ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic แปล harry potter / Strange and beautiful เซดีก/เฮอร์ไมโอ

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 : จะเลือกอยู่ข้างใดในสถานการณ์ที่ไม่มีทางชนะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 736
      15
      15 มี.ค. 54

    Strange and beautiful

    บทที่ 5 จะเลือกอยู่ข้างใดในสถานการณ์ที่ไม่มีทางชนะ

     

                “มิเนอร์ว่า  ใจเย็นก่อน”  อัลบัส  ดัมเบิลเดอร์พูดในคืนนั้นอย่างเหนื่อยอ่อน และนั่งงอตัวเล็กน้อยในเก้าอี้ของเขา   พ่อมดชราเหนื่อยแต่ไม่ใช่เพราะนอนน้อย  ความคิดของเขากำลังวิ่งไปนับตั้งแต่ภารกิจที่สอง และอย่างไรก็ตามเขายังคงไม่แน่ใจในสิ่งที่ทำให้ทั้งหมดเกิดขึ้น   มันทำให้เขาเป็นกังวล  การมองใบหน้าของคนทั้งคู่เกรนเจอร์และดิกกอรี่  ในขณะที่พวกเขาจ้องมองกันและกัน  หลักจากพวกเขาทั้งคู่ถูกดึงขึ้นจากน้ำ  เขาไม่เคยเห็นคนทั้งสอง มองกันด้วยสายตาเช่นนี้มาก่อน จนถึงบัดนี้และอัลบัสแน่ใจว่าเขาจะต้องไม่เห็นมันอีก แต่มันกำลังจะเกิดขึ้นและเกิดขึ้นระหว่างนักเรียนของเขาทั้ง 2 คนเขารู้ 

                “ผมออกคำสั่งให้แยกพวกเขาออกจากกันแล้ว”

                “คุณก็รู้ว่านั่นทำอะไรไม่ได้  อัลบัส!” มิเนอร์ว่า ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ร้องโวยวาย

                “ถ้าทำได้  มันจะทำให้แย่ลงไปอีกเท่านั้น  พวกเขาทั้งสองไม่อาจแยกจากกันไม่ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหน!  พวกเขาจะต้องหาทางเจอกันจนได้!

                ไม่นานเท่าไหร่ พาโมน่า สเปราท์  หัวหน้าบ้านฮัพเฟิลพัฟปรากฏตัวอยู่ในห้องทำงานของดัมเบิลเดอร์ด้วย  ราวกับมีประชุมฉุกเฉิน  เธอนั่งลงเงียบๆ และ ฟังอย่างตั้งใจ  หลังจากมิเนอร์ว่า  กล่าวถ้อยคำเหล่านั้นจบ  พาโมน่าก็ตัดสินใจที่จะร่วมการสนทนา   

                 “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่แยกเซดริก กับเฮอร์ไมโอนี่ออกจากกันเหรอค่ะ”

                “มันจะเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครเป็นผู้ชนะหรือดีกับใครเลย” มิเนอร์ว่ากล่าว  และในตอนนี้มือของเธอบีบเข้าด้วยกัน

                ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เราทำ หรือแยกพวกเขาออกจากกัน หรือ ปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน มันจะเป็นอันตรายสำหรับเด็กทั้งคู่”

                “พาโมน่า  ผมแน่ใจว่าคุณเคยได้ยินเรื่องคู่แท้ใช่ไหม” อัลบัสเริ่มและหันเก้าอี้ไปมองอาจารย์วิชาสมุนไพรของโรงเรียน

                “แน่นอน”

                “ผมเชื่อว่า เซดริก ดิกกอรี่ และ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ มีบางสิ่งที่ลึกซึ้งต่อกันเกินกว่าปกติ”  โพโมน่า อ้าปากค้าง  เธอเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนแต่มีเพียงแค่ 2 กรณีในโลกของพ่อมดแม่มด และถ้าคนทั้งคู่ที่เกี่ยวข้องกับสองกรณีนี้  ก็ไม่อาจจบลงด้วยดี  เธอไม่รู้เกี่ยวกับมันมากนัก ตอนที่ตัวเธอเองเป็นนักเรียนที่ฮอกวอตส์  ตอนที่เธอกับเพื่อนๆรู้จักมันเป็นครั้งแรก  พวกเธอหัวเราะคิกคัก และนึกภาพว่ามันเป็นอะไรที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ศาสตราจารย์ของพวกเธอย้ำว่า เวทมนตร์ดังกล่าวไม่ใช่น่ายินดีและโรแมนติกเลย

    “คุณหมายถึง......” 

    อัลบัสผงกหัว  “ผมเกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น” เขาพูดเสียงเบา 

    “ผมเชื่อว่าเซดริก  ดิกกอรี่และเฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์ถูกผูกจิตวิญญาณเข้าด้วยกัน”

    ห้องทำงานที่มีศาสตราจารย์ 3 คน บัดนี้ตกอยู่ในความเงียบอย่างสิ้นเชิง ภาพบนผนังมีเสียงกรนค่อยๆ ในขณะที่พวกเขาหลับ  เสียงติ๊กๆของคอลเล็กชั่นนาฬิกาในห้องที่กำลังนับเวลาที่ผ่านไป   ทั้งสามคนไม่มีใครแน่ใจเลยว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ระหว่างที่พวกเขาพูดกันอีกครั้ง คำพูดลอยในอากาศเหนือหัวของพวกเขา   แม้ว่าเขาเป็นคนแรกที่สงสัยมัน แต่อัลบัสยังคงทำใจอย่างยากลำบากที่จะเชื่อมันจริงๆ  มันเป็นเวทมนตร์โบราณ ทรงอำนาจ และไม่สามารถทำลายได้โดยสิ้นเชิงสำหรับผู้ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของมัน สิ่งที่ทำให้มันน่าสะพรึงกลัว คือ การที่มันยังคงลึกลับต่อทุกคนในโลกพ่อมด  ไม่มีใครแน่ใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และ มันเลือกคนที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของมันอย่างไร      

    โพโมน่าพูดทันทีที่เธอได้สติอีกครั้ง  “คุณแน่ใจได้อย่างไร อัลบัส   มันอาจจะเป็นสิ่งอื่นๆ ก็ได้ ” อัลบัสส่ายหัวเกือบลังเล 

    “ผมพยายามให้ตัวเองมองไปยังความเป็นไปได้อื่น  แต่มิเนอร์ว่า มาหาผมและให้ข้อพิสูจน์เกี่ยวกับสิ่งที่เซดริกและเฮอร์ไมโอนี่ ทำเมื่อเย็นนี้”

    “พวกเขาขยับเข้าหากันราวกับว่าพวกเขาถูกดึงดูดเข้าด้วยกัน” มิเนอร์ว่าพูด และนั่งลงในเก้าอี้ของโพโมน่าซึ่งในตอนนี้เก่าอย่างที่สุด   

    “สายตาที่พวกเขามีช่างรุนแรงมันทำให้ฉันกลัว”

    “สำหรับภารกิจที่สอง  ชื่อของคนที่ผู้แข่งขันต้องไปช่วยชีวิตมาจากถ้วยอัศนี”  อัลบัสพูดต่อ 

    “ถ้าเหล่าศาสตราจารย์จะเลือกผมให้เป็นคนเลือก  ตัวผมเองจะไม่เลือกคุณเกรนเจอร์และคุณดิกกอรี่ และทำไมเราควรเลือกล่ะ  พวกเขาอยู่คนละบ้าน  คนละปี  ผมไม่คิดว่าพวกเขาเคยคุยกันมาก่อน  ผมจะไม่เลือกเธอในฐานะสิ่งมีค่าที่เซดริกต้องนำกลับไป”  เขาหยุดพูดชั่วขณะ   

    “แต่ถ้วยอัศนีดูเหมือนจะรู้”

    “ฉันยังไม่อาจจะเชื่อว่า............ว่า นักเรียนของเรา 2 คนถูกผูกจิตวิญญาณ”   พาโมน่าพูดพร้อมกับส่ายหัว 

    “เราจะทำอะไรได้บ้างล่ะในตอนนี้”

    “ผมขอแนะนำว่าให้เราแยกพวกเขาออกจากกัน”

    “แต่เราทำไม่ได้” มิเนอร์ว่าตะโกนแทรกอัลบัส และยืนขึ้นอีกครั้ง

    “ฉันเกรงว่าสิ่งที่ฉันรู้  เกี่ยวกับคู่แท้ที่ถูกผูกมัดกัน มันค่อนข้างมีขีดจำกัด” พาโมน่าพยักหน้ายอมรับกับคำพูดนั้น

    “เซดริกกับเฮอร์ไมโอนี่ ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับพวกเขา” อัลบัสเริ่มอธิบาย

    “พวกเขาดึงดูดกันอย่างลึกลับ  ความปรารถนาของพวกเขากำลังเพิ่มขึ้น  ราวกับว่าเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน มันไม่ใช่ความต้องการแต่เป็นความจำเป็นมากกว่า  พวกเขาอาจจะเจ็บปวดที่พวกเขาไม่รู้จักกันมาก่อนก็จริง     แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรายังคงแยกพวกเขาออกจากกันได้...  มันก็น่าจะดีกว่า”

    “ถ้าเรายังคงพยายามแยกพวกเขาออกจากกัน  ความรู้สึกของพวกเขาก็จะเข้าเกาะกุมซึ่งกันและกันขึ้นไปอีก  และบางทีพวกเขาจะหาทางอยู่ด้วยกัน หรืออะไรก็ตามที่พวกเขาสามารถทำได้...” มิเนอร์ว่าหยุดชะงักและเธอลังเลที่จะพูดต่อ

    “อย่างนั้นหรือ” พาโมน่าทวนคำ และมองกลับไปกลับมาระหว่างอัลบัสกับมิเนอร์ว่า

    “ถ้าเราแยกพวกเขาสำเร็จ   ความเจ็บปวดที่ทั้งคู่จะต้องทน  ในที่สุดแล้วจะนำไปสู่หายนะ”  อัลบัสพูดช้าๆ และพาโมน่าอ้าปากค้าง   เขาผงกหัวเป็นเชิงยอมรับ 

    “แต่ถ้าเรายอมให้พวกเขามีโอกาสอยู่ด้วยกัน  การผูกจิตวิญญาณก็จะเกิดขึ้น        คาถาผูกจิตวิญญาณ เป็นสิ่งที่ถูกสร้างบนความรัก, ความหลงและกิจกรรมทางเพศ  นั่นคือสิ่งที่ทำให้มันมีอำนาจ  ถ้าเซดริก และเฮอร์ไมโอนี่ มีโอกาสที่จะทำให้ความรักของพวกเขาถึงสุดจุดๆหนึ่ง จุดที่สมบูรณ์ที่สุด    ซึ่งทำให้คาถานั้นสัมฤทธิ์ผลและมีอำนาจ พวกเขาก็จะไม่มีข้อสงสัยใดๆอีกต่อไป   จากจุดนั้นพวกเขาจะแบ่งปันทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งหัวใจ จิตวิญญาณ ความคิดของพวกเขา พวกเขาจะสามารถอ่านความคิดของกันและกัน  หัวใจของพวกเขาเริ่มเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน เมื่อคนหนึ่งเจ็บป่วย อีกคนจะเป็นด้วย ถ้าคนหนึ่งตายอีกคนจะตายตาม ไม่สามารถหยุดมันได้”

    เป็นอีกครั้งที่ห้องทำงานตกอยู่ในความเงียบสงบ และในครั้งนี้ ความเงียบดูเหมือนจะเกาะกินเวลานานไปตลอดกาล

    “ทำไมทุกอย่างจึงเกิดขึ้นกะทันหันเช่นนี้” พาโมน่าพูดเกือบจะลังเลและกลัวที่จะได้ยินคำตอบ  หัวของเธอเริ่มเต้นตุบๆด้วยอาการปวดหัว และ หัวใจของเธอกำลังเต้นรัวเร็วในอก  เมื่ออัลบัสเรียกเธอมาที่ห้องทำงานในเย็นนั้น  มันไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดว่าจะเกิดขึ้นในการประชุมระหว่างศาสตราจารย์  

    “ทำไมเราไม่รู้เรื่องนี้  เมื่อเฮอร์ไมโอนี่อยู่ปีแรก   เธอกับเซดริกอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกันในครั้งแรก

    “ผมเชื่อว่ามันเกิดขึ้นในตอนนี้ เพราะทั้งคู่โตเป็นผู้ใหญ่พอที่ คาถาผูกจิตวิญญาณ ต้องการ”   อัลบัสกล่าว แต่วิธีการที่เขาจบประโยค ทั้งมิเนอร์ว่า และโพโมน่ารู้ว่าเขาจะพูดอะไรต่อ

    มีเพียงแค่ 2 กรณีเท่านั้นของการผูกจิตวิญญาณและทั้งสองกรณี เชื่อกันว่าพวกเขาไม่ได้ผูกพันกันในชาตินี้เท่านั้น แต่ยังผูกพันกันในชาติอื่นๆอีกด้วย ”

    “สิ่งที่ฉันพบมันผิดปกติอย่างสิ้นเชิง” มิเนอร์ว่ากล่าวเสียงแข็ง  

    “ฉันไม่เชื่อในเรื่องการกลับชาติมาเกิด ไม่เชื่อในสิ่งที่คุณกำลังพูดถึง อัลบัส”

    “ผมแค่บอกให้คุณทั้งสองรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ คาถาผูกจิตวิญญาณจะทำ” อัลบัสพูด   

    “กล่าวกันว่า การผูกจิตวิญญาณ  มีอำนาจลึกลับและเกือบจะทุกสิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้    ซึ่งมันค่อนข้างจะเป็นไปได้ว่าทั้งเซดริกและเฮอร์ไมโอนี่อาจเคยใช้ชีวิตร่วมกันเมื่อชาติที่แล้ว  และเมื่อช่วงชีวิตนั้นจบลง พวกเขาจะค้นหากันอีกในชาติภพหน้า”

    โพโมน่ายืนขึ้นช้าๆ  ดวงตาของเธอไม่อาจละออกจากใบหน้าของอาจารย์ใหญ่ได้เลย 

    “เราต้องทำอะไรบางอย่าง   เราจะทำอะไรได้บางล่ะ” โพโมน่าโพล่งออกมา

     

    เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะเบาๆ  ในขณะที่เซดริก ฝังใบหน้าของเขาลงในซอกคอของเธอ  สูดดมกลิ่นเธออย่างลึกซึ้ง  ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาทำให้ผิวของเธอเต้นและจั๊กจี้   ทั้งคู่นอนบนหญ้าใต้ต้นวิลโล่จอมหวด  พวกเขาอยู่ข้างนอกเกือบจะ 2 ชั่วโมงแล้ว   แม้ว่าอากาศจะหนาวเย็น แต่ฟองอากาศอุ่นๆ ที่ดูเหมือนว่าจะปรากฏขึ้นในครั้งแรก ในตอนที่พวกเขาจูบกันยังคงล้อมรอบตัวพวกเขาอยู่   

    ทั้งคู่ไม่ปรารถนาที่จะกลับเข้าไปในปราสาท   เพื่อที่จะต้องรับรู้ว่าในทันทีที่พวกเขาก้าวผ่านประตู   เข้าไป  พวกเขาจะต้องแยกจากกันไปคนละทาง  คนทั้งคู่ไม่อาจทนทานต่อความคิดนั้นได้

                เซดริกยกหัวขึ้น  ใบหน้าของเขาอยู่บนใบหน้าของเธอและเขายิ้ม  ก้มมองลงไปที่เธออีกครั้ง    หลังของเฮอร์ไมโอนี่พิงด้านข้างของเซดริก  แขนของเขาโอบเธอไว้แน่น   เธอยิ้มตอบ เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นลูบไล้แก้มของเขาก่อนจะใช้นิ้วมือลูบผมของเขาเบาๆ  เขาหันหน้าไปจูบข้อมือของเธอ

    “นั่นอะไร” เขาถาม หลังจากสังเกตเห็นรอยแผลเป็นที่อยู่บนข้อมือด้านในของเธอ เขาจับแขนเธอขึ้นมาสำรวจ โดยใช้นิ้วโป้งของเขาสัมผัส  มันเป็นสีขาว และมีขนาดใหญ่  ยาวเกือบ 3 นิ้ว รูปร่างของมันดูเหมือนหัวใจครึ่งเสี้ยว

                เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวเบาๆเป็นเชิงปฎิเสธ  “ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน  เท่าที่ฉันจำได้ มันก็เกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้วและฉันก็ลืมไปแล้วว่ามีมันอยู่”

    ลมหายใจของเธอติดอยู่ในลำคอแทบจะในทันที ในขณะที่เธอมองดูเซดริกประทับริมฝีปากบนแผลเป็นของเธอ ก่อนที่เขาจะสำรวจมันต่อไปด้วยลิ้น  เธอรู้สึกว่าตัวของเธอสั่นสะท้านลงไปถึงสันหลัง และเธอยกมืออีกข้างไปที่ผมของเขาอีกครั้งในขณะที่เขายังคงลุ่มหลงอยู่กับแผลเป็นของเธอ

    “เซดริก จูบฉันสิ” เธอพูดเสียงเบา ราวกับไม่ได้หายใจ

    โดยไม่พูดหรือลังเล เซดริกขยับริมฝีปากออกจากข้อมือของเธอพร้อมกับขยับหัวไปข้างหน้า   โน้มตัวลงและกดริมฝีปากของเขาไปที่ริมฝีปากของเธอ   จูบแห่งความเร่าร้อนนี้เริ่มกระหน่ำในทันที ริมฝีปากของพวกเขาเลื่อนเข้าหากัน  ลิ้นของคนทั้งคู่สัมผัสและตวัดรวมเป็นหนึ่ง  เขาขยับร่างของเขาเหนือร่างเธอ กดน้ำหนักลงด้านบนตัวของเธอ และโดยธรรมชาติขาของเฮอร์ไมโอนี่ข้างหนึ่งไขว้รอบตัวเขาไว้ ส่วนที่ใกล้ชิดมากที่สุดของพวกเขาในตอนนี้เป็นแนวเดียวกันอย่างสมบูรณ์  เธอรู้สึกราวกับว่ามีหมอกล้อมรอบอยู่ในสมองเธอและมันเป็นหมอกที่จะปรากฏเสมอเมื่อไหร่ก็ตามที่เซดริกจูบเธอ  เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเธอไม่อาจหายใจได้ ในเวลาที่ริมฝีปากของเขาประทับจูบอยู่บนปากของเธอ  แต่อย่างไรก็ตามเธอก็อาจจะตายถ้าเขาหยุดจูบเธอ  เธอต้องการมันมากขึ้นอีก  เขาก็เช่นกัน  เธอรู้สึกได้ถึงความปรารถนาที่เขามี   มันทำให้เธอตื่นเต้นและทำให้เธอกลัวในเวลาเดียวกัน

    “ผมมีบางอย่างต้องให้คุณดู” เขาพูด  ลังเลที่จะออกห่างจูบเฮอร์ไมโอนี่  เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองเขาในขณะที่เขาขยับตัวขึ้น เขาถ่างขาคร่อมตัวเธอไว้ในขณะที่คุกเข่า  เข่าของเขาอยู่แนบชิดร่างกายของเธอ เซดริกถกแขนเสื้อขึ้นจากนั้นชูข้อมือด้านซ้ายของเขาให้เธอดู เธออ้าปากค้างเมื่อมองเห็นมัน   มันเป็นแผลเป็นที่เหมือนกับแผลเป็นของเธอทุกอย่าง  รูปรางเดียวกัน ขนาดเท่ากัน เธอลุกขึ้นนั่งและเซดริกจัดตำแหน่งตัวเองเพื่อที่เธอจะได้นั่งอยู่ข้างๆเขาได้  

    “ยื่นข้อมือของคุณมาให้ผมดูหน่อย” เขาพูดและเฮอร์ไมโอนี่ทำตามที่เขาร้องขอ   เธอยื่นข้อมือขวาออกไป  และมองตามในขณะที่เขาคว้ามันไปอย่างนุ่มนวล   จับมาวางคู่ขนานกัน  เธออ้าปากค้างอีกครั้ง เมื่อเขาหงายข้อมือขึ้นแนบข้างข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่ ที่หงายขึ้นแล้วเช่นกัน  เขาเงยขึ้น เธอเห็นมัน ทั้งคู่เห็นมัน

    เมื่อกดเข้าด้วยกัน   แผลเป็นแต่ละครึ่งเข้าหากันก่อขึ้นเป็นรูปร่างหัวใจแบบไม่มีผิดเพี้ยน เซดริกและเฮอร์ไมโอนี่จ้องไปที่มันก่อนจะกลับมาจ้องมองกันและกัน ด้วยความสงสัย สับสน และตื่นเต้น มันราวกับว่าพวกเขาพบชิ้นส่วนปริศนาที่พวกเขาไม่แม้แต่จะรู้ว่าพวกเขากำลังมองหาอยู่

    แผลเป็นเมื่อรวมกัน ก่อขึ้นเป็นรูปหัวใจ พวกเขาก้มลงมองไปที่แผลเป็นอีกครั้ง และทั้งคู่ไร้การเคลื่อนไหวในขณะที่แสงสีแดงในฉับพลันวาบจากแผลเป็น และเริ่มไปยังจุดประสานด้านล่างของหัวใจก่อนจะติดตามรูปทรง  ไฟสีแดงสว่างอยู่ตรงหน้าของพวกเขา  ในขณะที่พวกเขามองด้วยความตกใจสุดขีด  เมื่อไฟเคลื่อนไปทั่วผิวของคนทั้งคู่ และ เคลื่อนไปตามความต้องการของแผลเป็น  มันไม่ได้ทำร้ายพวกเขา แต่มันใช่ทุกๆวันเมื่อแผลเป็นที่อยู่บนแต่ละร่างของคนสองคนเข้ากันพอดี และ จากนั้นทำให้เกิดไฟสีแดงปะทุออกจากแผลเป็น   เมื่อไฟไปถึงจุดประสานด้านล่างของหัวใจอีกครั้งหลังจากเคลื่อนไปตามรูปร่างทั้งหมด  มันจากหายไปแต่รอยแดงที่มันสร้างไว้มันคงอยู่

    เซดริกใช้นิ้วหัวแม่มือด้านขวาของเขาอย่างลังเล และ ค่อยๆตีไปที่แผลเป็น แต่รอยแดงยังคงอยู่  มันไม่ทำร้าย  มันไม่ได้เผาไหม้อย่างเช่นที่มันควรจะเป็น  แต่มันไม่ยอมหายไป เช่นกัน   นิ้วหัวแม่มือของเขาลูบแผลเป็นรูปหัวใจ   เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังมองเขาในตอนนี้  เริ่มกลัวมากกว่าสิ่งใด  เซดริกรู้สึกถึงอาการสั่นสะท้านในฉับพลันของเธอ  เขายกมือขึ้นวางมันลงบนแก้มของเธอ จับใบหน้าอ่อนนุ่มให้หันมายังเขา  เขาจูบเธอเบาๆ  อย่างนิ่มนวลบนริมฝีปากเพื่อปลอบใจ      เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลง กดหน้าผากของเธอลงบนจมูกของเขา 

                “อย่ากังวลไปเลย ไมโอนี่” เซดริกกระซิบ   หัวใจของเขาเต้นรัวจากสิ่งที่เพิ่งเห็น แต่เขาจะต้องเข้มแข็ง และกล้าหาญเพื่อเธอ  นิ้วหัวแม่มือของเขาเคลียไปที่แก้มของเธอเบา

    “ฉันสัญญาว่าเราจะไปห้องสมุดและหาให้เจอว่ามันคืออะไร  ฉันสัญญากับเธอ” เฮอร์ไมโอนี่ผงกหัวรับและเขาจูบเธออีกครั้ง   แขนของพวกเขายังคงกดเข้าหากัน  โครงร่างสีแดงของรอยแผลเป็นรูปหัวใจเริ่มสว่างจ้าขึ้นในขณะที่พวกเขาจูบกัน  แต่ไม่มีใครสังเกตเห็น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×