ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : ประกาศตัว
HERMIONE MALFOY
Chapter 4 ประกาศตัว
เฮอร์ไมโอนี่ยืนหน้ามุ่ยอยู่ตรงทางเข้าห้องโถงใหญ่เมื่อเดรโกยื่นแขนมาทางเธอ
“อะไร”เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย
“เราคงไม่ต่างคนต่างเดินกันเข้าไปข้างในหรอกใช่ไหม “เดรโกถามเสียงเรียบแต่สายตากลับมีแววตากรุ่มกริ่มจนเฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง
“นายหมายถึงเราจะเดินเข้าไปด้วยกัน”เธอไม่รู้ว่าควรคาดหวังอะไรแต่จากปฎิกิริยาของเดรโกทำเอาเธอแทบช๊อค
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ เราควรทำตัวให้สนิทสนมกันมากกว่านี้ด้วย เพราะเราแต่งงานกันแล้ว แล้วทุกคนตอนนี้ก็จับตามองเราอยู่ ฉันไม่อยากให้พอตเตอร์กับวิสลี่ส์แฟนเธอมาทำให้พวกเราลำบากใจมากกว่านี้”ในความเป็นจริงแล้วเรื่องราวแบบนี้ไม่เคยมีอยู่ในหัวของหญิงสาวมาก่อน มันก็แค่การแสดงละครตบตาทุกคนก็เท่านั้นแต่มันยิ่งแย่ตรงที่ว่าเธอจะต้องทำมันแทบจะทั้งวันนี่สิ ตอนนี้เธอแทบไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว ความคิดของเฮอร์ไมโอนี่ในตอนนี้เหมือนว่าเธอจะต้องติดอยู่กับเขาในที่อ้างว้างน่ากลัวที่ดูเหมือนต้องยืนยาวไปตลอดกาล
“มันไม่ใช่แค่แฮร์รี่กับรอน แต่เป็นแฟนคลับนายทั้งโขลงแล้วบ้านที่รักของนายอีกเป็นฝูงด้วย”เฮอร์ไมโอนี่กระแทกเสียงใส่อย่างไม่พอใจ
“รู้ได้อย่างงั้นก็ดี งั้นเกาะแขนฉันเราจะได้เข้าไปกัน”เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจก่อนคล้องแขนเขาเข้าไปยังด้านใน
@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เฮอร์ไมโอนี่ก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อเห็นนักเรียนฮ๊อกว๊อตส์แทบจะทุกคนมองมาทางเธอและเดรโกบางคนก็หันมาซุบซิบกันบางคนก็อมยิ้มอย่างขวยเขิน เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับเกือบทรุดถ้าไม่ได้เดรโกที่คอยพยุงหรือถ้าจะเรียกให้ถูกโอบรัดเธอจนแทบจะเป็นกอดเลยทีเดียว
เฮอร์ไมโอนี่พยายามฝืนกดริมฝีปากเอาไว้แล้วทำภารกิจที่ได้รับนั่นคือการเป็นภรรยาของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่ายโสโอหังที่สุดในฮ๊อกว๊อตส์
“เธอจะไปไหน”เดรโกถามเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่เดินเบี่ยงจากทางเดินเพื่อไปที่โต๊ะกริฟฟินดอร์
“ฉันจะไปนั่งโต๊ะบ้านฉัน “เฮอร์ไมโอนี่ตอบหน้าตาเฉย
“แต่เธอเป็นเมียฉัน เธอควรมานั่งกับฉัน”เดรโกไม่อยากกรายเข้าไปใกล้โต๊ะกริฟฟินดอร์นักและเขาเองก็อยากแยกภรรยาของเขาออกจากเพื่อนรักทั้งสองของเธอด้วย แต่เขาจะอ้างเหตุผลอะไรที่ดีไปกว่าการอ้างถึงตำแหน่งที่แท้จริงของเธอเล่า
เฮอร์ไมโอนี่หยุดคิดครู่หนึ่งก่อนพูด “งั้นก็นายมานั่งกับฉัน”
เดรโกก้มหัวลงและพูดใส่อารมณ์ที่ข้างหูเธอ“จะบ้าเหรอ เกรนเจอร์ ฉันเป็นผู้ชายนะ”
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจก่อนกดเสียงให้เบาและขึ้นเสียงด้วยอารมณ์รำคาญกึ่งๆต่อต้าน
“แล้วไง มัลฟอยในสัญญาข้อตกลงระหว่างฉันกับนายเราไม่ได้ตกลงกันไว้ว่าฉันต้องทำตามคำสั่งของนายทุกอย่าง “
เสียงแย้งไม่สบอารมณ์ดังขึ้น “แต่”
“อย่างี่เง่าหน่อยเลย มัลฟอยกลับไปนั่งที่นายซะ”เฮอร์ไมโอนี่พูดแทรกขึ้นมาและมองเดรโกด้วยสายตาที่ขนาดว่านางเบดูซ่ามาเห็นก็คงหนาวเหมือนกัน
เดรโกถอนหายใจและเดินมาที่โต๊ะสลิธลีน ปล่อยตามใจเธอก็แล้วกัน เขาบอกกับตัวเอง เธออาจจะไม่สบายใจที่จะต้องอยู่ห่างเพื่อนๆ หรือบางทีเธออาจจะยังไม่คุ้นกับการที่ต้องมานั่งที่โต๊ะที่เคยเป็นศัตรูของเธอมาก่อนก็ได้
เดรโกมีสีหน้าเย็นชาไม่แสดงอารมณ์ใดๆเมื่อมานั่งประจำโต๊ะอาหารที่บ้านสลิธลีน แววตาเขาช่างไร้อารมณ์เหมือนกลางคืนที่มีดมิด เขาไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆระหว่างทานอาหาร ความเงียบเฉยของเจ้าชายแห่วงสลิธลีน ทำให้ที่โต๊ะสลิธลีนเงียบกริบตามไปด้วย ความอึดอัดหนักขึ้นทุกที ในที่สุดเบลสก็กระแอมกระไอ ดังลั่นก่อนหันมาถามเดรโกเพื่อสร้างบรรยากาส
“ทำไมไม่เอาเมียนายมานั่งด้วยล่ะเดรโก”
เดรโกมีอาการลังเลก่อนที่จะตอบเบลส “ช่างเขาเถอะ”
คำพูดเหมือนไม่แยแสของเดรโกทำให้แพนซี่ถึงกับอมยิ้ม เธอกระแซะเข้าใกล้เดรโกเหมือนเจตนาให้คนอื่นๆเห็น
“หรือเมียนายไม่พอใจที่มีฉันมานั่งกับเธอด้วย”
“เมียฉันไม่ได้ขี้หึงนะแพนซี่ เขาดีออกจะตาย “เดรโกพูดยิ้มๆเขามองตรงแน่วไปที่ภรรยาของเขาที่โต๊ะกริฟฟินดอร์อย่างไม่สนใจใคร
“นี่นายเปลี่ยนมาชอบเลือดสีโคลนกันตั้งแต่เมื่อไหร่เดรโก หรือยายนั่นมีดีกว่าผู้หญิงเลือดบริสุทธิ์ที่นายเคยนอนมา”เบลสถามทำให้ดึงสายตาของเดรโกมาจากเฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งคุยอยู่กับเพื่อนของเธอ เดรโกจ้องหน้าเบลสเขม็งก่อนละสายตาไปมองเฮอร์ไมโอนี่ก่อนตอบ
“จะว่ายังงั้นก็ได้ เธอวิเศษมากเบลส “
“ทุกเรื่องเลยงั้นเหรอ”เบลสอมยิ้ม
เดรโกเข้าใจคำนัยของเบลสดีพอเขาผงกหัวรับและยิ้มอย่างร้ายกาจไปให้
“ใช่ทุกเรื่อง “
“เขาโชคดีนะที่ได้เธอน่ะเดรโก” แพนซี่ยิ้มแฝงความเครียดอยู่ในนั้นเดรโกคิดว่ามีร่องรอยของความอิจฉาริษยาเจืออยู่ในนั้นจนเกือบดูเหมือนว่ารอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มของความเสแสร้งไป
“วันนี้ช่วงเย็นนายลงมาที่ห้องนั่งเล่นรวมสลิธลีนหน่อยสิ”เบลสพูดเบาๆกับเดรโก
“ทำไม” เดรโกขมวดคิ้วแล้วถามกลับ
“พวกเรามีงานเลี้ยงเล็กๆให้นายน่ะ พาภรรยานายมาด้วยนะ”
เดรโกมองเบลสก่อนยักไหล่และพยักหน้าให้เขา“ก็ได้ ฉันจะมาแน่ แต่ไม่แน่ใจว่าภรรยาฉันจะมาด้วยหรือเปล่านะ”
@@@@@@@@@@@@@@@222
หลังจากทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยดีแล้วเดรโกและเฮอร์ไมโอนี่เดินไปที่ห้องใต้ดินด้วยกันเพื่อเรียนวิชาปรุงยากับศาสตราจารณ์เสนป
“ฉันไม่ไปไม่ได้หรือไง”เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นมาเมื่อรู้ถึงการเชื้อเชิญถึงงานฉลองเล็กๆที่จัดขึ้นที่บ้านสลิธลีนให้เจ้าชายของพวกเขา
ชั่วเสี้ยววินาทีที่เขาเงียบงันแล้วเขาก็หัวเราะขึ้น “ทำไมล่ะ ฉันว่ามันดีออกนะ เธอเองจะได้เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างบ้านด้วยไงล่ะ”
เธอเม้มปาก“แต่ว่า “
“กลัวโดนรังแกหรือไง ไม่ต้องห่วงน่ามีฉันอยู่ด้วย ฉันไม่ให้ใครรังแกภรรยาของฉันแน่”เดรโกมักเก่งในการแสดงบทบาทสองบทบาท บทหนึ่งเดรโกแสดงความก้าวร้าวกับทุกคน รวมถึงเธอด้วยในบางเวลา ในขณะที่อีกบทบาทหนึ่งแสดงการออดอ้อนเอาใจ ที่แย่ไปกว่านั้น เขาประสบความสำเร็จในการหลอกลวงเธอ ไล่ต้อนเธอ ซึ่งไม่มีใครสามารถทำได้กับเธอแบบนี้มาก่อนเลย
“เอางั้นก็ได้ แต่ นายน่ะ ระวังสิ่งที่นายจะดื่มด้วยล่ะมัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่พึมพำอย่างมีเลสนัยใส่หูเดรโก ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานอันตรายให้ภรรยาของเขา
“เธอกลัวอะไรกันกลัวว่าฉันจะเมาขาดสติ ปล้ำเธอหรือไงกัน”ริมฝีปากเปื้อนรอยยิ้มในขณะที่น้ำเสียงของเขายั่วเย้า
“กลัวนายเมา แล้วจะไปนอนกับผู้หญิงเรี่ยราดนะสิ” ใบหน้าของเธอแดงกล่ำไม่รู้ว่าเพราะความโกรธมากกว่าหรือความอายรุนแรงกว่ากันแน่
“โกรธอย่างนี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะที่รัก”เดรโกเย้าแหย่ พร้อมกับยกมือของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาจูบ
“นายจะต้องมาทำดีกับฉันทำไมกันเนี่ย ฉันว่านายอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ เดรโก”หญิงสาวเปล่งเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ
เดรโกส่งยิ้มร้ายกลับไปให้ “ก็เพราะว่าเธอคือภรรยาฉันยังไงล่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่กัดฟัน “แต่นายเกลียดฉัน” หญิงสาวกระซิบและลากชายหนุ่มมาที่มุมห้อง
“เธอไปเอาความคิดบ้าๆนี้มาจากไหนกันน่ะ”เขาตอบเสียงแห้งประกายตาร้ายกาจที่อยู่ลึกลงไปในดวงตาสีเทานั้นบอกให้เธอรู้ว่าเขาเริ่มมีอาการไม่พอใจอยู่ลึกๆ
“ก็นายแสดงความรู้สึกของนายออกมาซะชัดขนาดนั้น ยิ่งเลือดโคลนอย่างฉัน นายยิ่งไม่ชอบ”
เธอพ่นถ้อยคำกล่าวหาใส่สีหน้าเรียบเฉยเย็นชาของเขา หากสีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
เดรโกยักไหล่ “เลือดโคลนบ้าบออะไรนั้น ใครสนกันล่ะตอนนี้”
เห็นได้ชัดว่าเดรโกเองก็ยังคงคิดแบบนั้นอยู่ด้วยเช่นกัน ปากกว้างของเขาที่กระตุกแย้มกับคำพูดของเธอ อย่างกลั้นไว้ไม่อยู่แต่ร่องรอยของความขบขันหายไปเมื่อเขาพูดขึ้นและสายตาของเขาก็แปลเปลี่ยนไป เป็นน้ำแข็งสีขาวภายใต้เปลือกตาสีเทานั้นทันที
“ฉันคิดว่าแผนการของดับเบิลดอร์ในเรื่องนี้มันดูงี่เง่าสิ้นดี”เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยปากเบาๆ
“เธอพูดอย่างนี้แสดงว่าเธอไม่เคยเห็นคุณค่าของงานแต่งงานของเราเลยงั้นเหรอ เกรนเจอร์”ขายหนุ่มยิ้มร้ายกาจ เขาลืมเรียกหญิงสาวว่าคุณนายมัลฟอยมันเป็นอะไรที่น่ารำคาญสำหรับเขาในขณะที่สายตาของชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงความคิดบางอย่างที่ดูข่างรบกวนเขาจริงๆเธอดูเหมือนกลัวเขาในเรื่องที่เราต้องมีบางอย่างร่วมกัน
“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นน่ะ”เธอถุกปลุกเร้าอย่างหนักเพื่อเตือนความจำจนเธออยากจะอาเจียนออกมา
ไม่มีประกายตาอะไรในสายตาที่อ่านยากคู่นั้นที่กำลังจ้องมองเธออยู่ ในขณะเดียวกันเด็กหนุ่มเองก็ไม่ได้สนใจคำพูดของหญิงสาวสักเท่าไหร่นัก
“ยังไงมันก็สายไปแล้วเธอจะมางอแงอะไรกันตอนนี้ อีกอย่างเธอไม่สนุกหรือไงที่อยู่เหนือกว่าคนอื่นเขา”
“นายหมายความว่าไงอยู่เหนือกว่าคนอื่น”เธอถามมีแววสงสัย
“ฉันเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แครบเป็นเชื้อสายเลือดบริสุทธิ์ กอยล์ก็เป็นเชื้อสายเลือดบริสุทธิ์ แพนซี่อีกคน อ๋อใช่ วีสลีย์นั่นก็ด้วย ส่วนเธอผู้หญิงที่ดูดีที่สุดในฮอกวอตส์กลับเป็นพวกเลือดสีโคลน”
เฮอร์ไมโอนี่กอดอก และมองเขาอย่างใจเย็นนานเป็นครู่ก่อนจะหมดความอดทน “นายจะเข้าประเด็นได้ยัง”
เดรโกไม่ได้ช่วยให้เฮอร์ไมโอนี่ที่รู้สึกกระวนกระวายให้ดีขึ้นมาแต่อย่างใด “เกรนเจอร์” ชายหนุ่มครวญครางด้วยความรำคาญ เขาลืมใช้ชื่อใหม่ของเธออีกแล้ว
“มันไม่ใช่ฉันหรือไงที่ทำให้เธอเหนือกว่าคนอื่นๆ ฉันแค่ออกคำสั่งพวกนั้นก็เชื่อฟังฉันแล้ว” เด็กหนุ่มขบฟัน และพูดพลางเหยียดยิ้มที่มุมปากอย่างเย่อหยิ่ง
เฮอร์ไมโอนี่ดูแย่เล็กน้อยในเรื่องที่เดรโกประกาศออกมา สิ่งที่เดรโกแสดงออกมาเป็นนัยๆนั้นหญิงสาวไม่ได้รู้สึกดีไปกับมันเลย
“เธอก็ทำแบบที่ฉันทำได้” เด็กหนุ่มยิ้ม เขาหวังว่าจะช่วยให้หญิงสาวเข้าใจในประเด็นของเขาได้ คนเรามักจะชอบที่จะเป็นฝ่ายรับเสียมากกว่า
“ฉันจะเป็นอะไร เป็นผู้วิเศษหญิงหรือไง” หญิงสาวยักคิ้วขึ้น และยกแขนขึ้นกอดอกเฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปาก รู้สึกไม่สบายขึ้นมาทันที ตอนนี้เธอเหมือนติดกับดัก....จนมุมในช่วงปีที่ผ่านมา เธอไม่ได้รู้สึกมานานแล้วในตอนนี้เหมือนดังกับว่าเธอจะต้องออกศึกใหม่อีกรอบแต่คราวนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนกลับเป็นสามีของเธอเอง
เดรโกเกือบยิ้มให้กับคำพูดประชดประชันของเธอ
“ถ้าเธออยากเป็นฉันก็จะให้เธอเป็นเฮอร์ไมโอนี่” เขาตอบทำให้ชัดเจนลงไปเลยว่านี่ไม่ใช่การตัดสินใจร่วมกัน แต่เป็นของเขาเพียงผู้เดียว
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเยาะเล็กน้อยกับความเอาแต่ใจตัวของเขา ก่อนจะออกเดินต่อไปยังชั้นใต้ดิน “มาเถอะ เข้าห้องเรียนได้แล้ว” เธอบอกและดึงมือของเขาให้เดินตามมา
เฮอร์ไมโอนี่ปล่อยมือจากที่กุมมือเดรโกอยู่เมื่อถึงหน้าห้องเรียนวิชาปรุงยาและแยกย้ายกันเดินเข้าไปในห้องเรียน หญิงสาวเข้าไปนั่งข้างๆแฮร์รี่ด้วยความเคยชิน
แฮร์รี่หันมามองหญิงสาวด้วยความประหลาดใจ
“หวัดดี” หญิงสาวพึมพำขึ้นมาเบาๆ
ในขณะที่เดรโกเดินเข้ามาโดยที่ไม่สนใจอะไรหรือใครเลยและทรุดตัวนั่งลงข้างๆแครบร์ โดยที่เด็กหนุ่มจ้องมองภรรยาสาวของเขาจากทางด้านหลังอย่างพิจารณา
เฮอร์ไมโอนี่ดึงตำราที่จะใช้เรียนและปากกาขนนกขึ้นมา โดยมีแฮร์รี่มองตามเธอตลอดเวลาพลางกล่าว
“ไม่ไปนั่งกับแฟนเธอล่ะ” แฮร์รี่ถามขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ขมขื่น
“เราก็นั่งที่นี่ด้วยกันตลอดนี่”หญิงสาวขมวดคิ้ว นี่เธอต้องขออนุญาตก่อนจะนั่งที่ไหนงั้นหรอ หญิงสาวหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับเธออีก และแน่นอนเธอก็หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นกับเดรโกเช่นกัน
เดรโกอมยิ้มเมื่อเขาเห็นความเปลี่ยนแปลงที่แสดงออกทางสีหน้าของภรรยาสาวของเขาและเพื่อนรักของเธอ ดูเหมือนเขาจะค้นพบความสัมพันธ์ที่ดูไม่ลงรอยกันของพวกเขาเสียแล้ว
“เธอกะจะไม่บอกเรื่องงานแต่งของเธอกับเราตั้งแต่แรกแล้วซินะ” รอนที่นั่งอยู่ข้างๆแฮร์รี่พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่ไม่พอใจ
เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่เพื่อนของเธอด้วยสายตาที่แสดงความโกรธอยู่เต็มใบหน้าสวยของเธอ
“พวกนายโตกันซะทีเถอะ นี่มันเป็นสิ่งที่ฉันเลือก ฉันเสียใจที่ไม่ได้เล่าให้พวกนายฟังแต่ฉันไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ “
แฮร์รี่และรอนไม่พูดอะไรมีแต่แววตาที่ไม่เข้าใจฉายแววออกมา
“ ท่าทางของพวกนายตอนนี้ จะบอกฉันว่ามันเป็นความคิดที่แย่ใช่มั้ย”เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงคำรามอย่างเบื่อหน่าย มีพวกผู้ชายบางคนทำท่าทางฟังพวกเขาอย่างสนใจ
“ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น” แฮร์รี่พูดพร้อมกับหลบสายตาของเธอ
หญิงสาวสูดหายใจเข้าและมองเพื่อนๆของเธออย่างขัดเคืองใจโดยที่เธอไม่ทันได้สังเกตุว่า ศาสตราจารณ์เสนปเข้ามาอยู่ในห้องเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่ จนกระทั่งมีเสียงที่เย็นชารอดออกมาจากปากของเขา
“ถ้าพวกเธอยังจะคุยกันอยู่” สเนปจ้องมองมายังพวกเขาด้วยดวงตาอันเยือกเย็น “เราคงจะต้องเริ่มเรียนกันในปีหน้า”
“ฉันแน่ใจว่าเธอเรียนล่วงหน้ามาหมดแล้ว เว้นแต่ว่าคุณจะมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าในหน้าร้อนนี้ใช่มั้ย” สเนปมองด้วยสายตาดุๆมายังเฮอร์ไมโอนี่และคำพูดที่เขาพูดออกมาทำเอาหญิงสาวรู้สึกไม่พอใจอยู่เล็กน้อย
เดรโกยิ้มอย่างเยือกเย็นเรียกได้ว่าแทบถอดแบบออกมาจากศาสตราจารณ์เสนปเลยก็ว่าได้ หลังจากเขาเข้าสู่สงครามได้ไม่นาน ก็มีความกดดันอย่างอื่นเรื่อยมาไม่ว่าจะเป็นฐานะของเขา หรือชื่อเสียงล้วนแล้วถูกจับตามองมาโดยตลอด เพราะกระทรวงเวทมนต์เริ่มจะเข้ามาก้าวก่ายและพยายามปลดฐานะของตระกูลเขาเนื่องจากพวกเขาล้วนแต่เกี่ยวพันกับพวกผู้เสพความตายมาอย่างต่อเนื่อง แต่บารมีของตระกุลมัลฟอยยังพอมีอยู่บ้าง กระทรวงเวทมนต์จึงได้แต่ดูอยู่ห่างๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจของเดรโกเป็นอย่างมาก หากแต่เมื่อเขาแต่งงานกับเกรนเจอร์หนึ่งในสมองของแฮร์รี่พอตเตอร์สิ่งนั้นจะเปลี่ยนไป ใช่ ถ้าทุกคนได้รับรู้ เมื่อถึงเวลาในวันนั้น และแม้ว่าใครบางคนต้องการจะเบนความสนใจมาในเรื่องงานแต่งงานของพวกเขา นั่นมันเข้าทางของเดรโกชัดๆ
ภายในห้องเรียนเงียบกริบศาสตราจารณ์เสนปหันไปมองพวกนักเรียนทีละคนด้วยสายตาแข็งกร้าว
“มีใครอยากจะร่วมแสดงความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เราจะเรียนในเทอมนี้มั้ย”
เนวิลล์ ลองบัตทอมยกมือขึ้น
และคนทั้งห้องเรียนเหมือนเกือบกลั้นลมหายใจไปพร้อมๆกัน ส่วนทางเดรโกหัวเราะออกมาเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่จำเสียงนี้ได้ทุกที่ เธอหันหลังกลับไปมองสามีของเธอแล้วถลีงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ แต่เดรโกกลับเสมองไปทางอื่นเหมือนไม่สนใจ
“คุณลองบัตทอม” สเนปจ้องไปยังพวกบ้านกริฟฟินดอร์ “คุณอยากจะแบ่งปันสิ่งที่เราได้ยินกันมาในเทอมนี้ซินะ”
เนวิลล์พยายามเปิดปากและปิดมันลงทันที เขาไม่สามารถทำในสิ่งที่เขาต้องการได้ เขามันขึ้ชลาด เนวิลล์มองไปรอบๆห้อง เขาเริ่มรู้สึกหน้ามืด
สเนปหรี่ตาลงและยังคงพูดต่อไปโดยไม่มีจังหวะให้แทรกขึ้นมา “มีใครอีกมั้ย” เขาถามขึ้นและใช้นิ้วชี้ไปทางเฮอร์ไมโอนี่ “คุณเกรนเจอร์อยากจะร่วมแสดงความเห็นมั้ย”
สายตาของทุกคนย้ายจากเนวิลล์หันไปมองยังเฮอร์ไมโอนี่
หญิงสาวได้ยินเดรโกกระแอมและมันทำให้เธอรู้สึกรำคาญที่เขาไม่ออกมารับผิดชอบกับเรื่องนี้เลย ใช่เขาต้องปกป้องเธอซิ เขาเป็นสามีของเธอนะ แต่นี้เขากลับให้เธอต้องแก้ปัญหาเอง
“อืม
คือ
ฉันเปลี่ยนไปใช้ชื่อสามีของฉันแล้วค่ะ” หญิงสาวพึมพำ
หญิงสาวชำเลืองมองไปทั่วและรู้สึกได้ว่าทุกคนอ้างปากค้างตอนที่เธอพูดออกมา
“อ่ะ..ใช่” สเนปพยักหน้า “แล้ว
ชื่ออะไรล่ะ ฉันจะได้จำไว้”
ทุกคนในห้องต่างเงียบลงและมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่เป็นตาเดียวกัน ขณะที่เนวิลล์กลับมานั่งที่เก้าอี้อย่างช้าๆเฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายอย่างลำบาก
“มัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอย”
หญิงสาวมองไปยังเดรโก และเขาส่งยิ้มร้ายกลับมาให้
เนวิลล์หงายหลังตึงลงบนพื้น เขาไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อนทั้งๆที่น่าแปลกที่คนในบ้านของเฮอร์ไมโอนี่ส่วนใหญ่รับรู้เรื่องนี้กันไปแล้วโดยเฉพาะชั้นปีของเธอ แต่เนวิลล์กลับมัวแต่ไปทำอะไรอยู่นะ เฮอร์ไมโอนี่คิดในใจ เมื่อมองเขาและออกอาการขันเล็กน้อย
ทุกคนมองไปยังใบหน้าของหญิงสาวตอนที่เธอเอ่ยชื่อสามีออกมา ตอนนี้มันเป็นชื่อเธอแล้วโดยสมบูรณ์
ความเป็นจริงสำหรังเดรโก มัลฟอยแล้ว มีหลายครั้งที่เขาไม่อยากอยู่ที่โรงเรียนนี้เลย เขาไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่นัก จริงอยู่ทุกคนล้วนแล้วแต่เอาใจเขา ทุกคนกลัวเขา และมีสาวๆอีกหลายคนที่อยากนอนกับเขา แต่เขากลับไม่รู้สึกยินดีไปกับมันเลย
แต่ใครจะรู้ว่าการได้แต่งงานกับสาวเลือดโคลนอย่างเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เป็นสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มมีความสุขมากที่สุดโลกดูสวยงามขึ้นมาก และชีวิตของเขาก็มีชีวิตชีวาขึ้นอีกโขทีเดียว
และแน่นอน นี้มันไม่ใช่อาการเพ้อของคนที่เพิ่งแต่งงาน แต่มันเป็นเรื่องจริงที่เขาได้เผชิญ แต่มันจะเป็นไปอีกนานแค่ไหนเรื่องนั้นเขาไม่อาจรู้ได้แต่เขาก็จะยื้อมันให้ถึงที่สุดจนได้
__________________________________
อารมณ์ขุ่นมัวของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มอ่อนลงเมื่อเธอคิดว่า
เรื่องน่ารำคาญบ้าบอของเธอมันจะทำให้เธอดูเป็นตัวตลก ของคนอื่นๆไปเฮอร์ไมโอนี่เหลือบตาขึ้นมองดูสามีของเธอที่กำลังนั่งทานอาหารค่ำอยู่กับเหล่าบรรดาสมุนปัญญาอ่อนของพวกเขา
เดรโกดูเหมือนจะมีความสามารถพิเศษที่ทำให้หญิงสาวจนมุมได้ เขาทำเพียงแค่ยืนนิ่งๆมองดูเธอ ซึ่งการทำแบบนี้มันทำให้หญิงสาวโกรธ
เฮอร์ไมโอนี่กำลังคิดถึงครอบครัวที่สามีเอาใจใส่ภรรยาเฉพาะตอนที่เธอป่วยเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก้จะทำเฉยหรือเย็นชาใส่ เธอภาวนาว่าเออย่าต้องมีครอบครัวแบบนี้เลย พอคิดเมื่อไหร่ก็พาลจะกินอะไรไม่ลงเลยจริงๆ
“พระเจ้า เธอไปที่นั้นเหอะ” รอนครวญครางพร้อมกับตักซุปของเขาขึ้นมากิน
หญิงสาวตื่นจากภวังค์“อะไรนะ” เธอถามเกือบๆจะสำลักน้ำฟักทองที่เธอกินเข้าไป
“ถ้าเธอมองเขาอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ เธอไปอยู่กับเขาและปล่อยพวกเราไว้ที่นี่ก็ได้นะเฮอร์ไมโอนี่”รอนพูดและคว้าน่องไก่มากินเป็นน่องที่สองแล้วในตอนนี้
เฮอร์ไมโอนี่อึ้งไปนิดนึง “ฉันเปล่านะ”
จินนี่หัวเราะเบาๆ “ใช่ เธอทำอยู่”
“ชู่ว์” แฮร์รี่ส่งเสียงไม่พอใจออกมา พร้อมชี้ให้ดูว่าดัมเบิลดอร์มายืนอยู่ข้างหน้าเวที ทุกอย่างเงียบลงทันทีความเงียบเข้าครอบงำ ดัมเบิลดอร์เริ่มพูดขึ้นมาด้วยเสียงก้องกังวาล
“ฟังที่ฉันจะพูดกันหน่อยนะ ฉันยังไม่ได้ประกาศเรื่องสำคัญไปเมื่อตอนบ่ายนี้”
เสียงหัวใจของเฮอร์ไมโอนี่ดังแข่งกับเสียงเงียบภายในห้องโถง เธอมองหาที่ๆจะซ่อนตัวได้เพราะเธอรู้แล้วว่าศาสตราจารณ์ใหญ่ดับเบิ้ลดอร์จะพูดเรื่องอะไรบ้าง
“ตอนนี้ได้เวลาที่จะประกาศชื่อของหัวหน้าฝ่ายชายและฝ่ายหญิงแล้ว”
เฮอร์ไมโอนี่หลับตาข่มความกลัวและเดินออกมาหยุดอยู่ตรงหน้านักเรียนทุกคน ส่วนเดรโกก็เดินทอดน่องออกมาอย่างช้าๆสบายๆ มายืนอยู่ข้างๆหญิงสาว
“นี่” ดัมเบิลดอร์เริ่มพูดขึ้น “คือเดรโก มัลฟอยจากบ้านสลิธีรินและนี่”
ชายชราหันกลับมามองที่เฮอร์ไมโอนี่ “คือเฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอย แห่งบ้านกริฟฟินดอร์ พวกเขาเพิ่งจะแต่งงานกัน”
ชายชราที่มียศถึงศาสตราจารย์ใหญ่อธิบายให้กับเหล่านักเรียนฟัง
“มาแสดงความยินดีกับพวกเขาหน่อย”
ชายชราเริ่มปรบมือและพวกนักเรียนก็เริ่มปรบมือตาม มันเป็นสิ่งที่ยากที่จะพูด และคงจะทำให้ตกใจกันอยู่บ้างกับนักเรียนบางคนที่ยังไม่รู้เรื่องเมื่อเสียงปรบมือเงียบลง เฮอร์ไมโอนี่หันกลับไปมองเดรโกอย่างไม่แน่ใจว่าพวกเขาควรยืนอยู่ตรงนี้อีกนานมั้ย
การแสดงความยินดีเริ่มจากโต๊ะของบ้านกริฟฟินดอร์ไปยังโต๊ะของบ้านสลิธีริน โดยทั้งสองบ้านต่างเคาะช้อนกับแก้วจนเกิดเสียงดังขึ้น
เฮอร์ไมโอนี่มองไปยังเดรโก “ฉันคิดว่ามันเป็นธรรมเนียมของเหล่ามักเกิ้ลอย่างเดียวซะอีก”
“ไม่หรอก” ชายหนุ่มยิ้มอันตรายส่งมาให้เธอ
“พ่อมดก็มีงานแต่งเช่นกัน คุณนายมัลฟอย”
ทุกสิ่งบนโลกนี้ดูเหมือนจะหยุดชะงักลง ในขณะที่ชายหนุ่มสวมกอดหญิงสาว ริมฝีปากของทั้งสองใกล้กันมากยิ่งขึ้น และยิ่งขึ้น
ในขณะที่นักเรียนฮ๊อกว๊อตส์แทบจะทุกคนเงียบเสียงลงและอ้าปากค้างอย่างลืมตัวกับสิ่งที่พวกเขากำลังมองอยุ่อย่างลุ้นระทึกไปตามๆกัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น