ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตราบาปลิขิตรัก/ เดร-เฮอร์

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : อาหารค่ำกับปีศาจ

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 54


                                                                                             ตราบาปลิขิตรัก

                                                                                                            บทที่ 4 – อาหารค่ำกับปีศาจ
    *******เรื่องนี้จะเป็นอดีตและปัจจุบันที่สลับกันเล่าเรื่องเหตุการณ์นะค่ะที่เป็นตัวสีดำคือเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาซึ่งพวกเขายังเป็นนักเรียนอยู่ที่ฮ๊อกวอตส์ ส่วนที่เป็นอักษรสีน้ำเงินจะเป็นปีปัจจุบันซี่งพวกเขาออกมาจากฮ๊อกวอตส์แล้วและเดรโกเป็นผู้เสพความตายส่วนเฮอร์ไมโอนี่และเพื่อนๆเป็นพวกภาคี

    เธอว่าอะไรนะเดรโก เธอไปรอฉันที่หอคอยตะวันตกงั้นเหรอคลาริสแค่นเสียงขึ้นจมูกพยายามหัวเราะแค่กลับสะดุดอยู่แค่ในลำคอให้ตายสิ.. เดรโกฉันหมายถึงหอคอยเรเวคอลต่างหากล่ะ

     บ้าเอ้ยเดรโกสบถเบาๆกับตัวเองมันไม่ใช่ความผิดของฉันคลาริส เธอพูดไม่ชัดเจนเอง

    หญิงสาวส่ายหน้าฉันขอโทษเดรโก ความจริงฉันน่าจะพูดให้ชัดแจ้งกว่านี้  ว่าแต่,,,,,ที่หอคอยตะวันตกเธอไม่เจอพวกวิสลี่ส์หรือเกรนเจอร์หรอกเหรอ

    เจออย่างจังเลย แต่ฉันเจอแต่เกรนเจอร์เท่านั้นนะ ไม่เห็นวิสลี่ส์เลยเดรโกพูดเหมือนไม่ค่อยที่จะใส่ใจนัก

    คลาริสขมวดคิ้วและตั้งท่าค้านเขาเป็นไปไม่ได้เพื่อนของฉันดูลาดเลาอยู่ตรงนั้นเขาบอกว่าเห็นวิสลี่ส์เข้าไปก่อนสักครู่จึงเห็นเกรนเจอร์ตามเข้าไปนี่

    งั้นเดรโกพึมพำออกมาเบาๆพร้อมกับผงกศรีษะขึ้นๆลงๆเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างฉันพอจะเข้าใจล่ะที่เพื่อนเธอเห็นผู้ชายเดินเข้าไปคงเป็นฉันเองเดรโกหัวเราะอย่างเย้ยหยัน

    อีกอย่างแถวนั้นค่อนข้างมืดด้วยเพื่อนเธออาจจะเห็นหน้าฉันไม่ชัดก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าฉันคือวิสลี่ส์

    หญิงสาวเบิ่งตากว้างหมายความว่าคืนนั้นวิสลี่ส์ไม่ได้เข้าไปยังหอคอยตะวันตก แล้วเขาไปไหน

    อาจจะไปหลับอยู่แถวไหน อาจจะเมา หรือสุดท้ายไม่กล้ามา

    ก็อาจจะเป็นไปได้คลาริสไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้แล้วเกรนเจอร์ เขาไม่โวยวายกับเธอหรอกหรือไง

    เดรโกยิ้มอย่างละเหี่ยใจถ้ายายนั่นรู้ว่าเป็นฉันก็คงจะโวยวายน่าดู

    หญิงสาวเบิกตากว้างเป็นครั้งที่สองในขณะที่พูดเสียงร็วปรื๋อ

    หมายความว่าไง เธอหลอกเกรนเจอร์ว่าเธอคือวิสลี่ส์

     ประกายตาของเขากร้าวขึ้นมาชั่วขณะเพียงแว๊บเดียว

    ฉันไม่ได้หลอกเกรนเจอร์ ฉันไม่ได้พูดว่าฉันคือวิสลี่ส์ยายนั่นเข้าใจว่าฉันคือวิเซิลเองต่างหาก

    เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นดวงตาเฉยเมยไม่บ่งบอกความรู้สึกในขณะที่พูด

    พระเจ้า! เดรโกแล้วในเมื่อคุณรู้ว่าเป็นเกรนเจอร์ทำไมคุณถึงไม่กลับออกมาล่ะ

     คลาริส เธอก็รู้ว่าห้องนั้นถูกลงเวทมนต์เราจะออกไปได้จนถึงรุ่งสางเท่านั้น หรือไม่ก็ต้องมีใครเปิดประตูจากด้านนอกให้เราออกไปเขาอดไม่ได้ที่จะแสดงความหงุดหงิดออกมาทางหางเสียง

    จริงสิ ฉันลืมนึกถึงข้อนั้นไป แต่พวกคุณสองคนอยู่ในห้องนั้นทำอะไรกันบ้างหญิงสาวเอียงคอมองเดรโกอย่างสงสัยเมื่อเห็นรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยแฝงอยู่อย่างเบาบาง

    ผู้หญิงผู้ชายอยู่ในห้องสองต่อสองเธอคิดว่าฉันทำอะไรไปบ้างล่ะ

    คลาริสตัวสั่นด้วยความคิดบางอย่างที่แล่นผ่านสมองแต่เธอก็อดที่จะพูดแย้งเดรโกออกมาไม่ได้กับความเป็นจริงที่เธอรับรู้

    เป็นไปไม่ได้คลาริสแย้ง เดรโกนายคือเลือดบริสุทธิ์ นะ นายคงไม่ไปสุงสิงกับเลือดสีโคลนแน่คลาริสลดเสียงลงและทำเสียงทุ้มต่ำในลำคอราวกับว่าบริเวณโถงทางเดินนั้นมีคนเดินมากมายทั้งๆที่ไม่มีคนเลยแม้ตาคนเดียว

    เธอเคยเห็นแมวไหมคลาริสเวลาที่มันอยู่ที่มืดไม่ว่าแมวตัวไหนๆก็จะดูเป็นสีเดียวกันหมดนั่นแหละ

    เธอตบมือเขาเบาๆแต่นี่เป็นคนนะไม่ใช่แมว เดรโก เธอค้อนเขาเล็กน้อยฉันลองทายนะว่าตอนเช้าเมื่อเกรนเจอร์รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเธอคงอาละวาดคุณน่าดูสิ

    หลังจากเวทมนต์คลายตัวลง ฉันออกมาก่อน ก่อนที่เธอจะตื่น เธอเองก็คงจะเข้าใจว่าฉันคือวิสลี่ส์อยู่เหมือนเดิมเขาพูดพร้อมด้วยรอยยิ้มเยาะ รู้สึกอิ่มเอมใจกับช่วงก่อนหน้านี้ที่หอคอยตะวันตกมันช่างเป็นการแก้แค้นที่ช่างหอมหวานนักสำหรับเขา

    น่าแปลก ที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ ฉันเห็นเกรนเจอร์กับวิสลี่ส์พูดจากันดี เหมือนว่าเกรนเจอร์จะไม่รู้เรื่องเลยว่าเมื่อคืนวิสลี่ส์ไม่ได้เข้าไปที่หอนอนเมื่อคืนนี้

    ฉันคิดว่าเกรนเจอร์อาจอายที่จะเล่าเรื่องเมื่อคืน ส่วนวิสลี่ส์เองก็คงไม่กล้าที่จะบอกว่าตัวเองไม่ได้ไปตามนัด ต่างคนต่างไม่พูดก็เลยไม่รู้เรื่องกัน

    แล้วนายตั้งใจจะบอกเธอไหมดวงตาคมจ้องมองเดรโกเขม็ง

    บอกสิ คลาริส แต่ไม่ใช่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาเขามีรอยยิ้มเจ้าเล่ร์คลาริสยิ้มเล็กน้อยและส่ายหน้าไปกับแววตาของเขาที่แสดงออกอย่างเปิดเผย

    ซึ่งหญิงสาวมีวิธีในการพิจารณาตัวเขาเหมือนเด็กดื้อชอบเอาชนะคนหนึ่ง

    ฉันสงสารเกรนเจอร์จริงๆ ถ้าเธอรู้ความจริงเธอจะรู้สึกยังไง ทำไมคุณถึงโหดร้ายกับเธอแบบนี้

    เธอคือศัตรูของฉันคลาริสเดรโกพูดด้วยน้ำเสียที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

    ฉันไม่ชอบแบบนี้เลยหญิงสาววางมืออันอบอุ่นทาบมือของเขาพลางชะโงกตัวใกล้ชิดกับเขา

    เพียงแค่เธอไม่พูดให้ใครฟัง แค่ทำตัวเฉยๆไม่รุ้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น นอกนั้นฉันจัดการเอง ทำได้ไหมเขาพูดน้ำเสียงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนในทันที มันทำให้เส้นประสาทของเธอวูบวาบขึ้นมาทันใด

    ก็ได้ ฉันเองก็ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้อยู่แล้วเหมือนกัน แต่ว่าเรื่องของเราคลาริสยิ้มและมองด้วยสายตาที่สื่อความหมายที่เดรโกเข้าใจดี เดรโกหัวเราะเล็กน้อยพร้อมกับฉีกยิ้ม เหมือนปีศาจร้ายที่เห็นเหยื่อ

    ฉันจะชดเชยให้วันหลัง ตกลงไหมเขากระซิบเสียงนุ่ม

    ก็ได้ ตกลงคลาริสยืดตัวมาจุ๊บเขาก่อนเอนหลังลงไปอย่างชื่นมื่น

    ก่อนที่ทั้งคู่จะพูดอะไรต่อไปนั้นเสียงประตูของห้องโถงใหญ่เปิดออกและตามด้วยเสียงของนักเรียนที่เริ่มทยอยออกมาจากห้อง

    เอาไว้คุยกันที่หลัง คลาริสเดรโกพูดขึ้นพร้อมๆกับที่ร่างอันยั่วยวนของแพนซี่ปรากฎขึ้นข้างกายพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจและความสงสัย

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    ช่วงเวลาปัจจุบัน คฤหาสน์มัลฟอย

    เดรโกนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารภายในคฤหาสน์มัลฟอย มีรอยยิ้มเปื้อนเต็มใบหน้าของเขาเมื่อเขาคิดถึงอดีต นั่นคงเป็นจุดเริ่มต้นแรกที่เขาได้สัมผัสเฮอร์ไมโอนี่ภายในหอคอยตะวันตก เขาอดนึกขอบคุณงานเลี้ยงของบ้านเรเวคอลไม่ได้ ที่ทำให้เขามีวันนั้น กลิ่นกายหอมกรุ่นของเธอเขายังจำได้ไม่ลืมเลือนอีกทั้งผิวนวลนุ่มนั้นอีกมันทำให้เขาโหยหาแทบบ้าคลั่งและในตอนนี้เธออยู่ไม่ไกลไปจากเขามากนัก

    เดรโกรินไวส์และดื่มมันอีกเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดีก่อนที่เขาจะดีดนิ้วส่งสัญญาณเรียกเอลฟ์มาใช้งาน เอลฟ์ตัวเล็กกระโดดมายืนอยู่ด้านข้างพลางโค้งหัวลงต่ำเพื่อรอรับคำสั่ง

    ไปตามเฮอร์ไมโอนี่ลงมาทานอาหารกับฉันหน่อย

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    คฤหาสน์ของมัลฟอยเป็นสถานที่ที่น่าสนใจ พื้นที่ทุกตารางนิ้วยาวสุดลูกหูลูกตา มีสัตว์นานาพันธ์หายากที่น่าตื่นตาตื่นใจ ส่วนภายในคฤหาสน์สวยงามและลึกลับที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเท่าที่แม่มดคนหนึ่งพอจะนึกถึงได้ ถ้ามันไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นศัตรูกัน เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ คงจะมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ อย่างที่ว่ามาก่อนหน้านี้ เครื่องใช้หรูหราต่างๆไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลย นอกจากจะโกรธมากขึ้น มันเป็นการทรมานที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา

    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปและเธอเริ่มรับรู้แล้วว่าเดรโก มัลฟอยเป็นคนพูดจริง เธอสามารถเข้านอกออกในทุกห้องในคฤหาสน์นี้ได้ พวกเอลฟ์มักจะนำอาหารมาให้เธอ และทำความสะอาดร่างกายให้กับเธอ สำหรับคนข้างนอกถ้าได้เห็นเธอในเวลานี้ เธอดูเหมือนแขกผู้มีเกียรติของเขายิ่งกว่าตัวประกันหรือทาส ซึ่งมันก็เพียงพอที่จะยิ่งทำให้เธอโกรธ

    แต่อย่างไรซะ เธอก็ดีใจที่เธอไม่ต้องเห็นคนที่จับเธอมาตลอดเวลา แต่ถึงกระนั้น เขามักจะมาพบกับเธอตามที่เขาต้องการได้เสมอถึงแม้ว่าเธอไม่อยากเจอหรือพูดคุยกับเขาก็ตาม ซึ่งมันก็พิสูจน์ได้อย่างชัดแจ้งถึงจิตใจที่สกปรกของมัลฟอยที่อยากจะเล่นเกมส์กับเธอ  

    ห้องของเธอนั้นกว้างใหญ่และสวยงาม ผ้าปูที่นอนนั้นทำจากผ้าไหมเนื้อดี และม่านบางๆห้อยลงมาปกคลุมเตียงนอน ภายในห้องนั้นถูกประดับด้วยตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของที่เป็นของเก่าแก่ บนโต๊ะเครื่องแป้งมีน้ำหอมและเครื่องประทินผิววางไว้ เธอไม่กล้าที่จะจับสิ่งของพวกนั้นเพราะเธอรู้ว่าใครเป็นเจ้าของ

    เนื่องจากรูปภาพของนางนาซีซัสน์ มัลฟอย ที่ถูกตั้งไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งภายในกรอบรูปราคาแพง เป็นตัวบ่งบอกของผู้เป็นเจ้าของห้อง ถึงแม้ว่าเธอจะตายไปนานแล้วแต่ยังดูเหมือนว่าเธอยังคงมีชีวิตอยู่ เพราะของทุกชิ้นยังคงวางอยู่ที่เดิม เหมือนหิ้งบูชา

    ทุกๆคืนที่เฮอร์ไมโอนี่มักมีความคิดและความฝันเกี่ยวกับบรรดาเพื่อนๆของเธอ ทั้งผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่และตายไปแล้ว เธอคิดถึงดวงตาเลื่อนลอยแบบเพ้อฝันของลูน่า การรู้สึกขาดความมั่นใจในทุกอย่างของเนวิลล์ ความหวังอันริบหรี่ของจินนี่ ความกล้าหาญของแฮร์รี่ และ จูบที่นุ่มนวลของรอน...

    ความคิดทั้งหมดนี้มันวนเวียนอยู่ในหัวสมองของเธอเมื่อเธอมองพระอาทิตย์ตกครั้งแล้วครั้งเล่าที่สนามหญ้ากว้างขวางภายในอาณาเขตของคฤหาสถ์มัลฟอย จากนั้นเสียงเคาะประตูเบาๆก็ดังขึ้น เธอหันไปเห็นแกสบี้ที่อยู่ในท่าหมอบ พร้อมกับเดินมายังเธอ

    เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ ทุกคืนก็เหมือนเดิม เอลฟ์ตัวเล็กๆที่บอบบาง หน้าที่เดียวของเขาก็คือทำตามคำสั่งของเดรโก มัลฟอย เขาจะเข้ามาหาเธอและบอกกับเธอว่าเจ้านายของเขาต้องการให้เธอลงไปทานอาหารค่ำ และทุกๆเย็นเธอจะตอบโต้เขาด้วยกิริยาที่รุนแรงทุกครั้งไป เธอจะใช้คำพูดที่เอลฟ์อาวุโสตัวนี้ไม่กล้าที่จะต่อปากต่อคำ

    คุณเฮอร์ไมโอนี่ เจ้านายเดรโกต้องการให้คุณลงไปทานอาหารค่ำหูอันใหญ่ของแกสบี้ม้วนลงเมื่อเขาโค้งคำนับ

    บอกเค้าให้ไปตายซะเฮอร์ไมโอนี่พึมพำ จากนั้นจึงหันหน้าไปยังหน้าต่างอีกครั้ง

    เจ้านายเดรโกบอกว่าคุณจะลงมาด้วยตัวเองหรือจะให้เขาใช้กำลัง...” เฮอร์ไมโอนี่หันขวับมามองที่เอลฟ์ ผู้ซึ่งหูของเค้าบิดอย่างไม่เป็นรูปเป็นร่าง “...และคุณจะโดนถอดเสื้อผ้าโดยใช้กำลังก่อนที่จะได้ลงมา

    เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างระหว่างที่แกสบี้ก้าวเท้าอย่างไม่สะดวกนัก เธอกัดฟันและยืนขึ้นระหว่างที่เธอมองไปยังเอลฟ์ผู้ซึ่งถอนหายใจเพราะความรู้สึกโล่งใจ เขาวิ่งเหยาะๆนำหน้าเธอลงไปยังข้างล่าง ผ่านกำแพงโล่งๆซึ่งมีร่องรอยของรูปที่เคยแขวนไว้ที่นี่ จากนั้นเธอได้เดินไปยังบันไดอันใหญ่ ผ่านห้องรับแขก เธอยังคงเดินตามเอลฟ์ไปจนกระทั่งเขาหยุดและเปิดประตูบานใหญ่ออก ทำให้เธอเห็นห้องกินข้าว

    เดรโก มัลฟอยนั่งเป็นสง่าอยู่ที่หัวโต๊ะ เขายืนขึ้นเมื่อเธอเดินเข้าประตูมา เขาทำสัญญาณให้เธอมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆเขา เธอยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่ากอดอกพร้อมกับมองดูโต๊ะกินข้าวชุดใหญ่ เธอเดินไปยังเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเขา และระหว่างที่เธอกำลังจะเอื้อมไปจับเก้าอี้ มัลฟอยดีดนิ้ว จากนั้นเก้าอี้ทั้งหมดก็หายไปเหลือเพียงแค่สองตัว; นั่นก็คือเก้าอี้ตัวของเขาและตัวที่อยู่ข้างๆเขา

    มีรอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฏขึ้นที่ใบหน้าเขาเล็กน้อยเมื่อเธอเดินย่ำเท้าเข้ามาและจับด้านหลังของเก้าอี้ ลากมันมาอีกฝั่งของโต๊ะ หัวไหล่ของเธอแทบจะหลุดเมื่อเก้าอี้มันไม่ยอมขยับตามแรงดึงของเธอเลย

    รอยยิ้มของมัลฟอยได้จางหายไป และพวกเขาทั้งสองจ้องตากันอย่างเยือกเย็น จนกระทั่งเธอนั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับดื่มด่ำชัยชนะที่ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับมันเป็นครั้งที่ล้านแล้ว มัลฟอยนั่งลงตามเธอ ในที่สุดเขาก็เป็นสุภาพบุรุษซะที

    ขอบใจจริงๆที่มาร่วมทานอาหารค่ำกับฉันคืนนี้, คุณเกรนเจอร์เค้าพูด พร้อมกับรินไวน์ที่แก้วเธอจากนั้นจึงรินที่แก้วของเขาฉันเชื่อว่าเธอสามารถปรับตัวได้ดีกับที่นี่นะ?

    เธอทำหน้ามุ่ย จากนั้นจึงมองที่จานเปล่าๆของเธอ  นายต้องการอะไรหรือเปล่า?

    เขาเงียบไปสักครู่ระหว่างที่จานของทั้งคู่เต็มไปด้วยเนื้อแกะย่างและมันฝรั่ง ความทรงจำของฮอกส์วอตย้อนกลับมา แต่เธอเลือกที่จะกำจัดมันออกไปจากใจ เธอหยิบส้อมและมีดขึ้นมาจากนั้นจึงเริ่มจัดการกับอาหาร คิดอย่างเดียวว่ายิ่งเธอกินเสร็จเร็วเท่าไหร่เธอก็จะได้ออกไปจากห้องนี้เร็วเท่านั้น

    เธออยากจะได้อะไรไหม?”

    เฮอร์ไมโอนี่วางช้อนส้อมลงอย่างดัง ตาของเธอมองจ้องที่ตาเขา ใบหน้าของเขานิ่งเฉย ซึ่งนอกเหนือจากคิ้วที่เลิกขึ้นจากคำถามนั้น

    อิสระภาพของฉันเธอโต้เถียงซึ่งทำให้ใบหน้าของเขาปรากฏซึ่งรอยยิ้ม จากนั้นเขาจึงเริ่มจัดการอาหารในจาน

    ฉันคิดว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้เขาถอนหายใจ พร้อมกับเคี้ยวอาหารอย่างเฉื่อยชา ระหว่างมองดูเธอแสดงอารมณ์โมโห

    นายไม่สามารถเก็บฉันไว้ที่นี่ได้ตลอดไปนะ!” เฮอร์ไมโอนี่คำรามออกมา ซึ่งทำให้เขาหัวเราะระหว่างที่ดื่มไวน์

    เธอคิดผิดเขาวางแก้วไวน์ลงที่โต๊ะ ตาเขามองจ้องเขม็งมาที่เธอจะบอกให้นะ ฉันเป็นเจ้าของเธอ เธอเป็นของฉันเขาหยุดระหว่างที่มองเธอกัดฟัน ปล่อยให้คำพูดของเขาซึมซาบเข้าไปยังหัวสมองของเธอ

     เธอต้องทำตามที่ฉันต้องการเขาพูดเสริม พร้อมกับจิบไวน์อีกเล็กน้อย

    พวกเขาจะตามหาฉันเฮอร์ไมโอนี่เพิ่งรู้สึกตัวถึงสิ่งที่พูดออกไป

    และใครคือพวกเขา?” มัลฟอยเยาะเย้ย ซึ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่หุบปากเงียบ กัดฟันแน่น และพยายามกลั้นน้ำตา

    แน่นอน...” เธอหยุดเพื่อกลืนน้ำลาย พยายามที่จะสงบอารมณ์แน่นอน บางคนยังคง..”

    มีชีวิตอยู่?” มัลฟอยจบประโยคแทนเธอ พร้อมกับน้ำเสียงหัวเราะเยาะเย้ยเธอคงไม่เชื่ออย่างนั้น ใช่ไหม?”

    ทำไมล่ะ?” เธอถามขึ้นทันทีซึ่งทำให้เขาชะงัก ระหว่างที่แก้วของเขาอยู่ห่างจากปากเขาไม่ถึงคืบทำไมไม่เป็นคนอื่น?ทำไมต้องฆ่า จินนี่...เธออุ้มท้องลูกของแฮร์รี่อยู่นะ แล้วเนวิลล์เขาเองก็ไม่มีพิษสงอะไร ร่วมทั้งลูน่า-……

    หยุดเดี๋ยวนี้!” มัลฟอยพูดอย่างโมโห พร้อมกับวางแก้วลงอย่างแรง เขาถอนหายใจ

    เธอก็รู้ พวกเราอยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน มันคือสงคราม สงครามไม่เคย เค้าเลียริมฝีปากล่างและขบฟันก่อนพูดจนจบประโยค “...ปราณีใคร

    เหรอเธอกัดฟันพูด พยายามจะระงับความโกรธไว้ที่ลำคอนายก็เลยกลายเป็นคนโหดร้ายและไล่ฆ่าพวกเราตายอย่างทารุณงั้นน่ะเหรอ?

    อาจจะเป็นเพราะคำพูดของเธอนั่นเอง ที่ทำให้เธอเห็นอาการขาดความมั่นใจของมัลฟอย เขาเอนหลังกับเก้าอี้  เหมือนกับว่าคำพูดของเธอทำให้เขาเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด  มีบางอย่าง

    แว่บขึ้นมาจากดวงตาสีเทาของเขา แต่มันได้จางหายไปก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะรู้ว่ามันคืออะไร

    เรามักเลือกเส้นทางของเราเอง เกรนเจอร์เขาตอบได้เพียงแค่นี้ พร้อมกับดื่มเหล้าจนหมดแก้วและรินใหม่อีกครั้ง

    ฉันเองที่เป็นต้นเหตุ-“

    ใช่เป็นเธอ เกรนเจอร์เขาตัดบท พร้อมกับฉีกยิ้มใส่เธอ พวกเขากำลังเล่นเกมส์จิตวิทยากันอยู่ เธอผงะเล็กน้อย แต่ก็ยังคงพูดต่อ

    พวกเราปกป้องนายและนายตอบแทนพวกเราโดยการนำพาพวกเราไปสู่ความตายเธอพูดต่อ พยายามจะรวบรวมสติกลับคืนมาจากคำพูดของเขาเมื่อสักครู่นี้

    พวกเรา? แต่ ดูเหมือนกับว่าเธอยังมีชีวิตอยู่นะเกรนเจอร์เขาเสริม ซึ่งทำให้เธอกลืนน้ำลายได้อย่างยากลำบากมันคงจะยากสำหรับเธอ เพราะเธอเป็นคนเดียวในบรรดาสมาชิกทหารของดัมเบิลดอร์ที่ไม่ได้อยู่ใต้ดิน

    และมันก็คงจะง่ายสำหรับนายในการเป็นมือขวาของโวลเดอร์มอร์เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันพูด พยายามกลั้นน้ำตาบอกหน่อยสิว่ามันเป็นเพราะการทรยศของนายต่อภาคีหรือเป็นเพราะสเนป พ่อทูนหัวของนายกันแน่ที่ทำให้นายมาอยู่ตรงนี้ได้?

    ฉันคิดว่ามันคงเป็นเพราะการกำจัดพวกวีสลีย์

    เดรโกฉีกยิ้มให้เธอเหนือแก้วไวน์ของเขา พร้อมกับมองดูเธออ้าปากค้างและน้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้มเธอ สมองของเฮอร์ไมโอนี่เหมือนจะหยุดกลางคัน ร่างของเธอสั่นไปทั้งตัว พร้อมกับความทรงจำเก่าๆที่วิ่งผ่านเข้ามา มันไม่มีอะไรเลยนอกจากผมที่แดงที่หางตาของเธอ หนึ่งนาทีให้หลัง มันก็หายไป

    นาย...”

    เมื่อไหร่เธอจะเอามันออกไปจากหัวที่หนาของเธอได้เสียที เกรนเจอร์?” เขาถามเหมือนอ่านใจเธอออก ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาสีเทาของเขาส่องประกายใต้แสงเทียนเธอไม่สามารถทำร้ายฉันได้เท่ากับที่ฉันทำร้ายเธอได้หรอก” 

    อย่าทรนงตัวเองไปนักมัลฟอย ฉันเองสามารถทำร้ายนายได้โดยที่นายอาจไม่คาดคิดเฮอร์ไมโอนี่ขู่  ดวงตาสีอัลมอนด์ของเธอส่องประกาย พร้อมกับหมัดที่กำแน่นอยู่บนโต๊ะ  

    เขาหัวเราะดังลั่นปราศจากไม้วิเศษเธอก็ทำอะไรฉันไม่ได้ 

    นั่นคือเหตุผลที่นายอยากให้ฉันอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” เธอถาม น้ำเสียงของเธอสั่นเทาเพราะอารมณ์เดือดดาลและน้ำตาเพื่อที่จะเล่นเกมส์โรคจิตของนายอีก?” 

    อันที่จริงก็ไม่ใช่ แต่มันก็สนุกดีเขาฉีกยิ้มที่ฉันอยากให้เธอมาที่นี่คืนนี้เพื่อที่จะบอกกับเธอว่าพรุ่งนี้ฉันจะมีเพื่อนมาดื่มด้วยกันที่บ้าน

    เพื่อน?” เฮอร์ไมโอนี่ถามพร้อมกับหัวเราะเย้ยหยันนายหมายถึงพวกผู้เสพความตายงั้นเหรอ?” 

    ถ้านั่นเธอหมายถึงพวกที่อยู่ฝ่ายเดียวกับฉันล่ะก็ ใช่ 

    นั่นนะเพื่อนนาย ไม่ใช่เพื่อนฉันเฮอร์ไมโอนี่ระเบิดอารมณ์ ระหว่างที่เดรกโกยิ้มให้เธออย่างจองหอง 

    เธอจะต้องอยู่ที่ชั้นสอง ให้ห่างจากห้องโถงและบันไดเขาพูดพร้อมกับมองที่เธอให้ห่างจากสายตาของคนพวกนั้น 

    แล้วถ้าฉันไม่ทำล่ะ?” เธอถาม พร้อมกับดวงตาที่เยือกเย็น และท้าทาย 

    โอ้ ที่รัก เธอไม่อยากรู้หรอกว่ามันจะเกิดอะไรที่ชั่วร้ายขึ้นกับเธอบ้างถ้าหากพวกเขาเห็นเธอ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×