คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 : เธอเป็นของฉัน
“the Wolfman Mate”
งานเต้นรำในงานปาร์ตี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อแฮร์รี่และเพื่อนๆของเขาเข้ามายังห้องโถงใหญ่พอดี บริกรที่ใส่ชุดเครื่องแบบผ้าซาตินสีขาวสำหรับคนรับใช้เดินถือถาดเงินที่บรรจุแก้ววิสกี้หลายใบรอนหยิบเครื่องดื่มจากบริกรคนนั้น เขายื่นใบหนึ่งส่งให้หญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม และอีกใบยื่นให้กับแฮร์รี่
“แฮร์รี่ดูหน้านายไม่ค่อยดีเลยนะ เป็นอะไรหรือเปล่า เพื่อนรัก”รอนถามอย่างไม่สบายใจนัก
“ฉันเบื่อๆน่ะกับงานเลี้ยงแบบนี้”แฮร์รี่ตอบตามความเป็นจริงจากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วจึงอธิบายให้เพื่อนเขาฟังอย่างสงบถึงปัญหาของเขา ”อาทิตย์นี้เกือบทั้งอาทิตย์มีแต่งานเลี้ยงไม่มีวันว่างเป็นของตัวเองเลย”
“ทำไงได้เธอมีชื่อเสียงนี่นา”เฮอร์ไมโอนี่พึมพำขึ้นเมื่อแฮร์รี่เล่าจบ” อีกอย่างตำแหน่งหัวหน้ามือปราบมารด้วยแล้วเธอคงต้องออกงานบ่อยแน่”
เขาทำสีหน้ายุ่งยากใจเล็กน้อยจากนั้น ก็ยักไหล่
“แต่ก็ยังดีที่วันนี้พวกเธอมากับฉันด้วยโดยเฉพาะเธอเฮอร์ไมโอนี่หัวหน้าบำบัด เซนต์มังโก ยากนะที่เธอจะออกงานร่วมกับฉันน่ะ”แฮร์รี่เย้าหญิงสาวเล็กน้อย
“ฉันไม่ชอบงานแบบนี้เธอก็น่าจะรู้แฮร์รี่ “เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น รอนพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าเขาเข้าใจ
“ก็จริง อย่างเฮอร์ไมโอนี่น่ะการมีหนังสือสักเล่มหนึ่งหรือการนั่งเขียนไดอารี่กับมุมสงบๆสักที่ก็มีความสุขแล้วใช่ไหมจ๊ะ เฮอร์ไมโอนี่ที่รัก”
เฮอร์ไมโอนี่อมยิ้มแววตาเป็นประกายอย่างขบขัน
”เธอนี่ช่างรู้ใจฉันจริงๆนะรอน”
“แต่ฉันไม่เข้าใจอยู่อย่างนะเฮอร์ไมโอนี่”รอนเปรยขึ้น
“อะไรเหรอรอน”
“ทำไมเธอป็นผู้บำบัดล่ะ ฉันกับแฮรืรี่นึกไมถึงเลยจริงๆ”
เฮอร์ไมโอนี่เผยอยิ้มออกมาเล็กน้อยบนริมฝีปากก่อนพูดว่า
“ความจริงฉันเองก็ไม่ได้คิดจะเป็นผู้บำบัดหรอกนะฉันสมัครเข้าเรียนทางด้านนี้เพื่ออยากค้นคว้าตำราเกี่ยวกับการแพทย์ดูบ้างน่ะแต่พอได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น เห็นอะไรมากขึ้นฉันเลยคิดว่าแค่ตำราอย่างเดียวมันคงไม่พอฉันคงต้องลงมือสัมผัสด้วยตัวของฉันเอง หลังจากเรียนจบฉันก็เลยเข้าสอบเป็นผู้บำบัดที่เซนต์มังโก ตอนนี้ฉันเลยมีโอกาสได้ค้นคว้าตัวยาใหม่ๆ ได้ช่วยผู้คนมากมาย และอะไรอีกมากมายที่ฉันได้เรียนรู้”
รอนหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“เมอลินท์ แค่หนังสือในห้องสมุดฮ๊อกว๊อตส์เธอยังไม่หนำใจยังค้นคว้าตำราแพทย์อีกไม่อยากจะเชื่อเธอเลยเฮอร์ไมโอนี่ เธอเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันเนี่ย”
“ก็ประเภทผู้หญิงสวยที่สมองไม่กลวงน่ะสิ รอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับเสียงหัวเราะของสามสหายที่หัวเราะเกือบจะพร้อมๆกัน
ในเวลานั้นเองที่ท่านรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนต์เดินเข้ามาในห้อง แฮร์รี่ฝืนยิ้มให้กับกลุ่มของท่านรัฐมนตรีที่เดินเข้ามาหา
เฮอร์ไมโอนี่พยายามเลี่ยงออกห่างจากกลุ่มคนที่มารวมตัวรายล้อมพวกเธออยู่เธอไม่ประหลาดใจเลยที่ท่านรัฐมนตรีก้าวออกมาทักทายแฮร์รี่ก่อนเป็นคนแรก
“แฮร์รี่ พอตเตอร์ วีรบุรุษของพวกเราและเหล่าผองเพื่อน ดีใจที่พวกเธอมาร่วมงานในวันนี้”ท่านรัฐมนตรีเขย่ามือกับเด็กชายผู้รอดชีวิตอย่างยินดี พวกเขามีการพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนที่ท่านรัฐมนตรีจะโอบไหล่แฮร์รี่ให้เดินตามเขาไปอีกด้านหนึ่งของห้อง
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจยาวและยิ้มเมื่อเธอแน่ใจได้ว่าคนเหล่านั้นไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าเธอเลี่ยงออกมายืนอยู่นอกวงแล้วเธอจึงรอดพ้นจากการถูกต้อนให้นั่งสงบเสงี่ยมอยู่แต่ด้านใน ที่มีอากาศหายใจอยู่เพียงน้อยนิด
แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วเธอจะเฉยๆกับงานราตรีสโมสรต่างๆก็ตามแต่ในคืนนี้เธอกลับพบว่าตัวเองอยากไปอยู่ที่ไหนก็ได้ นอกจากในห้องโถงกว้างใหญ่ ที่มีผู้คนแออัด ไปอยู่ในที่ๆอากาศที่ไม่มีควันบุหรี่ และกลิ่นน้ำหอมที่ฉุนเกินไป
“เอาล่ะ ทีนี้ ฉันควรจะไปที่ไหนดีล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่คิด พลางเหลือบมองไปทางประตู ที่เปิดออกสู่ทางเดินนอกห้องเพื่อพาไปยังสวนที่กว้างใหญ่ด้านนอก
เฮอร์ไมโอนี่ขยับหมุนตัวเพื่อจะเดินออกไป แต่แทบจะในทันทีที่เธอชะงักและหยุดนิ่งอยู่กับที่ เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่สง่างาม ที่เดินผ่านเข้ามาในสายตาของเธอ ชายที่ว่าสวมสูทประณีตสีดำสนิทที่ออกแบบได้ทันสมัยที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา ผมสีบลอนส์เงินสะดุดตาถูกจัดเข้ารูป และสิ่งที่ทำให้เธอรู้แน่ชัดว่าชายคนนั้นคือใคร คือดวงตาสีเทาฟ้าที่หยิ่งยโสและรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ตามแบบฉบับเฉพาะตัวของเขา เดรโก มัลฟอย
เธอเกือบจำเขาแทบไม่ได้ เขาดูดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อนจนเห็นได้ชัด สายตาของเขามองสบตาเธอนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะเมินสายตาไปจากเธอ และเดินตรงไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอรู้จักดีในวงสังคมชั้นสูงของเหล่าบรรดาหนุ่มสาวในโลกเวทมนต์ แอสโทเรีย กรีนกราส
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเยาะเล็กน้อยและเลิกให้ความสนใจกับภาพนั้นและหันกลับมาให้ความสนใจกับท่านรัฐมนตรีที่กำลังพูดคุยเรื่องควิชดิชอยู่กับรอนอย่างสนุกสนานโดยมีแฮร์รี่นั่งเซ็งอยู่ข้างๆรอน เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจเบาๆกับชะตากรรมของเพื่อนรัก ก่อนจะถอยฉากหลีกเลี่ยงผู้คน ออกไปสูดอากาศหายใจด้านนอก
/////////////////////////////////////////////////////
เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ชื่อๆนี้ทำให้เขาอดหวนคิดถึง หมัดเล็กๆที่พุ่งกระแทกหน้าเขาตอนอยู่ปีสามไม่ได้ ยายเด็กสาวมักเกิ้ลผู้รู้ไปหมดเพื่อนสาวคนสนิทที่มักอยู่ข้างกาย แฮร์รี่ พอตเตอร์เสมอ และเป็นมันสมองคนหนึ่งของทีม ยายเด็กหัวฟูฟันโต ที่เขาไม่เคยแม้แต่จะชายหางตามอง สายเลือดสีโคลนทำให้เขารังเกียจ
แต่วันนี้เธอเปลี่ยนไปจนเขาสังเกตเห็นเธอดูสวยและสง่าไม่เหมือนคนเดิมที่เขาเคยเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นสาวสะพรั่งของเธอที่เน้นผ่านตามเรือนร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้ชุดราตรีแนบเนื้อสีขาว ทำให้ใจเขาสั่น ทำไม! เกิดอะไรขึ้นกับเขา เดรโกหายใจลึกๆอย่างพยายามระงับอาการหัวใจเต้นแรง เขาบังคับตัวเองมองกลับไปหาคู่หมั้นสาวอย่างรวดเร็วและผละออกห่างจากสิ่งที่เป็นอันตรายนั้น
ในขณะนั้นเดรโกรู้สึกโกรธและรังเกียจอย่างรุนแรง ในความคิดนอกลู่นอกทางกับพวกเลือดสีโคลนแบบนั้น เขายอมรับว่าตอนนี้ อารมณ์ความรู้สึกของเขากำลังร้อนแรงปั่นป่วนสับสนยุ่งเหยิงไปหมด
มันมีมีความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นมากในตัวเขามันเป็นพลังรุนแรงและครอบงำ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนกระทั่งมันท่วมท้นจนเขาแทบจะหายใจไม่ออก
“ข้าเจอเธอแล้วเดรโก ปล่อยข้าออกมา” เสียงเล็กๆร่ำร้องอยู่ในจิตใต้สำนึกของเขา
“บ้าเอ๋ย เมอร์แซมเป็นบ้าอะไรขึ้นมานี่มันงานเลี้ยงนะ เงียบเดี๊ยวนี้”เขาโต้กลับเข้าไปภายในจิตใจของเขา
“ไม่ ไม่ เจ้าไม่เข้าใจ นางเป็นคู่ของเรา”
“เจ้าหมายถึงใครเมอแซมส์”เดรโกตอบกลับอย่างสงสัย
“คนนั้นไงนางคนนั้น คนที่เจ้าหยุดจ้องหน้านาง คู่ของข้า”
“เกรนเจอร์เจ้าหมายถึงยายเลือดสีโคลน เฮอร์ไมโอนี่เกรนเจอร์นะเหรอไม่ได้ ไม่ใช่แน่”เดรโกหงุดหงิดทำไมต้องเป็นเธอ
“นางมีกลิ่นตัวพิเศษสำหรับเป็นคู่ที่มนุษย์หมาป่าจะได้กลิ่นเท่านั้น นางเป็นคู่ของข้า”เมอร์แซมยังคงอธิบายให้เดรโกฟังอย่างใจเย็น
“เมอร์แซม เจ้าเคยบอกกับเราว่าคู่ของมนุษย์หมาป่าไม่ได้มีแค่หนึ่ง ดังนั้นหาคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ ฉันจะไม่ยอมนอนกับเลือดสีโคลนเกรนเจอร์แน่ ”เขายื่นคำขาดในขณะที่เขาเดินมาเกือบถึงแอสโทเรียที่กำลังมองเขาอยู่
“ไม่ เดรโก ถึงแม้เราจะมีคู่มากกว่าหนึ่งอาจจะมีเป็นสิบด้วยซ้ำ แต่ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆอย่าลืมว่าการหาคู่ของเราย่อมมีระยะเวลาในการสืบพันธ์ถ้าเลยเวลาที่กำหนดร่างของข้าอาจแตกสลายและเจ้าเองก็อาจจะไม่รอดด้วยเช่นกัน”
“บ้าเอ๋ยเมอแซมส์ เราต้องคุยกันตอนนี้ด้วยหรือไง”
ตลอดเวลาเขารู้ว่าแอสโทเรีย กำลังจ้องมองเขาด้วยความสนใจกับอาการแปลกๆของเขา แต่เดรโกพยายามปั้นสีหน้าให้ดูเป็นปกติอย่างเต็มกำลัง
“ปล่อยข้า ปล่อยข้าสิ ปล่อยข้า ได้โปรด ปป......”
ในที่สุดเขาก็หายใจได้เป็นปกติเมื่อเสียงที่ดุดันของเมอร์แซมที่ก้องในหัวของเขาเริ่มอ่อนแรงลงไปในที่สุด และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เขาทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆแอสโทเรีย
“เป็นอะไรหรือเปล่า เดรโก” แอสโทเรียถามเป็นเวลาเดียวกันกับที่เดรโกขบกรามและเพ่งสายตามองไปยังร่างในชุดราตรีสีขาวที่กำลังหลีกหนีผู้คนออกไปยังสวนด้านนอก
“เปล่า ฉันแค่รู้สึกอึดอัดน่ะ “เขาขยับปกคอเล็กน้อยอย่างอึดอัดและหันหน้าไปหาแอสโอเรีย”อยากออกไปสูดอากาศหายใจข้างนอกหน่อย”
“ฉันจะออกไปเป็นเพื่อน”แอสโทเรียพูดและโน้มตัวของเธอกอดแขนเดรโกอย่างเอาใจ
“ไม่ต้องหรอก ผมออกไปครู่เดียวเท่านั้น คุณอยู่ที่นี่แหละ”เดรโกตอบและเดินออกจากที่ตรงนั้นไป
/////////////////////////////////////////////////////////////
ฝีเท้าก้าวยาวๆของเดรโก เข้าจังหวะความเร็วของหญิงสาวอย่างสบายๆ แต่กายเขากลับร้อนรุ่มสนองตอบส่วนโค้งส่วนเว้าจากทางด้านหลัง อย่างที่ไม่เคยเจอกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน การดึงดูดใจที่มีของเฮอร์ไมโอนี่ ไม่ได้ทำให้ความคิดความอ่านของเขาง่ายกว่าที่คิด
หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อยเมื่อหันไปมองเสียงฝีเท้าที่ตามมาจากทางด้านหลัง และสิ่งที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงความหวาดระแวงที่มีมากขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าที่ฉาบไปด้วยความเย็นชา ตอนนี้ความหวาดระแวงของเธอค่อยๆเปลี่ยนไปกลายเป็นความเกลียดชัง เมื่อเห็นใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป
ดวงตาสีเทาซีดกำลังมองพิจราณาเธออย่างสนใจโดยไม่ปิดบัง ดวงตาของผู้ชายที่เคยเห็นการทำลายล้างมานับไม่ถ้วน ความไม่สบายใจผ่านวาบทั่วร่างเฮอร์ไมโอนี่ เมื่อนึกถึงภาพเขาในอดีตที่เคยเป็น ผู้เสพความตาย แต่ในขณะเดียวกันเธอก็สังเกตุเห็นร่องรอยของความเจ็บปวดที่แสดงออกมาจากแววตาของเขาด้วยเช่นกัน
เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ยังคงไม่ละสายตาไปจากเขา มันทำให้เกิดอาการบึ้งตึงเกิดขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเดรโก เป็นสีหน้าที่ไม่น่ายินดีสักเท่าไหร่และจากอาการของเดรโกทำให้เธอเริ่มรู้สึกตัว
สิ่งเดียวที่อยากทำในตอนนี้ของเฮอร์ไมโอนี่คือเดินจากไปและหนีห่างจากเขาให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหมุนตัวและออกเดินเพื่อเลี่ยงหนีไปยังบริเวณอื่นที่ไม่มีเขา แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับอดประหลาดใจไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาที่ยังคงเดินตามอยู่ด้านหลังเธอทุกฝีก้าว
เขาเดินตามเธอหรือ! ไม่น่า เขาจะเดินตามเธอทำไม แค่หายใจเอาอากาศร่วมกับเธอเขาก็แทบกลั้นหายใจไว้อยู่แล้ว!
เฮอร์ไมโอนี่หยุดเดินและลองดูว่าเขาจะเดินผ่านเธอไปหรือเปล่า แต่เสียงเดินของเดรโกก็หยุดเช่นกัน แต่เมื่อเธอขยับเดินเสียงฝีเท้าของเดรโกก็เดินตามเธออีกอยู่ดี คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่มั่นใจ
เฮอร์ไมโอนี่หันขวับมามองคนที่เดินตามหลังเธอด้วยความไม่พอใจ เธอขยับคาง และมองเขาด้วยสายตาเอาเรื่องพร้อมพูดเสียงดังขึ้นอย่างเอาแต่ใจ
“จะตามฉันอีกนานไหมมัลฟอย”
ตาของเขาหรี่ลงอย่างยียวนและมองดูเธอไปทั่วตัว “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเกรนเจอร์ อย่าประเมินค่าตัวเองสูงเกินไปนักสิ ตราบใดที่เธอยังล้างโคลนในตัวของเธอออกไปไม่หมด ฉันคงไม่มีวันเดินตามเธอแน่”
“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันปรารถนาในชีวิตเลยมัลฟอย”เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับจ้องหน้าเขาเขม็ง
แววตาสีเทาของเขาลุกโชนด้วยความขุ่นเคืองเมื่อจ้องมองดูเธอเฮอร์ไมโอนี่เองก็ส่งสายตาเกรี้ยวกราดใส่เขาไม่ต่างจากกันนัก
“ไม่เจอกันนาน ยังปากเก่งเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ ยายเลือด....”
“หุบปากเน่าๆของนายไปเลย มัลฟอย” โทสะของเฮอร์ไมโอนี่พลุ่งพล่านเมื่อเธอพูดขัดคำพูดเสียดสีของเขา“อย่าคิด ว่าจะเที่ยวว่าใครต่อใครได้ตามอำเภอใจ คนอย่างนายไม่มีสิทธิมาว่าฉันหรือว่าคนอื่นแบบนั้น”
เดรโกหรี่ตาจ้องหน้าเธอ ในไม่ช้าเธอจะได้เรียนรู้ว่าความพยายามใดๆก็ตามในการต่อสู้กับเขาจะไม่ได้ผลเลย
“ฉันมีสิทธิเต็มที่เกรนเจอร์ มีสิทธิที่จะพูดที่จะคิดหรือทำอะไรก็ได้ตามที่ฉันต้องการ ไม่มีใครห้าม เดรโก มัลฟอยได้ “เดรโกตอกกลับ
อารมณ์ขุ่นเคืองของเธอเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งขณะที่เธอพยายามทำให้เขารับฟังเธอเป็นครั้งสุดท้าย
“ฉันไม่เถียงว่านายมีสิทธิในการพูดการคิดหรือการกระทำถ้าสิ่งนั้นมันอยู่ในขอบเขตของมัน แต่นายไม่มีสิทธิมาพูดจาดูถูกฉัน ดูถูกสายเลือดของฉันอย่างนี้ นายควรจะหัดมีมารยาทที่ดีต่อคนอื่นบ้าง เพราะความเป็นผู้ดีในสายเลือดของนายอาจจะเสื่อมลงไปอีกมากถ้านายยังทำตัวแย่ๆอย่างงี้อยู่อีก”
“มายาทของฉันมันขึ้นอยู่กับบุคคลที่ฉันสนทนาด้วย เกรนเจอร์ แต่คนอย่างเธอ ฉันคงไม่จำเป็นต้องทำมารยาทสุภาพอ่อนโยนกับเธอก็ได้มั้ง “ เดรโกพูดเสียงยียวนก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาเธอในระยะประชิดและโน้มตัวของเขาให้มาใกล้เธอ สบตากันนิ่งและนาน เขาพูดเสียกระซิบแต่เน้นเสียงเป็นจังหวะอย่างดูแคลน “ยายเลือดโสโครกสกปรก”
พอกันที! กับคำพูดเสียดสีดูหมิ่นของเขา “เพี้ย”.ใบหน้าของเดรโกหันสะบัดไปตามแรงตบ ใบหน้าของเขาที่ขาวซีดกลับแดงกล่ำอย่างเห็นได้ชัด เฮอร์ไมโอนี่ก้าวถอยหลังห่างจากเขาสองสามก้าวและพูดเสียงกร้าว
“ขอบใจมัลฟอยที่ทำให้ฉันตระหนักได้ว่ามารยาทที่ดีมันสมควรที่จะสงวนไว้ให้กับคนบางคนเท่านั้น แต่มารยาทที่เลวมันก็เหมาะสมกับคนอีกจำพวกเหมือนกันและหนี่งในนั้นมันเหมาะกับนาย”
สิ้นคำพูดที่เผ็ดร้อนของเธอ เดรโกโถมตัวมาข้างหน้าแขนข้างหนึ่งตวัดรอบเอวของเธอโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวเขากระชากเธอเข้ามาใกล้และปิดปากคำพูดที่เย่อหยิ่งของเธอด้วยริมฝีปากของเขาอย่างหนักหน่วงและรุนแรงเขาจูบเธอด้วยพลังความปรารถนาทั้งหมดที่มี ไฟที่ได้รับการกระตุ้นระหว่างเขากับเธอลุกโพลงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาตั้งใจเพียงที่จะจูบเพื่อสกัดกั้นคำพูดที่ยั่วโทสะของเธอไว้ แต่ธรรมชาติของเธอ ช่างเย้ายวนใจเสียเหลือเกิน เขาขยุ้มผมเธอไว้ในมือและดึงศรีษะของเธอเอนไปข้างหลังเพื่อเข้าถึงเธอได้มากขึ้นและเพื่อกันเธอไว้ไม่ให้เบือนหน้าหนีไปจากรสจูบที่เผ็ดร้อนของเขาไปได้
เฮอร์ไมโอนี่ตัวแข็งไปกับการระเบิดอารมณ์ของเขา และจากนั้นเธอรู้สึกได้ถึงความโกรธที่แล่นขึ้นเป็นริ้วๆตามร่าง เธอต้องหยุดกับสิ่งที่เขาหยามเกียรติความเป็นผู้หญิงของเธอ เฮอร์ไมโอนี่พยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ยิ่งดิ้นเดรโกยิ่งแกล้ง เขายิ่งบดเบียดริมฝีปากของเขากับเธออย่างรุนแรงขึ้นไปทุกที และพยายามจะแยกริมฝีปากอวบอิ่มของเธอเพื่อลิ้นของเขาจะแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอให้ได้แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ปิดปากตัวเองจนแน่น ในขณะที่หัวสมองของเฮอร์ไมโอนี่กำลังคิดหาทางหลุดพ้นจากอำนาจความป่าเถื่อนของเดรโก
ดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายดื้อรั้นชั่วแวบหนึ่ง ก่อนที่เข่าของเธอจะกระแทกเข้าไประหว่าเข่าของเขาเต็มแรง
ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทุกตารางนิ้ว ก่อนที่เดรโกจะปล่อยมือจากเธอ และทรุดตัวลงหน้าตาของเขาบ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่ได้รับสุดชีวิต เขาสบถออกมาเบาๆ”เวรเอ๋ย”และช้อนสายตามองเธออย่างเคียดแค้น
ตาของเฮอร์ไมโอนี่เบิกโพลงอย่างเสียขวัญเธอก้าวถอยหลังเพื่อตั้งหลักและวิ่งอย่างรวดเร็วหนีกลับเข้าไปในงานทันที ก่อนที่เดรโกจะฟื้นตัวทันและทำร้ายเธอได้อีก
//////////////////////////////////////////////////////////////
“ห้าทุ่มแล้วหรือเนี่ย”เฮอร์ไมโอนี่เหลือบตามองดูนาฬิกาแขวนภายในบ้านหลังเล็ก ที่เธอแยกตัวออกมาจากพ่อแม่ มาซื้อบ้านอยู่ต่างหากแถวๆแถบชานเมือง เพื่อสะดวกในการไปมาระหว่างโลกมักเกิ้ลและโลกเวทมนต์
มันเป็นบ้านหลังเล็กๆที่กะทัดรัดและดูสะดวกสบายที่สำคัญมันเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนโดยการอ่านหนังสือเมื่อยามว่างจากสถานบำบัดที่เซนต์มังโกตลอดสัปดาห์
วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวันเธอเดินเข้าไปในบ้านและได้รับการต้อนรับจากครุกแซงค์ เจ้าแมวอ้วนตัวสีส้มที่คลอเคลียอยู่ที่ขาของเธอ
“ขอโทษจ๊า ครุกแซงค์”เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะเมื่อมันมาคลอเคลียร์ที่ขาของเธอไม่ห่างเพราะเธอรู้ว่ามันต้องการอะไร
“คงหิวแล้วละสิ แกหิวง่ายอยู่นี่นา”เธอพูดพร้อมกับหยิบนมในตู้เย็นออกมาเทให้มันเล็กน้อย
หลังจากนั้นเธอจึงขึ้นไปด้านบนเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า
เฮอร์ไมโอนี่ยืนใต้ฟักบัวเพื่อให้น้ำอุ่นสาดกระทบลงมา เธอตัวสั่นในขณะที่ริมฝีปากยังคงร้อนผ่าวเมื่อคิดถึงรสจูบที่เร่าร้อนและอัดแน่นไปด้วยไฟปรารถนาของเขา พระเจ้าช่วยมัลฟอยทำอย่างนี้ทำไม เขาลืมไปหรือไงว่าเธอเป็นศัตรูของเขา เป็นสายพันธ์ที่น่ารังเกียจเขากลับกล้าแตะต้องตัวเธอ
หลังจากที่เธอวิ่งกลับเข้าไปในงาน ตัวเธอแทบจะอยู่ติดกับแฮร์รี่และรอนไม่ว่าเขาจะเดินไปทางไหน หรือคุยเรื่องอะไรเธอก็ดูยินดีที่จะรับฟังมันทุกเรื่องแม้กระทั่งเรื่องควิชดิชที่เธอแสนเกลียด เฮอร์ไมโอนี่เห็นสายตาของเดรโกที่มองเธอเพียงแว๊บเดียวแล้วเดินผ่านไปหาคู่หมั้นของเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่นั้นแหละเธอเองก็ยังคงไม่ไว้ใจเขาจนกระทั้งงานเลี้ยงจบลง
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกหัวใจของเธอสั่นไหวและร้อนวูบวาบด้วยความรู้สึกแปลกๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเธอกลัว ใช่ เธอกลัว เธอเผชิญหน้ากับสิ่งที่น่ากลัวมามากกว่าเด็กสาวบางคนที่ต้องเผชิญ เธอเคยเผชิญหน้ากับเจ้าแห่งศาสตร์มืด เธอเคยต่อสู้กับผู้เสพความตาย และเธอเคยถูกทรมาน
แต่คราวนี้มันน่ากลัวกว่าที่เธอเคยเผชิญ เธอเผชิญหน้ากับ เดรโก มัลฟอย ชายที่เคยเป็นศัตรูของเธอและเพื่อน และอาจจะเป็นศัตรูตลอดไปเลยก็ได้ เขากำลังต่อสู้กับเธอ แต่เขากำลังใช้ความได้เปรียบของผู้ชายอย่างเขามาต่อกรกับเธอ เธอแทบพลิกตำราวิชาการต่อสู้แทบไม่ทัน เพราะเธอไม่เคยเจอะเจออะไรแบบนี้มาก่อน
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจยาวและเลิกคิดถึงเรื่องหนักสมองนี้ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูพันกายและออกจากห้องน้ำ
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกสดชื่นขึ้นหลังจากการอาบน้ำ เธอลงไปหาโกโก้ร้อนดื่มและหยิบหนังสือติดมือมาอ่านหนึ่งเล่ม เฮอร์ไมโอนี่เอนหลังพิงเก้าอี้ยาวบนโซฟาและเริ่มต้นอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ แต่อ่านไปได้เพียงแค่สองสามหน้า เธอรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงไปเฉยๆ เหมือนว่าตัวเธอเองกำลังจะหลับ เธอเอียงตัวนอนลงบนโซฟาหนังสือตกลงข้างตัวเธอ
เธอมองเห็นเพียงความมืดภายใต้เปลือกตาที่ปิดสนิท และทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบลงอย่างฉับพลัน เธอกำลังอยู่ในห้วงนิทรารมณ์อันแสนสุข
///////////////////////////////////////////////////////////////
เฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้นมาบนเตียงที่ไม่ใช่ของเธอเองเมื่อเธอสำรวจดู เธอพบผ้าปูสีเขียวลื่นดุจไหมที่ไม่ใช่ของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ยืดตัวตรงในทันทีเพื่อมองหาไม้กายสิทธิ์ของตัวเองอย่างกระวนกระวายใจ
“อย่าทำให้มันยุ่งยากเลย เธอหามันไม่เจอหรอก” เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเธอจำเสียงนั้นได้ดี เสียงของคนที่กระทำหยามเกียรติเธอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่เพิ่งผ่านมา เสียงที่เหมือนปีศาจร้ายที่วนเวียนอยู่รอบตัวเธอ
“มัลฟอย” เธอพูดขึ้นพร้อมกับผุดลุกขึ้นยืนอย่างตระหนกตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
“นายจะทำอะไร... ฉันอยู่ที่ไหน! นายลักพาตัวฉันออกมาจากบ้านงั้นเหรอ พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้!” เฮอร์ไมโอนี่ออกคำสั่งเมื่อเดรโกเดินเข้ามาใกล้เธอ
“ก็ไม่เชิงหรอก เกรนเจอร์ ฉันไม่ได้ลักพาตัวเธอมา เพียงแค่พาเธอออกมาจากบ้านแล้วเอามาไว้ที่นี่ก็แค่นั้น”เดรโกเล่นลิ้นสายตาของเขาดูแปลกมันเป็นสีเหลืองวาววับหมือนไม่ใช่ตัวเขา
“โอ้ เหรอ! ตัวเฟอร์เร็ตทำไมนายต้องทำแบบนี้ด้วยมัลฟอย!”
“ฉันคิดว่ามันน่าจะชัดเจนแล้วนะ ยัยเลือดสีโคลน! เธอเป็นของฉัน และพวกมนุษย์หมาป่าเขาไม่มาหาคู่แบบนิ่มนวลกันหรอก”
ดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่เบิกกว้าง มนุษย์หมาป่าเหรอ? เดรโก มัลฟอย ราชาแห่งสลิเธอรีน, Hogwarts sex God และ ทายาทคนสุดท้ายในตระกูลเลือดบริสุทธิ์ เขาเป็นมนุษย์หมาป่าเหรอ? เดี๋ยวก่อน เขาพูดว่า...คู่!..งั้นเหรอ?
“ไม่! ฉันจะไม่เป็นคู่ของนาย ฉันปฏิเสธ ! ฉันเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของนาย! ฉ...ฉ...ฉันยังเด็กเกินไปที่จะ....”เฮอร์ไมโอนี่สับสนเธอถอยหลังห่างจากเขาในขณะที่เขาเดินเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ
“ที่จะอะไรเฮอร์ไมโอนี่ พูดออกมาสิ ....ที่จะผูกพันกับฉันไปตลอดกาลอย่างนั้นใช่ไหม ที่จะนอนเตียงเดียวกับฉันทุกๆคืนใช่หรือเปล่า หรือ ที่จะมีลูกกับฉัน หรือที่จะตกหลุมรักดีล่ะ”
“ฉันจะไม่มีวันยอมหรอกมัลฟอย! ฉันเคยอ่านเรื่องการหาคู่ของพวกมนุษย์หมาป่า... อ่านวิธีที่มนุษย์หมาป่าต้องตกลงกับมนุษย์ก่อนที่พวกเขาจะอยู่ด้วยกัน ไม่มีทางที่นายจะเลือกฉัน! นายเกลียดฉัน!”เดรโกก้าวยาวๆไม่กี่ก้าวก็เข้าประชิดตัว เฮอร์ไมโอนี่ถอยหนีโดยอัตโนมัติแต่ถอยได้ไม่ถึงไหนร่างของเธอก็ปะทะเข้ากับผนังเย็นๆของตัวบ้านเฮอร์ไมโอนี่พยายามจะหลบแต่ช้าไปที่ร่างของเดรโกใช้ตัวของเขาตรึงตัวของเธอไว้ร่างกายของเดรโกเสียดสีเธออย่างจงใจจนตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงไปด้วยความโกรธ
“ฉันจะไม่เถียงเรื่องนี้กับเธอตอนนี้หรอกเฮอร์ไมโอนี่ยังไงเสียเธอก็ต้องเป็นของฉันเดี๊ยวนี้และตอนนี้ด้วย”ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะทันได้ตั้งตัวใดๆเดรโกเหวี่ยงตัวเธอขึ้นไปบนเตียงกว้างนั้นพร้อมกับกระโจนตัวของเขาขึ้นคร่อมตัวเธอฝ่ามือใหญ่โตของเดรโกขยุ้มไปที่คอเสื้อชุดนอนของเธอและกระชากมันออกจากตัวเธออย่างไม่ใยดี
/////////////////////////////////////////////
“กรี๊ด”เฮอร์ไมโอนี่กรีดเสียงร้องจนครุ๊กแซงตกใจกระโดดออกมาจากที่นอนของมัน เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นมองฝ่าความมีดไปทั่วบริเวณนั้น พระเจ้านี่มันบ้านของเธอ เธอฝันหรือนี่ เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นพร้อมกับเหงื่อที่ผุดมาตามใบหน้าของเธอ เธออดหัวเราะเบาๆไม่ได้นี่เธอคงเก็บเอาเรื่องของมัลฟอยไปคิดจนฝันบ้าๆไปแบบนี้ไม่ดีเอาเลย เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่ถอนหายใจก่อนเดินขึ้นบันไดบ้านเพื่อกลับไปยังห้องนอนของเธอและลืมทุกอย่างที่กวนใจเธอในตอนนี้
ภายนอกบ้านหลังเล็กชายหนุ่มในชุดสีขาวแววตาสีดำสนิทจากมุมตาของเขากำลังมองตามหลังเธอขึ้นไปบนบ้านอย่างไม่วางตา มีรอยยิ้มที่มุมปากของเขาเล็กน้อย
“คู่ของเรา นางเหมาะที่จะเป็นราชินีให้กับเราเจ้าว่าไหมคริส”
เขาหันมาถามคนสนิทร่างเล็กที่ยืนอยู่ใกล้บริเวณนั้นพลางหมุนกายขึ้นรถลีมูซีนสีดำก่อนที่รถคันนั้นจะแล่นผ่านจากไปและหายไปท่ามกลางหมอกควันที่เกิดขึ้นราวกับเวทมนต์
ตัวอย่างตอนต่อไป
"มันเรื่องบ้าอะไรกัน มอริสัน ทำไมคุณต้องส่งฉันไปคฤหาสน์คอนเนอร์ด้วย คุณจะให้ฉันไปบำบัดใครไม่ทราบ"เฮอร์ไมโอนี่เสียงดังขึ้นเมื่อเธอเข้ามายังฝ่ายบริหารงานด้านบุคคลเซนต์มังโก มอริสัน เดวิตส์
"คุณไทโรน คอนเนอส์"มอริสันพูดเสียงราบเรียบพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญให้เธอนั่ง"บุตรชายเพียงคนเดียวของพ่อมดอาวุโสผู้ดีเก่าอังกฤษเขาเพิ่งกลับมาเมื่อไม่นานมานี้เอง"
"อะไรนะ เขาเป็นอะไร"เฮอร์ไมโอนี่สอบถามด้วยความแปลกใจ
"ผมไม่รู้เขาไม่ยอมบอก เขาเพียงแต่ขอผู้บำบัดไปอยู่ที่นั่นสักระยะหนึ่งเพื่อบำบัดเขาอย่างใกล้ชิด"มอริสอธิบายให้เธอเข้าใจ
"ยอดเลย คุณเลยส่งฉันไปทั้งๆที่เรามีพยาบาลอีกหลายคนแต่คุณกลับส่งระดับหัวหน้าบำบัดอย่างฉันไปเนี่ยนะ"เฮอร์ไมโอนี่โอดครวญเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องการผู้บำบัดแทนที่จะเป็นผู้ช่วยผู้บำบัด หรือนางพยาบาลชั้นหัวหน้าก็เถอะ
"เขาเจาะจงตัวคุณมา แต่ว่าตอนนี้ มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย คุณไม่ต้องไปที่นี่แล้วล่ะเราจะส่งคุณไปที่อื่นแทน "
มอริสันยื่นแฟ้มเอกสารสถานที่เธอจะต้องไปที่ใหม่ให้เธอได้เรียนรู้
"คฤหาสน์มัลฟอย"เฮอร์ไมโอนี่อุทาน
หวังว่าคงจะชอบกันนะค่ะ
ความคิดเห็น