ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic แปลHarry potter Hogwarts Twilight (เซดริก/เฮอร์ไมโอนี่)

    ลำดับตอนที่ #6 : Chepter : 6 เกรนเจอร์และคำกล่าวของเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 52


    Chapter six
    Granger and statements
    เกรนเจอร์และคำกล่าวของเธอ
    ________________________________________

    เนื่องจากแฟนคลับของผมที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นมันทำให้ผมมีประสบการณ์ในการหลบเลี่ยงและซ่อนตัวได้ชำนาญมากยิ่งขึ้น น่าแปลกใจที่แฟนคลับของผมนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ภายในสองสามวันที่ผ่านมานี้ นับตั้งแต่การประกาศของดับเบิลดอร์เรื่องการที่ผมได้เข้าร่วมแข่งขัไตรภาคีในครั้งนี้ด้วย ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยชอบใจนักแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ดีมากไปกว่าการหลบหลีกปัญหาต่างๆให้พ้นตัวไป

    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ มีพายุฝนเข้ามาและฝนเริ่มตกหนัก ทำให้คนส่วนใหญ่จะอยู่แต่ภายในหอนอน และห้องรับแขกรวม ผมพยายามหลบเลี่ยงเหล่าบรรดาแฟนคลับที่มีทั้งในบ้านผมเองและบ้านอื่นที่มาออกันอยู่หน้าหอ รวมถึง โซ แซง ด้วยซึ่งจุดประสงค์หลักของเธอก็คือการต้อนผมให้จนมุมเพื่อเป็นแฟนของเธอแบบจริงจังให้ได้ และผมก็พายามหลบหลีกพวกเธอเพื่อไปยังห้องสมุดจนได้ในที่สุด

     
    ผมเดินเข้ามาภายในห้องสมุดและทิ้งแฟนคลับไว้ให้อออยู่ภายนอก ผมพยายามเลือกมุมที่เงียบสงบและมืดสลัวซื่งนั่นทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายได้มาก มาดามพินซ์มองผมอย่างตำหนิ เพราะเสียงวุ่นวายของเหล่าบรรดาแฟนคลับของผมที่เริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆแต่ผมนั้นพยายามไม่สนใจพวกเธอ โดยการหามุมที่เงียบสงบจริงๆเท่านั้นและตัวผมเองในตอนนี้ก็ตั้งใจว่าที่จะเขียนถึงพ่อแม่ของผมเพื่ออธิบายถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงนี้

    ผมคิดว่ามันคงเป็นการดีถ้าผมมีพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์จริงๆที่จะยินดีกับตำแหน่งที่ผมได้รับ แต่........ พ่อแม่ของผมในความเป็นจริงไม่ใช่มนุษย์พวกเขาเป็นแวมไพร์เหมือนๆกับผมผมกำลังคิดอย่างขำๆอยู่เสมอว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างน๊า ถ้าแวมไพร์สองตนมาถึงฮ๊อกวอตส์ พวกเขาจะทำอะไรกัน ผมเองก็ไม่ค่อยชอบใจกับความคิดของผมสักเท่าไหร่นัก และภาวนาอย่าให้เป็นจริงขึ้นมาเลย ผมนั่งพิงหลังไปที่กำแพงอย่างสบายอารมณ์และผมก็ตัดสินใจแล้วว่าในวันนี้จะขอเป็นตัวของตัวเองสักวัน


    ถึงแม้ว่าผมอาจจะมีอายุเป็นร้อยๆ ปี แต่ถ้าเทียบกับ เอมอสและคาร่า พ่อแม่ของผม นับได้ว่าผมนั้นเป็นแค่เด็กน้อยที่เพิ่งหัดเดิน เตอะ แตะ เท่านั้นเอง ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้นเวลาที่ผมต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆมากมาย

    ผมจ้องมองดูกระดาษหนัง และคิดล่องลอยไปไกล ถ้าผมเขียนมันขึ้นมา มันจะเต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ ที่จะส่งผลให้พ่อแม่ของผมกังวลและอาจจะถึงขั้นบุกมาที่ฮ๊อกวอตส์เลยก็ได้ ซึ่งนั้นไม่เป็นการดีสำหรับตัวผมเองแน่ๆ

    เวลาผ่านไปมากกว่า 5 นาที ผมตัดสินใจแล้วว่าการเขียนจดหมายนั้นไม่สามารถช่วยอะไรให้ดีขึ้นมากมายนักถ้าผมจะต้องเล่าความเป็นจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นทุกๆอย่างลงไปผมเริ่มยิ้มออกมาได้ แล้วผลักม้วนกระดาษห่างตัวก่อนนั่งพิงหลังกับเก้าอี้แล้วหลับตาเพื่อผ่อนคลายและในเกือบจะทันใดที่ผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างขยับเขยื้อนอยู่ด้านหลังของผม ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมมีเหตุผลเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงการเขียนจดหมายได้อย่างสิ้นเชิง


    ผมเหลียวหลังกลับไปมองอย่างข้องใจและผมได้เจอกับนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือใกล้ๆตัว ผมเองค่อนข้างประหลาดใจ และพึงพอใจในเวลเดียวกัน ประหลาดใจย่อมมีแน่นอนเพราะในบริเวณที่ผมอยู่นั้น ผมไม่คิดว่าจะได้เจอใครแต่กลับมาเจอเธอ คนที่ทำให้ผมพึงพอใจในเวลาเดียวกันนี้ ยายหนอนหนังสือบ้านกริฟฟรินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์

    เฮอร์ไมโอนี่ ไม่ได้มองหาหนังสือแต่อย่างไร แต่ดูเหมือนว่าเธอจะนำหนังสือที่ถึงกำหนดแล้วกลับมาวางไว้ตรงที่เดิมของมัน

    ผมกอดอกมองดูเธอในเงามืดระหว่างที่เธอพยายามรวมรวมความคิด ซึ่งนั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหากับผมสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่รบกวนจิตใจของผมคือการที่ความคิดของเธอพยายามจะหลีกหนีจากผมหรือพูดง่ายๆก็คือผมไม่รู้ความคิดของเธอเหมือนคนอื่นๆ

    จิตใจของเธอดูเหมือนจะไม่อยู่กับตัว เธอกัดริมฝีปากตัวเอง ระหว่างที่ดวงตาของเธอ ตรวจสอบชื่อเรื่องของหนังสือก่อนที่หนังสือพวกนั้นลอยขึ้นไป หลังจากนั้นริมฝีปากเธอจึงดูผ่อนคลาย มือของเธอจับอยู่ที่สันหนังสือแล้วจึงผลักมันกลับไปที่เดิม ดวงตาของเธอนั้นส่องประกายเหมือนว่าเธอได้รับชัยชนะอะไรบางอย่าง เธอไม่ได้รู้ตัวสักนิดว่าปฎิกิริยาของเธอดูงดงามสักแค่ไหนสิ่งนั่นทำให้แวมไพร์หนุ่มที่แฝงตัวอยู่ในเงามืดเพื่อแอบมองเธอเผลอตัวออกมาจากที่ซ่อนอย่างงงงัน

    เซดริกก้าวออกมาจากเงามืดเหมือนมนต์สะกด เขารู้สึกได้ว่าเขานั้นยืนอยู่สูงกว่าเธอ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้ตัวใหญ่กว่าเธอสักเท่าไหร่เขายืนอยู่ด้านหลังเกือบสัมผัสเธอได้ใกล้ชิด เขาระงับอารมณ์อันพลุ่งพล่านโดยการยึดมือทั้งสองของเขาในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างเพื่อป้องกันการไขว่คว้าร่างบางไว้แนบอก

    ดูเหมือนหญิงสาวข้างหน้า จะไม่รู้สึกตัวสักนิด ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ด้านหลังของเธอจนเกือบจะแนบชิดในขณะนั้น มันทำให้ผมพอใจกับความเป็นแวมไพร์ของผมขึ้นมานิดๆ ผมก้มหน้าลงไปสูดดมซอกคอของหญิงสาวเบาๆกลิ่นหอมอ่อนๆที่ลอยมาจากผิวกายของเธอ ปะทะกับสันจมูกของผมทำให้ผมรู้สึกดีอย่างประหลาด อันที่จริงผมเองก็ไม่อยากเอาเปรียบเธอมากนัก ถ้าเธอรู้เข้าอาจจะดูไม่ดีในสายตาของเธอ  แต่กลิ่นหอมจากกายเธอนี่สิทำให้สมองของผมแทบจะไม่ทำงานเอาเสียเลย  และถ้าผมยังดอมดมกลิ่นกลายของเธอแบบนี้ต่อไป  ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะยับยั้งตัวเองได้สักแค่ไหน


    เซดริกแก้ปัญหาในข้อนี้โดยการแนบริมฝีปากกระซิบเบาๆใกล้ๆหูให้เธอได้รู้ตัว

    ครั้งนี้เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉันหรอกหรือเซดริกเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา ซึ่งทำให้นักเรียนหญิงบ้านกริฟฟินดอร์ หันหลังกลับโดยเร็วตามสัญชาติญาณ ช่วงจังหวะที่เฮอร์ไมโอนี่หันหน้ากลับมา  จมูกของเธอชนเข้ากับแก้มของเซดริค ที่ยังคงก้มหน้าอยู่ระดับเดียวกับใบหูของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ผงะหน้าออกไปโดยเร็ว พร้อมถอยหลังจนไปสุดชั้นหนังสือด้วยความตกใจ เธอหน้าแดงก่ำจนถึงใบหู ภาพนั้นทำให้เซดริกมองอย่างชอบใจ เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าหลบสายตาที่ร้อนรุ่มนั้น เธออ่านสายตาของเซดริกออก เฮอร์ไมโอนี่พยายามตั้งสติของตัวเอง ก่อนที่เธอจะจ้องมองเขากลับอย่างกินเลือดกินเนื้อ

    นั่นคือคำถามหรือเปล่า ดิกกอรี่เฮอร์ไมโอนี่ถามระหว่างที่เซดริกมองเธออย่างยิ้มๆ

    ไม่ต้องพูดอะไรแล้วเกรนเจอร์ ……… เชื่อเถอะมันจะต้องเจ็บมากกว่านี้แน่ ถ้าฉันไม่ได้เฝ้าระวังให้เธอ เซดริกมองชั้นหนังสือซึ่งอยู่ด้านหลังของเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเป็นหมวดกีฬาหนังสือในชั้นนี้ทั้งชั้นเป็นปกที่เคลือบด้วยไขของตัวเฟร็ค(นามสมมติ) ซึ่งไขของมันทำให้ปกหนังสือแข็งแกร่งและหนาเป็นพิเศษ และแน่นอนถ้าเฮอร์ไมโอนี่ ทำชั้นล้มอีก เธอคงจะเจ็บมากกว่าคราวก่อนแน่ เช็คดริกมองดูที่หนังสือที่เธอถือ ก่อนที่เธอจะกอดมันไว้แน่นแนบอก

    ฉันไม่ได้พยายามที่จะทำอะไรทั้งนั้นดิกกอรี่………. ฉันแค่ถามง่ายๆว่า นั่นคือคำถามหรือเปล่าเธอกล่าวด้วยแก้มของเธอที่แดงขึ้นเล็กน้อย

    เชดริกมองดูเธอระหว่างที่เธอพยายามเบิกตาให้กว้างขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเธอ เซดริกไม่ตอบคำถามใดๆเขากลับเสคุยเรื่องหนังสือในมือของเธอแทน

    มันต้องเป็นหนังสือที่ดีแน่ๆ ถ้าเธอพยายามที่จะหามันในส่วนของหมวดกีฬาเซดริกกล่าวเขาไม่เคยเห็นหญิงสาวสนใจในเรื่องกีฬามาก่อนจึงน่าแปลกใจอยู่ใช่น้อย นี่เธอมาหาหนังสืออะไรอ่านกันแน่ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เซดริกสนใจและอยากรู้ เฮอร์ไมโอนี่ไม่พยายามที่จะสนใจเซดริกอีกเลยไม่ว่าเขาจะถามหรือเดินตามเธอมาถึงที่นั่งประจำของเธอแล้วก็ตาม

    หนังสือนั่น มีชื่อว่าอะไรเหรอเซดริกพูดขึ้นก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะทำท่าทาง ฮึดฮัดและนั่งบนเก้าอี้ของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ เปิดหนังสืออย่างแรง โดยพยายามที่จะไม่มองไปที่เขา

    เชดริกนั้นไม่สามารถที่จะลบรอยยิ้มบนใบหน้าเขาได้ ในระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ พยายามใจจดใจจ่ออยู่กับหนังสือเธอแต่ การปรากฏตัวของเขานั้นทำให้มันยากยิ่งขึ้น ในใจของเธอไม่มีสมาธิเท่าที่ควร มันคืออะไรกันแน่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกปั่นป่วนที่ช่องท้องอย่างหาสาเหตุไม่เจอ และนั่นมันทำให้เธออยากจะหายตัวไปจากที่นี่และที่สำคัญที่สุดหายตัวไปจากแววตาคมๆที่จ้องเธออยู่ในตอนนี้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันได้สังเกตแต่ที่เธอเห็นในตอนนี้คือ ใบหน้าซีดขาว และดวงตาเย็นๆของเซดริกที่จ้องมองเธออย่างเอาเป็นเอาตายจนเธอเริ่มจะรำคาญ

    อะไร

     

    เฮอร์ไมโอนี่กระแทกน้ำเสียงและจ้องมองเขาเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะเสมองไปที่อื่น เธอรู้สึกกลัวที่จะมองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าอมเทาของเขามันดูวังเวงเยือกเย็น และเปล่าเปลี่ยว มันดูเหมือนดวงตาของมนุษย์ที่ไม่ใช่มนุษย์ ดวงตาที่ไร้แววของความเป็นมนุษย์ เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเมื่อเซดริกบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการ

    ฉันรอชื่อของหนังสือเล่มนั้นอยู่ ฉันขอดูได้ไหมเพราะเธอเป็นหนี้ฉันสองหนแล้วนะเช็คดริกกล่าวและเริ่มทวงบุญคุณ

    ให้ตายเถอะ…….. นายจะอะไรกับฉันนักหนาเนี่ย แค่ชื่อหนังสือแค่นี้มันหาไม่ยากขนาดนั้นหรอก เฮอร์ไมโอนี่ถามโดยจ้องมองเขาอยู่

    เชดริกพยายามลบรอยยิ้มบนใบหน้าเขา แต่ไม่รวมถึงดวงตา เขาก้มลงไปหาเฮอร์ไมโอนี่ ใกล้ๆ โดยสัมผัสได้ถึงลมหายใจแรงของเธอ

    ฉันรู้สึกเธอไม่ต้องการคำตอบที่ไร้สาระจากฉันหรอกจริงไหมเชดริกกล่าวระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ฮึดฮัดและก้มลงมองที่หนังสือของเธอ

    เธออ่านความคิดของฉันล่ะสิเฮอร์ไมโอนี่พึมพำ ระหว่างที่เชดริกดึงตัวออกห่างเธอ ดวงตาของเขาหรี่ขึ้นเล็กน้อย ชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะมองกลับมาที่เธอ

    เปล่าฉันไม่เคยอ่านความคิดของเธอได้เลยเช็คดริกกล่าวตอบ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองที่เขาด้วยความประหลาดใจและความงุนงง เธอจ้องมองเขาโดยแทบไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ

    ก็ได้เธอพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะปิดหนังสือเพื่อให้เขาเห็นชื่อ

     

    หนังสือ………….ชัยชนะในอดีต : ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการแข่งขันระหว่างพ่อมดสามสถาบัน

    เชดริกหัวเราะ แต่ด้วยเสียงที่เป็นเสมือนคำรามมากกว่า มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ กระโดดขึ้นยืนและทำหนังสือหล่น ด้วยความตกใจ ก่อนที่เชดริกจะส่ายศรีษะและก้มหยิบหนังสือให้เธอ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองเขาอย่างประหลาด

    พอตเตอร์คงไม่ได้รับอนุญาติให้อยู่ ร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ถ้าคัมเบิลดอร์ยังไม่แน่ใจว่าเขาพร้อมสำหรับการแข่งขัน เชดริกกล่าวเพราะเขารู้แล้วว่าเฮอร์ไมโอนี่อ่านหนังสือพวกนี้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนของเธอเอง เฮอร์ไมโอนี่แก้มแดงเล็กน้อยเธอหันไปมองทางอื่น

    เธอดูเหมือนไม่มีทีท่าที่จะกลัวเลยนี่เฮอร์ไมโอนี่กล่าวโดยหันกลับมามองที่เขาระหว่างที่เชดริกคิดอยู่ว่าเขาเองก็กลัวอยู่แล้วเหมือนกันเพียงแต่ไม่ได้กลัวในสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ถามเขา

    นั่นเป็นคำกล่าวนะ ไม่ใช่คำถามเฮอร์ไมโอนี่อธิบายโดยแขวะเขาเล็กน้อย และคำกล่าวนั้นดูเหมือนเธอพึงพอใจในคำพูดก่อนที่เธอจะหันกลับไปที่หนังสือทิ้งให้ เชดริกจ้องมองดูเธอพร้อมรอยยิ้ม

    ฉันไม่รบกวนเวลาอ่านของเธอแล้วนะเกรนเจอร์ผมกล่าวระหว่างที่เฮอร์ไมโอนี่ยักไหล่โดยไม่แม้แต่จะชายตามอง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าผมโดนลอยแพอย่างถาวรแล้ว

    ผมหัวเราะน้อยๆกับกิริยาเมินเฉยของหญิงสาว ก่อนจะหันหลังกลับไปยังโต๊ะของผม แต่ผมก็ชะงักแล้วหันกลับไปมองหน้าหญิงสาวเมื่อผมได้ยินเสียงเรียกชื่อของผมจากปากของเธอ ผมเห็นเธอกำลังมองผมอย่างใช้ความคิดเล็กน้อย

    นายจะต้องเป็นคนที่เย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง แม้ว่าจะมีเวทมนตร์ อุ่นๆ รอบๆ โรงเรียนก็ตามเฮอร์ไมโอนี่กล่าวโดยที่ไม่ได้ละสายตาจากเชดริกเลย

    นั่นเป็นคำกล่าวเกรนเจอร์ไม่ใช่คำถามดังนั้นฉันก็ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องตอบเธอเชดริกพูดขึ้น ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว อย่างไม่เห็นด้วยก่อนที่เธอจะส่ายหน้า แต่ดวงตายังคงจ้องมองเขาอยู่

    ไม่ใช่สักหน่อย……… แค่การสังเกตุ …… มันเป็นทฤษฏีที่ว่าทำไมมือนายถึงได้เย็นนักเฮอร์ไมโอนี่กล่าวเสริมโดยจ้องมองเขาอย่างใกล้ชิดและยิ้มเยาะอย่างเป็นต่อ

     

    ผมเพียงแต่ยักไหล่และยอมแพ้กับการต่อปากต่อคำกับเธอแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะของผมภายหลังที่ผมมองกลับไปที่เธออีกครั้ง ก็พบว่าเธอได้ละสายตาจากหนังสือเล่มแรกแล้วหันไปสนใจเล่มอื่นแทน

    ในตอนนี้แล้วสิ่งที่รบกวนจิตใจของผมนั้นไม่เพียงแต่ที่ผมไม่สามารถอ่านความรู้สึกของเธอได้ แต่อีกอย่างหนึ่งก็คือ หนังสือเล่มที่เธออ่านอยู่นั้นผมเคยเห็นมาก่อน……… ชาลิตส์ คัลแลน(คัลแลนคือต้นตระกูลหนึ่งของแวมไพร์) เป็นหนึ่งในหนังสือที่อยู่บนชั้นวางหนังสือของผม

     

    เธอต้องการจะหาอะไรกันแน่ เกรนเจอร์!


    เช็คดริกผลุนผลันออกจากห้องสมุดและใช้ความชำนาญในการหลบหลีกแฟนคลับของเขาและหายตัวไปกับเด็กนักเรียนที่เดินกันขวักไขว่นั้นจนได้ ในที่สุด
    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

     

    ตัวอย่างตอนต่อไป

    เธอกำลังค้นคว้าเรื่องอะไรเชดริกถามด้วยน้ำเสียงที่ลอดออกมาจากไรฟัน ทำให้แฮร์รี่นั้นเงยหน้าขึ้นและจ้องมองมาที่เขา

               

    บางอย่างเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในด้านมืด………  น่าจะเป็นแวมไพร์มั้งแฮร์รี่ตอบระหว่างที่

    เชดริกคำรามเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองทางอื่น

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×