ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry potter I never regretted that she lovers (เดร/เฮอร์)

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4: ความเปลี่ยนแปลงของเฮอร์ไมโอนี่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.31K
      6
      12 มี.ค. 53

    Chapter 4: ความเปลี่ยนแปลงของเฮอร์ไมโอนี่

     

    ร่างบางของหญิงสาวผมสีน้ำตาลถูกกระแทกชนจนหนังสือเจ้ากรรมที่เธอหิ้วขึ้นมาบนรถไฟด้วยตกลงบนพื้นกระจัดกระจายไปทั่ว เฮอร์ไมโอนี่ผวาคุกเข่าเก็บหนังสืออย่างหวงแหนโดยที่เธอยังไม่ทันหันไปมองว่าเธอเดินชนกับใคร แต่เธอเองก็แว่วๆเสียงเล็กๆของผู้หญิงที่บ่นพึมพำดังอยู่ใกล้ๆ

    “เดินยังไงเนี่ย ตาบอดหรือไง”

    เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองเด็กผู้หญิงผมดำยาวตากลมโต น่าตาสะสวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา

    “เออ ขอโทษด้วย เธอเป็นอะไรหรือเปล่า”

    “ไม่เป็นไร แต่วันหลังช่วยเดินดูทางด้วยก็แล้วกัน”หญิงสาวคนนั้นตอบกลับมาท่าทางไม่ค่อยพอใจ

    เฮอร์ไมโอนี่ยัดหนังสือเล่มสุดท้ายเข้าเป้ของเธอแล้วจึงหันไปเผชิญหน้ากับหญิงสาวคนนั้น เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งสังเกตเห็นว่าหญิงสาวคนที่เธอเดินชนมากับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ที่ดูสะดุดตา ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นในเวลาต่อมาจนเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังมองอยู่รีบหลบสายตาแทบไม่ทัน และชายหนุ่มคนนั้นกำลังจ้องเธออยู่ด้วยเช่นกัน สายตาที่แข็งกระด้างและเย็นชาของเขา มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกหนาวเย็นไปทั่วกระดูกสันหลังของเธอ น่าแปลกเฮอร์ไมโอนี่เหมือนเคยเห็นพวกเขาจากที่ไหนมาก่อน แต่ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะคิดออกเสียงห้าวๆของใครบางคนเรียกชื่อเธออยู่ด้านหลังขัดจังหวะพอดี

    “เฮอร์ไมโอนี่”

    เฮอร์ไมโอนี่หันขวับไปมองและเผยอยิ้มให้กับรอน วิสลี่ร์เพื่อนของเธอ

    รอนเดินตรงมาหาเพื่อนรักของเขาและมองตรงไปยังคู่กรณีอย่างไม่เป็นมิตรเมื่อเห็นการแสดงออกของพวกเขา

    “มีอะไรหรือเปล่าเฮอร์ไมโอนี่”

    หญิงสาวสูดลมหายใจยาวๆพร้อมกับพยายามรวบรวมความคิดที่กระจัดกระจายให้เข้าที่ก่อนตอบเพื่อนผมแดงของเธอ

    “คือฉันเดินไม่ดูทางเองก็เลยชนกับพวกเขาน่ะ”

    “ก็ดีนะที่รู้ตัวว่าเดินไม่ดูทางน่ะ”หญิงสาวคู่อริเหน็บแนมใส่ เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้วอย่างไม่พอใจที่คู่กรณีไม่ยอมจบแต่โดยดี ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะโต้กลับ เสียงของรอน ก็ขัดขึ้นเสียก่อน

    “แต่ฉันได้ยินเฮอร์ไมโอนี่ขอโทษเธอแล้วไม่ใช่หรือไง”

    จากประโยคนั้นของรอนเด็กสาวผมดำเม้มปากแน่นกล่าวเสียงห้วน

    แล้วไง

    แล้วมันน่าจะเลิกแล้วต่อกันนะสิ รอนกล่าวเสียงหนักเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมเลิกราง่ายๆ

    พูดแบบนี้ปกป้องกันนี่นาหญิงสาวผมดำตะเบ็งเสียงแล้วย่ำเท้าเดินเข้ามาใกล้ตัวรอนอย่างไม่ยอมแพ้

    ในที่สุด เสียงห้าวของชายหนุ่มอีกคนที่เงียบฟังมาอยู่นานก็ทำลายการโต้เถียงด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่เจือไปด้วยความแข็งกระด้างในที

    อมาธาร์เลิกพูดได้แล้ว น่ารำคาญ

    ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าเขาเหมือนใครคนหนึ่งที่เธอไม่อยากนึกถึงชายหนุ่มผมบลอนส์ที่เธอรังเกียจหนักหนา

     แต่ฉันไม่ได้เป็นฝ่ายผิดนะวินเวิร์ดอมาธาร์ตอบเสียงสะบัด

    ดวงตาคมกริบมองมา รอยยิ้มจางๆปรากฎที่ริมฝีปากพร้อมกับเสียงห้าวของเด็กหนุ่มเอ่ยคำที่ทำให้อมาธาร์ร้อนรน

    เธอจะไปหา เดรโกกับฉันหรือจะทะเลาะอยู่ที่นี่มันก็เรื่องของเธอก็แล้วกันฉันไปล่ะ

    วินเวิร์ดถอนหายใจไม่ปิดบังความเหนื่อยหน่ายในน้ำเสียงไว้เมื่อเขาก้าวนำอมาธาร์ไปตามทางเดินของขบวนรถไฟก่อนผ่านร่างเฮอร์ไมโอนี่เขาชายตามองเธอเพียงแวบเดียวเหมือนชั่งใจอะไรบางอย่างแล้วเดินจากไป โดยมีอมาธาร์เดินตามไปติดๆ

    เดี๊ยวสิวินเวิร์ด รอด้วยเธอเดินผ่านรอนและเฮอร์ไมโอนี่ก่อนหันกลับมาส่งเสียงมุ่งร้าย ฝากไว้ก่อนนะนายหัวแดง กับยายซุ่มซ่าม แล้วเธอก็วิ่งตามวินเวิร์ดไปในทันทีท่ามกลางเสียงบ่นเล็กน้อยที่ไล่ตามหลังพวกเขาของรอน วิสลี่ส์

    หนอย ยายนี่มันน่านัก

    พอเถอะน่ารอนเธอเอ่ยขณะที่เดินเข้ามาหาชายหนุ่ม เขาก็แค่เจ็บที่ฉันชนเขาไปนั่งกองอยู่ที่พื้นก็เลยโมโหน่ะ เรื่องแค่นี้อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่โตหน่อยเลย เดี๊ยวเขาจะหาว่าพวกพรีเฟ็คกริฟฟินดอร์แกล้งพวกบ้านสลิธิลีนอีก

    เธอรู้ได้ไงว่าคนพวกนี้เป็นพวกบ้านสลิธิลีนรอนถามด้วยความข้องใจเนื่องจากนักเรียนปีหกและปีเจ็ดส่วนใหญ่จะไม่ใส่ชุดคลุมพ่อมดแม่มดแต่จะใส่ชุดไปรเวทง่ายๆมากกว่าการเจาะจงว่าใครอยู่บ้านไหนจึงเป็นเรื่องค่อนข้างยากเล็กน้อยสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย

    พวกเขาเรียกหาเดรโก คงไม่ใช่พวกเรเวคอลหรือฮัพเฟิลพัพหรอกน่าเฮอร์ไมโอนี่รีบอธิบาย และรอนจึงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย สักครู่รอนทำหน้านิ่งคล้ายครุ่นคิดอะไรบางอย่างน้ำเสียงมีแววใจเย็นลง

    อือก็ใช่มั้ง แต่เธอว่าไหมฉันว่าพวกเขาหน้าตาคุ้นๆแฮะ

    อิอ”เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมาในลำคอ เธอเริ่มครุ่นคิดถึงคนพวกนั้นอีกครั้งเหมือนพยายามที่จะหาคำตอบว่าเธอเคยเห็นหน้าคนพวกนี้มาจากที่ไหนกันแน่ แต่นึกเท่าไหร่เธอก็นึกไม่ออกเอาเสียเลยเธอจึงดึงความสนใจของเธอจากเรื่องนั้นออกมาเสียก่อนที่เธอจะมึนหัวไปมากกว่านี้  

    “ว่าแต่พวกแฮร์รี่อยู่ที่ไหนกันเราไปหากันดีกว่า

    ไปสิ เอาของเธอมานี่ รอนคว้าเป้เธอมาถือแล้วเดินนำไป

     

    รอนและเฮอร์ไมโอนี่เดินมาตามทางเพื่อไปยังตู้โดยสารที่เป็นที่พักของพวกตนซึ่งค่อนข้างโชคร้ายที่ต้องเดินผ่านกลุ่มสลิธิลีนก่อนถึงจะถึงที่หมาย เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจเมื่อเธอต้องเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มผมบลอนส์ที่เฮอร์ไมโอนี่แสนชัง

    เดรโก มัลฟอย วางเท้าของเขาบนโต๊ะข้างหน้าอย่างไม่สนใจใคร ข้างๆเขาแวดล้อมไปด้วย สมาชิกบ้านสลิธิลีน ประกอบไปด้วย เบลส แพนซี่ แครบ กอยล์ และคนอื่นๆอีกกลุ่มใหญ่

    เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองเดรโกด้วยสายตาเกลียดชังเหตุการณ์ที่เธอถูกเดรโก มัลฟอยขมเหงเธอ  มันยังติดหนึบอยู่ในความทรงจำ เธอมองดูริมฝีปากบางๆของเขาที่หยักยิ้มบนเรียวปากคู่งามอย่างรู้ทันในความคิดของเธอ อย่างนึกหมั่นไส้

    ในความคิดนั้นทำให้เธอพยายามระงับอารมณ์และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอสามารถเอาชนะแรงกระตุ้นที่จะเดินพรวดพราดเข้าไปเอากำปั้นยัดใส่หน้าเดรโกไว้ได้

     

    เดรโกรู้สึกได้ถึงแววตาของใครบางคนที่จ้องเขาอยู่ เขาเลิกฟังแพนซี่ที่ขนาบข้างเขาจนแทบจะนั่งไปบนตักเขาแทบจะทั้งตัวแล้วพูดพล่ามไปเรื่อยเปื่อย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นและมองสำรวจไปทั่วทางเดินรถไฟ และสิ่งที่เขาเห็นคือดวงตากลมโตสีน้ำตาลของยายเลือดสีโคลนที่เขารังเกียจมองเขาอยู่ด้วยสายตาชิงชัง

    เดรโกยิ้มเยาะให้กับยายเลือดสีโคลนเล็กน้อยพร้อมจ้องหญิงสาวเต็มตา เขามองที่ริมฝีปากอวบอิ่มที่เผยอเหยียดๆมาทางเขา มันทำให้เดรโกนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นที่เขาไม่เคยลืม เดรโกเมินมองไปทางอื่นในทันทีเมื่อเขานึกถึงภาพ วันที่เขาจูบเธอในวันนั้น ริมฝีปากอวบอิ่มที่เขาบดขยี้อย่างหนักหน่วงเพื่อต้องการสั่งสอนริมฝีปากอันร้ายกาจของเธอ และทำให้เขาคิดอยากสัมผัสเธออีกสักครั้ง

     

    เขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เขาโกรธยายเลือดสีโคลนมันเมื่อไหร่กันอาจจะเป็นวันนั้นวันที่เธอตีเข่าใส่เขาจนจุกลุกแทบไม่ขึ้นในวันนั้นก็ได้ แต่ถึงกระนั้นตอนนี้เขาก็เริ่มจะรู้สึกถึงมันได้แล้วและมันกลับทำให้เขารู้สึกค่อนข้างแย่เล็กน้อย  เมื่อสิ่งที่เขาโกรธคือตัวของเขาเองที่ปล่อยให้มโนภาพของเขาออกนอกลู่นอกทางแบบนั้น  ทำไมเขาถึงต้องนึกถึงยายเลือดสีโคลนโสโครกในลักษณะแบบนั้นด้วย

    เขาบ้าไปแล้ว เขาคิด เขาต้องเป็นคนควบคุมอารมณ์ของตัวเองสิไม่ใช่ปล่อยให้มันควบคุมเขาในตอนนี้ เดรโกส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะกลับมาสนใจในคู่สนทนาเหมือนเดิมทั้งๆที่ใจของเขาไม่อยู่กับตัวแล้วในตอนนี้

    ขณะเดียวกับที่เฮอร์ไมโอนี่รีบลากรอนเข้าไปยังตู้รถไฟที่พวกแฮร์รี่อยู่ในทันที เพราะเธอเองขึ้เกียจจะต้องมานั่งฟังคำด่าทอและถากถางจากพวกสลิธิลีนที่มักมีให้กับเธอเสมอมา

     

    แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่กระโจนร่างเล็กๆของเธอกอดชายหนุ่มที่มีรูปสายฟ้ากลางหน้าผากอย่างดีใจ เนื่องจากปิดเทอมคราวนี้แฮร์รี่แทบจะไม่ได้ติดต่อกับเธอเลยและเธอก็ไม่ว่างพอที่จะติดต่อกลับมาหาแฮรืรี่ด้วย ในขณะที่รอนเองแวะมาหาเธอที่บ้านอยู่บ่อยๆเนื่องจากนายอาเธอร์พ่อของรอนมักจะมาเดินดูสิ่งประดิษฐ์แปลกๆในโลกมักเกิ้ลเป็นประจำเสมอและรอนก็มักจะมาเป็นเพื่อนพ่อของเขาประจำเช่นกันจึงมีโอกาสแวะมาหาเธอบ่อยๆ

    เฮอร์ไมโอนี่แฮร์รี่เองก็รู้สึกดีใจที่เจอเพื่อนรักคนนี้ของเขาเหมือนกัน เขามีเรื่องที่จะเล่าและปรึกษาเธอหลายเรื่องเช่นกันและหนึ่งในหลายเรื่องคือความฝันที่เขายังฝังใจอยู่ตลอดเวลาเฮอร์ไมโอนี่ยืดตัวขึ้นและทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับแฮร์รี่พร้อมทั้งรื้อหนังสือในเป้เพื่อเอาออกมาอ่าน

    แฮร์รี่มองเฮอร์ไมโอนี่เหมือนอยากคุยอะไรด้วย แล้วแฮร์รี่ก็รู้สึกถึงบางอย่าง

    ตั้งแต่ปีหก  หลังจากที่เขาคบกับจินนี่ และหลังจากที่ผู้เสพความตายบุกเข้ามาภายในฮ๊อกว๊อตส์ทุกอย่างดูยุ่งเหยิงและเวลานั้นจินนี่เกือบถูกผู้เสพความตายทำร้ายเอา  ดีที่มีคนมาช่วยไว้ได้ทันมันทำให้จินนี่หวาดผวาอยู่เสมอ  ทำให้แฮร์รี่ต้องคอยอยู่ดูแลจินนี่อย่างใกล้ชิดจนห่างเหินเพื่อนสาวคนนี้ของเขาไป ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่เองก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา เธอกลับสนับสนุนและยินดีที่แฮร์รี่จะมีความสุขกับความรักในครั้งนี้

    เขาเพิ่งสังเกตว่าเพื่อนสาวของเขาเปลี่ยนไปมาก  ผมที่ยาวของเธอเกือบถึงกลางหลังถูกตัดสั้นยาวเลยบ่าเพียงเล็กน้อย ผมเรียบขึ้นกว่าเดิม ผมของเธอที่เป็นสีน้ำตาลออกเข้มตอนนี้สีอ่อนลงรับกับใบหน้าสีชมพูที่ใสกระจ่างของเธอ  ใบหน้าของเธอเข้ารูปขึ้นใบหน้าที่เคยตกกระของเธอก็ดูจางลง จนแทบจะไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ พูดง่ายๆก็คือเฮอร์ไมโอนี่ในวันนี้เป็นเด็กสาววัยรุ่นที่จัดว่าสวยเอาการทีเดียว แฮร์รี่ไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนสาวของเขาจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ถ้าในวันนี้เขาไม่เจอเธอที่นี่หรือเขาคืนดีกับจินนี่ เขาเองก็คงจะไม่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทางดีของเธออย่างแน่นอน และความคิดของเขาในตอนนี้ทำให้เขาเองกลับหน้าแดงอย่างไม่มีเหตุผล

    แฮร์รี่ แล้วจินนี่ล่ะรอนถามขึ้นเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าไม่มีจินนี่อยู่ในห้อง

    แฮร์รี่สะดุ้งเล็กน้อย เขาละสายตาที่มองเฮอร์ไมโอนี่หันมาหาเพื่อนรักอีกคนของเขา

    เขาออกไปคุยกับพวกลูน่าน่ะแฮร์รี่พูดออกมาด้วยความรู้สึกเซ็งเล็กน้อย

    รอนส่ายหน้าพร้อมกับพ่นลมหายใจดังลั่น

    นายนี่แย่จริงๆเลยแฮร์รี่ ฉันอุตส่าห์ทิ้งให้พวกนายสองคนให้อยู่กันตามลำพังแล้วนะเนี่ย นายยังปล่อยน้องฉันให้หนีไปอีกจนได้

    ทำไมคราวนี้จินนี่งอนเธอนานจังแฮร์รี่เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

    แฮร์รี่ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ เขายักไหล่เล็กน้อย

    ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เฮ้อ เซ็งชมัดเขาเพ่งสายตาออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างจงใจที่จะหลบสายตาของเพื่อนเขาทั้งคู่ แต่สิ่งที่เขาเห็นมันกลับไม่ใช่วิวข้างนอกนั้นแต่มันเป็นรูปสะท้อนของเฮอร์ไมโอนี่ที่เลิกสนใจเขาแล้วก้มลงอ่านหนังสือต่ออย่างสนใจและแฮร์รี่เองก็พอใจที่จะลอบมองเฮอร์ไมโอนี่ที่หน้าต่างนั้นเช่นกัน

    แฮร์รี่ขมวดคิ้วของเขาอย่างครุ่นคิด นี่เขาทำไมต้องทำตัวลับๆล่อๆแอบมองเฮอร์ไมโอนี่แบบนี้ด้วย นี่มันไม่ใช่นิสัยของเขาเลยจริงๆอีกอย่างเขามีจินนี่อยู่แล้วด้วย เขากลับลืมจินนี่ไปได้อย่างไรกันในช่วงเวลานี้ พลันใบหน้าของแฮร์รี่ก็เกิดอาการหน้าแดงขึ้นกับความอับอายที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจเขา

    เฮ้  แฮร์รี่นายเป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมหน้าแดงจังรอนถามไปตรงๆอย่างคนที่รู้นิสัยกันดีและแฮร์รี่ก็รู้จักอีกฝ่ายหนึ่งดีพอที่จะไม่ถือสาเช่นกัน

    เออ เปล่าหรอก อากาศร้อนน่ะแฮร์รี่ตอบกลับโดยที่มีรอนมองดูเพื่อนที่ขยับตัวทำหน้ามีพิรุธ แฮร์รี่ตัดบทรอนไม่อยากต่อความยาวเขาจึงหันมาถามเฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆไม่ได้สนใจใคร

    ช่วงวันหยุดเธอไปทำอะไรมาบ้างน่ะ เฮอร์ไมโอนี่

    ก็หลายอย่าง อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เธอถามทำไมล่ะแฮร์รี่เธอพูดพลางหัวเราะ

    เธอสวยขึ้นนะ  รู้ตัวหรือเปล่าคำถามที่ดูเหมือนแฝงอะไรบางอย่างมันสะกิดใจให้เฮอร์ไมโอนี่หยุดอ่านหนังสือและหันมามองวงหน้าคมสันของเพื่อนรักอย่างค้นหา

     แฮร์รี่

    แฮร์รี่

    เฮอร์ไมโอนี่และรอนอุทานขึ้นมาพร้อมๆกันใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่เป็นสีชมพูดูน่าดูไม่น้อยในขณะที่รอน อ้าปากหวอมองคนทั้งสอง

    อะไร เธอสองคนเป็นอะไรทำไมต้องตะโกนชื่อฉันออกมาพร้อมกันด้วยมีแววแปลกใจฉายออกมาจากดวงตาของแฮร์รี่บ้าง เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าคมที่ยังเรียบเฉยเหมือนกล่าวเรื่องปกติธรรมดาแล้วอดพูดออกมาไม่ได้

    เธออย่ามาชมฉันต่อหน้าจินนี่นะ แฮร์รี่

    ทำไมล่ะแฮร์รี่เลิกคิ้วพลางถาม

    ริมฝีปากบางของเฮอร์ไมโอนี่เกือบขยับยิ้มก่อนสะกดไว้อย่างยากเย็น

    ผู้หญิงน่ะไม่ชอบให้ผู้ชายที่ตัวเองชอบไปชมผู้หญิงอื่นว่าสวยต่อหน้าเขาหรอกนะ

    แต่ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเธอ นี่นา พวกเราเพื่อนกันนะกระนั้นแฮร์รี่ก็ยังคงไม่หมดปัญหาง่ายๆน้ำเสียงของแฮร์รี่ฟังเหมือนกลั้วหัวเราะ จนรอนอดพูดไม่ได้

    ฉันรู้ แต่นายก็ควรจะฟังที่เฮอร์ไมโอนี่เตือนนายด้วยเหมือนกันแฮร์รี่ ถ้านายไม่อยากให้เกิดปัญหาตามมาอีกล่ะก็

    แฮร์รี่เม้มปากเล็กน้อยทว่าความสบายอกสบายใจมีมากกว่าเมื่อเห็นแววตาล้อเลียนของทั้งคู่ที่มองมาทางตนเอง

     

    ที่ทางเดินรถไฟด้านนอก จินนี่ไม่ได้ไปคุยกับลูน่า อย่างที่เธออ้างกับแฮร์รี่ เธออยากออกมาสูดอากาศข้างนอกมากกว่าที่จะอยุ่กับแฮร์รี่ตามลำพังสองต่อสอง

    และ....เผื่อว่าอาจจะเจอเขาคนนั้นโดยบังเอิญ

    จินนี่ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมความรักที่เธอเคยมอบให้กับแฮร์รี่ที่ยาวนานมาหลายปีถึงได้หมดลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีความรู้สึกห่วงหาอาทรใดๆเกิดขึ้น

    มันเริ่มมาจากตั้งแต่ที่เธอคบกับหนุ่มผมบลอนส์เจ้าชายแห่งสลิธิลีนคนนั้นอย่างลับๆ เขาทำให้เธอรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิง รู้สึกถึงความต้องการที่ซ่อนอยู่ เขาช่างเอาใจ โรแมนติก และแสนจะอบอุ่นโดยที่เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะ ทำอะไรได้แบบนี้ และมันทำให้เธออยากบอกกับใครๆว่าเธอป็นของเขา และเขาก็เป็นของเธอ

    เธอไม่สนเรื่องการบางหมางกันระหว่างบ้านกริฟฟินดอร์และสลิธิลีนอีกแล้ว

    เธอไม่สนความเป็นศัตรูของครอบครัวเธอและเขา

    เธอไม่สน แฮร์รี่และรอนรวมถึงเฮอร์ไมโอนี่ด้วย

    เธอสนแต่เพียงเธอรักเขาเท่านั้น และทำอย่างไรที่จะทำให้ทุกคนได้รู้ แต่......

    คำสัญญาที่ให้ไว้กับเดรโกว่าจะไม่บอกใครจนกว่าจะถึงเวลา

    ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าเวลาอะไรกันแน่ที่เดรโกต้องการ

    เธอรู้สึกอึดอัดและเป็นทุกข์ โดยเฉพาะเมื่อเธอมองไปเห็นเขาเดินควงกับใครต่อใคร ที่ไม่ใช่เธอ โดยเฉพาะแพนซี่ที่ติดหนึบเดรโกเหมือนปลาหมึก แต่ดูท่าทางเดรโกจะพอใจเสียด้วยซ้ำ เธอไม่เคยเข้าใจกับการกระทำของเขาเลย ไม่เลย...แต่...เธอก็ยังรักเขา และรักมากเหลือเกิน

    จินนี่ถอนหายใจกับความทุกข์ที่เธอมี ก่อนจะหันหลังกลับไปยังตู้รถไฟตามเดิมเธอภาวนาขอให้รอนกลับมาได้แล้ว จินนี่เดินมาตามทางเดินของขบวนรถไฟที่ทอดยาว จนเดินเข้ามาใกล้กับกลุ่มสลิธิลีนกลุ่มใหญ่ที่ส่งเสียงพูดคุยกันเจึ๊ยวจ๊าวโดยไม่สนใจว่าใครจะรู้สึกรำคาญแค่ไหน สายตาของเธอก็ประสานกับสายตาของ คนที่เธอรัก เดรโก มัลฟอย เขาอยู่ตรงนั้น เขากำลังมองมาทางเธอ

    จินนี่อดยิ้มไม่ได้ แต่แค่ชั่วครู่ที่จินนี่มอบรอยยิ้มให้กับเดรโก เมื่อเธอเห็นเขาส่งสายตาที่ดูเย็นชาไม่มีความรู้สึกใดๆในแววตาคู่นั้นมาให้ และเขามองเมินเธอเพื่อดูวิวนอกหน้าต่างอย่างตั้งใจ

    ทำให้หัวใจจินนี่กระตุกวูบกับท่าทีการแสดงออกของเขาที่เมินเฉยต่อเธอมันทำให้เธอแทบทนไม่ได้   จริงอยู่เขาอาจจะจำเป็นต้องทำแบบนั้นเพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย แต่มันเป็นการแสดงออกที่ดูเนียนเกินไปจนเธออดรู้สึกไม่ได้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ

    จินนี่รีบลดสายตาลงทันทีพร้อมนึกตำหนิตัวเองในใจถึงความเพ้อเจ้อ หลายวันมานี้เธอชักจะหมกมุ่นเรื่องนี้ค่อนข้างมากไปหน่อยแล้ว มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เขาจะรังเกียจรังงอนเธอ  จินนี่ยิ้มที่มุมปากอย่างสบายใจเมื่อเธอคิดเข้าข้างตัวเองแบบนั้น ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปยังตู้ที่พวกเขาอยู่กันและที่นั่นเธอก็เจอกับ อัศวินทั้งสามแห่งกริฟฟินดอร์นั่งคอยอยู่ก่อนแล้ว

    หวัดดี จินนี่เฮอร์ไมโอนี่ร้องทักทันทีเมื่อเห็นจินนี่เดินเข้ามา

    หวัดดี เฮอร์ไมโอนี่ ทำไมเธอเพิ่งมาล่ะ พวกหนุ่มๆเขาเป็นห่วงเธอกันใหญ่เลยรู้ไหมจินนี่เดินมานั่งข้างๆแฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มก่อนตอบกลับ

    พอดีฉันรอหนังสือของพวกมักเกิ้ลออกมาใหม่ล่าสุดน่ะ เลยมาช้าไปนิดเฮอร์ไมโอนี่ชูหนังสือที่เธออ่านอยู่ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เธอเกือบตกรถไฟ

    อ้อ ยังงั้นเองจินนี่คว้าหนังสือที่อยู่ข้างๆเฮอร์ไมโอนี่สองสามเล่มขึ้นมาดูอย่างสนใจ ขอหนังสืออ่านสักเล่มนะเฮอร์ไมโอนี่เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมามองเธอรู้สึกแปลกใจปกติจินนี่จะไม่ชอบอ่านหนังสือในรถไฟสักเท่าไหร่ ใครๆก็รู้ดีรวมทั้งแฮร์รี่และรอนด้วย สามสหายต่างมองหน้ากันอย่างไม่ค่อยจะสบายใจนัก เนื่องจากพวกเขาพอจะรู้ดีว่าสาเหตุมาจากใคร

    จินนี่”.ในที่สุดแฮร์รี่ก็เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบเสียเอง

    ฮือจินนี่ครางสั้นๆโดยที่ไม่ แม้จะหันมามองแฮร์รี่เธอตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเสมือนมันเป็นเล่มที่น่าสนใจเสียเต็มประดา

    เธอว่าไหมว่าเฮอร์ไมโอนี่สวยขึ้นเป็นกองเลยแฮร์รี่แกล้งลองเชิง

    งั้นเหรอ อือ ใช่มั้งว่าแล้วคนตอบก็ก้มอ่านหนังสือในมือต่ออย่างไม่ค่อยสนใจคนข้างๆสักเท่าไหร่นัก

    คิ้วเรียวของแฮร์รี่เลิกขึ้นเล็กน้อยพร้อมเสียงถามที่บอกระดับอารมณ์ที่เริ่มร้อนระอุขึ้นเป็นลำดับ

    เธอไม่หึงฉันบ้างเลยหรือไง

    แฮร์รี่ ขอโทษนะ ขอให้ฉันนั่งอ่านหนังสือเงียบๆสักพักได้หรือเปล่า เธอพูดการแสดงออกทางสีหน้าบ่งชี้ว่าเธอเบื่อหน่ายกับยุทธวิธีเซ้าซี้ของเขา

    อ้อ ถ้าเธออยากให้มันเป็นแบบนั้นก็ตามใจขวดน้ำในมือถูกทิ้งลงโครมพร้อมเส้นความอดทนของแฮร์รี่ก็ขาดผึงลงไป ทุกคนนั่งนิ่งเงียบ ทุกคนต่างใช้ความคิดและเหตุผลแตกต่างกันออกไป รอนและเฮอร์ไมโอนี่ต่างมองหน้ากันอย่างไม่เป็นสุขนัก ในช่วงอารมณ์แบบนี้พวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ นอกจากนั่งเงียบๆไปจนกว่าจะถึงฮ๊อกวอตส์

     

    ในขณะที่ข้างในร้อนระอุไปกับความขัดแย้งด้านนอกแพนซี่ พากิสันยังคงนั่งซบหน้าอยู่กับไหล่กว้างของเดรโกไม่ยอมห่าง

    เดรโก ไหนนายบอกว่าวันนี้นายมีแขกพิเศษมาด้วยไม่ใช่เหรอ ใครกันน่ะ เบลส ซาบินี่ถาม พร้อมกับสังเกตุไปรอบๆตัว

    เออนั่นสิ ตั้งแต่เธอมานั่งนี่ก็ไม่เห็นจะมีแขกพิเศษของเธอเลยสักคนแพนซี่พูดเสริม

    สงสัยหลงทางอยู่แถวทางเดินรถไฟละมั้งเดรโกพูดออกมาอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจสักเท่าไหร่นัก เขาก้มลงลูบคลำแหวนประจำตระกูลเล่นไปมาอย่างเคยชินทุกครั้งที่เขาต้องใช้ความคิด                   

    พวกเราไปดูให้ไหมแครบกับกอยล์อาสาไปกินขนมไปโดยที่ไม่ทันได้สังเกตุเห็นอาการหน้าบึ้งบนใบหน้าอันหล่อเหลาของของลูกพี่ใหญ่แห่งบ้านสลิธิลีน

    ไม่ต้อง เฉยๆเถอะเดรโกเอ่ยขึ้นพร้อมกับชักสีหน้าอย่างไม่พอใจให้กับคนอาสาไปตาม เบลส มองสายตาของแครบและกอยล์ที่ยิ้มเฝื่อนๆอย่างขบขำเสียเต็มประดา

    เดรโกอมาธาร์ เมอเร่ ทักมาแต่ไกลก่อนที่เธอจะดึงชายหนุ่มหน้าหล่อให้เดินตามเธอมายังกลุ่มของเดรโก มัลฟอย เมื่ออมาธาร์มาถึงโต๊ะโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตจากใคร เมื่อเห็นเก้าอี้ที่อยู่ด้านหน้าว่างเธอจึง ทรุดตัวลงนั่งในทันทีส่งผลให้แพนซี่จ้องมองผู้มาใหม่อย่างไม่สบอารมณ์นัก

    เดรโก ทำไมถึงไม่คอยกันบ้างล่ะ พวกเราตามหาเธอแทบแย่กว่าจะเจอ อมาธาร์ต่อว่าแต่น้ำเสียงไม่ได้จริงจังนักอีกทั้งรอยยิ้มที่แย้มออกมาทำให้เหล่าบรรดาชายหนุ่มที่โต๊ะสลิธิลีนมองเธออย่างหลงใหลในความสวยของหญิงสาว

    ฉันรู้ว่ายังไงเธอก็ต้องตามหาฉันจนเจอจนได้นั่นแหละอมาธาร์ เดรโกยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้าพลางหันไปมองที่เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆพร้อมยักคิ้วและยิ้มเยาะใส่เขา ถือเสียว่าต้อนรับน้องใหม่ก็แล้วกัน คงไม่ถือสาใช่ไหมวินเวิร์ดวินเวิร์ดตวัดสายตาไม่พอใจไปที่เดรโกเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไร ทำไมเขาจะไม่รู้ที่เดรโกปล่อยให้พวกเขาเดินหาก็ต้องการแกล้งเด็กหนุ่มโดยตรง นั่นเอง  อันที่จริงตัวเขาเองกับเดรโกก็ปีนเกลียวกันมาตั้งแต่ที่เขาอยู่ที่คฤหาสน์มัลฟอยแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งวินเวิร์ดเองก็ไม่สนใจและไม่แคร์เขาด้วย สิ่งที่เขามุ่งความสนใจคืออะไรบางอย่างในปราสาทฮ๊อกวอกส์นั่นต่างหาก

     

    พวกเขาเป็นใครน่ะแพนซี่เอ่ยปากถามและมองจ้องอมาธาร์ด้วยความไม่พอใจอย่างเปิดเผย เดรโกลุกขึ้นยืนและผายมือไปทางเด็กหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้เดรโก มัลฟอยพลางแนะนำให้เพื่อนๆรู้จัก

    ขอแนะนำ นี่คือน้องชายของฉันเอง วินเวิร์ด มัลฟอย และนี่ อมาธ่าร์ เมอเล่ร์ผู้หญิงที่สวยที่สุดในฮ๊อกวอตส์คำสุดท้ายของเดรโกเน้นคำจนแพนซี่หน้านิ่วด้วยความไม่พอใจ

    เธอมีน้องชายด้วยเหรอ เดรโก ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลยแพนซี่ถามยิ้มๆเมื่อมองไปที่น้องชายของเดรโก  เดรโกตวัดสายตาไปที่น้องชายอุปโลกของเขา รอยยิ้มเยาะผ่านเรียวปากคู่สวยก่อนตอบคำถามของแพนซี่ด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

    แล้วทำไมเธอจะต้องรู้เรื่องของฉันหมดทุกเรื่องเลยหรือไงแพนซี่

    กังวาลเสียงเยียบเย็นจริงจังของเดรโกทำให้กลุ่มสลิธิลีนเงียบกริบครั่นคร้ามอยู่ในใจ

    เออ เปล่าฉันขอโทษแพนซี่ร้องออกมาด้วยสายตาเว้าวอน เดรโกไม่สนใจเขาชี้มือไปทีตู้รถไฟตู้หนึ่งแล้วออกคำสั่งกับแพนซี่

    ห้องนั้น …..เธอไปบอกพวกมันให้เอาข้าวของแล้วออกไปซะ ฉันอยากได้ห้องนั้นเพื่อรับรองแขกพิเศษของบ้านเราเขาเจาะจงในคำพูดนั้นและหันหน้ามายิ้มกริ่มให้อมาธาร์อย่างจงใจ และหญิงสาวก็ยิ้มตอบกลับมาอย่างยั่วยวนให้เช่นกัน

    แต่เดรโกห้องนั้นมันเป็นห้องของแพนซี่ชะงักกลางคันเมื่อเห็นสายตาราวพายุที่พร้อมจะกระหน่ำคนพูดให้ตายไปตามกันถ้าพูดไม่เข้าหู

    ฉันไม่สนใจว่ามันเป็นห้องของใครแพนซี่ ....ฉันบอกว่าต้องการห้องนั้นก้คือห้องนั้นและนั่นคือคำประกาศิตของเดรโก มัลฟอย

     

    รอนพยายามทำบรรยากาศที่ตึงเครียดในตอนนี้ให้เบาบางลงโดยการเล่าเรื่องที่นางมอลลี่กลัวลูกชายคนเดียวของนางจะอดของกินอร่อยๆเลยทำขนมห่อมาให้พวกเขาหลายชิ้นและยังเผื่อแผ่มาถึงเฮอร์ไมโอนี่ที่ไม่ได้ไปบ้านโพรงกระต่ายในคราวนี้ด้วย

    หลังจากนั้นนะ แม่ก็ห่อขนมมาให้ฉันกับแฮร์รี่แถมมีเผื่อเธอด้วยอีกตั้งเยอะแน่ะ เฮอร์ไมโอนี่ดูสิรอนยื่นห่อขนมที่นางมอลลี่ห่อไว้อย่างดีส่งให้เฮอร์ไมโอนี่ห่อหนึ่งเฮอร์ไมโอนี่รับมาพร้อมแกะห่อขนมออกดู

    โฮ น่ากินจังรอนเฮอร์ไมโอนี่อุทานเสียงใสเมื่อเห็นขนมคุ๊กกี้หลายสีสันชื้นโตยังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้ทันทำอะไรกับคุ๊กกี้เหล่านี้นเสียงบานประตูก็ถูกกระชากเปิดออกมาแล้วเสียงบาดหูของใครบางคนที่พวกเขารู้จักดีก็ดังขึ้นมาแทบจะในทันทีที่ประตูถูกเปิดออก  แพนซี่ พากิสันกับลูกน้องปัญญานิ่ม แครบกับกอยล์ยืนอยู่ที่ปากประตูอย่างมุ่งร้าย

    ว้าว ดูสิ พวกเรา นึกว่าใครที่แท้ก็พวกสามทหารเสือตกยากนี่เอง

    และแทบจะทันทีที่จินนี่ปิดหนังสือโครมใหญ่และลุกขึ้นพร้อมกับชี้หน้าไปที่แพนซี่

    เธอเข้ามาทำไมแพนซี่ ออกไปซะ

    คนที่สมควรออกไปคือพวกเธอไม่ใช่ฉัน ไม่พูดจาอ้อมค้อมละนะเดรโกอยากได้ห้องนี้เพราะฉะนั้นพวกเธอสมควรเก็บข้าวของแล้วรีบออกไปจากที่นี่ซะถ้าไม่อยากมีปัญหา

    ได้ผลกับจินนี่เมื่อเธอได้ยินชื่อของเดรโก เธอค่อยๆทรุดตัวลงนั่งและนิ่งเงียบ ในขณะที่ทุกคนพุ่งความสนใจไปที่แพนซี่โดยไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของจินนี่ ทุกคนโดยเฉพาะเฮอร์ไมโอนี่จ้องเขม็งไปทางแพนซี่ ลืมเรื่องคุ๊กกี้ไปเสียสนิท

    แล้วถ้าพวกเราไม่ออกไปล่ะจะมีอะไรไหมรอนกล่าวเสียงดังจนเกือบเป็นตะโกน

    พวกงี่เง่า เสียงคำรามของเดรโกดังมาจากข้างหลังของแครบและกอยส์พวกมันทั้งคู่หลีกทางให้เดรโกผ่านไปยืนข้างหน้าด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน

    ในขณะที่กลุ่มของแฮร์รี่ยืนเตรียมพร้อมเช่นกัน อีกทั้งพวกเขายังกระชับไม้วิเศษในมือคอยคุมเชิงและกวาดตามองดูบริเวณรอบๆยามที่ต้องมีการปะทะกัน

    พวกนายพูดดีๆไม่ฟังกันเลยหรือไง ต้องให้ออกแรงเสียก่อนใช่ไหมถึงจะยอมออกไปกันเดรโกพูดวางอำนาจ รอยยิ้มเต็มไปด้วยความชั่วร้ายแฝงไปด้วยเล่ร์เหลี่ยม

    เดรโก นายเลิกวุ่นวายกับพวกเราเสียทีแฮร์รี่พูดเสียงเรียบแต่แต่แฝงไว้ด้วยความดุดันในทีแต่กระนั้นดวงตาสีซีดก็ยังจ้องเขม็งเผชิญหน้ากับเขาโดยไม่มีหลบ

    ใช่อย่าคิดว่านายจะยิ่งใหญ่นะ พวกแกมันก็พวกขี้แพ้นั่นแหละรอนพูดเสริมใบหน้าของเขาดูบึ้งเล็กน้อย

    แกว่าใครพวกขี้แพ้ วิสลี่ส์เดรโกตวัดสายตาไปที่ รอน วิสลี่ส์เด็กหนุ่มผมแดงที่เขาไม่ชอบขี้หน้ารองจากแฮร์รี่ พอตเตอร์

    เฮอร์ไมโอนี่ที่นิ่งฟังอยู่นานแล้วได้ทีตอกเดรโกกลับไปบ้างชนิดที่ไม่เกรงกลัวใคร

    อ้าว ฟังไม่ออก หรือไง มัลฟอยงั้นฉันช่วยแปลให้ก็ได้ ลอร์ดโวลเดอร์มอของพวกนายพ่ายแพ้ให้กับแฮร์รี่ไปแล้ว มันก็หมายถึงพวกนายเองก็พ่ายแพ้ให้กับแฮร์รี่ด้วยเช่นกัน แล้วแบบนี้ไม่เรียกว่าพวกขี้แพ้แล้วจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ

    แก นังเลือดโสโครก เสียงคำรามของเดรโกพร้อมกับร่างของเขาที่กระโจนเข้าใส่เฮอร์ไมโอนี่แต่แฮร์รี่และรอนกระโจนเข้าขวางเสียก่อน เดรโกหยุดชะงักแล้วถอยหลังกลับไปที่เดิมพยายามระงับอารมณ์ที่พวยพุ่งออกมาเหมือนไฟนรก

    ทนฟังไม่ได้หรือไงมัลฟอย พวกเรารู้ว่าพ่อแกรู้จักกับคนในกระทรวงจึงหลุดจากคุกอัซคาบันได้ ฉันละอยากจะรู้นักว่าสมุนของโวลเดอร์มอในกระทรวงเวทมนต์ยังมีอีกกี่คน ฉันจะได้ตามล่ามันให้หมดกระทรวงไปเสียทีแฮร์รี่พูดเรียบๆแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายโมโหจนแทบลุกเป็นไฟ มันจริงตามที่แฮร์รี่พูดทุกอย่างดีที่พ่อของอมาธาร์เป็นรัฐมนตรีคนใหม่ของกระทรวงในเวลานี้มันทำให้ทุกอย่างลงตัวพ่อของเขาถูกช่วยเหลือไม่ต้องเข้าคุกอัซคาบันเพราะพ่อร่วมมืออย่างดีกับทางกระทรวงเวทมนต์พ่อของเขาได้ความดีไปเต็มๆในขณะที่พ่อของอมาธาร์ได้ความชอบไปเห็นๆเช่นกันบวกกับอำนาจเงินของทั้งพ่อเขาและของครอบครัวเมอเร่ส์เลยทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ เรื่องนี้เขาไม่เคยแคร์และไม่สนใจด้วยซ้ำแต่การที่ศัตรูตัวฉกาจของเขาหยิบยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเชิงเยาะเย้ยเสียดสีมันก็ทำให้เลือดในกายของเขาเดือดปุดๆขึ้นมาในทันทีเหมือนกัน

    พอตเตอร์ แกคิดว่าการที่แกฆ่านายใหญ่ตายได้ทุกอย่างมันจะจบงั้นเหรอเดรโกหรี่ตาและพูดบางอย่างที่คลุมเครือจนทำให้แฮร์รี่นิ่งไป

    เดรโก มัลฟอยต้องการจะพูดอะไรกันแน่การที่เขาพูดอะไรแบบนี้จะมีเหตุการณ์ณ์อะไรขึ้นมาอีกอย่างงั้นเหรอ แฮร์รี่คิดอย่างเป็นกังวล

    นายพูดอย่างงี้หมายความว่าไง อย่าคิดว่าพวกเราจะกลัวในคำขู่ของนายนะมัลฟอยเฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจพูดออกมาเมื่อเห็นใบหน้าดูกังวลของแฮร์รี่

    เก่งนักนะเกรนเจอร์ อยากรู้นักมีอะไรบ้างที่เธอกลัวเดรโกพูดพร้อมกอดอกและรอยยิ้มที่มุมปากที่เธอเกลียดอย่างจับใจ รอยยิ้มที่ดูโอหัง รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจที่ไม่มีใครในฮ๊อกวอตจะมีได้ ยกเว้นเขา  เดรโก มัลฟอยเพียงคนเดียวเท่านั้น

    เฮอร์ไมโอนี่เชิดหน้าอย่างท้าทายไปที่เดรโก

    สิ่งที่ฉันกลัวนะมีแน่ แต่ไม่ใช่นายก็แล้วกันมัลฟอย

    อ้อ เหรอ แล้วฉันจะพิสูจน์ให้เธอได้รู้ว่าฉันน่ากลัวสำหรับเธอสักแค่ไหนเกรนเจอร์เดรโกพูดเน้นทีละคำมันแฝงไปด้วยความหมายบางอย่างที่ทั้งตัวเขาและเฮอร์ไมโอนี่รู้ดี เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นมาอย่างปิดบังไม่อยู่เธอรู้ดีว่าเดรโกตั้งใจที่จะพูดถึงความน่ากลัวของเขาแบบไหน สิ่งที่เขาทำกับเธอในวันนั้นเธอยอมรับว่ามันน่าหวาดกลัวไม่น้อยสัมผัสของเขามันทำให้เธอรังเกียจและสะอิดสะเอียนเป็นที่สุด

    รอนไม่ได้ใส่ใจกับกับกิริยาท่าทางของเฮอร์ไมโอนี่ที่หน้าแดงก่ำเพราะสาระคำพูดของเดรโกและแววตาที่ดูวิบวับยามเดรโกจ้องมองเฮอร์ไมโอนี่แต่อย่างใดในตอนนี้เขาอยากจะสาปไอ้ซีดที่อยู่เบื้องหน้าเขาเสียเต็มประดา

    อย่ามาเก่งแต่ปากมัลฟอยอยากจะแสดงอะไรก็รีบๆแสดงออกมาเลยดีกว่า ไอ้ซีด
    ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังดูท่าทีและถือไม้กายสิทธิ์เตรียมพร้อมกันอยู่นั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น มีเสียงกรี๊ดร้องมาจากจินนี่ ที่นิ่งเงียบอยู่นานแล้วก่อนที่เธอจะโผเข้ากั้นกลางระหว่างบ้านสลิธืลีนและบ้านกริฟฟินดอร์ที่กำลังจะโรมรันกันอยู่นั้น


    อ่านต่อตอนหน้าค่ะ

    ตัวอย่างตอนต่อไป

    เดรโกดึงร่างบางของเฮอร์ไมโอนี่ที่พยายามดิ้นรนอย่างเต็มกำลัง กระแทกเข้ากับประตูของห้องพยาบาลก่อนที่จะฝังจมูกของเขาไปตามซอกคอของเธอ และต่ำลงมาเรื่อยๆ..........
    ........................................................................................................................
    ........................................................................................................................

    "แฮร์รี่ รอน ใครก็ได้ช่วยด้วย"เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนออกมาสุดเสียงและก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะดับมืดลง คล้ายๆร่างของเดรโกถูกกระชากออกไปจากตัวเธอ.......................................................
    ...........................................................................................................................
    ..........................................................................................................................

    เดรโก มัลฟอย และวินเวิร์ด มัลฟอย ต่างแลกหมัดกันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร..........................
    ..........................................................................................................................
    ...........................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×