ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic แปล harry potter / Strange and beautiful เซดีก/เฮอร์ไมโอ

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 : คืนที่จะเปลี่ยนทุกอย่าง...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 853
      18
      7 มี.ค. 54

    Strange and beautiful

     

    บทที่ 3

    คืนที่จะเปลี่ยนทุกอย่าง...

                 เซดริกรู้สึกตลกที่ตัวเองยืนอยู่ตรงนี้  เขากำลังยืนอยู่นอกรูปภาพสุภาพสตรีอ้วน และประหม่าเหมือนกับเป็นเด็กเล็กๆคนหนึ่งที่กำลังรอคอยรถไฟขบวนแรกเพื่อไปโรงเรียน   เขาคือเซดริก ดิกกอรี่ ไม่มีความจำเป็นต้องประหม่า  เขารู้วิธีที่จะปฏิบัติตัวเวลาอยู่ใกล้ผู้หญิง   ผู้หญิงทุกคนเหมือนกัน ให้คำชม จ้องไปในดวงตาของเธอ จับมือเธอ ทำให้เธอรู้สึกพิเศษ เขาเอาชนะใจโชได้เมื่อเขาทำมันอย่างตรงไปตรงมา เขาจึงไม่มีเหตุผลที่จะประหม่า  อีกห้านาทีจะสามทุ่มและเซดริกข้ามช่วงเวลาที่แสนยาวนานสุดที่ไม่อาจนับได้ไปแล้ว  เขาสูดลมหายใจลึกและพยายามไม่สนใจปมขมวดที่อยู่ในท้องของเขาในตอนนี้  นี่ไม่ใช่โชหรือผู้หญิงคนอื่นๆ  ด้วยเหตุผลบางข้อ เซดริกรู้ดีว่าเขาไม่ทำกับเธอแบบที่เขาจะทำกับผู้หญิงคนอื่น เฮอร์ไมโอนี่แตกต่าง เธอดีกว่า เขารู้ดีด้วยเหตุผลบางข้อ เขารู้ดีแล้ว

                  เขาสูดลมหายใจลึกและยืนพิงกำแพงที่อยู่ถัดจากภาพวาด รอคอยอย่างกระสับกระส่าย  เขาต้องการพบเธออย่างรุนแรง  เมื่อเขาเห็นเธอตรงทางเดิน เธอเป็นเพียงสิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดของเขา  นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจเลย  เธอเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถคิดถึงได้  ในตอนนี้เขาพิงหัวเข้ากับกำแพงที่เขายืนพิงอยู่และหลับตาลง  เขาอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาต่อไป  เขาเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน  มันเป็นอะไรที่รุนแรงแบบนี้  แค่คิดถึงเฮอร์ไมโอนี่ก็ทำให้ทั้งตัวของเซดริกปวดร้าวไปหมดแบบที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่ง   เขาอยากจะอยู่ใกล้ๆเธอตลอดเวลา    นิ้วมือของเขาร่ำร้องอยากสัมผัสเธอ  ริมฝีปากของเขาแผดเผาอยากจะลิ้มรสเธอ เขาไม่แน่ใจว่าอย่างไรและทำไม  แต่เขาเริ่มอยู่ในภวังค์แห่งความคิดและต้องการเธอ

                  เขาฝันถึงเธอทุกๆคืน ครั้งแรกเกิดขึ้นหลังจากเวิร์ดคัพ และมันเกิดขึ้นอีกครั้ง หรือ สองครั้งต่อสัปดาห์  แต่หลังจากงานเลี้ยงเต้นรำและหลังจากภารกิจที่สอง การฝันถึงเธอดูเหมือนจะเกิดขึ้นทุกคืน และไมใช่ความฝันธรรมดา หรืออาจจะเป็นความฝันสำหรับเด็กชายวัยแบบเขาที่จะมี  ความฝันถึงร่างกายของเฮอร์ไมโอนี่ เปลือยเปล่าและนอนอยู่ข้างๆเขาบนเตียงของเขา  ผิวของเธอช่างอ่อนนุ่ม มันรู้สึกราวกับเส้นไหม เมื่อเขาใช้ปลายนิ้วมือลูบไล้ไปบนผิวของเธอ  จดจำทุกๆรายละเอียดบนผิวขาวนวล  ไม่ว่าจะเป็นไฝ รอยแผลเป็นบนร่างกายเธอ  ในความฝัน เขารู้แค่เพียงจูบเธอที่ไหน  ที่บนร่างกายของเธอ ซึ่งทำให้เธอร้องครวญคราง  และร้องเรียกชื่อเขาด้วยเสียงกระซิบแผ่วๆ  ในความฝันพวกนั้น เธอไม่เอียงอายเวลาอยู่ใกล้เขาอีกต่อไปแล้ว  เธอใช้นิ้วมือลูบไล้เส้นผมของเขา กดร่างของเธอทับ ร่างของเขา   จูบเขาในแบบที่ต้องการและหิวกระหายอย่างมาก  เธอตอบสนองความต้องการของเขา  สัมผัสสู่สัมผัส   เซดริกพบว่ามันยากมากที่จะตื่นจากความฝันเมื่อเวลาเช้ามาถึง

                   ดิกกอรี่  เซดริกเปิดตาโพล่งและผลักตัวเองออกจากกำแพงในทันที  เขายืนตัวตรง    ศาตราจารย์มัลกอลนากัลยืนอยู่ตรงหน้าเขา และกำลังจ้องเขา   หมวกที่อยู่บนหัวของเธอเอียงเล็กน้อย  เขากลืนน้ำลายลงคอ และเหลือบมองไปที่ภาพวาด และมองเห็นเฮอร์ไมโอนี่อยู่ตรงนั้น   ด้วยเหตุผลบางอย่าง   การยืนอยู่นอกตึกกริฟฟินดอร์ เพื่อรอคอยแม่มดที่ฉลาดที่สุด และด้วยศาสตราจารย์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์ที่กำลังจ้องเขาอยู่ราวกับว่าเขากำลังทำความผิดอย่างร้ายแรง เซดริกรู้สึกเป็นประสาท เขารู้สึกราวกับว่า ตัวเองกำลังทำบางอย่างที่ผิดอยู่  เขาขยับเท้าเล็กน้อย

                  คุณทำหน้าที่พรีเฟ็คของคุณได้สมบูรณ์แล้วเหรอในเย็นนี้ คุณดิกกอรี่”

                 ครับ ศาสตราจารย์ เซดริกตอบพร้อมกับผงกหัวอีกครั้ง 

                 ผมแค่กำลัง...

              ภาพวาดสุภาพสตรีอ้วนเหวี่ยงออกอย่างช้าๆและเฮอร์ไมโอนี่ก้าวออกมา  คำพูดของเซดริกขาดหายไป    ในขณะที่เขามองเธอ และเมื่อดวงตาของพวกเขาประสานกัน  เธอยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น  ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งคู่ดูเหมือนจะลืมไปเลยว่าศาสตราจารย์มักกอนนากัลอยู่ตรงนั้นด้วย  และมองพวกเขาแต่ละคนอย่างใกล้ชิด  เซดริกยิ้ม และก้าวไปหาเฮอร์ไมโอนี่   และรอยยิ้มจางที่สุดปรากฏบนริมฝีปากเธอในขณะที่เธอจ้องมองเขา  เขามีแรงกระตุ้นที่ทรงพลังมากที่สุดที่จะเอื้อมมือไปหาเธอ... เพื่อจะกอดเธอ... เพื่อจะค้นหาว่าเธอส่งกลิ่นหอมหวานเหมือนตอนที่อยู่ในฝันหรือไม่    ตอนที่เขาฝันถึงเธอ  เธอส่งกลิ่นคล้ายกับวนิลา

                 พวกเขาขยับเข้าหากันราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดทั้งคู่      ทั้งเซดริกและเฮอร์ไมโอนี่ยืนใกล้กันจนเฮอร์ไมโอนี่ต้องเอียงหัวออกไปเพื่อมองเข้าไปในดวงตาของเขา  ผมของเธอเกล้าขึ้นเป็นทรงหางม้าซึ่งมีปอยผมเป็นลอนสองสามปอยตกลงหลวมๆ    เซดริกทัดมันไว้หลังใบหูของเธอ มือของเขาเลื่อนต่ำลง  และใช้นิ้วมือลูบไล้บริเวณด้านข้างลำคอของเธอ  เธอตัวสั่นเล็กน้อยแต่สายตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่เขา  เธอรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าที่วิ่งผ่านร่างกายพวกเขาทั้งคู่

                    เฮอร์ไมโอนี่วางมือลงและก้าวออกห่างจากเขาด้วยความกลัว  ปากของเธออ้าค้างเล็กน้อย  เธอไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่เธอเพิ่งรู้สึกได้   ราวกับว่ากระแสไฟฟ้ากำลังวิ่งผ่านเส้นเลือดของเธอ ทำให้หัวใจเธอเต้นแรงและร่างกายเธอเสียวซ่าน  เมื่อมองไปที่เซดริก เธอเห็นได้ว่าเขากำลังเป็นแบบเดียวกัน   ร่างกายของเธอยังคงตื่นตัวและอยู่ในอาการขนลุก    พวกเขายังคงจ้องมองกันและกัน ทั้งคู่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป  พวกเขารู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติที่พวกเขาแต่ละคนจะรู้สึกเมื่ออยู่ใกล้คนอื่น

                     ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เริ่มกระแอม  และทำให้นักเรียนทั้งคู่รู้สึกตัว  ในที่สุดความพยายามก็เป็นผล เมื่อทั้งคู่ละสายตาออกจากกันและมองไปที่เธอ   ศาสตราจารย์กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ ดวงตาของเธอเบิกกว้างเล็กน้อย แต่มันไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ใบหน้าของเธอไร้การแสดงออกใดๆ   เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงที่รู้ว่าศาสตราจารย์ของเธอ เพิ่งเป็นพยาน   เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองลงด้านล่าง  มองหาจุดที่อยู่บนพื้นที่ดูน่าสนใจ  แต่เธอต้องเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเมื่อศาสตราจารย์พูดกับเธอ    

                      เธอสองคนอยู่ตามลำพังด้วยกันไม่ได้นะเธอพูดอย่างเข้มงวด

                      เฮอร์ไมโอนี่กับผมกำลังจะไปเดิน...เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบางสิ่งที่เราสงสัยครับ  ศาสตราจารย์ เซดริกพูด  คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อยด้วยความสับสน  เขาคิด...ไม่ได้เพิ่งผ่านช่วงเคอร์ฟิวสักหน่อย ถ้าเขากับเฮอร์ไมโอนี่อยากจะไปเดินเล่น พวกเขาก็น่าจะทำได้    พวกเขาไม่ใช่คู่รักเด็กปีหนึ่งอีกต่อไปแล้ว  และอย่างไรก็ตามเขาเข้าใจความกังวลของศาสตราจารย์เกี่ยวกับเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงที่เดินรอบปราสาทเป็นอย่างดี เนื่องจากนั่นอาจจะนำไปสู่บางสิ่ง  ในแบบที่ศาสตราจารย์มักกอลนากัลพูดถึง  ซึ่งเป็นอะไรที่เขาคาดหวังจะให้เกิดขึ้นระหว่างเฮอร์ไมโอนี่ 

                   ใช้เวลาไม่นานหรอกค่ะ ศาสตราจารย์  เซดริกกับหนูจะเดินไปรอบๆสนาม  เฮอร์ไมโอนี่พูดแทน  และเพิ่มเติมเหตุผลของเซดริก   เฮอร์ไมโอนี่แทบจะไม่เคยขัดคำสั่งของศาสตราจารย์เลยสักครั้ง  โดยเฉพาะมักกอลนากัล     แต่ชั่วขณะนั้น เธอต้องการที่จะเดินไปกับเซดริกมากกว่าการทำให้ศาสตราจารย์ของเธอพอใจ  เฮอร์ไมโอนี่เกือบจะต้องตกใจกับสิ่งที่เธอพูดมันออกมา  เธอสนใจสิ่งอื่นมากกว่าการทำให้ศาสตราจารย์พอใจและการทำตัวดีในโรงเรียนอย่างนั้นหรือ   การเดินเล่นกับเด็กผู้ชายสำคัญกว่าสิ่งอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน   นี่ไม่ใช่เธอเลย เธอไม่ได้เพิ่งพูดมันออกไปใช่ไหม   เธอคือเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์   โรงเรียนและการสำเร็จการศึกษาคือสิ่งที่เธอเป็น   นักเรียนที่ประสบความสำเร็จเช่นเธอจะไม่มีเวลาให้แก่หนุ่มๆและมีนัดลับๆกับพวกเขา   และถึงอย่างไร เธอไม่ต้องการอะไรมากกว่าการจับมือเซดริกและลากเขาออกไปจากที่นั่นเพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่กันตามลำพัง  ความปรารถนาที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเซดริกช่างท่วมท้น เธอรู้สึกราวกับว่าเนื้อของเธอเต้นตุบๆ เธอวิตกกังวลมากเหลือเกิน

                ทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกคุณเกรนเจอร์ คุณกับคุณดิกกอรี่จะไม่ได้อยู่กันตามลำพัง ไม่ว่าจะเวลาใด ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์บอกให้พวกกอาจารย์ทราบถึงการตัดสินใจของเขาแล้ว “   มักกอลนากัลกล่าว และขยับตัวเธอเพื่อจะยืนขวางระหว่างเซดริกและเฮอร์ไมโอนี่   กันพวกเขาให้แยกจากกัน    แม้ว่าจะมีคนอื่นมาคั่นกลางระหว่างพวกเขา แต่เซดริกรู้สึกได้ถึงความสับสนที่ถาโถมเฮอร์ไมโอนี่ในแบบเดียวกับที่เขาเป็น

                 ทำไมศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ต้องวิตกว่าเซดริกกับหนูจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันหรือไม่ล่ะค่ะเฮอร์ไมโอนี่ตั้งคำถาม และจ้องเข้าไปในดวงตาสีเทาของเซดริก  

                  นี่ไม่เข้าท่าเลย มันไม่ถูกต้อง  เธอต้องการที่จะอยู่ใกล้ชิดเซดริก  มันเป็นมากกว่าความต้องการหรือความปรารถนา  เธออยากอยู่ใกล้เขาเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอไม่อยู่ข้างเขา เธอจะรู้สึกหนาวและว่างเปล่าราวกับถ้ำที่เป็นโพลง  เวลาที่พวกเขาไม่ได้อยู่ใกล้กัน เธอรู้สึกคิดถึงเขาในทันทีและในยามค่ำคืน เธอฝันถึงเขา  ทีแรกเป็นความฝันแบบไม่เข้าท่า   ความฝันดูเหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่าแวบแรกแห่งรอยยิ้มของเขา    นิ้วมือของเธอผ่านเส้นผมของเขา ริมฝีปากของเขาวางอยู่บนขาอ่อนของเธอ แต่แล้วความฝันเริ่มชัดเจนมากกว่าเดิม  เธอสัมผัสได้ถึงน้ำหนักxxxxxxxxxxxxxxxx ผิวของเขาลื่นไหลผ่านผิวนวลของเธอ  นิ้วมือของเธอไล้ไปทั่วร่างกายของเขา  ไปทั่วกล้ามเนื้ออันแข็งแรง  บางครั้งเธออยู่xxxxxxxxxx ร่างกายของเธอสะท้านต่อร่างกายของเขา ในขณะที่มือของเขาลูบไล้ไปทั่วทุกหนทุกแห่งxxxxxxxxxxxxxx  มือของเขาจับใบหน้าของเธอไว้  และดึงเธอให้ต่ำลงไป ริมฝีปากของเขาพยายามค้นหาริมฝีปากของเธอ ความฝันช่างชัดเจนและมีรายละเอียด ราวกับว่ามันเป็นความจริง   มันเริ่มยากมากขึ้น มากขึ้นสำหรับเธอที่จะตื่น

                   ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ เขาตัดสินใจหลังจบภารกิจที่สอง มักกอนนากัลอธิบายห้วนๆ ในตอนนี้ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และเซดริกเห็นพร้องกันว่า ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเริ่มปั่นป่วนและดูเหมือนกับว่าเธอแทบจะเป็นประสาทกับอะไรบางอย่าง

                       เวลานี้ คุณเกรนเจอร์ ฉันขอให้คุณกลับไปที่ห้องของคุณ และเช่นเดียวกัน คุณดิกกอรี่ ส่วนฉันต้องไปคุยกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เกี่ยวกับเรื่องนี้

                       แต่ ศาสตราจารย์ครับ เซดริกเริ่มต้นพูด แต่มักกอนนากัลตัดบท และชี้นิ้วลงไปที่ทางเดินจากหน้าหอนอนกริฟฟินดอร์   เขาถอนหายใจ แล้วมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ ดวงตาของพวกเขายังคงติดตรึงอยู่เป็นเวลานานแสนนานและทั้งคู่ก้มหัวเล็กน้อยเพื่อส่งสัญญานเป็นเชิงร่ำลา พวกเขาจะไม่แยกจากกันแบบนี้อีก  สิ่งต่างๆช่างสับสน  ทั้งเซดริกและเฮอร์ไมโอนี่ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่มีบางสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ดัมเบิลดอร์รู้  รู้บางอย่างที่ทำให้ต้องสั่งให้พวกอาจารย์เฝ้าดูพวกเขาสองคน  อย่างไรก็ตามมันเพียงแต่จะทำให้เกิดความสงสัย และพวกเขาต้องค้นหาว่ามันคืออะไร

                       นาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่วิ่งลงไปยังบันไดหิน ที่นำไปยังต้นวิลโล่จอมหวด มันเป็นคืนที่หนาวเย็น ลมหายใจที่พ่นออกมาตรงหน้าเป็นควันออกมาเป็นระยะๆ อากาศที่เยือกเย็นแทรกผ่านปอดของเธอ แต่เธอยังคงวิ่งต่อไป  เธอสัมผัสได้ถึงเขา  เขาอยู่ที่นั่นแล้ว กำลังรอเธออยู่ เธอต้องรีบ เพราะไม่รู้ว่าพวกเขามีเวลาเท่าไหร่  เซดริกยืนอยู่ตรงนั้น ระยะที่ปลอดภัยจากกิ่งก้านของต้นวิลโล่ มือของเขาซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทแต่ในทันทีที่เขาเห็นเธอ  เขาดึงมือออก เมื่อเธออยู่ภายในระยะ เขาจับมือเธอและดึงเธอเข้าไปใกล้ กดเธอแน่นแนบร่างกายของเขา เฮอร์ไมโอนี่โอบแขนของเธอไว้รอบเอว เธอกอดเขาแน่น ทั้งคู่ไม่มีใครพูดอะไร  เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นและเขาบีบมือเธอไว้

                       เฮอร์ไมโอนี่แหงนหน้ามองเขาและเซดริกก้มลงมองเธอ พวกเขารู้สึกถึงแรงดึงดูดระหว่างกัน  รู้สึกถึงแรงที่มองไม่เห็น...ที่ไม่มีชื่อเรียก และไม่อาจจะอธิบายได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม มันเต็มไปด้วยพลัง  พลังที่มากเกินกว่าจะต่อสู้หรือต่อต้านมัน เธอขยับก่อนและเขย่งปลายเท้า แขนของเธอโอบรอบคอเขา  โน้มตัวเขาลงไปให้ใกล้ชิดตัวเธอ ในฉับพลันริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกัน ราวกับว่ามีใครเสกลูกโป่งล้อมรอบตัวพวกเขาไว้ พวกเขาไม่รู้สึกถึงลมหนาวที่ส่งเสียงอยู่รอบตัวพวกเขา พวกเขาจูบกันซ้ำแล้วซ้ำอีก ริมฝีปากของพวกเขาประเล้าประโลมกันในท่าทีที่สมบูรณ์แบบ ราวกับว่าพวกเขาจะจูบกันและกันไปทั้งชีวิต

                เซดริกยกมือขึ้นจับใบหน้าของเธอไว้ เขาจูบเธอแรงขึ้นเล็กน้อย เฮอร์ไมโอนี่ร้องxxxxxxxxดันตัวเองแนบชิดเข้าสู่ร่างกายของเขามากขึ้น  กระแสไฟฟ้าไหลผ่านทุกโสตประสาทในร่างกายเธอ  พวกเขายังคงไม่พูดอะไรจนถึงตอนนี้  มีเรื่องมากมายที่จะพูดแต่ในชั่วขณะนั้นทั้งหมดที่ทำได้ คือ จูบกันและกัน เซดริกรู้ว่าเขาคงจะเสียสติไปแล้วแน่ๆ หากปล่อยให้ริมฝีปากของเธอจากไป  เขาต้องการจูบเธอต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าสำหรับเขา  ไม่ใช่โรงเรียน, ไม่ใช่การแข่งขัน หรือภารกิจต่อไป ไม่ใช่ครอบครัวหรือเพื่อน  แต่สิ่งเดียวในชีวิตที่เขาใส่ใจ คือเธอ..เฮอร์ไมโอนี่   ซึ่งในตอนนี้ริมฝีปากของเธอที่กำลังขยับประกบริมฝีปากของเขา

                ดัมเบิลเดอร์ต้องการแยกพวกเขาออกจากกัน  แต่เฮอร์ไมโอนี่และเซดริก รู้ดีว่าในตอนนี้ริมฝีปากของพวกเขาแนบชิดกันอย่างที่สุด ลิ้นของพวกเขาผสานกัน ไม่อาจแยกออกจากกันได้  พวกเขาปฎิเสธที่จะแยกจากกัน  พวกเขาปฎิเสธมัน  ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เป็นอยู่ระหว่างพวกเขา  มันแข็งแกร่งเกินไปแข็งแกร่งเกินกว่าจะตัดขาด   ทั้งคู่มีความรู้สึกว่าถ้าสายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาถูกตัดออกไป และทำให้พวกเขาไม่สามารถไปกันต่อได้  เซดริกรับรู้ว่าเขาจะตายในแต่ละชั่วโมงที่เขามีชีวิตอยู่โดยปราศจากเธอ   เขาทำได้แค่จินตนาการว่ามันจะเป็นยังไง  ถ้าดัมเบิลเดอร์แยกเขาและเฮอร์ไมโอนี่ออกจากกัน  พวกเขาทั้งคู่ไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อโดยปราศจากกันและกัน

                “เราต้องค้นหาว่ามันคืออะไร” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบผ่านลมหายใจในขณะที่เซดริกขยับริมฝีปากลงไปที่คอของเธอ  จูบอย่างละเมียดละไมตรงข้างคอของเธอ 

                “สัญญากับฉันซิ เซดริก ว่าเราจะเริ่มค้นหา   เราต้องค้นหา  เราต้องรู้ว่านี้คืออะไร” เธอพูดร้องครางเสียงแผ่ว  ในขณะที่เขาใช้ปากเม้มที่ผิวของเธอ  เขาผงกหัวเป็นการตอบรับ  เพราะไม่อาจพูดได้ในตอนนี้เขายังคงจูบเธอ และดมกลิ่นเธอไปเรื่อยๆ   แน่นอนเธอพูดถูก ถ้าเป็นเฮอร์ไมโอนี่ เธอถูกเสมอ  พวกเขาจะเริ่มค้นหาแม้ว่าทั้งคู่จะมีแค่ความคิดเลือนลางที่สุดว่าจะเริ่มที่ไหน

    ..............................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×