คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER 6 สลับคู่สลับข้างอลเวง
ตอนที่6 สลับคู่สลับข้างอลเวง
ทั้งทรีโอน่าและรอนดูซื้อของกันอย่างเซ็งๆเมื่อโดนจับคู่ที่ไม่คาดฝันแบบนี้พวกเขาทั้งคู่แทบไม่ได้คุยกันเลย รอนดูมีท่าทางหงุดหงิดตลอดเวลาในขณะที่ทรีโอน่ากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
ในที่สุดทรีโอน่าก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนจนได้
“นายชอบเธอ” คำพูดของทรีโอน่าทำให้รอนเป็นฝ่ายหยุดชะงักเขาหันมามองทรีโอน่าแล้วเลิกคิ้ว
“เธอว่าอะไรนะ” เขาย้ำถามอย่างไม่มั่นใจในสิ่งที่เขาได้ยิน
“ฉันบอกว่านายชอบเธอ”ทรีโอน่ามองตารอนเขม็งเหมือนต้องการคำตอบ
“เธอหมายถึงใคร”
“อย่ามาแกล้งไก๋หน่อยเลยรอน” ทรีโอน่าส่งเสียงหัวเราะเล็กน้อยในขณะที่รอนหน้าแดงไปแล้วตอนนี้
“ถ้าเธอหมายถึงเฮอร์ไมโอนี่แล้วล่ะก็ พวกเราเป็นเพื่อนกัน” รอนยังคงปากแข็งเหมือนเดิมและนั่นมันทำให้ทรีโอน่าแทบทนไม่ได้ กับความซื้อบื้อของเขา
“แต่แววตาของนายที่มองเธอมันไม่เหมือนแววตาของเพื่อนสักนิด อย่ามาโกหกฉันซะให้ยาก”
คราวนี้รอนชักเริ่มหงุดหงิดกับคำพูดของเธอ เขาโยนอาหารถุงลงไปในรถอย่างหัวเสียแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับเด็กสาวจอมจุ้นจ้านคนนี้
“แล้วเธอล่ะ เธอชอบเขา”รอนพูดพร้อมกับกอดอกและยิ้มเยาะอยู่ในที และเมื่อทรีโอน่าตอบกลับมันทำให้รอยยิ้มของรอนจางลงอย่างเห็นได้ชัด
“ใช่ ฉันชอบเดรโกมัลฟอยและฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาหันมาชอบฉัน”
“โห เธอนี่น่ากลัวนะทรีโอน่า” คำพูดและการแสดงออกทางหน้าตาของรอนทำให้ทรีโอน่าอดหัวเราะไม่ได้
“ทำไมล่ะ การที่ฉันชอบผู้ชายคนหนึ่งและอยากให้เขามารักเรา มันน่ากลัวตรงไหน จริงอยู่ฉันอาจจะเป็นคนที่ตรงและกล้าเกินไปสำหรับผู้หญิง แต่ฉันก็รู้ใจตัวเองและกล้าที่จะยอมรับว่ารักเขา ไม่เหมือนใครบางคนที่ ไม่ แม้แต่จะกล้าบอกออกมาเป็นคำพูด”
“แล้วเธอล่ะ เธอบอกรักมัลฟอยแล้วงั้นเหรอ”รอนเอาคำพูดของทรีโอน่ามาถามเธออย่างแปลกใจในบุคลิกที่เปลี่ยนไปจากเดิมของเธอ
“ยัง แต่ไม่ต้องห่วง ฉันต้องทำตัวให้ดูดีสักหน่อยก่อนค่อยสารภาพรักกับเขา มันคงยังไม่สายหรอก ใช่ไหม”ทรีโอน่ายิ้มและมองรอนอย่างท้าทาย
“ฉันคงต้องมองเธอใหม่แล้ว ทรีโอน่า”รอนพูดออกมาตรงๆเขามองทรีโอน่าด้วยสายตาแข็งกร้าว
“นายคงไม่เข้าใจฉันผิดใช่ไหมรอน”คราวนี้น้ำเสียงของทรีโอน่าเปลี่ยนเป็นอ่อนลงอย่างชัดเจน
“การที่ฉันกล้าพูดเปิดอกกับนายเพราะฉันอยากจะทำความเข้าใจ และตกลงเรื่องเล็กๆน้อยๆกับนายสักหน่อย” ทรีโอน่าพูดแล้วจับตาดูท่าทางของรอน
“เธอหมายความว่ายังไง”รอนดูท่าทางสับสนเล็กน้อยกับคำพูดของเธอ
“ฉันสามารถช่วยนายให้สมหวังในเรื่องความรักได้นะสิ”
“และ.....เธอคงต้องการให้ฉันช่วยเรื่องมัลฟอยแลกเปลี่ยนกับการที่เธอช่วยฉันงั้นสิ”รอนพยายามยืดความสุงอย่างเต็มที่เหมือนต้องการให้เธอรู้ว่าเขาทันความคิดของเธอ เพียงแต่ทรีโอน่าส่ายหัวและเดินเข้ามาใกล้เขาพลางพุดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่ รอน เรื่องเดรโก ฉันจัดการเองได้ เพียงแต่......” ทรีโอน่ามองเขานิ่งและเงียบอยู่นานจนคนฟังเริ่มหงุดหงิด “อะไร”
“แค่นายทำตามที่ฉันแนะนำ เรื่องมันอาจจะง่ายเข้า”น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความมั่นใจ ทำให้รอนเกร็งตัวขึ้น แต่ทรีโอน่าไม่ทันได้สังเกตุเห็นเธอยังคงพยายามโน้มน้าวใจรอนให้รู้ในผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับ
“เพียงแค่นายตกลง รอน ทุกอย่างจะเป็นตามที่นายต้องการ”
รอนยืนนิ่งอยู่กับที่เป็นเวลานานเพื่อรวบรวมความคิดบางอย่างเข้าด้วยกัน
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เมื่อทุกคนกลับมาถึงที่พักทรีโอน่าขอตัวกลับเข้าบ้านก่อนส่วนรอนขึ้นไปเก็บของในห้องของเดรโกดังนั้นจึงเหลือแต่เฮอร์ไมโอนี่และเดรโกสองคนที่นำของใช้ที่ซื้อมาเก็บเข้าตู้ แต่ดูเหมือนว่างานหนักจะตกอยู่ที่เฮอร์ไมโอนี่มากกว่า เพราะเดรโกไม่ยอมที่จะแตะอะไรเลย
เดรโกนั่งลงที่เบาะหน้าเคาเตอร์และมองไปที่เฮอร์ไมโอนีที่กำลังนำอาหารที่ซื้อมาเก็บเข้าที่อย่างเพลิดพลิน สักครู่หนึ่งเฮอร์ไมโอนีก็สังเกตเห็นว่าเดรโกมองมาที่เธอ เธอเริ่มระวังตัวเองมากยิ่งขึ้นและไม่แสดงออกให้เดรโกเห็น เธอหยุดและคิดถึงเรื่องรอยจูบเธอเอามือแตะที่ริมฝีปากจากนั้นก็จ้องไปที่เดรโก
“นายมองฉันทำไม?” เธอถามเมื่อหมดความอดทนกับเดรโก ที่เอาแต่เฝ้ามองเธออยุ่ตลอดเวลาแบบนี้
เดรโกหันกลับมามองเธอพร้อมกับพูดว่า “ทำไม! อะไร?” เขาถามกลับแต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบคำถามของเดรโก เธอเดินเข้ามาใกล้เขาแล้วท้าวสะเอว
“นายคิดที่จะนั่งอยู่ที่นั่นทั้งวัน ไม่คิดที่จะมาช่วยฉันทำบ้างหรือไง?” เธอถามเสียงดังขึ้น
เดรโกมองไปที่เธอด้วยสีหน้าประหลาดเหมือนกับเธอมีปีกงอกออกมา
“ช่วยงั๊นหรอ? ความจริงแล้วถ้าเธอไม่รังเกียจ ฉันก็อยากจะนั่งอยู่ที่นี่และมองดูเธอทำงาน” เขาตอบพร้อมกับยิ้มเยาะแบบพวกมัลฟอย
“ที่จริงแล้วฉันรังเกียจ! ตอนนี้นายเอานิสัยขี้เกียจ, ไม่มีประโยชน์ และ ก้นใหญ่ๆของนายลุกออกไปซะ แล้วมาช่วยฉัน!” เธอพูดเสียงดังด้วยความโกรธ
“ขอโทษ!” เขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน “ฉันจะบอกว่าฉันไม่ได้เป็นคนไม่มีประโยชน์! ถ้าขี้เกียจล่ะก็ ใช่เลย! แต่เรื่องก้นใหญ่เนี่ยฉันขอปฎิเสธ!” เขาพูดเสียงดังพร้อมกับมองไปที่เธอ ขณะเดียวกันก็มองไปที่ด้านหลังและหมุนตัวไปรอบๆและพูดว่า “ดูสิฉันก้นใหญ่ที่ไหนกัน”
เฮอร์ไมโอนีกลอกตาไปมา “ก็ได้ แต่ยังไงก็แล้วแต่ ทุกอย่างฉันเป็นคนทำ” เธอตอบ
เดรโกหันกลับมาและมองไปรอบๆก็พบว่าเธอทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว “เธอทำได้อย่างไร?”
“ทำอะไร?”เฮอร์ไมโอนี่ไม่เข้าใจ
“ก็เก็บทุกอย่างเข้าที่ได้เสร็จภายใน 2 วินาที”เขาพูดแล้วกวาดสายตามองไปยังชั้นวางของด้านหลังเธออย่างชื่นชม เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ
“มันไม่ใช่ 2 วินาที และเพราะว่าฉันไม่ได้มีก้นใหญ่ที่จะใช้เวลาเป็นชั่วโมงเหมือนนาย มัลฟอย”เธอเหน็บแนมใส่เขา
“ฉันไม่ได้ก้นใหญ่” เขาพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจ
“นายแน่ใจ?”เฮอร์ไมโอนี่ถามกลับพร้อมยิ้มเยาะแล้วมองไปที่ก้นของเดรโก เขาหน้าแดงเล็กน้อยก่อนที่จะมองเธอ เขานึกอะไรบางอย่างได้ ก่อนที่จะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วเดินตรงมาที่เธออย่างช้าๆ
“เธอต้องการพิสูจน์ไหมล่ะ?”
เฮอร์ไมโอนี่เชิดหน้าถามอย่างไม่กลัวเกรงอีกฝ่ายแต่อย่างใด
“นายจะพิสูจน์ให้ฉันเห็นอย่างไรล่ะ?”
เดรโกยิ้ม
“ก็ทำอย่างนี้ไง” เขาพูดช้าๆพร้อมปลดเข็มขัดออกแล้วรูดซิบกางเกงลง
“โอ...พระเจ้าช่วย มัลฟอย!” เธอร้องพร้อมกับเอามือปิดตาไว้
เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงหัวเราะที่ยียวนของเดรโกพร้อมๆกับความรู้สึกว่าตัวเขาอยู่ใกล้เธอเพียงใด
“เธอควรที่จะลองสัมผัสมันดูน่ะ” เขาพูดลากเสียงยาวพร้อมกับดึงมือของเธอลงเฮอร์ไมโอนี่สะบัดมืออย่างแรงพร้อมกรีดร้องลั่น
“ออกไปให้ไกลๆจากฉันน่ะ!”
“เกรนเจอร์ เธอไม่เห็นจะต้องร้องเสียงดังเป็นหมูเลย ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ก็แค่แกล้งเธอเล่น ใครจะบ้าแก้กางเกงให้ผู้หญิงดู! ” เขารำคาญพร้อมกับเอามือปิดหูจากเสียงกรีดร้อง
“ฉันไม่ได้ร้องเหมือนหมูนะ!” เธอตอบอย่างโกรธจัด
“แน่นอน เธอไม่ได้เป็น” เขาพูดพร้อมกับเอามือที่ปิดหูออกเมื่อแน่ใจว่าหุของเขาจะไม่มีมลพิษของเสียงเข้าไปทำลายระบบประสาทของเขาได้แล้ว
“มัลฟอยนายนี่มัน สุดจะทนแล้วนะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วก็เดินออกไปแต่มัลฟอยกลับจับแขนเธอไว้เสียก่อน
“เธอกำลังจะไปไหน?” เขาถาม
“ไปให้พ้นจากนาย ” เธอพูดโดยไม่หันกลับไปมอง
“ฉันเป็นคนที่แย่มากเลยหรือไง?” เขาถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้เธอมากกว่าเดิม
“ใช่, นายแย่มาก” เธอตอบ
“ก็ได้ เรื่องจริงก็ดีกว่าเรื่องโกหกเป็นไหนๆ” เขายักไหล่ “แต่ตอนนี้ฉันหิว!” เขาพูดเสียงอ้อนให้เธอได้ยิน
“นายก็ทำอาหารด้วยตัวเองซิของก็มีให้แล้ว!” เธอตอบกลับ
“ฉันคือมัลฟอย---”
“หยุด! อย่าพูดว่านายคือมัลฟอย!” เธอพูดเสียงดัง
“ก็ได้ ฉันขอโทษ! ฉันแค่อยากจะบอกว่าฉันจะไม่ทำอาหารเอง!” เขาพูดไปพร้อมกับเดินตามเธอ ซึ่งเธอได้เดินหนีเขาเป็นวงกลมภายในครัว
“ที่นี่ เราต้องทำเองทุกสิ่งทุกอย่าง!” เธอพูด และสุดท้ายก็หยุดเดินเมื่อเริ่มรู้สึกเวียนหัว
“เธอคิดที่จะฝึกทำอาหารจากของที่ซื้อมางั๊นหรอ?” เขากล่าว
“แล้ว...นายคิดว่าไงล่ะ?” เธอถามและคิดถึงของทั้งหมดที่ซื้อมา บ้าที่สุด! ทำไมฉันต้องมาทำแบบนี้? ฉันไม่คิดว่าจะต้องมาทำแบบนี้ เธอคิด
“เธอไม่ต้องซีเรียส ฉันรู้วิธีการทำอาหาร, แล้วเธอล่ะ?” เขาถามพร้อมกับมองไปที่เธออย่างดูแคลนเล็กน้อย
“นี่นายคิดจะให้ฉันทำหรอ?” เธอตอบ
“ใช่แล้ว... ฉันอยากให้เธอทำเพราะว่า ฉันหิว ฉันทำอาหารไม่เป็น และที่นี่ก็มีเพียงเธอเท่านั้น เฮอร์ไมโอนี ” เขาตอบเหมือนกับเด็กอายุ 2 ขวบ
“อะไรน่ะก็เมื่อกี้นายเพิ่งบอกหยกๆว่านายทำอาหารเป็น?”เธออุทานเสียงดัง
“พระเจ้า! เธอเป็นแม่มดที่ฉลาดที่สุดในรุ่นของเราน่ะ! และเธอก็เป็นผู้หญิง! เธอต้องเป็นคนทำอาหารสิ!แล้วก็ใช่ ฉันพอทำได้แต่ไม่เก่งมากมายนัก” เขาอุทานเสียงดังกว่า
“ใช่ ฉันเป็นผู้หญิง แล้วทำไม, มัลฟอย ขอบคุณมากที่บอกให้ฉันรู้หลังจากที่รู้จักกันมามากกว่า 7 ปี! การที่ฉันเป็นผู้หญิง ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องเป็นคนทำอาหารให้เธอน่ะยะ!” เธอพูดในเรื่องที่เป็นความจริง
“ใช่, ฉันรู้ดี!” เขาพูด “แต่, ได้โปรดทำให้ฉันได้ไหม?” เขาพูดเสียงหวาน และพยายามทำสีหน้าให้ดูเศร้าสร้อย
โอ...ฉัน...ใครจะสามารถทนได้, เฮอร์ไมโอนี่คิด
“นายก็รู้, นายจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้การทำอาหารและเพื่อช่วยตัวนายเอง ซึ่งไม่มีใครที่จะช่วยนายได้” เธอพูดโดยไม่ได้มองหน้าเขาและไม่ได้แสดงอาการโกรธใดๆที่เขายังคงตามเธอ
มัลฟอยส่งเสียงออกทางจมูก แล้วพูดว่า “มันก็ใช่ แต่ฉันสามารถที่จะเรียนรู้วิธีการช่วยเหลือตัวเองในเวลาอื่นก็ได้ไม่ใช่หรอ?” เขาถาม
“แต่ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยนะมัลฟอย” เธอตอบ
“เอาเฮอะจะคิดยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้ เกรนเจอร์! ฉันหิว!” เขาครวญคราง
“ก็ได้ ถ้ายังงั้นไปกันเลย!” เธอพูดและคว้าแขนเขาพลางลากเข้าไปหาสิ่งที่เขาต้องการ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เดรโกยิ้ม เมื่อถูกเฮอร์ไมโอนีลาก เขาคิดว่าเธอกำลังจะพาเขาเข้าไปในครัว เขาจึงตามไป แต่เขาก็ต้องผิดหวังเพราะเขากลับถูกพาไปที่ห้องสมุดแทน
“เรามาทำอะไรกันที่นี่? ฉันบอกว่าหิว! ฉันไม่ได้หมายความว่าฉันหิวหนังสือซักหน่อย!” เดรโกพูดอย่างหงุดหงิด และก็รู้สึกสับสนที่ถูกพามาที่นี่
“เงียบน่ะ, นั่งลง และก็รอเดี๋ยว!” เธอตอบ จากนั้นเธอก็ผลักเขาให้นั่งลงที่เก้าอี้ แล้วเดินไปเพื่อหาหนังสือที่หมวดการทำอาหาร
“วันนี้เธอเป็นอะไร ผลักฉันทั้งวัน หยาบคายที่สุด!” เขาพูดอย่างไม่พอใจ
“นายรู้ตัวหรือเปล่าว่าชอบวางอำนาจ?” เธอตอบ
“ทำไมเราต้องมาอยู่ที่นี่? ฉันหิว!” เขาบ่นและไม่ฟังคำถามของเธอ “หิวข้าว!” เขาพูดเสริมทันทีที่คิดได้ว่าเธอพาเขามาที่ห้องสมุดแทนที่จะไปที่ห้องครัวตามที่เขาคาดหวังไว้
“ฉันจำได้ว่าฉันบอกให้นายเงียบ!” เธอกล่าว
“ฉันไม่เงียบ! ก็มันน่าเบื่อ!” เขาตอบ “และก็เพราะเธอไม่เงียบ, มันจึงทำให้เธอไม่เบื่อ!” เขาพูดเสริมเฮอร์ไมโอนีหยุดและหันกลับไปมองที่เขาพร้อมถามด้วยเสียงเรียบว่า “นายต้องการอาหารหรือเปล่า?”
เดรโกมองไปที่เธอและเข้าใจว่าถ้าหากเขาไม่เงียบ เขาอาจจะต้องตายเพราะความหิว ดังนั้นเขาจึงเงียบไม่พูดอะไรอีกเลย เขานั่งรอ พร้อมกับมองไปที่เธอด้วยเสียงท้องร้องที่ดังมาก
เฮอร์ไมโอนีรู้สึกพอใจที่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เงียบซะที หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที เธอก็ออกมาพร้อมกับหนังสือทำอาหาร 10 เล่มในมือเธอ เธอโบกมือให้เดรโกลุกขึ้น และช่วยเธอถือกลับไปที่ห้องครัว เดรโกเลิกคิ้วมองไปที่เธอ และพูดว่า “เสร็จแล้วเหรอ!” แล้วเขาก็ทำตามเฮอร์ไมโอนีช่วยหอบหนังสือเข้าไปในครัวเพื่อตอบแทนเธอบ้างในกรณีที่เธออาจจะทำอะไรให้เขากินได้บ้าง
เมื่อทั้งคู่กลับมาถึงห้องครัว, เฮอร์ไมโอนีวางหนังสือทั้งหมดที่เคาเตอร์และเริ่มมองไปที่มัน เธอยังไม่พบอาหารที่สามารถใช้ส่วนประกอบที่มีอยู่ในการทำ
เธอปิดหนังสือเล่มแรกที่เปิดอ่านหลังจากอ่านไปแล้ว 5 นาที เธอคิดว่ามันน่าจะง่ายในการทำอาหาร
“เดรโก นายอยากกินอะไร?” เธอถาม
“อะไรก็ได้เกรนเจอร์, อะไรที่กินได้” เขาตอบ
‘งันก็ผัดมักกะโรนีชีส ก็แล้วกัน”
เฮอร์ไมโอนี่เตรียมเครื่องปรุงและเริ่มลงมือผสมเครื่องปรุงตามตำรามันค่อนข้างเก้งก้างอยู่บ้างเพราะเธอไม่เคยแม้จะทำอาหารมาก่อนเลยก็ตาม แต่เธอก็พยายามทำมันอย่างดีที่สุดจนกระทั่งอีกไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็นำอาหารมาวางไว้บนโต๊ะเป็นที่เรียบร้อย แต่เมื่อเดรโกเห็นอาหารที่เฮอร์ไมโอนี่ยื่นมาให้เขาตรงหน้า เดรโกถึงกับสำลักน้ำที่กำลังดื่มเพื่อคลายความหิวในทันที
“เออ นี่ นี่มันอะไรน่ะ เธอคงไม่ได้จะให้ฉันกินผัดมักกะโรนีไหม้ๆแบบนี้ใช่ไหม เฮอร์ไมนี่”
“ไม่รู้สิ มัลฟอย สุดฝีมือแล้วนะเนี่ย ”เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงอ่อยเธอเริ่มหน้าเสียที่เห็นเดรโกเบ้ปากแล้วทำท่าเขี่ยมักกะโรนีไปมา
“พวกเธอทำอะไรกันอยู่นะ”เสียงใสๆของทรีโอน่าดังขึ้นมาก่อนที่เธอจะเดินมาถึงในครัวเสียอีก
“ทำอาหาร”เดรโกตอบสั้นๆเมื่อเห็นทรีโอน่าเดินมาใกล้ที่เขายืนอยู่
เฮอร์ไมโอนี่ยักไหล่ทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยก่อนบอกกับทรีโอน่าถึงอาหารจานแรกที่เธอทำ
“แต่ดูเหมือนมันไม่ค่อยเข้าท่าสักเท่าไหร่น่ะ”
เดรโกหรี่ตามองเธอด้วยสายตาขุ่นเคือง เขาเริ่มโมโหหิวขึ้นมาบ้างแล้วในตอนนี้
“นี่เธอเรียกมันว่าไม่เข้าท่าเหรอ ฉันว่าไม่ได้เรื่องเลยต่างหาก ผู้หญิงอะไร”
เฮอร์ไมโอนี่หันขวับไปมองเดรโกแต่ก่อนที่เธอจะตอบโต้อะไรออกไปบ้างทรีโอน่าก็เป็นฝ่ายยุติปัญหาที่ทำท่าจะบานปลายออกไปเสียก่อน
“ถ้าเธอไม่รังเกียจฉันจะทำอาหารง่ายๆให้พวกเธอเอง”
ทรีโอน่าเดินมาที่ครัวเพื่อดูว่ามีอะไรที่เธอพอจะทำได้บ้าง ท่าทางของทรีโอน่าคล่องแคล่วจนเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเสียหน้า ความจริงเธอเป็นผู้หญิงแท้ๆแต่กลับหมกมุ่นกับเรื่องตำราเรียนเสียจนลืมเรื่องวิถีการใช้ชีวิตข้างนอกไปจนหมดสิ้น
เฮอร์ไมโอนี่เห็นเดรโกเดินเข้าไปใกล้ทรีโอน่าพร้อมอาสาช่วยทำ ทั้งคู่ช่วยกันทำอาหารและค่อนข้างจะเข้าขากันได้ดีบางครั้งเขาทั้งคู่หัวเราะให้กันอย่างสนุกสนาน เหมือนพวกเขาอยู่เพียงลำพังกันแค่สองคน พวกเขาคงลืมไปแล้วว่ามีเธอยืนอยู่ตรงนี้ด้วย มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้สึกว่าเธอเป็นส่วนเกิน หัวใจของเธอเริ่มรู้สึกแปลกๆมันหวิวๆและเจ็บปวด เฮอร์ไมโอนี่เดินออกไปเงียบๆเพื่อให้พวกเขามีเวลาร่วมกันสองคนโดยไม่มีเธอต้องเป็นส่วนเกิน
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
“รอนจัดของเสร็จแล้วเหรอ”เฮอร์ไมโอนี่ถามเมื่อเธอชะโงกหน้าเข้ามายังภายในห้องของเดรโกเพื่อเข้ามาดูเพื่อนชายหัวแดงของเธอ
“อือ เรียบร้อยแล้วล่ะว่าแต่พวกเธอทำอาหารเสร็จแล้วเหรอ”
“ยังหรอก มัลฟอยกับทรีโอน่ากำลังช่วยกันอยู่ในครัวน่ะ”เฮอร์ไมนี่ตอบเธอพยายามทำสีหน้าให้เบิกบานทั้งๆที่ใจจริงแล้วตอนนี้เธอมีความในใจที่ยากจะบรรยายอยู่เต็มอก
“ยายนั่นมาแล้วเหรอ” รอนถามแต่ดูเหมือนเขาจะรู้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว
“อือใช่”เฮอร์ไมโอนี่ทรุดตัวนั่งลงข้างๆรอนที่อยู่บนเตียงของเดรโก
“เออ เฮอร์ไมโอนี่ เธอมาก็ดีแล้วฉันมีรื่องอยากจะถามเธอหน่อย”รอนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ดูจริงจังจนเฮอร์ไมโอนี่อดแปลกใจม่ได้
“เอาสิ มีอะไรเหรอ”
“เออคือ .....เออ....”รอนพูดตะกุกตะกักเขาไม่มั่นใจนักว่าเขาจะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดดีหรือเปล่า มันถึงเวลาแล้วหรือเปล่า แต่อย่างน้อยๆเมื่อเขาได้รับคำตอบจากเธอเขาอาจจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้เร็วขึ้น และนั่นมันอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่สายเกินไปสำหรับเขา และ เธอ ก็อาจเป็นได้
“เฮ้ รอน มีอะไรหรือไง”เฮอร์ไมโอนี่จับมือของรอนเขย่าไปมาเพื่อให้รู้สึกตัว
“เธอ มีคนที่ชอบแล้วหรือยัง” รอนพูดโพล่งออกมาและเขาก็จ้องหน้าเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งกำลังสับสนกับสิ่งที่รอนถามเธอ
“รอน ทำไมถามแบบนี้ล่ะ มีอะไรหรือเปล่า”
รอนหน้าแดงในตอนที่เฮอร์ไมโอนี่ถามเขา เขาถอนหายใจอีกครั้งก่อนพูดสิ่งที่อยู่ในใจของเขาออกมา
“ฉันรักเธอนะ เฮอร์ไมโอนี่”
“รอน”เฮอร์ไมโอนีอุทานอย่างตกตะลึงเธอไม่สามารถพูดอะไรได้อีกเธอนิ่งอึ้งไปสักพักและฟังสิ่งที่รอนพูดกับเธอ
“ฉันรู้ว่าฉันอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ในสายตาเธอ แต่ แต่ ฉันจะพยายามปรับปรุงตัวเองนะ”รอนพยายามพูดอ้อนวอน เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าแววตาของเธออ่อนลง
“ไม่ มันไม่ใช่ แบบนั้นหรอกนะรอน บางทีการที่พวกเราเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกัน บางทีนายอาจจะคิดว่านั่นคือความรัก แต่...มันไม่ใช่”
รอนจับมือเฮอร์ไมโอนี่ไว้แน่นเหมือนกำลังจะบอกเธอว่าทุกคำพูดของเขาเป็นเรื่องจริง
“เปล่าเลย ฉันแยกแยะออกว่าอะไรคือมิตรภาพและอะไรคือความรัก ฉันรักเธอมานานแล้วเฮอร์ไมโอนี่ แต่อย่าถามเลยนะว่าเมื่อไหร่ มันค่อยๆหล่อหลอมเป็นความรักขึ้นมาและนั่นมันทำให้ฉันตัดสินใจที่จะพูดมันออกมาในตอนนี้”
“รอน ฉัน เองก็รักนาย”คำพูดของเธอทำให้รอนมีรอยยิ้มกว้าง จนเฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากจะพูดคำต่อไปที่ดูเหมือนจะเป็นคำตอบที่แท้จริงให้กับรอนเลย
” แต่มันเป็นความรักที่เพื่อนมอบให้กับเพื่อน พี่มอบให้กับน้องมากกว่า ฉันหวังว่าเธอคงจะเข้าใจฉันใช่ไหมรอน”
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ที่ห้องอาหารเมื่อถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ทรีโอน่าตักใส่จานแล้วยื่นส่งให้เดรโก เขามองอาหารที่น่ากินนั้นอย่างยินดี พลางอุทานออกมาด้วยความชื่นชม
“โอ้โฮ ทรีโอน่าน่ากินจังเลย ดูไว้ซะเฮอร์ไมโอนี่ นี่ล่ะเขาเรียกว่าการทำอาหารที่แท้จริงล่ะ”เขาหันกลับมาเพื่อจะเรียกเฮอรืไมโอนี่ให้มาดูอาหารที่พวกเขาแสดงฝีมือให้เธอกิน แต่เบื้องหลังของเขากลับว่างเปล่า ไม่มีเฮอร์ไมโอนี่ยืนอยู่ตรงนั้น
“อ้าวไปไหนซะล่ะ”เดรโกบ่นอุบเขาอุตส่าห์ช่วยทรีโอน่าทำอาหารเหล่านี้เพื่อจะได้รับคำชมเชยจากเฮอร์ไมโอนี่เสียหน่อยแต่เธอกลับดันหายตัวไปเสียนี่
“สงสัยอยู่กับรอนข้างบนมั้ง ไปตามพวกเขามาสิเดรโก”ทรีโอน่าพูดบางอย่างที่ทำให้เดรโกฉุกใจคิดเขาเริ่มไม่ชอบใจ ทำไมยายนั้นต้องขึ้นไปอยู่กับเจ้าหัวแดงนั่นสองต่อสองด้วย เขากระแทกอาหารลงบนโต๊ะอย่างหัวเสียแล้วจึงดึงผ้ากันเปื้อนออกจากตัวก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน เขาชะงักอยู่หน้าครัวสักครู่ก่อนหันมาที่ทรีโอน่าแล้วพูดเสียงอ่อนโยนกับเธอ
“เธอก็อยู่กินอาหารกับพวกเราเลยก็แล้วกันนะทรีโอน่า”
“นี่เธอชวนฉันทานอาหารที่นี่เหรอ”ทรีโอน่าถามอย่างคื่นเต้น
“แน่นอน ตอบแทนที่เธอทำอาหารให้พวกเรากินไง เดี๊ยวฉันมานะไปตามสองคนนั้นก่อน”
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ที่ห้องของเดรโกทั้งเฮอร์ไมโอนี่และรอนต่างเปิดอกคุยกันอย่างเข้าใจ ถึงแม้รอนจะไม่ได้รับความรักจากเฮอร์ไมโอนี่แต่เขากลับได้มิตรภาพที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นจากเธอ
“เรายังคงเป็นเพือนกันใช่ไหมเฮอร์ไมโอนี่”รอนถามเสียงสั่นและจ้องมองเธอเมื่อเธอยิ้มหวานให้กับเขา“ใช่รอน เราคือเพื่อน เพื่อนรัก” เมื่อจบคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่ความอัดอั้นจากความรู้สึกของรอนก็จบลงที่ตรงนี้เขาผวาเข้ามากอดเธอโดยที่เธอไม่ได้ตั้งตัวแต่เฮอร์ไมโอนี่ก็กอดกลับเธอเข้าใจนความรู้สึกของเพื่อนดีเธอกอดรอนแน่นเหมือนต้องการจะให้เขารับรู้ในความเข้าใจที่เธอมีให้กับเขา กอด....เพื่อมิตรภาพที่ยั่งยืนไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้ นั่นคือกอดระหว่างเพื่อน
แต่สิ่งที่คนอื่นเห็นอาจจะไม่เข้าใจถึงความรู้สึกที่พวกเขามีให้กัน ดังเช่น เด็กหนุ่มผมบลอนส์ที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องใบหน้าของเขาดูเรียบเฉยและเย็นชาแต่ดวงตากลับสั่นไหวด้วยความไม่พอใจ
“ขอโทษที่มาขัดจังหวะพวกเธอสองคน อาหารเสร็จแล้ว ทรีโอน่าให้ฉันมาตาม”เสียงบอกเรียบๆแต่แฝงไปด้วยความหมางเมินของเดรโก มัลฟอย ทำให้พวกเขาทั้งสองผละออกจากกันในทันที รอนมีสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กลับหน้าแดงเมื่อเห็นเขา
เดรโกแค่ปลายหางตามองเธอแล้วรีบกระแทกเท้าเดินลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว เหมือนเขาไม่ต้องการจะสนใจคนทั้งคู่อีกต่อไป
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เดรโกทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างอ่อนแรง ภาพนั้นมันยังติดตาเขา ทำไม ยายนั่นต้องกอดกับไอ้หัวแดงด้วย เธอชอบมันใช่ไหมเฮอร์ไมโอนี่
เดรโกกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เขาก้มหน้านิ่งเพื่อพยายามระงับโทสะที่พลุ่งพล่านของตัวเองให้สงบ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทรีโอน่ามานั่งอยู่ข้างๆเขาเมื่อไหร่จนกระทั่งทรีโอน่าเอ่ยปากถาม
“มีอะไรเหรอเดรโก .... ”ทรีโอน่ามองเสี้ยวหน้าของเดรโกที่เริ่มกระด้างขึ้นทุกขณะเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของคนที่อยู่ชั้นบนกำลังเดินลงมาใกล้ขึ้น
นัยน์ตาคมสีซีดฉายแววไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆเมื่อนึกถึงภาพนั้น
ทรีโอน่าฝืนกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น เมื่อคิดว่าตัวเองเดาถูกว่าสาเหตุของอาการนิ่งขึงของเดรโกมาจากคนสองคนนั้น ทรีโอน่าไม่เข้าใจว่าเฮอร์ไมโอนี่ทำไมถึงทำให้ผู้ชายที่เย่อหยิ่งและทรนงอย่างเดรโกต้องหัวหมุนได้ขนาดนี้
เดรโกหายใจลึกๆเพื่อตั้งสติของเขา เขาหันไปทางร่างของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขา ริมฝีปากของเดรโกยิ้มเล็กน้อย นัยน์ตาวาววับเหมือนกำลังคิดจะทำอะไรบางอย่าง
ไหน ๆ ก็ไหนๆแล้วเฮอร์ไมโอนี่....อย่าคิดว่าเธอทำอะไรแบบนั้นได้ฝ่ายเดียว
เดรโกหัวเราะในใจ เขาไม่ชอบความคิดนี้ของตัวเองเลย แต่ทำยังไงได้ ฉันจะไม่ยอมเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวหรอก
เขาตัดสินใจแล้ว....เสียเวลามามากพอแล้วและเมื่อเดรโกแน่ใจแล้วว่าเสียงฝีเท้าที่เดินลงมาใกล้พอ ที่จะทำให้พวกเขาได้เห็นอะไรบางอย่างที่ชัดเจน
ในทันใดนั้นเองเดรโกคว้าตัวของทรีโอน่าที่ไม่ทันระวังเข้ามาสู่อ้อมกอดที่แข็งแรงของเขาและประชิดริมฝีปากร้อนๆของเขาทาบทับลงที่ริมฝีปากของเธออย่างเร่าร้อน ทรีโอน่า เบิกตาโตด้วยความตกใจ แต่เพียงแค่ชั่วครู่ที่เธอได้รับรู้ถึงริมฝีปากร้อนๆของเขาอาการที่แข็งขืนก็เปลี่ยนไปเธอเผลอตัวโอบกอดเดรโกและเผยอริมฝีปากเพื่อเชิญชวนเขาแต่เดรโกกลับเพียงจูบเธอหนักๆที่ริมฝีปากล่างแค่นั้นตอนนี้ทรีโอน่าไม่ได้สนใจใครอีกแล้วเธอจูบตอบเดรโกอย่างบ้าคลั่งเสมือนโหยหามานานทั้งสองคนกอดจูบลูบคลำบนโซฟานั้นอยู่นาน จนกระทั่งเดรโกรู้สึกได้ถึงเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่วิ่งออกไปยังนอกบ้าน และมีอีกหนึ่งเสียงที่วิ่งตามออกไป
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ความคิดเห็น