ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    harry potter ฟิคแปล Dream Girl(เดร/เฮอร์)

    ลำดับตอนที่ #4 : Dream Girl : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 52


    Chapter 4

                เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งตื่น เธอมองไปรอบตัวของเธออย่างมึนงง สับสนกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย จากนั้นเธอได้ยินเสียงตะโกนที่ไม่ค่อยชัดเจนนัก เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง และคว้าไม้กายสิทธิ์ที่อยู่ใต้หมอน เมื่อเธอสัมผัสมันเธอรู้สึกอุ่นและปลายไม้ส่องแสงสีฟ้าซึ่งเป็นสัญญานเตือนให้เธอรับรู้ว่ามัลฟอยได้เข้าสู่ห้วงนิทรา และกำลังจะไปยังสถานที่ใดที่หนึ่ง แน่นอน มัลฟอยกำลังฝัน  เธอรีบลุกจากเตียงและเดินผ่านประตูที่ซ่อนไว้  เข้าไปสู่ห้องของมัลฟอย  และรีบเปิดประตูเข้าไปอย่างรีบเร่ง

     

    เธอวิ่งเต็มฝีเท้าผ่านห้องนั่งเล่นไปยังห้องนอนของเขา  ห้องที่อยู่ในเงามืดมีเพียงแสงไฟจากเตาผิง  เฮอร์ไมโอนี่เห็น มัลฝอยนอนอยู่บนเตียงนอนแกะสลักขนาดใหญ่ กำลังดิ้นรนและบ่นพึมพำในฝันของเขา  เฮอร์ไมโอนี่คุกเข่าลงอย่างรวดเร็วข้างๆเตียงของเขาและจับมือขวาของเขาขึ้นมาพร้อมกับกระซิบว่า

     

    เล็กจิลิเมนส์!”

      

                เฮอร์ไมโอนี่ รู้สึกคล้ายกับว่ามือของมัลฟอย ดึงเธอผ่านกำแพงและเข้าไปสู่ห้องอาหารของคฤหาสน์แต่ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เดรโกนั่งอยู่ตามลำพัง แต่มีโวลเดอมอร์นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะพร้อมกับผู้เสพความตายมากกว่า 30 คนกำลังเพลิดเพลินกับสิ่งที่ดูเหมือนงานปาร์ตี้อาหารค่ำ ในแบบน่าขยะแขยงของโวลเดอมอร์

               

    เดรโกนั่งเกือบจะปลายโต๊ะ จานที่เต็มไปด้วยอาหารของเขาไม่ได้รับการแตะต้องใดๆ  รอยยิ้มเยาะเย้ยแบบปกติที่เธอคุ้นเคย ก็ไม่ปรากฏให้เห็นเลย  เขาดูขาวซีดจนแทบจะเป็นสีเทา   เขากวาดสายตาไปรอบๆห้องอย่างหวาดกลัว

     

    ในขณะนี้เฮอร์ไมโอนี่อยู่ในห้องปะปนอยู่กับผู้เสพความตายนับสิบคนเธอรู้ดีว่าต้องระวังที่จะไม่สบสายตาใครๆหรือสนทนากับคนที่แก่กว่าไม่ว่าจะข้างใดข้างหนึ่งของเขาเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมา ถึงเธอรู้ว่ามันเป็นเพียงความฝันก็เถอะ

               

    เฮอร์ไมนี่รู้สึกแปลกใจกับความสุภาพของแขกหรือถ้าจะพูดให้ถูกพวกผู้เสฟความตายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ พวกเขาพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเป็นมิตรต่อกัน ระหว่างนั้นมีการเปลี่ยนความสนใจของพวกเขาไปยังมักเกิ้ลเจ็ดคนซึ่งถูกทรมานอยู่ที่หัวโต๊ะโดยโวลเดอมอร์  พวกเขาหัวเราะและเย้ยหยันในขณะที่ดูความสนุกในรูปแบบที่น่าสะอิดสะเอียนของโวลเดอมอร์ 

               

    พวกมักเกิ้ลถูกผูกเชือกและแขวนห้อยอยู่กลางอากาศ  ดวงตาของเขากวาดไปรอบๆห้องอย่างลนลาน  ปากร้องเรียกขอความช่วยเหลือเงียบๆ  โวลเดอมอร์โบกไม้กายสิทธิ์เป็นครั้งคราวเพื่อพานักโทษคนหนึ่งลอยไปข้างหน้า เพื่อความเพลิดเพลินของเขา

               

    เขาดูเหมือนนักชีววิทยาที่กำลังทำการทดลองแมลงตัวหนึ่ง เมื่อเขาเสกคำสาปแช่งต่างๆนาๆใส่เหยื่อของเขา  ดวงตาสีแดงของเขาอยากรู้อยากเห็นและจดจ่อกับทุกๆการกรีดร้องที่ไร้เสียง  ทุกๆการดิ้นอย่างทุรนทุรายซึ่งเหยื่อแสดงออกมา 

               

    บางครั้งรอยยิ้มบิดเบี้ยวของเขาปรากฏหลังจากการตอบสนองนั้น และเขาจะเสกคำสาปแช่งซ้ำๆเพื่อดูผลลัพธ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งเขาเริ่มเบื่อหน่าย  และเปลี่ยนไปใช้คำสาปแช่งแบบอื่น  เมื่อเหยื่อเริ่มอ่อนแรงเกินกว่าจะตอบโต้กลับไปอย่างรุนแรงหรือหมดสติจากความเจ็บปวดหรือความหวาดกลัวที่พวกเขาได้รับ  โวลเดอมอร์ก็จะเรียกนักโทษรายต่อไปเข้ามาเพื่อทำเช่นเดิม

               

    หลังจากดูการทรมานที่มีทีท่าว่าจะไม่สิ้นสุด  เฮอร์ไมโอนี่ก็ตระหนักได้ว่าความฝันมันกำลังเล่นซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเรานั่งดูวีดีโอ  เหตุการณ์เดิมๆที่เธอเห็น มันไม่ใช่ความทรงจำในความฝันที่เธอมองหาอยู่  และมันถึงเวลาแล้วที่จะออกจากความทรงจำของมัลฟอย 

               

    ที่ห้องนอนของ เดรโก มัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่จับมือเดรโกแน่นและดึงเขาออกมาจากความฝันที่น่าขยะแขยงนั้นในขณะที่เธอจดจ่อยังสถานที่ที่จะพาเขาไปเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้น สถานที่ๆเธอชอบ  

     

     เธอล้มลงบนพื้นทรายอุ่นๆของชายหาดสีเงินที่ทอดตัวยาว  ตอนเที่ยงวันพระอาทิตย์ส่องแสงดาษดาบนพื้นน้ำ กลิ่นของมหาสมุทรกระจายไปรอบๆตัวของมัลฟอยที่นอนอยู่ข้างๆเธอ  มือของเขายังคงเกาะกุมมือของเธอแน่น มัลฟอยค่อยๆเปิดตาช้าๆและลุกขึ้นนั่ง

               

    เดรโกในความฝันดูขาวซีดเหนื่อยอ่อนน้อยกว่าที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้  เขาลุกขึ้นนั่งและจ้องไปที่เฮอร์ไมโอนี่ คิ้วของเขาย่นด้วยความสับสนและงงงวยอย่างเห็นได้ชัด  จากการเปลี่ยนแปลงในฉับพลัน ของงานเลี้ยงอาหารค่ำที่น่ากลัวไปเป็นชายหาดที่มีพระอาทิตย์เจิดจ้า พร้อมกับกลุ่มนกนางนวลที่บินเป็นวงกลมอย่างช้าๆอยู่เหนือหัวของเขา 

               

    เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นนั่งข้างๆเขาแล้วดีงมือเธอออกจากเขา เดรโกยังดูสับสนอยู่เพียงสักพักเขาก็กล่าวทำลายความเงียบลง

               

    นี่ พวกเรา ออกมาจากความทรงจำของฉันแล้วใช่ไหม แล้วเราอยู่ที่ไหน

               

    ใช่ฉันพานายออกมาแล้ว ตอนนี้คือความฝันของนาย แล้วนายเป็นยังไงบ้างเธอถามกลับแววตามองด้วยความเป็นห่วง แต่เธอก็แทบจะดึงความเป็นห่วงนั้นกลับคืนมาเสียในทันทีเมื่อได้รับคำตอบกลับที่แสนจะเย็นชา

               

    ไม่เกี่ยวกับเธอเกรนเจอร์เขาหันมามองเฮอร์ไมโอนี่เต็มตาความหยิ่งทระนงของเขากลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เขากำลังโมโหเธอเพราะจากประสบการณ์ของเขาแล้วพวกผู้หญิงเป็นพวกที่ล้ำเส้นได้อย่างเลวร้ายที่สุดและเฮอรไมโอนี่ เกรนเจอร์ก็เป็นผู้หญิงประเภทนั้นเสียด้วย

               

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบโต้ เธอสะบัดหน้าของเธอมองไปยังท้องทะเลสีครามอย่างผ่อนคลาย ไม่ใช่ว่ากลัวเจ้าของในตาสีซีดที่จ้องเธอเขม็งอยู่นี่หรอก เธอเพียงแต่พยายามเก็บอารมณ์โมโหต่างหาก โมโหเขา โมโหแฮร์รี่ และโมโหตัวเอง

     

    โมโหเดรโกที่ไม่ยอมร่วมมือกับเธอด้วยดีเพียงแค่เขาบอกว่าโวอร์เดอมอใช้คาถาอะไรสาปแช่งแฮร์รี่เป็นคาถาสุดท้ายเท่านั้นทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเธอเองก็คงจะไม่ต้องมานั่งคอยลับฝีปากกับเขาอยู่อย่างนี้

    โมโหแฮร์รี่ที่ทำให้เธอต้องเป็นห่วงอยู่เสมอ กว่าเขาจะบอกว่าอะไรเป็นอะไรมันก็ล่วงเลยมานานจนตอนนี้ มันแทบจะไม่มีทางแก้ไขได้ทันแล้วและถ้าเธอกลับไปโดยไม่ได้อะไรคืบหน้าล่ะ แฮร์รี่จะเป็นยังไง

     

    และในตอนนี้เธอเริ่มที่จะโมโหตัวเองที่เข้ามาในนี้เพียงเพราะไม่อยากให้เดรโกอยู่เพียงลำพังหลังจากต้องผ่านความฝันที่มีงานเลี้ยงอาหารค่ำแห่งความน่ากลัวติดอยู่ในความทรงจำของเขา  และเธอคิดผิดความทระนงตัวของเขาเพิ่งผ่านคำพูดที่น่ารังเกียจไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี่เอง

               

    เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจในทันทีเธอควรจะออกมาจากความฝันของเดรโกได้แล้ว

     

    ฉันว่า ฉันควรให้นายอยู่คนเดียวได้แล้ว ฉันจะออกไปจากความฝันของนายเสียที

    เธอเห็นเดรโกยักไหล่แล้วล้มตัวลงนอนบนพื้นทราย และแหงนหน้ามองท้องฟ้า

     

    ก็ตามใจเธอสิ ถ้าเธอคิดว่ามีปัญญาพอที่จะออกไปได้ เกรนเจอร์ เขาพูดพึมพำเบาๆพร้อมจุดเล็กๆของรอยยิ้มที่เธอไม่ได้ทันสังเกตเห็นและสนใจในความหมายของคำพูดนั้น

               

                เธอกระเถิบเข้าหาเขาและยื่นมือไปจับมือของเขา ไว้แน่น เธอตั้งสติสักครู่ก่อนที่จะดึงตัวเองออกมาจากความฝันของเขา   เธอหลับตาลงและพึมพำคาถาเบาๆ

     

    ฟินิเต้ อินคันทาทัม””

     

    เธอเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นและหันไปมองรอบๆตัว ที่เดิม  เธอยังอยู่สถานที่เดิม เธอถอนลมหายใจ เธอเองนึกไว้แล้วเพราะตอนที่เธอท่องคาถาเพื่อกลับไปเธอรับรู้ถึงแรงต่อต้านบางอย่างจากฝ่ามือของเขา มันเป็นแรงดึงของฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ยอมให้ตัวเธอได้ออกไปง่ายๆ นี่เอง หญิงสาวหันขวับมามองชายหนุ่มที่นอนดูท้องฟ้าทันที เธอสบัดมือของเขาออกและลุกขึ้นยืน

     

    มัลฟอยนายทำอะไรน่ะ

     

    ชายหนุ่มและหญิงสาวต่างจ้องตากันไม่กระพริบ เดรโกยิ้มเย้ยหยันเล็กน้อยก่อนพูดอย่างสบายๆ

     

    เธอก็เห็นว่าฉันนอนอยู่ตรงนี้ ฉันทำอะไรอย่างงั้นเหรอ เกรนเจอร์

     

    ฉันไม่ได้โง่น่ะ มัลฟอย นายก็รู้ฉันออกไปไม่ได้ ถ้านายไม่เปิดจิตของนายให้ฉันได้ออกไปเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นเสียงอย่างแค้นเคือง เธอพยายามแล้วที่จะระงับอารมณ์โกรธ  แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้ เธอคงจะรับงับอารมณ์ขุ่นเคืองไว้ไม่อยู่แน่ ถ้าเธอยังขืนยืนอยู่ตรงนี้

     

    เดรโกลุกขึ้นยืนบ้างแล้วยึ่นหน้ามายังเธอแล้วกล่าวเสียงเหี้ยม

    ออกไม่ได้ ก็ไม่ต้องออก

     

    เดรโกมองเธอเขม็ง ใช่ เขาจงใจกักตัวเธอไว้ เขาอยากให้เธอกลัว และขยาดเขา เผื่อคราวหน้าจะได้ไม่ต้องมาจุ้นจ้านเข้ามาในความทรงจำของเขาอีก

     

    นายพูด บ้าๆอะไรของนาย ฉันช่วยนายไว้นะ เดรโก มัลฟอยเธอแผดเสียงร้องอย่างคนที่ถึงขีดสุดและอย่างรวดเร็วที่เดรโกเคลื่อนตัวเขาเข้าใกล้เธอและใช้มือใหญ่หนานั้นจับแขนหญิงสาวไว้แน่นจนเธอรู้สึกได้ถึงแรงบีบมหาศาล และทำให้หญิงสาวน้ำตาคลอด้วยความเจ็บปวด

     

    หุบปากของเธอไปเลย เกรนเจอร์ เดรโกตะคอกอีกฝ่ายอย่างรุนแรงพอกันไม่ต้องอ้างบุญคุณเพราะคนที่เธอจะช่วย..ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเพื่อนรักของเธอเองมากกว่า

     

    เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนเธอใช้มืออีกข้างที่เป็นอิสระดันหน้าอกของอีกฝ่ายไว้เพื่อไม่ให้เขาเข้าใกล้ตัวเธอมากเกินไป และเธอภาวนาไม่ให้เขาโต้แย้งอะไรเธอมากไปกว่านี้เพราะดูเหมือนว่าเธอจะเสียการควบคุมตัวเธอเองไปอย่างรวดเร็วเสียแล้ว

     

    เดรโก มัลฟอยในตอนนี้หน้าแดงไปทั้งหน้าแล้ว มันไม่ใช่ความโกรธ แต่มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ดันขึ้นมาในร่างกายของเขา ต่อมอารมณ์ของเขามันเริ่มร้อนระอุ ขึ้นมาเรื่อยๆเมื่อเขามีโอกาสได้พิจารณาหญิงสาวข้างหน้าที่หลับตาพริ้มถอนหายใจระรวยนี้เต็มตัว เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ศัตรุของเขา เป็นสาวสวยเต็มวัยแล้ว ใบหน้าของเธอเกลี้ยงเกลาเหมือนผิวของเด็กน้อยๆเธอไม่ได้แต่งแต้มผิวหน้าด้วยเครื่องสำอางใดๆมากนักจะมีก็เพียงแป้งฝุ่นเล็กน้อย เท่านั้น

     

                ผิวของเธอขาวนวลอมชมพู และที่สำคัญหน้าอกที่ไหวกระเพื่อม ยามเธอหอบหายใจ ภายใต้เสื้อยืดรัดรูปแขนกุดนั้นด้วยแล้ว  มันยิ่งทำให้เขารู้สึกได้ถึงความต้องการภายในที่ทวีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ยิ่งเธอหลับตาพริ้มและกัดริมฝีปากล่างเบาๆ เหมือนยั่วยวนน้อยๆนั้น มันยิ่งทำให้เขาแทบคลั่ง  เธอจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าอากัปกิริยาที่เธอแสดงออกมานั้นมันทำให้ตัวเขาแทบจะระเบิดอยู่แล้ว

     

    เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนลืมตาขึ้น เธอมองเห็นเดรโกมองหน้าเธออยู่ ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เขาโกรธเธอมากขนาดนี้เลยหรือ เฮอร์ไมโอนนี่คิด เธอถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ก่อนพูดเรียบๆไม่ใส่อารมณ์อย่างเคย

     

    เอาล่ะพอ ฉันไม่อยากทะเลาะกับนายแล้ว ดึงจิตออกมา ฉันจะได้ออกไปเสียที ตอนนี้ฉันเหนื่อยมากพอแล้ว ฉันอยากพักผ่อน

     

    น้ำเสียงและคำพูดแบบนั้นไม่ต่างอะไรกับการก้าวถอยเพื่อหนีห่างเขาไม่มีการกระทำใดๆจะสร้างระยะห่างระหว่างกันได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว

     

    สิ้นเสียงของเฮอร์ไมโอนี่แทนที่เขาจะปล่อยเธอเขากลับใช้มืออีกข้างที่ว่างๆ รั้งเอวไว้แล้วดึงเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว เธอพยายามขืนตัวเอาไว้ไม่ไปตามแรงดึงแต่ยิ่งขืนตัวมากเท่าไหร่เดรโกยิ่งใช้แรงของเขาที่มีดึงตัวเธอ มาจนได้และนั่นทำให้เฮอร์ไมโอนี่ถลาเข้าไปหาเขาทั้งตัว เฮอร์ไมโอนี่พยายามจะดันตัวเธอออกแต่ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะล๊อคตัวเธอไว้แน่นระหว่าง หน้าอกกับอ้อมแขนอันแข็งแรงเสียแล้ว

     

    เธอเครียดเหรอ เกรนเจอร์ อย่างงั้นฉันคลายเครียดให้เธอดีมั้ยเมื่อเดรโกพูดจบเขาดึงที่มัดผมเธออกจนผมของเธอสยายเต็มหลัง

     

    เธอปล่อยผมแล้วดูดีออก เซ็กซี่จะตายรู้ไหมเกรนเจอร์น้ำเสียงที่แหบพร่าและลมหายใจอุ่นๆที่ประทะริมหูทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตื่นกลัว

     

    คิ้วหนาคมเข้มของหญิงสาว ขมวดเข้าหากันอย่างข้องใจ ริมฝีปากสีชมพูพูดตะคอกใส่เดรโก พลางดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างหนัก

    อย่าทำอะไรบ้าๆนะมัลฟอย ถ้ากระทรวงรู้

     

    ถ้ากระทรวงรู้แล้วจะทำไมเกรนเจอร์ เธออยากแส่เข้ามาในความฝันของฉันเองนะ แล้วในนี้คือความฝันของฉัน ฉันจะทำอะไรกับคนที่บุกรุกเข้ามาในความฝันฉันก็ได้ ฉันผิดหรือไง เกรนเจอร์ ที่จะลงโทษเธอน่ะ

    คำพูดนั้นทั้งเย็นชา แข็งกร้าว เด็ดเดี่ยว และแค่ได้ยินมันก็ทำให้เลือดในกายของเธอเย็นยะเยือกขึ้นมา และนั่นทำให้เดรโกฉวยโอกาสตอนที่เธอเผลอ จูบที่แก้มขาวของเธออย่างหนักหน่วง และรุนแรง ก่อนจะไล้ริมฝีปากของเขา ประกบริมฝีปากสีชมพูและบดขยี้หนักๆ เฮอร์ไมโอนี่เอียงหน้าเพื่อหลบเลี่ยงริมฝีปากที่รุกรานของเขา ในขณะที่มือน้อยๆรัวกำปั้นใส่ที่หน้าอกของเขาไม่ยั้ง เดรโก คำรามเล็กน้อย ออกรำคาญเสียมากกว่า  ก่อนที่จะออกแรงดันตัวเธอลงนอนที่ผืนทรายละเอียดนั้น เฮอร์ไมโอนี่ใจหายวาบเมื่อรู้สึกได้ถึงแผ่นหลังที่จมลึกลงไปกับผืนทรายเล็กน้อยตามแรงที่คนตัวใหญ่ทาบทับลงมา

     

    มัลฟอย ปล่อย นะ อย่าทำแบบนี้

     

    ไมเอาน่าปลดปล่อยดีกว่าเกรนเจอร์ เรามีเวลากันทั้งวัน ฉันอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มันน่าจดจำเฮอร์ไมโอนี่ดิ้นพราด ความรู้สึกตระหนกบางๆแล่นผ่านเธอ เมื่อรู้ชะตากรรมที่จะเกิด เธอไม่ยอมให้มันจบลงแบบนี้แน่นอน  

     

    เดรโกหัวเราะออกมาเล็กน้อยทำให้เธอร็สึกวูบวาบแปลกๆภายใน

     

    อย่าดิ้นสิเกรนเจอร์ เธอยิ่งดิ้น มันยิ่งทำให้ฉันเกิดอารมณ์และมันก็จะเป็นการยากที่เธอจะทำให้ฉันปล่อยเธอไป

     

    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ว่าเขากระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นและศรีษะที่มีผมสีบรอนส์เงินของเขาก็ก้มลงมาใบหน้าของเขาใกล้ใบหน้าของเธอเหลือเกิน และในวินาทีต่อมาริมฝีปากอุ่นๆของเขาก็สัมผัสกับต้นคอเธอและหลังใบหู เธอได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆของเขากระซิบเสียงแหบห้าวอยู่ข้างใบหูงามๆของเธอ

     

    ฉันจะไม่ทำให้เธอเจ็บเสียงของเขาต่ำและแหบห้าวไปด้วยแรงปราถนาหัวใจของเธอเต้นโครมครามจนแทบจะไม่เป็นจังหวะ เธอหยุดดิ้นรนแล้วเพราะเธอรู้ดีว่าเปล่าประโยชน์ ในตอนนี้เธอกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก วิธีการใดที่จะทำให้เธอหลุดออกไปจากที่นี่ได้ หลุดออกไปจากฝันที่กำลังคุกคามเธออยู่จนแทบคลั่งนี้

    และแล้วในที่สุดความคิดบางอย่างก็วูบเข้ามา  ที่เธอออกไปไม่ได้เพราะจิตของมัลฟอยปิดเขากักเธอไว้ที่นี่ตามที่จิตของเขาต้องการ แต่ถ้าจิตของมัลฟอยอ่อนลงบางที เธออาจจะหลุดออกไปได้ และในตอนนี้จิตของมัลฟอยไม่คงที่ความคิดฟุ้งซ่านของเขาทำให้จิตใจของเขาอ่อนล้า แต่ ปัญหามันอยู่ที่ว่าจิตของเธอเองก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเหมือนกันจากแรงกระตุ้นที่มัลฟอยโลมเลียเธอจนอารมณ์เธอแตกกระเจิงไปหมดแล้ว  แล้วตอนนี้ เธอจะทำยังไงดี

     

    มัลฟอย หยุด ...เราต้องคุยกัน นาย อย่า.........เสียงของเธอติดขัดในลำคอเมื่อเดรโกปิดปากของเธอด้วยริมฝีปากนุ่มๆของเขาจูบครั้งนี้ของเขาไม่มีความรุนแรงเช่นเมื่อครู่ก่อน  หากแต่นุ่มนวลและเนิบช้าอ่อนโยนจนเธอเองแทบใจสลายอยู่ตรงนั้น สติของเธอถูกเดรโกดึงออกไปหมดเพราะรอยจูบนั้น ลิ้นของเขาแยกริมฝีปากของเธออกจากกัน มันฉกรัวไปที่ฟันและกระพุ้งแก้มของเธอ การบุกรุกอย่างเร้าร้อนในครั้งนี้ทำให้เธอครางออกมา

     

    อือ ... อือ..

     

    เดรโกต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการข่มกลั้นไม่ให้สัมผัสเธอไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง เขาต้องการให้สาวสวยใต้ร่างเขาคล้อยตามไปกับเขาเรื่อยๆจนเธอพร้อม พร้อมที่จะยินยอมเขา โดยที่ไม่ขัดขืน

    ในตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืนอีกต่อไปและเมื่อเดรโกใช้ลิ้นชอนไชเข้าไปในปากของเธออย่างดูดดื่ม มันทำให้เธอรู้สึกได้ถึงขนแขนที่ลุกกรูเกรียว จนเธอเองไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป... 

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 

    --------------------------------เซ็นต์เซอร์ค่ะ ตอนนี้บรรยายใต้เข็มขัดไปนิดนุงขอผ่านนะค่ะ________________

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     _--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    เฮอร์ไมโอนี่ต้องหยุดทุกอย่างลงแค่นี้ ไม่งั้นมันจะสายเกินไป เธอไม่แน่ใจนักว่าตัวเธอเองจะหยุดความเร่าร้อนที่มัลฟอยปรนเปรอให้เธอได้หรือเปล่าถ้าเธอหยุดไม่ได้ เธอก็อาจจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้ หรือถ้าออกไปได้มันก็คงจะจบลงที่เธอกับเขามีเซ็กร์กันถึงแม้จะเป็นความฝันก็เถอะ แต่เธอก็ไม่อยากให้มันจบลงแบบนั้น

     

    โดยที่เดรโกไม่คาดฝัน เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา ในขณะที่เขากำลังจะถอดบ๊อกเซอร์ออกจากตัวเป็นชิ้นสุดท้าย เฮอร์ไมโอนี่ลูบไล้ผิวกายเขาด้วยมืออันบอบบางของเธอเธอวนเวียนไล้นิ้วมือไปที่ท้องน้อยของเดรโกและใช้ปากของเธอพรมเลียไปทั่วหน้าท้องที่มีมัดกร้ามขึ้นอย่างสวยงาม เธอเลื้อยตัวเองขึ้นโดยยึดร่างกายของเดรโกเป็นหลักเธอพยายามเสียดสีร่างกายของเธอกับเขาอย่างจงใจ
    ----------------------------------------เซ็นต์เซอร์ค่ะ_----------------------------------------------------------------
    เขาจนเขาแทบทนไม่ไหว และก่อนที่เขาจะทำตามที่ใจเขาต้องการ เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ก็ดังขึ้นที่ข้างหูของเขาอย่างแผ่วเบา

     

    ““ฟินิเต้ อินคันทาทัม””  

     

                เฮอร์ไมโอนี่เปิดตาและพบว่าตัวเองคุกเข่าอยู่ข้างๆมัลฟอยในห้องนอนของเขา เธอกลับมาแล้ว เฮอร์ไมโอนี่สำรวจร่างกายของเธออย่างรวดเร็วทุกอย่างเป็นปกติ เธอเริ่มผ่อนลมหายใจอย่างช้าๆเธอเหลือบตาดูเดรโก เขายังคงหลับแต่คิ้วของเขาขมวดมุนอย่างแปลกใจ  รอยยิ้มเกิดขึ้นที่มุมปากของเขา ในขณะที่การหายใจที่เชื่องช้าของเขาทำให้เฮอร์ไมโอนี่มั่นใจว่า  เขายังคงอยู่ในความฝันที่ชายหาด 

     

    แม้ความหยิ่งทะนงที่เขาเป็น แต่เธอไม่อาจทิ้งเขาให้อยู่ในความฝันที่มีงานเลี้ยงอาหารค่ำแห่งความน่ากลัวที่ไม่มีวันสิ้นสุดของโวลเดอมอร์ต่อไปได้

               

    ความฝันซ้ำซากไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะตอนเย็นเท่านั้นแต่โดยปกติความฝันจะยังคงดำเนินต่อไปตลอดคืนเหมือนเครื่องเล่นดีวีดีที่เล่นซ้ำ  และซึ่งมันไม่ใช่ความฝันที่เป็นการต่อสู้ของโวลเดอมอร์กับแฮร์รี่ในป่า   เฮอร์ไมโอนี่ จึงไม่เห็นเหตุผลที่ควรปล่อยให้ มัลฟอย ต้องทนทุกข์อยู่กับความฝันนั้นทั้งคืน

               

    เธอนึกถึงสถานที่โปรดปรานแห่งหนึ่งของเธอ เวลาไปพักผ่อนที่ชายหาด และดึงมัลฟอยเข้าไปในสถานที่นั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าล่วงล้ำเธอ และกักเธอเอาไว้ เธอพลาดไปถนัด พรุ่งนี้เธอจะต้องคุยกับเขาถ้าเกิดเรื่องอย่างครั้งนี้อีกเธอจะต้องหาวิธีป้องกันและจะต้องแจ้งกระทรวง และให้กระทรวงเรียกเขาไปสอบ แต่ถ้าเธอทำ เรื่องของแฮร์รี่ก็คงไม่ง่าย เอาเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน  เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นยืน  ถูเข่าด้านๆของเธอ และเหลือบมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ที่ชั้นบนเตาไฟ  มันบอกให้เธอรู้ว่าเธออยู่ในห้องของเขากว่าสามชั่วโมงแล้ว เธอจึงรีบกลับออกไปที่ห้องของตัวเอง และล้มตัวลงบนเตียงนอนด้วยความเหนื่อยอ่อนทั้งกายและจิตใจที่ร้อนรุ่มในสิ่งที่มัลฟอยปลุกเร้าเธอออกมา

               

    ชังกี้ปลุกเธอในตอนเช้าด้วยการปรากฏตัวพร้อมกับเสียงดังแคร็กเข้ามาในห้องนอนของเธอ  เอลฟ์เปิดม่านและลำแสงลอดเข้ามาในห้อง แสงอาทิตย์ที่ตกกระทบกับแสงเทียนในห้อง มันน่าทึ่งแต่เฮอร์ไมโอนี่ยังคงเอาหน้าซุกลงในหมอนนุ่มของเธอ 

     

    ชังกี้คิดว่า นายหญิงอาจจะต้องการให้ช่วยปลุกในเช้านี้ นายหญิงตื่นสาย แต่นายหญิงเฮอร์ไมโอนี่ทำสำเร็จ! นายท่านหลับตลอดทั้งคืน และไม่ร้องตะโกนหรือเดินละเมอไปตามทางเดินเมื่อคืนนี้  ชังกี้รู้ว่านายหญิงเฮอร์ไมโอนี่จะช่วยนายท่านได้  ชังกี้มีความสุขเหลือเกิน!”  

               

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจทนกับความกระตือรือร้นของเอลฟ์ เธอจึงลุกขึ้นนั่งและยิ้มให้เอลฟ์

    ฉันช่วยหยุดมันเมื่อคืนนี้ ชังกี้   แต่เขายังไม่หาย เรายังต้องทำบางอย่าง

     

    โอ้ ใช่! นายหญิง ชังกี้เข้าใจ นายหญิงถ่อมตัว เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้เอลฟ์ และเธอมุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเอง ยี่สิบนาทีต่อมาเธอแต่งตัวด้วยชุดทีเชิร์ตสีขาวและกางเกงยีนสีดำ   เธอมุ่งหน้าติดตามชังกี้ไปที่บันไดและพบมัลฟอย นั่งอยู่หัวโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่และยาวซึ่งชังกี้เรียกว่า ห้องอาหารเช้า เฮอร์ไมโอนี่สับสนนิดหน่อยกับพิธีรีตองทั้งหมด 

     

    อย่างไรก็ตามสภาพของห้องทำให้ต้องยอมรับความจริงที่ว่า อาหารเช้าเป็นมื้ออาหารที่เป็นทางการน้อยกว่าอาหารค่ำ  ภายในห้องแสดงถึงกลิ่นไอตะวันออกอย่างเลอเลิศ แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านผ้าม่านสีขาวที่มัดเป็นกระจุกเล็กๆ  กำแพงเป็นสีครีมสว่างที่มีแผ่นไม้สีขาวบุสูงขึ้นไปห้าฟุต และห้องนี้มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของห้องอาหารเย็น  อย่างน้อยที่สุดด้วยมาตรฐานของมัลฟอยมันให้ความรู้สึกที่อบอุ่นกว่า

               

    เป็นอีกครั้งที่ มัลฟอย นั่งตามลำพังที่หัวโต๊ะตัวใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยอาหารมากมายแทบจะมากพอๆกับอาหารบนโต๊ะในห้องโถงใหญ่ที่ฮอกวอตส์ ซึ่งใช้จัดเตรียมอาหารเช้า  มัลฟอยกำลังอ่านหนังพิมพ์และจิบชา  จานที่อยู่ตรงหน้าเขามีเพียงแค่ขนมปังปิ้งกับ แยม

     

    อรุณสวัสดิ์ เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงทักทายเมื่อเธอเดินเข้ามาห้อง เธอประหม่าที่ได้เห็นเขาอีกครั้ง อย่างน้อยก็ตั้งแต่เธอตื่นนับตั้งแต่เขาทำกับเธอในความฝัน เธอเตรียมจะพูดทั้งหมดเกี่ยวกับวิธีที่เขาจะไม่ทำแบบนั่นซ้ำอีก เธอจะรับผิดชอบในส่วนของเธอที่เธอพาเขาไปยังสถานที่อื่น ด้วยการขอโทษ และนั่นน่าจะเป็นการทำให้เรื่องมันจบ

               

    อย่างไม่คาดคิด มัลฟอยยืนขึ้นเมื่อเธอเดินเข้ามา เขาลากเก้าอี้ที่อยู่ทางด้านขวาของเขาเพื่อเสนอให้เธอนั่ง

     

    ขอบคุณ เธอพูด มองเขาอย่างสงสัยเล็กน้อย เขาพยักหน้าเป็นเชิงตอบจากนั้นนั่งลงอีกครั้ง

     

    มัลฟอย เรื่องเมื่อคืนนี้... เธอเริ่มและเธอถูกขัดจังหวะด้วยคำตอบสั้นๆของเขา

     

    ฉันขอโทษ มันจะไม่เกิดขึ้นอีก

               

    มัลฟอย หันกลับไปอ่านหนังสือพิมพ์อีกครั้งและจิบชาโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ  นั่นดีแล้ว ปัญหาจบแล้ว เธอคิดทบทวน และหวังว่าอย่างน้อยที่สุด เธอจะไม่ใส่ใจได้จริงๆ   เฮอร์ไมโอนี่พบว่าตัวเองค่อนข้างหิว และเลือกขนมปังสโคนกินคู่กับน้ำชา ในขณะที่เธอคนถ้วยชาของเธอ เธอรู้สึกได้ว่า มัลฟอยกำลังมองเธออยู่ จึงเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลช็อกโกแล็ตของเธอประสานกับดวงตาสีเทาเป็นประกายของเขาที่จับจ้องอยู่ก่อนแล้ว

               

    เวลาผ่านไปเฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เขาดูไม่เต็มใจที่จะพูดมากนัก  แก้มของเธอค่อยๆเป็นสีแดง ช่วงเวลานั้นถูกทำลายเมื่อเสียงแหลมของชังกี้กลบความเงียบในห้อง เพื่อบอกให้รู้ว่าบิล วีสลีย์กำลังมาถึง  เฮอร์ไมโอนี่ยืนขึ้นพร้อมกับจูบทักทายที่แก้มของเขา และยื่นถ้วยชาให้เมื่อเขานั่งลง

     

    ฉันมาดูเพื่อความแน่ใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนที่ฉันจะไปที่ทำงาน เขาเหลือบตามองไปทาง มัลฟอย

     

    จริงๆแล้ว ทุกอย่างปกติดี บิล เธอย้ำให้เขามั่นใจ มือของเธอวางลงบนไหล่ของเขา

     

    พรุ่งนี้ตอนบ่าย ฉันจะมาเอารายงานประจำสัปดาห์นะ บิลกล่าวลา และเขาจากไปยังที่ทำงาน หลังจากเฮอร์ไมโอนี่ กลับมานั่งที่ มัลฟอย ออกความคิดเห็นอย่างเหน็บแนม

     

    รายงานประจำสัปดาห์เหรอ เดี๋ยวนี้พวกเขาเรียกมันแบบนี้แล้วหรือไง เธอแน่ใจนะว่าไม่มีอะไรกับพวกวีสลีย์แล้วใช่ไหม เกรนเจอร์เฮอร์ไมโอนี่ถลึงตาของเธอใส่เขาผ่านถ้วยชาของเธอ

     

    ถ้านายใช้เวลาของนายในหัวของฉันเพื่อสอดรู้สอดเห็น นายคงทำได้ไม่ดีพอละมั่ง   บิลหมั้นหมายและจะแต่งงานกับเฟลอร์ เดอลาครัวซ์    เราเป็นแค่เพื่อนและเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น  แต่เดรโกปล่อยคำพูดเสียดสีเธอกลับมาว่า

     

    ถ้าอย่างนั่นมันก็น่าแปลกที่เธอจูบกับเขา กริฟฟินดอร์ผู้สูงส่ง ยากที่จะพบเจอใช่ไหมเกรนเจอร์ เฮอร์ไมโอนี่สำลักชา   โธ่! เมอร์ลิน เธอลืมเรื่องนั้นไปแล้ว มันเป็นเพียงแค่จูบระหว่างเธอกับบิล วีสลีย์  เกือบจะสองปีมาแล้วและบิลเป็นคนเริ่ม 

               

    เฮอร์ไมโอนี่เลิกกับรอนหลายสัปดาห์ ก่อนที่เธอได้กำหนดออกจากประเทศญึ่ปุ่น บิลที่กำลังเมาได้ที่ เขามาหาเฮอร์ไมโอนี่เพื่อสารภาพว่า เขาหลงรักเธอมาหลายปีแล้ว เขาบอกกับเธอว่าอายุของเขา และความสัมพันธ์ของเธอกับรอนกันเขาออกห่างจากการไล่ตามเธอมาตลอด 

     

    เฮอร์ไมโอนี่รับฟังคำสารภาพของเขาในขณะที่เธอนั่งลงกับเขาบนโซฟาในห้องพักของเธอ  เธอตาโตด้วยความประหลาดใจ  เธอไม่เคยคิดกับ บิล  เกินไปกว่าในฐานะพี่ชายของรอน และเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง เขาเป็นคนหล่อมากกว่าใครทั้งหมด แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยคิดกับเขาในทางนั้น ความประหลาดใจเปลี่ยนเป็นความตกใจเมื่อบิล ปลุกเร้าความเงียบด้วยการโอบรอบเอวของเธอและดึงเธอเขาไปหาเขาเพื่อจูบ  เพื่อทบทวนความรู้สึกของตัวเอง 

               

    หลังจากที่เขาจูบเธอ เฮอร์ไมโอนี่บอก บิล อย่างสุภาพว่า ถึงเธอจะเห็นว่าเขามีเสน่ห์แต่เธอก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆจากการจูบของเขา  นอกจากนี้เธอยังไม่ได้คิดว่าความสัมพันธ์กับบิลจะเป็นสิ่งที่น่าจะทำหลังจากเพิ่งแยกทางกับน้องชายของเขา   พวกเขาพูดคุยกันทุกๆสิ่ง และบิลเห็นถึงการตัดสินใจอันแน่วแน่ในคำพูดของเธอ

     

    อย่างเสียไม่ได้ ในขณะที่เขาผิดหวัง เขาก็ยินดีที่จะยังคงเป็นแค่เพื่อนกับเธอ  สองเดือนต่อมาบิลพบเฟลอร์ เดอลาครัวซ์ และตกหลุมรักครึ่งวีล่าอย่างเธอแบบหัวปรักหัวปรำ

               

    พวกเขาจะแต่งงานกันในสามสัปดาห์ เมื่อบิลมาเชิญเธอไปงาน  เขากล่าวขอบคุณเฮอร์ไมโอนี่อย่างขบขันที่ปฏิเสธเขาในคืนนั้น

     

    ฉ-ฉัน  นาย-ได้ไง  โอ้ตายล่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่หยุดและเธอตระหนักได้ว่า เธอกำลังไม่มีสติ

     

    เผื่อว่านาย น่าจะรู้ไว้นะ ว่าจูบนั้นผ่านมานานแล้ว ก่อนที่บิลจะพบเฟลอร์ เธอพูดอย่างดุเดือด

     

    เขาคิดว่าเขาสนใจที่จะเดทกับฉัน แต่เราตัดสินใจที่จะเป็นเพื่อนกัน และเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก!”   มัลฟอย ฉีกยิ้ม  รอยยิ้มที่แท้จริงดูขัดแย้งกับรอยยิ้มแบบเยาะเย้ยหรือถากถางของเขามากมาย

     

    ฟันของเขาช่างสวยงาม เฮอร์ไมโอนี่หยุดคิดก่อนที่เธอจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

     

     

    ถ้าอย่างนั้นเธอก็ส่ง บิล วีสลีย์กลับไปใช่ไหม เกรนเจอร์ เยี่ยม!”  มัลฟอยพูดพร้อมกับมีเสียงหัวเราะเจืออยู่ในเสียงนั้น

     

    มัลฟอย!  จูบนั่นไม่ใช่เรื่องของนาย จะดีมากถ้านายไม่ไปเที่ยวปากพล่อยพูดเรื่องของฉันไปต่างๆนาๆ นั่นคือความทรงจำส่วนตัวของฉัน

     

    และมันก็เป็นของฉันไม่ใช่เหรอที่เธอเข้าไปดูน่ะ มัลฟอย โต้กลับ รอยยิ้มสบายๆของเขาหายไป

     

    ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น!” เธอย้อนกลับ

     

    และนายก็ยังคงไม่ฟัง ว่าฉันต้องรบกวนนายเกี่ยวกับความทรงจำของนายเช่นกัน!”  มัลฟอยเงียบไปชั่วขณะ  เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอแววตาของเขาวาววับแปลกประหลาดและเขาก้มหน้าลงไปพยักหน้ารับรู้อย่างเสียไม่ได้ แต่เขาก็อดซ่อนรอยยิ้มความพึงพอใจไว้ไม่ได้เช่นกัน

     

    ก็ได้ เขาพูด

     

    มันก็มีเหตุผลดี ฉันมีประชุมเช้านี้ ฉันต้องไปแล้ว เขายืนขึ้นในทันที และเดินออกไปที่ประตู ท่าเดินวางท่าแบบปกติของเขาและชุดสูทสีดำแสดงให้เห็นว่ามันเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ และเฮอร์ไมโอนี่คิดว่ามันน่าเสียดายที่คนที่ดูดีช่างหยิ่งและหยาบคายยิ่งนัก โดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆให้รู้มาก่อน มัลฟอย หันกลับมาสายตาจับจ้องอยู่ที่เฮอร์ไมโอนี่

     

    และเกรนเจอร์ อย่างที่เธอก็รู้ ชายหาดสวยงามและอะไรๆก็เกือบที่จะดีเขาเน้นเสียงช่วงท้ายและยิ้มเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นว่าเธอหน้าแดงเข้ม

     

    แต่คราวหน้าฉันจะพาเธอไปในสถานที่ๆฉันชอบบ้าง ฉันชอบเล่นสกี และ ซานมอร์ริทซ์คือที่ๆฉันโปรดปรานมากที่สุด เขายิ้มเยาะและเดินออกไปจากประตู   เฮอร์ไมโอนี่กำหมัดแน่นและพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก 

               

    เธอคิดว่าเธอจะคาดหวังอะไรได้จากคนอย่างมัลฟอย  ฉันน่าจะปล่อยเขาให้มีดินเนอชั่วนิรันด์กับโวลเดอมอร์ เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิด

     

    ซานมอริทซ์ เหรอถ้าฉันไปในสถานที่ ที่นายชอบฉันคงได้เป็นเหยื่อนายแน่ เธอพึมพำกับตัวเองในขณะที่ขึ้นบันไดกลับไปยังห้องของเธอ จากนั้นความคิดบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในหัวของเธออย่างรวดเร็ว เธอยิ้มกว้างและผิวปากในขณะที่เธอคว้ากระเป๋าและออกไปจากคฤหาสน์มัลฟอย

     

    .-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-

    TO BE CON

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×