คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 06: ชายหนุ่มนักวาดภาพ
Chapter 06:ชายหนุ่มนักวาดภาพ
ลอนดอน
อพาทร์เม้นต์บิลและเฟลอร์
“สิ่งที่บดบังและสิ่งที่ปรากฏ การตายและการฟื้น”
เฮอร์ไมโอนี่ได้อ่านประโยคนี้อย่างน้อยก็สามครั้งเข้าไปแล้ว ตอนนี้ภายในใจของเฮอร์ไมโอนี่กำลังมุ่งไปที่หนังสือตรงหน้าอย่างจริงจังเธอไม่ใช่เป็นเด็กผู้หญิงที่จะเชื่อในเรื่องการดูดวงชะตา ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ
แต่อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อในเรื่อง พรหมลิขิต และ ชะตากรรม ใช่ มันดูเหมือนเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด แต่เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ศรัทธาในบางสิ่งที่จะปรากฏต่ออนาคต
อย่างเช่นหนังสือเล่มนั่น มันเป็นเล่มที่เธอชอบ และมันมีความหมายต่อเธอในอนาคตซึ่งเธอได้อ่านมันแล้ว บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่มันช่างเป็นเรื่องที่สอดคล้องกันเหลือเกิน
เฮอร์ไมโอนี่ได้เรียนรู้การดำเนินชีวิตในรูปแบบต่างๆแต่นั่นเธอก็ไม่สามารถนำคนที่ตายแล้วกลับมาดำเนินชีวิตอยู่ได้ ซี่งมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และเวทมนต์ก็ทำไม่ได้เช่นกัน
แต่...ถ้ามันเป็นไปได้ล่ะ?และ ผลลัพธ์ที่ตามมามันช่างรุนแรงเสียเหลือเกิน
จะอย่างไรก็ตามซิริอัสไม่ใช่คนตายที่ตายไปแล้ว ภาพในความตายไม่ได้เด่นชัดนัก วิญญาณไม่ได้ออกจากร่างของเขา เขาถูกผลักเข้าไปซ่อนเร้นเบื้องหลังม่านแห่งความตาย เขายังมีชีวิตอยู่ แต่เขาอยู่มิติอื่น สถานที่ถูกลืม อย่างไรก็ตาม เขายังมีชีวิตอยู่ และเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ว่าจะนำเขากลับมาได้อย่างไร
และเธอจะต้องเป็นผู้นำเขากลับมา เพื่อแฮร์รี่ เธอจะต้องทำทุกอย่างเพื่อเขา และสิ่งที่เธอจะต้องทำก็คือ เธอจะต้องถ่ายทอดอำนาจไปยังความปราถนาของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงและกำลังคิดถึงเรื่องนากินี มันเป็นเรื่องราวที่ผ่านมานานแต่เธอก็ไม่เคยลืมในเหตุการณ์นั้นๆ เมื่อแฮร์รี่รู้เรื่องราวถึงผลลัพธ์ที่เกิดตามมา เขาโกรธและโทษตัวเองตลอดเวลา
แฮร์รี่เฝ้าถามว่าทำไมเธอถึงทำสิ่งนั้น ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถตอบได้ว่าทำไมเธอถึงทำมัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่หรือน่ากลัวสักเท่าไหร่นัก เธอไม่ได้เจ็บปวดหรือกำลังจะตาย อะไรทำนองนั้น
เฮอร์ไมโอนี่พยายามสลัดหัวเพื่อไล่ความคิดนั้นออกไปจากหัวของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่อ่านทวนหนังสือเล่มนั้นอีกครั้งนึง และ เธอกำลังตัดสินใจที่จะทำมันนำซีริอัสกลับมาจากความตาย
ใช่ มีบางอย่างที่จะต้องเตรียมการในการทำพิธีกรรม บางส่วนของหนังสือค่อนข้างง่ายในการอ่าน แต่ก็มีบางส่วนที่ค่อนข้างยากและซับซ้อน แน่นอนมันต้องมีบางสิ่งที่จะเติมเต็มพิธีกรรมมีเรื่องที่น่าขำก็คือสิ่งที่ยากที่สุดของหนังสือเล่มนี้ก็คือสิ่งที่ง่ายที่สุดสำหรับเธออย่างไรก็ตามมันมีบางอย่างที่ทำให้เธอหมกมุ่นอยู่คือการวาดภาพ
บ้าจังการวาดภาพเหรอเนี่ย! เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเธอเป็นคนฉลาด มีไหวพริบ แต่ในขณะเดียวกันเธอเองก็รู้ด้วยว่าเธอไม่มีความคิดสร้างสรรค์หรือหัวศิลปะอยู่เลย เธอปฎิบัติหน้าที่ยากๆได้สำเร็จไม่ว่าจะเป็นเวทมนต์หรือการปรุงยา แต่เธอไม่สามารถวาดรูปได้และนี่คือจุดด้อยของเธอก็ว่าได้
แน่นอนเธอวาดได้เล็กน้อย จำพวกบ้านหรือต้นไม้ ที่มันง่ายๆซึ่งได้ความรู้มาจากโรงเรียนอนุบาลของโลกมักเกิ้ล แต่เธอไม่สามรถวาดรูป นกอมตะสีฟ้า กับรายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมดได้ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของพิธีกรรม
เธอจะทำอย่างไร?
เธอคิดถึง....ดีน !
ดีน โทมัส เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านลายเส้นและวาดรูปได้ดี เขาเป็นคนที่มีฝีมือมาก และค่อนข้างดีตรงที่เขาเกิดมาในโลกมักเกิ้ลและในตอนนี้เขาอยู่ ลอนดอน
เพื่อเป็นการแก้ปัญหา เธอจะต้องคุยกับดีน อย่างแรก เธอจะต้องออกไปจากอพาทธ์เม้นส์ของบิล แล้วมองหาโทรศัพของพวกมักเกิ้ลเสียก่อน เธอได้พูดคุยกับดีนซึ่งเขารู้สึกประหลาดใจมาก และเธอบอกเขาว่าเธอต้องการพบเขาที่บ้านของเขาเองในวันถัดไป
บ้านโพรงกระต่าย
จินนี่ส์ วิสลีส์ อารมณ์ไม่ดีนัก...... โกรธ..... แน่นอน เธอโกรธเฮอร์ไมโฮนี่ และตัวเธอเองด้วย
เธอโง่มากมาย เมื่อตลอดทั้งเดือนเธอพยายามที่จะเอาชนะแฮร์รี่ แต่ทั้งหมดกลายเป็นนรกเพียงไม่กี่นาที เธอไม่ควรจูบเขา เขายังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่กับเธอ แต่สาเหตุสำคัญถ้าไม่ใช่เพราะเฮอร์ไมโอนี่ ยายหนอนหนังสือนั่น
แฮร์รี่คิดว่า ยายนั่นเป็นนักบุญของเขาเลยล่ะ?
นักบุญเหรอ........!
จินนี่ยิ้ม เธอรู้แล้วว่าเธอจะต้องทำยังไงกับยายนักบุญนั่น
*~*~* ~*~*~* ~
ลอนดอน
ที่บ้านของดีน โทมัส
“เอาละ เฮอร์ไมโอนี่ ทีนี้บอกกับฉันได้แล้วหรือยัง ว่าอะไรคือสาเหตุทำให้เธอมาที่นี่ ฉันหมายถึงที่เธออ้างถึงบางอย่างในการวาดรูป” ดีน โทมัส รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย กับข้อเท็จจริงที่ว่า เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ อยู่ในบ้านของเขาโดยปราศจาก แฮร์รี่และรอน
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้ม เขินๆก่อนตอบถึงข้อสงสัยของดีน
“ดีน ฉันจะขอพูดสั้นๆนะ ตอนที่อยู่ในสาย ฉันถามคุณว่า คุณเคยเห็นรูปนกสีน้ำเงินหรือเปล่า และสิ่งนี้ล่ะที่ฉันอยากให้คุณวาดมันออกมา คือ ฉันไม่มีหัวคิดสร้างสรรค์เท่าไหร่หรอกในเรื่องของศิลปะ”
“ฉันเข้าใจเฮอร์ไมโอนี่ แต่ทำไมล่ะ มันไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากจะทำมันหรอกนะ มันเพียงแค่...”
“เธอดูแปลกไปนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดตรงๆ เธอกอดอกมองดีนนิ่งอย่างครุ่นคิด ดีนพยักหน้ารับ เขารู้สึกผิดเล็กน้อย
“มันสำหรับไว้ใช้ทำพิธีกรรมบางอย่างน่ะ ดีน ฉันเสียใจแต่ฉันพูดอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว แต่ฉันบอกได้ว่ามันไม่ใช่พิธีกรรมของศาสตร์มืดแน่นอน ”
ดีนมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่เขากำลังคิดบางอย่าง แล้วจึงตัดสินใจพูด
“มันเป็นเรื่องของ พอตเตอร์ ใช่ไหม”
เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่เขาอย่างประหลาดใจ เธอพยักหน้ารับ บางทีอาจจะเป็นความคิดที่ผิดที่เธอยอมรับกับดีนแบบนั้น เธอรู้ว่าความสัมพันธ์ของดีนและแฮร์รี่มีให้กันไม่เหมือนเดิม หลังจากที่ดีนแตกหักกับจินนี่แล้ว
เด็กชายสังเกตเห็นสีหน้าลำบากใจในการสนทนาของเฮอร์ไมโอนี่
“ฉันไม่มีปัญหากับแฮร์รี่”เขากล่าว “ความจริงแล้วฉันไม่ตำหนิเขาหรอก นะ เขาไม่สมควรที่จะถูกตำหนิในเรื่องของจินนี่ .....”
“ดีน”
“ไม่ เฮอร์ไมโอนี่ ปล่อยให้ฉันพูดให้จบ ได้โปรด ฉันรู้ว่าเธอเป็นเพื่อนกับจินนี่ เฮอร์ไมโฮนี่ แต่เธอยังไม่รู้จักจินนี่ดีพอ”ดีนเงียบก่อนสูดหายใจเข้าปอดเหมือนให้กำลังใจตัวเอง “ ความสัมพันธ์ของพวกเราคืบหน้ากันในตอนแรกแต่เริ่มลดน้อยถอยลง ไปเรื่อยๆเรื่องนั้นมันเกี่ยวพันธ์กับจินนี่ ความโลภ...”
เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้าง เมื่อฟังถ้อยคำที่รุนแรงจากดีน
“ฉันดูเหมือนเป็นหนูทดลองของจินนี่ จินนี่ต้องการในสิ่งต่างๆที่เธอปราถนาและไขว่คว้าได้”
ดีน โทมัสไม่อยากจะเชื่อว่าเขากำลังเล่าเรื่องที่เก็บเป็นความลับระหว่างเขากับจินนี่ ให้เฮอร์ไมโอนี่ฟัง แต่จะยังไงก็ตาม มันดูเหมือนเป็นสิ่งสมควร
“จินนี่ต้องการรู้ถึงวิธีการที่ทำให้เด็กผู้ชาย ...... คลั่งไคล้ ถ้าเธอรู้ว่าฉันหมายถึงอะไรหรือใคร”
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มฝืนๆ เธอรู้สึกแย่ภายในช่องท้อง เมื่อคิดถึงจินนี่ที่กำลังทำให้แฮร์รี่คลั่งไคล้
“เมื่อเธอเริ่มคบกับแฮร์รี่ ฉันถึงได้รู้ว่าฉันเป็นแค่หนูทดลองเท่านั้น ทุกอย่างที่จินนี่ทำเตรียมไว้สำหรับแฮร์รี่เท่านั้น” ดีนหัวเราะเบาๆเขานิ่งเงียบชั่วครู่เหมือนพยายามทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะเล่าเรื่องราวต่อไป
“มันตลกนะกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่รู้ไหม จินนี่ไม่ได้ประสบผลสำเร็จสักเท่าไหร่ อย่างน้อยมันก็ไม่ทั้งหมด”
“อะไร...คุณหมายความว่าอะไร”เฮอร์ไมโอนี่ซักถามอย่างสนใจ
“คืนหนึ่งในหอนอนชาย แฮร์รี่ไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่นั่น..”
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง ความจริงเธอไม่ต้องการจะรับรู้หรือได้ยินเรื่องที่แฮร์รี่ไปทำอะไรกับใครโดยเฉพาะกับจินนี่
“โอ้ว ไม่ใช่ “ดีนกล่าวอย่างรวดเร็ว”มันไม่ใช่เรื่องแบบนั้น เขากำลังคุยกับเนวิลล์ ฉันรู้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แฮร์รี่ต้องการจะคุยถึงใครบางคน เออฉันหมายถึงเขาพูดถึงเรื่องของ จินนี่ เรื่องมุมมองทางเพศ ฉันหมายความว่า เขาไม่สามารถคุยกับคุณได้ในเรื่องแบบนี้”
“ขอบคุณ พระเจ้า”เฮอร์ไมโอนี่ร้องบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอกดีนมองเธอกลับแล้วยิ้ม
“หรือแม้กระทั่งรอน”
“เนวิลล์เป็นเหยื่อ”เฮอร์ไมโอนี่พูดติดตลกเพื่อสร้างบรรยากาศที่น่าอึดอัดให้เบาบางลง
“ใช่ เนวิลล์ช่างน่าสงสาร”ดีนกล่าว เขาหัวเราะกับความทรงจำนั้น
................ย้อนกลับไปในอดีต............................
ฮ๊อกวอร์ต
กริฟฟินดอร์หอนอนชายปีหก
“แฮร์รี่เพื่อนรัก ฉันไม่รู้ว่านายถามถูกคนหรือเปล่า “ เนวิลล์พูดแล้วมองแฮร์รี่อย่างอึดอัดใจ
“เนวิลล์ฉันจำเป็นต้องคุยกับใครสักคน แต่ฉันแน่ใจว่าเรื่องนี้คุยกับรอนไม่ได้แน่”
“ก็ได้ รอนตัดออกไป แล้วเกี่ยวกับเรื่องอะไร..แล้วเฮอร์ไมโอนี่ล่ะ”
“เนวิลล์ ฉันไม่เคยคุยกับเฮอร์ไมโอนี่เกี่ยวกับเรื่อง เออ เซ็กร์”แฮร์รี่เกาจมูกและรู้สึกเขินอาย” มันก็คงเหมือนกันถ้าเธอตัดสินใจบอกฉันว่าการจูบกับครัมมันดีแค่ไหน ฉันขอผ่าน”
“แหม พวกเขาแค่จูบกันเท่านั้นเองเหรอ “ เนวิลล์ตอบแล้วยิ้มแบบตลก แฮร์รี่หน้าเป็นสีแดงเขาทั้งโกรธและเขินอาย โกรธที่เนวิลล์คิดกับเฮอร์ไมโอนี่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆที่ต้องจบลงด้วยเซ็กร์เฮอร์ไมโอนี่เธอแตกต่างจากคนอื่นๆโดยสิ้นเชิงเพราะเฮอร์ไมโอนี่จะมอบความบริสุทธิ์ให้กับผู้ชายของเธอโดยแท้จริง ซึ่งคนนั้นไม่ใช่วิกเตอร์ ครัมอย่างแน่นอน
“อะไร...แน่นอนเขาแค่จูบกันเท่านั้น ไปลงนรกซะ นี่นายคิดว่าเธอทำอะไร เธอเป็นกุลสตรีนะ”แฮร์รี่ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
“แล้วจินนี่ล่ะ หรือไม่ใช่” เนวิลล์พูดและจ้องมองแฮร์รี่อย่างสงสัย แฮร์รี่มองดูเนวิลล์อย่างแปลกใจเนวิลล์มีจุดประสงค์จะบอกความจริง เกี่ยวกับท่าทางของจินนี่ซึ่งทำให้เขาผิดหวังอยู่สักหน่อย
“ไม่รู้สิ เนวิลล์ ฉันไม่รู้ เพราะเหตุนี้ไง ฉันถึงต้องคุยกับใครสักคน ฉันชอบเธอจริงๆนะเนวิลล์ฉันชอบตอนที่เราจูบกัน และ......ช่างเถอะ แต่ฉันต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าฉันค่อนข้างที่จะผิดหวังกับความคิดของเธอมันดูเหมือนกับว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอนั่นก็แค่ต้องการจะหลับนอนกับฉัน ฉันไม่ได้บอกนะว่าฉันไม่ชอบที่จะมีอะไรกับ...ใครสักคนแต่ฉันคิดว่ามันค่อนข้างเร็วไปเท่านั้นเอง ฉันหมายถึงจินนี่ทำให้ฉันมีความรู้สึกดี แต่ไม่รู้สิ ฉันแค่ อายุ 16 เอง แล้วเราก็ไม่ได้คบกันนานขนาดนั้นสักหน่อยและฉันก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะเป็นคนๆนั้น หรือเปล่า ฉันหมายถึงบางครั้งมันรู้สึก ...ไม่รู้สิ...ไม่ใช่..ฉันคิดว่านะ มันเหมือนกับมีอะไรขาดหายไป”แฮร์รี่พูดเขาดูสับสนจนเนวิลล์เห็นได้อย่างชัดเจน
“ฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้นนะแฮร์รี่ มองฉันสิ ฉันเป็นเพียงแค่เนวิลล์เซ่อๆซ่าๆแต่ฉันก็เข้าใจเกี่ยวกับความรู้สึกนาย. และถ้านายไม่ได้มีความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันคิดว่านายควรคุยกับจินนี่นะ” เนวิลล์แนะนำ
“ฉันว่านายพูดถูกนะเนวิลล์ ขอบใจมาก”แฮร์รี่ยิ้มกว้างและผ่อนลมหายใจ
*~*~* ~*~*~* ~*~*~* ~*~*~* กลับมาปัจจุบัน*~*~* ~*~*~
“พระเจ้า” เฮอร์ไมโอนี่อุทานเมื่อฟังดีนเล่าจบแล้ว” ฉัน ฉัน ไม่อยากจะเชื่อเลย”
"ใช่ฉันรู้ ฉันรู้ด้วยว่าเธออาจไม่แน่ใจว่านี้เป็นความจริงและทำไมฉันถึงต้องบอกเธอ "
“เออ....ใช่”เฮอร์ไมโอนี่ยอมรับเธอมองดีนเพื่อค้นหาคำตอบในแววตาของเขา
“อย่างแรกเลยมันเป็นเรื่องจริง แล้วทำไมฉันต้องบอกความจริงกับเธองั้นเหรอ”เขายักไหล่” ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่เคยแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครฟังแม้แต่เซมัสก็เถอะ ฉันคิดว่าฉันอยากให้มันผ่านๆไปซะ”เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า ใช่มันควรจะให้มันผ่านๆไป ความเจ็บปวดของเขาไม่ควรทีจะรื้อฟื้นให้เขาต้องเจ็บปวดอีกเมื่อต้องมานึกถึงเรื่องแบบนี้ พวกเขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่ดีนจะพูดแทรกความเงียบขึ้นมา
“เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า”
“โอ้ว ... ใช่ๆ ..วาดรูป”
เฮอร์ไมโอนี่กำลังงงเล็กน้อยเกี่ยวกับข่าวนี้ แฮร์รี่ยังคงบริสุทธิ์ ต่อให้เธอฉลาดแค่ไหนเธอก็ช่วยเขาไม่ได้ แล้วเธอก็รู้สึกผ่อนคลายในจิตใจของเธอ เธอเพิ่งจะรู้ว่าจินนี่ไม่ได้ชอบกับดีนเพราะสาเหตุนี้
“ฉันเข้าใจนะ ดีน ถ้านาย.......”
“ไม่ฉันจะทำมัน จะยังไงก็ตาม แต่ฉันทำมันตอนนี้ไม่ได้ เธอบอกเองว่าเธอต้องการนกสีน้ำเงินที่สมบูรณ์ อย่างแรกเลยคือฉันต้องร่างรายละเอียดคร่าวๆก่อน”ดีนกล่าวอย่างหนักแน่น
“โอ้ว ...ไม่ ...ฉันเข้าใจดี”เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างดีใจ
“ฉันจะนำมาให้เธอดูอีกทีหนึ่ง เธอบอกว่าเธออยู่ที่ลอนดอนเหรอ”
“อือใช่ ฉันดีใจมากเลยที่นายจะทำมัน ฉันเขียนที่อยู่ให้นายดีกว่า มีดินสอหรือปากกาแล้วกระดาษไหม” ดีนเดินไปยังโต๊ะของเขาแล้วหยิบสมุดโน๊ตกับปากกามาให้แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้สนใจเขาเลยเพราะตอนนี้สายตาของเธอให้ความสนใจที่รูปภาพๆหนี่ง เป็นรูปถ่ายภาพมักเกิ้ลซึ่งติดอยู่บนผนัง มันเป็นรูปถ่ายชายผิวดำ เขาอยู่ในราววัย 20 ต้นๆ เธอมีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนเธอรู้จักชายคนนี้มาก่อน
“เขาเป็นใคร ดีน” เฮอร์ไมโอนี่ถามหลังจากรับปากกาและกระดาษจากดีน และเขียนที่อยู่ของบิลลงไป
“โอ้ว เขา” ดีนพูดถึงรูปภาพที่ฝาผนังแล้วมองมัน”พ่อของฉันเอง”
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกสับสน นั่นไม่ใช่พ่อของดีนอย่างน้อยก็ไม่ใช่ผู้ชายที่เธอเคยเห็นพาเขาไปที่คริงครอตแน่
ดีนมองไปที่เธอและรู้ว่าเธอสับสน
“ผู้ชายคนนั้นคนที่ไปหาฉันพร้อมกับแม่ทุกๆปีนั้นก็พ่อฉันเหมือนกัน พ่อเลี้ยงน่ะ”ดีนพูดและหัวเราะเล็กน้อยให้กับเฮอร์ไมโอนี่ที่อ้าปากค้าง
“ฉันเสียใจด้วย”เฮอร์ไมโอนี่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเสียใจอย่างแท้จริง
“ไม่เป็นไรหรอก ก็เธอไม่รู้นี่ เธอดูสิ ฉันไม่รู้แม้กระทั้งนามสกุลของพ่อแท้ๆฉันด้วยซ้ำไป ฉันรู้แต่ว่าเขาซื่อเควิน เขาหายตัวไปเมื่อแม่กำลังตั้งท้องฉันอยู่”
“โอ้ว”เฮอร์ไมโอนี่อุทานเมื่อได้ฟังเรื่องน่าเศร้าของดีนอีกเรื่องหนึ่ง
“แม่ของฉันบอกว่าพ่อทำงานอยู่ที่องค์การตำรวจสากล นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอไม่รู้จักนามสกุลของเขา เขาจะเรียกตัวเองว่า เควิน เอส เขาเป็นสายลับ” ดีนกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
“เขาเป็นมักเกิ้ล ใช่แล้วแต่เขาเป็นพระเอกของฉันเลยล่ะ แม่บอกว่า มีคนตามตัวเขาอยู่ พวกมาเฟีย ฉันคิดยังงั้นนะ เขาอยู่แมนเชสเตอร์ เมื่อเขารู้ว่าแม่ท้องเขาก็ซื้อบ้านอยู่ที่ลอนดอนแล้วให้เงินแม่แล้วเขาก็หายตัวไป แม่บอกว่าเขาอาจถูกฆ่า”เสียงของดีนหายไปในลำคอเมื่อพูดถึงตอนนี้
“โอ้ ดีน “ เฮอร์ไมโอนี่ร้องและตรงเข้าไปกอดเขาเพื่อปลอบโยน
“เธอเป็นผู้หญิงที่ดี เฮอร์ไมโอนี่และฉันหวังว่า แฮร์รี่และรอนจะรู้ด้วย”
ดีนและเฮอร์ไมโอนี่ นั่งคุยกันต่ออีกสองสามชั่วโมงแล้วเธอจึงลากลับ เฮอร์ไมโอนี่ให้ดีนสาบานว่าจะไม่บอกใครเรื่องการวาดภาพ โดยเฉพาะแฮร์รี่
เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าวันนี้เป็นวันที่ดีเธอไม่รู้จักดีนมากนักจนกระทั่งวันนี้ เขาป็นคนดีคนหนึ่งแต่เธอยังสงสัยเรื่องพ่อของเขาเล็กน้อย เธอรู้จักผู้ชายคนนี้ อย่างแน่นอนและเธอสัญญากับตัวเองว่าเธอจะต้องสีบเรื่องนี้ให้ได้อย่างแน่นอนเพื่อเพื่อนของเธอ ดีน โทมัส แต่เอาไว้วันหลังเพราะตอนนี้ เธอเหนื่อยเกินไปแล้ว
.......................ในขณะเดียวกันที่บ้านโพรงกระต่าย
..
“แฮร์รี่ที่รัก ฉันคิดว่า”
“เสียใจฮะ คุณนายวิสลี่ส์ ผมจะไปหาเฮอร์ไมโอนี่วันพรุ่งนี้ มันผ่านมา5วันแล้วที่เธอออกไป เธอต้องการเรา และผมต้องการเธอ” เขากล่าวเหมือนเสียงกระซิบ แต่ดูเร่งรีบในน้ำเสียงนั้น
“และผมก็จะไปกับแฮร์รี่ด้วยนะแม่” รอนบอกและเดินมาอยู่ข้างๆแฮร์รี่
“โรนัลย์”นางวิสลี่ส์เรียกชื่อลูกของเธออย่างไม่พอใจ
“แม่ฮะ ผมว่าพวกเขาสมควรไป” บิลพูดแทรกเมื่อเขามาถึงและได้ยินที่ทั้งสามคนโต้เถียงกัน
“ผมคิดว่าพวกเขาต้องการคุยกับเฮอร์ไมโอนี่พวกเขาต้องการหยุดความผิดในใจของเขา ผมจะไปกับเขาด้วยแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ”
นางวิสลี่ส์พยักหน้ารับอย่างอิดออด เธอรู้ว่าบิลพูดถูก มันเหมือนหัวใจเธอเต้นแรงด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเห็นความปราถนาของเด็กๆพวกนั้นโดยเฉพาะแฮร์รี่ ไม่ได้หมายความว่าตัวเธอเองไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับเฮอร์ไมโอนี่ แต่ รอนเป็นแฟนกับลูน่า และ แฮร์รี่ แฮร์รี่ก็ไม่มีใคร เธอเข้าใจว่าเธอนั้นคือครอบครัวที่แท้จรงของแฮร์รี่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกสาวคนเล็กของเธอ จินนี่ รักเขาและครอบครัวของเธอก็เห็นดีด้วย แต่พวกเขาทั้งคู่จะไม่มีทางเข้ากันได้ ถ้ายังมี....เฮอร์ไมโอนี่ ไม่มีทาง เธอไม่เคยเห็นชอบกับมิตรภาพนั้น ไม่เคย มันเป็นสิ่งที่สวยงามมากเธอรู้ แต่มันก็อยู่ในระดับหนึ่ง แต่เป็นระดับที่น่ากลัวเกินไปมันอันตรายสำหรับหนุ่มสาวอย่างแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ เธอได้แต่ภาวนาให้ลูกสาวของเธอเข้าใจกับเรื่องนั้นและขอให้เป็นมิตรภาพระหว่างเพื่อนอย่างแท้จริงโดยไม่มีสิ่งใดแอบแฝงเลย
เพื่อเป็นการแก้ปัญหา นางวิสลี่ส์จึงยินยอมให้พวกเขาไปกัน แต่เธอขอร้องให้ไปถัดจากวันนั้นอีกหนึ่งวัน แน่นอน เมื่อจินนี่รับรู้เธอเริ่มบ่นเล็กน้อยและพยายามที่จะขอตามไปด้วย เธอบอกว่าเธอเองก็เป็นเพื่อนเฮอร์ไมโอนี่เหมือนกันและเธอก็มีสิทธิที่จะไปด้วยเช่นเดียวกับพกเขา แฮร์รี่และรอนตอบเพียงคำเดียวอย่างหนักแน่นว่าพวกเขาจะขอไปเองตามลำพังแค่สองคนโดยมีบิลเป็นผู้พาไปเท่านั้น ลูน่าเข้าใจพวกเขา ว่าทำไมเขาถึงไม่ต้องการให้จินนี่ไปด้วย และความเป็นจริงแฮร์รี่ยังคงผิดหวังกับคำพูดและท่าทางของจินนี่ในวันคริสมาสต์ที่ผ่านมาอยู่ ใช่ถึงแม้เธอจะขอโทษในคำพูดนั้นแต่คำพูดของเธอเหมือนเชื้อไฟและมันไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้อง แฮร์รี่ยอมรับคำขอโทษของเธอ แต่เขาก็รู้สึกปั่นป่วนกับการกระทำของเธอ
ทำไมเขารู้สึกรำคาญใจเมื่อเขาคิดถึงเรื่องจินนี่ ในเมื่อวันรุ่งขึ้นเขาจะได้พบเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง โอ้วพระเจ้าเขาคิดถึงเธอ
.....................วันรุ่งขึ้น.......................
อพาทธ์เม้นของบิล
ห้องนั่งเล่น
เฮอร์ไมโอนี่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เพียงลำพัง นั่นก่อนที่จะมีเสียงเคาะประตูห้องและเสียงพูดที่ดังอยู่หลังบานประตูนั้นทำให้เธอรู้ว่าเป็นใคร
“ฉันเอง เฮอร์ไมโอนี่ ดีน โทมัสไง ฉันวาดรูปเสร็จแล้วเลยลองเอามาให้เธอดูหน่อย”
“โอ้ว ดีน คอยแป๊ปนะ” เธอตอบกลับ 2-3นาทีต่อมาประตูก็เปิดออก
“หวัดดี เฮอร์ไมโอนี่” ดีนยิ้มให้เธออย่างสดใสพร้อมก้าวเข้ามาภายในห้อง
“หวัดดี มานี่เถอะ”เฮอร์ไมโอนี่ลากเขามานั่งที่โซฟาเมื่อเห็นเขายืนเขินๆอยู่กลางห้อง
“ฉันคงไม่ได้ทำให้เธอรอหรอกนะ” ดีนกล่าวแล้วดึงเอากระดาษหนังออกมาจากกระเป๋า
เฮอร์ไมโอนี่รับกระดาษหนังมาจากเขาและพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อเธอเห็นภาพวาดมันไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นจริง แต่มันสมบูรณ์มาก
“อ่า มันดี มันเยื่ยมไหม” ดีนถามเธอ กระวนกระวายเล็กน้อย
“ดี มันดีมากเลย มันสมบูรณ์ ดีนฉันแน่ใจว่านายจะต้องเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่แน่ๆเลย”เธอกล่าวและกอดเขาแน่นเหมือนตอบแทนคำขอบคุณที่เธอมีให้
ในขณะนั้นทั้งดีนและเฮอร์ไมโอนี่ได้ยินใครบางคนตะโกนด้วยเสียงอันกราดเกรี้ยวบางอย่างจากด้านหลังของพวกเขา
“ฉันคิดเรื่องไร้สาระได้ยังไงกันว่าเธอรู้สึกโดดเดี่ยว และกำลังมีความทุกข์ ในเมื่อฉันเพิ่งเห็นเธอกับผู้ชายคนหนึ่งเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์”
เสียงเกรี้ยวกราดที่ดังออกมาจากปากของแฮร์รี่ พอตเตอร์พร้อมใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาและบิลที่ยืนยิ้มเจื่อนๆอยู่ข้างๆ รวมทั้งรอนที่ยืนหน้าซีดอยู่ด้านหลัง
มีผลทำให้พวกเขาผละออกจากอ้อมกอดของกันและกันในทันที
ความคิดเห็น