คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 เผชิญหน้า
บทที่ 3 เผชิญหน้า
ช่วงเวลาปิดเทอมเป็นเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเฮอร์ไมโอนี่ เธอได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว ได้ไปห้องสมุดของมักเกิ้ล และได้อ่านหนังสือใหม่ๆอีกหลายเล่ม และที่สำคัญเธอรู้สึกสบายใจ แต่ความสุขของเธอมันช่างสั้นนักเพราะว่าวันเปิดเทอมได้มาถึงแล้วในวันนี้
หลังจากห้านาทีภายใต้อ้อมกอดของพ่อและแม่ของเธอ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าปอดของเธอเริ่มจะฟีบลง ถ้าเธอไม่รีบออกมาจากอ้อมกอดแม่ของเธอในตอนนี้ เธอคงจะต้องตกรถไฟแน่
เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากจากครอบครัวไปแต่อีกใจหนึ่งเธอก็อยากจะเจอกับเพื่อนๆของเธอ ได้พูดคุยและแบ่งปันความสุขซึ่งกันและกัน เฮอร์ไมโอนี่แทบจะรอคอยไม่ไหวที่จะได้เจอแฮร์รี่และรอนอีกครั้ง พวกเขายังคงติดต่อกันผ่านทางจดหมายนกฮูกระหว่างซัมเมอร์เสมอ รอนนั้นยุ่งอยู่กับครอบครัวของเขาที่บ้านโพรงกระต่ายตลอดเวลาซึ่งเป็นเรื่องปกติของครอบครัวใหญ่อย่างเขาอยู่แล้วที่มีเรื่องราวไม่รู้จบ ส่วนแฮร์รี่นั้นถ้าโชคดีก็จะได้รับอนุญาตให้ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกได้ ถ้ามีงานเลี้ยงหรือมีเพื่อนสนิทมาเยี่ยมครอบครัวของเดอร์สลีย์
แม้ว่าส่วนหนึ่งเธอแทบจะรอที่จะกลับไปฮอกส์วอตต์ไม่ไหว และได้กลับไปอยู่ในกิจวัตรประจำวันเช่นการเข้าชั้นเรียนที่เธอรักและการสอบไล่ แต่อีกส่วนหนึ่งเธอหวังที่จะหันหลังกลับแล้วกลับบ้าน ซึ่งเธอมีเหตุผลที่ดีสำหรับเรื่องนี้ ในวันสุดท้ายของปีที่หก เฮอร์ไมโอนี่ได้จับได้ว่าคนที่โอหังที่สุดจากสลิธีรินได้ทำเรื่องที่ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ ซึ่งนับแต่วันที่เธอพบจดหมายที่เขาแอบใส่ไว้ในกระเป๋าเธอ เธออ่านมันอย่างน้อยก็ร้อยรอบ แต่ละรอบเธอมองลึกลงไปในแต่ละคำพูดของเขา ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกกลัวอย่างมาก
เฮอร์ไมโอนี่ไม่คิดสงสัยเลยว่าเดรโกจะไม่สามารถทำตามคำขู่ของเขาได้ เธอไม่เคยลืมว่าเขาคือหนึ่งในมัลฟอย แล้วทำไมเขาจะทำไม่ได้ล่ะ? มันทำให้เธอกลัวทุกครั้งเวลาที่คิดว่าเขาจะแก้แค้นเธออย่างไร ด้วยความที่พ่อของเขาคือลูเซียส มัลฟอยบุรุษหนุ่มที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและโยสโอหังที่สุดคนหนึ่งในโลกเวทมนต์ เดรโกคงจะได้รับการสั่งสอนอย่างดีที่สุดในสิ่งที่เหี้ยมโหดและชั่วร้าย ส่วนเล็กๆในใจเธอยังคงหวังว่าเดรโกคงจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วไปแล้ว
มันเป็นไปได้ใช่ไหม?เธอคาดหวังเล็กน้อย
ซึ่งหลังจากนั้นเฮอร์ไมโอนี่เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าใครที่เธอกำลังรับมืออยู่ด้วย และการมองโลกในแง่ดีของเธอก็ได้ล่องลอยออกจากหน้าต่างไปเรียบร้อยแล้ว เดรโกไม่มีทางจะลืมเกี่ยวกับเธอแน่ๆ ให้ตายสิ เค้าคงใช้เวลาตลอดทั้งซัมเมอร์เพื่อคิดวิธีการที่จะทรมานเธอ
ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาก็ทำให้เธอรู้สึกอย่างนั้นเรียบร้อยแล้ว...
เฮอร์ไมโอนี่กอดและจูบลาพ่อแม่เธอเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจึงค่อยๆก้าวขึ้นรถไฟของฮอกส์วอตต์ คู่แรกที่เธอเห็นคือรอนและจินนี่ ด้วยผมสีแดงของพวกเขามันทำให้พวกเขาสามารถถูกมองเห็นแม้จะอยู่ส่วนปลายของรถไฟก็ตาม
“รอน จินนี่ ฉันอยู่ตรงนี้” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนเรียกพวกเพื่อนๆของเธอ เธอเห็นรอนสอดส่ายสายตาหาเธอและสังเกตได้ว่าดวงตาของรอนเปล่งประกายขึ้นเพราะเขาจำเสียงเธอได้ จินนี่โบกมือให้เฮอร์ไมโอนี่อย่างดีใจ และเธอก็โบกมือตอบจินนี่ เฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นได้ว่าจินนี่โตขึ้นมาก เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอิจฉาผมยาวสลวยสีแดงของเธอที่หล่นลงมาปกคลุมใบหน้าเสียจริงๆแต่เฮอร์ไมโอนี่ก็คิดว่ามันดูเหมาะสมกับจินนี่ดีเช่นกัน เฮอร์ไมโอนี่ละสายตาออกจากจินนี่ เมื่อเธอเห็นแฮร์รี่ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังรอน เฮอร์ไมโอนี่โบกมือและยิ้มให้เขาแล้วรีบเดินแหวกฝูงชนตรงไปยังเพื่อนๆของเธอ
“ว้าว เฮอร์ไมโอนี่ เธอดูน่าทึ่งเชียว!” จินนี่อุทานระหว่างที่เธอมองดูเฮอร์ไมโอนี่ที่เดินเข้ามาใกล้จนเห็นได้ชัดด้วยดวงตากลมโต เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะอย่างเขินๆ ใช่ เธอเปลี่ยนไปมาก และภูมิใจกับการเปลี่ยนแปลงของเธอด้วย
“เรื่องนี้ต้องขอบคุณญาติของฉันแล้วล่ะ” แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็เล่าเรื่องราวในวันหยุดของเธอให้พวกเพื่อนๆเธอที่ค่อนข้างสนใจในการเปลี่ยนแปลงของเธอฟังอย่างมีความสุข
ซาร่าห์ ญาติของเธอได้มาเยี่ยมเธอในช่วงวันหยุดและเธอบอกกับเฮอร์ไมโอนี่ว่าเธอได้เรียนที่ร้านทำผมชื่อดังของลอนดอน ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ถามเธออย่างอายๆว่ามีเคล็ดลับอะไรที่จะแบ่งปันบ้างไหม เผื่อว่าบางครั้งเธอจำเป็นต้องใช้มัน คำถามของเธอถูกตอบเมื่อซ่าร่าห์ได้เสกกรรไกรขึ้นมาและเกลี้ยกล่อมให้เธอเป็นนางแบบให้ ผมที่เป็นพุ่มของเธอได้ถูกถางออก ซึ่งทำให้เหลือแต่ผมที่เป็นลอนสลวย ความยาวนั้นถูกปล่อยไว้เพื่อให้มันยาวลงถึงกลางหลัง มันถูกตัดออกไม่มาก แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผู้ชายเหล่มองเธอได้
เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับจับผมที่เป็นลอนของเธอขึ้นมาให้จินนี่ได้ดูชัดๆขึ้น ช่วงจังหวะที่จินนี่ก้มมองดูผมของเธอ เฮอร์ไมโอนี่เหลือบเห็นรอนได้แอบมองดูเธออย่างสนใจเช่นเดียวกัน
ซึ่งในระหว่างนี้ที่แก้มของเขาทั้งสองข้างปรากฏสีแดงระเรื่อมองดูดีชะมัด และมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกมีความสุข
“มันถึงเวลาแล้วที่รอนจะมองฉันเป็นผู้หญิงเสียที .... เสียงในหัวเธอพูดออกมา เฮอร์ไมโอนี่นั้นค่อนข้างอ่อนไหวกับรอน และเธอหวังว่าปีนี้คงจะมีอะไรในตัวเธอที่ดึงดูดเขาบ้างไม่มากก็น้อย
++++++++++++++++++++
“นี่ เฮอร์ไมโอนี่ เธอได้ยินที่ฉันพูดไหม? “ รอนพูดย้ำกับเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งก่อนที่เธอจะได้สติละจากหนังสือที่เธออ่านช่วงที่รอรถไฟออก
“ขอโทษ เธอพูดว่าอะไรนะรอน”เฮอร์ไมโอนี่ถามพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนหวานซึ่งทำให้รอนแทบใจละลายอยู่ตรงนั้น
“อ้อ..คือฉันบอกว่าพวกเรายังไม่รู้เลยว่าใครจะได้เป็นหัวหน้านักเรียนชายและหญิงในปีนี้ มีใครรู้บ้างไหม“ คำถามสุดท้ายรอนมองไปยังแฮร์รี่เพื่อนรักของเขา
“ฉันว่ากว่าเราจะรู้ก็คงจะงานเลี้ยงเริ่มขึ้นนั่นแหละ ดับเบิ้ลดอร์คงประกาศในตอนนั้น”แฮร์รี่พูดขึ้นในขณะที่มองไปที่รอนที่มองไปที่เฮอร์ไมโอนี่อยู่ตลอดเวลา
“ก็จริงอย่างที่แฮร์รี่พูด แต่ฉันเดาได้ว่าใครจะได้เป็นหัวหน้านักเรียนฝ่ายหญิง”รอนพูดพร้อมอมยิ้มเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่และจินนี่มองเขาอย่างสนใจ
“พี่รอนคิดว่าใคร”จินนี่ถามโพล่งขึ้นมาอย่างอยากรู้จริงๆ
“ เฮอร์ไมโอนี่ ไง เพอเฟ็คส์สมบูรณ์แบบ” รอนมองเธอด้วยรอยยิ้มอย่างเพ้อฝันซึ่งทำให้เธอถึงกับหัวเราะออกมาอย่างเอาไม่อยู่
“อืม...ไม่รู้สินะใครจะไปรู้ว่ามันจะเป็นยังไงสำหรับปีนี้อีกอย่างมีคนอื่นๆอีกตั้งเยอะที่น่าลุ้น” เธอตอบอย่างสุภาพ เธอไม่อยากจะทำให้เหมือนเธอใหญ่โต แต่โอกาสที่เธอจะได้เป็นหัวหน้าฝ่ายหญิงมันก็เป็นได้มากอยู่เหมือนกันและเธอเองก็หวังอยู่ลึกๆเช่นกัน?
เสียงเตือนครั้งสุดท้ายทำให้ทุกคนที่อยู่แถวนั้นรีบวิ่งไปหาที่นั่งของตัวเอง เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆเมื่อรถไฟเริ่มเคลื่อนขบวน
เริ่มขึ้นแล้ว! เธอคิด กลับไปยังฮอกส์วอตต์...และกลับไปหาเขา...คนนั้น.
++++++++++++++++++++
ห้องโถงใหญ่คร่าคร่ำไปด้วยนักเรียนฮอกส์วอตต์ ทันใดนั้นเสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางเด็กนักเรียน เสียงนั้นต้อนรับนักเรียนเก่าและนักเรียนใหม่ เฮอร์ไมโอนี่รีบตรงไปนั่งที่โต๊ะของกริฟฟินดอร์ เธอไม่แม้แต่จะมองไปที่โต๊ะสลิธีรินเพราะไม่อยากจะสบตากับใครบางคน เธอรู้ว่าเขาอยู่แถวๆนี้ เพราะเธอได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อเขา
เมื่อนักเรียนทุกคนนั่งกันเรียบร้อย ดัมเบิลดอร์ลุกขึ้นยืน ใบหน้าเขาปรากฏรอยยิ้มเหมือนเช่นทุกครั้ง ภารกิจแรกคือการคัดสรรหาบ้านให้กับนักเรียนใหม่ ซึ่งมันใช้เวลาไม่นานที่หมวกใบนั้นจะหาบ้านให้กับทุกคนได้ ซึ่งฮัฟเฟิลพัพได้ต้อนรับนักเรียนใหม่มากที่สุด และสลิธีรินรั้งอันดับท้ายเหมือนทุกๆปี
หมวกคัดสรรถูกวางไว้ข้างๆระหว่างที่ดัมเบิลดอร์ยังคงยืนอยู่ เขารอให้เสียงเงียบลง จากสีหน้าของเขา แสดงให้เห็นว่าเขามีบางอย่างที่จะประกาศอีก ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่ามันคืออะไร
“อย่างที่พวกเธอรู้ ทุกๆปีเราจะประกาศหัวหน้านักเรียนชายลัหัวหน้านักเรียนหญิงในระดับชั้นปีที่เจ็ด ซึ่งที่จริงแล้วพวกเขาจะถูกแจ้งให้ทราบก่อนที่ภาคการศึกษาใหม่จะเริ่มต้นขึ้น แต่ครั้งนี้มันใช้เวลานานกว่าเก่า หลายๆความเห็นได้ถูกใส่เข้ามาสำหรับการคัดเลือก ซึ่งผู้ที่ได้ถูกคัดเลือกเข้ามาจะต้องทำงานหนักและมีภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงรออยู่ และหลังจากผลโหวตของครูทุกคนก็ได้ผลออกมาว่า คุณเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ คือผู้นำทางฝั่งหัวหน้านักเรียนหญิงคนใหม่ ยินดีด้วย เฮอร์ไมโอนี่”
ดัมเบิลดอร์ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เฮอร์ไมโอนี่ ระหว่างที่เสียงร้องเชียร์ดังมาจากโต๊ะกริฟฟินดอร์ แฮร์รี่มองเธออย่างกับเขารู้มาก่อนหน้านั้น ระหว่างที่รอนปรบมือเสียงดังร่วมกับบ้านกริฟฟินดอร์คนอื่นๆอย่างดีใจ
แก้มของเฮอร์ไมโอนี่เป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายผสมกับความยินดี สำหรับเฮอร์ไมโอนี่มันเหมือนฝันที่เป็นจริง เธอทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้ก้าวมาถึงขั้นนี้ และตอนนี้มันก็เป็นเวลาของเธอ
ดัมเบิลดอร์ยืนรอเพื่อให้เสียงปรบมือสงบลงเพื่อที่เขาจะได้ประกาศข่าวที่สอง
“สำหรับหัวหน้านักเรียนชาย ซึ่งต้องใช้เวลานานและการตัดสินใจที่ยากยิ่งกว่า เพราะนักเรียนที่เหมาะสมแก่ตำแหน่งนี้มีมากมายเหลือเกิน แต่อย่างไรก็ตาม ผลสำหรับเรื่องนี้ได้ถูกตัดสินออกมาแล้ว ผู้นำหัวหน้านักเรียนชายคนใหม่คือ เดรโก มัลฟอย ยินดีด้วยเดรกโก” เสียงแสดงความยินดีจากฝั่งสลิธีรินดังขึ้นระหว่างที่คนจากบ้านอื่นๆต่างพากันร้องด้วยความประหลาดใจ พวกเขาต่างกลัวว่ามัลฟอยจะทำเรื่องบ้าอะไรกับพวกเขาด้วยตำแหน่งใหม่ที่เขาได้รับ
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงเลือดที่ฉีดเข้าที่ใบหน้าเธอ เธอรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอกับเดรโกจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น พวกเขาจะต้องประชุมร่วมกัน และหอพักของพวกเขาคงจะต้องอยู่ติดกัน มันเป็นฝันร้าย ฝันร้ายของเธอได้เป็นจริง! มัลฟอยคงจะทำให้ชีวิตเธอตกต่ำถึงขีดสุด และเขาคงจะเยาะเย้ยเธอไม่หยุดเกี่ยวกับเลือดมนุษย์สกปรกของเธอ
แฮร์รี่และรอนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรกันอยู่ พวกเขาต่างสงสัยว่าทำไมแฮร์รี่ถึงไม่ได้เป็นผู้นำฝั่งเด็กผู้ชาย ซึ่งจริงๆมันก็เป็นคำถามที่ดี ทำไมล่ะ?
จินนี่สังเกตได้ถึงความเงียบของเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งเธอคิดเอาเองกับการเงียบของเฮอร์ไมโอนี่ เธอจึงตบเข้าที่หลังเฮอร์ไมโอนี่เบาๆ
“ว๊าว ฉันคิดว่าเธอคงยังช็อกอยู่สินะ? แต่เธอไม่ต้องถ่อมตัวหรอก เธอต้องรู้ตัวก่อนหน้านี้อยู่แล้วว่ายังไงเธอก็ต้องได้เป็นหัวหน้านักเรียนหญิง เธอคงจะภูมิใจมาก มันเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม” เฮอร์ไมโอนี่มองที่จินนี่แล้วส่ายหัว เธอไม่รู้ว่าเธอจะต้องเจอกับเรื่องร้ายอะไรบ้างต่างหากล่ะ แต่เธอไม่ต้องการให้จินนี่รู้เรื่องของมัลฟอยผู้น่ารังเกียจ เธอจึงนั่งหลังตรงและฝืนยิ้มออกมาให้กับจินนี่
ในที่สุด ดัมเบิลดอร์ก็เสกอาหารขึ้นมาบนโต๊ะ ทุกคนต่างหลุดพ้นจากอาการตกใจเมื่อพวกเขาเริ่มทานอาหารกัน เฮอร์ไมโอนี่ฟังรอนและจินนี่เล่าเกี่ยวกับซัมเมอร์ของพวกเขา และเรื่องของแฮร์รี่ที่รับมือลุงกับป้าเขาอย่างไรระหว่างช่วงซัมเมอร์ ในช่วงเวลานี้ดูเหมือนทุกคนรวมทั้งเฮอร์ไมโอนี่จะลืมเรื่องน่ากังวลใจไปได้ชั่วคราวเพราะเธอเองหิวเกินกว่าจะสนใจเรื่องข้างหน้าแล้วเช่นกัน
เมื่ออาหารและเครื่องดื่มได้หมดลงและการสนทนาได้ยุติ ทุกคนต่างมุ่งหน้าตรงไปยังหอพักของตัวเอง เฮอร์ไมโอนี่ต้องแยกกับรอนและแฮร์รี่เพราะเธอต้องไปยังห้องใหม่ของเธอซึ่งมันอยู่ห่างจากหอพักของนักเรียนคนอื่นๆ ห้องโถงสลัวและเฮอร์ไมโอนี่หันไปดูทางที่เธอจะต้องเดินไป เงาดำๆเคลื่อนไหวมาจากทางเดินยาว เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นเล็กน้อย ซึ่งเธอไม่ค่อยแน่ใจว่าเธอควรจะเดินต่อไปไหม หลังจากที่ทุกอย่างได้เกิดขึ้นที่นี่ในอดีตเธอคงจะไม่ประหลาดใจหากมันเป็นบางอย่างที่เลวร้าย
เธอไม่แน่ใจว่าเธอคิดถูกหรือไม่ เงานั้นเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้เธอ ระหว่างที่เขาเคลื่อนเข้ามา สายรัดนั้นสะบัดไปมารอบตัวเค้า สิ่งที่ปรากฏให้เห็นตรงหน้าเธอตอนนี้คือ เดรกโก มัลฟอย เขายืนตัวตรง หัวของเขายังคงตั้งตรงด้วยความหยิ่งผยองและมั่นใจในตัวเองเหมือนกับวันแรกที่เขาและเธอเจอกัน ผมของเขายาวขึ้นเล็กน้อยในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพราะมันตกลงมาคลุมหัวไหล่เขา เขายืนเผชิญหน้ากับเธอ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเพราะเธอไม่สามารถป้องกันตัวเองได้กับการปรากฏกายที่รวดเร็วของเขา
มัลฟอยมองดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า รอยยิ้มเยาะค่อยๆปรากฏบนใบหน้าหล่อๆของเขา ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเย็นยะเยือกและอ่อนแอ
“ให้ตายสิ เลือดมนุษย์ เธอเปลี่ยนไป...” เขาเดินวนเวียนรอบตัวเธอ ดวงตาของเขาเหมือนยังกับจะจ้องเข้าไปข้างในตัวเธอเมื่อเขาหยุดยืนนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว
“ฉันเห็นอาการของเธอเมื่อเธอได้รู้ว่าฉันได้เป็นหัวหน้านักเรียนชาย มันมีทั้งความหวาดกลัวและความไม่พอใจ บอกฉันหน่อยสิเกรนเจอร์ ทำไมเธอถึงรู้สึกอย่างนั้นล่ะ?” เลือดสูบฉีดเข้าที่แก้มทั้งสองข้างของเธอเมื่อเขาถามขึ้น ความจริงเขาน่าจะรู้ดีว่าทำไมเธอถึงกระวนกระวายใจนัก หากแต่เขาแกล้งทำเป็นลืม
“ว่าไงล่ะ เกรนเจอร์? ฉันคิดว่าฉันพอจะรู้ว่าทำไมเธอถึงไม่พอใจกับตำแหน่งใหม่ของฉันที่ฮอกส์วอตต์ เธออยากจะฟังทฤษฎีของฉันไหม?” ริมฝีปากของเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้เธอเหมือนกับเขาจะพูดกับเธออย่างที่คนรักเขาทำกัน ลมหายใจของเขาร้อนผ่าวอยู่ที่ซอกคอเธอทำให้เธอสั่นเทาเหมือนกับจะเป็นไข้ในตอนนั้น
“ฉันคิดว่าเธอ....ไม่พอใจที่ฉันได้เป็นหัวหน้านักเรียนชาย เพราะเธอรู้ว่าฉันสามารถทำอะไรได้บ้าง ใช่ไหม เกรนเจอร์” รอยยิ้มเยาะของเขาจางหายไปแล้ว ดวงตาของเขาลุกโชน
“ฉันคิดว่าเธอกลัวเหมือนกับสิ่งที่ฉันได้ทำกับวิล่าหลังจากที่เธอไปถ้ำมองฉันเมื่อปีที่แล้ว ...สิ่งที่ฉันสามารถทำกับเธอได้ ฉันพูดถูกใช่ไหม? เขาดึงเธอเข้ามาใกล้ พร้อมกับกอดเธอไว้แน่นกับร่างอันแข็งแรงของเขา
“การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดก็เพื่อสิ่งนี้งั้นเหรอเกรนเจอร์ พยายามจะทำให้ฉันสนใจ เธอต้องการเหมือนกับอย่างที่วิล่าได้รับ อืม...” น้ำเสียงเขาจางหายไประหว่างที่เขาสำรวจเรือนร่างของเธอ ดวงไฟแห่งความต้องการปรากฏขึ้นในดวงตาเขาอย่างชัดเจน
เฮอร์ไมโอนี่กลั้นหายใจไว้ระหว่างที่ดวงตาของเขาค่อยๆมองทะลุเข้าไปในตัวเธอ “ฉันคิดว่าเธอไม่ควรจะได้รับการลงโทษที่มีความสุขนัก...... ไม่หรอก ฉันจะทำให้เธอทรมานก่อน”เขากระซิบอย่างดุดันข้างริมหูของเธอ
ในระหว่างนั้นมือของเขาค่อยๆสัมผัสที่ใบหน้าเธอระหว่างที่ริมฝีปากของเขาบรรจงจูบลงที่แก้มเธอ เฮอร์ไมโอนี่หลับตาแน่นและกัดริมฝีปากล่างตัวเองระหว่างที่แข็งขืน เธออึ้งชั่วขณะในระหว่างที่ความหวาดกลัววิ่งผ่านตัวเธอ
เฮอร์ไมโอนี่ โกรธตัวเองที่ปล่อยให้เขาทำแบบนี้กับเธอ เธอพยายามจะลืมตาขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับมัลฟอยสำหรับการกระทำที่ไม่สามารถยกโทษให้ได้ แต่เธอพบว่าเขาได้หายไปแล้ว เฮอร์ไมโอนี่มองตามเข้าไปในความมืดที่เขาได้หายตัวไป ร่างกายของเธอทั้งร้อนและหนาวสลับกันไป ในขณะที่ยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น
พระเจ้า! นี่เพียงแค่ยกแรกเธอก็แทบถูกน๊อคเสียแล้วแล้วถ้าเธอต้องเจอกับเขาอีกครั้งเธอควรจะทำอย่างไรดี....หลบหน้าเขา หรือฮึดสู้ดี
แล้วคุณล่ะคิดว่าเธอจะหลบหรือจะสู้?
ความคิดเห็น