แต่มันคือสิ่งที่เธออาจจะเผลอใจทำกับเขา ตอนที่เขาจูบเธอมันเหมือนเธอไม่อาจต้านแรงความรู้สึกต้องการนั้นได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเหมือนกับที่เธอเคยอ่านเจอมาจากหนังสือในยุควิคตอเรียนนั้นซึ่งมันมีเหตุผลดีทีเดียว มันคือความต้องการ ความร้อนรุ่ม และความอยากที่จะให้เวลานั้นไม่สิ้นสุด หากมัลฟอยไม่ถอนตัวออก ใครจะไปรู้ว่ามันอาจจะมากกว่านั้น
“เฮอร์ไมโอนี่ไปกันเถอะ”จินนี่พูดพร้อมกับดึงมือเฮอร์ไมโอนี่ให้ตามเธอไป แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับขืนตัวเองไว้
“ฉันไม่ไปดีกว่าพอดีเพิ่งนึกได้ว่าฉันมีการบ้าน ซึ่งฉันต้องค้นคว้าอีกนิดหน่อย”
นั่นคือข้ออ้างของเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งพอจะรับฟังได้ พวกเขาโบกมือลาเธอก่อนออกไปจากห้องเป็นขบวน
@@@@@@@@@@@@
ในที่สุด สุดสัปดาห์ก็มาถึง เฮอร์ไมโอนี่แทบจะรอไม่ไหวที่จะไม่ต้องมีชั้นเรียนเดียวกันกับมัลฟอยที่คอยจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เย็นชา เธอสามารถออกไปเที่ยวกับแฮร์รี่และรอนเหมือนกับที่เธอเคยทำมาก่อนหน้านี้ ถ้าเธออยู่กับพวกเขาตลอดเวลา มัลฟอยคงไม่กล้าเข้าใกล้เธอ และเธอคงจะปลอดภัยจากข้อเสนอที่ไม่เหมาะสมของเขา
อีกอย่าง มัลฟอยคงไม่ต้องการให้ใครๆต้องมารับรู้ถึงภารกิจของเขาในตอนนี้คือคอยตามตอแยเลือดมนุษย์เลือดสีโคลนอย่างเธอแน่ เท่าที่สลิธีรินและคนทั่วไปรับรู้ว่ากิจกรรมทางเพศของเจ้าชายสลิธลีนของพวกเขานั้นไม่มีทางที่จะมีความสัมพันธ์กับบ้านอื่นที่ไม่น่าสนใจโดยเฉพาะพวกกริฟฟินดอร์ มัลฟอยไม่มีทางที่จะทิ้งร่องรอยที่ดูไม่ดีในสายตาของคนอื่นแน่นอน ความสัมพันธ์กับวิล่าถือเป็นเรื่องปรกติสำหรับเขาเพราะวิล่าเป็นสลิธิลีนและเป็นเลือดบริสุทธิ์ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าในการลงทุน
เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดออกจะแปลกประหลาดสำหรับเฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอยเกลียดเลือดมักเกิ้ล แล้วทำไมเขาถึงต้องการที่จะตอแย และ ยั่วเย้าเธอ เฮอร์ไมโอนี่พยายามคิดหาเหตุผลเดาใจเขา แต่เธอก็ไม่สามารถหาเหตุผลนั้นได้ เธอไม่เคยจำในสิ่งที่ดีๆที่มัลฟอยทำให้เธอได้เลยเพราะไม่มีสักวันที่เขาจะดีกับเธอเธอจำได้ดีในปีแรกที่พวกเขาได้เจอกัน เขาช่างโอหังและหลงตัวเอง เธอแค่อยากจะสาปเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาทำเหมือนกับว่าเขาเป็นเจ้าของฮอกวอตส์ เขาเข้ารับตำแหน่งเจ้าชายแห่งสลิธีรินทันทีด้วยความเต็มใจและเริ่มที่จะออกคำสั่งกับทุกๆคนรอบข้างเขา ซี่งเฮอร์ไมโอนี่เริ่มที่จะเกลียดเขามากขึ้นและมากขึ้นเมื่อเวลาได้ผ่านไป แต่ยิ่งเธอเกลียดเขามากเท่าไหร่ ดูเหมือนโชคชะตาพยายามผลักดันเธอให้ยิ่งใกล้ชิดเขามากยิ่งขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุบังอิญหรือว่าจงใจก็ตาม เธอพยายามควบคุมตัวเธอเองไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับเขา แต่มันกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เธอต้องวิ่งหนีเขาตลอดเวลาและมันทำให้เธอยิ่งเครียดมากยิ่งกว่าเดิม
นี่เป็นครั้งที่ร้อยกว่าแล้วที่เฮอร์ไมโอนี่ต้องตบตัวเองเพื่อให้ออกจากภวังค์นี้ มัลฟอยเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เขาคือสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องการและป็นสิ่งที่ต้องห่างไกลเช่นกัน แต่เท่าที่เฮอร์ไมโอนี่สังเกตุดูแล้วคงมีแต่เธอเท่านั้นที่จะต้องหลบหนี และวิล่าเท่านั้นที่รู้ว่าร่างกายของเขาสามารถร่ายเวทมนตร์อะไรให้เธอลุ่มหลงบ้าง
เมื่อเธอนึกถึงสิ่งที่วิล่าได้จากมัลฟอย เมื่อปีที่แล้ว ทำให้เธอถึงกับกำหมัดไว้แน่น มันเป็นเรื่องที่ผิด! วิล่านั้นเป็นหญิงสาวที่สวย และช่ำชอง พ่อแม่ของเธอนั้นเป็นเลือดบริสุทธิ์ แต่ไม่เป็นที่รู้จักเหมือนมัลฟอย แต่พวกเขาก็มีชื่อเสียงในโลกแห่งเวทมนตร์ วิล่าอาจจะสวย แต่ปฏิบัติตัวเลวทราม และหัวสูง เพราะเธอต้องได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ และเธอยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้มันมา ช่างเหมาะสมกับมัลฟอยจริงๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาถูกสร้างมาเพื่อกันและกัน
มัลฟอยคงจะรู้จักได้แต่ผู้หญิงประเภทนี้เท่านั้น แค่ต้องการร่วมรักกับเขาเป็นพอ แต่ไม่เคยได้ความรักของเขากลับคืนมา พวกเธอคงไม่มีวันได้รู้ความหมายของคำว่ารักจริงๆหรอกก็เหมือนอย่างกับ มัลฟอยมีอะไรกับวิล่าในคืนนั้น แต่มันก็แค่นั้น แค่เซ็กร์
เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยมีอะไรกับใคร และไม่เคยที่จะมีอะไรด้วยเหตุผลนั้น เธอต้องการจะรักษามันไว้ให้ใครคนหนึ่งที่ต้องการเธอจริงๆ ใครคนหนึ่งที่จะปกป้องเธอและรักเธอ แต่ความหวังนั้นดูริบหรี่ เพราะไม่มีผู้ชายที่ไหนแสดงความสนใจในตัวเธอ มีเพียงแค่ครัมเท่านั้น ซึ่งนั่นก็สามปีมาแล้ว และมันก็จบลงอย่างไม่ดีนักเพราะมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับหวาดกลัว จากนั้นก็เป็นรอน เขาได้ฝันถึงเธอมาเป็นปีแล้ว รอนเป็นคนใจดี อ่อนโยน และสามารถทำให้เธอหัวเราะได้ แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าบอกความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ
ไม่ว่าเธอจะรู้สึกยังไงกับมัลฟอย มันจะต้องจบลงที่นี่และตอนนี้ เธอไม่สามารถให้รอนและแฮร์รี่รู้เรื่องนี้ได้พวกเขาอาจจะฆ่ามัลฟอยได้ ซึ่งไม่เป็นการดีต่อพวกเขาเลย และถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเธอจะต้องโทษตัวเองอย่างมากดังนั้น เฮอร์ไมโอนี่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่ออยู่ให้ห่างจากมัลฟอย ดูเหมือนว่ารอนและแฮร์รี่จะเป็นเกราะป้องกันภัยอย่างดีที่สุด ตราบใดที่เธออยู่กับพวกเขามัลฟอยไม่มีทางที่จะเข้าหาเธอได้แน่นอน และเธอจะต้องปลอดภัย
“เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะต้องไปห้องสมุดในตอนนี้ด้วยงั้นเหรอ” แฮร์รี่ถามในขณะที่เงยหน้าขึ้นจากเกมหมากรุกของพ่อมดที่เขากำลังเล่นอยู่กับรอน
“ใช่ ฉันต้องไปค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องตัวนิวท์ และพวกนายสองคนควรจะทำด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดและรอคอยพวกเขาอยู่เงียบๆ
“เรื่องนิวท์ ไม่ต้องรีบจนกว่าจะปลายเทอมนะ เฮอร์ไมโอนี่” แฮรร์รี่ตอบด้วยหน้าตาบูดบึ้งในขณะที่ตัวควีนของรอนพังตัวบิสช้อปของเขา
“ฉันรุ้แต่เราควรค้นคว้าแต่เนิ่นๆนะเพราะเราไม่รุ้ว่าเราจะมีการบ้านและวิชาอะไรอื่นๆอีกมากจนไม่มีเวลา” เฮอร์ไมโอนี่หยุดชั่วขณะ และพูดต่อ “ว่าไงพวกนายจะไปกับฉันไหม “
“ไม่ล่ะพวกเรา จะค้นคว้าทีหลังนะ แล้วพบกันตอนมื้อเย็น” แฮร์รี่ถอนหายใจพูดในขณะที่สายตาของเขากำลังใช้ความคิดอยู่กับเกมส์ข้างหน้าที่ดูเหมือนเขาจะเป็นรองอยู่
“ก็ได้แต่ถ้าพวกเธอเปลี่ยนใจ ก็รู้นะ ว่าจะหาฉันได้ที่ไหน”เฮอร์ไมโอนี่พูดทิ้งท้ายก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังโพรงทางออกจากห้องนั่งเล่นรวม
“แล้ว เจอกัน เฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดเสียงงึมงำโดยแทบจะไม่เงยหน้าออกจากเกมเลย
----------------------------------
“คุณ เกรนเจอร์ ต้องขอโทษด้วย คุณเกรนเจอร์” ห้วงนึกคิดของเธอถูกทำลายลงโดยมาดาม พินซ์
“ขอโทษ คุณกำลังพูดเรื่องอะไรค่ะ มาดาม?”เฮอร์ไมโอนี่ถาม แบบสับสน
“ฉันบอกว่า ห้องสมุดกำลังจะปิดในยี่สิบนาที คุณเกรนเจอร์” บรรณารักษ์พูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“โอ้ ตกลงค่ะ ขอบคุณค่ะ ”
“ไม่มีปัญหาจ้ะ ที่รัก” เธอพูดและเดินกลับไปยังโต๊ะด้านหน้าเพื่อเก็บข้าวของต่ออีกครู่
ว้าวอีกเพียงครึ่งชั่วโมงก็จะเป็นช่วงเวลาอาหารเย็นแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเพื่อค้นคว้าเรื่องนิวท์และดูเหมือนว่าเพื่อนๆของเธอได้ลืมเธอไปเสียแล้ว เธอคิดในขณะที่เธอมุ่งหน้าไปยังชั้นหนังสือเพื่อเก็บหนังสือเล่มหนึ่งกลับคืนไป
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าเธอกำลังถูกจ้องมอง เธอเหลือบไปมองดูด้านหลังอย่างหวาดระแวง และไม่เห็นอะไรเลย โต๊ะว่างเปล่าเพราะนักเรียนเริ่มทยอยออกไปจากห้องสมุดกันแทบหมดแล้ว แปลกจริง เธอคิด บางทีเธออาจจะคิดไปเอง
เมื่อเธอมาถึงชั้นวางหนังสือที่เธอต้องการ เธอเอื้อมมือไปเก็บหนังสือเข้าให้ถูกที่ และเธอก็รู้สึกได้ถึงมันอีกครั้ง เธอขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ ก่อนที่เธอจะหันไปมองรอบๆ
และทันใดนั้น เฮอร์ไมโอนี่ถูกผลักเข้าไปยังช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือ!
“ใครนะ-” ริมฝีปากหนึ่งประกบปิดริมฝีปากของเธอและเสียงกรี๊ดร้องของเธอกลับกลืนหายไปยังริมฝีปากของผู้บุกรุก
ความคิดเห็น